ความคิดเห็นที่ 1 พาไปเทสก่อนค่ะ ว่าเป็นหัดรึเปล่า หมอที่นั่นได้จับเทสดูรึเปล่าคะ ก่อนจะบอกว่าเป็นหัดอ่ะค่ะ เคยมีหมออยู่ที่นึง เค้าบอกว่าหมาเราเป็นหวัด อาจจะเป็นหัด แต่ไม่ได้เทส สุดท้าย ผ่านไปวันเดียวเอาไปดูอีกที่ มันเป็นหัดค่ะ รักษาไม่ทัน ก็ตายไป โรคหัดถือเนโรคที่ร้ายแรงค่ะ ยังไงพาไปวินิจฉัยที่อื่นด้วยก็ดีค่ะ จากคุณ : ~นางสาวมารร้าย~อักษรานรี~ - [ 25 ก.พ. 52 22:14:15 ]

ความคิดเห็นที่ 2 น้องแมวที่บ้านก็เป็นครับ หลังทำหมันอาการเหมือนเป็นหวัด เลยไปซื้อยามาให้เค้ากิน ก็คลาโวมอค 250 มิลลิกรัม พอกินไปได้ซักพัก สองตัวที่เป็นอยู่ดีขึ้น แต่อีกสองตัวอาการยังทรงๆ แต่เห็นจิบิอาการหนักกว่าเพื่อนเลยพาไปฉีดยา วันต่อมาจิบิหายดี แต่มินิกลับซึมแทน ป้อนยาก็บ้วนออกหมด น้ำลายเป็นฟอง เลยเอาไปฝากไว้กับหมอจอมครับ ทีนี้เห็นหมอบอกเค้าถ่ายเป็นเลือดด้วย ผมก็เลย ฮืออออ กลัวว่าเค้าจะเป็นอะไร เลยขอฝากหมอไว้ก่อน แต่สองวันถัดมาอาการถ่ายแล้วมีเลือดก็หาย อาการส่วนใหญ่ดีขึ้น แต่ไม่ค่อยยอมกินข้าว ไม่ค่อยร่าเริง แต่พอไปวันหลังๆนี้อาการดีขึ้นเยอะแล้วครับ ร้องหาพ่อมันได้ละ อ้อนขอออกจากกรงได้ แต่ผอมเชียว T-T นี่ก็สิบกว่าวันแล้วมั๊งครับ ยังไม่หายดีเลย น้ำมูกก็ยังไม่หาย มินิเค้าไม่ยอมกินยาเลยครับ เลยต้องฝากให้หมอพ่นยาฉีดยา จะเอากลับบ้านก็กลัวเด็กๆที่บ้านจะเป็นอีก ก็เลยต้องฝากหมอไว้ก่อน แต่คิดว่าอาการที่บอกมา ถ้าทำวัคซีนครบ น่าจะเป็นหวัดธรรมดาแบบมินิ แต่รักษายากเพราะภูมิคุ้มกันต่ำหลังทำหมันอะครับ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 52 22:40:33 จากคุณ : Machan - [ 25 ก.พ. 52 22:37:49 ]

ความคิดเห็นที่ 3 หมอจะเอาเงินปาวครับ ลองพาไปหาหมอที่ รพส เกษตรดูครับ โรคหัดส่วนใหญ่แมวตาย 90% ครับ โอกาสรอดน้อยครับ ถ้ารักษาไม่ถูกวิธี จากคุณ : giganticdark - [ 25 ก.พ. 52 22:46:18 ]

ความคิดเห็นที่ 4 โรคหวัดแมว (Cat Flu) โรคหวัดแมว มีเชื้อที่ทำให้เกิดโรคหลายชนิด แต่ที่รุนแรงคือเชื้อไวรัส 2 ชนิด ได้แก่ Feline Calicivirus (FCV) และ Feline Herpesvirus (FHV) อาการโดยทั่วไปคล้ายคนที่เป็นหวัด เริ่มแรกเชื้อจะผ่านทางเยื่อเมือกตา แมวจะเริ่มตาเจ็บและมีน้ำตาใสๆ คลออยู่ตลอดเวลา จากนั้นก็จะเริ่มจาม ในช่วงนี้จะเป็นระยะที่เจ้าของสังเกตได้ง่ายที่สุด หลังจากนั้นแมวจะเริ่มอ่อนแอลง น้ำมูกที่เคยใสจะเปลี่ยนเป็นน้ำมูกข้น แล้วเชื้อไวรัสก็จะเดินทางเข้าไปอยู่ในช่องปาก ทำให้ลิ้นอักเสบ เป็นแผล แมวจะกลืนน้ำลายและอาหารไม่ได้ ทำให้พบว่าแมวน้ำลายไหลยืด โรคหวัดจากเชื้อ Herpesvirus นอกจากจะทำให้ตาเจ็บแล้ว ยังทำให้เกิดหลอกลมอักเสบได้อีกด้วย แมวจะเบื่ออาหาร มีไข้ เส้นประสาทบริเวณขากรรไกรอักเสบ แมวไม่อยากอ้าปาก ส่วนเชื้อ Calicivirus ไม่เพียงแต่จะทำให้ตาและช่องปากอักเสบหรือลิ้นเป็นแผล ยังสามารถทำให้ปอดอักเสบได้ด้วย และสายพันธุ์ที่รุนแรงจะทำให้เกิดเม็ดตุ่มใสที่ผิวหนังลามไปถึงเท้าและอุ้งเท้า ผ่านไประยะหนึ่งแผลจะแตกออกกลายเป็นแผลหลุม แมวจะเดินกะเผลกเพราะอุ้งเท้าเป็นแผลหลุมรวม และเยื่อบุข้อต่ออักเสบ การติดต่อจะติดจากแมวตัวหนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่งจากการสัมผัสกันโดยตรง หรือติดไปทางผ้าปูที่นอน อาหาร น้ำ โดยเชื้อจะออกมาทางน้ำลาย น้ำตา น้ำมูก โรคจึงมักจะติดต่อกันง่ายในกลุ่มแมวที่อยู่รวมกันมากๆ ผ่านทางถ้วยอาหาร น้ำ หรือมือคนที่อุ้มแมวตัวหนึ่งแล้วไปจับอีกตัวหนึ่ง เพราะน้ำลาย น้ำตา ติดอยู่ตามขนแมว และแมวก็มักจะเลียขนตัวเองเป็นประจำ โรคหวัดแมว ยังอาจเกิดจากเชื้อแบคทีเรียนอีกชนิดคือ คลามัยเดีย ซึ่งจะทำให้เกิดโรคตาแดง อาจจะเกิดข้างเดียวหรือสองข้างก็ได้ เชื้อคลามัยเดียนี้เป็นเชื้อชนิดเดียวในกลุ่มโรคหวัดแมวที่สามารถติดต่อสู่คนได้ การป่วยเป็นโรคหวัดแมวอาจเกิดจากเชื้อไวรัสทั้งสองชนิดร่วมกับเชื้อแบคทีเรีย หรืออาจเกิดจากเชื้อชนิดใดชนิดหนึ่งเพียงอย่างเดียวก็ได้ จึงเรียกรวมว่า กลุ่มโรคหวัดแมว หากมีเชื้อหลายชนิด อาการป่วยก็จะยิ่งรุนแรงขึ้น ขอบคุณข้อมูลจาก : Cat Magazine Volume 4 Number 22 หน้า 15 ปล. ข้อความนี้พิมพ์อ้างอิงจากในหนังสือ อาจมีคำผิด (เพราะพิมพ์ไม่ได้มองแป้น) ก็ขออภัยค่ะ แมวเราอายุ 10 ปี ก็จากเราไปเพราะโรคนี้ค่ะ.. ไม่ได้ฉีดวัคซีนให้มัน จากคุณ : Milana - [ 25 ก.พ. 52 23:09:27 ]

ความคิดเห็นที่ 5 โรคหัดแมว (Feline Panleukopenia) เรียกอีกอย่างว่า โรคลำไส้อักเสบในแมว เกิดจากเชื้อพาร์โวไวรัส การแสดงอาการของโรค หากเป็นลูกแมวที่เกิดจากแม่ที่ไม่มีภูมิถ่ายทอดที่ดีไปให้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ลูกแมวจะป่วยและแสดงอาการก่อนวัยแปดสัปดาห์ เริ่มจากอาเจียน และท้องเสียอย่างรวดเร็ว ลูกแมวจะนอนหมดแรงจากการอาเจียนและท้องเสียภายใน 1 วัน และตายภายในวันที่ 2 สำหรับแมวโตรวมถึงแมวที่เคยสัมผัสกับโรคแต่ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันไว้ที่ระดับหนึ่ง เมื่อมีโรคระบาดก็มีโอกาสที่จะแสดงอาการของโรคที่ไม่ถึงตาย อาจเริ่มจากการอาเจียน ซึม ร่างกายขาดน้ำ ในแมวโตที่ไม่มีภูมิคุ้ืมกัน ระยะเวลาการป่วยจะนานขึ้นเกิน 1 สัปดาห์ ในวันที่ 1-3 แมวจะมีไข้ อาเจียน หรืออาจกินแต่น้ำ แต่พอกินก็อาเจียน ระยะนี้ถ้าพาไปพบสัตวแพทย์และได้รับการตรวจเลือดจะพบว่าค่าเม็ดเลือดขาวต่ำกว่าปกติมาก ลักษณะนี้เป็นชื่อของโรคอีกชื่อหนึ่งว่า "โรคเม็ดเลือดขาวต่ำ" หลังจากที่แมวได้รับการรักษาประคับประคองด้วยน้ำเกลือ อาการอาจดีขึ้น อาจมีอาการท้องเสียแบบไม่รุนแรงอีก 3-4 วันแล้วก็หาย แต่ถ้าเป็นแมวที่ได้รับเชื้อในปริมาณมาก แมวก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อในกระแสเลือด ทำให้มีไข้ ตัวเหลือง มีการอักเสบลอกหลุดของเนื้อเยื่อในช่องปาก ช่องหูอักเสบติดเชื้อ และตายด้วยอาการขาดน้ำประกอบกับเลือดเป็นพิษ อีกหนึ่งอาการที่มีผลข้างเคียงมาจากเชื้อพาร์โวไวรัส คือ หากแม่แมวติดเชื้อในระหว่างที่ตั้งครรภ์ ลูกแมวที่เกิดมาอาจจะมีปัญหาด้านการทรงตัว เนื่องจากเชื้อไวรัสผ่านจากแม่แมวเข้าสู่เซลล์สมองของลูกแมวตั้งแต่แรกคลอด ลูกแมวที่เกิดมาพอถึงวัยเริ่มหัดเดิน ประมาณหนึ่งเดือนหรือหนึ่งเดือนครึ่ง ก็จะเดินโซเซ ทรงตัวผิดปกติ ซึ่งแม้จะไม่ใช่โรคในระบบทางเดินอาหาร แต่ก็เกิดจากเชื้อไวรัสนี้เช่นกัน ขอบคุณข้อมูลจาก : Cat Magazine Volume 4 Number 22 หน้า 16 ปล. ข้อความนี้พิมพ์อ้างอิงจากในหนังสือ อาจมีคำผิด (เพราะพิมพ์ไม่ได้มองแป้น) ก็ขออภัยค่ จากคุณ : Milana - [ 25 ก.พ. 52 23:17:15 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หวังว่าข้อมูลคงจะพอเป็นประโยชน์บ้างนะคะ สำหรับคำถามที่ว่าโรคหวัดแมวกับโรคหัดแมวต่างกันตรงไหน คุณ *~ผัดกะเพราไข่ดาว~* ได้ทำวัคซีนให้น้องแมวไว้รึเปล่าคะ แมวของเราไม่ได้ทำ เพราะตอนที่เลี้ยงเราอายุ 10 ขวบได้ค่ะ ยังไม่ค่อยรู้เรื่องพวกนี้ กว่าจะรู้ก็สายเกินไปแล้ว ... อาการมันตอนแรกก็มีน้ำมูกใสๆ ไหลตลอดเวลา แล้วก็เริ่มกินน้อยลง เพราะปากเค้าเป็นแผล ไม่ค่อยมีแรง พาไปหาคุณหมอให้น้ำเกลือก็ไม่ดีขึ้น หลังๆ เป็นหนัก น้ำมูกข้นจนแทบจะปิดจมูกเลย แล้วก็ชักค่ะ ชักถี่ขึ้นเรื่อยๆ พาไปหาคุณหมอทุกวัน คุณหมอก็พยายามช่วยเต็มที่ สุดท้ายคุณหมอแนะนำให้ไปที่ ร.พ ใหญ่ เพราะว่าที่นี่เป็นคลีนิกเล็กเครื่องมือไม่พร้อม ฝากไว้ก็ไม่ได้ เพราะปิดคลีนิคไม่มีคนอยู่ตอนกลางคืน พอช่วงเดินทางพาไปที่ ร.พ ใหญ่ คุณหมอกับผู้ช่วยที่นั่นทำหน้าตายๆ ใส่แล้วบอกว่า "มันตายแล้วนี่" หน้าแบบเฉยมาก แล้วบอกว่าไม่รับฝากเพราะอาจจะทำให้เชื้อโรคติดแมวตัวอื่นได้ ตอนนั้นเราก็ยังเห็นมันหายใจแผ่วๆ อยู่นะคะ เลยถามต่อว่าแล้วพอจะทำอะไรได้บ้างมั้ย หมอตอบว่า "ทำใจ" แต่ก็พอจะรู้แล้วว่าคงอีกไม่นาน ระหว่างกลับมาบ้าน ดูมัน มันก็ไปแล้วค่ะ... เราโทษตัวเองมากๆ เลย แต่ก็ยิ่งช้ำกะคำพูด และท่าทางของคุณหมอ ร.พ ใหญ่นั้น พออีกวันพาแมวอีกตัวไปทำวัคซีน คุณหมอที่คลีนิกเก่าเค้าถามถึงแมวเราว่าเป็นไงเมื่อวาน ก็เล่าไป คุณหมอบอกว่า หมอก็พอจะรู้แล้วว่ามันคงไม่รอด แต่หมอไม่กล้าพูด หมอบอกเสียใจว่าพยายามรักษามันแต่ก็ช่วยชีวิตมันไว้ไม่ได้ค่ะ รู้สึกขอบคุณคุณหมอคนนี้ที่พยายามช่วยมากกว่าคุณหมอที่ทำหน้าตาไร้อารมณ์เหมือนเป็นเรื่องปกติมากๆ ถ้าเกิดกับแมวที่ตัวเองเลี้ยงไว้ด้วยความรักไม่รู้จะทำหน้าแบบนี้ได้มั้ย ส่วนใหญ๋ได้ยินมาว่าโรคนี้ต้องป้องกันไว้ด้วยวัคซีนนะคะ ถ้าไม่ได้ทำวัคซีนไว้แล้วเป็นขึ้นมา โอกาสรอดมีน้อยค่ะ... เอาใจช่วยนะคะ แก้ไขเมื่อ 25 ก.พ. 52 23:28:18 จากคุณ : Milana - [ 25 ก.พ. 52 23:26:51 ]

ความคิดเห็นที่ 7 โอ น่ากลัวมากเลยนะเนี่ยะ พอดีที่บ้านฮัดชิ้วๆอยู่สองวันละต้องรีบพาไปหาหมอละวันนี้ เค้าตัวเล็กกว่าเราอะเนอะบอบบางกว่ามากเลยต้องระวังเป็นเท่าตัว จากคุณ : Pinkmarronz - [ 26 ก.พ. 52 09:47:23 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ จะได้ไว้คอยสังเกต พวกไอ้ตัวเล็กที่บ้าน จากคุณ : putta_p - [ 26 ก.พ. 52 13:32:33 ]

ความคิดเห็นที่ 9 โรคหัดแมว อาการต่างจากโรคหวัดแมวชัดเจนครับ ตามที่บทความข้างต้นล่ะครับ โดยทั่วไปมักแสดงอาการทางระบบทางเดินอาหาร ซึ่งอาการอาจจะคล้ายกับไวรัสลำไส้อักเสบในสุนัข เป็นไวรัสตระกูลเดียวกัน ขออนุญาตเสริมว่า หากแมวได้รับเชื้อโรคนี้แม้ว่าจะไม่แสดงอาการ หรือว่าหายป่วยแล้วก็ตาม จะส่งผลทำให้ภูมิคุ้มกันของแมวต่ำลง และมีโอกาสติดเชื้ออื่นๆได้ง่าย เช่นเป็นหวัดเรื้อรัง หรือเป็นบ่อย ดังนั้นถ้าแมวของท่านเป็นหวัด ไม่แน่เสมอไปว่าจะเป็นหวัดธรรมดา อาจจะมีโรคบางอย่างเป็นปัจจัยโน้มนำแฝงเช่นหัดแมว ลิวคีเมีย หรือเอดส์ครับ จากคุณ : กระบี่หัก (charan_ck) - [ 27 ก.พ. 52 08:25:53 ]