ความคิดเห็นที่ 1 กระต่ายผอมลงอย่างเห็นได้ชัดน่าจะพาไปตรวจร่างกายแ่ต่เิ่นิ่นๆค่ะ พาไปหาหมอกระต่ายโดยตรงเลยนะคะ หาคลินิคกระต่ายได้จากที่นี่ค่ะ http://epofclinic.com จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 15 ก.พ. 52 02:41:41 ]

ความคิดเห็นที่ 2 สมควรอย่างยิ่งค่ะ ที่จะต้องรีบพาไปหาหมอ เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่อดทนไม่แสดงอาการ  แต่เปราะบางมากในการมีชีวิต ช่วยพาเค้าไปหาหมอเถอะค่ะ จากคุณ : Twining - [ 15 ก.พ. 52 08:35:51 ]

ความคิดเห็นที่ 3 กระต่ายนั้นเป็นผู้ถูกล่า จะแสดงความอ่อนแอก็ต่อเมื่อป่วยมากจริงๆ เน้นว่าป่วยมากจริงๆ ดังนั้นเมื่อกระต่ายแสดงอาการ จะต้องพาไปหาหมอทันทีค่ะ ขอให้โชคดีนะคะ จากคุณ : แม่หมีตัวอ้วน - [ 15 ก.พ. 52 08:52:31 ]

ความคิดเห็นที่ 4 สมมติว่าอาการป่วยจัดเป็นลำดับจาก 1 ถึง 5 กระต่ายจะแสดงอาการเมื่อถึงขั้นที่ 4 ซึ่งถ้าหากเห็นไม่ทัน ก็มักจะสายไป รีบพาไปหาหมอเถอะค่ะ ต้องเป็นหมอที่ชำนาญด้านกระต่ายโดยเฉพาะด้วยนะคะ จากคุณ : มังกรอ้วน - [ 15 ก.พ. 52 09:51:00 ]

ความคิดเห็นที่ 5 มาเน้นอีกคำจากคุณหมอนะคะว่า กระต่ายที่น้ำหนักขึ้น ยังเป็นข้อวินิจฉัยได้ดีกว่ากระต่ายที่น้ำหนักลดลงค่ะ คือน้ำหนักขึ้นดีกว่าน้ำหนักลดฮวบฮาบด้วยค่ะ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 15 ก.พ. 52 10:03:21 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ต้องไปพาหมอค่ะ ไม่งั้นเหมือนหนูค่ะ จากคุณ : hong_love - [ 15 ก.พ. 52 11:41:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ถ้าคุณเลี้ยงสัตว์แล้วรักสัตว์ เมื่อสัตว์ของคุณไม่สบาย คุณก็รู้ว่าเค้าไม่สบาย เช่นนี้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไม่พาไปหาหมอนี่ครับผม อาจจะยังไม่ต้องไปรีบร้อนหาผู้เชี่ยวชาญหรอกครับ ไปหาหมอที่ไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและทุนทรัพย์ บางครั้งเป็นอะไรกันเล็กน้อย เจ้าของหรือแม้แต่หมอบางท่านเอง พากันส่งเข้ามาคลีนิกเฉพาะทางไม่ว่าโรคใดๆ กรุณาเห็นใจกันบ้างครับ หมอทั่วไป ถ้าจบหมอมาได้ รักษาได้กันทั้งนั้นล่ะครับ อย่างน้อยก็เบื้องต้น ถ้าไม่ไหวหรือเหนือเกินความรู้ หมอย่อมมีที่ถาม โทรปรึกษาหมอท่านอื่น หรือส่งต่อไปยังผู้รู้ ชำนาญกว่าหมอท่านนั้นได้ครับผม จากคุณ : กระบี่หัก (charan_ck) - [ 15 ก.พ. 52 12:07:19 ]

ความคิดเห็นที่ 10 . จากคุณ : แม่หมีตัวอ้วน - [ 16 ก.พ. 52 12:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 11 กระต่ายต้องหาหมอกระต่ายค่ะ โดสยาไม่เท่าหมาแมว อย่าเสี่ยงเลยค่ะ จากคุณ : แม่หมีตัวอ้วน - [ 16 ก.พ. 52 12:41:25 ]

ความคิดเห็นที่ 12 พาไปหาหมอเลยค่ะ ถ้าอยู่ใกล้รพ.สัตว์เกษตร ก็พาไปที่นี่เลยค่ะ  เคยพากระต่ายที่บ้านไปหาหมอที่นี่มาแล้วค่ะ  หมอสัตว์พิเศษดูแลดีค่ะ  แต่คิวอาจจะยาวหน่อยนะคะ จากคุณ : ชาขาว - [ 16 ก.พ. 52 18:32:00 ]

ความคิดเห็นที่ 13 กระผมเข้าใจในฐานะเจ้าของ อยากให้สัตว์ของตนได้รับการรักษาที่ดีที่สุด บางครั้งเจ้าของหรือแม้แต่หมอบางคน พากันส่งต่อกันเข้ามา ทั้งที่โรคไม่เป็นอะไรมากมาย แล้วท่านคิดไหมครับว่าต่อให้ผู้เชี่ยวชาญขนาดไหน ให้เทพเลย ถ้าเคสเยอะมากๆๆๆ ต้องเร่งรีบทำเวลา แบบนี้ประสิทธิภาพการรักษาจะดีเต็มที่หรือไม่ หลุดรักษาแบบประหลาดๆก็มี ผมไม่ได้ว่าใครนะครับ เพราะผมเองก็เคยเป็น เคสเยอะมากๆๆสมองมึนไปหมด ทำไมลูกศิษย์ รุ่นน้องที่น่ารัก พากันส่งมาจัง ไม่รักษาเองไปก่อนในบางอย่างเล่า ถ้าหมอเบื้องต้นวินิจฉัยไม่ได้ หรือรักษาแล้วไม่ดีขึ้นภายในวันสองวัน หรือว่าเป็นโรคที่น่ากลัวรุนแรง แบบนี้ส่งต่อไปผู้เชี่ยวชาญเฉพาะก็ยังไม่สายครับผม ไม่มีหมอคนไหนอยากทำให้สัตว์ตายหรืออาการไม่ดีขึ้นหรอกครับผม การรักษากระต่าย ปัจจุบันมีอยู่ในตำราเรียนภาคบังคับแล้วครับผม ถ้าหมอที่จบมานานแล้วไม่ได้รักษากระต่าย หรือรักษาไม่ได้ เค้าจะบอกตรงๆครับว่าไปพบหมอท่านอื่น ไม่มีใครอยากดันทุรังรักษาหรอกครับ เพราะมันผิดกฏหมาย เสี่ยงกับตัวเอง จะได้กำไรอย่างมากกี่บาทกันเชียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเจอเจ้าของที่อ่านมามาก ข้อมูลเพียบ รู้เยอะแต่ไม่รู้จริงสักเรื่อง หมอเค้าเรียนกันมาหกปี แถมรักษามาแล้วตั้งไม่รู้กี่ปี ยังรู้สู้ข้าพเจ้าไม่ได้ เคสแบบนี้ขืนรักษา ต่อให้หาย แต่ไม่ถูกใจก็อาจโดนคดีความฟ้องร้องถึงสัตวแพทยสภาอีก หาเรื่องใส่ตัวเปล่าๆ ดังนั้น ขอความกรุณา อย่าได้ดูถูกวิชาชีพสัตวแพทย์ไทยในปัจจุบันครับผม แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 11:43:49 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 10:14:27 แก้ไขเมื่อ 17 ก.พ. 52 10:08:41 จากคุณ : กระบี่หัก (charan_ck) - [ 17 ก.พ. 52 09:57:51 ]

ความคิดเห็นที่ 14 อะไรกันน่ะ ใครดูถูกใครตรงไหนค้า เราเพียงแต่แนะสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้นเองค่ะ ถ้าจะมาโต้เถียงอะไรกันนอกเรื่องเดี๊ยนว่าคุณคงเข้าใจผิดทางไปมากเลย กระต่ายเดี๊ยน และกระต่ายของเพื่อนๆที่เสียไปกระทันหันเพราะมัวแต่ไปหาหมอใกล้ๆ เป็นความผิดของเราเองค่ะ ที่ไม่ยอมเดินทางเสียเวลาอีกสักนิดเพื่อสิ่งที่เหมาะสมกว่า ก็เลยอยากจะมาเน้นน่ะค่ะว่า ถ้าใครต่อไปนี้มาถามเรื่องการรักษา ก็จะแนะใ้ห้ไปหาหมอเฉพาะทาง มันดูถูกวิชาชีพอะไรกันตรงไหนค้า ถ้ามันสะกิดใจใครบางคนเหลือเกินต้องขออภัยค่ะ เพราะ ใครก็อยากได้คำตอบชัดเจนแน่นอนและเป็นสิ่งที่แนะนำที่ดีที่สุดค่ะ มันไม่ได้มีใครทำอะไรผิดตรงไหนเลย ถ้าคุณเป็นหมอกระต่ายเช่นเดียวกัน ก็ยินดีค่ะ หาหมอกระต่ายยาก แต่งานเยอะแยะ ก็เป็นเรื่องงานการวิชาชีพนั้นๆค่ะ ก็ต้องหาทางออกกันไป ไม่ใช่ต้องมาแนะกันว่าเออเห็นใจกันบ้างนะ คนนั้นคนนี้เหนื่อย แต่จุดประสงค์ของการตอบคำถามกระทู้ก็ต้องมองที่ประเด็นนะคะ ความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่สมควรจะรู้จะได้แพร่หลายค่ะ กระต่ายเดี๊ยนรอไม่ได้หรอกค่ะ ถ้าเห็นว่าน้ำหนักลดฮวบฮาบ ไม่กินอาหาร นอนตัวขด ไปหาหมอธรรมดา คลินิกที่ไม่คุ้นกับกระต่าย หมอที่รักษายังให้ความเห็นอะไรไม่ได้ เดี๊ยนก็เสียเวลาโดยใช่เหตุนะค้า แถมจะเสียลูกที่รักไปหรือเปล่าใจเต้นตูมตาม เพราะเค้าไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยงนะคะสำหรับเ้จ้าของหลายๆคน อ่านความเห็นคุณแล้วนี่ปวดใจ และปวดหมองขึ้นมาเลยค่ะ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงนะคะ เดี๊ยนอยากระบายความในใจน่ะค่ะ เพราะเดี๊ยนเสียกระต่ายลูกสาวเพราะมัวแต่รีรอไปหาหมอไม่ถูกทางน่ะค่ะ ถ้าคุณหนักใจมาก ก็ต้องขออภัยค่ะ ว่างานเยอะ เหนื่อย จะทำยังไงดีละ มาแนะให้ไปหาหมอทั่วไปยังงั้นหรือ ถ้าเขียนแบบนั้นจะมีประโยชน์อะไรกับกระทู้นี้ละคะ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 19 ก.พ. 52 09:00:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 อีกนิดนะคะ แล้วก็ไม่ใช่ว่า ถึงเราจะพาไปหาหมอกระต่ายแล้ว กระต่ายก็ยังไม่รอด แต่อย่างน้อยก็รู้แล้วว่าเราทำดี่ที่สุดเพื่อเค้าแล้ว เดี๊ยนก็ไม่โทษหมอกระต่าย ไม่โทษอะไรทั้งนั้น นอกจากตัวเองค่ะ และที่สำคัญ อยากหาสาเหตุของการป่วยด้วยค่ะ เพื่อความรู้ความเข้าใจนะคะ ถ้าคุณเป็นหมอที่เคยรักษากระต่ายจริงๆด้วยแล้วมาเอ่ยอย่างนี้ เดี๊ยนรู้สึกเสียใจมากเลยค่ะ จริงๆ ถ้าไม่รักสัตว์เลี้ยงของเราจริงๆแล้วละก็ เราจะพาเค้าไปหาหมอทำไมกันละคะ หรือถ้าต้องพาไปงั้นแบบขอไปที เราจะแนะนำแบบนี้ได้ยังไงละคะ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 19 ก.พ. 52 09:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ด้วยความเคารพ ไม่ได้ดูถูกสัตวแพทย์เลยค่ะ ยังอยากได้ลูกสะใภ้เป็นสัตวแพทย์เลยค่ะ สันนิษฐานว่า คุณกระบี่หัก (charan_ck) คงจะเป็นหมอเฉพาะทาง แต่ไม่แน่ใจว่าเป็นสัตวแพทย์ด้วยหรือไม่ แต่ก็เดาว่าน่าจะใช่ เพราะเข้ามาตอบกระทู้ห้องหมาแมว และห้องกระต่าย ขออนุญาตเรียกคุณหมอเลยนะคะ   หากเป็นอย่างที่คุณหมอว่า ว่าหมอไหนก็รักษากระต่ายได้   คุณหมอย่อมรู้ดี ว่าอาชีพหมอ ไม่ได้อาศัยแค่ความรู้ในตำรา แต่ต้องใช้ประสบการณ์ด้วยค่ะ ในฐานะที่อยู่ในวงการ คุณหมอน่าจะทราบดีว่าที่ไหนมีหมอที่มีประสบการณ์การรักษากระต่าย  คุณหมอย่อมจะแนะนำได้  เท่ากับเป็นการกลั่นกรองข้อมูลให้เราผู้เลี้ยงกระต่ายด้วยในระดับนึง   ดังนั้น จะเป็นพระคุณมาก หากคุณหมอจะแนะนำคุณหมอที่สามารถรักษากระต่าย แบบมีประสบการณ์แล้ว  ย้ำ  ที่มีประสบการณ์แล้วนะคะ  ซึ่งหลายท่านอาจจะยังไม่เป็นที่รู้จัก  เพื่อเป็นที่พึ่งพิงสำหรับผู้เลี้ยงกระต่ายต่อไป ขอบคุณค่ะ จากคุณ : แม่หมีตัวอ้วน - [ 19 ก.พ. 52 11:29:03 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เข้าใจว่าคุณกระบี่หักคงเป็นสัตวแพทย์ จะเชี่ยวชาญด้านสัตว์พิเศษหรือไม่นั้นไม่ทราบ.. อ่านแล้วก็เข้าใจคุณนะคะ เป็นความเห็นส่วนตัวของคุณ แต่............. เหมือนที่พี่แดงชี้แจงไว้ข้างบน ถ้าคุณเป็นสัตวแพทย์แล้วพูดแบบนี้ พวกเราเสียใจมาก ๆ เลยล่ะค่ะ อยู่โรงพยาบาลไหนคะ จะได้ไม่พาเด็ก ๆ ที่บ้านไปหา เดี๋ยวคุณจะเหนื่อยเกินไป ที่สำคัญดิฉันก็มั่นใจว่ายังมีคุณหมอที่เชี่ยวชาญสัตว์พิเศษโดยเฉพาะกระต่ายท่านอื่น ที่เต็มใจรักษากระต่ายของทุกคน ทุกเคสอย่างเต็มความสามารถ เพราะใจรักที่จะรักษา คนเป็นโรค ไม่สบาย ถ้ามีทางเลือกก็ยังต้องหาหมอเฉพาะทางเพื่อที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปบนโลกที่นับจะโหดร้ายขึ้นทุกวัน กระต่ายสำหรับใครบางคนอาจจะเป็นแค่สัตว์เลี้ยง แต่สำหรับใครหลาย ๆ คนในที่นี้ พวกเค้าคือสมาชิกในครอบครัวค่ะ จะหาว่าเว่อร์ก็ยอมรับ เพราะเป็นแบบนั้นจริงๆ  การที่สมาชิกส่วนใหญ่ในที่นี้แนะนำให้ไปหาหมอกระต่ายโดยตรงเพราะเห็นมาเยอะ หลายเคสเหลือเกิน.. พวกเราอยากให้กระต่ายที่เรารัก(ไม่เฉพาะกระต่ายของพวกเรา) ได้รับการเลี้ยงดูที่ดีที่สุดในขณะที่ใช้ชีวิตอยู่กับพวกเราค่ะ และควรที่จะได้รับการรักษาที่ดีที่สุดในยามที่เค้าป่วยด้วย นอกซะจากว่าจะไม่มีทางเลือกจริง ๆ บ้านไกล อยู่ต่างจังหวัดที่ไม่มีแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านสัตว์พิเศษ ฯลฯ ดิฉันไม่ได้เป็นพวกอ่านมาก รู้มาก .. แต่เป็นประเภทรักมาก เลี้ยงเค้าแล้วก็รักมาก ๆ อยากให้แต่สิ่งดี ๆ ค่ะ หวังว่าคุณคงจะเข้าใจเช่นกัน --------------------- ถึงคุณเจ้าของกระทู้ พาน้องกระต่ายไปหาหมอกระต่ายเถอะค่ะ เราไม่รู้ว่าเค้าเป็นอะไรกันแน่ เราเคยต้องเสียลูกชายสุดที่รัก(อายุ 3 ปี) ไป เคสคล้าย ๆ กันคือดูเหมือนจะปกติ แต่กินน้อยลง ผอมลง กว่าเราจะรู้ตัวอีกทีคือเค้าผอมจนไม่มีแรงแล้ว ..เราเอาเค้าใส่ตะกร้า วิ่งไปหาหมอที่คลีนิคสัตวแพทย์ใกล้บ้านในซอยเดียวกัน หมอคลำ ๆ เอาหูฟังตรวจ ๆ แล้วบอกว่าน่าจะเป็นปอดชื้น แล้วก็ให้ยามากิน .. คืนนั้นเรานอนไม่หลับ เฝ้าเค้าทั้งคืน แต่เช้าวันรุ่งขึ้นเค้าก็จากไปในอ้อมกอดของเรา ... ภาพนั้นติดตา .. ความรู้สึกผิดมันฝังใจ .. ถ้าพาไปหาหมอตั้งแต่พบความผิดปกติแรก ๆ เค้าคงไม่จากเราไปแบบนี้ ขอให้ความผิดพลาดของเราเป็นอุทาหรณ์ อย่าพลาดเหมือนเราเลยนะคะ .. ปล. ผ่านมาหลายวันแล้ว.. พาน้องกระต่ายไปหาหมอรึยังคะ? มาอัพเดตกันบ้างนะคะ เป็นห่วงล่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 12:11:25 จากคุณ : ..นู๋สวย.. (iRiSyAuS) - [ 19 ก.พ. 52 11:47:57 ]

ความคิดเห็นที่ 18 ขอแสดงความเห็นด้วยคนบ้างนะคะ ไม่เห็นด้วยกับ คุณแดงเร็กเก้บาร์ และคุณ..นู๋สวย.. (iRiSyAuS) ในบางประเด็นค่ะ เห็นใจคุณหมอค่ะ เคสเยอะ ดิฉันเคยพาไปลูกสาวไปรักษาที่แห่งสถานที่แห่งหนึ่งที่ว่ามีผู้เชี่ยวชาญดังมากย่านบางเขน แต่ผิดหวังกลับมาค่ะ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญแทบจะไม่ได้ตรวจอะไรเลยบอกว่าเจ้าของเลี้ยงไม่ถูก รอพบหมอตั้งสามชั่วโมงกว่าแต่ตรวจไม่ถึงสิบนาทีแล้วก็จ่ายยาบำรุงวิตามินน้ำสีเหลืองๆกลับบ้าน ที่ไหนได้กลับไปแล้วลูกสาวทรุดหนักกว่าเดิมเลยต้องพาไปรักษาที่คลีนิกแถวบ้านเพราะใกล้ คุณหมอบอกว่าอาการหนักมาก ไม่น่าจะปล่อยไว้นานขนาดนี้ แล้วหมอเค้าก็ให้น้ำเกลือ ฉีดยาให้ คืนนั้นลูกสาวดิฉันกินอาหารได้เลยค่ะ ดิฉันร้องไห้ดีใจมากเพราะนึกว่าจะเสียเค้าไปแล้ว เหมือนคุณหมอกระบี่่หยกพูดเลยค่ะว่าหมอให้เก่งขนาดไหนถ้ามัวแต่รีบตรวจทำเวลาคงจะรักษามั่วๆเหมือนกัน ทุกวันนี้ดิฉันก็พาลูกสาวไปรักษากับหมอที่คลีนิกเป็นประจำ เค้าก็บอกว่าเค้าไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญก็จริงแต่เค้าจะตรวจให้อย่างละเอียดและถ้าไม่ไหวเค้าจะปรึกษาอาจารย์ให้ อันนี้มันแล้วแต่หมอนะคะไม่ใช่ว่าจะต้องไปเจอผู้เชี่ยวชาญอย่างเดียวเสมอไป ถ้าคุณบอกว่าเจอความผิดพลาดพบหมอไม่เก่ง ดิฉันก็เจอความผิดพลาดที่ลูกสาวดิฉันกำลังจะตาย เพราะมัวแต่เชื่อว่าต้องรอพบผู้เชี่ยวชาญสามชั่วโมงแล้วแค่จับตรวจสองสามที คุยด้วยไม่ถึงสิบนาที ถ้าไปหาหมอช้าไปก็คงจะเสียลูกสาวไปแล้ว อันนี้เจ้าของกระทู้พิจารณาเองละกันนะคะ อย่าว่าแต่กระต่ายเลยค่ะ คนก็เช่นกัน แม่ของดิฉันไปรอหมอเฉพาะทางตั้งครึ่งค่อนวันก็ไม่ได่ทำให้อาการดีไปกว่ารักษากับคุณหมอที่คลีนิกเท่าไหร่หรอกค่ะ เห็นใจคุณหมอค่ะ คนเป็นหมอดิฉันเชื่อว่าเค้าก็ต้องอยากรักษาให้ดีที่สุดเหมือนกันค่ะ เจ้าของก็รักมากก็ต้องอยากให้ลูกได้รับสิ่งที่ดีด้วย คุณหมอเค้ารู้ดีกว่าเรานะคะ ถ้าเค้าไม่ไหวเค้าก็จะส่งต่อค่ะ ดังนั้นดิฉันเห็นด้วยกับทั้งสองฝ่ายแต่ค่อนข้างจะเห็นด้วยกับคุณหมอมากกว่าค่ะ บางครั้งต้องให้ได้รับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนไม่ใช่มัวแต่ไปรอคิว ไม่ทันการค่ะ ดิฉันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย เข้าใจว่าคุณหมอน่าจะเป็นอาจารย์ด้วย ดิฉันเข้าใจค่ะว่าอยู่ๆใครก็ไม่รู้ไปหา paper ภาษาอังกฤษที่ไม่มีที่มาที่ไปมาตอบหักหน้าหมอ แล้วมาสอนหมอว่าโดสยาไม่เหมือนหมาแมวต่อหน้าหมอผู้เชี่ยวชาญโดยตรง ดิฉันคิดถึงในมุมมองของคนอื่นแล้ว (ต้องขอโทษด้วยนะคะ ดิฉันไม่ได้จงใจว่าใครนะคะ แต่ภาพที่ตอบออกมามันเป็นแบบอย่างที่ดิฉันว่าจริงๆค่ะ) เพราะดิฉันก็เคยทำตอนสมัยเรียนเหมือนกัน พอมีนักศึกษามาทำบ้างมันย่อมรู้สึกไม่ดี เจอแบบนี้คุณหมอคงอาจจะมีเคืองบ้าง ถ้าใช่ก็ใจเย็นๆนะคะค่อยพูดค่อยจากัน คุณแม่หมีตัวอ้วนก็ออกมาตอบอย่างดีแล้วนะคะว่าไม่ได้ดูถูก เข้าใจกันนะคะ ปรองดองกันเถอะค่ะ แต่ถ้าไม่ใช่ ก็ดีมากเลยค่ะคุณหมอ คุณหมออย่าไปสนใจคนอื่นที่มาชวนทะเลาะนะคะ เพราะถ้าอ่านที่คุณหมอตอบดีๆแล้ว คุณหมอก็บอกแล้วนี่คะว่าให้ไปปฐมพยาบาลก่อนแล้วส่วนมากหมอเค้าถ้าไม่ไหวก็จะแนะนำส่งต่อเอง ดีกว่าไปรอพบหมอผู้เชี่ยวชาญแต่นานจนไม่ทันการนะคะ สุดแต่พิจารณาปัญญาของแต่ละคนค่ะ ดิฉันขอถามอย่างที่คุณหนูสวย (สะกดอย่างที่คคห ไม่เป็นค่ะ) ถามค่ะ ว่าคุณหมอสอนและรักษาที่ไหนคะ จะได้พาลูกหลานเหลนไปรักษา เพราะดูจากการที่คุณหมอตอบในหลายๆกระทู้แล้ว รวมทั้งหลังไมค์ด้วย คุณหมอตอบได้ดีอย่างละเอียดจนเข้าใจ จนช่วยชีวิตลูกหลานของดิฉันไปหลายคนแล้ว และเป็นกลางไม่เข้าข้างหรือต่อว่าหมอที่ไหน และก็ไม่ได้โฆษณาให้ไปรักษากับตัวเองด้วย คุณหมอเค้าก็พยายามบอกค่ะให้เปิดใจเป็นบวกรักษากับหมออื่นได้เสมอ ถ้าไม่ดีจริงๆก็ต้องถามหมอที่รักษาตรงๆเลยว่ารักษาได้ไหมแล้วค่อยเปลี่ยนร้าน ไม่เหมือนบางท่านที่แนะแต่ให้เปลี่ยนหมออย่างเดียวหรือสร้างความแตกแยก อาจจะเป็นคนรู้มากแต่ไม่รู้จริงเหมือนที่คุณหมอบอกก็ได้ค่ะ พวกแบบนี้น่าสงสารสัตว์เลี้ยงมากค่ะที่เป็นโรคแต่เจ้าของกลับมัวแต่หาเรื่องพาลแล้วสร้างความลำบากใจในการรักษาให้หมอ ดิฉันเชื่อว่าคนรักสัตว์ทุกคนคงไม่ทำแบบนั้นนะคะ เพราะหมอทุกคนส่วนมากก็ล้วนแต่อยากให้สัตว์หายและรักสัตว์ไม่แพ้ดิฉันหรือคนอื่นหรอกค่ะ จากคุณ : วันนี้ไม่อยากล็อกอินค่ะ - [ 19 ก.พ. 52 15:09:22 A:192.168.0.17 X:58.8.126.200 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ว้าว ดีใจจังที่มีคุณหมอเก่งเพิ่มขึ้นอีก 1 คน อยากให้ชี้แจงและเปิดเผยตัวนิดนึงฮะ จะได้แนะนำคนเลี้ยงกระต่ายได้ ว่าให้พาไปหาคุณหมอทีนี่น่ะครับ ส่วนคุณข้างบนก็นาจะเปิดล็อกอินมานะครับ แบบนี้เหมือนไม่จริงใจในการมาตอบเลย เรื่องการรักษามันก็เป็นประสบการณ์ที่แต่ละคนเจอมาเนอะ ใครเจอเรื่องดีๆ จะรู้สึกดีกับคุณหมอท่านนั้น ถ้าใครเจอไม่ดีมาแบบพี่สวยน้องดังก้เข้าใจฮะว่ารู้สึกยังไง เอาป็นว่าอย่ามาเถียงกันเลย ถ้าจริงใจกันก็มรู้จักกันไว้เถอะ มีอะไรจะได้มีที่ปรึกษาด้านกระต่ายเพิ่มได้อีกท่านนึง ดีไหมฮะ จากคุณ : bunny_society - [ 19 ก.พ. 52 15:30:17 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ไม่ได้เข้ามา ซะนานเลย  งานเยอะมากช่วงนี้หรืองานไม่เยอะแต่อู้ก็ไม่รู้ แต่ไหน ก็เข้ามาอ่านแล้ว ขอแสดงความคิดเห็นบ้างนะคะ เออ จากที่อ่านๆ มานี่ ไม่ทราบว่าเข้าใจจะเข้าใจ คุณกระบี่หัก ถูกต้องหรือเปล่านะคะ ถ้าเข้าใจผิดพลาดประการใดแนะนำด้วยนะคะ คือคุณกระบี่ หักแนะนำให้เจ้าของกระทู้ไปพาไปพบคุณหมอ เพื่อทำการตรวจโรค แต่ไม่เจำเป็นต้องเป็นคุณหมอด้านสัตว์พิเศษโดยตรงก็ได้ เำพราะว่าหลักสูตรก็มีสอนการรักษากระต่ายอยุ่แล้ว ถ้าคุณหมอรักษาไม่ได้จริงๆ ก็คงจะปรึกษาท่านอื่นหรือส่งเคส ใช่ไหมคะ แต่เพราะเจ้าของมักที่จะเลือกไปหาคุณหมอเฉพาะด้าน แม้ว่าจะไกลแค่ไหน ก็ตาม ทั้ง ๆที่เคสแบบนี้ รักษาหมอใกล้ๆ ก็ได้ ถ้ารักษาไม่ได้คุณหมอจะหาคนปรึกษาเองใช่ไหมคะ อันนี้ขอตอบนะคะว่า ก็เพราะเราไม่ใช่คุณหมอไงคะ เราไม่สามารถรู้ได้ว่า ไอ้อาการแบบนี้ของกระต่ายมันคืออะไรง ฟันเจ๊บ ก้อนขน ทางเดินอาหารไม่ทำงาน โรคอื่นๆ อีก108  เพราะเลี้ยงมาหลายปี คุยกับคุณหมอมาก็หลายครั้ง ตำราการเลี้ยงก็เปิด ภาษาไทยก็หายากจัง ภาษาอังกฤษก็อ่านไม่ค่อยจะออก แปลผิดแปลถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้  เอาไงดีละเนี่ย ถ้าเก่งเป็นหมอวินิฉัยถูกว่าเป็นโรคอะไรก็ไม่ต้องไปหาหมอแล้ว ไปคลีนิคใกล้บ้านก็ได้ขอซื้อยากินเองก็ได้ แต่เพราะรักนะ ถึงจะไม่ใช่กระต่ายสวยมากจากไหน แต่ก็รักมัน เลยเลือกที่จะไปหาคุณหมอเฉพาะทางเพราะเชื่อว่าดีที่สุด(ซึ่งมันอาจจะใช่หรือไม่ใช่ก็ได้) ไม่ใช่ว่าคุณหมอท่านอื่นไม่เก่งไม่ดี แต่มีหลายๆปัจจัยที่ เลือกที่จะไปหาคุณหมอ  เลิกงานก็ค่ำแล้วกว่าจะไปหาคุณหมอได้ 3ทุ่ม นั่นละ ที่ไหนเปิดรอเราบ้างน๊า จะ x ray ดูฟันหน่อย ที่นี่ทำได้ไหมน๊า  วันนี้ครบกำหนดดูอาการแล้วนี่ ถ้าไปหาหมอท่านอื่นก็ต้องไปเริ่มใหม่ คุณหมอบางท่านก็ดุเหลือเกิน ถามเจ้าของยังกับโกรธกันมาแนะ ไม่เอานะกลัวคุณหมอกัดเปลี่ยนๆ บางทีรอด บางทีไม่รอด อ้าวทำไมละ ทำถูกวิธีตามที่หมอบอกแล้วนะทำไม ไม่รอด เอาไงดีนะ ลองหาข้อมูลดู อ้าวกำ ดันเป็นสัตว์เลี้ยงที่เมืองไทยไม่มี ชาวบ้านไม่นิยม (ไม่ได้รวมถึงกระต่ายนะคะ เพราะบ้าเลี้ยงคะ chinchillas ก็เลี้ยง ทั้งๆ ที่ไม่ใช่สัตว์ที่เหมาะสมกับบ้านเราก็ยังอยากเลี้ยง) เปิดเอาเวปเมืองนอกนี่ละ อ่านๆ เอา แล้วปรับ ๆ เอา ไปถามหมอบ้าง ว่าไอ้ที่เราเข้าใจอะ มันถูกต้องหรือเปล่า บางทียังรบกวนหมอ เปิดตำราหมอให้ดูหน่อย เค้าว่ามาเหมือนกันไหม บางทียังไป ที่ขนเอา paper ภาษาอังกฤษ ไปให้หมอดูนะ ไม่ใช่จะไปบอกหมอว่า ไม่เชื่อหมอหรอก นี่ มันมี paper แบบนี้ หมอดูซะ แต่เอาไปเพื่อให้หมอดูว่า หมอคะ เค้ามีเขียนแบบนี้มันจริงหรือเปล่า เพราะมันไม่มีตำราในบ้านเรา บ้านเราไม่นิยมเลี้ยง ตำราที่หาได้ก็เป็นภาษาอังกฤษไม่รู้ว่าเข้าใจถูกไหม หมออธิบายหน่อยสิ เข้าใจนะว่าหมอก็คน เหนื่อยเป็น งานก็หนัก  ยังเจอเจ้าของประเภทชั่งซักอีก ถาม่จัง ถามไอ้โน้น ถามไอ้นี่ ชี้ให้ดูไอ้นั่น มาหาที ขนมาเป็น3-4 ตะกร้า  ถามมันทุกโรค บางทีถามโรคเผื่อกระต่ายข้างบ้านอีก ตรงนี้ก็เ้ป็นจุดหนึ่งที่ทำให้เลือกคุณหมอว่า อยากไปหากับคุณหมอท่านนี้ ท่านนั้นเท่านั้น ท่านอื่นไม่เอา เพราะบางที เราก็กวนเวลาหมอ หมอคะกำลังออกจากบ้านแล้วนะ รอหน่อยนะคะ จะรีบไป  แต่บ้านกะที่คุณหมอรักษานะ อยู่กันคนละทิศเลย  ไปถึงเฉียดๆ เวลาเลิกงานหมอ เกรงใจก็เกรงใจ  แต่ก็ขนมาซะเกือบหมดบ้านเอาไงดีละ  เออ เท่าที่เร่งด่วนก็ได้คะคือใกล้เวลาเลิกงานแล้วเกรงใจคุณหมอคะ  "ไม่เป็นไรครับ ช่วยกัน มาซะไกลเลย " โอ้ย คุณหมอ แค่คุณหมอเข้าใจ เจ้าของก็ดีใจแล้วคะ ไม่ต้องถึงขึ้นเปิดคลีนิค รอไว้ 24 ชม. รอ เจ้าของหรอกคะ อยากจะบอกอะไรอีกมากมาย แต่งานเข้าแล้ว ต้องไปแล้วละคะ  งานเข้า ความหมายตรงตัวเลยคะ คำยอดนิยมสำหรับคนทำงาน คงเหมือนยุคที่สมัยยังเด็กๆนะคะ  ที่เค้าว่า เก๋า เจ๋ง และอื่นๆ อีกมากมาย นะคะ แรกๆ ก็งงว่ามันคืออะไร มีนักวิชาการ อาจารย์ ออกมาเรียกร้องว่าจะทำให้ภาษาไทยวิบัติ ปล่อยไปมันจะติดเป็นวัฒนธรรม แต่ลองไปดูวัยรุ่นสมัยนี่สิ  เก๋า นี่เค้าเลิกใช้กันแล้ว เหมือนแฟชั่้นละคะ ผ่านมาก็ผ่านไป ถ้าเราไม่ไปยึดติดกับมันมากเราก็สามารถอยู่และก้าวไปพร้อมกันได้คะ จากคุณ : Iccy_su - [ 19 ก.พ. 52 16:30:38 ]

ความคิดเห็นที่ 21 อืม คิดแล้วว่าต้องเป็นแบบนี้อะค่ะ เอาละ ต้องขอแสดงความเห็นใจที่บางครั้งการตอบประเด็นในกระทู้ สามารถทำให้ใครบางคนต้องอึดอัดหรือคาดไปโน่นนนนน ว่าถูกกระทบกระเทียบ ก็ไม่รู้จะทำยังไงละค่ะ แต่เดี๊ยนก็จะแนะนำไปตามความเห็นเดิมของเดี๊ยนนะคะ และเห็นด้วยค่ะ ถ้าหมอกระต่ายหายาก แถวนั้นไม่มี ก็ควรจะรู้ว่าควรจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไรให้ดีที่สุดเป็นเบื้องต้นไว้ก่อน หมอกระต่ายไม่มี เอาละ หมอไหนก็ได้ หาทางออกที่ดีที่สุด อะไระจะเิกิดมันก็ต้องเกิด แต่ประเด็นอย่าหลงกันสิ จริงอยู่บางคนคิวแน่นมาก กระต่ายพะงาบๆมา รอไม่ได้หรอก ใช่ค่ะ แต่คุณจะทำยังไงดี ก็ต้องแล้วแต่การตัดสินใจแล้วค่ะ เดี๊ยนเองเจอน้องบางคนอุ้มกระต่ายท้องเสียหมดสภาพมา เค้าก็ขอเข้าคิวลัดได้เป็นกรณีพิเศษนี่คะ ใช่ว่าตัวอย่างของการไปหาหมอเฉพาะทางจะไม่ใช่ถูกทางนินา จะให้เราแนะนำว่าคุณควรไปหาหมอข้างบ้านก่อนยังงั้นหรือ อะไรคือประเด็นของกระทู้นี้กันแน่ อ่านกันให้ลึุกๆกันได้มั้ยคะ กลัวรอคิวนานหรือคะ เคสหนักๆที่ รพ ไหนๆ ถ้าเราชี้แจงหรือทำให้ดีปลอดภัยต่อคน สัตว์เจ็บป่วยอย่างดีที่สุดแล้ว "การรอคิวยาวๆไม่ใช่เหตุผลของการต้องมาชี้แจงว่า ถ้าสัตว์เลี้ยงกระต่ายคุณป่วยแล้วคุณไม่จำเป็นต้องพาไปหาหมอกระต่ายก่อนหรอก มันเสียเวลา" เดี๊ยนไปตอบแบบนี้กับชาวบ้าน มีหวังโดนเฉ่งว่าชี้นำอะไรผิดๆน่ะสิ ไม่อยากให้ถอดล็อกอินเลย เพราะเดี๊ยนเป็นคนสปอร์ตนะคะ รู้ว่าการโต้แย้งทางความคิดเราไม่มีสิทธิตัดสินกันนะคะว่าใครจะต้องถูกต้องผิด แล้วใครจะต้องบาดหมางเคืองแค้นกันต่อไป สิ่งนั้นเดี๊ยนไม่ต้องการค่ะ เป็นการเสียเวลามากกว่า แล้วถ้าคุณคิดว่าถ้าคุณจะตอบคำถามกระทู้นี้เพื่อเป็นข้อแนะนำในแบบของคุณไปด้วย ก็บอกเป็นวิทยาทานกันบ้างก็ดีค่ะ ว่าถ้าหาหมอกระต่ายไม่ได้ เราจะพยาบาลเบื้องต้นกระต่ายป่วยยังไงก่อน แล้วคุยกับหมอว่ายังไงบ้าง ถ้าหมอถนัดแต่สัตว์อื่น แต่เราไม่มีทางเลือก เรามีวิธีของเราอย่างไร เผื่อบ้านที่ไกลหมอจะได้อุ่นใจค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เพราะพวกเราทุกคนรักกระต่ายและต้องการสิ่งที่ดีที่สุดให้กับเค้า แต่ถ้าเห็นว่าความเห็นอะไรที่ทำให้ขัดข้อง อัดอึด หรือมีวิธีที่ต่างและเป็นจริงตามนั้น ก็แสดงความเห็นกันได้เต็มที่น่ะค่ะ เดี๊ยนเองก็มีความเห็นส่วนตัวเช่นเดียวกัน แต่ขอเถอะนะ ประเด็นของกระทู้ และการเขียนการโพสต์ลงที่สาธารณะ มันต้องมีข้อเท็จจริงและข้อแนะนำที่ถูกต้องเป็นหลักนะค้า ใครมีความเห็นข้อแนะนำอะไรที่แตกต่างแล้วได้ผลตามนั้นจริงก็ไม่ต้องกั๊กกันค่ะ แต่ไม่ใช่มาโต้แย้งด้วยอารมณ์ส่วนตัวแล้วบอกว่า เห็นใจกันหน่อยบ้าง อย่าดูถูกกัน อันนี้เดี๊ยนงงเป็ดน่ะค่ะ เพราะถ้าเขียนอะไรลงไปแล้วดันมีคนเห็นว่าไปดูถูกดูแคลนวิชาชีพกัน อันนี้เดี๊ยนก็จะโต้แย้ง คห นั้นๆแน่นอนค่ะ เพราะเดี๊ยนไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้นเลย และการแสดงความบริสุทธิ์ใจนะคะ ไม่ต้องถอดล็อกอินค่ะ แบบนี้เดี๊ยนจะนับถือมากกว่าเยอะค่ะ แต่ไม่เป็นไรใครก็มีสิทธิแสดงออกอย่างไรก็ได้ แต่คนที่เข้ามาอ่านก็สามารถใช้สิทธิแสดงความรู้สึกของเค้าเองต่อความเห็นต่างๆด้วยวิจารณญาณเช่นเดียวกัน และด้วยความเคารพ ความเห็นส่วนตัวเดี๊ยน เน้นอีกทีว่า กระต่ายไม่ได้เหมือนกันไปหมด ร่างกายจิตใจทนทานได้มากน้อยต่างกันไปจริงๆ ดังนั้นวิธีปฏิบัติ หรือการให้คำแนะนำในเรื่องของการรักษา ยังไงก็ต้องแนะนำด้วยความระมัดระวัง และถูกต้องตามหลักการจริงๆแน่นอนค่ะ ใช่ว่าเราจะมาโปรโมทแต่หมอกระต่ายเพราะชอบด้วยส่วนตัวกันซะเมื่อไหร่ ที่ไหนๆก็แนะนำได้ค่ะ ถ้าเราเห็นว่าดีและตรงเฉพาะทาง และมันเอื้อประโยชน์กับกระต่ายของทุกคนมากที่สุด และคุณมีสิทธิขอลัดคิวได้ค่ะ ถ้ากระต่ายคุณโคม่า หรืออาการวิกฤติ และทุกท่านมีสิทธิตัดสินใจที่จะหาแนวทางในการรักษากระต่ายของตนเองค่ะ กระต่ายของคุณ คุณเลือกเองค่ะ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 19 ก.พ. 52 16:31:47 ]

ความคิดเห็นที่ 22 กระทู้นี้ไม่มีความรู้สึกว่ามีใครอยากจะหาเรื่องกันนะคะ เพราะฉะนั้นอยากให้ระมัดระวังการเขียนที่อาจจุดไฟใส่เท้าให้เต้นให้เืคืองกันโดยใช่เหตุ ไม่ต้องโอ๋ต้องป้อใครกันหรอกค่ะ โตๆกันแล้วอะ เดี๊ยนก็ไม่ได้แทกทีมกับใครที่ไหน มาคนเดียว คิดคนเดียว ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด เพราะเคารพกฎของบอร์ด และรักบ้านโพรงฯกระต่ายค่ะ และก็เห็นใจคุณหมอที่งานหนัก เหนื่อยกับงานด้วยความจริงใจค่ะ ถ้าอยากจะให้พวกเราเลี่ยงไปมีวิธีปฏิบัติแบบใหม่ๆ ที่จะไม่เป็นการทำให้คุณหมอต้องเหนื่อยยากไปกว่านี้ พวกเราบ้านโพรงฯก็ยินดีรับคำแนะนำอย่างจริงจังและจริงใจนะคะ และคงจะพยายามเข้าใจวิชาชีพหมอให้มากขึ้น เพราะเจ็บไข้ได้ป่วย หมอทุกท่านก็เป็นที่พึ่งเป็นแสงสว่างของคนไข้ สัตว์ป่วยในยามยาก คับขันเท่านั้นเอง จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 19 ก.พ. 52 16:39:11 ]

ความคิดเห็นที่ 23 แต่ละความเห็นยาวๆมากๆ ลงชื่อไว้ก่อนค่ะ...อ่านแล้วถึงจะมาแสดงความคิดเห็น จากคุณ : MOnKEy_PrAi - [ 19 ก.พ. 52 17:09:41 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ขอบคุณ คห.18 นะคะ คิดต่างไม่แปลกค่ะ คุณมีสิทธิ อยากชี้แจงนิดนึงค่ะ หวังว่าคุณคงเปิดใจรับฟัง เรื่องที่ถามเหมือนหาเรื่องคุณหมอว่าประจำอยู่โรงพยาบาลไหน..จะได้ไม่พาลูกไป (หลานกับเหลนยังไม่มีคะ่ ^^) ไม่ได้คิดจะหาเรื่องนะคะ แต่หมายความตามนั้นจริงๆ (แล้วก็ไม่ได้ถามด้วยว่าสอนที่ไหน ก็เพิ่งทราบว่าจากคุณนี่แหละค่ะ ว่าคุณกระบี่หักเป็นถึงอาจารย์หมอด้วย แต่ขออภัยถ้าเข้าใจผิด) ดิฉันเปิดใจอย่างที่สุดแล้วในการอ่านกระทู้ทุกกระทู้ รวมถึงช่วงหลังๆ พยามสงวนคำพูดอย่างมากเหมือนกันในการตอบกระทู้ต่างๆ เพราะเคยพลาดปากตรงกับใจมากเกินไปมาก่อน (ฮ่าๆ) และออกจะเห็นด้วยในการตอบคำถาม และคำชี้แนะจากคุณกระบี่หัก ใน คห. ที่ 7 “ถ้าคุณเลี้ยงสัตว์แล้วรักสัตว์ เมื่อสัตว์ของคุณไม่สบาย คุณก็รู้ว่าเค้าไม่สบาย เช่นนี้แล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะไม่พาไปหาหมอนี่ครับผม อาจจะยังไม่ต้องไปรีบร้อนหาผู้เชี่ยวชาญหรอกครับ ไปหาหมอที่ไหนก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสะดวกและทุนทรัพย์ บางครั้งเป็นอะไรกันเล็กน้อย เจ้าของหรือแม้แต่หมอบางท่านเอง พากันส่งเข้ามาคลีนิกเฉพาะทางไม่ว่าโรคใดๆ กรุณาเห็นใจกันบ้างครับ หมอทั่วไป ถ้าจบหมอมาได้ รักษาได้กันทั้งนั้นล่ะครับ อย่างน้อยก็เบื้องต้น ถ้าไม่ไหวหรือเหนือเกินความรู้ หมอย่อมมีที่ถาม โทรปรึกษาหมอท่านอื่น หรือส่งต่อไปยังผู้รู้ ชำนาญกว่าหมอท่านนั้นได้ครับผม” แต่ประโยคที่ทำให้รู้สึกรับไม่ได้คือคำตอบจากคุณกระบี่หักใน คห.13 .. ประโยคนี้ “..แล้วท่านคิดไหมครับว่าต่อให้ผู้เชี่ยวชาญขนาดไหน ให้เทพเลย ถ้าเคสเยอะมากๆๆๆ ต้องเร่งรีบทำเวลา แบบนี้ประสิทธิภาพการรักษาจะดีเต็มที่หรือไม่ หลุดรักษาแบบประหลาดๆก็มี ผมไม่ได้ว่าใครนะครับ เพราะผมเองก็เคยเป็น เคสเยอะมากๆๆสมองมึนไปหมด ทำไมลูกศิษย์ รุ่นน้องที่น่ารัก พากันส่งมาจัง ไม่รักษาเองไปก่อนในบางอย่างเล่า..” อย่างที่บอกว่าเข้าใจที่คุณหมอชี้แจง แต่อ่านแล้วรู้สึกแย่ล่ะค่ะ ก็ไม่รู้ว่าคุณหมอที่รักษากันประจำ ๆ จะเคยบ่นแบบนี้บ้างรึเปล่า แต่เท่าที่ไปรักษามา 2 – 3 ครั้ง (เพราะกระต่ายไม่ได้ป่วยบ่อย) ก็เห็นว่าท่านคิวยาวทุกครั้งที่ไป (ยกเว้นครั้งแรกเพราะไปหลังเที่ยงคืนแล้ว ฮา) แต่ก็ยังวิเคราะห์และแนะนำวิธีการใช้ยาให้คนไข้ฟังด้วยตัวเองอย่างละเอียด กี่ชั่วโมงก็รอค่ะแบบนี้ แต่ถ้าเจอหมอแบบที่คุณ คห. 18 บอกว่ารอ 3 ชั่วโมง แต่ตรวจไม่ถึง 10 นาทีให้ยามาแล้วยังอาการหนัก ดิฉันเห็นใจคุณอย่างมากๆค่ะ และคงลาขาดเหมือนกัน คุณเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย ถ้าดิฉันเปรียบเทียบง่าย ๆ คุณอาจจะเห็นชัดเจนขึ้น .. จากที่ได้ยินมาและประสบพบเจอบ่อย ๆ ว่าอาจารย์บางท่าน บางโรงเรียน บางมหาวิทยาลัย รับจ็อบงานสอนพิเศษข้างนอกเยอะมากๆๆๆๆ ถ้าเกิดว่าวันดีคืนดี อาจารย์ท่านนั้นหลุดปากบ่นให้ลูกศิษย์ได้ยินว่า “ทำไมลูกศิษย์ที่น่ารักรุ่นก่อนถึงพากันปากต่อปากส่งมาเรียนกันจัง ต้องเร่งรีบสอนแต่ละที่ให้มันจบ ๆ ไป ไม่มีเวลาดูแลนักเรียนที่เรียนอ่อน ใกล้ตกอย่างใกล้ชิดอย่างที่ใจอยากเลย บางวันสอนมาก ๆ ก็มึน ใครถามอะไรมาก็หลุดตอบแบบประหลาด ๆ ออกไป ทำไมไม่อ่านหนังสือทำความเข้าใจกันเองก่อนเล่า เฮ้ออออ” เจอแบบนี้.. ลูกศิษย์มีหนาวค่ะ อุตส่าห์เสียเงินมาเรียน (เดี๋ยวจะโดนข้อหาดูถูกวิชาชีพครูอีกกระทงรึเปล่า?? -*- ไม่ได้ดูถูกนะคะ เพราะบุพการีก็เป็นครู ออกจะเชิดชูและเคยอยากเป็นครูด้วยซ้ำ) คุณอาจจะรู้สึกว่าดิฉันกระทบกระเทียบเปรียบเปรย ประชดประชันคุณ .. ถ้ารู้สึกแบบนั้นก็ต้องขออภัยอีกรอบ แต่เพียงแค่อยากให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นค่ะ บอร์ดนี้เป็นบอร์ดสาธารณะก็จริง แต่การที่ใครสักคนแสดงตัวว่าเป็นหมอ มาพูดอย่างในความเห็นที่ 13 ที่ดิฉันยกคำพูดนั้นๆ มา สำหรับคนที่ไม่รู้จักคุณหมอเป็นการส่วนตัว และไม่เคยผ่านตาคำแนะนำ หรือได้รับการรักษาจากคุณหมออย่างดิฉัน ก็ย่อมจะรู้สึกไม่ชอบใจในคำพูดที่แสดงถึงความไม่รับผิดชอบแบบนี้ ถ้าพวกเรารักษาเองได้ ก็คงไม่พากันแห่ไปหาหมอหรอกค่ะ และไม่้ต้องห่วง เพราะถ้าเคสไม่หนัก เพื่อน ๆ ในบอร์ดนี้ก็ยินดีแนะนำการรักษาเบื้องต้นให้อยู่แล้วจากประสบการณ์ตรงของแต่ละคน และบทความต่าง ๆ ในอินเตอร์เน็ตซึ่งช่วยได้อย่างดีเสมอ คงไม่มีใครคะยั้นคะยอให้ไปเสียเงินโดยไม่มีเหตุอันควรหรอกค่ะ ทั้งค่ารถ ค่ายา ค่าหมอ ซึ่งไม่น้อยเลย อธิบายมาซะยาวขนาดนี้ หวังว่าคงจะเข้าใจดิฉันมากขึ้นบ้างนะคะ พวกเราไม่ใช่คนเลวร้าย ไม่ใช่คนพาล พูดแรงไปก็คงแก้ไม่ได้ พูดไปแล้ว แต่ที่พูดก็เพราะหมายความตามนั้นจริง ๆ คนเลี้ยงสัตว์และรักสัตว์จริงมีเยอะค่ะ แต่ก็ไม่น้อยไปกว่าพวกเลี้ยงสัตว์ แต่ไม่มีความรับผิดชอบ มีแต่ความเห่อ ความหลง แต่ไม่มีความรักให้ น่าสงสารสัตว์ออกนะคะ จริง ๆ อยากตอบให้ละเอียดกว่านี้ในสิ่งที่คุณพูดถึงดิฉันไว้ในย่อหน้าสุดท้าย แต่คิดว่าชี้แจงแค่นี้น่าจะเพียงพอ ดิฉันรักสงบและไม่นิยมความแตกแยก แต่จะไม่อยู่เฉยถ้าเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง เราคนรักสัตว์เหมือนกัน จริง ๆ น่าจะล็อคอินมาคุยกันบ้างนะคะ ^___^ ปล. เสียดายจัง ขีดเส้นใต้ไม่เป็น เลยต้องแก้ไขข้อความนิดหน่อยค่ะ แก้ไขเมื่อ 19 ก.พ. 52 17:13:36 จากคุณ : ..สุดสวย.. (แฮ่) ^^ (iRiSyAuS) - [ 19 ก.พ. 52 17:11:09 ]

ความคิดเห็นที่ 25 ทุกท่านที่เข้ามาตอบกระทู้ในบ้านโพรงฯต่างก็มีเจตนาที่ดี พยายามหาข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆ หลายๆท่านในนี้คอยนั่งเฝ้ากระทู้เพื่อตอบเวลาใครมีปัญหา ทั้งๆที่งาน และชีวิตส่วนตัวก็ยุ่งเหยิงไม่แพ้บ้านโพรงฯ สิ่งที่ท่านๆข้างบนแนะนำ ก็เพื่อต้องการให้สิ่งที่ดีแก่ท่านทั้งหลายที่มีปัญหา ทั้งๆที่หลายๆคำถามเป็นคำถามที่ถามซ้ำไป ซ้ำมา บางครั้งถามเมื่อ 2 กระทู้ก่อน และมีการตอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน ทิปเด็ดก็มีการทำเป็น highlight ข้างบนเพื่อความสะดวกของเพื่อนพ้องทั้งหลาย แต่ไม่แม้จะชำเลืองแล บอกตรงๆ เราไม่มีความอดทนเท่าท่านเหล่านั้น ก็ได้แต่ยกย่อง และเห็นใจพร้อมทั้งเซ็งในอารมณ์ มาเรื่องของหมอเฉพาะทาง เราเห็นด้วยนะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของเจ้าของสัตว์เลี้ยงแต่ละท่านว่าจะให้ความสำคัญกับตรงนี้ หรือมีประสบการณ์ตรงนี้เท่าไร หมอทั่วไปเราก็ทราบว่าเขารักษาโรคพื้นฐานที่เรียนมาเหมือนกันได้ แต่ทำใมสถาบันการศึกษาต่างๆถึงแยกเป็นสาขาเฉพาะ หรือวิชาเอกขึ้นมาอย่าว่าแต่แพทย์เลยค่ะ หมอดูยังแยกเป็นลายมือ ยิปซี ฯลฯ เราเลี้ยงกระต่ายมาแรกๆก็ไม่เคยเข้าเวป ไม่รู้แม้แต่ว่ามีหมอรักษากระต่ายโดยเฉพาะ พาไปหาโรงพยาบาลสัตว์ตลอด จนได้กระต่ายเด็กมา ป่วยเป็นหวัดก็พาไปโรงพยาบาลเดิม รักษาอยู่เกือบเดือนอาการไม่ดีขึ้นแถมยังไปติดตัวอื่นๆอีก ก็ย้ายไปโรงพยาบาลอื่นหลังจากสำรวจดูว่าดีแน่ๆเครื่องไม้เครื่องมือพร้อมมีหมอที่เชี่ยวชาญ แต่ไม่มีหมอรักษากระต่าย พาไปหาคุณหมอก็ตรวจอาการเริ่มจะเป็นปอดชื้นและน่าจะมีอาการแทรกซ้อน หมอไม่สามารถรักษาได้ แนะนำพาไปที่ รพส มหิดลซึ่งมีหมอกระต่าย ตอนนั้นก็คิดว่าแค่เป็นหวัด ทำไมรักษาไม่ได้ทั้งที่เป็น รพสเอกชนที่มีชื่อ ก็ทำให้เข้าใจแหละค่ะว่าความชำนาญ และประสบการณ์เฉพาะด้านมันสำคัญอย่างไร กระต่ายเป็นสัตว์ sensitive จึงมักถูกนำมาเป็นสัตว์ทดลอง หลายคนที่เข้าใจก็จะพาไปหาหมอเฉพาะเมื่อมีปัญหา เราว่ากระทู้ที่ตอบๆมาข้างต้นไม่ได้มีใครพยายามทำตัวเป็นผู้รู้ หรือพยายามทำตัวเสมือนสัตวแพทย์ แต่ช่วยเหลือกันจากประสบการณ์ที่มี ผู้อ่านกระทู้สาธารณะเช่นนี้ก็ต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน และทำใจเป็นกลางนะคะ จากคุณ : Maemoowaan - [ 19 ก.พ. 52 18:09:40 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ท่าจะยาวแฮะงานนี้ เราเองก็ไม่ได้เข้าข้างใครนะคะ แต่ขอพูดความคิดเห็นส่วนตัวของตัวเองดีกว่า ตอนเลี้ยงกระต่ายใหม่ๆก็เข้าใจไปเองว่าหาสัตวแพทย์ที่ไหนก็ได้ คิดไปเองว่าสัตวแพทย์ทุกคนคงจะรักษาสัตว์ได้ทุกชนิดแน่ๆเลย (ยังเด็กค่ะตอนนั้น) จนกระทั่งกระต่ายตัวเองมีอันต้องเสียชีวิตไปและได้เข้ามารู้จักห้องกระต่ายหลังจากนั้นเป็นต้นมา เรื่องบางเรื่องเราต้องการผู้เชี่ยวชาญในการรักษา เราเองก็อยากพาแมวน้ำไปรักษาที่ไหนก็ได้เหมือนกัน เพียงแต่ว่าเพื่อความชัวร์ และเราเจอคุณหมอรักษากระต่ายที่พึ่งพากันมานาน เราก็ย่อมเลือกคุณหมอคนนั้นเป็นตัวเลือกแรกใช่ไหมคะ เรื่องที่คุณหมอเหนื่อยก็น่าเห็นใจนะ เพราะอาจารย์เราก็เป็นแพทย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่มีชื่อเช่นกัน บ่นแบบนี้ล่ะ แต่เค้าก็ยังทำอาชีพที่รักต่อไป ก็คงหาคนระบายความในใจด้วยแค่นั้นเอง ประเด็นในความเห็นนี้คือ เราอยากให้เพื่อนสมาชิกในกรณีนี้ที่กระต่ายอยู่ๆน้ำหนักตัวลดลง และประท้วงไม่กินข้าว ไปหาคุณหมอที่เฉพาะทางไปเลย เพราะดูท่าจะไม่ดีแล้ว ไม่อยากให้เสียเวลา โอเค จบ ทีนี้เรื่องที่ว่าคนเลี้ยงหาความรู้มากไป (มันมีกรณีรู้มากไปด้วยหรือ) เอาเป็นว่าเราก็เป็นหนึ่งในคนที่ทำอะไรเลี้ยงอะไรแล้วจะหาความรู้จากหลายๆทางแล้วนำมาประมวลอีกรอบ ทีนี้ในเรื่องของสัตว์เลี้ยงเราเองก็ไม่ได้เป็นสัตวแพทย์ แต่เมื่อเลี้ยงสัตว์แล้ว ก็ต้องมีความรู้เพื่อจะเลี้ยงให้ถูกต้องกันหน่อยนะคะ เวลาที่เรามีคำถามเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของเราก็ยังไปถามสัตวแพทย์อยู่ดี แต่ทีนี้ก็ไม่ใช่คนที่จะไปแย้งการรักษาของหมอ หรือ บอกว่าหมอทำไม่ถูก โดยส่วนใหญ่ก็จะถามด้วยความสงสัยกับโรคที่แมวน้ำมันป่วยอยู่ ก็เท่านั้นเอง หรือถามเรื่องการเลี้ยงดูทั่วๆไปเพื่อเป็นความรู้ เสริมความรู้ให้ตัวเอง ไม่ได้ถามเพื่ออวดภูมิปัญญาอะไรเล้ยยยย เพราะยังไงถ้าเราก็เคารพการตัดสินใจของหมออยู่แล้ว (กรณีที่หมอเป็นหมอเฉพาะทางที่เราไปรักษาประจำ) แต่ถ้าเป็นกรณีที่เจอหมอใหม่ๆ ก็อาจจะถามกันนิดนึง เพราะเราก็รักกระต่ายเราใช่ไหมล่ะ ต้องสอบถามหมอเพื่อความมั่นใจหน่อย เพราะกระต่ายเรามันมีตัวเดียวอันเดียวไม่มีใครแทนกันได้ การอ่านเพิ่มพูนความรู้ แม้ว่าจะเรียนหนังสืออยู่หรือทำงานแล้ว การเรียนรู้ก็ไม่มีที่สิ้นสุดหรอกค่ะ ยิ่งเราต้องมาดูแลชีวิตเล็กๆชีวิตนึง ซึ่งทุกชีวิตมีค่าทั้งนั้น เค้าฝากชีวิตไว้กับเราทั้งทีเราก็ต้องรู้ให้มากหน่อย จะได้ดูแลเค้าให้ได้ดี ไม่ใช่แค่เลี้ยงให้โต นอกเรื่องนิดนึง ถึงคุณ(ใครก็ไม่รู้อ่ะค่ะ) การที่ลูกศิษย์เอางานวิจัยมาถามหรือแย้งกับเราทางวิชาการก็เป็นเรื่องปกติดีนี่คะ เพียงแต่เราเองต้องลองอ่านและวิเคราะห์ดูค่ะว่างานวิจัยนั้นน่ะใช้ได้ไหม ถูกต้องไหม แล้วการถกเถียงกันทางวิชาการก็ไม่ใช่เรื่องดูถูกกันสักหน่อยนึงนะ ยิ่งจะเป็นการต่อยอดความรู้ ว่าทำไมเค้าคิดกันอย่างนั้น เค้ามีข้อพิสูจน์อะไร ทำให้เราค้นคว้ามากขึ้น งานวิจัยจึงมีออกมาเสมอๆให้เราได้เรียนรู้ที่จะคิดต่อยอดความรู้ตัวเองไงคะ งานวิจัยดีๆก็มีตั้งเยอะ งานวิจัยแย่ๆก็เยอะเหมือนกัน เพียงแต่คนที่อ่านรู้หรือไม่ก็เท่านั้นเอง ดังนั้นถ้ามีคนนำบทความอะไรมาลงแล้วคุณไม่เห็นด้วยก็ต้องว่ากันด้วยหลักความจริงและเหตุผลเป็นธรรมดา ซึ่งจะได้ประโยชน์ทั้งตัวคุณเองและคนอื่นๆด้วยนะคะ เราออกจะชอบเวลาเรียนชั่วโมง Journal Club ได้มาถกกันเรื่องงานวิจัย ได้วิเคราะห์เหตุและผล และที่สำคัญทำให้เรายิ่งพัฒนาความรู้ตัวเองยิ่งๆขึ้น แม้ในห้องเรียนธรรมดา อาจารย์เองก็ชอบให้พวกเราหาความรู้นอกห้องเรียนทั้งนั้น อาจารย์เองน่าจะยิ่งชอบถ้าลูกศิษย์พูดแย้งทฤษฎี หรือออกความเห็นที่แตกต่าง นะคะ (อาจารย์ที่เราเรียนมาด้วยก็ชอบออก ลูกศิษย์แสดงความใส่ใจในวิชาเค้าขนาดนี้) การทำแบบนี้ไม่ได้แสดงความดูถูกอะไรเลยจริงๆ เพราะเราพูดถึงเรื่องวิชาการกันนะคะ ความรู้ไม่มีจุดสิ้นสุดหรอกค่ะ จากคุณ : เจ้าหนูลูกชิ้น - [ 19 ก.พ. 52 19:32:01 ]

ความคิดเห็นที่ 27 ไม่มีใครดูถูกอาชีพสัตวแพทย์ในไทยหรอกค่ะ ^^ เข้าใจคุณหมอนะคะ ว่า คุณหมอต้องเหน็ดเหนื่อย ถ้าใครๆก็พากันแห่ไปที่คุณหมอเฉพาะทาง เห็นด้วยกับคุณหมอนะคะ ที่คุณหมอบอกว่า หมอทั่วไปก็รักษาได้ อย่างน้อยก็ในเบื่องต้น และเข้าใจด้วยว่า ...ไม่มีใครอยากให้สัตว์ตัวไหนที่ตัวเองต้องรักษาตายหรอก ใช่ไหม แต่.............. ถ้าเราเลือกได้เราก็อยากให้สัตว์เลี้ยงที่เรารักเจอกับคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านนี้โดยตรงนะคะ ^^ คิดง่ายๆ เปรียบเทียบกับคน กรณีนี้เกิดขึ้นจริงด้วยนะคะ เราปวดท้องและรู้ได้โดยอาการว่า เราปวดท้องไส้ติ่งแน่นอน ถ้าเป็นไปได้ เราก็อยากจะเจอหมอที่เชี่ยวชาญที่สามารถบอกเราได้เลยว่า คุณเป็นไส้ติ่งนะ รอผ่าตัดเลยคะ รอผ่าตัดเลยครับ ไม่ใช่วิเคราะห์ว่าน่าจะเป็น โรคกะเพาะ ให้ยามากินบอกว่าอีกสองสามวันถ้าไม่หายกลับมาใหม่  เราเป็นคนไข้ เราก็เชื่อหมอ ทั้งๆที่ในใจก็คิดว่าเราต้องเป็นไส้ติ่งแน่เลย อีกสามวันก็ยังไม่หายปวดท้อง ก็ต้องกลับมาอีก ปรากฏว่า ไส้ติ่งแตกเรียบร้อย จากที่ควรจะได้นอนโรงพยาบาล สามวัน ก็กลายเป็น หนึ่งเดือน ดีไม่ดี ถ้ามาช้ากว่านี้ ก็อาจจะตายได้ นี่แหละค่ะ เป็นเหตุผลว่าทำไมใครๆก็อยากเจอหมอที่เก่งเฉพาะทางจริงๆ แล้วสำหรับคุณที่ถอดล๊อกอินมา จากประโยคที่คุณบอกว่า "แม่ของดิฉันไปรอหมอเฉพาะทางตั้งครึ่งค่อนวันก็ไม่ได่ทำให้อาการดีไปกว่ารักษากับคุณหมอที่คลีนิกเท่าไหร่หรอกค่ะ" เราขอถามคุณว่า "แล้วถ้าอย่างนั้น คุณหมอเค้าจะไปเรียนเฉพาะทางทำไมเหรอคะ????" ถ้าเป็นอย่างนั้น ถ้าเราปวดกระดูก เราก็ไปหาหมอตามคลินิกที่เค้ารักษาโรคทั่วไปก็ได้ ถ้าเราปวดหัวใจ เราก็ไปหาหมอตามคลินิกที่รักษาโรคทั่วไปได้ ถ้าเราเป็นมะเร็ง เราก็ไปหาหมอตามคลินิกที่รักษาโรคทั่วไปได้ เพราะหมอเฉพาะทางก็ไม่ได้รักษาดีไปกว่าหมอคลินิกเท่าไหร่ คุณกำลังดูถูกหมอที่เค้าเก่งเฉพาะทางอยู่นะคะ  รู้ตัวหรือเปล่าเนี่ย^^" ที่นี่เป็นบอร์ดสาธารณะ ความคิดเห็นที่แตกต่าง น่าจะนำมาซึ่งความเข้าใจ มากกว่า การแตกแยกนะคะ ขอเรียนคุณหมออีกทีว่า  ไม่มีใครดูถูกอาชีพแพทย์ของไทยในนี้หรอกค่ะ ด้วยความเคารพคุณหมอและวิชาชีพหมอค่ะ ^^ จากคุณ : MOnKEy_PrAi - [ 19 ก.พ. 52 20:50:47 ]

ความคิดเห็นที่ 28 *****ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ย้ำ ความคิดเห็นส่วนตัว ซึ่งอาจจะไปคล้องจองหรือไปขัดแย้งความคิดเห็นคนอื่น แต่ก็ได้กล่าวไป ตอนน้นแล้วว่าเป็นความคิดเห็นส่วนตัว ไม่มีการเข้าข้างใครทั้งสิ้น ขออธิบายสั้นๆ >>>เคสแรก เพิ่งหัดเลี้ยง ไม่ได้ศึกษาหาข้อมูล ประสบการณ์ส่วนตัว เริ่มจากไปหาหมอรักษาสัตว์อื่น เค้าฉีดยาค่ะ แล้วกระต่ายเราก็ชักแหง่กๆตายคาเข็ม (เจ็บ แต่เป็นประสบการณ์) เคสสอง>>>เลี้ยงเป็นแล้ว พอมีประสบการณ์และความรู้ที่ขวนขวายหามาประดับและสั่งสมเอาไว้ พาไปหาหมอเฉพาะทาง แต่เจอปฏิเสธเคสเนื่องด้วยเหตผลคือ คลินิคปิดแล้ว(เจ็บ...แล้วจำ) เคสสาม>>>อารมณ์คนรักษา ประมาณว่าคุณจะตื่นเต้นอะไรนักหนา มันยังไม่ตาย แค่หายใจรวยรินเอง โวยวายอยู่ได้ เรื่องมาก ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ไปขอรักษาฟรีเลยนะ(อาจจะแรงไปแต่ไม่มีคำไหนจะสื่อความคิดได้ตรงเท่าคำนี้อีกแล้ว) ขอสรุป รู้นะค่ะว่าหมอเป็นอาชีพที่เสียสละมาก ไม่ว่าจะเป็นหมอในสายไหน แค่คุณจะคิดเรียนแพทย์นั่นหมายถึงการที่คุณพร้อมที่จะเป็นผู้ให้ และเสียสละแล้ว คุณคือที่พักพิงทั้งร่างกายและหัวใจที่ท้อแท้ของทั้งผู้ป่วยและญาติที่รักเค้า ถึงแม้เค้าจะตายที่มือคุณเป็นมือสุดท้าย เราจะไม่โทษว่าคุณเป็นคน "ฆ่า" เค้าเลย ถ้าได้เห็นถึงความพยายามอย่างถึงที่สุด ที่คุณได้ทำเพื่อการยื้อชีวิตหนึ่งเอาไว้อย่างเต็มที่ เป็นความพยายามที่เราทุกคนสามารถเห็นได้ด้วยตาจากการกระทำของคุณ และความรู้สึกทุ่มเท ที่ทุกคนรับรู้ได้ นอกจากคนที่ไม่มีความรู้สึกเท่านั้นถึงจะดูไม่ออก ทุกคนมีสิทธิ์เลือกที่จะทำให้ชีวิตมีความสุขสบายที่สุด ชั้นก็เป็นหนึ่งคนที่เลือก...หมอ.. เพราะถึงแม้จะรู้ว่าสี่งที่เรารักเค้าป่วยหนัก แต่ถ้าได้เจอหมอคนนี้เราก็สบายใจไปครึ่งหนึ่ง เพราะรู้ว่าเค้าไม่ได้เป็นพวกหมอที่ไม่มีจรรยาบรรณ ที่รักษาแค่ส่งๆให้จบๆไป แล้วเก็บเงิน เค้าจะเต็มที่กับการรักษา ถึงแม้สิ่งที่เรารักเค้าจากเราไป นั่นก็เพราะเค้าหมดบุญ จบค่ะ จากคุณ : yokubpum - [ 19 ก.พ. 52 21:15:55 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ไม่ขอแก้ไขคำผิดนะค่ะ เพราว่านั่นคือความคิดแรกของเรา ที่มาจากใจ และสื่อได้ดีที่สุดค่ะ จากคุณ : yokubpum - [ 19 ก.พ. 52 21:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ปกติเวลาเข้าห้องจตุจักร กระผมจะเลือกดูทั้งสุนัข แมว กระต่าย ปลาสวยงาม สัตว์เลี้ยงอื่นๆ และพรรณไม้น้ำด้วย เห็นกระทู้นี้ตกไปอยู่ตั้งท้ายๆ เพิ่งได้กลับเข้ามาเห็นกระทู้นี้อีกครั้ง ความคิดแรกที่แวบคือ "อะไรกัน มันชักจะไปกันใหญ่แล้ว" ต้องขอเรียนชี้แจงว่า กระผมไม่ได้มีเจตนาจะตัดสินไปเลยนะครับ ว่ากระต่ายป่วยจะต้องไปหาหมอทั่วไปไม่ใช่หมอกระต่าย เพียงแต่ให้แง่คิดเสนอแนะว่า ท่านลองปรึกษาสัตวแพทย์ที่ใกล้เคียงที่สุดดูก่อนไหม ว่าเป็นอะไรได้บ้าง อาการเป็นหนักรุนแรงไหม ถ้ามากจะต้องปฐมพยาบาลเบื้องต้นอย่างไร เพื่อเป็นการช่วยชีวิตจนกว่าจะพบผู้เชี่ยวชาญ หรือถ้าหมอไม่รู้วินิจฉัยไม่ออกก็ขอให้หมอแนะนำส่งตัวไปรักษาต่อที่หมอท่านอื่น ขึ้นชื่อว่าหมอแล้ว ผมว่าทุกคนน่าจะยินดีช่วยอย่างสุดความสามารถนะครับผม เพราะประสบการณ์ที่เคยเจอ มีกระต่ายหลายเคสมากที่เจ้าของประสงค์ให้เข้ามารักษาต่อจากที่ได้รับการรักษาจากสถานที่ซึ่งเป็นที่ขี้นชื่อว่าหมอที่รักษาผู้เชี่ยวชาญด้านกระต่าย (หนึ่งในนั้นก็ตั้งอยู่ที่ทำเลใกล้กันกับคุณที่ไม่ประสงค์จะออกนามระบุไว้ แต่ผมไม่ทราบว่าทีเดียวกันหรือเปล่า) เคสเหล่านั้นบางรายโชคดีมาหายที่ผม (ผมต่างหากล่ะโชคดี ไม่ใช่กระต่าย) บางรายก็เสียชีวิตจากการรักษาโดยคุณหมอเฉพาะทางท่าน แบบไม่น่าจะเชื่อว่าจะเป็นการรักษาของผู้เชี่ยวชาญได้ ผมเจอเคสแบบนี้เยอะมากจนน่ากลัวครับ ไม่ใช่เพียงกระต่าย ทั้งน้องหมาน้องแมวก็เจอเยอะเช่นกัน ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าผู้เชี่ยวชาญพวกนั้นจะเก่งไม่เท่าผมนะครับ ผมเชื่อว่าเขาเก่งกว่าผมครับ แต่สาเหตุของความผิดพลาดที่หลุดมา ส่วนมากมักมาจากการที่ท่านรักษามากจนเบลอ ทำให้การวินิจฉัยผิดพลาด มันเกิดมาแล้วหลายกรณีที่ท่านไม่ได้ตั้งใจจริงๆ (แต่ก็มีบางท่านเหมือนกันที่ชอบอวดตัวเองมีชื่อเสียงว่าวันนี้รักษามาตั้ง ๖๐ เคส กระผมงงว่าหมอคนหนึ่งทำงานวันละไม่กี่ชั่วโมงแล้ว เอ... เฉลี่ยแล้วเคสหนึ่งใช้เวลารักษากี่นาทีเล่า) แต่ผมก็ได้เรียนไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสะดวกของท่าน ถ้าท่านอยู่ใกล้หมอผู้เชี่ยวชาญก็พบได้เลย (รวมทั้งขึ้นกับทุนทรัพย์ด้วยนะครับ เพราะบางที่แพงมากสุดๆเลย จริงอยู่ที่บางท่านไม่สนใจเรื่องราคา แต่ก็มีบางท่านที่ซีเรียสเรื่องนี้เหมือนกัน โดยเฉพาะเศรษฐกิจแบบนี้คลีนิกหรือโรงพยาบาลรักษาสัตว์บางแห่งคิดค่าบริการแพงกว่ารักษาคนมาก) ส่วนหมอบางคนอาจจะเลี้ยงไข้ (มีจริงๆนะครับ แต่ไม่ขอเอ่ยนาม) เจตนาที่จะพยายามรั้งเอาไว้ทั้งที่รักษาไม่ได้ หรือรักษาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ท่านที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นกระต่าย สุนัข แมวหรือสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ท่านสามารถส่งความคิดเห็นไปยัง สำนักงานสัตวแพทย์สภาได้ครับ โทรศัพท์ ๐-๒๒๕๐-๐๓๙๘-๙ ความเห็นของท่านจะมีคุณค่ามาก เป็นการป้องกันและลดจำนวนหมอที่มีพฤติกรรมเช่นนั้น ช่วยปกป้องวิชาชีพสัตวแพทย์และเป็นการช่วยชีวิตอื่นๆอีกมากมายในอนาคตครับผม ผมขอขอบพระคุณล่วงหน้าไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับผม มาที่เรื่องที่เป็นประเด็นที่ทะเลาะกัน ก่อนอื่นต้องขอบพระคุณท่านที่ไม่ประสงค์จะออกนาม ที่มีเจตนาดีที่ช่วยตอบแทนในบางเรื่อง คุณคงจะรู้จักผม แต่ผมต้องขอประทานโทษด้วยจริงๆที่ผมไม่รู้จักคุณครับผม และคุณคงจะเข้าใจผิดบางประการ ผมขอเรียนด้วยความสัตย์จริงว่าผมไม่ได้เคืองโกรธ หรือคิดว่าใครลองภูมิหรืออะไรไปกันใหญ่ และผมต้องขอโทษที่เป็นสาเหตุของการทะเลาะเบาะแว้ง โดยเฉพาะกับข้อความที่เป็นปัญหา ที่คุณเจ้าของความเห็นที่ ๒๔ (ขออภัยครับ พิมพ์ชื่อไม่เป็นเช่นกันครับ ^_^) ยกมา กระผมมิได้มีเจตนาในทางลบจะด่าว่าใครขอรับ ผมก็บ่นไปตามประสาคนที่เริ่มมีอายุ (ที่ไม่มาก) ตามที่คุณเจ้าหนูลูกชิ้น ความเห็นที่ ๒๖ นั่นล่ะครับ ถึงจะตัดพ้อต่อว่าไป บ่นด่ารุ่นน้องไป เอ็งส่งมาทำไม...ไม่รักษาเองวะ แต่สุดท้ายแล้วมีหมอที่ไหนบ้างล่ะครับที่จะไม่ยิ้มดีใจถ้าเคสของตนหายป่วย (ไม่เชื่อท่านลองไปถามหมอที่ไหนก็ได้ครับ หมอที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของท่านหายก็ได้ครับ ถ้าเคสหายป่วย รับรองครับ เก็บอาการกันไม่อยู่ หน้าบานกันทั้งนั้น ผมก็เช่นกัน)  คงจะเป็นอารมณ์เดียวกันกับอาจารย์ของผมสมัยเรียน ท่านก็บ่นว่าทำไมไม่อ่านมาก่อนวะ ฉันสอนหลายรอบจนเหนื่อยแล้ว ถามอะไรกันหนักหนา ทำไมอาจารย์ท่านอื่นๆต้องส่งให้มาปรึกษาฉัน... แต่ท่านก็ยังตั้งใจสอนต่อไป ผมก็มิได้โกรธ อารมณ์เสีย ติดใจอะไรกับท่านนะครับ อาจจะเป็นเพราะตอนที่พิมพ์ข้อความนั้นเป็นช่วงที่ใกล้จะประชุม รีบมากแล้วก็พิมพ์ผิดหลายรอบด้วย เลยอาจจะทำให้สำนวนมันดูห้วนๆ ปลุกอารมณ์ของผู้อ่านให้ระอุได้เหมือนกันนะครับ ต้องขออภัยที่ใช้บอร์ดสาธารณะมาบ่นรำพึงรำพัน จนกลายเป็นข้อความปัญหาเรื่องราวบานปลายไปกันใหญ่ ขอโทษจริงๆครับ ไม่นึกว่ามันจะเลยเถิดมาขนาดนี้ ถือเสียว่า ปล่อยให้ผมระบายอารมณ์ตามประสาคนที่มีอายุมากขึ้น (เล็กน้อยแต่หน้ายังวัยรุ่น) อย่าได้ถือสาเลยนะครับ สำหรับคุณแม่หมีตัวอ้วน กระผมยินดีจะแนะนำคุณหมอที่มีประสบการณ์ แต่ขออนุญาตไม่ลงในที่นี้นะครับเพราะจะเป็นโฆษณา อีกทั้งในประเทศไทย สัตวแพทยสภายังไม่อนุญาตให้ใช้คำว่า "หมอผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง" ดังเช่นในต่างประเทศครับ เดี๋ยวท่านเหล่านั้นจะพากันเดือดร้อน เอาเป็นว่าถ้าใครอยู่ท้องที่เขตย่านใด หลังไมค์เข้ามาถามได้ครับผม ไม่มีโฆษณาแอบแฝงแน่นอนครับ อิอิอิ ผมมิใช่คนหมอที่เก่งกาจเท่าใด แต่ก็ยินดีช่วยถ้าช่วยได้ และผมยืนยันว่าจะไม่แสดงตัวว่าเป็นใคร  คลีนิกอยู่ที่ไหนนะครับผม แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 01:22:51 จากคุณ : กระบี่หัก (charan_ck) - [ 20 ก.พ. 52 01:17:03 ]

ความคิดเห็นที่ 31 เข้ามาเมม เบอร์โทรสัตวแพทย์สภา เพิ่งรู้ว่ามีนะเนี่ย ดีดี มีมาตราฐานดี เข้าใจหัวอกคุณหมอนะค่ะ และซาบซึ้งมากค่ะ แต่ที่ไม่เข้าใจน่ะ คนที่ปลดล๊อกอินน่ะค่ะ แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 07:47:46 แก้ไขเมื่อ 20 ก.พ. 52 07:46:14 จากคุณ : yokubpum - [ 20 ก.พ. 52 07:45:49 ]

ความคิดเห็นที่ 32 ขอบคุณคุณหมอ (ขออนุญาตคุณกระบี่หักเรียกอย่างนี้นะคะ ^^) ที่กรุณามาชี้แจงนะคะ และต้องขอโทษคุณหมอด้วยที่รู้สึกว่าดิฉันจะเข้าใจบางประโยค บางเจตนาของคุณหมอผิดไปค่ะ น้ำผึ้งหยดเดียวจริงๆ นะคะกรณีนี้ ^^ ประสบการณ์ที่ต่างกัน อาจทำให้มีความเห็นที่แตกต่าง แต่ไม่แตกแยกแน่นอนคะ  เป็นกำลังใจให้หมอทุกท่านค่ะ ^^ จากคุณ : ..นู๋สวย.. (iRiSyAuS) - [ 20 ก.พ. 52 09:00:38 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ... เข้ามาดู จากคุณ : Mr. Fusion - [ 2 มี.ค. 52 14:02:24 ]