ความคิดเห็นที่ 1 น่าเก็บเข้าคลังนะคะ เป็นประโยชน์จริงๆ คะ จากคุณ : ningnoi - [ 6 มี.ค. 52 23:03:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ใช่ค่ะเป็นประโยชน์จริงๆ ด้วย จากคุณ : DOGHALL - [ 6 มี.ค. 52 23:28:45 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ค่ะ มาโหวตให้เก็บเอาไว้เป็นข้อมูลดีๆที่เป็น ปย กับน้องหมาต่อไปนะค่ะ จากคุณ : mu_ka_puk - [ 6 มี.ค. 52 23:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ตามไปอ่าน  มีความรู้ดีมาก คอมเม้นท์ให้กำลังใจ  คุณหมอไปแล้วค่ะ จากคุณ : จริงใจ.......สบายจริง - [ 7 มี.ค. 52 07:35:25 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ขอบคุณนะคะ  ตามเข้าไปอ่านและคอมเมนท์ให้กำลังใจคุณหมอแล้วค่ะ จากคุณ : น้องเป็ดสัญจร - [ 7 มี.ค. 52 08:32:06 ]

ความคิดเห็นที่ 6 อย่าท้อนะคะ หมาแมวที่หมดหวังยังต้องการความช่วยเหลืออีกเยอะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : iluvtravel - [ 7 มี.ค. 52 09:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : สิบล้อมอร์ไซค์ - [ 7 มี.ค. 52 10:48:05 ]

ความคิดเห็นที่ 8 กลัวว่าในลิงค์เก่าคุณจะไม่เห็น เลยเอามาแปะไว้ที่นี่ด้วยน่ะครับ เพราะสิ่งที่ทำ ที่คุณเรียกว่า support treatment  ในโรคลำไส้อักเสบติดต่อที่เกิดจากเชื้อไวรัส เป็นสิ่งที่มีการอ้างอิงจากตำรา และมีการใช้วิธีนี้รักษาแล้วมีเปอร์เซนต์รอดสูงสุด จากการทดลอง และประสบการณ์ จนสามารถมาเขียนเป็นตำราได้ ทำให้สัตวแพทย์ส่วนใหญ่ได้ทำต่อเนื่องกันมา เหมือนกับคุณเป็นวิศวะ เรียนมา มีการใช้ตำราอ้างอิง สูตรคำนวนในการก่อสร้าง เป็นเฉกเช่นเดียวกัน การนำวัสดุตัวใหม่มาใช้ในการก่อสร้าง ต้องผ่านการทดลองและวิจัย ในห้องแลป ไม่ใช่นำไปสร้างบ้านลูกค้าก่อนค่อยประเมินผล ฉันท์ใดฉันท์นั้น ของคุณเป็นการทดสอบที่ไม่ได้ใช้ชีวิตเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ในวิชาชีพสัตวแพทย์ การที่จะนำวิธีใหม่มารักษา ใช่ว่าอยู่ดีๆจะนำสัตว์เลี้ยงมีเจ้าของมาทดลองโดยปราศจากหลักมนุษย์ธรรม มาให้การรักษาโดยใช้วิธีใหม่โดยเป็นการเสี่ยงเพื่อดูผลตอบสนอง ถ้าหายเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าเสียชีวิตขึ้นมา ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบครับ ในกรณีคุณ อาจจะโอเค ที่ว่าคุณยินยอมให้หมอใช้วิธีนี้ด้วยความสมัครใจของคุณเอง แต่ในเคสอื่น ถ้าคุณหมอด่วนไปใช้วิธีนี้ ผิดแน่นอนครับ มันเหมือนแทงหวย ตาดีได้ตาร้ายเสียมากเกินไป ถ้าโชคดีหายก็โอเค ถ้าโชคร้ายตาย ก็กลายเป็นแค่สถิติข้อมูลเท่านั้นเหรอครับ มันไม่ใช่ ก่อนทำควรต้องมีการศึกษาให้ถ่องแท้ น่าจะมีที่ปรึกษาให้ข้อมูลด้าน immunology การให้แลปสกัดสารจาก serum ที่ได้มา แบบที่ได้เป็น hyper immune serum นั่นก่อน ไม่ใช่เอามาฉีดเพียวๆแบบนี้ อันตรายมากครับ การจะนำวิธีใหม่แบบนี้มารักษา อย่างน้อยต้องมีการอ้างอิงพื้นฐานวิชาการด้านภูมิคุ้มกัน การทดลองที่ต้องมีการควบคุมตัวอย่างที่ชัดเจน และต้องมีกลุ่มทดลองที่ใหญ่มากพอ และต้องใช้เวลา เพื่อให้ความผิดพลาดน้อยที่สุด อาจจะดูเหมือนใจแคบ แต่เพื่อให้ผลที่ออกมาเกิดผลเสียหายน้อยที่สุด ถึงจะใจแคบก็ต้องยอม เพราะมันเป็นเรื่องของชีวิตครับ การทดลองต่างๆ แน่นอนต้องมีตัวอย่างทดลอง และสัตว์ที่นำมาทดลองเพื่อให้ได้ผลตอบสนองที่ดี ต้องมีการควบคุมสภาพแวดล้อม ตลอดจนวิธีการอย่างดี เพื่อให้ผลที่ออกมาใช้ยืนยันได้ และสุดท้าย นั้นคือการใช้ชีวิตเข้ามาทดลองเพื่อให้ได้สิ่งที่เรียกว่าความก้าวหน้า เพื่อเปิดวิธีการรักษาแนวใหม่ เพิ่มโอกาสรอดชีวิตในสัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น ดังนั้นสิ่งที่คุณหมอชูศักดิ์กำลังทำอยู่ คือการทดลองกับเคส ไม่ใช่การรักษา มันเป็นสิ่งที่อันตรายกับความเป็นสัตวแพทย์และในเรื่องของจรรยาบรรณเป็นอย่างยิ่ง อยากให้มีการทบทวนดูใหม่ด้วยนะครับ เพิ่มเติมอีกหน่อย การแพ้ไม่ได้แค่มีเฉพาะผื่นคันนะครับ การแพ้ที่รุนแรงสามารถทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ บางครั้งการทดลอง อาจต้องอิงวิชาการ และมีการควบคุมในเรื่องต่างๆมากกว่านี้   ด้วยความนับถือครับ จากคุณ : เจ้ากี้ เจ้าการ ? - [ 7 มี.ค. 52 15:04:32 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ตอบ คุณเจ้ากี้ เจ้าการ? -สิ่งที่ทดลองทำในเคสจริงๆ อาจจะไม่ถูกต้องตามที่คุณพูดมาจริงๆครับ เพราะขาดหลักฐานการวิจัยในปัจจุบันที่เราๆคิดว่าไม่มี เพราะผม search คำนี้ในภาษาไทยในกูเกิ้ลไม่มี แต่ ถ้า search ในภาษาอังกฤษจะมี มีเปเปอร์ที่ต้องซื้อเท่านั้น(เพราะเค้าขาย) ในจุดประสงค์ที่แท้จริงของผมคือ ต้องการให้มีการนำไปศึกษาต่อยอดกันในวงกว้าง ในสถาบันการศึกษาที่มีทั้งบุคคลากรและเครื่องมือ ในการทดลองของผม มิได้เป็นการทดลองเพื่อเก็บผล เพื่อประโยชน์ทางด้านการค้าในอนาคต แต่ ผมคิดว่าการยืนมองดู สุนัขที่ไม่มีโอกาสรอดจากพาโวไวรัสนั้น ก็คือการไร้มนุษยธรรมอย่างหนึ่งนั่นเอง ในเมื่อถ้าเรารู้ว่าหมาเหล่านั้น อาจจะไม่รอดแล้ว เราสมควรจะฉีดหรือไม่?ถ้าเจ้าของยินยอม เช่น หมาพันธ์แท้หลายๆ พันธ์ที่ไวต่อ พาโวไวรัส ที่มีกล่าวในตำราต่างๆ ถ้าสุนัขพันธ์เหล่านี้เป็น พาโวไวรัส เราควรจะรักษาด้วยวิธีแบบ supportive treatment เหมือนเดิม?? หรือ รู้ว่ามีวิธีนี้ แต่ก็ต้องทนฝืนดูมันตายไปต่อหน้าต่อตา วิธีนี้เป็นวิธีทางเลือก ที่ใครคิดว่า เป็นทางเลือกในการรักษาก็สมควรจะนำไปใช้ เป็นสิ่งที่ผิดหรือถูก?? แต่ก็ควรขึ้นกับดุลยพินิจของแพทย์ผู้รักษาด้วย ทำไม โรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ บอกว่ามี HIS ที่พร้อมฉีดได้เลย??? ในเมื่อไม่มีเปเปอร์รับรอง(ผมโทรถามก่อนที่จะตัดสินใจ ทำเซรั่ม) ทำไมถึงมี HIS จากต่างประเทศนำเข้ามาขายในประเทศไทย (ไม่มีการวิจัยในต่างประเทศงั้นหรือ แล้วนำเข้ามาขายได้อย่างไร ใครอนุญาต) ทฤษฎีทุกอย่างไม่ว่า วิชาการแขนงใดๆก็ตาม ย่อมถูกในยุคสมัยหนึ่งๆเท่านั้น แต่จะไม่ถูกที่สุดในอีกยุคสมัยหนึ่งๆ ถ้ามีทฤษฎีใหม่ๆมาหักล้างออกไป ในการออกแบบอาคารก็เช่นเดียวกัน เมื่อสมัยก่อนเราใช้วิธีหนึ่งในการคำนวน แต่ในปัจจุบันเราก็ใช้อีกวิธีในการคำนวน ซึ่งแม่นยำกว่า ต้องขอบคุณในความคิดเห็นที่เป็นการแสดงออกถึงการไม่มีอคติ เพราะต้องการเห็นถึง ผลที่ดีที่สุดเหมือนกัน ผมเพียงแต่เป็นคนที่ประสบมา และนำมาบอกเล่าต่อเนื่องกันไป ซึ่งไม่มีทางที่ผมจะศึกษาได้ลึกลงไปกว่านี้ จริงๆ หมอชูศักดิ์ โทรหาอาจารย์จุ๋ม(เฉลิมพล เล็กเจริญสุข) ถ้าไม่ผิดคนก็ตามลิงค์นะครับ http://www.vet.ku.ac.th/facmem/admindex_2.htm หมอชูศักดิ์โทรหาและบอกให้ท่านศึกษาต่อและเขียนเปเปอร์ออกมาแล้ว แต่เมื่อไหร่ เปเปอร์ถึงจะออกมา?? ต้องมีเปเปอร์ก่อน ถึงรักษาได้ เช่นนั้นหรือ?? หากผมยืนดูเฉยๆ ผมคงรู้สึกไร้มนุษยธรรมต่อสัตว์โลก มากกว่าการหยิบยื่นวิธีการรักษาที่ยังไม่มีผลรับรอง อย่างเป็นทางการ ตอนที่หมาผมตายไปวันละตัว ผมถามหมอว่า เป็นแล้วตายงั้นเหรอ....แต่หมอบอกว่า 50/50 แสดงว่า ตาย50รอด50?? ก่อนฉีดเซรั่ม ผมบอกลูกหมาของผมทุกๆตัวว่า "ถ้าไม่ฉีดชาตินี้เดี๊ยวนี้ ชาติหน้าก็ไม่ต้องฉีดแล้ว ต่อให้มียาวิเศษก็ไม่ทันการ" ก่อนการฉีด เมื่ผมได้ยินคำนี้ "HIS" ผมหาข้อมูลจากกูเกิ้ลทั้งคืนจนถึงเช้า แต่มีเปเปอร์สำหรับขายอย่างเดียวในต่างประเทศ ผมตัดสินใจโทรไปถามที่ทองหล่อ "หมอบอกว่าฉีดได้ ไม่มีอันตราย และเป็นการรักษาที่ดีด้วย แต่ ซีซีละ 3500 " ก่อนการเก็บเลือด หมอ(หมอเตี่ยง จาก มข.)ก็ได้โทรไปถาม เพื่อนหมอ ทุกๆคนที่หมอรู้จัก แต่ไม่มีใครรู้วิธีนี้เลย ก่อนเก็บเลือดไปปั่นก็ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ห้องแล็ป แล้วเค้าก็แนะนำมา ทำไม หมอเตี่ยง จึงยอมที่จะใช้วิธีนี้ทั้งๆที่ไม่มีเปเปอร์รับรอง???? ในความคิดของผม คือ หมอทนดูลูกหมา 7 ตัวตายทั้งครอกโดยรักษาแบบ supportive treatment (แล้ว "อากิตะ" ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้เลย)ไม่ได้ บางทีหมออาจจะหลับตาข้างที่เป็นสัตวแพทย์ลง และลืมตามองในแง่มนุษยธรรม มากกว่าเปเปอร์ที่จะรองรับผลการทดลอง หากคำว่า "จรรยาบรรณ" ต้องมองข้าม คำว่า "มุษยธรรม" ผมคิดว่าหมอชูศักดิ์คงไม่ทำแบบนั้นแน่นอน แต่ ถ้า "จรรยาบรรณ" ขัดกับ "ปฏิญญาสัตวแพทย์" แล้ว ผมว่าหมอคงยอมที่จะผิดจรรยาบรรณเล็กๆน้อยแบบนี้แน่ครับ เหมือนดั่งชื่อคลินิคของคุณหมอคือ "ปฏิญญาสัตวแพทย์" ด้วยความนับถือเช่นกันครับ จากคุณ : พ่อสามถุงกับหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 7 มี.ค. 52 16:48:01 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เพิ่มเติม การทดสอบบางอย่างในห้องแล็ป เรารอได้ อีก 100 ปี เราก็รอได้ เพราะไม่ต้องรีบเร่งต่อชีวิตที่กำลังจะตาย วิศวกร ทุกๆคน ต้องมี ใบกว. รองรับในการออกแบบ เพราะ การออกแบบทุกอย่าง มีผลต่อหลายๆชีวิตที่ใช้ประโยชน์จากการออกแบบเหล่านั้น ในฐานะวิศวกร คนหนึ่ง การออกแบบทุกๆครั้งจะคำนึงถึงชีวิตความปลอดภัยของสิ่งมีชีวิตทุกๆชีวิต ไม่ว่าจะเป็นคน-สัตว์ (โรงพยาบาลคน/โรงพยาบาลสัตว์) ที่ใช้ประโยชน์จากอาคารเหล่านี้ แม้แต่ชีวิตคนงานก่อสร้าง เราก็คำนึงถึงทุกชีวิตครับ...... แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 16:59:11 จากคุณ : พ่อสามถุงกับหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 7 มี.ค. 52 16:58:48 ]

ความคิดเห็นที่ 11 วิธีที่คุณหมอชูศักดิ์เลือกใช้ เป็นทางเลือกครับ และคุณก็เลือกที่จะใช้ โดยใช้วิธีที่ถ้าผมจะพูด ก็คือเป็นวิธีการที่"ดิบ"เกินไป มีความเสี่ยงสูงที่จะทำให้สุนัขเสียชีวิตได้ อาจจะปัจจัยอื่นที่ไม่ใช่ไวรัส แต่อาจเนื่องจากการตัวของสิ่งที่ให้ก็ได้ มันไม่ใช่วิธีแพทย์ทางเลือก สิ่งที่คุณหมอชูศักดิ์ได้มา มันเป็น HIS ที่ไม่ได้ผ่านการทดสอบ หรือผ่านการสกัด  วิธีคิดดี แต่วิธีการที่จะใช้ ถือว่ายังมีข้อบกพร่อง สุนัขคุณแน่ใจได้อย่างไรว่าหายได้จาก สิ่งที่คุณเรียกว่า HIS เพราะมันไม่มีการควบคุมการทดลองอย่างแน่ชัด จริงๆสุนัขอาจจะหายเนื่องจาก support treatment  ที่ได้ให้ไปก็ได้(ผมไม่เชื่อว่าหลังจากให้ยาที่คุณหมอชูศักดิ์ฉีดให้แล้วสัตว์ไม่ต้องรับน้ำเกลือต่อ) นี่คือสิ่งที่เรียกว่าการขาดการควบคุม ที่ผมบอกกล่าวไป การใช้ HIS ฉีดในสุนัข(หรือแมว) มีมาระยะนึงแล้ว สิ่งที่ รพส ทองหล่อ หรือสถานพยาบาลอื่นๆ นำมาให้ เป็นแพทย์ทางเลือก แต่ผมเชื่อว่าทองหล่อ คงไม่เอา เลือดมาปั่นให้ได้ serum มาฉีดในสัตว์แน่ๆครับ วิธีที่ได้มาของ HIS ของหมอชูศักดิ์ เป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้ครับ วิธีใช้ก็ขาดการควบคุม ถ้าจะบอกว่าเพื่อสุนัข ส่วนนึงเป็นเหมือนการลองผิดลองถูกมากกว่า ถ้าคุณหมอชูศักดิ์สั่ง HIS มาใช้ ผมคงไม่พูดอะไรซักคำ แต่แบบนี้มันไม่ใช่ เพราะอะไรก็เหมือนที่พูดข้างต้น ผลคือโชคดีที่สุนัขคุณหาย ผมก็ดีใจด้วยจากใจจริงครับ แต่สมมติสุนัขคุณเสียชีวิตจากยาที่หมอฉีด คุณจะพูดได้เหรอครับ นั่นคือมนุษยธรรมที่คุณให้เค๊าแล้ว และนั่นคือจรรยาบรรณที่ถูกต้องของหมอ ถ้าคุณหมอจะต่อยอดการทดลอง ผมก็อยากให้คุณหมอต่อยอดโดยการนำ HIS ที่มาจากแหล่งที่ปลอดภัยดูดีกว่า และมีการควบคุมการทดลองใช้ เพื่อประโยชน์แก่เพื่อนสัตวแพทย์ และนำมาพัฒนาวงการสัตวแพทย์ครับ ด้วยความนับถือ จากคุณ : เจ้ากี้ เจ้าการ ? - [ 7 มี.ค. 52 18:46:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ตอบคุณ เจ้ากี้ เจ้าการ? 555.....ผมว่าคุณเป็น สัตวแพทย์สักคน หรือ เป็น นักศึกษาสัตวแพทย์สักคน ที่มองเห็นข้ออ่อนด้อยทั้งหมดที่ผมกับหมอได้ทำ คุณไม่สานต่อล่ะครับ เอาข้อด้อยที่คุณมองเห็นไปทำการทดลองสิครับ HIS ของจริงจากต่างประเทศ โรงพยาบาลสัตว์ใหญ่ๆ ยังไม่มีเก็บเลย ผมกับหมอจะเอาเงินที่ไหนมาซื้อเก็บครับ เท่าที่เคสที่ทดลองมาหลังจากฉีด HIS ที่ปั่นเองแล้วนะครับ หมาทุกๆตัวฟื้นตัวเร็วเลยนะครับ ไม่เกิน 2 ชั่วโมง จริงๆนะครับ(คุณก็ไม่เคยเห็นของจริงอีกนั่นแหละ ผมเห็นหมาที่ฉีด HIS แล้วฟื้นมา 7 ตัวแล้ว) มีเพื่อนๆในพันทิปเคยบอกว่า อาจารย์หมออยู่จุฬา(ผมจำชื่อไม่ได้ รู้แต่ว่าดังๆแล้วมีคลินิคเองด้วยเป็นผู้หญิง)ที่รักษาโรคเกี่ยวกับตา เคยนำเลือดของสุนัขของเค้าเองไปปั่นแล้วมาทำยาหยดตาให้กับหมาของเค้าเอง ถูกหรือผิด ยาหยอดตาปั่นเอง??? หมอเตี่ยงจาก มข. ก็เอาเซรั่มที่เก็บไว้ที่เหลือจากการทำครั้งแรก ไปฉีดให้โกลเด้นตัวนึง ก็หายและฟื้นตัวเร็วนะครับ (เพราะผมอนุญาตให้หมอเก็บไว้และใช้ได้ตามความต้องการ) คุณไม่ควรมาบอกให้ผม กับ หมอ มาต่อยอดการทดลอง!!! คุณไม่ควรมาสั่งให้ผมทำอะไร หรือ ไม่ให้ทำอะไร!!?? คุณไม่จำเป็นต้องมาเล่นพลิกแพลงคำศัพท์กับผม ว่าใช่ หรือ ไม่ใช่?? แต่ คุณควรจะบอกตัวคุณเองว่า ในเมื่อคุณติดตามเรื่องราวของผมมาทุกอย่างแล้วจับผิดทุกๆอย่าง โดยที่คุณมีความรู้ มีมนุษยธรรม มีจรรยาบรรณ ตามที่คุณพูดมาทั้งหมด คุณจะมองข้าม และบอกให้ผมหยุดพูดเหรอครับ??? แล้วคุณทำอะไรบ้างครับกับกรณีนี้?? นั่งตามกระทู้ผมทุกวันเหรอครับ คุณต้องการให้ผมหยุดพูดเรื่องนี้และทำเป็นลืมๆ งั้นเหรอ และคุณในฐานะ...??? อะไรก็ตาม ก็จะได้ไม่ต้องมาตามกระทู้ผมใช่มั้ยครับ เพื่ออะไร??? ถ้าการที่หมอรักษาหมาผมแล้วตายด้วยวิธี supportive treatment ผมจะเอาผิดกับใครได้บ้าง ผมร้องเรียนกับใครได้บ้างล่ะครับ คุณรักษาด้วยวิธี supportive treatment แล้วหมารอดทุกตัว หรือ รอดมากกว่าตายงั้นเหรอครับ คุณพอใจด้วยวิธีนี้แล้วเท่านั้น??? จนกว่าจะมีเปเปอร์ คุณถึงกล้า??? แล้วคุณเป็นอะไร ผู้เสพเปเปอร์งั้นเหรอครับ หรือ ผู้ประกอบวิชาชีพสัตวแพทย์ ที่รักษาตามที่เรียนมาเท่านั้น ไม่ทำนอกกรอบ??? สิ่งที่ผมพูดเป็นการบอกให้ทุกคนที่เข้ามาอ่านรับไปพิจารณา สักวันหนึ่งเมื่อมีคนที่รักษาด้วยวิธีนี้หาย คนที่2 คนที่3 คุณจะทำอย่างไร คุณไม่มีสิทธิมาตัดสินชีวิตหมาคนอื่น ถ้าเจ้าของเค้าอนุญาต ในห้องนี้ทุกคนรักหมาทั้งนั้น ทุกคนมีวิจารณญาณทั้งนั้น ปล่อยให้เค้าตัดสินเถอะ คุณนั่นแหละควรจะนำความรู้ที่คุณมีไปทำอะไรก็ได้สักอย่างเถอะ ด้วยความนับถือ จากคุณ : พ่อสามถุงกับหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 7 มี.ค. 52 19:31:18 ]

ความคิดเห็นที่ 13 คุณไม่มีสิทธิมาตัดสินชีวิตหมาคนอื่น ถ้าเจ้าของเค้าอนุญาต เราว่า คำนี้ชัดเจนค่ะ ไม่เมื่อวิธีรักษาในเปเปอร์  ไม่สามารถจะช่วยให้รอดชีวิตได้ แล้วเจ้าของก็ไม่อยากให้หมาตัวเองตายไปด้วย ไม่ทำอะไรเลย แล้วเขาก็ยินยอมให้ทำวิธีนี้ ไม่มีอะไรผิดหรอกค่ะ " ดังนั้นสิ่งที่คุณหมอชูศักดิ์กำลังทำอยู่ คือการทดลองกับเคส ไม่ใช่การรักษา มันเป็นสิ่งที่อันตรายกับความเป็นสัตวแพทย์และในเรื่องของจรรยาบรรณเป็น อย่างยิ่ง อยากให้มีการทบทวนดูใหม่ด้วยนะครับ" รู้มั้ยค่ะ ว่าปัจจุบัน แม้แต่ในมนุษย์การทดลองการรักษาใหม่ๆ ยังทำกับมนุษย์โดยการเก็บเป็นเคสเลยค่ะ อย่างยาเคมีบำบัดในคนไข้ มะเร็ง   ซึ่งทางครอบครัวเขายินยอม เพราะไม่มีวิธีไหนรักษาแล้ว ทางเปิดตา เปิดใจดูค่ะ ถ้าหมอชูศักดิ์บังคับให้ทำค่อยว่าไปอย่าง ................... แก้คำผิด แก้ไขเมื่อ 07 มี.ค. 52 20:23:27 จากคุณ : moslop - [ 7 มี.ค. 52 20:22:41 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ถึงคุณ เจ้ากี้เจ้าการ?------ท่านทำอย่างอื่นได้อีกหรือป่าวนอกจากมาบอกว่าท่านรับวิธีการที่ผมกับหมอชูศักดิ์ทำการรักษาแบบ HyperImmune serum ไม่ได้ ท่านบอกว่า "ดิบ" ท่านรับไม่ได้ แล้วท่านจะแนะนำเจ้าของหมา 2 คนนี้ได้อย่างไรดวยวิธีอะไร ท่านใช้ความรู้ ความสามารถของท่านเถิด ท่านอย่าลืมนะ ในความเป็นจริง "คนไข้" เลือก "หมอ" มิใช่ "หมอ" เลือก "คนไข้" หากท่านยังปิดหูปิดตากับ อีโก้และความรู้ที่ท่านมี ท่านจะเป็นคนแรกๆที่ "คนไข้" มิได้เลือกท่าน ตามลิงค์นี้นะครับ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7605534/J7605534.html#3 http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7604312/J7604312.html#11 นี่เป็นคำตอบที่ผมไปโพสลงกระทู้ 2 กระทู้นี้ ถ้าหากยังมีเวลาทัน กรุณาลองอ่านเนื้อหาตามลิงค์ที่ให้ไปทุกลิงค์ ตั้งแต่ต้นจนจบ เพราะเกิดขึ้นจากประสบการณ์ตรงของผม หมาลำไส้เป็นพร้อมกัน 7 ตัว รอดมา 3 ตัว http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7497580/J7497580.html#6 การรักษาลำไส้อักเสบ ด้วยวิธี HyperImmune serum หากสัตวแพทย์ท่านใดเข้ามาอ่านในกระทู้นี้ แล้วคิดว่าการรักษาอื่นใดเป็นทางเลือกที่ดีกว่านี้ก็นำเสนอมานะครับ ท่านจะได้เข้าใจว่า ชีวิตน้องหมาในขณะนี้ เจ้าของเค้าเสียใจ และเศร้าใจขนาดไหน เสียใจเกินกว่าที่คุณๆทั้งหลายที่มีความรู้จะมานำเสนอว่า วิธีนี้ ยังไม่มีเปเปอร์ใดๆรองรับทั้งนั้น ทั้งๆที่ สัตวแพทย์ทั่วประเทศ ณ วันนี้ก็รักษาด้วยวิธี supportive treatment แบบเดิมๆ ในลิงค์ข้างล่างนี้จะเป็นวิธีการทำ HyperImmune serum แบบคร่าวๆ http://www.udclick.com/home1/index.php?option=com_content&task=view&id=53185&Itemid=134021 กระทู้ในลิงค์ด้านล่างนี้ในความคิดเห็นที่ 8 ลงไป เป็นการโต้แย้งกันในการรักษาลำไส้อักเสบด้วยวิธีนี้ http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7599531/J7599531.html หากท่านเจ้าของกระทู้อ่านแล้ว ก็โปรดใช้วิจารณญาณของท่านในการดำเนินการใดๆต่อไปนะครับ และควรปรึกษาหมอของท่านด้วย การให้ความรู้เรื่องนี้ หากจบลงด้วยความคิดเห็นของผู้มีความรู้ทั้งหลายว่าเป็นการทำที่เป็นไปไม่ได้ มีอันตรายสูง และยังไม่มีเปเปอร์รองรับ ท่านๆทั้งหลาย ก็ควรจะแนะนำเจ้าของกระทู้ว่าควรทำอย่างไรต่อไป แต่ถ้าหากท่านๆทั้งหลายเห็นว่าวิธีนี้ไม่ถูกต้องและท่านๆ ก็ไม่สามารถแนะนำวิธีอื่นใดนอกจากนี้ ท่านก็ไม่ควรจะมาบอกว่าวิธีนี้ ผิด!!! จากสถิติในการรักษาด้วยวิธีฉีดเซรั่มตั้งแต่ครั้งแรกในลูกหมาของผม จนถึง ณ วันนี้ ฉีดไปทั้งหมด 9 ตัว รอดมา 7ตัว ในเคสของเจ้าของกระทู้ หากเป็นมาหลายวันแล้ว ต้องรอลุ้นดูนะครับว่าน้องหมาจะทนพิษบาดแผลในลำไส้ได้ทันหรือป่าว ขอให้ท่านโชคดี ถ้ารักษาด้วยวิธีนี้แล้วได้ผลอย่างไร กรุณาแจ้งข่าวสารที่หลังไมค์ให้ด้วยนะครับ เอาใจช่วยนะครับ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 23:45:42 จากคุณ : I am soda - [ 8 มี.ค. 52 23:44:50 ]

ความคิดเห็นที่ 15 กลายเป็นเรื่องใหญ่เลยนะเนี่ย เอาว่าผมขอเชิญสัตวแพทย์เชิญเสวนาในหัวข้อนี้ดีกว่า โดยตัวเองผมอาจจะมีใจคับแคบ ในวิธีการรูปแบบนี้สักหน่อย ขอให้เพื่อน พี่น้องสัตวแพทย์ท่านอื่นมาคอมเมนต์ดีกว่าครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : เจ้ากี้ เจ้าการ ? - [ 9 มี.ค. 52 11:33:48 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ดีครับ เราจะได้เห็นมุมมองของ สัตแพทย์ด้วยว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ แล้วเขาคิดว่าว่าเขาควรจะทำอย่างไร หรือ เจ้าของหมาเขาคิดกันอย่างไรบ้าง เพราะดูแล้วคุณ เจ้ากี้เจ้าการ น่าจะเป็นผู้มีความรู้เกี่ยวกับสัตว์ หรือ อาจจะเป็นสัตวแพทย์ก็ได้ ดังนั้น อยากให้บอกสัตวแพทย์ท่านอื่นๆ ที่คุณ เจ้ากี้เจ้าการ พอจะรู้จักมาช่วยกันแสดงความคิดเห็นก็ดีครับ และจะได้รับรู้ความรู้สึกของเจ้าของหมาที่กำลังจะตายว่าเป็นอย่างไรบ้างครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ จากคุณ : Circularman - [ 9 มี.ค. 52 11:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 17 ใจเย็นครับ...ผมคิดว่าผมเข้าใจทั้ง 2 ฝ่ายดีในระดับนึงนะครับ 1 ผมเข้าใจหมอเจ้ากี้ เจ้าการ ถึงแม้ผมจะไม่ได้รู้จักพี่หมอเค้าโดยตรง แต่ความลับไม่มีในโลก ผมกล้ารับรองว่าหมอเจ้าก้ เจ้าการ เป้นหมอที่ดีมากท่านนึงครับ อยากให้ดูเจตนาของหมอด้วย 2 ผมก็เชื่อว่าที่หมอชูศักดิ์ทำนั้น ทำด้วยเจตนาที่เป็นกุศล หมอทำไม่ต่างจากผมเลย มันเป็น gray zone หรือ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์สีเทา ที่เหล่านักวิจัยหัวก้าวหน้าไม่มีใครไม่เคยเจอมัน มันมีทั้งด้านบวกที่เราทำด้วยจิตกุศลที่ต้องการพัฒนา และก็มีด้านลบมากมาย ไม่ว่า จะโดนด่า โดนต่อต้าน หรือคนที่ไม่เข้าใจเราอีกเยอะ... ดังนั้นเริ่มต้นผมขอเอาของเก่าที่ผมเคยเขียนแนะนำมาให้อ่านอีกรอบก่อน ดังนี้ครีบ ยินดีกับสิ่งที่หมอชูศักดิ์คิดที่จะสร้างสรรค์ครับ แต่อยากเสริมอย่างนี้ครับ 1 Serum กับ Plasma มันแตกต่างกันนะครับ ผิวเผินดูเหมือนกัน แต่ต่างกันที่องค์ประกอบโปรตีนภายใน นั่นคือ หากเป็น serum จะไม่มีสารกันเลือดแข็งตัวปน ก็จะได้น้ำเลือดที่มีสารโปรตีนที่เป็นภูมิต้านทานพวก Ig ทั้งหลายแหล่ ในขณะที่ Plasma จะมีส่วนของการใส่สารกันเลือดแข็วตัวลงไปตอนปั่นแยก ทำให้มีพวก Fibrin ปนมาเพิ่มขึ้น 2 ในคนมีการทำ Therapeutic Plasma Exchange (TPE) มานานแล้วครับ แต่การก็ต้องระวังการปนเปื้อนจาก ตัวผู้ให้ (Donor ไม่ใช่ Host) ไม่ว่าจะปนเปื้อนเชื้อโรค ปนเม็ดเลือดชนิดต่างๆ หรืออาจเหนี่ยวนำให้เกิดโรคแทรกซ้อนบางชนิดได้ครับ ลองอ่านเรื่องการแยกเซลล์ที่ผมเขียนได้ที่ http://www.cce-vet.org/download/18510079.doc 3 การแยก serum และ plasma ดูเหมือนง่ายครับ แต่เครื่อง Centrifuge ที่ใช้จะต้องเป็นแบบ Blood bank centrifuge ดังนั้นคลินิก หรือ lab ทั่วไปไม่มีนะครับ เครื่องนึงหากเอาแบบตั้งอุณหภูมิได้นี่ก็เฉียดล้าน ถึงสองล้าน รวมถึงภายในที่ต้องออกแบบรองรับการปั่นเหวี่ยงถุงเลือด....หากเก็บใส่หลอดก็คงไม่เพียงพอ นอกจากใช้เฉพาะในลูกสุนัข... ตามที่ผมเข้าใจ หมอคงใช้ Centrifuge ที่ใช้ปั่นหลอดเก็บเลือด ดังนั้นหลอดเก็บต้องมั่นใจว่าเป็นระบบปิด เพื่อป้องการการปนเปื้อนเชื้อ หรืออาจเลือกแบบที่มีเจลเพื่อให้เกิดการแยกชั้นที่สมบูรณ์ 4 การจะแยกชั้นของพลาสม่า หรือ ซีรั่มให้ดี จำเป็นต้องทำให้เม็ดเลือดแดงตกตะกอน หรือใช้สารพวก HES เข้าช่วย....การมีเม็ดเลือดแดง หรือเม็ดเลือดขาวปนเปื้อนเกินมาตรฐานการทำ TPE จะส่งผลให้เกิดการ reject หรือการไม่ยอมรับ และเกิดการแพ้ตามมาได้ครับ 5 ปัจจุบันอย่าง กาชาด จะมีการทำที่ว่า แต่เค้าจะมีเครื่องที่จะช่วยหยุดการทำงานของ แบคทีเรีย ไวรัส ปรสิต และก็เม็ดเลือดขาวที่อาจปนเปื้อนลงไม่ให้ทำงานครับ เครื่องที่ว่า แพงมากครับ แต่ทำไมต้องใช้ ก็เพราะยิ่งรู้เยอะก็ยิ่งกลัว ก็ยิ่งต้องใช้ครับ 6 การตั้งค่าเครื่องไม่ว่าจะเป็น รอบการปั่น อุณหภูมิในการปั่น เวลาการปั่น การบีบเอาส่วนของพลาสม่า/ซีรั่มของมา หรือใช้หลอดดูดออกมา ควรทำในห้อง Clean room หรือ Larminar Flow ครับ ไม่งั้นหากปล่อยเป็นระบบเปิด แบคทีเรีย ราถามหาแล้วก็ลาก่อนเช่นกัน ทั้งหมดนี้ที่เขียนยังมีรายละเอียกปลีกย่อยอีกมากนะครับ ไม่ใช่ไม่สนับสนุน ผมสนับสนุนการพัฒนาสิ่งเหล่านี้อย่างเต็มที่ แต่การทำจะต้องมีการวางมาตรฐาน ต้องมีองค์ความรู้หลายๆอย่างประกอบกันเพื่อสร้างมาตรฐานของการใช้งาน การรักษา ให้ปลอดภัยครับ จากคุณ : Dr. Doggy    - [ 24 ม.ค. 52 12:51:53 ]   .........จากข้อ 1 และ 2 ที่ผมได้เขียนนั้นจึงต้องมีข้อสรุปใช่ไหมครับว่า..."มันต้องมีตรงกลาง" "เค้าถึงต้องมีกฎระเบียบ เพราะเราอยู่ในสังคม" กฏ บางครั้งมันก็ครุมเครือ บางครั้งก็งี่เง่า บางครั้งก็กีดกัน จนให้นักวิจัย (จนๆ) อย่างเราก็ท้อ หมดทั้งเงิน หมดทั้งกำลังใจครับ...แต่ในเมื่อรู้อยู่ในสังคมที่มีคนหมู่มาก และอยู่ในสังคมที่มีเทคโนโลยีสูง เราเรียนมาแล้วว่าอะไรที่ควรทำ อะไรทีไม่ควรทำ เรารู้ เราสำนึกได้ด้วยใจเราอยู่แล้ว ผมจึงอยากเสนออย่างนี้ครับว่า 1 เราต้องสร้างมาตรฐานก่อนดีไหม เพราะตอนนี้เรามีสมมติฐานแล้ว 2 เราต้องทำใน In vitro (หลอดทดลอง) ก่อนนำไปรักษาจริง (In vivo) ดีไหม 3 ถึงแม้ อย. (อ้ายยืดยาด ในที่นี้ไม่ใช่อาหารและยานะ อิอิ) จะกำหนดว่ามีบทที่เกี่ยวกับว่า "เป็นการรักษาตามแพทย์สั่ง และแพทย์เป็นผู้ผลิตยาเองได้" แต่มันก็ต้องมี Consent form ให้คนไข้กรอก เพื่อกันการฟ้องร้องในศาล 4 ถึงแม้ว่าจะเซ็นต์ คนไข้ หมาไข้ก็ฟ้องได้ครับ เพราะศาลมักชี้ว่าหมอรู้มากกว่าคนไข้ คนไข้ก็อาจถูกหมอหลอกหรือเหนี่ยวนำให้ทำตามที่หมอสั่งได้อยู่ดี ดังนั้นสิ่งที่ผมมองเห็นในตอนนี้ก็คือ "มาตรฐาน" ครับเป็นสิ่งที่ทางคุณหมอชูศักดิ์อาขต้อง set ขึ้นครับ ไม่ว่าจะเป็นข้นจตอนการทำ ขั้นตอนการ Sterile technique (ตั้งแต่การเจาะ การปั่น การเก็บ) อื่นๆอีกมากครับ (คือตอนนี้ผมคิดได้แค่นี้อ่ะนะ) อย่างที่ผมเขียน...ผมไม่ได้ Anti ทั้งหมดนะ ผมเองนี่ทำ gray zone มาตลอด แต่ก็ทำด้วยใจที่เป็นกุศล ไม่ได้คิดว่ามันต้องทำเงินให้เรามากมาย เราแค่อยากสร้าง และทิ้งสิ่งที่เราสร้างในประเทศชาติก็แค่นั้น สุดท้ายผมขอร้องครับทั้ง จขกท. และหมอเจ้ากี้ เจ้าการ ผมไม่อยากให้เราทะเลาะกัน (ผมก็เชื่อว่าพี่ๆคงไม่ได้ทะเลาะกันหรอก) การเขียนในนี้มันไมได้สื่อใจเท่าได้คุยกันทางปาก เอาเป็นว่าอยากขอให้เรามองไปที่ว่า...."เราต้องไม่จับผิด แต่เราต้องจับถูก" ขอให้พี่สองคนเข้าใจกันด้วยดีนะครับ ผมก็ขอแค่เป็นคนกลางคนนึงพอและ จากคุณ : Dr. Doggy - [ 9 มี.ค. 52 18:55:13 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เดี๋ยวนี้จะทำการทดลองกับสิ่งมีชีวิต ไม่ต้องผ่านคณะกรรมการจริยธรรมกันแล้วหรอคะ????? จากคุณ : สงสัย (ชอนตะวัน) - [ 10 มี.ค. 52 01:10:56 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ตอบ -คุณเจ้ากี้เจ้าการ? เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับผมมานานแล้วครับ เพราะ เรื่องใหญ่ที่สุดของผมคือ "เรื่องชีวิต" ที่อยู่ต่อหน้าไม่ควรจะตาย ถ้าเราช่วยได้ -คุณ Dr. Doggy ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณพูด เห็นด้วยกับความปราถนาดีทุกอย่างของคุณ ถ้าคุณสามารถทดลองได้ มีเครื่องมือ เครื่องไม้ที่ดี กรุณาอย่าทำให้เรื่องนี้เงียบไป คุณควร พูด-ทำ ต่อไป หมอชูศักดิ์ รักษา หมาลำไส้อักเสบด้วยวิธี supportive treatment แล้วหมาตาย เคยโดนแจ้งจับออกเป็นข่าวทีวีเมื่อ 10 กว่าปีก่อนมาแล้ว ต้องชดใช้เงินค่าหมาให้กับเจ้าของหมาไป เคยโดนแจ้งจับมา 2 ครั้งแล้ว..... (แต่การที่หมอจะฉีด HIS เข้าไป หมอได้พิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว ว่าสมควรฉีดเท่านั้น ส่วนหมาที่รักษาด้วยวิธี supportive treatment ได้ผล หมอก็ยังคงทำต่อไป เพราะ HIS ไม่ได้มีเหลือเฟือ ขึ้นกับสภาพ doner ในแต่ละช่วงด้วย ซึ่งครั้งนี้ HIS หมดไม่มีเหลือสักหยดแล้ว ก่อนจะทำการเก็บเลือดครั้งต่อไป กำลังดูเรื่องอากาศ ไม่อยากให้ร้อนมากเกินไป เดี๊ยวเป็นอันตรายกับ doner) "หมอหมดไฟ" ที่มีความคิดอยู่อย่างแรกในการรักษาคือ "เอาอย่างไรไม่ตายก่อน เรื่องอื่นว่ากันทีหลัง" "ผม" เห็นด้วยกับหมอ ในเรื่องการcover ชีวิตของหมาให้ได้มากที่สุด แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ผมในฐานะที่ชอบเป็น นัก motivate ที่ชอบศึกษาเรื่องคน และสร้างกำลังใจให้กับคนที่หมดโอกาสในชีวิต "ผมกำลังรักษาหมอชูศักดิ์" และคงไม่ได้ทำการสร้างมาตรฐานอะไรขึ้นมาอย่างที่คุณบอกไว้ได้ง่ายๆ ส่วนเรื่องความคิดเห็นทั้งหมด ผมจะปริ้นท์ให้หมอไปอ่านเพื่อให้หมอได้แสดงความคิดเห็นออกมาโดยตรงบ้าง ขอบคุณครับที่ความคิดเห็นของคุณมีประโยชน์เสมอมา -คุณสงสัย(ชอนตะวัน) อ่านให้จบทุกลิงค์ แล้วค่อยมาแสดงความคิดเห็น อย่ามาอ่านนิดหน่อยแล้วแสดงความคิดเห็นออกมา จากลิงค์ทั้งหมด(ทุกลิงค์ มีไม่ต่ำกว่า 10 ลิงค์ ที่ย้อนหลังกลับไป) มิใช่การทดลอง แต่เป็นการช่วยชีวิตหมาที่กำลังจะตาย โดยเจ้าของหมาอนุญาตแล้วทั้งนั้น การทดลองต้องอยู่ในมหาลัย ในห้องแล๊ป มิได้อยู่ในโลกของความเป็นจริง ไม่มีการทดลองใดๆเกิดขึ้นทั้งนั้น ความตาย และชีวิต ไม่ได้มีไว้เพื่อทดลอง ทุกอย่างทำเพื่อช่วยชีวิต และเก็บเป็นสถิติเท่านั้น และการที่พูดเรื่องนี้ออกมา เพื่อให้คนทั่วๆไป ที่มีปัญหาเหล่านี้ เอาไปปรึกษาหมอของเค้า แลวเอาไปเป็นทางเลือก แล้วนำกลับมาบอกเผยแพร่ออกไป แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 09:47:23 แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 08:22:00 จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 08:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ต้องขออนุญาตบอกนิดนึงว่า ล๊อคอิน"ชอนตะวัน" ซึ่งเป็นอีกล๊อคอินของผม ที่เข้ามาตอบ ผมได้กระจายไปยังเพื่อนๆพี่น้องสัตวแพทย์ เพื่อให้สะดวกในการใช้ล๊อคอินนี้เข้ามาตอบ แต่อยากขอให้เพื่อนพี่น้องสัตวแพทย์ทุกท่านที่ใช้ล๊อคอินนี้ อาจจะระบุชื่อเล่น หรือระบุรุ่น เพื่อแสดงถึงความมีตัวตนของแต่ละท่านด้วย ต้องขอออกตัวก่อนว่า ที่ชักชวนเพื่อนๆพี่น้องสัตวแพทย์ให้มาออกความเห็น มิได้มีจุดประสงค์ในการจะมาถล่มคุณ I am soda แต่อย่างใด เพียงแต่อยากให้ได้ฟังความคิดเห็นของสัตวแพทย์แต่ละท่านน่ะครับ ขอบคุณครับ จากคุณ : เจ้ากี้ เจ้าการ ? - [ 10 มี.ค. 52 09:46:55 ]

ความคิดเห็นที่ 21 คุณเจ้ากี้เจ้าการ ครับ?? -นักวิชาการเช่นคุณ จะทำอะไรก็ทำไปเถิด ถ้าช่วย "ชีวิต" ได้ ดีหมด ผมคนธรรมดา มิใช่สัตวแพทย์ คิดอย่างเดียว คือ "ช่วยชีวิต" ที่ผมเห็นตรงหน้าเท่านั้น (ผมเป็นมนุษย์) ถ้าท่านจะแสดงความคิดเห็น มันก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่ ที่ผมเอาลิงค์มาแปะไว้ ผมไม่สนใจหรอกว่าวิธีนี้ เป็นแบบไหนในสายตาของท่าน ท่านช่วยชีวิตหมาที่กำลังจะตายดีกว่านะครับ(2ลิงค์ที่ผมให้ไป) ผมบอกแล้วว่า นอกจาก supportive treatment ท่านเสนอความคิดเห็นช่วยเจ้าของหมาจะดีกว่า (2ลิงค์ที่ให้ไป) (อย่าให้ผมเสียเวลาไปค้นเอาเรื่องนี้จากกูเกิ้ลมาให้ท่านอีกเลย หาเองซะบ้าง แล้วจะรู้ว่าคนทั้งโลก ไม่ได้มีผมพูดเรื่องนี้คนเดียว) ตอนนี้หมาผมที่รอดจากลำไส้ ฉีดวัคซีนของเมอร์เรียลมา 2เข็ม และฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ไปแล้ว ทำไมยังตายด้วยไข้หัด(ผมมีคำตอบอยู่แล้ว และผมเข้าใจ) หมาที่บ้านผมกำลังจะตายอีก 1 ตัว ด้วยไข้หัด(กำลังสังเกตุอาการอยู่) ท่านช่วยอะไรผมได้อีกมั้ย "ถุงทอง"ตัวแม่ อายุ 3 ปีแล้ว ชักติดต่อกันมา 2 วันแล้ว (กำลังสังเกตอาการและ ปรึกษาหมออยู่ ว่าจะทำอย่างไร) ทำวัคซีนตามโปรแกรมทุกอย่างตามกำหนด ตรวจเลือดทุกปี ชักเพราะอะไร?? ท่านช่วยอะไรผมได้อีกมั้ย ผมต้องเอาพลังงานมาบอกให้คนอย่างท่านมาแสดงความคิดเห็นกับคนธรรมดาอย่างผมเหรอ ท่านไปเถียงกับนักวิชาการด้วยกันเองดีมั้ย อาจารย์จุ๋ม(เฉลิมพล เล็กเจริญสุข ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์ มก. บางเขน ) เพื่อนรุ่นเดียวกับหมอชูศักดิ์ รับรู้เรื่องราวเรื่องนี้มาตลอดทางโทรศัพท์จากหมอชูศักดิ์ ยังไม่มีความเห็นเลยว่าอย่าทำ หรือ อาจารย์จะเอาไปศึกษาต่อก็เงียบไป นี่คืออะไร ท่านไปจี้ต่อมอาจารย์เก่งๆแบบนี้จะดีกว่า ท่านเปิดเผยชื่อแซ่ดีกว่ามั้ย และอย่าใช้หลายล๊อกอิน การที่สัตวแพทย์หลายๆคนแสดงความคิดเห็น ไม่ได้มีผลอะไรกับผมหรอกครับ เพราะเป้าหมายของผมคือ "ช่วยชีวิต" อย่างท่าน DR.doggy ผมก็น้อมรับฟัง โดยไม่มีข้อโต้แย้ง เพราะถือว่าแสดงความคิดเห็นแล้วเกิดการเดินหน้า ผมจบมาทางด้านวิศวะ ผมชอบเลี้ยงหมา เลี้ยงปลา ศึกษาเรื่องคน ผมเป็นเจ้าของบริษัททำเว็บไซท์ หน้าที่ผมคือ อยู่หน้าจอเพื่อตรวจเช็คงาน และวางแผนให้ทีมงาน ผมเลยอยู่หน้าจอตลอดเวลา ท่านมีหน้าที่อะไรท่านก็ทำไปเถิด ไม่ต้องเช็คหน้าจอบ่อยๆแบบนี้ก็ได้ ผมเห็นดีด้วยถ้าเรื่องนี้ได้เผยแพร่ไปให้สัตวแพทย์หลายๆคนได้รับรู้ อาจจะมีนักวิชาการมีไฟมาทำต่อก็ได้ ผมกำลังรวบรวมประวัติการรักษาด้วย HIS ทั้งหมด มาลงให้นะครับ ไม่ใช่ผมเขียนเอง แต่เป็นสัตวแพทย์ผู้ทำการรักษา 3 ท่านเป็นคนเขียน(โรงบาลเวชพงศ์ มี สัตวแพทย์จาก มข.2ท่าน และปฏิญญาสัตวแพทย์มี หมอชูศักดิ์ รวมเป็น 3ท่าน) www.localclick.co.th เป็นเวบบริษัทผม UDclick.com เป็นเวบที่เป็นผลิตภัณฑ์ของบริษัทผม ผมยังมีอีกหลายร้อยเวบที่กำลังทำอยู่ และเวบลูกค้าที่ผมเคยรับงาน(ที่รู้จักเป็นอย่างดี) ก็มี ค่ายมวยแฟร์เท็กซ์(เวอร์ชั่นเก่า)/โครงการไทยไร้พุงเวอร์ชั่นเก่า (โครงการได้รับทุนจาก สสส.) ท่านล่ะเปิดเผยมาเถอะ ว่าท่านเป็นใคร ดีมั้ย?? แล้วอย่าทำแบบนี้อีก หลายล๊อคอิน ไม่ดี ตอนนี้ผมเศร้า และเสียใจเรื่องหมาของผมที่ป่วยอยู่ ผมไม่มีความรู้สึกอะไรกับความคิดเห็นของท่านๆหรอก นอกจาก ท่านไม่แสดงความคิดเห็นในลิงค์ หมาป่วยที่ผมเอามาให้ โดยท่านก็เห็นว่ามันอาจจะตายได้ ท่านก็ยอมรับว่าท่านใจแคบ ท่านยังกล้าเปลี่ยนล๊อคอิน มาออกความเห็นอีก ท่านเป็นคนแบบไหน??? ผมสนใจเรื่อง "หมา" มากกว่า "หมอ" แบบท่านครับ ผมอุตส่าห์ สำนึกผิด มาแก้คำว่า "เกรียน" เป็น "ความคิดเห็น" ถ้าผมรู้ว่าเป็นท่านผมจะไม่กลับมาแก้เลย แล้วท่านยังปลอมตัวด้วยคำว่า "คะ" เป็นผู้หญิง 555 ท่านไม่มีค่าในสายตาผมแล้วครับ ขอโทษถ้าพูดแรงไป แต่ มาจากจิตใจของผมทั้งนั้น แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 11:26:29 จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 10:18:27 ]

ความคิดเห็นที่ 22 "หมอ" แสดงความคิดเห็น กับ "คนเลี้ยงหมา" เกิดการต่อยอดหรือ??? ผลักดันให้เกิดการคุยกันในหมู่นักวิชาการเถิด จะเป็นประโยชน์สูงสุดกับหมาทั่วประเทศ ถ้าท่านๆทั้งหลายได้อ่านลิงค์เก่าๆทั้งหมด ท่านจะเข้าใจจุดประสงค์ของ "หมอชูศักดิ์" คือ ต้องการให้เกิดศูนย์ HyperImmune serum ขึ้นในประเทศไทย โดยเรื่องนี้หมอพูดกับ(อาจารย์เฉลิมพล เล็กเจริญสุข) ไว้ตั้งแต่ปี 2531(สมัยที่ยังเรียน) (เมื่อก่อนblood bank ก็บอกว่าเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ก็มีแล้ว ต่อยอดจาก blood bank สิครับ) โดยเอาหมาจรที่มีอยู่ทั่วประเทศมาทำให้เกิดประโยชน์ที่สุด  และจะเกิดการตัดวงจรโรคร้ายแรง และเกิดการควบคุมจำนวนประชากรหมาจรไปในตัว(ฉีดวัคซีนหมาจรเป็นประจำ เลี้ยงดูให้สมบูรณ์ พร้อมให้เลือดเสมอๆ มีเลือดกี่กรุ๊ป ท่านก็นำมาจรมาเลี้ยงแบบแบ่งเป็นกรุ๊ปๆ เพื่อสะดวกเวลาเก็บเลือด ปัญหาสังคมก็ไม่เกิด) ไม่มีความคิดเห็นเพื่อตัวเอง แต่คิดเพื่อ ชีวิตและส่วนรวมเสมอมา ยังมีอีกหลายเรื่องในความคิดของหมอชูศักดิ์ ทั้งเรื่อง "น้ำเกลือ" ในหมา  ท่านว่าทุกวันนี้ดีที่สุดแล้วเหรอ เรื่อง "วัคซีน" เรื่อง "การควบคุมประชากรหมาจร" "การตัดวงจรโรคติดต่อ" อยู่ในหัวของหมอชูศักดิ์ หมดล่ะครับ ท่านเคยคิดเหรอ??? ทุกวันนี้ "หมอชูศักดิ์" รักษาแต่ลูกค้าไม่มีเงิน เพราะคนมีเงินแต่ไม่รู้จักหมอ จะไม่กล้าเข้าคลินิคหมอ เพราะอะไร ท่านก็เห็นๆในลิงค์เดิมอยู่แล้ว ท่านไม่เก็บค่ารักษาแพงเกินกว่าความจำเป็น "ไม่คิดค่ารับฝาก คิดแต่สิ่งที่ใช้ไปตามความจำเป็น" ท่านไม่คิดว่าท่านจะมั่นคงจากอาชีพนี้ "ท่านคิดรวยจากการอาชีพอื่นๆ" แต่สิ่งที่ท่านทำ เพราะ ท่านรักหมา แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 10:43:22 แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 10:40:37 แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 10:39:54 จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 10:38:49 ]

ความคิดเห็นที่ 23 จาเรื่อง HIS ของโรงพยาบาลสัตว์ทองหล่อ ผมขอให้ข้อมูลเพิ่มเติม ตอนนั้น หมาผม เหลือ 4 ตัว(ที่เป็นลำไส้) หนักตัวละ 10 กิโล หมอที่นั่นบอกว่า ฉีด 5กิโลต่อ 1ซีซี (1ตัวฉีด 2 ซีซี ราคา ซีซีละ 3,500บาท) ต้องฉีดทั้งหมด 3 วัน เป็น เงินค่าเซรั่ม 1 ตัว เท่ากับ 3,500บาท*2ซีซี*3วัน เท่ากับ 21,000 บาท ผมมีหมา 4 ตัว ต้องเสียค่าเซรั่ม ทั้งหมด 21,000*4ตัว เท่ากับ 84,000 บาท แค่นี้เป็นเหตุผลที่ฟังง่ายกว่า ที่ผมบอกว่า ผมอยู่อุดรอีกนะ ผมถึงไม่ไปฉีดเซรั่มที่นี่ หมอที่ไม่เห็นด้วยกับผม และไม่มีวิธีอื่นๆเลยก็ได้ ไม่ต้องมาแสดงความคิดเห็นหรอก ช่วยผมจ่ายเคสนี้ ผมก็ไม่ได้ทดลองทำเซรั่มแล้วล่ะครับ จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 11:08:09 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ผมได้ให้ยืมล๊อคอินนี้ แก่เพื่อนพ้องพี่น้องสัตวแพทย์ ที่เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชายครับ จึงได้มีคำลงท้ายเป็น"คะ" อย่างที่เห็น เนื่องจากสัตวแพทย์หลายคนไม่ได้เล่นพันทิป ไม่มีล๊อคอิน ไม่คุ้นเคยกับบัตรผ่าน ผมจึงหาทางสะดวกให้กับเค๊าในการแสดงความคิดเห็นน่ะครับ ตอนนี้ผมกำลังรักษาลูกสุนัขที่ป่วยเป็นโรคหัดอยู่ครับ ผลการรักษาอยู่ในขั้นที่พึงพอใจ กำลังดูผลการรักษาอยู่ ลูกสุนัขทั้งหมดเริ่มมารักษาตั้งแต่อายุไม่ถึงสองเดือนดี ประวัติไม่เคยฉีดวัคซีน อาการที่มาคือมีขี้มูกขี้ตากรัง เหงือกซีด ผลจากการสุ่มตรวจด้วยเทสคิทหัด และพยาธิเม็ดเลือด พบว่าลูกสุนัข 3 ตัวเป็นหัด จึงอนุมานว่าน่าจะเป็นหัดทั้งหมดเนื่องจากมาจากแหล่งเดียวกัน และลูกสุนัขก็ป่วยเป็นพยาธิเม็ดเลือด ชนิด E.canis ลูกสุนัขทั้งหมด 7 ตัว มีเสียชีวิต 1 ตัวด้วยอาการช๊อคจากโลหิตจาง การรักษาสุนัขที่เหลือ มีการให้การรักษาแบบ support treatment รักษาอาการติดเชื้อทางเดินหายใจ รักษาพยาธิเม็ดเลือด บำรุงเลือดไปควบคู่กัน และมีการให้ยากระตุ้นภูมิ immuneplex B ควบคู่ไปกับการรักษา ตอนนี้สุนัขที่เหลืออีก 6 ตัวสุขภาพแข็งแรงดีครับ ผ่านมาจวนจะสามอาทิตย์แล้ว ถ้าผ่านช่วงนี้ไปได้ก็คงจะรบกวนเจ้าของเคสนำกลับไปหาบ้านต่อ อ้อ สุนัขทั้ง 6 นี้เป็นสุนัขพันธุ์ผสม ไร้บ้านครับ การที่ผมไม่ออกไปแสดงความคิดเห็นในกระทู้ต่างๆ เนื่องจากผมมองว่าวิธีการรักษาของสุนัขที่เป็นลำไส้หลายๆตัวก็ดำเนินมาถูกทางแล้ว และรอการพื้นตัวอยู่ การที่ผมจะเข้าไปเพื่อเปลี่ยนแปลงคงยาก แล้วคุณก็ไปเสนอความคิดต่างๆไว้แล้ว ผมจึงสงวนความเห็นเนื่องจากถ้าเข้าไป อาจทำให้เกิดการโต้แย้งอันหาสาระไม่ได้ และเจ้าของกระทู้จะเสียความรู้สึกเปล่าๆน่ะครับ ตอนนี้ผมก็มองชีวิตอยู่ อยู่ในจุดที่คุณมอง  แต่สิ่งที่โต้แย้งใน topic นี้ ช่วยจำกัดให้ครอบคลุมไว้ ไม่ให้เกิดการแตกประเด็นอื่นอีกมากมาย ถ้าคุณมองในสิ่งที่คุณหมอด๊อกกี้เขียนไว้ อ่านอย่างละเอียดว่า ตอนนี้คุณหมอชูศักดิ์อยู่ ณ จุดไหน ก็จะเข้าใจ และเข้าใจว่าทำไมเส้นแบ่งจึงต้องมี ทำไมถึงต้องมีการทดลองก่อนนำมาใช้จริง ซึ่งผมว่าคุณหมอด๊อกกี้กรุณาชี้แจงไว้แล้ว ผมอยากให้คุณใจเย็นๆ อ่านดีๆ อย่าเพิ่งมองอะไรในแง่ร้าย อย่ามองว่าหมอที่ใช้การ supportive treatment คือหมอที่ไม่ทำอะไร และอย่าคิดว่า HIS คือหนทางสุดท้ายในการรักษา มีอย่างนึงที่คุณถามผมมาว่า อัตรารอดจากการรักษาโรคลำไส้อักเสบ อัตรารอดกับตาย อันไหนมากกว่ากัน ผมก็ขอตอบตามตรงว่า อัตรารอดมากกว่าครับ ซึ่งหมอหลายๆท่านก็คงตอบเช่นเดียวกับผม เนื่องจากถ้าเราลดปัญหาเรื่องการช๊อคจากการเสียน้ำได้ อัตรารอดของสัตว์ก็จะมากขึ้น และนี่คือ supportive treatment แน่นอนว่าอาจจะไม่ได้ผลทั้ง 100 % จริงๆปัจจุบัน การใช้ interferon ฉีดก็มีใช้หลายที่ เพื่อเพิ่มโอกาสรอดชีวิต ผมก็มองว่าเป็นสิ่งดี ถ้าสุนัขจะรอดชีวิตเพิ่มขึ้นได้ แต่การนำเอาเลือดแม่ มาปั่นเอา serum มาใช้มันก็เหมือนขาดการควบคุมไป อย่างที่ผมเสนอความคิดไปด้านบนน่ะครับ เรื่องที่คุณบอกว่าหมอเสนอความคิดต่อคนเลี้ยงหมาเกิดการต่อยอดไหม ตอนนี้ผมต้องปรับความเข้าใจ ทัศนคติของคุณในเรื่องการใช้ชีวิตเข้ามาเสี่ยงกับยาที่คุณเคยทดลองกับคุณหมอชูศักดิ์แล้วได้ผล ผมเคยบอกด้านบนว่าให้นำเอา HIS โดยตรงมาใช้แล้วเก็บข้อมูลจะดีกว่ามั๊ย คุณก็ด่าว่าหมอจนๆกับคุณจะไปทำอย่างไรได้ แต่มันคงไม่ใช่เรื่องที่จะให้เอาชีวิตอื่นมาเสี่ยงจากการแนะนำของคุณ คุณแพร่กระจายความคิดคุณไปตามกระทู้ต่างๆของสุนัขที่ป่วยเป็นลำไส้อักเสบ นี่คือการที่คุณแพร่กระจายความรู้อย่างผิดๆไงครับ ถ้าคนที่ฟังคุณ เดินไปหาหมอ บอกให้เอาเลือดของแม่สุนัขมาปั่นแล้วฉีดให้ลูกสุนัขที่ป่วยเป็นลำไส้หน่อย แล้วถ้าเกิดลูกสุนัขตาย อะไรจะเกิดขึ้น นี่คือสิ่งที่จะต้องผ่านการทดลองที่มีการควบคุมก่อนเสนอแนะไป ไม่ใช่การบอกให้ทำ โดยบอกว่าชั้นเคยหาย โดยไม่มีการรับผิดชอบอะไรครับ ผมอยากให้คุณใจเย็นอีกนิด อ่านให้ดีๆ มองให้ออกว่าสิ่งที่หมอหลายๆคนต้องการคืออะไร บางครั้งคุณอาจหลงลืมไปว่า พวกผมนั้นก็ให้ความสำคัญกับชีวิตสัตว์เลี้ยงไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าคุณ หรือคุณหมอชูศักดิ์เช่นกัน ไม่เช่นนั้นผมคงไม่มาทำอาชีพนี้ ด้วยความเคารพ น.สพ.ณัฐพงศ์ เจริญพิวัฒพงษ์ vet 53 ขออนุญาตเอาสถานที่ทำงานออกก่อนแล้วกันนะครับ   ปล.ล๊อคอินชอนตะวัน เป็นล๊อคอินผม ที่ให้เพื่อนพี่น้องสัตวแพทย์ยืมใช้ในการนี้ เมื่อวานมีน้องคนนึงมายืมใช้ผ่านเข้ามาแสดงความคิดเห็น เป็นน้องสัตวแพทย์หญิงที่กำลังเรียนปริญญาโทอยู่ที่จุฬาฯครับ ต้องขอโทษด้วยที่ทำให้คุณเข้าใจผิด แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 11:46:20 แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 11:42:41 จากคุณ : เจ้ากี้ เจ้าการ ? - [ 10 มี.ค. 52 11:36:10 ]

ความคิดเห็นที่ 25 กรณีวัคซีนฉีดแล้วยังเป็นโรคได้ คุณต้องเข้าใจอย่างนึงว่า วัคซีนใช่ว่าจะสามารถคุ้มโรคได้ 100 เปอร์เซนต์ แต่ทำให้ร่างกายสัตว์มีภูมิต่อต้านโรคได้ แต่ถ้าสัตว์อยู่ในภาวะร่างกายไม่แข็งแรง เปอร์เซนต์การติดเชื้อก็สูงขึ้น และอาจเป็นโรคได้ นอกจากนี้ผลที่ทำให้วัคซีนไม่ได้ผลเต็มที่ 1.ปัจจัยจากตัววัคซีน -วัคซีนมีการเก็บรักษาที่ดีหรือไม่ มีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิบ่อยๆรึเปล่า ปัจจัยพวกนี้มีผลต่อการเสื่อมของวัคซีน -วัคซีนหมดอายุหรือไม่ อันนี้ดูจากวันหมดอายุ ที่ฉลากวัคซีนที่แปะในใบฉีดวัคซีน 2.ปัจจัยจากตัวสุนัข -สุนัขเด็กเกินไปหรือไม่ ขณะฉีดวัคซีนเข็มแรก ซึ่งบางทียังมีภูมิคุ้มกันในร่างกายที่ได้จากนมน้ำเหลืองจากแม่มาอยู่ ทำให้วัคซีนเข็มนั้นไม่ได้ผล -สุนัขขณะได้รับวัคซีน ร่างกายอยู่ในสภาพพร้อมหรือไม่ แข็งแรงดีพอ ไม่ได้อยู่ในสภาวะเครียด ไม่ได้ป่วย เป็นต้น เท่าที่ผมฉีดวัคซีนมา(ใช้หลากหลายยี่ห้อ) ฉีดวัคซีนรวม 3 ครั้ง พิษสุนัขบ้า 2 ครั้ง 10 ปี ที่ทำอาชีพนี้มา ไม่พบสุนัขที่ฉีดวัคซีนครบแล้วเป็นโรคหัด ลำไส้อักเสบ ตับอักเสบ ฉี่หนู พิษสุนัขบ้าครับ แต่ก็อาจจะเพราะความชุกของโรคแถวนี้ไม่รุนแรงแบบแถบบ้านคุณ จขกทก็ได้ สุดท้ายก็ขอให้สุนัขที่บ้านหายป่วยครับ ด้วยความนับถือ จากคุณ : เจ้ากี้ เจ้าการ ? - [ 10 มี.ค. 52 12:07:37 ]

ความคิดเห็นที่ 26 "หากท่านเจ้าของกระทู้อ่านแล้ว ก็โปรดใช้วิจารณญาณของท่านในการดำเนินการใดๆต่อไปนะครับ และควรปรึกษาหมอของท่านด้วย" ทุกๆความคิดเห็นที่ผมนำเสนอ ผมบอกให้ปรึกษาหมอเจ้าของไข้ทุกครั้ง และหมอชูศักดิ์ ก็ย้ำนักหนาว่า ให้หมอเจ้าของไข้ใช้ดุลยพินิจในการรักษาด้วยวิธีนี้ การไม่เสียน้ำ คือการไม่ทำให้ช๊อคและไม่ตาย แต่ไม่ได้แปลว่า "หาย" ใช่มั้ยครับ เป็นการยืดอายุเพื่อให้สุนัขมีเวลาในการสร้างภูมิคุ้มกันมากำจัดไวรัส ใช่มั้ยครับ การเผยแพร่ความรู้ของผม เพื่อให้ เจ้าของสัตว์เลี้ยงไปพูดให้หมอเจ้าของไข้ได้ยิน 1 คน ไปพูดต่อๆกันไปอีก 1 คน อย่างน้อยคุณก็ได้รับรู้และ เพื่อนๆคุณก็ได้รับรู้แล้ว นี่แหละคือ เป้าหมายของผม ถ้าผมทำเซรั่มแล้วจำหน่ายด้วยวิธีแบบนี้เอง ผมยอมรับว่านั่นคือความผิดพลาดอย่างแน่นอน แต่นี่ เจ้าของหมาต้องปรึกษาและรอคำแนะนำจากหมอเจ้าของไข้อยู่แล้ว ซึ่งหมอเจ้าของไข้ทุกคนมีวิจารณญาณทั้งนั้น(คงไม่มีหมอที่ขาดวิจารณญาณ ที่เชื่อที่คนไข้พูดอย่างเดียว) ผมเชื่อว่า สักวันหนึ่งเมื่อมีโอกาสคุณจะคิดถึงวิธีนี้เป็นวิธีสุดท้าย(ไม่ใช่อย่างแรกที่ควรทำ แต่เป็นวิธีสุดท้ายสำหรับหมาที่ใกล้จะตายแล้ว) คุณก็มีวิจารณญาณสูงอยู่แล้วในการตัดสินใจ แต่อย่าปฏิเสธตั้งแต่ต้นเลยว่าคุณจะไม่ทำอย่างเด็ดขาด ขอเพียงคุณคิดว่าเมื่อไม่มีหนทางแล้ว ควรจะลองเอาวิธีนี้ไปใช้บ้างเท่านั้นเอง ดีมั้ยครับ จากเรื่องราวทั้งหมด ถ้าเปรียบเทียบผมก็เป็น "ไวรัส" ในโลกออนไลน์ ที่เผยแพร่ข้อมูลซ้ำๆ ออกไป ให้เป็นหน้าที่ของนักวิชาการ และ สัตวแพทย์ ไปขบคิดและเกิดประเด็นในการพูดคุยกันต่อไป นี่คือหน้าที่ของผม แต่อย่ามาบอกให้ผมหยุดพูดข้อมูลนี้ เพราะ คุณ ไม่ใช่ antivirus ถึงไม่มีการรักษาอย่างต่อเนื่อง ผมก็ต้องเผยแพร่ข้อมูลนี้ออกไปอยู่ดี ก่อนจะบอกว่า "ถูก" หรือ "ผิด" คุณต้องไปทดลองก่อน ถึงมาบอกผมได้ ตอนนี้คุณก็ใช้วิจารณญาณของคุณเอง มาบอกว่า "ผมผิด" คุณทดลองเถอะ เห็นผลอย่างไร ผมก็เชื่อ เพราะเป็นการทดลอง แต่คุณไม่ทดลอง แล้วบอกให้ผม "หยุด" มันจะเกิดการเดินหน้าต่อไปเหรอครับ เข้าใจเจตนาของผมหรือยังครับ พระพุทธเจ้าสอนให้ "อย่าเชื่อ" ผมไม่เคยบอกให้ใคร "เชื่อ" ผม แต่ถ้าผมรู้แล้ว ไม่พูด ผมจะผิดกับตัวผมเอง และ ชีวิตลูกหมาทั้งหมดที่ตายไป คุณ "เชื่อในตำรา" คุณไม่ทดลอง "คุณไม่เชื่อผม" คุณก็ไม่ทดลอง ผม "เชื่อคำพูดคุณ" อย่างเดียวเหรอ ผมเชื่อตัวผมกับสิ่งที่ผมเห็น คุณให้รุ่นน้องคุณที่เรียนต่อ เอาไปทดลองสิครับ อย่าให้เรื่องมันเงียบ อย่าให้เงียบเลยนะครับ น่าเสียดายเพื่อนผมส่วนใหญ่ที่จบ ดร.ก็จบด้านวิศวะอย่างเดียวไม่มีใครเรียนด้านนี้ ไม่งั้นผมก็บอกเค้าไปแล้ว อย่าทำให้เรื่องนี้เงียบถึงกับขนาดที่ผมต้องทำ "เมลขยะ" หรือ ทำ "ไวรัส" เพื่อเผยแพร่เรื่องนี้  ออกไปจริงๆเลยนะครับ เจตนาคุณ ถ้าพูดแบบนี้แต่แรกผมก็เข้าใจ แต่ คุณเข้าใจ เจตนาของผมมั้ย คนเลี้ยงหมา รักหมา คิดอย่างเดียวคือ "หมาไม่ตาย" วิธีการรักษา เป็นเรื่องของใคร?? "คนเลี้ยงหมา หรือ สัตวแพทย์" นั่นแหละ ถึงเป็นหน้าที่ของพวกคุณต้องไปคุยกันต่อ จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 12:18:05 ]

ความคิดเห็นที่ 27 หมอชูศักดิ์ใช้ทั้งหมด 4 ยี่ห้อเหมือนกัน 2เข็มแรกเป็นเมอร์เรียล แต่เข็มที่ 3 เป็นยี่ห้ออะไร ผมจำไม่ได้ แต่ไม่ใช่เมอร์เรียล เพราะหมอชูศักดิ์ฉีดให้ เรื่องที่คุณพูดมาทั้งหมด หมอชูศักดิ์อธิบายให้ผมฟังหมดแล้ว และท่านโทรไปบอก ฝ่ายวิชาการเมอร์เรียลแล้ว เรื่องที่อาจจะเกิดขึ้น จาก strain ที่นำมาทำวัคซีน(ถ้าผมจำคำพูดหมอมาไม่ผิดนะครับ) ลูกค้าหมอชูศักดิ์(ที่ทำวัคซีนกับหมอตามโปรแกรม) ก็ปิดประตูเรื่อง ลำไส้ กับ ไข้หัด ทุกกรณีแล้ว หมอเริ่มฉีดที่ 40 วันในเข็มแรก(มีวิธีการในลิงค์เก่าๆ หมอทำมา 20 ปีแล้ว ก็ไม่มีเคสแบบผม) หมอบอกผมว่าในกรณีแบบผม เจอทั้ง ลำไส้ และ ไข้หัด ทั้งๆที่ทำวัคซีนครบทุกอย่าง ไม่เคยเจอ!!?? ตลอด 20 ปีที่ทำงานมา หมอชูศักดิ์เขียนเรื่องไข้หัดขึ้นสมองให้ผมแล้ว แต่ผมยังไม่มีเวลาเอามาลง ในนั้นก็อธิบายให้ผมทราบหมดแล้ว ผมว่าหมอชูศักดิ์ ไม่ได้เป็นหมอที่มั่ว แต่ หมอหลุดจากกรอบ การรักษาแบบเก่าๆ ทุกกรณีแล้ว ยังมีอีกหลายเรื่อง ที่ผมพูดไป ทุกคนก็จะว่าหมออีกว่าหมอไม่ควรทำ หมอหลุดพ้นจากคำว่า "ตำรา" แล้ว แต่ วิธีที่หมอรักษามาจากประสบการณ์ทั้งหมดที่หมอทำมาโดยอิงกับความรู้ที่เป็นไปได้ ผม "เชื่อ" เพระผมเห็น และผมได้ยิน ผมมีวิจารณญาณของผมที่จะเชื่อ จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 12:30:23 ]

ความคิดเห็นที่ 28 "supportive treatment" ใช้ไม่ได้กับกรณี "อากิตะ" บ้านผม เพราะไม่งั้นหมอเตี่ยงที่ทำงานมาเป็น 10 ปี คงไม่ใช้ HIS แน่นอน หมาหลายๆตัวที่ หมอเตี่ยงรักษา ก็ใช้ "supportive treatment" แล้วหายเหมือนกัน แต่ไม่ใช่กรณีของผม ที่ไม่มีแววว่าจะหาย แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 12:50:58 จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 12:49:00 ]

ความคิดเห็นที่ 29 ที่ทองหล่อใช้ HIS หรือ interferon หรอค่ะ อันนี้สงสัย ความแตกต่างของคนเลี้ยงหมากับสัตวแพทย์ก็ต่างกันจิงๆล่ะค่ะ การเรียนสัตวแพทย์ไม่ใช่แค่เรียนคลินิกอย่างที่คนเลี้ยงหมาจะเห็น มันมีจุดละเอียดเล็กน้อยมากมายที่อาจไม่รู้ การรักษาโรคไวรัสด้วยวิธี supportive treatment ก็ได้ผลกับหลายตัวเหมือนกัน อีกทั้งเป็นวิธีที่มีการศึกษามานานและได้รับการยอมรับว่าปลอดภัยต่อสัตว์จิงๆ บางคนอาจฝันแล้วถูกหวยจนคิดไปเอาว่าฝันแม่น อะไรให้โชค แต่คุณคงไม่ถูกหวยไปตลอดหรอกค่ะ กลับมาสู่ความจริง และใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ และกระบวนการทดลองที่ถูกต้องและปลอดภัยดีกว่า ถ้าจะให้ดี ลองรักษาโดยใช้ HIS อย่างเดียว โดยไม่ต้อง supporttive treatment สิค่ะ อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง หรือวิชาชีพของเราจะต้องให้หมอทำการวิจัยนอกกฏระเบียบกันแล้ว แล้วก็ขอโทษนะค่ะ จะดีมากเลยถ้าคุณหมอจะออกมาแสดงความเห็นเองโดยไม่ผ่านคนเลี้ยงหมา เนื่องจากเจ้าของบางคนอาจจะจับคำพูดมาอย่างผิดๆถูกๆได้ ไม่อยากให้วิชาชีพเสื่อมเสียค่ะ จากคุณ : vet 65 (ชอนตะวัน) - [ 10 มี.ค. 52 15:13:37 ]

ความคิดเห็นที่ 30 ตอบคุณ ความเห็น29 HIS ครับ ไม่ใช่ Interferon หมอที่รับสาย "คุณหมอวัฒน์จิระชัย" ถ้าฟังไม่ผิดทางโทรศัพท์ "ถ้าจะให้ดี ลองรักษาโดยใช้ HIS อย่างเดียว โดยไม่ต้อง supporttive treatment สิค่ะ อยากรู้เหมือนกันว่าจะเป็นยังไง หรือวิชาชีพของเราจะต้อง"ให้หมอทำการวิจัยนอกกฏระเบียบกันแล้ว" ผิดวัตถุประสงค์ครับ เพราะเราต้องการช่วยชีวิตหมาให้รอด "แล้วก็ขอโทษนะค่ะ จะดีมากเลยถ้าคุณหมอจะออกมาแสดงความเห็นเองโดยไม่ผ่านคนเลี้ยงหมา เนื่องจากเจ้าของบางคนอาจจะจับคำพูดมาอย่างผิดๆถูกๆได้ ไม่อยากให้วิชาชีพเสื่อมเสียค่ะ " คุณรอฟังความคิดเห็นจากคนรักหมาบ้างนะครับ ความเสื่อมเสียในเรื่องนี้ กับการที่คุณไม่ยอมรับ มันคนละเรื่องครับ http://www.google.co.th/search?hl=th&q=Hyperimmune+serum+in+dog&btnG=%E0%B8%84%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%B2&meta= ลิงค์เกี่ยวกับ Hyperimmune serum คุณเคย search บ้างหรือยัง หากันเยอะๆนะครับ บางทีสัตวแพทย์ กับ เทคโนโลยีการค้นหา อาจจะไม่เข้ากัน แต่ผมให้อภัยครับ และผมหาลิงค์มาให้ ลองหาเพิ่มเองนะครับ จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 15:56:44 ]

ความคิดเห็นที่ 31 "การรักษาโรคไวรัสด้วยวิธี supportive treatment ก็ได้ผลกับหลายตัวเหมือนกัน อีกทั้งเป็นวิธีที่มีการศึกษามานานและได้รับการยอมรับว่าปลอดภัยต่อสัตว์จิงๆ บางคนอาจฝันแล้วถูกหวยจนคิดไปเอาว่าฝันแม่น อะไรให้โชค แต่คุณคงไม่ถูกหวยไปตลอดหรอกค่ะ กลับมาสู่ความจริง และใช้วิธีทางวิทยาศาสตร์ และกระบวนการทดลองที่ถูกต้องและปลอดภัยดีกว่า" ครับไม่ได้เถียง แต่ผมเชื่อว่ายังมีสิ่งที่ดีกว่านี้ ซึ่งอาจจะได้รับการพิสูจน์ในอนาคต ขอโทษผมไม่เล่นหวย ผมไม่เชื่อโชคลาง หมาผมรอด คุณบอกว่าฟลุ๊ค ผมรับได้ ดีกว่าหมาผมตาย "คุณบอกว่าคุณทำตามวิธีที่เรียนมาอย่างดีที่สุดแล้ว และขอแสดงความเสียใจกับเจ้าของหมาด้วย" จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 16:19:40 ]

ความคิดเห็นที่ 32 คุณว่าฉีด HIS แล้วหมาจะตายใช่มั้ยครับ??? นี่คือจุดประสงค์ที่ออกมาพูดกันใช่มั้ยครับ จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 17:08:34 ]

ความคิดเห็นที่ 33 รักษาด้วย supportive treatment หาย 90% ขึ้นไปใช่มั้ยครับ จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 17:09:51 ]

ความคิดเห็นที่ 34 interferon ก็ฉีดพร้อมกับ วิธี supportive treatment ใช่มั้ยครับ ทำไม คุณถึงฉีด interferon กันได้ ถ้าเชื่อในวิธี supportive treatment จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 17:13:09 ]

ความคิดเห็นที่ 35 คุณๆเชื่อกันว่า supportive treatment ดีที่สุด สำหรับรักษา CPV และไม่มีวิธีอื่นอีกแล้วใช่มั้ยครับ จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 17:15:00 ]

ความคิดเห็นที่ 36 ไม่มีใครคิดว่า HIS เป็นวิธีที่นำไปศึกษาต่อยอดได้ใช่มั้ยครับ ไม่มีใครคิดว่า HIS เป็นวิธีการที่รักษาได้ใช่มั้ยครับ ขอโทษที่รันหลายกระทู้ ผมนึกอะไรออกผมก็ตั้งคำถามมาถาม มิได้มีเจตนาจะรันกระทู้ จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 17:17:26 ]

ความคิดเห็นที่ 37 เราต้องนำเข้า HIS จากต่างประเทศได้อย่างเดียวใช่มั้ยครับ ถึงจะเกิดความเชื่อถือในวงกว้าง ทำไมต่างประเทศมีขาย แต่ในประเทศไทยยังเถียงกันอยู่เลยว่า "เป็นไปได้" หรือ "เป็นไปไม่ได้" จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 10 มี.ค. 52 17:20:08 ]

ความคิดเห็นที่ 38 เอาใจช่วยคุณพ่อคะ ติดตามตั้งแต่วันแรก....ที่น้องหมาเกิด จนหลังๆน้องหมาเริ่มป่วย และเริ่มขอปาฎิหารย์ให้เกิดขึ้น ภาษาหมอไม่เข้าใจหรอกคะ แต่เข้าใจอย่างหนึ่ง ณ ตอนนั้นที่หมดหนทางแล้ว คุณพ่อก้ไม่มีอะไรจะเสียยังไงคุณหมอฟันธงว่าตายแน่ๆๆ จำได้น้องเจอยาหลายขนานมากทั้งยาหมอและน้ำตะไคร่ต้ม ก็น่าจะลอง แต่วิธีที่ลองได้ผล คุณพ่อน้องเค้าก็แค่อยากให้มีการต่อยอดเอาไปทดลอง เข้าใจนะคะคุณหมอเรียนมาอย่างยากลำบาก แต่ความรู้นอกตำราก็มีเยอะแยะนิคะ ไม่เสียหายถ้าจะลองดู ที่สำคัญกรณีของคุณพ่อน้องเค้าไม่ได้เป็นการทารุณกรรม แต่โชคดีที่คุณพ่อน้องเค้าได้เลี้ยงลูกชายพ่อของเด็กๆอย่างดีทำวัคซีนครบตลอดเลยสามารถเอาเลือดไปช่วยลูกได้ ถ้าดูแล้วก็ไม่ต่างจากคนที่รับบริจาคเลือดเพื่อไปปั่นเป็นเกร็ดเลือดทุกวันนี้เท่าไรหรอกคะ (เรียกถูกไหมน๊า) เราเลี้ยงหมา ถ้าโรคใดๆที่มีโอกาสแม้เพียงเล็กน้อย เราก็อยากให้เค้าหายคะ เราไม่อยากไปยืนข้างเตียงแล้วร้องไห้อีกแล้วคะ (แฮมเตอร์ที่เลี้ยงไว้ ตอนแรกนึกว่าเค้าอมองุ่นแล้วติดคอ แต่ไม่ใช่ปรากฎว่าเค้าเป็นเนื้องอก แล้วหมอบอกว่าตัวมันเล็กทำอะไรไม่ด้หรอคะ ได้แต่ยืนดูเค้าตายแล้วกอดแฟนร้องไห้อย่างเดียวเลย) จากคุณ : sherykik (sherykik) - [ 10 มี.ค. 52 19:06:00 ]

ความคิดเห็นที่ 39 ใจเย็นๆพี่น้อง..... 1 อยากให้ทางแล็ปผมช่วยผมก็ยินดีนะ แต่คงต้องคุยในรายละเอียดครับ เพราะผมต้องเสนอหมอผู้ใหญ่ที่เป็นหุ้นส่วนด้วย ผมคงทำโดยพละการไม่ได้ ผมยินดีช่วยในการปั่นด้วย Centrifuge เย็น , ยินดีให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้ระบบปิดในการดูดเลือด การใช้หลอดพิเศษ รวมถึงการเก็บเลือด แต่ปัญหาคือ ผมอยู่กรุงเทพ เลือดที่มามันต้องใส่สารกันเลือดแข็งตัว ดังนั้นอาจไม่เหมาะสมในการทำ HIS ครับ แต่ผมและทีมงานก็สามารถช่วยวางระบบมาตรฐานให้ได้หากทางหมอๆต้องการ 2 ผมเองชักเริ่ม งง อ่ะ HIS มันเป้น serum ซึ่งใน serum ก็จะมี Cytokines ชนิดต่างๆ รวมถึง Interferon ด้วยนะครับ ผิดถูกยังไงขออภัยและรอผู้รู้แจ้งมาบอกอีกทีนะ แต่คร่าวๆผมว่าผมน่าจะพูดถูกนะ (ขี้เกียจค้น) 3 หากเรามองระดับเซลล์ เราจะพบว่า ไวรัสลำไส้อักเสบพาร์โว และ ไข้หัด มีความสามารถทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในหมาลดลง เราพบว่าทหารเอกที่ชื่อ natural killer cells จะเกิดการ "ฝ่อ" และลดจำนวนลง ทั้งนี้ทางสัตวแพทย์ผมไม่รู้เหมือนกันว่าเค้าศึกษาไปถึงพวก T cells , NK-T cells , Specific T cells ไหม ซึ่งนี่จะเป็นคำตอบของการรักษาในอนาคตได้ว่า โรคทำงานอย่างไร แล้วเราจะได้วางแผนการรักษาได้ถูกว่าจะเสริม จะป้องกันตรงไหน อย่างไร.............หาก Basic โรคเรายังไม่แน่น (อย่างผมเป็นต้น เพราะขี้ลืม) เราก็จะรักษาไม่ถูกได้ ทุกวันนี้ผมมองแต่ในระดับเซลล์ เพราะเซลล์ที่ว่ามาทั้งหมดมันก็หลั่ง Cytokines ต่างๆเพื่อมต่อสู้กับทุกโรคอยู่แล้ว .....ในเมื่อทหารด่านแรกที่ใช้ต่อสู้กับเชื้อโรค คือ NK cells รองมาคือ T cells, B cell, Dendritic cellS แต่เจ้าสองเซลล์หลังมันต้องมีตัวมาบอกให้มันทำงาน นี่ผมยังไม่นับเซลล์เม็ดเลือดขาวอื่นๆอีกที่ช่วยรักษาโรคนะ.... ปัญหาคือเมื่อ Virus มาโจมตี แล้ว NK ฝ่อ หรือไปจับกับแขน ของเซลล์ทำให้การตรวจจับไม่ได้ผล ....สุดท้ายคือ เซลล์ทหารก็ตาย ก็ไม่มีสาร Cytokines ออกมาช่วย ผมจึงกลับคิดว่า ทุกอย่างสำคัญหมด การรักษาส่วนหนึ่งมันคือศิลปะ แต่มันต้องอยู่บนพื้นฐานของความถูดต้อง และที่สำคัญคือ ความปลอดภัยต่อผู้บริโภค จัดสัมนาเลยสิครับ โหะๆๆๆ สัตวแพทยสภาจะได้มีงานหน่อย ระดมสมอง หาข้อยุติ หาทางเลือกใหม่ในการรักษาโรค..... ผมเข้าใจทั้งสองฝ่ายนะ....เพราะว่าเราอยู่ในสังคม เราถึงต้องมีกฎเกณฑ์ บางครั้งมันอาจยุ่งยาก แต่นั่นก็เพื่อส่วนรวม บางครั้งอาจช้าเพราะเรื่องมาก แต่นั่นก็ทำให้ปลอดภัยต่อผู้ใช้มากขึ้น แต๋.......ทุกอย่างต้องมีการเปลี่ยนแปลงในทางดีขึ้นครับ และสุดท้ายผมก็สนับสนุนผู้ที่มีหัวก้าวหน้าครับ แต่ขออย่างเดียว อย่างน้อยสุดขอให้อยู่บนพื้นฐานความปลอดภัยครับ จากคุณ : Dr. Doggy - [ 10 มี.ค. 52 19:44:00 ]

ความคิดเห็นที่ 40 อ้อ ... HIS ที่นำเข้าผมเชื่อว่ามันมีมาตรฐานสูงอ่ะครับ ถึงผ่าน อย.ทั้งในและนอกได้ แต่การที่เราทำเองอย่างที่ผมเขียนตอนต้นแหละครับ เราต้องควบคุมปัจจัยหลายๆอย่างให้ได้มาตรฐานก่อนครับ สำหรับผมไม่ใช่ไม่สนับสนุนคนไทยนะ แต่ยิ่งรู้มาก ก็ยิ่งกลัว การแก้ปัญหาทีหลังมันไม่ง่ายครับ หากเกิด GVHD หรือการไม่ยอมรับเนื้อเยื่อที่ปลูกไปให้ เช่น ในที่นี้มีเม็ดเลือดแดงปน ก็จะทำให้ลือดตกตะกอนตายได้ , หากเม็ดเลือดขาวปน ก็ไม่ต้องพูดครับ ในคน HLA ไม่ตรงกันลาโลกแน่ๆ ในหมามีคนทำ DLA แล้ว แต่ก็นะ...มาเรียนรู้เรื่อง DLA (Dog Leukocytic Antigen) ก่อนดีกว่าครับก่อนจะปลูกถ่ายอะไรลงไป จากจุดนี้ผมจึงไม่อยากให้ จขกท.คิดว่าวันนี้ขอแค่ให้หมารอดไป เพราะหากมีการปนเปื้อนเม็ดเลือดขาวจากการปั่นไม่ดีก็อาจเกิด GVHD เพราะ T cells อาจแบ่งตัวไปเรื่อย (จากของ Donor) สุดท้ายหมาก็ตายครับ....ผมเคยเจอแบบนี้ในคนครับ ปีแรกนี่ไม่ต้องล้างไตเลย ปีต่อมาลาโลกครับ จากคุณ : Dr. Doggy - [ 10 มี.ค. 52 20:03:58 ]

ความคิดเห็นที่ 41 ที่กาชาดอ่ะ เดี๋ยวนี้หลังจาก Donor ให้พลาสม่าแล้วนั้นไม่ได้เอาไปใช้ทันทีนะครับ นอกจากสุ่มตรวจเชื้อเเล้วก็ยังมีใช้เครื่องที่ใช้ฆ่าเชื้อ และลดการทำงานของเซลล์บางอย่างก่อนนำไปใช้ในผู้ป่วยครับ จากคุณ : Dr. Doggy - [ 10 มี.ค. 52 20:09:02 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ถาม คุณหมอนะคะ สงสัยมานานแล้วค่ะ เท่าที่ทราบในสุนัขก็มีหมู้เลือดเหมือนคน การที่เราจะให้เลือดคน ยังต้องมีการ crossmatching ว่าเข้ากันได้หรือเปล่า เพราะถ้าผิดหมู่จะเป็นอันตรายมาก แล้วในสุนัข ต้องมีการตรวจหมู่เลือดก่อนไหมคะ ว่าเข้ากันได้หรือเปล่า เพราะครั้งหนึ่ง เกิดโรคระบาดในสุนัขจรที่ที่ดูแลอยู่ แล้วน้องสัควแพทย์เขาก็บอกให้ลองพาเด็ก ๆที่บ้านมาเจาะเลือด แล้วฉีดเข้าไปในสุนัขที่ป่วย แต่ตอนนั้นไม่ได้ทำ มันจะเกิดปัญหาเหมือนการให้เลือดผิดหมู่ในคนไหมคะ คือ ถ้ามันเป็นหนทางสุดท้ายก็คงทำค่ะ เหมือนสุนัขจรที่เลี้ยงไว้ ไข้หัดมันขึ้นสมองจนหมอจะแอบ put  นอนรอความตายจริง ๆ แต่มีพี่ท่านหนึ่งในพันทิพ บอกให้ลองใช้ยาเขียว เราก็ใช้นะคะ กินแทนน้ำเปล่าเลย แต่ก็ให้อาหารที่มีประโยชน์ด้วย  ตอนนี้หลงเดินได้แล้วค่ะ อาจจะกระย่องกระแย่งบ้าง แต่เขาก็ใช้ชีวิตเหมือนปกติเลย แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 22:31:40 จากคุณ : ชิโร่ kung - [ 10 มี.ค. 52 22:30:55 ]

ความคิดเห็นที่ 43 - -' เด็กเคมีอ่านม่ายรู้เรื่องเลยค่ะ ขอศัพท์ธรรมดาหน่อยได้มั้ยเอ่ย  แบบว่าคุณหมอทั้งหลายและ จขกท. ทำให้เรา งง..ง๊ง..งง... แต่ถ้าถามความรู้สึกเจ้าของหมาแล้ว  ยังไงก้ได้ค่ะ  แก้ปัญหาเฉพาะหน้า  ให้หมาเรารอดไว้ก่อน  อย่างอื่นว่ากันทีหลังค่ะ  เหมือนฟางเส้นสุดท้ายอ่ะค่ะ  ถึงจะเห็นว่าเป็นฟาง  แต่ก็ยังดีกว่าคว้าอะไรไม่ได้เลยค่ะ และในฐานะนักวิทย์คนนึง   อยากบอกว่า  ทุกอย่างเริ่มต้นจากการลองผิดลองถูกค่ะ  เพราะเมืองนอกเค้ากล้าที่จะทดลอง  เค้าจึงมีความรู้และเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเรา   ส่วนเรา  เรียนตามเค้าให้ทันก็บุญแล้วค่ะ(จริงๆไม่ทันด้วยซ้ำ)   เทคโนโลยีด้านต่างๆของไทยล้าหลังกว่าอเมริกากี่ปีรู้มั้ยคะ   อยากให้คนที่เรียนสายวิทย์มา  ช่วยกันค้นคว้า วิจัย  และทำการทดลองต่างๆ  เพื่อพัฒนาประเทศของเราค่ะ   ปล. ทำไมหมอที่เป็นนักวิจัยของไทยเราถึงน้อยนัก  ไม่ว่าจะหมอคนหมอสัตว์  สักแต่เปิดตำรา  เรียนตามเค้าไปวันๆ  เฮ้อ...  เมื่อไหร่ไทยจะพัฒนานี่ ปล2.  ออกทะเลไปไหมนี่  ขอโทษนะคะ  จขกท. จากคุณ : Sugihara Yuu - [ 10 มี.ค. 52 22:51:31 ]

ความคิดเห็นที่ 44 คุณ DR.doggy เรื่องมาตรฐานเป็นเรื่องที่นักวิชาการต้องกำหนดครับ ผมหมายถึงหลักการ ความเป็นไปได้ และให้นำไปต่อยอดครับ ส่วนเรื่อง HIS จากต่างประเทศ ผมก็หมายถึง หลักการนี้มันเป็นไปได้ใช่มั้ยในต่างประเทศ???? ทำไมหลักการนี้ในไทย ยังเถียงกันอยู่เลยว่า หมาจะตายเพราะ เซรั่มปนเปื้อนเลือด อย่างนู้นอย่างนี้ เอาไปทดลองต่อเถอะ นะครับ เรื่องมาตรฐานนี่ ผมไม่ได้เรียนมา หรอกนะครับ ผมไม่รู้เรื่องเลือดหรอกครับ แต่อยากให้คนที่เรียนมา และใจกว้าง(ขอย้ำ ใจกว้างๆ นะครับ ไม่ปิดหูปิดตา แล้วเถียงคอเป็นเอ็นว่า เป็นไปไม่ได้ )เอาไปศึกษาต่อยอด เรื่อง"ลำไส้อักเสบ" เป็นเรื่องเล็กน้อย ถ้าทำวัคซีนแล้ว ก็ไม่น่ามีปัญหา จริงมั้ยครับ โอกาสเป็นจะน้อยมาก เรากำลังเพิ่งพูดถึงเรื่อง ก.ไก่ เท่านั้นเอง หมอๆ ทั้งหลาย ควรจะพูดเรื่องวิธีเลี้ยงหมา หมาต้องกินอะไรถึงไม่เป็นขี้เรื้อน โรคผิวหนัง และ โรคไต นี่คือสิ่งที่หมอพูดกับคนไข้ได้โดยตรง อันนี้แนะนำ "คนเลี้ยงหมา" เถอะครับ หมอเคยบอกลูกค้ามั้ย ว่าอย่าให้หมากิน หมูปิ้ง ตับปิ้ง เคยบอกลูกค้ามั้ยว่าหมาที่เลี้ยงต้องให้กินอะไรบ้าง เคยบอกลูกค้ามั้ย ว่าหน้าร้อนๆแบบนี้ ควรทำอย่างไรกับหมาของตัวเอง เคยบอกมั้ยว่า หมาอายุได้ถึง 20ปี?? ให้เลี้ยงดีๆให้อยู่ได้นานที่สุด หมอมีแต่บอกว่า ป่วยแล้วต้องรักษาอย่างไร!!??? นี่คือหน้าที่ของหมอ ทำไม หมอไม่บอกให้ลูกค้า "เลี้ยงหมาอย่างไรไม่ป่วย" มากกว่าจริงหรือไม่?? มีหมอในนี้สักกี่คน ที่จะพูดเรื่องนี้ให้ลูกค้าฟัง ลองตั้งกระทู้ถามเพื่อนๆในนี้ดีมั้ยครับ เพื่อนๆในนี้เป็น คนรักหมา พาหมาไปทำวัคซีนตามโปรแกรมทั้งนั้น จะเคยได้ยินหมอคนไหน กล่าวตักเตือนบ้างหรือป่าว เรื่อง "HIS" กับ ลำไส้อักเสบ จะว่าเรื่องเล็กก็เล็ก ถ้าหมาส่วนใหญ่ฉีดวัคซีนตามกำหนดก็จะไม่เป็น จริงมั้ยครับ จะว่าใหญ่ก็เรื่องใหญ่ เพระเป็นเรื่องที่ "คนเรียน" ต้องไปพูดต่อ ถ้ามาเถียงกับ "คนไม่เรียน" แบบผม ก็ไม่เกิดประโยชน์ในการสานต่อ ถ้าเช่นนั้นผมขอเชิญสัตวแพทย์มาคุยกันเรื่อง traffic engineering ได้มั้ยครับ คุณก็คุยกับผมได้ แต่ไม่เกิดการต่อยอด จริงมั้ยครับ แล้วผมก็เชิญ เพื่อนๆผมที่เป็น อาจารย์อยู่ในหลายๆสถาบัน และเป็น ดร.กันหมดแล้ว มาคุยกันเรื่องนี้ดีมั้ยครับ(ไม่เกิดประโยชน์ใดๆทั้งสิ้น และเสียเวลา) อย่างมากผมก็ดึงรุ่นน้องมาคุยกันคนละกระทู้ แล้วก็บอกว่า เสียเวลากับพวกไม่ได้เรียนมา เสื่อมเสียวิชาชีพ กว่า (กู) จะจบวิศวะ มันก็ไม่ได้เรียนแค่สร้างบ้านล่ะวะ??!! กว่า (กู) จะได้ใบกว. (กู) ก็ต้องรอให้สภาวิศวกรอนุมัติ สุดท้าย มันก็เป็นเรื่อง "คนรู้" กับ "คนไม่รู้" มาคุยกัน คุณควรเอาเรื่องนี้ไปถามกับ "คนที่รู้มากกว่า" จริงมั้ยครับ สิ่งที่ผมเล่าเป็นประสบการณ์ตรงที่แลกมาด้วย 7 ชีวิต สิ่งที่คุณรู้มีในตำรา กี่บรรทัดที่พูดเรื่องนี้??!! ชั่วชีวิตของการเป็นสัตวแพทย์ คุณจะรับรู้เรื่องนี้เมื่อไหร่??!! หรือรู้ก่อนอยู่แล้ว แต่ไม่เคยคิดจะสานต่อ(รู้แล้วไม่ทำอะไรถ้าเป็นประโยชน์ต่อชีวิต ก็ผิดนะครับ) ชีวิตหมาทั้ง 4 ตัว ของผมที่ตายไปด้วยลำไส้อักเสบ อีก 2ชีวิตที่ตายด้วยไข้หัด และอีก 1 ชีวิต ที่ติดไข้หัดอยู่  รวมถึงหมาพ่อ-แม่พันธ์(4ชีวิต) รวมทั้งตัวผมอีก 1 ชีวิต (รวมแล้ว12ชีวิต) "ขอจองเวรกับไอ้พวกที่รู้และคิดหยุดวิธีนี้โดยไม่เกิดการสานต่อไปข้างหน้า ตลอดชั่วกับป์ชั่วกัล และขออย่าให้พวกอคติใจแคบ ประสบความสำเร็จในด้านใหม่ๆเลย ขอให้มันจมปลักกับสิ่งเก่าอย่างเดียวตลอดชีวิต" "หมอ1คน" จะเสียใจกับชีวิต "หมา" ที่ตายด้วยการรักษาของหมอกี่ครั้ง 100 ครั้ง??1000ครั้ง?? "เจ้าของหมา 1 คน" เสียใจกับ ชีวิต "หมา" ทุกตัวที่เค้าเลี้ยงมากับมือ เผลอๆ เจ้าของหมา สามารถ "ฆ่า" หมอคนนั้นได้ และประจานไปทั่วว่า "หมอคนนี้รักษาหมาชั้นตาย" สัตวแพทย์ทุกท่านที่แสดงความเห็น โปรดลงชื่อ และคลินิคเลย ลองมาดูกันดีกว่าว่า "คนรักหมา" จะ "รักหมอแบบท่านๆ" หรือป่าว อย่าลงแค่รุ่นไหน สถาบันไหนก็ลงมาด้วยเลย แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 09:25:43 แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 09:21:57 แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 09:19:10 แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 09:16:41 จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 11 มี.ค. 52 09:14:01 ]

ความคิดเห็นที่ 45 ตอนรักษาด้วยวิธี supportive treatment มีหมอคนไหนในโลกนี้ กล้าบอกมั้ยว่า หาย 90% โธ่......ก็บอกกันว่า 50-50 นั่นแหละ ใครกล้าบอก บอกมาเลยนะครับ หมาลำไส้ทุกตัวในห้องนี้จะได้ไปรักษากับคุณ ถ้าหมาผมตายด้วย sypportive treatment คุณจะบอกผมว่าไง...... ชีวิตหมออย่างคุณตายไป ผมก็ไม่สนหรอกครับ หมาผมตายไปผมยังเสียน้ำตาให้มันเพราะมันเป็นลูกของผม ส่วนหมออย่างพวกคุณ ก็ไปรักษาหมาลำไส้ตัวใหม่ ด้วยวิธีเดิม ถ้ารอดก็พอใจ ถ้าตาย ก็พูดแบบเดิม ที่เคยพูดมาทุกครั้ง แล้วพอมีวิธีนี้ก็มา เยินยอว่า supportive treatment ดีที่สุดในโลก โรควัวบ้า/ไข้หวัดนก  เค้ากำลังหาทางแก้ไข ด้วยวิธี HIS ทั้งโลก ส่วนพวกคุณ ทำอะไร จมปลัก..... หาเงินกับอาชีพของคุณไปนะครับ แต่อย่าเอาชีวิตที่มีค่า ของลูกๆผม ไปเปรียบเทียบกับ อคติ ของพวกคุณ มันเทียบกันไม่ได้ แก้ไขเมื่อ 11 มี.ค. 52 10:03:33 จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 11 มี.ค. 52 10:02:38 ]

ความคิดเห็นที่ 46 ขอร้องอีกอย่าง พวกหมอๆทั้งหลาย ที่ตามลิงค์มา กรุณากลับไปอ่านทุกลิงค์ที่มี ก่อนจะออกความเห็น นะคัรบ ทุกลิงค์ที่มีผมใช้เวลาทั้งหมด 2 เดือนกว่า ในการเขียนในแต่ละวัน อย่าตามลิงค์มาเพราะคนเล่าให้ฟัง ว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วก็มาออกความเห็นแบบเน่าๆ ทุเรศๆ  ตามไปอ่าน ทั้งเรื่องหมอชูศักดิ์ ทั้งเรื่อง การรักษาในแต่ละวัน อ่านซะทุกบรรทัด เพราะมันเขียนจากชีวิตจริง เขียนผิดไม่ได้ ไม่มีการสอบ ไม่มีการทดสอบ การตัดสินใจเป็นไป ชั่วโมงต่อชั่วโมง เพื่อยื้อชีวิตทั้งหมด เก่งแต่ในตำรา อย่ามาพูดอย่างเดียว ทำด้วยนะครับ จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 11 มี.ค. 52 10:11:45 ]

ความคิดเห็นที่ 47 คุณพ่อสามถุง...ใจเย็นๆนะ แช่งใคร ว่าใครก็สักแต่บาปเข้าตัวเราด้วย ผมท่องเสมอว่า "โกรธคือโง่ โมโหคือบ้า" แต่ผมก็ยังทั้งโง่ ทั้งโกรธ และก็ทั้งบ้าอยู่ดี... ขอตอบคุณชิโร่ kung ก่อน....การให้เลือดในหมานั้นจะทำการ Cross match อย่างที่ว่าไว้ก่อนเสมอครับ ซึ่งตรงนี้ก็ไม่ได้ว่าเลิศเลอปานใดมากนัก แต่ที่ทำแค่นี้เพราะว่าง่ายสุด เร็วสุด หากไปดู group เลือดซึ่งมีเกือบ 10 กรุ๊ป (จำไม่ได้ว่ากี่กรุ๊ป รู้สึกจะ 8 รึเปล่า ผิดก็ช่วยแก้ด้วย) มันทั้งสิ้นเปลืองเงินมหาศาล และยากกว่าที่จะพบ ในคนนอกจากทำ Cross match ก็จะดูกรุ๊ป ซึ่งเป็น ABO อย่างที่เรารู้กัน หรือดู Rh แต่สิ่งเหล่านี้ก็เป็นเพียงแค่เบื้องต้นในการให้เม็ดเลือดแดง (ย้ำว่าแดง) เพราะในการให้ whole blood หรือ เลือดทั้งถุงที่ได้มาจาก donor นั้น มันมีทั้ง เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด น้ำเลือด อื่นๆอีก ปัจจุบันในคนถึงหันมาให้ Pack red cells ก็คือปั่นแยกส่วนอื่นๆออก ให้เหลือแต่เม็ดเลือดแดงเท่านั้น เพื่อลดโอกาสการเข้ากันไม่ได้ของเนื้อเยื่อลงไงครับ ในเม็ดเลือดขาวก็มีพวก Antigen surface ที่เรียกว่า HLA (Human Leukocytic Antigen) ซึ่งมีความสำคัญมากๆ ในการปลูกถ่ายเนื้อเยื่อต่างๆ ในคนจะมี 6 ตำแหน่ง ซึ่งจะต้องตรงกันทั้ง 6 ตำแหน่งของทั้งผู้ให้และผู้รับ และจะต้องเข้ากันได้แบบเป็นส่วนมากด้วย หรือที่เรียกว่า High หากเข้าได้แบบแค่ Low ก็มีโอกาสที่จะทำให้การปลูกถ่ายเนื้อเยื่อไม่สำเร็จ สักพักอาจเกิดการไม่ยอมรับ และ reject จนถึงขั้นตายได้ ที่เราเรียกว่า GVHD (Graft Versus Host Disease) พอมาถึงหมาเมืองไทยไม่มีใครรู้จัก DLA หรือเรียกว่าคนทำ Blood bank จริงๆก็ยังรู้จุดนี้น้อยมากเมื่อเทียบกับหมอคน การให้เลือดส่วนใหญ่ก็ให้เป็น Whole blood ซึ่งหากถามผมๆคงตอบว่า แค่ Cross match มันไม่พอหรอก แต่ก็ดีกว่าไม่ทำ ดังนั้นเราถึงพบว่าการให้เลือดหมาบ่อยครั้งที่ตกตะกอน บ่อยครั้งที่อึพุ่งเป็นเลือด เนื่องจากการ Reject ผมเป็นแค่สัตวแพทย์ทำงานส่วนตัว ไม่ได้รับราชการ เคยเสนอเหมือนกันว่าอยากให้สัตวแพทย์หันมาใช้เป็น Pack Red Cells ซึ่งมันปลอดภัยกว่า แต่หมอๆใน รพ.รัฐก็เงียบหายไป ทั้งที่เราเป็นเอกชน และยินดีให้ความรู้ หรือให้ใช้เครื่องมือหากทางเค้าไม่พร้อม ....นี่ก็เป็นสาเหตุหนึ่งที่วงการนี้ไม่ไปถึงไหน ทุกอย่างคงต้องฝากผู้บริหารที่มี Vision หรือ วิศัยทรรศน์ และเมื่อท่านมีอล้วจะต้องมี Mission หรือการวางแผนต่อเนื่องต่อไป และผมก็จะรอวันนั้นครับ จากคุณ : Dr. Doggy - [ 11 มี.ค. 52 10:23:41 ]

ความคิดเห็นที่ 48 คุณ DR.doggy ครับ ผมถือศีล 5 ทำสมาธิทุกวัน แต่ผมยังมีอารมณ์โกรธ และความโกรธในการสาบแช่งของผม ผมเชื่อว่ามีพลังงานสูงด้วย แต่ผมต้องการให้คนที่เข้ามาอ่าน ได้ตระหนักมากขึ้น ไม่ใช่สักแต่มาตอบ แล้วก็ลอยหน้าลอยตาหายไป โดยไม่สามารถตอบคำถามอะไรได้เลย "ผมขอจองเวร ชั่วกับป์ชั่วกัลล์ และขอสาบแช่งเหมือนเดิม กับ ไอ้พวก อคติใจคอคับแคบ อีกครั้ง" จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 11 มี.ค. 52 10:28:46 ]

ความคิดเห็นที่ 49 หมอนักวิจัยในไทย หากให้ทุนมาก็ดีครับ แต่เขียนขอทุนก็รู้ๆอยู่ให้เขียนน้ำมากกว่าเนื้อ อย่างผมเป็นเอกชนขอไรไปมันก็เหมือนหาเงินเข้าตัวเอง เค้าก็ไม่ให้ จากคุณ : Dr. Doggy - [ 11 มี.ค. 52 10:29:05 ]

ความคิดเห็นที่ 50 คุณI am soda คุณโพสมาเพื่อให้คนรับทราบ และให้คนออกมาแชร์คคห. แต่ไหงเมื่อมีคนแสดง ในคคห.ที่ต่าง ไฉนจึงแสดงอาการกราดเกรี้ยวถึงกับสาปแช่งใครต่อใครกันด้วยครับ ผมเข้าใจที่คุณศรัทธาในตัวคุณหมอชูศักดิ์ เนื่องจากแกทำให้ชีวิตลูกๆของคุณรอด แต่คุณคิดหรือไม่การที่คุณแสดงอาการกราดเกรี้ยวเกินเหตุนั้น มันก็ย่อมจะไม่ดีต่อความรู้สึกของคุณหมอชูศักดิ์เช่นกัน  ผมว่าหากคุณหมอดีดังเช่นคุณว่า แกคงไม่ต้องการให้คนที่เคารพนับถือและศรัทธาแก ไปสาปแช่งใครที่มีความเห้นขัดแย้งในสิ่งที่คุณหมอชูศักดิ์ทำอยู่กระมัง ที่ทำๆกันอยู่น่ะวิทยาศาสตร์น่ะครับ ด้วยความเคารพ จากคุณ : ซอสมะเขือม่วง - [ 11 มี.ค. 52 16:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ขอโทษด้วยนะครับ ที่ผมใช้อารมณ์ หวังว่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายคงไม่เชื่อในเรื่องคำสาบนะครับ 555 คำสาบแช่งนี้ สำหรับ พวกที่ติ.....แต่ไม่ก่อ เห็นแค่ชีวิตเป็นแค่การทดลอง สำหรับพวกที่ติ....เพื่อทำลาย เห็นว่าไม่มีวิธีการใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นบนโลก "ใครที่ติแล้วก่อให้เกิดการเดินหน้า ก็ขอให้ท่านเจริญๆ มีความก้าวหน้าในชีวิตและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานครับ" จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 11 มี.ค. 52 16:36:17 ]

ความคิดเห็นที่ 52 คิดต่างไม่ผิด แต่คิดต่างเพื่อบอกให้หยุด แล้วไม่เกิดการสานต่อไปข้างหน้า แบบนี้ถึงเรียกว่าผิด ถ้าเดินไปข้างหน้า แล้ววิธีนี้เป็นไปไม่ได้ ผมก็ยอมรับในผลการทดลอง...แต่ในต่างประเทศทดลองจนนำออกมาขายได้.....ทำไมประเทศไทยจะเอาไปทดลองต่อไม่ได้ สำหรับพวกที่บอกว่าซื้อหวยแล้วถูก เชื่อเรื่องความฝัน คงกลัวในเรื่องคำสาบแช่งแบบนี้แน่ๆ จะได้ไม่มีความคิดเห็นลอยๆ ขาดเหตุผล มายังไงครับ จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 11 มี.ค. 52 16:40:51 ]

ความคิดเห็นที่ 53 วิชาชีพทางสายการแพทย์ไม่ว่าจะเป็น แพทย์ สัตวแพทย์หรือทันตแพทย์ เป็นวิชาที่ใช้ทั้งศาสตร์ และศิลป์ค่ะ การรักษาของหมอแต่ละคนอาจมีแนวทางที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้นการปฏิบัติต่อตัวสัตว์ในการทำการรักษายังต้องอยู่บนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ผ่านการทดลองอย่างถูกต้องมาแล้วว่าเป็นวิธีที่ปลอดภัยและมีผลข้างเคียงต่อตัวสัตว์น้อยที่สุดค่ะ แต่จุดมุ่งหมายของสัตวแพทย์ทุกคนเหมือนกันคืออยากให้สัตว์รอดจากความเจ็บป่วย ไม่มีหมอคนไหนอยากให้คนไข้ของตัวเองเสียชีวิตหรอกค่ะ จากคุณ : B Vet65 (ชอนตะวัน) - [ 12 มี.ค. 52 01:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 54 http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7617376/J7617376.html แก้ไขเมื่อ 12 มี.ค. 52 09:03:26 จากคุณ : พ่อสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม (I am soda) - [ 12 มี.ค. 52 09:01:14 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เอาใจช่วยพ่อสามถุงค่ะ เพราะเป็นคนเลี้ยงหมาและรักหมา  และเข้าใจความเจ็บปวดใจของคนที่เห็นหมาเราตายไปต่อหน้า  และมีประสบการณ์ตรง ลูกหมาที่บ้าน 1 ครอก 5 ตัว อายุเพิ่งจะครบเดือน ติดเชื้อลำไส้อักเสบหมดเลยค่ะ หมอฉีดยา ให้น้ำเกลือ ไม่ดีขึ้นเลย ตายไป 2 ค่ะ อีก 3 ตัวรอดปาฏิหาริย์ วิ่งวุ่นทั้งวัน ทั้งคืน ไม่ได้หลับได้นอน ทำทุกอย่างที่จะทำได้ ที่พอจะนึกออก ป้อนแบรนด์ ป้อนน้ำ ป้อนยา ดูแลแทบจะ 24 ชั่วโมง  เจ้าของหมา กับหมออยู่กันคนละสถานะค่ะ   จะให้หมอมาเข้าใจเจ้าของสัตว์บางครั้งหมอก็ไม่เข้าใจหรอกค่ะ  เหมือนที่เพื่อน ๆ ในพันทิพบางคนใช้ยาเขียว  ต้มตะใคร้ สมุนไพร ผักบุ้ง ป้อนซุปไก่  ให้หมาป่วยนั่นแหละค่ะ  เราไม่สนใจวิธีการ  ไม่สนใจหลักวิทยาศาสตร์  ไม่สนใจส่วนประกอบทางเคมี   และไม่คิดว่าใช้จะเป็นการใช้หมาเป็นสัตว์ทดลอง  เพราะเราคิดว่าเค้าคือลูกเรา  แต่เพราะเรารู้ว่าโอกาสรอด คือ 50:50  วิธีการใด ๆ ก็ตามเราก็จะทำ จากคุณ : แม่น้องละมุด - [ 12 มี.ค. 52 17:20:43 ]