ความคิดเห็นที่ 1 นั่นน่ะซิเนอะ งงเหมือนกันค่ะ ที่แรกอุตสาห์ดีใจว่าแบรดพิทกะแองจี้โชคดีได้บ้านแล้ว กะว่ามีโอกาสขึ้นเหนือจะไปแวะเยี่ยมอยู่เชียว จากคุณ : dear pukka (dear pukka) - [ 8 มี.ค. 52 20:54:10 ]

ความคิดเห็นที่ 2 ***คุณหน่อยลองอ่านที่คุณติ๋มโพทนะคะ*** ---------------------------------------------------------- เราได้เขียนขอบคุณคุณแม่น้องจีอุน ในหน้าต่างแรกด้านบนสุดของกระทู้ ตามนี้นะคะ V V ขอขอบคุณคุณแม่น้องจีอุน ที่เมตตาและให้ความช่วยเหลือเด็กทั้งสี่ตัว ในช่วงเวลาหนึ่ง ............................................... ซึ่งก่อนหน้าเราได้แจ้งทางคุณแม่น้องจีอุนว่าจะนำเด็กมาหาบ้านใหม่ ซึ่งคุณแม่น้องจีอุน ก็ตอบ "โอเคค่ะ" น้ำเสียงแจ่มใส เรายังบอกขอบคุณในสิ่งที่คุณแม่น้องจีอุนช่วยเหลือ ทุกอย่างพูดกัน และจบลงด้วยดี ไม่มีความขัดแย้งใดๆเลยนะคะ .............................................. เราไม่ได้อยากมีเรื่องมีราวใดๆ แต่เท่าที่อ่านดู ก็ต้องขออนุญาตออกมาชี้แจงบ้าง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเกิดความคลาดเคลื่อน ............................................................. วันแรกที่คุณแม่น้องจีอุน โทรหา เพื่อขออุปการะ แบรด พิทท์ -แองจี้ คุณแม่น้องจีอุนพูดจาดี มีความน่าเชื่อถือ มีความเมตตาอ่อนโยน อ่อนหวาน ซึ่งมันทำให้รู้สึกดี คุณแม่น้องจีอุนแจ้งว่า ตอนนี้ทำธุรกิจรถเช่าอยู่พัทยา และอีกไม่กี่สัปดาห์จะย้ายกลับไปอยู่พะเยา เนื่องจากสร้างบ้านใหม่ โดยจะพาเด็กๆไปอยู่ที่นั่นด้วย ซึ่งเราก็ได้บอกไปว่า ถ้าอย่างนั้นขอไปส่งพะเยาด้วยตัวเอง เพราะเด็กหาบ้านเราจะต้องไปส่งด้วยตัวเอง เพราะความเป็นห่วง ต่อมาคุณแม่น้องจีอุน ก็ยังโทรคุยกับเราเป็นระยะ ระยะ และช่วยเหลือแบรด -แองจี้ ในเรื่องค่าฝากโดยโอนตรงไปที่โรงพยาบาล เราปฎิเสธการช่วยเหลือ แต่คุณแม่น้องจีอุนก็เเมตตายืนยันที่จะช่วย เราก็เลยเกรงใจมาก จึงตกลงว่าจะไปส่งแบรด-แองจี้ ที่พัทยา เพื่อไม่ให้คุณแม่น้องจีอุน ต้องเสียเงิน และเราก็ยังบอกว่าเมื่อย้ายไปพะเยา เราจะตามไปเยี่ยม คุณแม่น้องจีอุนก็ตอบตกลง เราไปส่งแบรด-แองจี้ที่พัทยา พร้อมกับคุณเก๋จัง พร้อมด้วยใบสัญญารับอุปการะ ซึ่งเราเป็นเจ้าของ (ส่วนของใบสัญญา เราจะมีการเซ็นต์ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหมาหรือแมว สายพันธ์ไหนก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดกรณี ซํมซุง) เราได้บอกให้คุณแม่น้องจีอุน ส่งรูปบ้านที่พะเยามาให้หน่อย คุณแม่น้องจีอุน ตอบกลับมาประมาณว่า ยังไม่ได้ถ่ายรูป แล้วก็ส่งรูปบ้านคุณพ่อที่พะยามาให้ดูแทน (บ้านหลังปัจจุบันที่คุณหน่อยอยู่) เราก็เข้าใจ เห็นรูปบ้าแล้วนก็ไม่ได้คิดอะไร ยังยืนยันความรู้สึกตัวเองที่จะให้แบรด-แองจี้ไปอยู่กับคุณแม่น้องจีอุน .............................................. ต่อมาคุณแม่น้องจีอุน ยังโทรหาเราเพื่อขอรับอุปการะคลอเร็ท แต่ต่อมา คลอเร็ทเสียชีวิต ................................. หลังจากนั้นคุณแม่น้องจีอุน โทรขอรับอุปการะ ทาโร่แทน และบอกให้พาอิมเมจ ไปเที่ยวด้วย เราก็เดินทางไปพัทยา พร้อมด้วยอิมเมจ มีการเซ็นต์สัญญา ทาโร่เรียบร้อยเช่นกัน ส่วนอิมเมจ คุณแม่น้องจีอุน ก็บอกให้ไว้ที่นี่ก่อน เพื่อขอดูอิมเมจ เราก็ตอบตกลง นี่ถ้าเราไม่เชื่อใจ เราก็คงไม่ได้ให้ไว้ถึงสี่ตัวเป็นแน่ ...................................... ต่อมาคุณแม่น้องจีอุน รับอุปการะอิมเมจ .............................................. ระหว่างที่แบรด-แองจี้-ทาโร่-อิมเมจ อยู่พัทยา เราจะไปคอยไปเยี่ยมเยือน เราถามคุณแม่น้องจีอุนทุกครั้งว่าไหวมั้ย เพราะเมื่อไปดูความเป็นจริง เห็นใจคุณแม่น้องจีอุนไม่น้อย น้องหมาที่เลี้ยงก็ 6 ตัว แมวเปอร์เซียอีก หนึ่งตัว อยู่กันเต็มหน้าร้าน แต่คุณแม่น้องจีอุนยืนยันเสมอ ว่าเลี้ยงได้ เลี้ยงหมาสิบตัว ก็เหมือนเลี้ยงหกตัว เราฟังแล้วรู้สึกชื่นใจ ที่เธอคิดว่ามันไม่ใช่ภาระเพิ่มเติม ................................................. คุณแม่น้องจีอุนเช่าหน้าร้านด้านล่าง เพื่อทำธุรกิจรถเช่า ซึ่งบอกว่าทำมาเกือบปีแล้ว เพื่อนเราคนหนึ่งเคยถามเรา " เคยเห็นรถเช่าของคุณแม่น้องจีอุนไหม" เราก็ตอบว่าไม่เคยเห็น แต่เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นแค่หน้าร้าน เมือมีลูกค้า ก็จะไปเอารถมาจากที่อื่นให้เช่า .......................................... คุณแม่น้องจีอุน ก็บอกวันเวลาที่เลื่อนไปจากเดิม กลับพะเยา ในครั้งแรก บอกว่า - บ้านใหม่ที่พะเยายังสร้างไม่เสร็จ แต่กำลังเร่งก่อสร้าง (ก็เลยยังอยู่พัทยา) ต่อมา - ก็เล่าอีกว่า ยังย้ายไปพะเยาไม่ได้ เนื่องจาก เจอะรถเช่าที่ถูกขโมยไปแล้ว ก็เลยต้องทำเรื่องนี้ก่อน เราก็ฟังเฉยๆ ก็คุยกันดีตลอดมา เป็นเพื่อนกัน - ต่อมาคุณแม่น้องจีอุนบอกว่า จะย้ายไปอยู่บ้านคุณพ่อที่พะเยาแทน ต่อมา - โทรหาเราตอนเย็น ว่า เช่าบ้านที่พัทยาแล้วนะ เพราะพี่สาว ไม่ยอมให้ไปอยู่บ้านพ่อ ถ้าเอาหมาไปด้วย เราถามว่า แล้วบ้านใหม่ที่สร้างล่ะ คุณแม่น้องจีอุนตอบว่าก็ชะลอไปก่อนได้ สองวันต่อมา - คุณแม่น้องจีอุนโทรหาเราว่าย้ายมาอยู่บ้านคุณพ่อที่พะเยาแล้วนะ พอดีน้องผู้หญิงที่คุณติ๋มเห็น เค้าจะไม่อยู่กับหน่อย จะย้ายกลับโคราช ก็เลยตัดสินใจกลับพะเยา เราก็ถามว่าพี่สาวคุณหน่อย ไม่ว่าอะไรแล้วหรือ คุณหน่อยตอบว่า ไม่ว่าอะไร โทรเคลียร์กันแล้ว ก็เข้าใจ เรื่องก็จบ เราก็ถามว่า แล้วพี่สาวคุณหน่อยอยู่ที่ไหน คุณหน่อยอยู่พัทยา เราถามถึงเรื่องรถที่ว่าโดนขโมยไปสามคันนั้น เรื่องไปถึงไหนแล้ว (ที่ถามเพราะก่อนหน้าคุณแม่น้องจีอุน  บอกว่า ยังกลับพะเยาไม่ได้ เนื่องจาก ติดรื่องรถ ) คุณแม่น้องจีอุน ตอบว่า คนที่เจอรถเค้าโทรมาบอกขอยืมไปขนยาก่อน เรายังบอกคุณแม่น้องจีอุนเลยว่า เอารถเราไปขนยาได้อย่างไร มันอันตราย น่าเป็นห่วงนะ ............................................... อีกสองวันต่อมา คุณแม่น้องจีอุน โทรมาหาขอยืมเงินเราหนึ่งหมื่นบาท ขอให้โอนในวันนี้เพราะด่วนมาก เพราะจะเอาไปคืนลูกค้า เราถามว่าคุณหน่อยไม่มีเงินเลยหรือ คุณแม่น้องจีอุนบอกว่า มีเงินแต่ไม่สะดวกไปโอน ให้คุณติ๋มโอนเงินให้ก่อนนะจะคืนให้วันที่ 18 กุมภาพันธ์ เราก็เลยบอกว่า แล้วแฟนคุณหน่อยที่อยู่พัทยา โอนให้ไม่ได้เหรอ (แฟนคุณหน่อย คุณหน่อยบอกว่ายังทำธุรกิจรถเช่าอยู่พัทยา และขับวินไปด้วย) คุณแม่น้องจีอุน บอกว่าเงินสดอยู่ที่หน่อย ติ๋มก็โทรกลับไปตอนเย็นอีก เพราะคิดว่าจะไปยืมเงินเพื่อนของเราๆมาโอนให้ใช้ไปก่อน เราถามว่า จะให้เราโอนเงินไปที่ไหน คุณแม่น้องจีอุนตอบว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 938 203 4795 เราถามชื่ออะไร คุณแม่น้องจีอุน ตอบว่า อาภาภรณ์ สอนสุข สาขาบิ๊กซี อุบล .................................................... ที่เพื่อนเราบางท่าน ทราบถีงเรื่องเงิน เพราะเราไล่โทรขอยืมเงินไปให้คุณแม่น้องจีอุนในครั้งนี้ แต่ไม่มีใครให้เราค่ะ กลับเตือนเรามาด้วยนะ ด้วยความเป็นห่วง และรู้สึกแปลกกับเรื่องนี้ ต่อมา เราและเพื่อนๆ ได้คุยกันถึงเรื่องนี้ ต่างก็รู้สึกห่วงแบรด -แองจี้-ทาโร่-อิมเมจ ด้วยเหตุผลต่างๆข้างต้นที่บอกไป ความเห็นทุกคนตรงกัน ว่าควรขอคืน แต่ทำอย่างไรเพื่อถนอมน้ำใจและไม่ให้มีเรื่องมีราว หรือเกิดความขัดแย้ง ตอนแรกเราว่าจะพูดขอคืนเด็กทั้งสี่ตรงๆ โดยไปรับกลับจากพะเยา (ซึ่งถึงไม่มีเรื่องนี้ ก็ต้องไปอยู่ดีค่ะ เพื่อไปเยี่ยมอย่างที่บอกไป) แต่ก็ฉุกคิดว่าอาจจะไม่ได้คืนง่ายดายนัก แต่ยอมรับนะคะ ว่าเราเป็นห่วงพวกเค้ามากจริงๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน .................................................. ซึ่งการใช้ข้ออ้างว่านำมาถ่ายแบบ การถ่ายแบบเป็นเรื่องจริง เพราะจะเซทการถ่ายไว้สำหรับถ่ายปฎิทินสี่ขาในปี 2553 ก็เลยนำเรื่องตรงนี้เข้ามาพูดถึง เพื่อถนอมน้ำใจ และเพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากในกรณีที่พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง เราไปในถิ่นเขา เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างน่ะค่ะ ............................................... ก่อนที่จะไปพะเยา เพื่อนเราหลายท่านได้ลองโทรติดต่อ และอีเมล์ดูเพื่อติดต่อขอเช่ารถ แต่คุณแม่น้องจีอุน แต่ไม่รับสาย และไม่มีการตอบกลับมา ทั้งทางอีเมล์และทางหน้าเวปที่เช่ารถ เราอดที่จะแปลกใจไม่ได้ เพราะคุณแม่น้องจีอุนบอกว่า เปิดเนททุกวัน รับโทรศัพท์ลูกค้าตลอด ...................................... ก่อนหน้าเราเคยถามว่าธุรกิจคุณหน่อยดีไหม คูณแม่น้องจีอุน ตอบว่าดี เราถามว่าทำไมถึงย้ายมาพะเยา แล้วธุรกิจจะทำอย่างไร คุณแม่น้องจีอุนตอบว่า ใช้วิธีติดต่อกับลูกค้าทางอินเตอร์เนทและทางโทรศัพท์ ที่พูดคุยกันมาตลอด เราคิดว่าคุณแม่น้องจีอุนมีญาติพี่น้องอยู่พะเยา แต่ต่อมาสอบถามครังสุดท้าย คือคุณแม่น้องจีอุน อยู่ตัวคนเดียว ญาติอยู่คนละจังหวัด  เวลาจะไปไหน ต้องวานให้คนข้างบ้านมาดูแลเด็กๆแทน ...................................... เมื่อพากลับมา เราพาน้องไปตรวจสุขภาพอีกครั้งด้วยค่ะ และผลก็คือ น้องอิมเมจก็เป็นไข้หัดนะคะ ส่วนแบรด แองจี้มีเห็บหมัด น้องทาโร่ มีผืนแดงที่ท้อง ตรวจสอบแล้วไม่พบว่าเป็นโรคหัดค่ะ จากนั้น เราจึงโทรไปบอกผลกับคุณแม่น้องจีอุน เพื่อขอคืนเด็กทั้งหมด และขอบคุณเธอที่เคยช่วยเหลือ พร้อมกับขอโทษที่ต้องเป็นอย่างนี้ ตอนที่เราพูดขอคืน คุณแม่น้องจีอุน ตอบโอเคค่ะทันทีด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร เราก็ยังบอกคุณแม่น้องจีอุน เราจะโอนเงินในส่วนที่คุณแม่น้องจีอุน ชำระโดยตรงกับโรงพยาบาลไปให้ ซึ่งตรงนี้คุณแม่น้องจีอุนก็ไม่ขอรับ เราก็บอกไปขอขอบคุณมากๆนะคะ เราบอกว่าเราจะพาเด็กขึ้นหาบ้านใหม่ คุณแม่น้องจีอุ่นก็ตอบว่า โอเคค่ะ แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 21:23:46 จากคุณ : PartyLM - [ 8 มี.ค. 52 21:15:48 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ส่วนตัวเราเห็นใจแม่น้องอีจุนนะ เลี้ยงให้เค้าตั้งนาน ทุ่มเทความรักให้แต่ในที่สุดเค้าก้อมีข้ออ้างมาพรากลูกของเราไป   เราคิดว่ายังไงคุณคงไม่ได้เด็กๆคืนแล้วล่ะ เพราะคุณติ๋มคงต้องทำตัวเป็นพระเจ้า กะเกณท์ชีวิตน้องหมา จริงๆน่าจะให้น้องหมาเลือกว่าจะอยู่กับใคร ถูกมั้ยคะ คุณให้เค้าไปแล้ว คุณน่าจะปล่อยจนเค้าไม่ไหวแล้วมาบอกคุณ เราไม่เข้าใจจริงๆ แต่เราก้อจะช่วย4ขาต่อไป เราเป็นกำลังใจให้ และเราคิดว่าคุณไม่ผิด ไม่มีคนผิด ผิดที่คุณเชื่อใจคนเกินไป เราขอให้คุณปกป้องตัวเอง แล้วออกมาเคลียร์ตัวเอง เราเป็นกำลังใจให้นะ และเรามั่นใจว่าเราไม่ได้ยืนผิดข้าง แก้ไขเมื่อ 08 มี.ค. 52 21:23:12 จากคุณ : PartyLM - [ 8 มี.ค. 52 21:21:45 ]

ความคิดเห็นที่ 4 คุณติ๋มคงอยากให้หมาไปอยู่กับคนที่พร้อมที่สุด จะได้ไม่เสียใจภายหลัง เป็นกำลังใจให้คุณติ๋มนะคะ จากคุณ : แม่น้องรุ้ง (joeymydear) - [ 8 มี.ค. 52 21:34:47 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ทั้งสองคน ทั้งคุณหน่อยและคุณติ๋ม ไม่มีความผิดเรื่องความรักและความหวังดีที่มีต่อสุนัขทั้งสี่ตัว แต่เหตุเกิดเพราะความไม่ไว้ใจกัน เพราะสับสนในข้อมูล ทำให้เกิดความระแวง และการกระทำแบบนี้ขึ้นมา ไล่เรียงเหตุการณ์ไปมาตามที่ได้อ่าน ถ้าสมมุติ ตัวเราเป็นคุณติ๋ม เราก็ไปรับกลับมา ถ้าสมมุติ เราเป็นคุณหน่อย เราก็ไม่อยากให้ใครมาพราก พวกเขาไป เพราะพวกคุณ ไม่มีการถามกันอย่างตรงไปตรงมา เอาแต่คิดเอง เออเอง ถ้าหากคุณหน่อยยังอยากได้พวกเด็กๆ กลับไปดูแล เคลียร์ตัวเองออกมา ตอบคำถาม และข้อสงสัยที่เกิดขึ้น หากเคลียร์ได้ คุณติ๋มควรขอโทษคุณหน่อย แล้วส่งตัวเด็กๆ คืนกลับไป (การกล่าวคำ ขอโทษ ไม่ได้ลำบากมากมาย หากคุณจริงใจพอ) เปิดใจ ยอมรับความผิดพลาดทีเ่กิดขึ้นของฝ่ายตนเองให้ได้ก่อน แล้วคุยกันอีกครั้ง พวกคุณสองคน ไม่มีใครผิด เพราะพวกคุณต้องการสิ่งดีๆ ให้กับพวกเขา เป็นกำลังใจให้ทุกคน จากคุณ : อย่างนี้ก็ดีแล้ว - [ 8 มี.ค. 52 21:37:23 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ประเด็นคือ ทำเหมือนไปโขมยน้องหมามา อันนี้ต่างหากคะที่เราคาใจ ยังไงเราก้อคิดว่าคุณติ๋มทำไม่ถูกต้อง เราพูดในฐานะที่เราเป็นแม่ของหมาด้วย และเราพิมพ์ แต่งคำพูดสวยหรูไม่เป็น คิดว่าแม่น้องจีอุนก้อเหมือนเรา จากคุณ : PartyLM - [ 8 มี.ค. 52 21:38:48 ]

ความคิดเห็นที่ 7 เป็นกำลังใจให้ค่ะ...เราคิดว่ายังไงก็ตาม...หากต้องการรับน้องคืน...น่าจะแจ้งกันตรงๆ  ดีกว่าหลอกกันแบบนี้ พลอยไม่ได้เข้าข้างใคร....แค่คิดว่า...ถ้าเรารับน้องหมามาเลี้ยง...เราก็ให้ความรักเค้าเต็มที่... อยู่ดีๆก็มาโดนพรากไป...เราจะทำยังไง....เฮ้อ!!!!.... จากคุณ : La_Or1007 - [ 8 มี.ค. 52 21:39:53 ]

ความคิดเห็นที่ 8 เราเห็นด้วยกะ คห5 ค่ะ ตรงใจมาก เสียดายที่ให้ give ไม่ได้ จากคุณ : PartyLM - [ 8 มี.ค. 52 21:44:37 ]

ความคิดเห็นที่ 9 มาแสดงความคิดเห็นเรื่องวิธีการ เอาหมากลับของคุณติ๋ม หากไม่แน่ใจในความปลอดภัย และปฏิกิริยาของคุณหน่อย เราก็ทำแบบนั้น ปลอดภัยไว้ก่อน ให้ได้หมามาไว้ก่อน ค่อยบอก คำถามน่าจะเป็น ทำไม อะไร ทำให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา ควรแก้ไขกันอย่างไร เพราะคำว่ารัก ทั้งสองฝ่ายก็คงมีไม่แพ้กัน เอามาวัดกันไม่ได้หรอก จากคุณ : อย่างนี้ก็ดีแล้ว - [ 8 มี.ค. 52 21:44:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 มองกลับมาในมุมคุณหน่อย ทำไมต้องมาหลอกกันด้วย (เพราะคุณหน่อยมองเห็นตัวเองเป็น แบบไม่เป็นอันตรายกับใคร รักหมา ดูแลหมาดีๆ) แต่อย่าลืมว่า คุณติ่ม ไม่ได้รู้จักคุณหน่อยดีขนาดนั้น ดังนั้น ถึงได้เกิดเหตุการณ์นี้ จากคุณ : อย่างนี้ก็ดีแล้ว - [ 8 มี.ค. 52 21:47:08 ]

ความคิดเห็นที่ 11 จากที่อ่านมาทั้งหมด เราก็คิดว่าคุณใบมอสเกิดความระแวงในตัวคุณแม่น้องจีอุน อยากได้หมาคืน ทั้งๆที่ไม่น่าเกี่ยวกับการเลี้ยงดูสุนัขทั้ง4 เหมือนว่า พอระแวง เรื่องอื่น ก็พลอยไม่ไว้ใจเรื่องการเลี้ยงดูน้องหมาทั้ง4หรือเปล่าคะ บางทีก็ต้องปล่อยวางบ้างนะคะ อย่ายึดติดมากเกินไป แบบนี้น้องคงหาบ้านยากขึ้น เพราะกลัวจะเจอกรณีเอาหมาคืนแบบนี้อีก กราบขออภัยหากเราเข้าใจคุณใบมอสผิด จากคุณ : หมูชมพูออนไลน์ - [ 8 มี.ค. 52 21:48:18 ]

ความคิดเห็นที่ 12 คำถามต่อพวกคุณทั้งสองคน คุณหน่อยและคุณติ๋ม พวกคุณยังคุยกันได้หรือปล่าว พร้อมจะเคลียร์ข้อสงสัย กล่าวคำขอโทษ... กล่าวคำว่าไม่เป็นไร ต่อกันและกัน หากคิดว่า ไม่้ต้องการเคลียร์กัน ก็จบกันแค่นี้ เลิกลาต่อกันไป ต่างกลับไปทำหน้าที่ของตัวเอง จบ จากคุณ : อย่างนี้ก็ดีแล้ว - [ 8 มี.ค. 52 21:49:57 ]

ความคิดเห็นที่ 13 เรื่องการโอนเงิน มันดูแปลก ๆ ไปหน่อยนะคะ ต้องโอนให้ลูกค้า ที่อยู่ที่อุบล มันไกลจากพัทยามากเลย แถมยังมีเล่าเรื่องรถ ที่ถูกแอบยืมไปขนยาอะไรด้วย ถ้าเราเป็นคุณติ๋ม เราไม่ไปไล่หายืมเงินให้หรอกค่ะ แต่เรื่องรับน้องหมาคืน เราก็เข้าใจทั้งคุณแม่น้องจีอุน และคุณใบมอสนะ อีกฝ่ายเลี้ยงมาก็ต้องรักแหละ ส่วนอีกฝ่ายก็ รักน้องหมามากกกกกก จนเราแอบอึ้งในบางครั้ง แต่ก็คิดว่าไม่แปลกที่คุณใบมอสอยากได้น้องหมาคืน เพราะเชื่อว่า คุณใบมอสรักน้องหมามากจริง ๆ ไม่ว่าจะตัวไหน บางตัวสภาพเน่าขนาด เห็นรูปแล้วรู้สึกได้กลิ่นเลยนะ คุณใบมอสยังเก็บมาเลย นับถือน้ำใจจริง ๆ ค่ะ สรุป ... เป็นกำลังใจให้ทั้งคู่ละกันนะ จากคุณ : Alex/miko - [ 8 มี.ค. 52 21:55:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 ตามมาอ่าน..อย่างห่วงๆ จากคุณ : noofon_jaja - [ 8 มี.ค. 52 22:22:15 ]

ความคิดเห็นที่ 15 คุณสองคนเท่านั้น ที่รู้สาเหตุที่แท้จริง.... จากคุณ : noofon_jaja - [ 8 มี.ค. 52 22:23:14 ]

ความคิดเห็นที่ 16 เดี๋ยวคุณแม่น้องจีอุนคงจะออกมาชี้แจง แต่ขออย่าให้เป็นเรื่องเอาน้องหมามาหาเงินเล้ย.... ขอให้สิ่งที่ได้ยินมาไม่เป็นความจริง.... ถึงยังไงเราก้อยังไม่เห็นด้วยกับการไปพรากลูกหมามาจากแม่ ย้ำ..พูดแทนแม่ของหมาทุกคน จากคุณ : PartyLM - [ 8 มี.ค. 52 22:36:43 ]

ความคิดเห็นที่ 17 พี่ว่าใบมอส คงเป็นหว่ง คุณหน่อย เลยหว่งเด็กๆด้วยยังไงก็ขอให้จบแบบงามๆ เข้าใจทั้งสองฝ่ายค่ะ จากคุณ : ข้าวเหนียว (tasorn) - [ 8 มี.ค. 52 22:57:17 ]

ความคิดเห็นที่ 18 เราไม่ได้รู้จักทั้ง 2 ฝ่ายนะึคะ แต่ตาม กระทู้ น้องหมาทั้ง 4 มาพอสมควร คุณใบมอสคงจะห่วงน้องๆมากๆจึงพาน้องกลับเพราะระแวงคุณแม่น้องจีอุนทั้งเรื่องการย้ายบ้าน เรื่องเงิน เรื่องร้านเช่ารถ ต่างๆนานา เป็นเราก็คิดมากค่ะ กลัวว่า เค้าจะดูแลได้ไม่ดี กลัวจะทิ้งน้องไว้ (เดาเองนะคะ) ขอให้เรื่องจบลงด้วยดีและน้องๆได้บ้านที่อบอุ่นค่ะ จากคุณ : แตงเมโกะ - [ 8 มี.ค. 52 23:23:04 ]

ความคิดเห็นที่ 19 สงสารน้องหมาจังเลยค่ะ  ไม่เข้าใจ งง งง และก็งง ไม่ทราบหรอกค่ะ  ว่าใครพูดจริงหรือไม่จริง   ทราบแต่ว่าตอนนี้น้องหมาคงจะบอบช้ำมากมากกับการเดินทางที่แสนยาวไกล เรา ไม่ทราบว่าข้อความที่ว่า  "คุณจะสามารถรับผิดชอบชีวิตน้อยๆ ที่ไปอยู่ในอุ้งมือของคุณให้มีความสุขตามอัตภาพได้อย่างไร" จาก คห.109 นั้น มีขอบเขตแค่ไหนกับคำว่า "อัตภาพ"  จะต้องรวยล้นฟ้า  หรือว่าแค่พอมีพอกิน   สำหรับเราเองก็เคยรับน้องหมาหาบ้านในพันทิปมาเลี้ยงเหมือนกัน   ซึ่งจำได้ว่าตอนนั้นมีแต่คนคัดค้านและให้เจ้าของเดิมเลี้ยงดูต่อไป แฟนเราไปรับมาโดยไม่เห็นหน้าค่าตากันมาก่อน   กลับมาถึงบ้าน  เราไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าเราจะมีเงินเลี้ยงเค้ารึเปล่า แต่สิ่งแรกที่เราคิดได้ ณ เวลานั้นที่เห็นเค้า  เรารู้แต่ว่าเราสงสารและรักเค้า และตั้งใจว่าจะเลี้ยงเค้าให้ดีที่สุด โดยไม่เคยตั้งข้อแม้ใดๆ สำหรับเรื่องเงิน น้อง ป่วยเป็นโรคผิวหนังต้องได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง  เราก็รักษาและดูแลเป็นอย่างดี  รวมถึงอาหาร ยาบำรุง  ทุกสิ่งอย่างที่ทำได้  แต่สำคัญที่สุดที่เรามีให้คือความรักความอบอุ่น ทั้งๆ ที่ตัวเราเองก็ไม่ใช่คนร่ำรวยอะไร  แฟนทำงานคนเดียว เราเป็นแม่บ้าน จากเมื่อก่อนเลี้ยงชิห์สุสามตัว  แต่ตอนนี้เรารับอุปการะน้องหมาจรจัดเพิ่ม จนตอนนี้ที่บ้านมีน้องหมาทั้งหมด 8 ตัว  เราก็เลี้ยงดูเค้าตาม  "อัตภาพ" ของเรา เราอาจจะไม่ได้เลี้ยงเค้าอย่างน้องหมาไฮโซ  แต่สิ่งหนึ่งที่เราเชื่อมั่น คือความรักความอบอุ่นที่เรามีให้กับน้องหมาของเราทั้งหมด และไม่เคยคิดจะทอดทิ้งไม่ว่าเวลาไหนหรือไม่ว่าเค้าจะป่วยเป็นโรคอะไรก็ตาม และเราเองก็คงเศร้าใจและเสียใจเป็นที่สุดถ้าเราต้องเจอเหตุการณ์อย่างคุณแม่น้องจีอุน   เราไม่ได้ว่าใครผิดใครถูก  แต่เราคิดว่าบางครั้งคนเราเกิดมาร้อยพ่อพันธุ์แม่ สถานะความเป็นอยู่แตกต่างกัน  คำว่าพอเพียงของแต่ละคนก็ต่างกัน เหมือนกับเคสคุณแม่น้องจีอุนกับคุณติ๋ม... คำว่า  "อัตภาพ"   ของคุณแม่จีอุนก็อาจจะเพียงพอสำหรับคุณแม่น้องจีอุน แต่อาจจะไม่เพียงพอสำหรับคำว่า  "อัตภาพ"  ของคุณติ๋ม... เพราะถ้าคำว่า "อัตภาพ"  ของคุณติ๋มมีความต้องการมากกว่าคำว่า  "อัตภาพ"  ของคุณแม่น้องจีอุนแล้ว... ฉันไดก็ฉันนั้น  ความต้องการของคนเราไม่เท่ากัน  จึงได้เกิดปัญหาแบบนี้ขึ้น เราเชื่อว่าคุณแม่น้องจีอุนรักและเมตตาน้องหมาเหมือนกับที่คุณติ๋มเอง ก็รักและเมตตาน้องหมามากด้วยเช่นกันค่ะ ยังไงก็ขอให้น้องได้รับความรักความเมตตาด้วยนะคะ ปล. ขอโพสอีกรอบนะคะ  จะได้อ่านกันทั้งสองกระทู้ จากคุณ : kodomo2008 (phusana) - [ 8 มี.ค. 52 23:23:59 ]

ความคิดเห็นที่ 20 +++++++++ หน่อยตอบแล้วค่ะ++++++++++ ขอขอบคุณทุกท่านมากๆนะคะที่เมตตาและห่วงใยตุ๊กตาทั้งสี่ตัวนี้ จริงๆแล้วไม่อยากจะเขียนถึงเรื่องอะไรมากนะคะ (นอกจากกลุ่มเพื่อนสนิทของเราที่เชื่อใจได้เท่านั้น) เนื่องจาก ไม่อยากให้ข่าวกระจายออกไป อันจะส่งผลกระทบต่อการหาบ้าน หรือส่งผลกระทบต่อคุณแม่น้องจีอุน ถ้าอ่านกระทู้ จะเห็นว่าเราเลี่ยงที่จะบอกรายละเอียดของการกลับมา ............................................................ ทั้งนี้ทั้งนั้น ขอให้กระทู้นี้ ใช้เพื่อการหาบ้านใหม่ โดยที่เราพิจารณาแล้วว่าเห็นควร ยึดความสุข ความอบอุ่น และความปลอดภัย ของตุ๊กตาทั้งสี่ตัวเป็นหลัก ............................................ เราได้เขียนขอบคุณคุณแม่น้องจีอุน ในหน้าต่างแรกด้านบนสุดของกระทู้ ตามนี้นะคะ V V ขอขอบคุณคุณแม่น้องจีอุน ที่เมตตาและให้ความช่วยเหลือเด็กทั้งสี่ตัว ในช่วงเวลาหนึ่ง ............................................... ซึ่งก่อนหน้าเราได้แจ้งทางคุณแม่น้องจีอุนว่าจะนำเด็กมาหาบ้านใหม่ ซึ่งคุณแม่น้องจีอุน ก็ตอบ "โอเคค่ะ" น้ำเสียงแจ่มใส เรายังบอกขอบคุณในสิ่งที่คุณแม่น้องจีอุนช่วยเหลือ ทุกอย่างพูดกัน และจบลงด้วยดี ไม่มีความขัดแย้งใดๆเลยนะคะ .............................................. จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 8 มี.ค. 52 23:29:36 ]

ความคิดเห็นที่ 21 เราไม่ได้อยากมีเรื่องมีราวใดๆ แต่เท่าที่อ่านดู ก็ต้องขออนุญาตออกมาชี้แจงบ้าง ทั้งนี้เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเกิดความคลาดเคลื่อน ............................................................. วันแรกที่คุณแม่น้องจีอุน โทรหา เพื่อขออุปการะ แบรด พิทท์ -แองจี้ คุณแม่น้องจีอุนพูดจาดี มีความน่าเชื่อถือ มีความเมตตาอ่อนโยน อ่อนหวาน ซึ่งมันทำให้รู้สึกดี คุณแม่น้องจีอุนแจ้งว่า ตอนนี้ทำธุรกิจรถเช่าอยู่พัทยา - ใช่ค่ะ และอีกไม่กี่สัปดาห์จะย้ายกลับไปอยู่พะเยา เนื่องจากสร้างบ้านใหม่ - ใช่ค่ะ กำลังสร้างบ้านใหม่ โดยจะพาเด็กๆไปอยู่ที่นั่นด้วย ซึ่งเราก็ได้บอกไปว่า ถ้าอย่างนั้นขอไปส่งพะเยาด้วยตัวเอง เพราะเด็กหาบ้านเราจะต้องไปส่งด้วยตัวเอง เพราะความเป็นห่วง - ใช่ค่ะ ต่อมาคุณแม่น้องจีอุน ก็ยังโทรคุยกับเราเป็นระยะ ระยะ และช่วยเหลือแบรด -แองจี้ ในเรื่องค่าฝากโดยโอนตรงไปที่โรงพยาบาล - ใช่ค่ะ เราปฎิเสธการช่วยเหลือ แต่คุณแม่น้องจีอุนก็เเมตตายืนยันที่จะช่วย เราก็เลยเกรงใจมาก จึงตกลงว่าจะไปส่งแบรด-แองจี้ ที่พัทยา เพื่อไม่ให้คุณแม่น้องจีอุน ต้องเสียเงิน                  - แต่ตอนที่มาส่งคุณติ๋มแจ้งว่า ที่เอามาส่งเพราะว่าเห็นคุณหน่อยเตรียมเสื้อไว้ให้แบรดกะแองจี้เพราะว่าเดี๋ยวจะใส่ไม่ทันวันปีใหม่ ไม่เห็นพูดเรื่องเงินเลย และเราก็ยังบอกว่าเมื่อย้ายไปพะเยา เราจะตามไปเยี่ยม คุณแม่น้องจีอุนก็ตอบตกลง         - ใช่ค่ะ เราไปส่งแบรด-แองจี้ที่พัทยา พร้อมกับคุณเก๋จัง - ใช่ค่ะ พร้อมด้วยใบสัญญารับอุปการะ ซึ่งเราเป็นเจ้าของอยู่ (ส่วนของใบสัญญา เราจะมีการเซ็นต์ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นหมาหรือแมว สายพันธ์ไหนก็ตาม เพื่อไม่ให้เกิดกรณี ซํมซุง) เราได้บอกให้คุณแม่น้องจีอุน ส่งรูปบ้านที่พะเยามาให้หน่อย คุณแม่น้องจีอุน ตอบกลับมาประมาณว่า ยังไม่ได้ถ่ายรูป แล้วก็ส่งรูปบ้านคุณพ่อที่พะยามาให้ดูแทน (บ้านหลังปัจจุบันที่คุณหน่อยอยู่) เราก็เข้าใจ เห็นรูปบ้าแล้วนก็ไม่ได้คิดอะไร ยังยืนยันความรู้สึกตัวเองที่จะให้แบรด-แองจี้ไปอยู่กับคุณแม่น้องจีอุน               - ไม่ใช่ค่ะ หน่อยแจ้งคุณติ๋มว่า จะไปอยู่บ้านพ่อหลังนี้จนกว่าบ้านจะสร้างเสร็จ .............................................. จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 8 มี.ค. 52 23:30:33 ]

ความคิดเห็นที่ 22 เท่าที่อ่านแล้ว  รู้สึกสับสนคลุมเคลือ กับข้อมูลของแม่น้องจีอุน ก็เลยเข้าใจว่าทำไมคุณใบมอสทำเช่นนั้น ถ้าบอกตรงๆ จะเป็นปัญหา หรือเปล่า  คุณใบมอสเองก็คงทราบว่าแม่น้องจีอุนรักเด็กๆ  แต่ความพร้อม ในเรื่องที่พัก การเลี้ยงดู อาจจะยังไม่พร้อมจริงๆ เข้าใจว่ารักเด็กๆ ทั้ง 2 ฝ่าย แต่ความรัก ต้องอยู่บนความเป็นจริงด้วย เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนเคลียร์กันได้อย่างเข้าใจนะค่ะ รักกันไว้เถิด จากคุณ : แหม่มมี๊ - [ 8 มี.ค. 52 23:31:23 ]

ความคิดเห็นที่ 23 ต่อมาคุณแม่น้องจีอุน ยังโทรหาเราเพื่อขอรับอุปการะคลอเร็ท แต่ต่อมา คลอเร็ทเสียชีวิต - ใช่ค่ะ ................................. หลังจากนั้นคุณแม่น้องจีอุน โทรขอรับอุปการะทาโร่แทน และบอกให้พาอิมเมจ ไปเที่ยวด้วยเราก็เดินทางไปพัทยา พร้อมด้วยอิมเมจมีการเซ็นต์สัญญา ทาโร่เรียบร้อยเช่นกันส่วนอิมเมจ คุณแม่น้องจีอุน ก็บอกให้ไว้ที่นี่ก่อน เพื่อขอดูอิมเมจ เราก็ตอบตกลง - ไม่ถูกต้องค่ะ เพราะหน่อยไม่รู้จักอิมเมจแล้วหน่อยจะขออุปการะได้อย่างไร และหน่อยได้ถามถึงทาโร่ว่าได้บ้านหรือยัง คุณบอกว่ายัง หน่อยเลยบอกว่าขออุปการะด้วยละกัน ส่วนอิมเมจคุณพามาแล้วเค้าแลมีความสุขมากหน่อยเลยบอกว่าเอาเค้าพักร้อนไว้ที่นี่ก่อนก็ได้นะ คุณบอกตกลงเดี๋ยวอาทิตย์หน้ามารับกลับ (กลับไปดูกระทู้เก่า ๆ ได้เลยค่ะ) นี่ถ้าเราไม่เชื่อใจ เราก็คงไม่ได้ให้ไว้ถึงสี่ตัวเป็นแน่ ...................................... ต่อมาคุณแม่น้องจีอุน รับอุปการะอิมเมจ - ใช่ค่ะ เพราะเค้าน่ารักมาก ถึงจะปากเหม็นก้อน่ารัก แต่ก็ต้องไปถอนฟันที่โยกออกค่ะ โทรสอบถาม ศ.เมืองเอกพัทยาได้เลยค่ะ 038-233 200 หมออ้อ(เจ้าของไข้) .............................................. ระหว่างที่แบรด-แองจี้-ทาโร่-อิมเมจ อยู่พัทยาเราจะไปคอยไปเยี่ยมเยือน เราถามคุณแม่น้องจีอุนทุกครั้งว่าไหวมั้ย เพราะเมื่อไปดูความเป็นจริง เห็นใจคุณแม่น้องจีอุนไม่น้อยน้องหมาที่เลี้ยงก็ 6 ตัว แมวเปอร์เซียอีก หนึ่งตัว อยู่กันเต็มหน้าร้าน แต่คุณแม่น้องจีอุนยืนยันเสมอ ว่าเลี้ยงได้ เลี้ยงหมาสิบตัว ก็เหมือนเลี้ยงหกตัว เราฟังแล้วรู้สึกชื่นใจ ที่เธอคิดว่ามันไม่ใช่ภาระเพิ่มเติม                       - ใช่ค่ะ เหนื่อยเท่าเดิมค่ะ ................................................. คุณแม่น้องจีอุนเช่าหน้าร้านด้านล่าง เพื่อทำธุรกิจรถเช่าซึ่งบอกว่าทำมาเกือบปีแล้ว เพื่อนเราคนหนึ่งเคยถามเรา " เคยเห็นรถเช่าของคุณแม่น้องจีอุนไหม" เราก็ตอบว่าไม่เคยเห็น แต่เราก็ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะคิดว่าเป็นแค่หน้าร้าน เมือมีลูกค้า ก็จะไปเอารถมาจากที่อื่นให้เช่า - หน่อยบอกคุณติ๋มแล้วว่า ตรงที่หน่อยเช่าเป็นทางเข้าบ้านของเจ้าของบ้าน เราต้องมากั้นทำออฟฟิศเอง แล้วรถเช่าของเราไม่ได้จอดที่หน้าร้าน เพราะว่าเราเช่าที่จอดรถอยู่ข้างหลังซอย แล้วเราไม่ได้ปล่อยเช่าหน้าร้านรายวัน เราปล่อยเป็นรายอาทิตย์ รายเดือน รายปี คุณเคยถามเราก็ตอบคุณแล้ว แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 00:59:16 จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 8 มี.ค. 52 23:31:51 ]

ความคิดเห็นที่ 24 เข้ามาโหวตค่ะ จากคุณ : kodomo2008 (phusana) - [ 8 มี.ค. 52 23:33:12 ]

ความคิดเห็นที่ 25 คุณแม่น้องจีอุน ก็บอกวันเวลาที่เลื่อนไปจากเดิม กลับพะเยา ในครั้งแรก บอกว่า บ้านใหม่ที่พะเยายังสร้างไม่เสร็จ แต่กำลังเร่งก่อสร้าง (ก็เลยยังอยู่พัทยา) - ใช่ค่ะ ต่อมา - ก็เล่าอีกว่า ยังย้ายไปพะเยาไม่ได้ เนื่องจาก เจอะรถเช่าที่ถูกขโมยไปแล้ว ก็เลยต้องทำเรื่องนี้ก่อน - รถไม่ได้ถูกขโมยค่ะ แต่ลูกค้าคนไทยเช่าไปจำนำในบ่อนการพนัน แล้วต้องไปไถ่รถออกมา สามคันค่ะ เราก็ฟังเฉยๆ ก็คุยกันดีตลอดมา เป็นเพื่อนกัน ต่อมาคุณแม่น้องจีอุนบอกว่า จะย้ายไปอยู่บ้านคุณพ่อที่พะเยาแทน ต่อมา โทรหาเราตอนเย็น ว่า เช่าบ้านที่พัทยาแล้วนะ เพราะพี่สาว ไม่ยอมให้ไปอยู่บ้านพ่อ ถ้าเอาหมาไปด้วย เราถามว่า แล้วบ้านใหม่ที่สร้างล่ะ คุณแม่น้องจีอุนตอบว่าก็ชะลอไปก่อนได้ - ใช่ค่ะ เพราะต้องเอาเงินที่สร้างบ้านไปไถ่รถออกมาคันละ หนึ่งแสนบาทค่ะ สองวันต่อมา - คุณแม่น้องจีอุนโทรหาเราว่าย้ายมาอยู่บ้านคุณพ่อที่พะเยาแล้วนะ พอดีน้องผู้หญิงที่คุณติ๋มเห็น เค้าจะไม่อยู่กับหน่อย จะย้ายกลับโคราช ก็เลยตัดสินใจกลับพะเยา เราก็ถามว่าพี่สาวคุณหน่อย ไม่ว่าอะไรแล้วหรือ คุณหน่อยตอบว่า ไม่ว่าอะไร โทรเคลียร์กันแล้ว ก็เข้าใจ เรื่องก็จบ เราก็ถามว่า แล้วพี่สาวคุณหน่อยอยู่ที่ไหน คุณหน่อยอยู่พัทยา                           -ใช่ค่ะ หลานค่ะตกลงว่าจะอยู่เลี้ยงน้องหมาให้หนึ่งปีแต่พอได้บ้านแล้วจะย้ายวันรุ่งขึ้นเค้าบอกตอนที่เก็บของเสร็จแล้วเค้าบอกว่าจะกลับโคราช หน่อยกับสามีเหวอค่ะ ยกเลิกบ้านเช่า กลับพะเยาทันทีค่ะ           พี่สาวหน่อยอยู่พัทยาค่ะ แต่งงานกับคนอังกฤษค่ะ เราถามถึงเรื่องรถที่ว่าโดนขโมยไปสามคันนั้น เรื่องไปถึงไหนแล้ว (ที่ถามเพราะก่อนหน้าคุณแม่น้องจีอุน  บอกว่า ยังกลับพะเยาไม่ได้ เนื่องจาก ติดเรื่องรถ ) คุณแม่น้องจีอุน ตอบว่า คนที่เจอรถเค้าโทรมาบอกขอยืมไปขนยาก่อน เรายังบอกคุณแม่น้องจีอุนเลยว่า เอารถเราไปขนยาได้อย่างไร มันอันตราย น่าเป็นห่วงนะ - ใช่ค่ะ หน่อยคุยโทรศัพท์กับคนที่หน่อยจ้างเขาไปไถ่รถแล้วเค้าแซวว่ารถสวยขอยืมไปขนยาหน่อยก็บอกเอาไปดิ ยาแก้ปวดนะ แล้วก็หัวเราะค่ะ (แสดงว่าคุณติ๋มแอบฟังเราคุยโทรศัพท์ตลอด) ............................................... อีกสองันต่อมา คุณแม่น้องจีอุน โทรมาหาขอยืมเงินเราหนึ่งหมื่นบาท ขอให้โอนในวันนี้ เพราะด่วนมาก เพราะจะเอาไปคืนลูกค้า เราถามว่าคุณหน่อยไม่มีเงินเลยหรือ คุณแม่น้องจีอุนบอกว่า มีเงินแต่ไม่สะดวกไปโอน ให้คุณติ๋มโอนเงินให้ก่อนนะจะคืนให้วันที่ 18 กุมภาพันธ์ เราก็เลยบอกว่า แล้วแฟนคุณหน่อยที่อยู่พัทยา โอนให้ไม่ได้เหรอ (แฟนคุณหน่อย คุณหน่อยบอกว่ายังทำธุรกิจรถเช่าอยู่พัทยา และขับวินไปด้วย) คุณแม่น้องจีอุน บอกว่าเงินสดอยู่ที่หน่อย ติ๋มก็โทรกลับไปตอนเย็นอีก เพราะคิดว่าจะไปยืมเงินเพื่อนของเราๆมาโอนให้ใช้ไปก่อน เราถามว่า จะให้เราโอนเงินไปที่ไหน คุณแม่น้องจีอุนตอบว่า ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขที่ 938 203 4795 เราถามชื่ออะไร คุณแม่น้องจีอุ่น ตอบว่า อาภาภรณ์ สอนสุข สาขาบิ๊กซี อุบล         -ใช่ค่ะ หน่อยโทรคุยกับคุยติ๋มเรื่องเด็ก ๆ แล้วคุณติ๋มบอกหน่อยว่ามีอะไรให้เค้าช้วยก็บอกนะ หน่อยเลยบอก เออ ดีเลยค่ะ คุณติ๋มมีเงินติดบัญชีสักหมื่นหนึ่งมั๊ย คุณติ๋มบอกว่าไม่มี เราบอกไม่เป็นไรค่ะ (ทีไม่สามารถโอนได้พราะว่ายังทำธุระกรรมออนไลน์ของไทยพานิชย์ได้) แล้วไม่สามารถออกไปโอนได้เพราะห่างจากตัวเมือง 40 กิโลค่ะ ส่วนเรื่องบอกว่าจะใช้วันที่ 18 กพ นั้นไม่ใช่ค่ะ หน่อยบอกโอนใช้วันที่ แปดค่ะ เพราะว่าจะออกมาตัวเมืองค่ะ ส่วนเรื่องนี้ แล้วคำพูดที่ว่า มีอะไรให้ติ๋มช่วยก็บอกถือว่าติ๋มเป็นเพื่อน แล้วจะพูดออกมาทำไมคะ พอหน่อยพูดออกมาคุณก็คิดว่าเราไม่มีตังค์  ส่วนเรื่องตอนเย็นคุณโทรมาถามว่าแล้วเรื่องเงินหล่ะคะเป็นไงบ้างหน่อยบอกไม่ป็นไรค่ะ หน่อยคุยกับลูกค้าแล้วค่ะ         -แล้วเรื่องที่สามีหน่อยขับวิน มันผิดด้วยเหรอเพราะมันก็เป็นหนึ่งอาชีพเหมือนกัน รถเราปล่อยเช่าหมดแล้วจะให้เค้านั่งอยู่เฉย ๆ เหรอคะ การที่ขับวินมันเป็นอาชีพที่ต่ำมากเหรอคะ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 01:01:26 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 00:03:35 จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 8 มี.ค. 52 23:33:30 ]

ความคิดเห็นที่ 26 ที่เพื่อนเราบางท่านทราบถีงเรื่องเงิน เพราะเราไล่โทรขอยืมเงินไปให้คุณแม่น้องจีอุนในครั้งนี้ แต่ไม่มีใครให้เราค่ะ กลับเตือนเรามาด้วยนะ ด้วยความเป็นห่วง และรู้สึกแปลกกับเรื่องนี้ ต่อมา เราและเพื่อนๆ ได้คุยกันถึงเรื่องนี้ ต่างก็รู้สึกห่วงแบรด -แองจี้-ทาโร่-อิมเมจ ด้วยเหตุผลต่างๆข้างต้นที่บอกไป ความเห็นทุกคนตรงกัน ว่าควรขอคืน แต่ทำอย่างไรเพื่อถนอมน้ำใจและไม่ให้มีเรื่องมีราว หรือเกิดความขัดแย้ง ตอนแรกเราว่าจะพูดขอคืนเด็กทั้งสี่ตรงๆ โดยไปรับกลับจากพะเยา (ซึ่งถึงไม่มีเรื่องนี้ ก็ต้องไปอยู่ดีค่ะ เพื่อไปเยี่ยมอย่างที่บอกไป) แต่ก็ฉุกคิดว่าอาจจะไม่ได้คืนง่ายดายนัก แต่ยอมรับนะคะ ว่าเราเป็นห่วงพวกเค้ามากจริงๆ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน             -  เรื่องการขอคืนเด็ก อยากได้ก็พูดมาตรง ๆ ก็ได้ไม่ต้องมาโกหกหรอกค่ะ เพราะว่าหน่อยเป็นมนุษย์ ไอ้คำที่คุณบอกว่าอาจจะไม่ได้คืนง่ายดายนัก คุณคิดว่าหน่อยเป็นอะไรคะ หน่อยก็เลี้ยงหมาหกตัวแมวหนึ่ง แมวของพ่ออีกสองตัว หน่อยยังไม่เคยทำร้ายเค้าซักแอะ .................................................. ซึ่งการใช้ข้ออ้างว่านำมาถ่ายแบบ การถ่ายแบบเป็นเรื่องจริง เพราะจะเซทการถ่ายไว้สำหรับถ่ายปฎิทินสี่ขาในปี 2553 ก็เลยนำเรื่องตรงนี้เข้ามาพูดถึง เพื่อถนอมน้ำใจ และเพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากในกรณีที่พูดคุยกันไม่รู้เรื่อง เราไปในถิ่นเขา เราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างน่ะค่ะ                   - คุณติ๋มคะหน่อยและคนในหมู่บ้าน ถึงเราจะอยู่บ้านนอก พวกเราก็เป็นคนมีการศึกษา มีคุณธรรมพอคะ   ............................................... ก่อนที่จะไปพะเยา เพื่อนเราหลายท่านได้ลองโทรติดต่อ และอีเมล์ดูเพื่อติดต่อขอเช่ารถ แต่คุณแม่น้องจีอุน แต่ไม่รับสาย และไม่มีการตอบกลับมา ทั้งทางอีเมล์และทางหน้าเวปที่เช่ารถ เราอดที่จะแปลกใจไม่ได้ เพราะคุณแม่น้องจีอุนบอกว่า เปิดเนททุกวัน รับโทรศัพท์ลูกค้าตลอด - ไม่มี email เข้ามาเลยค่ะ แต่มีโทรศัพท์เข้ามาเยอะค่ะ ขอเช่ารถ หน่อยแจ้งว่าหน่อยไม่ปล่อยรถให้คนไทยเช่าค่ะ (เข็ดเรื่องรถหายค่ะ) ...................................... ก่อนหน้าเราเคยถามว่าธุรกิจคุณหน่อยดีไหมคูณแม่น้องจีอุน ตอบว่าดี เราถามว่าทำไมถึงย้ายมาพะเยา แล้วธุรกิจจะทำอย่างไร คุณแม่น้องจีอุนตอบว่า ใช้วิธีติดต่อกับลูกค้าทางอินเตอร์เนทและทางโทรศัพท์ ที่พูดคุยกันมาตลอด เราคิดว่าคุณแม่น้องจีอุนมีญาติพี่น้องอยู่พะเยา แต่ต่อมาสอบถามครังสุดท้าย คือคุณแม่น้องจีอุน อยู่ตัวคนเดียว ญาติอยูคนละจังหวัด  เวลาจะไปไหน ต้องวานให้คนข้างบ้านมาดูแลเด็กๆแทน - ใช่ค่ะ พี่สาวหน่อยเป็นครูอยู่ที่แพร่ค่ะ น้องสาว(ลูกของพี่สาวคนโต แต่พ่อแม่รับเป็นลูก)อยู่เชียงรายค่ะ หน่อยจะไปไหนต้อง จ้าง ผู้ใหญ่และเด็ก ๆ มาดูแลน้องค่ะ ไม่เคยทิ้งพวกเค้าไว้ตามลำพังค่ะ ถามว่าหน่อยผิดเหรอที่ทำอย่างนี้ ...................................... เมื่อพากลับมา เราพาน้องไปตรวจสุขภาพอีกครั้งด้วยค่ะ และผลก็คือ น้องอิมเมจก็เป็นไข้หัดนะคะ ส่วนแบรด แองจี้มีเห็บหมัด น้องทาโร่ มีผืนแดงที่ท้อง ตรวจสอบแล้วไม่พบว่าเป็นโรคหัดค่ะ จากนั้น เราจึงโทรไปบอกผลกับคุณแม่น้องจีอุน เพื่อขอคืนเด็กทั้งหมด และขอบคุณเธอที่เคยช่วยเหลือ พร้อมกับขอโทษที่ต้องเป็นอย่างนี้ ตอนที่เราพูดขอคืน คุณแม่น้องจีอุน ตอบโอเคค่ะทันทีด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร เราก็ยังบอกคุณแม่น้องจีอุน เราจะโอนเงินในส่วนที่คุณแม่น้องจีอุน ชำระโดยตรงกับโรงพยาบาลไปให้ ซึ่งตรงนี้คุณแม่น้องจีอุนก็ไม่ขอรับ เราก็ขอขอบคุณมากๆนะคะ เราบอกว่าเราจะพาเด็กขึ้นหาบ้านใหม่ คุณแม่น้องจีอุ่นก็ตอบว่า โอเคค่ะ                              -ใช่ค่ะ คุณโทรมาบอกว่า ....คุณหน่อยติ๋มขอเด็ก ๆ คืนนะคะ เราก้อได้แต่ งง งง พูดได้อย่างเดียว ค่ะ  ค่ะ (ไหนบอกเอาน้องไปถ่ายรูปไง) คุณก็รวบรัดบอกเราว่า จะหาบ้านให้น้องใหม่นะคะ เพราะว่าติ๋มรักเค้ามาก ติ๋มอยากให้พวกเค้าอยู่ไกล้หมอค่ะ อยากให้อยู่ในกรุงเทพ ค่ะ โอเค หน่อยรู้แล้วค่ะว่า ไม่อยากให้น้องอยู่บ้านนอก                            -หน่อยถามคุณติ๋มกลับว่า ....น้องอิมเมจเป็นไข้หัดแล้วหายแล้วเหรอถึงหาบ้านใหม่แล้วเค้ารักษาที่ไหนคะ แล้วคุณเอาทาโร่ไปไว้ไหน ส่วนแบรดกับแองจี้ตอนนี้คงนอนตาละห้อยอยู่ในกรงเหมือนเดิมหรือเปล่า                          - หน่อยถามว่าคุณติ๋มรักสัตว์แบบไหนแบบจริงใจหรือแบบใหน อยากรู้ค่ะ คุณอยากให้ใครคุณก็ให้  คุณอยากเอาคืนคุณก็สร้างเรื่องเพื่อที่จะเอาคืน  แค่นี้คุณก็โกหกหน่อย คุณรู้มั๊ยว่าเศร้าแค่ไหนที่เห็นทาโร่เกาะกระจกรถแล้วเห่า ๆ หาหน่อย น้องเวกิ วิ่งรอบบ้านหาทาโร่ หน่อยนั่งนับวันรอ อีกสองอาทิตย์ลูกก็จะกลับมาหาแม่แล้ว พอรู้ว่าคุณไม่คืนหน่อยต้องร้องไห้หลายวัน กว่าจะทำใจได้ จนต้องเก็บของที่เป็นของเค้าไว้ในกล่อง จะได้ไม่ต้องคิดถึง ................................................... อย่างไรก็ตาม เราในฐานะ ผู้ดูแลเด็กๆหาบ้าน ก็ยังยืนเจตนารมย์เดิม คือ อยากจะหาบ้านให้น้องใหม่นะคะ   และไม่อยากให้เกิดความเข้าใจผิดใดๆ ที่จะส่งผลกระทบต่อเด็กทั้งสี่ สำหรับคุณแม่น้องจีอุน  เราก็ยังอยากจะขอกล่าวคำขอบคุณที่เคยเมตตาช่วยเหลือ และอย่างน้อย การพากลับมาครั้งนี้ ก็ได้ช่วยลดภาระที่คุณแม่น้องจีอุน แบกรับอยู่ได้บ้าง                - คุณไม่ต้องสร้างภาพว่าต้องการลดภาระหน่อย หน่อยไม่ได้มีปัญหาเรื่องการเงินเพราะหน่อยยังทำรถเช่าอยู่ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 00:28:42 จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 8 มี.ค. 52 23:35:39 ]

ความคิดเห็นที่ 27 เฝ้าทู้อยู่ค่ะ สงสารน้องๆจัง เฮ้ออออ ... ต้องหาบ้านกันอีกกี่ครั้งถึงจะพอใจทั้งผู้ให้และผู้รับ เศร้าจังค่ะ แบบนี้ คุณแม่น้องจีอุน คงไม่อยากรับน้องไปอีกแล้วใช่มั้ยคะ? จากคุณ : แตงเมโกะ - [ 8 มี.ค. 52 23:42:16 ]

ความคิดเห็นที่ 28 เป็นกำลังใจให้นะคะ... จากคุณ : La_Or1007 - [ 8 มี.ค. 52 23:44:43 ]

ความคิดเห็นที่ 29 เข้าใจว่ารักหมากันทั้งคู่นะคะ เราไม่ได้เข้าข้างใครๆทั้งสิ้น เราเป็นคุณติ๋ม เราก็ต้องการให้เค้าได้สิ่งที่ดีที่สุด ไม่อยากให้ไปลำบาก  หรืออดอยาก ส่วนคุณหน่อย ก็มีความรักและผูกพันกับสุนัขทั้ง 4 ต่างคนต่างจิตต่างใจค่ะ หันหน้าเข้าหากัน ปรับความเข้าใจกัน คุยกัน เปิดอกเลย มีปัญหาเรื่องอะไร คิดกันยังไง อย่างน้อย จะได้ช่วยกันแก้ไข คนในพันทิพ เราเห็นรักกันค่ะ ช่วยเหลือมีน้ำใจซึ่งกันและกัน เราไม่อยากให้มาแตกกันเพราะเรื่องแค่นี้ น้องหมาทั้ง 4 คงสับสนวุ่นวายน่าดู สงสารน้องเค้าเถอะนะคะ อยากให้ happy กันทุกฝ่าย จากคุณ : kadujikiss - [ 8 มี.ค. 52 23:45:56 ]

ความคิดเห็นที่ 30 หน่อยถามคุณติ๋มว่า - ถ้าคุณคิดว่าคุณคือแม่พระของสัตว์จริง ๆ ขอคำนิยามคำว่าแม่พระหน่อยเถอะค่ะ - คำถามสุดท้ายหน่อยขอถามคุณว่า " ถ้ามีคนทำกับคุณอย่างนี้คุณจะรู้สึกยังไง" -------- ทำอะไรรู้อยู่แก่ใจ ----- ใจคุณรู้ดีที่สุด ------ คนอื่นไม่รู้แต่คุณรู้--- เวรกรรมมันมีจริงค่ะ----- แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 00:12:43 จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 8 มี.ค. 52 23:46:07 ]

ความคิดเห็นที่ 31 ต่างคน ก้อต่างพูดไม่ตรงกัน สรุป ก้อรู้กันแค่ 2 คน จากคุณ : ningnoi - [ 8 มี.ค. 52 23:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 32 กรรม... เฝ้าดูต่อไปค่ะ ขอให้อะไรๆ เป็นไปในทางที่ดีนะคะ จากคุณ : อายะจัง (ayakoxx) - [ 8 มี.ค. 52 23:53:02 ]

ความคิดเห็นที่ 33 ตามมาให้กำลังใจ แม่น้องจีอุน ค่ะ ............. เพิ่มเติมค่ะ  สำหรับเรานะคะ ถึงเรื่องที่คุณใบมอสพูดจะเป็นจริงทั้งหมด แต่เราว่าคุณใบมอสก็ไม่มีสิทธิทำแบบนี้ค่ะ เพราะก็ได้ตกลงให้ทั้ง 4 ตัวนั้นไปแล้ว  สุนัขทั้ง 4 ก็เป็นของแม่น้องจีอุนโดย ชอบธรรมค่ะ   จากเหตุผลที่ไปรับสุนัขทั้ง 4 คืนมา ก็เพราะคำว่า ไม่น่าไว้ใจ ระแวง  ซึ่งไม่มีเหตุผลที่เกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของสุนัขทั้ง 4 ตัวเลยค่ะ ไม่ได้กล่าวถึงตัวสุนัขเลยว่าสภาพเขาเป็นไร หน้าตาตอนนั้นเป็นทุกข์ หรือสุข ถ้าเขาเป็นสุขก็ดีอยู่แล้ว ไปแยกมาไม่สงสารเขาหรอค่ะ บางครั้งการที่เรารักเขามากไป อาจเป็นการทำร้ายเขาโดยไม่รู้ตัวนะคะ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 00:18:18 จากคุณ : moslop - [ 8 มี.ค. 52 23:54:23 ]

ความคิดเห็นที่ 34 มาเชียร์ค่ะ สู้ๆๆนะคะ เรื่องนี้พี่จะยืนข้างคุณถ้าคุณสู้ จากคุณ : PartyLM - [ 8 มี.ค. 52 23:55:28 ]

ความคิดเห็นที่ 35 แวะมาให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : kodomo2008 (phusana) - [ 8 มี.ค. 52 23:58:25 ]

ความคิดเห็นที่ 36 เฮอ..ปวดหัวจัง จากคุณ : คอขวด (คอขวด) - [ 8 มี.ค. 52 23:59:34 ]

ความคิดเห็นที่ 37 อะไรกัน คนไม่รู้จักมักคุ้น อยู่ดีๆจะมายืมเงินกันง่ายๆเหรอ  ฟังแล้วน่าเอะใจ จากคุณ : Angel_Blush - [ 8 มี.ค. 52 23:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 38 มาเฝ้าดูกระทู้ ไม่อยากจะพูดอะไรมาก...เพราะอะไรเป็นอะไรคนทำย่อมรู้อยู่แก่ใจ แต่ก็ขอยืนยัน...ไม่อยากให้ใครทะเลาะกันเลยจริงๆ ขอนอกเรื่อง...ที่คุณแม่น้องจีอุนถามว่ามีใครทราบบ้างว่าพี่ติ๋มทำงานอะไร และขอเสริมด้วยว่าเวลาหลังเลิกงานของพี่ติ๋ม คือเวลาที่ทำเพื่อน้องหมาจริงๆ ค่ะ ขอบตอบว่าทราบค่ะ และคิดว่าคนส่วนใหญ่ก็น่าจะทราบด้วยเหมือนกัน แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 00:13:35 จากคุณ : พลอยหุง - [ 9 มี.ค. 52 00:09:09 ]

ความคิดเห็นที่ 39 สงสารหมาจังเลยค่ะ จากคุณ : danayaj - [ 9 มี.ค. 52 00:11:13 ]

ความคิดเห็นที่ 40 น้องอิมเมจเป็นหัด คงจะคิดถึงบ้านที่พะเยาแน่ๆเลย เป็นหัดอยู่ แล้วหาบ้านได้ยังไงกัน ไม่เข้าใจค่ะ จากคุณ : PartyLM - [ 9 มี.ค. 52 00:25:34 ]

ความคิดเห็นที่ 41 เงินกับหมา..มันพูดยากค่ะ.. บางคนหน้าตาดี มีการศึกษา แต่งตัวดี..แต่มองแค่ภายนอกไม่ได้นะคะ เพราะคนเราถ้าคิดในสิ่งที่เลวแล้ว..ต่อให้ปรุงแต่งยังไง กลิ่นมันก็โชยออกมาอยู่ดีนั่นแหล่ะคะ.. อันนี้พูดถึงคนอื่นนะคะ..แต่ก็ให้กำลังใจทั้งคู่ ขอให้กลับมาหันหน้าคุยกันดีๆนะคะ..เข้าใจค่ะว่ารักน้องหมา..อาจมีเรื่องเงินด้วยมันเลยกลายเป็นประเด็นดุเดือดน่ะค่ะ..... จากคุณ : หวานกะพุ - [ 9 มี.ค. 52 00:26:32 ]

ความคิดเห็นที่ 42 ตามอ่าน อย่างห่วงๆ จากคุณ : noofon_jaja - [ 9 มี.ค. 52 00:28:24 ]

ความคิดเห็นที่ 43 ถ้าเรื่องถึงศาลแล้วจะเป็นยังไงคะ เพราะคุณหน่อย แม่น้องจีอุนถือสัญญาไว้นะคะ.................. รบกวนช่วยกดโหวต เพื่อให้ได้เป็นกระทู้แนะนำค่ะ  กระทู้โน้นหาบ้านมห้เด็กๆทั้ง4 กระทู้นี้ของแม่น้องจีอุน เพื่อการชี้แจง สาวกคุณติ๋มคะ ขอโทษด้วย เราไม่ได้หาเรื่องทะเลาะ ไม่คิดมาก่อนว่าจะมีวันนี้ ที่ต้องมายืนคนละข้างของนางฟ้าแห่งจตุจักร  เรามีแต่ใจที่ต้องการความเป้นธรรมให้แม่คนนึงค่ะ ด้วยความนับถือ และจะเฝ้ากระทู้ต่อไป จากคุณ : PartyLM - [ 9 มี.ค. 52 00:38:57 ]

ความคิดเห็นที่ 44 สำหรับเรื่องนี้ เท็จจริงเป็นอย่างไรเราไม่ทราบ ไม่ขออกความเห็น ได้แต่หวังว่าน้องหมาจะได้อยู่กับเจ้าของที่ใช่ และมีความรักให้เค้าจริงๆนะคะ แต่อยากฝากไว้ว่า ...อย่าตัดสินคนจากการงาน หรือเงินตราค่ะ เรื่องเล่าเล็กๆน้อยๆที่เคยเจอมา.... เราเคยเปิดร้านเพ็ทชอป และมีลูกค้าที่ประทับใจ อยู่ 3 คน คนหนึ่ง ขับ รถรับจ้าง เลี้ยง พูเดิ้ล เค้าพาน้องหมามาอาบน้ำตัดขนเป็นประจำ หมาเค้าสวยและสุขภาพดีมากๆค่ะ เวลามาเค้าจะซื้ออาหารพรีเมี่ยม ทั้งอโวเดิร์ม โปรแพลน รวมถึงพินนาเคิล แบบแบ่งขายให้น้องหมากินด้วย เราเคยถามเค้านะว่า จะลดให้ถูกลงกว่านี้หน่อยมั๊ย เค้าบอกว่า เค้าเลี้ยงหมา แค่นี้ เค้ายังไหวอยู่ อย่างมากเค้าก็กินน้อยลงหน่อย  -*- ส่วนอีกคน ขับรถรับจ้างเหมือนกัน เลี้ยงชิสุ 3 ตัว หมาไม่ได้สวยมาก แต่เค้าเลี้ยงได้ขนสวยน่ารัก สุขภาพดี แล้วน้องหมา ก็เป็นหมาอารมณ์ดีมากๆด้วย เค้าเป็นลูกค้าแค่ไม่กี่คนที่เลือกที่จะถามว่าอาหารยี่ห้อไหนดี ควรเลือกยังไง   ไม่ใช่ พวกที่มาถึงถามก่อนว่ายี่ห้อไหนถูก หรือยี่ห้อไหนดัง คนสุดท้าย ขับตุ๊กตุ๊กค่ะ แฟนเค้าขายหนังสือเก่าที่ตลาดนัด เค้าเลี้ยงหมาไทย เลี้ยงดีมากๆ แต่ไม่ได้ซื้ออาหารเม็ดค่ะ เค้าจะซื้อไก่มาต้มข้าวให้น้องหมากินน่ะ คนนี้เค้าจะมาซื้อพวกของเล่น และวิตามิน อาหารเสริมให้น้องหมาประจำ หมาเค้าป่วยเค้าเหมารถรับจ้าง พาหมาไปหาหมอที่เกษตรด้วยค่ะ (บ้านเราอยู่ชลบุรี) ทั้ง 3 คนเป็นลูกค้าที่ เราค่อนข้างจะชอบมาก และคุยกันจนสนิทเลย เพราะชอบวิธีการเลี้ยงหมา ดูแลหมาของเค้า ต่างจากพวกคนรวยๆอีกหลายๆคน ที่เลี้ยงแบบ เอาเงินซื้อของให้ เข้ามาถาม อาหารไหนดีสุด แพงสุด แต่ไม่เคยคิดจะถามว่าอาหารดีๆน่ะ เค้าเลือกกันยังไง ที่เจอบ่อยแล้วเบื่อที่สุดก็พวก ขับเบนซ์มา ถามหาอาหารถูกๆไปเลี้ยงหมาแพงๆ!! จากคุณ : นีออน - [ 9 มี.ค. 52 00:57:46 ]

ความคิดเห็นที่ 45 เกาะติกเรื่องนี้มาตั้งแต่ช่วงบ่ายแก่ๆ...จนถึงเวลานี้...และก็จะติดตามต่อไปเรื่อยๆ  จนกว่าเรื่องจะสิ้นสุดค่ะ เป็นกำลังใจให้แม่น้องจีอุนค่ะ ...เราไม่มีเจตนาจะต่อต้านใครเลยนะคะ...แต่บอกตรงๆว่าเห็นใจคนเป็นแม่ ที่ถูกพรากน้องหมาไปโดยไม่ได้ตั้งตัวน่ะค่ะ จากคุณ : La_Or1007 - [ 9 มี.ค. 52 01:11:39 ]

ความคิดเห็นที่ 46 อ่านเรื่องสับสนรายละเอียดอยู่ แต่วิเคราะห๋เกิดจากความรักน้องหมาทั้ง2คน อยากให้พูดกันตรงๆ เคลียกันให้ชัดเจน ด้วยภาษาพูดมากกว่าภาษาเขียน พรุ่งนี้ตามมาวิเคราะห์อีกที  สวัสดีลาเข้านอนนะคะ โหวตค่ะ จากคุณ : จริงใจ.......สบายจริง - [ 9 มี.ค. 52 01:27:05 ]

ความคิดเห็นที่ 47 เค้าเก่งนักล่ะ เรื่องที่พูดให้อีกฝ่ายกลายเป็นจำเลยน่ะ พูดให้ตัวเองดูเป็นนางฟ้า แล้วอีกฝ่ายกลายเป็นซาตาน ยังพอมีใครจำเรื่องแม่น้องเฟอร์บี้ได้มั่งคะ? หึหึหึ มาแนวเดียวกันเลย จากคุณ : แม่น้อง 5 โค (ครอบครัวตัว Co) - [ 9 มี.ค. 52 01:31:28 ]

ความคิดเห็นที่ 48 ไม่เคยรู้เรื่องแม่น้องเฟอร์บี้ค่ะอยากรู้มันเป็นเรื่องอะไรคะ จากคุณ : คอขวด (คอขวด) - [ 9 มี.ค. 52 01:40:42 ]

ความคิดเห็นที่ 49 อ้าว เฮ้อออ ไม่เคยรู้เรื่องแม่น้องเฟอร์บี้ค่ะอยากรู้มันเป็นเรื่องอะไรคะ  อยากรู้เหมือนกันค่ะ มี ลิ้งมั้ยค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 01:48:45 จากคุณ : นนนี่มาแล้ว - [ 9 มี.ค. 52 01:46:17 ]

ความคิดเห็นที่ 50 ต่อมอยากรุ้แตกซ่าน อยากรู้เรื่องน้องเฟอร์บี้ จากคุณ : แหม่มมี๊ - [ 9 มี.ค. 52 01:47:32 ]

ความคิดเห็นที่ 51 ใครก็ได้ช่วยสรุปย่อๆได้มั้ย... รู้แต่โหวตดีก่า.... จากคุณ : blur_blur - [ 9 มี.ค. 52 01:56:35 ]

ความคิดเห็นที่ 52 งง? จากคุณ : อายะจัง (ayakoxx) - [ 9 มี.ค. 52 02:14:12 ]

ความคิดเห็นที่ 53 ขอเป็นกลางก็แล้วกัน ไม่ถือหางใคร - -" ไม่ชอบการแบ่งพรรคแบ่งพวกค่ะ เหอๆ เอาใจช่วยให้เรื่องพวกนี้จบไปเร็วๆนะคะ ถึงยังไงก็เป็นคนรักสุนัขเหมือนกัน จากคุณ : Fah4fuN - [ 9 มี.ค. 52 02:41:49 ]

ความคิดเห็นที่ 54 อ่ะน่ะ....ผมกับน้ำหวาน จะรออ่านครับ จากคุณ : ง่ายยิ่งกว่านับ 123 - [ 9 มี.ค. 52 02:42:34 ]

ความคิดเห็นที่ 55 เอ่อ...อ่านแล้วสงสารน้องหมาอ่ะ เร่หาบ้านใหม่อีกแล้วเหรอเนี่ย... แล้วเมื่อไรน้องหมาจะได้อยู่นิ่งๆ อยู่กับที่ เพื่อเริ่มที่จะได้เรียนรู้ ทำความคุ้นเคย ทำความรู้จัก ได้รักและถูกรักกับเจ้าของใหม่ ที่เป็นเจ้าของที่แท้จริงสักทีอ่ะ.... ถ้าให้ไป แล้วเอาคืนอยู่แบบนี้ น้องหมาจะเจอกับเจ้าของที่แท้จริงของเค้าไหมเนี่ย จากคุณ : spitzdle (Spitzdle) - [ 9 มี.ค. 52 02:49:16 ]

ความคิดเห็นที่ 56 vote จากคุณ : หวานแหมว - [ 9 มี.ค. 52 03:23:16 ]

ความคิดเห็นที่ 57 อยากรู้อีกคนเรื่องแม่น้องเฟอร์บี้อ่ะ ...ต่อมแตกแล้วอ่ะค่ะ...ใครรู้บอกหน่อยจิ จากคุณ : La_Or1007 - [ 9 มี.ค. 52 04:06:15 ]

ความคิดเห็นที่ 58 อีกแล้วหรือคะคุณติ๋ม คุณทำแบบนี้มันไม่ถูกหรอกค่ะ เอาใจเค้ามาใส่ใจเราบ้าง หากคุณเป็นผู้โดนกระทำบ้าง คุณจะรู้สึกอย่างไรคะ นี่เป็นสาเหตุนึงกับนิสัยของคุณ ที่ทำให้เราหมดศรัทธาในตัวคุณ คุณรักน้องหมาน้องแมวเป็นสิ่งที่ดี แต่อย่าแล้งน้ำใจกับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเลยค่ะ มันจะทำให้เกิดผลกระทบจากน้องหมาของคุณเองนั่นแหละค่ะ ปล เรื่องของแม่น้องเฟอร์บี้รู้สึกกระทู้จะถูกลบไปแล้วนะคะ แต่เรื่องยังติดตาติดใจเราอยู่เสมอค่ะ คุณแม่น้องเฟอร์บี้ได้ขออุปการะน้องลังโคมไป เลี้ยงกันจนโตได้สองขวบ แต่ก็ต้องมาขอคืนน้องให้กับคุณติ๋ม เพราะน้องหมาวิ่งไล่กัดเด็กในหมู่บ้าน ที่ออกมาวิ่งเล่น ขี่จักรยานเล่น คุณน้องเฟอร์บี้ ได้ลงทุนถึงขนาดสร้างรั้วให้สูงขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้น้องหมาออกไปวิ่งไล่คนได้อีก แต่น้องลังโคมเธอก็สามารถค่ะ ที่ปีนรั้วออกไปจนได้ อันนี้เราเคยไปบ้านคุณแม่น้องเฟอร์บี้มา รั้วสูงจริงๆค่ะ โดยที่น้องหมาปีนออกไปโดยปีนจากต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ รั้วออกไป ซึ่งบ้านคุณแม่น้องเฟอร์บี้ ไม่ได้มีแค่น้องหมาลังโคมนะคะ แต่ไม่เห็นว่าใครตัวไหนจะมีความสามารถได้เท่าน้องเค้าเลย ด้วยความที่คุณแม่น้องเฟอร์บี้เองก็เกรงใจเพื่อนบ้าน ที่ต้องมาถูกน้องหมาวิ่งไล่ ทั้งที่ลงทุนทำรั้วใหม่รอบบ้าน และทำทุกอย่างแล้ว มันไม่ไหวแล้วค่ะ เลยบอกขอคืนน้องหมาให้กับคุณติ๋ม คุณติ๋มได้ขึ้นกระทู้หาบ้านให้น้องลังโคมใหม่ โดยสำนวนการเขียนอันน้ำเน่าของเธอนั่นแหละค่ะ  จนทำให้มีคนเข้ามาต่อว่าคุณแม่น้องเฟอร์บี้อย่างมาก เพราะคุณติ๋มเธอไม่ได้อธิบายไว้ ว่าเพราะอะไร เค้าถึงเอาน้องหมามาคืน เราคนนึงที่หมดศรัทธาในตัวคุณติ๋มเพราะเหตุการณ์นั้น กลับให้เรามาคิดใหม่ ถ้าเราไม่รู้จักคุณน้องเฟอร์บี้จริงๆ ว่าไม่ได้เป็นคนที่จะคิดทอดทิ้งน้องหมา หรือไม่มีความรับผิดชอบอย่างที่คุณติ๋มพร่ำตามสไตล์การเขียนของเธอ เราคงเข้าข้างคุณติ๋มต่อไป โดยที่อาจจะหลับหูหลับตาเชื่อคุณติ๋มจากสำนวนอันน่าหดหู่ ที่สามารถชักชวนอารมณ์คนให้คล้อยตามได้อย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากเหตุการณ์นั้น เหมือนทำให้เรากลับมามองตัวเอง ที่ผ่านมาที่เคยเข้าข้างคุณติ๋ม เคยไปโพสด่าแทนคุณติ๋มตามกระทู้ที่คุณติ๋มมีเรื่อง นั้นเป็นเพราะเราถูกหลอก ถูกยืมมือ ให้ไปด่าคนอื่นหรือเปล่า จากคุณ : NSY - [ 9 มี.ค. 52 06:53:37 ]

ความคิดเห็นที่ 59 ได้รู้เรื่องแม่น้องเฟอร์บี้แล้ว....เฮ้อ!....อาการต่อมอักเสบหายเป็นปลิดทิ้ง... ................................................................................. แต่ยังไงก็ยังยืนยันคำเดิมค่ะ...อยากให้คุยกันด้วยความเข้าใจ  ตรงไปตรงมา... เป็นกำลังใจให้นะคะ....เราไม่ได้อยากให้มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันในห้องนี้เลย เพราะพวกเราทุกคนมาอยู่ที่นี่ก็เพระเรารักน้องหมาเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น...ทุกอย่างน่าจะคุยกันตรงๆค่ะ...ข้องใจเรื่องอะไรก็ถามกันไปเลย...ไม่น่าหลอกกัน จากคุณ : La_Or1007 - [ 9 มี.ค. 52 07:05:19 ]

ความคิดเห็นที่ 60 "คุณรู้มั๊ยว่าเศร้าแค่ไหนที่เห็นทาโร่เกาะกระจกรถแล้วเห่า ๆ หาหน่อย น้องเวกิ วิ่งรอบบ้านหาทาโร่ หน่อยนั่งนับวันรอ อีกสองอาทิตย์ลูกก็จะกลับมาหาแม่แล้ว พอรู้ว่าคุณไม่คืนหน่อยต้องร้องไห้หลายวัน กว่าจะทำใจได้ จนต้องเก็บของที่เป็นของเค้าไว้ในกล่อง จะได้ไม่ต้องคิดถึง" อ่านประโยคนี้แล้วมันเศร้าจัง  สงสารหมา  แม่หมาด้วย  ทั้งคุณติ๋มและคุณหน่อยเป็นคนรักหมาแน่นอนทั้งสองคนแต่สงสารสภาพจิตใจหมานะ พออ่านกระทู้หาบ้าน ความแปลกมันมีหลายอย่าง เราเฝ้าอ่านตั้งแต่ คุณติ๋มยังโพสท์ไม่เสร็จ แต่พออ่านคห.ที่ 21 ใช้ชื่อกับล็อคอินคุณใบมอสแต่เปลื่อยชื่อ มาให้กำลังใจ  สรุปว่าคนเดียวกันโพสท์ แล้วทำเพื่อ  พอรู้ตัวความเห็นนั้นก็ถูกลบทิ้ง จากคุณ : danayaj - [ 9 มี.ค. 52 07:24:15 ]

ความคิดเห็นที่ 61 เข้ามาตามข่าวคะ  เป็นห่วงเด็กๆ จากคุณ : พายุหิมะ - [ 9 มี.ค. 52 07:43:53 ]

ความคิดเห็นที่ 62 เข้ามาสงสารม๋าค่ะ  บอกตามตรงนะคะเราเป็นคนรักม๋ามาก  ๆ  คนหนึ่ง   เราไปเอาม๋าจรที่คลอดลูกมาเลี้ยง  8  ตัวนะคะ  รวมแม่ด้วยเป็น 9 ทุกวันนี้เราเลี้ยงเด็กด้วยความรัก  และตามมาตรฐานของเราที่คิดว่าดีที่สุดแล้ว   ถ้าเราเป็นคุณหน่อย  เราก็คงเสียใจมากมายถ้ามีใครมาพรากลูกไป   แล้วถ้าเป็นแบบนี้  น้องหมาหาบ้านจะมีคนอุปการะยากขึ้นนะคะเพราะมาตรฐานต่างกันค่ะมาก สงสารน้องหมาค่ะ  สงสารจริง ๆ  บางทีเค้าอาจจะไม่ต้องการอะไรมากไปกว่ามีคนรัก  คนกอด  คนสนใจ  มีที่กว้าง ๆ  ให้วิ่งเล่น  มีเพื่อน จากคุณ : เรดกัส - [ 9 มี.ค. 52 07:44:55 ]

ความคิดเห็นที่ 63 เข้ามาให้กำลังใจค่ะ   ใครทราบบ้างคะ ว่าตอนนี้น้องหมาอยู่ที่ไหน   ป่านนี้คงเฝ้าคอยชะเง้อคอยที่จะได้กลับบ้าน รอฟังข่าวเด็กๆ นะคะ  โหวตอีกรอบค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 07:58:23 จากคุณ : kodomo2008 (phusana) - [ 9 มี.ค. 52 07:57:48 ]

ความคิดเห็นที่ 64 ขอเข้ามาเป็นกำลังใจให้ค่ะ จากคุณ : dear pukka (dear pukka) - [ 9 มี.ค. 52 08:11:29 ]

ความคิดเห็นที่ 65 จากกระทู้ลังโคมนี่แหละค่ะ ทำให้ดิฉันเตือนคนที่รู้จักที่ใคร่จะรับหมาจากเวบต่างๆ เพราะเห็นใจคุณเฟอร์บี้จริงๆ ตอนนั้นคุณใบมอสเขียนออกมาในแนวที่ผู้อ่านรู้สึกไม่ดีกับคุณเฟอร์บี้เลย ความดีงามความอดทน ความเสียสละแรมปีไม่มีความหมายแม้แต่น้อย (อ่านตอนแรกๆแล้วไม่ได้อ่านอีก ไม่ทราบว่าคุณใบมอสจะเข้ามาแก้ไขให้คุณเฟอร์บี้ในภายหลังหรือไม่) อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าคุณใบมอสเป็นคนที่รักหมาและดูแลอย่างดีด้วยความเสียสละจริงๆ กรณีคุณเฟอร์บี้เธอจึงใช้อารมณ์มากไปหน่อย แต่กรณีนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายพูดตรงกันในเรื่องปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ดิฉันกลับค่อนข้างเห็นใจคุณใบมอส เพราะคนเพิ่งรู้จักกัน มาเอ่ยปากยืมเงินแบบนี้ แสดงว่าคุณมีปัญหาสภาพคล่อง แม้ในบางช่วงก็ตาม อีกทั้งคุณมีลูกอยู่แล้ว 6 ตัว  เวลาดิฉันบอกคนรู้จักที่ไม่ถึงขั้นเพื่อน ว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอก ดิฉันไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะยืมเงินหรอกค่ะ ถ้าเขากล้ายืมแสดงว่าคงจำเป็นหรือจนมุมจริงๆ คือไม่สามารถหาได้จากเพื่อนหรือญาติแล้ว หรือไม่ก็ยืมคนทั่วไปจนเป็น"ปกติ" เท่าที่อ่านคุณหน่อยเป็นคนจิตใจดี สุภาพ น่ารักทีเดียว แต่ต้องปรับปรุงเรื่องการเอ่ยปากยืมเงินใครง่ายๆนะคะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนหรือญาติ หรือ คนที่ให้ยืมเป็นอาชีพ ก็อย่าพึงไปเอ่ยปากเขาเลยค่ะ มันดูไม่ดีจริงๆนะคะ จากคุณ : บงบุษบา (บงบุษบา) - [ 9 มี.ค. 52 08:19:50 ]

ความคิดเห็นที่ 66 มาให้กำลังใจแม่หมาค่ะ จากคุณ : jackkyjing - [ 9 มี.ค. 52 08:21:28 ]

ความคิดเห็นที่ 67 สงสารน้องหมาจังเลยค่ะ สงสารคนเป็นแม่ที่ถูกพรากลูกด้วย เราเข้าใจนะคะ ว่าทั้ง 2 ต่างก็รักน้องหมา ไม่รู้ว่าเราคิดถูกหรือเปล่านะคะ คุณแม่น้องจีฮุนเลี้ยงพวกเค้าไม่ได้ มาตรฐานส่วนตัว ของคุณติ๋มหรือเปล่า เราคิดว่าไม่ควรวัด ว่ามีเงิน หรือบ้านโต แต่วัดจากเด็กๆว่าเค้ามีความสุขหรือเปล่า น่าจะดีกว่ามั๊ยค่ะ จากคุณ : คนขี้เหร่อยากสวย - [ 9 มี.ค. 52 08:23:44 ]

ความคิดเห็นที่ 68 " แต่กรณีนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายพูดตรงกันในเรื่องปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น ดิฉันกลับค่อนข้างเห็นใจคุณใบมอส เพราะคนเพิ่งรู้จักกัน มาเอ่ยปากยืมเงินแบบนี้ แสดงว่าคุณมีปัญหาสภาพคล่อง แม้ในบางช่วงก็ตาม อีกทั้งคุณมีลูกอยู่แล้ว 6 ตัว  เวลาดิฉันบอกคนรู้จักที่ไม่ถึงขั้นเพื่อน ว่ามีอะไรให้ช่วยก็บอก ดิฉันไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะยืมเงินหรอกค่ะ ถ้าเขากล้ายืมแสดงว่าคงจำเป็นหรือจนมุมจริงๆ คือไม่สามารถหาได้จากเพื่อนหรือญาติแล้ว หรือไม่ก็ยืมคนทั่วไปจนเป็น"ปกติ" เท่าที่อ่านคุณหน่อยเป็นคนจิตใจดี สุภาพ น่ารักทีเดียว แต่ต้องปรับปรุงเรื่องการเอ่ยปากยืมเงินใครง่ายๆนะคะ ถ้าไม่ใช่เพื่อนหรือญาติ หรือ คนที่ให้ยืมเป็นอาชีพ ก็อย่าพึงไปเอ่ยปากเขาเลยค่ะ มันดูไม่ดีจริงๆนะคะ จากคุณ : บงบุษบา (บงบุษบา)  - [ 9 มี.ค. 52 08:19:50 ] " ตรงนี้เลยค่ะ จากคุณ : joeymydear - [ 9 มี.ค. 52 08:24:54 ]

ความคิดเห็นที่ 69 ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้เลย....เพราะสุดท้าย  น้องหมาก้อคือผู้ที่ได้รับผลจากการกระทำอันนี้......ลดทิฐิลงกันสักนิด  เปิดใจพูดกันดีๆ  เรื่องน่าจะลงเอยด้วยดีทั้งคู่นะคะ  ชื่นชมคุณติ๋มมาตลอด  รวมทั้งคุณแม่จีอุนด้วย.....ไม่อยากให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องเจ็บปวดนะคะ..........แล้วจะรอฟังข่าวดี จากคุณ : ดุ๊กกะดุ๋ย - [ 9 มี.ค. 52 08:26:43 ]

ความคิดเห็นที่ 70 จริงๆ..น่าจะพูดกันด้วยเหตุผล  ไปรับเด็กๆกลับมาเพราะอะไร... เค้าดูแลเด็กๆไม่ดี หรืออะไรจึงสมควรที่จะต้องเอาเด็กๆกลับ การไม่พูดความจริงมันนำมาซึ่งความแตกแยกนะคะ.. ต่อไปก็จะไม่มีใครกล้ารับเด็กๆหาบ้านอีก...เพราะกลัวปัญหา ย้อนมองวันเก่าๆ ของเด็กๆ ที่เค้าเคยตกระกำลำบากด้วย แล้วเค้าจะต้องเริ่มต้นใหม่อีกกี่ครั้ง...บ้านนี้ไม่ดีก็รับกลับ..หาใหม่ เด็กๆ ก็คงไม่เจอกับความสุขเสียที ... บ้านที่รวยล้นฟ้า มีให้เด็กๆทุกอย่าง...แต่ขาดความรัก... กับบ้านที่เต็มเปี่ยมด้วยความรัก  แต่อยู่กันตามอัตภาพ... คุณจะเลือกให้เด็กๆอยู่บ้านไหน... จากคุณ : สุนารีสุนารี - [ 9 มี.ค. 52 08:33:50 ]

ความคิดเห็นที่ 71 ลงชื่อช่วยโหวตครับ จากคุณ : คอบอล - [ 9 มี.ค. 52 08:50:40 ]

ความคิดเห็นที่ 72 เด็ก ๆ เป็นไงบ้าง เราบอกว่าเด็ก ๆ สบายดี เค้าบอกว่าถ้าคุณหน่อยมีอะไรให้ติ๋มช่วยก็บอกได้นะคะ เราเลยบอกว่าดีเลยค่ะ คุณติ๋มมีเงินติดบัญชีสักหมื่นหนึ่งมั๊ยคะ ------------------------------------------------------------------- เราเองก็ไม่ทราบว่าคุณแม่น้องจีอุนและคุณใบมอสสนิทกันมากแค่ไหน แต่ถ้าไม่ได้เป็นเพื่อนเราการยืมแบบนี้ ก็ทำให้อึดอัดไม่น้อย ถึงจะไม่มี  เพราะการเอ่ยปากของคุณติ๋ม คงคาดไม่ถึงว่า สิ่งที่ต้องการให้ช่วยคือแบบนี้ด้วย เราว่าคุณใบมอสก็มีเหตุผลส่วนตัว เราก็เห็นใจทั้งคู่  แต่สำหรับคุณใบมอสเป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบมาก ๆ ที่ขับรถไปรับไกลแบบนั้น  ทั้ง ๆ ที่จะปล่อยปละละเลยหมาที่ให้กับใครไปก็ได้  แต่คุณใบมอสก็ยังคงติดตามและอยากให้เค้ามีชีวิต  บ้านที่พร้อมที่สุด  แต่เราก็ยังคงเสียใจกับชีวิตเล็ก ๆ ที่ต้องมารับเคราะห์กรรม ว่าหลังจากนี้ชีวิตเค้าจะเป็นอย่างไร แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 09:30:51 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 09:21:00 แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 08:52:30 จากคุณ : N'cooky - [ 9 มี.ค. 52 08:51:25 ]

ความคิดเห็นที่ 73 Vote ^^ จากคุณ : ผีเฮี้ยน - [ 9 มี.ค. 52 09:00:36 ]

ความคิดเห็นที่ 74 ไม่รู้นะ บ้านเล็ก บ้านใหญ่ ไม่เห็นเป็นปัญหาเลย บ้านเรานะเล็ก แต่ความรักมีมากมาย.. อยากให้ทบทวนกันดีดี น้องหมาก็อายุมากแล้ว การหาบ้านใหม่ และการปรับตัวมันยากนะ เค้าคงสับสน หันมาคุยกันดีดี ดีกว่านะคะ ต่างคนต่างรักหมาเหมือนกัน คุยกันด้วยเหตุ ด้วยผล เรื่องจะจบลงอย่าง happy นะ ปล.ยังอ่านห่างๆ อย่างห่วงๆ เช่นเดิม จากคุณ : noofon_jaja - [ 9 มี.ค. 52 09:22:16 ]

ความคิดเห็นที่ 75 .......สงสารหมา   T_T ไม่ว่าคนจะเป็นยังไงกัน ก็ส่งผลกระทบกับชีวิตหมาๆทุกครั้งไป จากคุณ : everything is ok - [ 9 มี.ค. 52 09:30:47 ]

ความคิดเห็นที่ 76 สงสารเด็กๆจัง ป่านนี้พวกเค้าจะเป็นยังไงบ้าง อยากให้เรื่องจบลงด้วยดีนะค่ะ จากคุณ : iam_zuzie - [ 9 มี.ค. 52 09:35:19 ]

ความคิดเห็นที่ 77 อยากให้ give คห.70 จังค่ะ แต่ให้ไม่ได้ อยากบอกว่าควรคิดถึงความรู้กสึกของเด็ก ๆ ด้วยค่ะ ว่าเค้าอยู่กับพี่น้องเค้ามาพอสมควรแล้ว เค้ามีความสุข การที่เราไปพรากเค้ามา เค้าเศร้านะค่ะ  แล้วการที่จะพาเค้ามาหาบ้านใหม่ ให้เค้าปรับตัวใหม่อีก คุณไม่รู้สึกหรือว่าเค้าอาจจะเสียใจก็ได้เพราะเค้ารักเจ้าของที่เลี้ยงดูเค้ามา   การที่เราเอาความรู้สึกของตัวเราเองเป็นตัววัด เพราะคนเรามาตรฐานไม่เหมือนกัน บางครั้งก็ไม่ถูก เราจะคิดแต่ว่าอยากให้เค้าได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุด  แล้วเมื่อไหร่เค้าจะได้ในสิ่งที่เราตั้งไว้ก็ไม่รู้ เพราะเราตั้งไว้สูงไปหรือเปล่าค่ะ จากคุณ : (แม่บอล+น้องฟ้า) (สุชาดา) - [ 9 มี.ค. 52 09:40:00 ]

ความคิดเห็นที่ 78 แวะมาให้กำลังใจค่ะ จากคุณ : veenew - [ 9 มี.ค. 52 09:40:29 ]

ความคิดเห็นที่ 79 โหวตจ้า จากคุณ : atch - [ 9 มี.ค. 52 09:58:28 ]

ความคิดเห็นที่ 80 โหวดแล้วคะ สรุปแล้ว คุณทั้งสองต้องไปเครียกันเองนะคะ พวกเราก็คนนอก มีอะไร คุณก็รุ้อยู่เองแก่ใจว่า ใครเป็นยังไงกันแน่ จากคุณ : บ้านนี้อยู่แล้วฮา - [ 9 มี.ค. 52 09:58:58 ]

ความคิดเห็นที่ 81 ว่ากันตามความรู้สึกคะ อยากให้คืนเด็กๆเหล่านี้ให้คุณแม่น้องจีอุนเถอะคะ เข้าใจคุณติ๋มนะคะ แต่คุณติ๋มลืมไปหรือเปล่าคะว่าตอนแรกที่เจอน้องๆเค้าเป็นอย่างไร ความหวาดกลัว ความไว้เนื้อเชื่อใจของคนของเค้าลดน้อยขนาดไหน น้องหมาแต่ละตัวในการที่จะยอมรับเจ้าของใหม่แต่ละคนมันยากนะคะ ถึงเค้าจะเข้ากับคนง่ายก็ไม่ใช่ว่าเค้าจะรักใครง่ายๆ บ้านอยู่บ้านนอกจริง อาจจะมีเห็บหมัดบ้าง ไกลหมอบ้าง แต่เท่าที่เห็นรูปน้องเค้าน่ารักขึ้นเยอะเลยคะ กินอยู่ก็อาจจะไม่มีอาหารดีๆเช่นในกรุงเทพฯ  แต่อากาศบ้านนอกดี มีที่วิ่งเล่นกว้างขวาง ระหว่างน้องหมาที่ได้อากาศดีๆ อาหารพอควร กับการได้วิ่งเล่นออกกำลังกายอยู่กับเพื่อนๆทุกวัน น่าจะทำให้น้องๆแข็งแรงมากขึ้น และที่สำคัญคนบ้านนอกไม่มีใครจะเกลียดหมาถึงขั้นเอายาเบื่อมาวางแน่ๆๆ (แต่จะกินเลย ล้อเล่นคะ) แต่การที่คนเรามีปัญหาเข้ามาในชีวิต...มันเลือกไม่ได้พอๆกับน้องหมาเลือกเจ้าของคะ เท่าที่ดูการย้ายบ้าน การจัดการงานมันไม่ง่ายดายเลย กว่าจะติดเนต กว่าจะโน้นกว่าจะนี่ คนเราถ้าเป็นเพื่อนกัน บางครั้งการของยืมเงินอาจจะไม่ได้ต้องการเงินจริงๆก็ได้นะคะ แต่ถ้าเราไม่มีก็บอกไม่มี เพื่อนกันไม่โกรธกันหรอกคะ แต่ถ้าลองกล้าเอ่ยปากถามเค้าอาจจะคิดว่าคุณติ๋มเป็นเพื่อนเค้าจริงๆ แต่ถ้าไม่มีเราก็ให้คำปรึกษาแทนก็ได้นิคะ การให้กำลังใจกันจะดีกว่าคะ ไม่งั้นอนาคตข้างหน้าคุณติ๋มจะต้องไปเอาหมากลับมาจากคนที่เลี้ยงทุกคนแน่ๆ ถ้าทุกคนเกิดปัญหาแบบนี้ การเชื่อใจกันก็สำคัญคะ  คุณติ๋มรักน้องหมามาก คุณติ๋มลองดูสิคะว่าจริงๆแล้วน้องอยากอยู่กับใคร และอยู่แล้วเค้ามีความสุขไหม บางครั้งความสุขมันก็สั้น แต่ถามว่ายอมไหมที่จะมีความสุขแสนสั้นสักครั้งในชีวิต ที่สำคัญยังมีน้องหมามากมายรอคุณติ๋มอยู่นะคะ ถ้าหากเป็นแบบนี้น้องหมาที่เคสหนักๆและโชคร้ายกว่านี้จะทำอย่างไรคะ การไม่ไว้ใจกัน เกิดจากการไม่หันหน้าเข้าหากันและพูดกันตรงๆคะ อยากให้คืนให้น้องเค้าไปเถอะคะ คิดว่ายังไงแม่น้องจีอุน เค้าก็ไม่ปล่อยน้องหมาให้อดตายหรอกคะ แต่คนที่จะรักน้องๆได้มากแบบน้องจีอุน และพร้อมที่จะเลี้ยงก็หายากนะคะ อย่างน้อยๆเราก็รู้น้องอยู่ไหน ส่วนเรื่องอื่นๆ บางครั้งคนเราชีวิตมันไม่ได้สวยหรูคะ มันก็ต้องมีสะดุดกันบ้าง เราทำได้แค่ให้กำลังใจซึ่งกันและกันคะ คุณติ๋มกับคุณแม่น้องจีอุน ยังไงก็รักหมาด้วยกันทั้งคู่ อยากให้เห้นแก่น้องๆ คะ เรื่องที่มันผ่านไปแล้วก้ผ่านไป พอเราเอามาพูดกัน พูดกันไปพูดกันมาก็เสียกันทั้ง 2 ฝ่ายคะ และเสียหายมากที่สุดก็คงจะเป็นบัญชีน้องหมา อาจจะสั่นคลอนเรื่องความน่าเชื่อถือ  และกับคนที่อยากจะเลี้ยงน้องหมาในอนาคต ขอโทษที่ก้าวก่าย แต่อดไม่ได้คะ ขออนุญาตพูดในฐานะคนนอกและชื่นชมทั้ง 2 คนมากๆคะ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 10:27:06 จากคุณ : sherykik (sherykik) - [ 9 มี.ค. 52 10:05:03 ]

ความคิดเห็นที่ 82 เราขอพูดตรงนะๆ คะ อย่าโกรธกันนะคะ คืออ่านแล้ว เป็นเรา เราก็จิตตกนะคะ เรื่องยืมเงิน ถ้าเป็นเรา ไม่ใช่เพื่อน สนิท ญาติสนิท เราอึ้งอิ่มกี่เลยนะคะ มุมมองของเราถ้าเป็นคุณติ๋ม เราอาจจะทำเหมือนคุณติ๋ม คือ เอาหมาคืน มุมส่วนของคุณแม่น้องจีอุน  ** แม่เป๊ปซี่ก็คงไม่อยากถูกพรากหมาไปโดยที่มีสาเหตุแบบนี้นะคะ เพราะถ้ามองจากมุมของเรา คือเราเลี้ยงไหว ---แต่ตอนนี้มันเป็นลักษณะแบบนี้ไปแล้ว--- คุณแม่น้องจีอุน ถ้าคุณยังรับเลี้ยงเค้าทั้ง 4 ต่อไป  มันมีเรื่องเพิ่มมาให้คุณคิดมากขึ้นคือ ***คุณจะต้องมั่นใจว่า คุณจะยังรักน้องเค้าได้เท่าเดิมเหมือนก่อนที่จะมีเหตุไหมคะ *** เพราะว่าหากขุ่นมัวกับคุณติ๋มแล้วคุณจะ แยกออกได้ไหมคะ ว่าหมาส่วนหมา คนก็ส่วนคนค่ะ เราว่าทั้งคุณติ๋มและคุณแม่น้องจีอุน ลองคุยดูใหม่ไหมคะ เริ่มจากการขอโทษกันก่อน ที่ไม่คุยกันให้ดี แล้วนัง่คิดเรื่องหมาใหม่ 1. ถ้าเกิดสรุปที่หมาต้องหาบ้านต่อไป จะดีต่อหมาไหม 2. แล้วถ้าหมากลับไปอยู่กับคุณแม่น้องจีอุน หมาจะมีความสุขมากกว่าหรือเปล่า 3. ถ้าวันข้างหน้า คุณแม่น้องจีอุนไม่พร้อมขึ้นมา คุณแม่น้องจีอุนยังติดต่อคุณติ๋มให้รับหมากลับไปหรือไม่ เรื่องนี้ เราว่า น่าเห็นใจทั้งคู่เลยค่ะ แต่ไม่อยากให้โกรธกันเลยนะคะ แล้วก็ อยากให้ทุกท่านที่เข้ามาอ่าน มาออกความคิดเห็น มุ่งเน้นที่เรื่องหมาด้วย ช่วยกันคิด หาทางออกร่วมกันดีกว่า เรื่องอื่น อารมณ์มันพาไป ร้อนไปไม่ช่วยอะไรค่ะ ** สำหรับความเห็นส่วนตัวของเรานะคะ เราอยากให้ดูว่า หมาอยากกลับไปไหมน่ะค่ะ ** แต่เราก็ไม่โทษทั้งคุณติ๋ม แล้วก็คุณแม่น้องจีอุนนะคะ เห็นใจทั้งคู่เลยค่ะ ปล. แก้ไขข้อความค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 10:11:48 จากคุณ : PePsi_O - [ 9 มี.ค. 52 10:05:14 ]

ความคิดเห็นที่ 83 เฮ้อ.....ป่านนี้เด็กๆ เป็นไงบ้างหนอ ยิ่งอ่านก็ยิ่งเศร้า... จากคุณ : kodomo2008 (phusana) - [ 9 มี.ค. 52 10:06:22 ]

ความคิดเห็นที่ 84 ไปดูรูปน้องมาแล้ว น้องน่ารักขึ้นกว่าเดิมเยอะ อันเป็นผลจาความพยายามของคุณแม่ทั้งสอง ถือว่าคุณแม่น้องจีอุนสอบผ่านนะคะ จากคุณ : sherykik (sherykik) - [ 9 มี.ค. 52 10:08:52 ]

ความคิดเห็นที่ 85 .. ไม่ค่อยอ่านละเอียดนักนะคะในแต่ละครั้ง ตามที่คุณใบมอสส่งกระทู้มาให้ช่วยโหวต รู้สึกแค่อยากให้น้องหมามีบ้านใหม่เร็ว ๆ ก็เลยกดโหวตให้ แต่เมื่ออ่านเจอปัญหาแล้ว รู้สึกสลดค่ะ นึกถึงตัวเอง เพราะเคยคิดว่าถ้าบ้านหลังใหม่เสร็จเรียบร้อยเมื่อไหร่ จะไปขอมาเลี้ยงด้วยซัก 2 ตัว หากต้องมาเจอกับการตรวจสอบแบบระยิบขนาดนั้น บุกถึงบ้าน เพื่อตรวจสภาพคล่องทางเศรษฐกิจด้วย โอยยยยยยยย หรือเกิดปัญหาเลี้ยงไม่ได้เพราะเหตุสุดวิสัย ส่งคืนก็โดน ประนาม !! ++ คงต้องไปหาซื้อมาเลี้ยงแทน น่าจะสะดวกกว่า เฮ้อ!! น้องหมาที่น่าสงสารก็คงจะต้องไร้บ้าน  เร่ร่อนกันต่อไป อย่าทำเรื่องง่าย ๆ ให้เป็นเรื่องที่ยากเลยค่ะ . ขอให้เรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดีในเร็ววันนะคะ สงสารเค้าเหลือเกินค่ะ  "น้องหมา" . จากคุณ : หม๋องแหม๋ง - [ 9 มี.ค. 52 10:11:19 ]

ความคิดเห็นที่ 86 เราไม่สามารถวัดได้หรอก...ว่า ใครที่จะให้ความรัก และเลี้ยงดูพวกเค้าได้ดีกว่ากัน เพราะมาตรฐานคำว่า "สิ่งที่ดีที่สุด" ของแต่ละคนก็ต่างกัน ...ตอนนี้เด็กๆคงสับสน ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตตัวเอง ...ไม่รู้เลยว่า แม่ๆทังหลายกำลังทะเลาะกัน... ....เพียงเพื่อหา"สิ่งที่ดีที่สุด"ให้กับพวกเค้า... ถ้าหากเด็กๆพูดได้... เราน่าจะลองมองตา แล้วถามเค้าดีมั้ยว่า " หนูอยากอยู่กับใครคะ??" จากคุณ : sorceressnt - [ 9 มี.ค. 52 10:13:22 ]

ความคิดเห็นที่ 87 ต้องขอโทษด้วยนะคะ  เราไม่อยากยุ่งเกี่ยวเรื่องอะไรนะคะ แต่อยากเล่าถึงลังโคม ที่เราเห็นหลังจากที่เจ้าของเขาส่งคืนคุณใบมอส   ลังโคมได้อยู่ในสถานที่ฝากเลี้ยงแห่งหนึ่ง จากการสังเกตุพฤติกรรมที่เราไปเห็นเขามาหลายต่อหลายครั้ง ลังโคม ไม่มีอาการซน เขาจะมีมุมส่วนตัวเก็บตัวอยู่ในห้องน้ำ เวลาแจกขนม เขาจะไม่กล้ามากินเพราะกลัวหมาตัวอื่นกัด แววตาเขาดูเศร้า และจะไม่ไปไหนไกลจะอยู่ในมุมของตัวเอง เหมือนกันหมาตัวอื่นๆ เราก็ไม่รู้ว่าอดีตลังโคมเคยเป็นยังใง  แต่ตอนนี้เขาเปลี่ยนไปแล้วคะ เรื่องอื่นๆเราไม่ขอไปยุงเกี่ยวนะคะ จากคุณ : ตัวตรง (ตัวตรง) - [ 9 มี.ค. 52 10:34:16 ]

ความคิดเห็นที่ 88 อ่านแล้วเศร้าใจ ไม่เข้าใจทั้งหมด รู้แต่ว่าน้องหมาควรมีบ้าน แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 16:03:17 จากคุณ : เคนเคนลักกี้ (Star-Backs) - [ 9 มี.ค. 52 10:42:57 ]

ความคิดเห็นที่ 89 อ่านมาถึงตรงนี้ ยังไม่ใครสักคนออกมาแถลงว่า โดนแม่จีอุนเอาหมามาเป็นข้ออ้างใช้เป็นเครื่องต่อรองใดๆเพื่อฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของตน  เธอก็รักหมามากๆเหมือนพวกเรา ในเมื่อพี่ติ๋มเสนอตัวเองว่าจะช่วยเหลือ   เสนอภาพว่ามีมิตรภาพ มีน้ำใจให้เขา  กล้าให้ ..เขาก็กล้าขอ--> ขอแล้วไม่ให้ ...เขาก็ไม่ได้โยเยใดๆ ไม่มีการเอาหมามาต่อรอง แล้วพี่จะจิตตกทำไมค๊า เหตุที่เกิดขึ้น มันมีสิทธิ์สงสัยได้ แต่ไม่ควรตรวจสอบแบบคิดเอง เออเอง ที่สำคัญ คือ คิดอกุศลเกินไป  เอาปัญหาแค่หยิบมือ มาขยายเป็นความผิดใหญ่โต อ่านข้อมูลประกอบ ทั้งเรื่องดูหน้าร้านเขาไม่มีรถเช่าแล้วเอามาประมวล คิดว่าเขาโกหก  ขอถอนใจคะ เราเช่ารถขับประจำ เพราะลงไปธุระที่ภูเก็ต  ร้านรถเช่าประจำ(บู๊ทขวาสุดในแอร์พอร์ต) ที่ร้านไปไม่เคยมีรถ ยกเว้นคันที่จะเช่า แต่เขามีรถ สิบกว่าคัน  โทรไปจองได้จะเอายี่ห้อรถตัวไหน ราคาถูกกว่าเช่าเอวิสด้วยซ้ำ ดังนั้นร้านรถเช่า เขาไม่จำเป็นต้องจอดรถไว้เยอะๆให้คนรู้ ยกเว้นตรงนั้นเป็นโชว์รูมรถไว้เรียกลูกค้า แต่ในความเป็นจริงแล้ว รู้อะไรไหมคะ คนเรามักโอ้อวดสิ่งที่มีมากกว่าความเป็นจริงทั้งนั้น(ด้วยความเคารพ ไม่ได้หมายถึงแม่จีอุน แต่หมายถึงมนุษย์ทั่วไป) ดังนั้นถ้าไปรู้ว่าเขาจนกว่าที่เราคาดไว้ ก็อย่าไปคิดมากคะ ให้รู้ว่ามีอาชีพ มีงานทำ มีบ้านเป็นหลักแหล่ง และรักหมาดูแลหมาดีมันพอแล้ว ภาพที่คิดไว้ ถ้าไม่เปลี่ยนจากหน้ามือนุ่มนิ่ม เป็นหลังติงหนาปื้น  ก็ให้หยวนๆไปซะบ้าง นี่มัน nature ของคนนะคะพี่น้อง   ดังนั้น ทำอะไรอยากให้คิดถึงใจหมาให้มันมากๆ เขาไปอยู่ที่นั่นได้สักพักใหญ่ มีเพื่อนๆหมาด้วยกัน มีครอบครัวของเขาแล้ว เอากลับมา ก็ไม่ได้มีความรักทียิ่งใหญ่กว่ารออยู่ ใจเขาจะเป็นอย่างไร เพื่อนเขา แม่เขาไปไหนแล้ว .. และถ้าหมาป่วยเป็นหัดจริง เราเศร้ามากนะคะ เพราะหมาของแม่จีอุนที่พเยา  ไม่มีตัวไหนติดเชื้อหัดเลย แสดงว่ารับมาที่กรุงเทพแล้วมาติดเชื่อหัดที่นี่ อ่านแล้ว.. สงสารหมาคะ ตอนนี้ ชิวิตหมามันดีกว่าเดิมตรงไหนคะพี่ ความจริง มันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้หรอก ไม่ว่าจะพยายามสื่อสารด้วยคำพูดให้ดูดีแค่ไหน แต่ข้อมูลตรงนี้  ภาพที่เห็น คือ คนที่รับหมาไปเลี้ยง ไม่ได้ทำสิ่งใดผิดถึงขนาดที่จะไปรับหมาคืน เพราะเขารักและดูแลน้องหมาอย่างดีตามที่ได้ตกลงกันไว้ ข้างบนนั้น เขียนตรงๆเลยนะพี่ ปัจจุบันปุ๋มกับพี่ติ๋ม อาจมีเรื่องที่หักๆงอๆถลอกปอกแหกกันอยู่บ้าง แต่มันก็เขียวๆช้ำๆอยู่ข้างนอก ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่โตต้องผ่าตัดอะไรกันวุ่นวาย  เพราะยังไงเราก็ยังช่วยหมาอยู่เหมือนกัน   คราวนี้จึงขอเตือนพี่ ด้วยความหวังดีปนเสื อกเล็กน้อยตามนิสัย ถึงปุ๋มจะไม่ได้ดีทั้งตัวทั่วพร้อม  แต่ตอนนี้มันเห็น เรือมีรอยรั่ว แล้วทำเป็นเมินเฉย ไม่ออกปากบอกกัน  ก็ไม่ควรถือว่าเป็นคนรู้จักกันนะ ต่อไป พี่จะยิ่งหาบ้านให้หมาลำบากขึ้นเรื่อยๆ สัญญาให้ยืมหมาเลี้ยงชั่วคราว ที่ระบุว่าให้ไปเยี่ยมหมาได้ของพี่ คนอาจจะไม่อยากเซ็นแล้ว เพราะนี่คือกรณีศึกษา ว่าพี่เอาหมากลับมาได้ทุกเมื่อ   ดังนั้น อนาคตถ้ามีปัญหาในการทำงาน  อยากให้คุยและรับฟัง คนที่เขาเป็นผู้ใหญ่พอทางความคิดและอารมรณ์ (EQ สูงๆ) จะได้แก้ปัญหาด้วยความเข้าใจ เป็นขั้นเป็นตอน   กรณีนี้ มันไม่เหมือนการแก้ปัญหาหรอกพี่   เหมือนเป็นการรบ่อนทำลายสิ่งดีๆที่พี่สร้างมามากกว่า ก็ฝากไว้ให้พี่ลองคิดดู (ถ้าไม่อยากคิดก็ไม่ไปนไร ฟังๆเอาไว้  วันไหนไม่มึน โทสะ โมหะ จิตอาฆาตมาดร้ายไม่มี อาจจะนึกอะไรดีๆได้ ) จากคุณ : น้องต๋าว - [ 9 มี.ค. 52 10:43:09 ]

ความคิดเห็นที่ 90 ไม่อยากพาดพิง หรือด่วนสรุปอะไรใด ๆ แต่จะบอกว่า บางครั้ง เรื่องเงิน ก็ไม่เกี่ยวกันกับความรักทีเรามีให้น้อง ๆ ลูกปลากะแฟนเคยขาดสภาพคล่อง ถึงขนาดเหลือเงินติดตัว 20 บาท ถามว่า 20 บาททำอะไร 1. ซื้อผักให้กระต่าย 5 บาท (1 มัด) 2. ตับไก่ปิ้ง 1 ไม้ กะข้าวสวย 1 ถุง (15 บาท) นั่งมองดูเด็ก ๆ กินข้าวอร่อย ส่วนลูกปลากะแฟน ไม่กินมื้อเย็น  นอนกอดกันร้องไห้ (555) พอวันรุ่งขึ้น รู้ตัวว่า เงินไม่เข้าแน่  ก็ไปที่โรงเรียนอนุบาล บอกแม่ครัวว่า จะมาขอข้าวที่เหลือไปให้น้องหมา  ขอแค่ชามเดียว ตอนบ่าย (หลังเด็กพักเที่ยง) จะแวะมาเอา แม่ครัวใจดี  เก็บใส่ถุงให้ แยกข้าว  แยกต้มยำไก่ ที่ไม่เผ็ด เพราะทำให้เด็กกิน แล้วก็เนื้อเยอะมาก  เก็บไว้ให้  ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้ค่ะ ดังนั้น ถ้าถามว่า สำหรับคนเป็นแม่ ๆ อย่างเรา ต่อให้ไม่มีเงินยังไง ก็กระเสือกกระสนหาข้าวมาใส่ท้องลูก ๆ ให้อิ่มหนำได้ ถ้าคิดว่า ไม่มีเงิน ไม่ควรเลี้ยงหมา ลูกปลาว่าไม่ใช่เหตุผล ทุกวันนี้ พอมีเงิน ต้องซื้อซีซาร์มาตุนไว้ให้คุณชายใหญ่ แล้วก็อาหารกระต่ายดี ๆ ถุงละ 430 มาไว้ให้คุณชายน้อย และเหตุการณ์ครั้งนั้น ทำให้เรา (ลุกปลาและคุณแฟน) รู้ว่า เรารักเด็ก ๆ ของเรามากแค่ไหน จากคุณ : plako-plako - [ 9 มี.ค. 52 10:49:20 ]

ความคิดเห็นที่ 91 หน่อยขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้กำลังใจและเข้ามาติเรื่องพฤติกรรมของหน่อย ขอเรียนตรง ๆ ว่าไม่ทราบว่าคุณติ๋มเที่ยววิ่งไปยืมเงินเพื่อนให้เรา ทั้ง ๆ ที่หน่อยคิดว่ามันจบตั้งแต่ตอนที่คุณติ๋มบอกไม่มี....ไม่คิดว่าเราจะสร้างความลำบากให้คุณ...ถ้าเป็นเรื่องนี้หน่อยก็ขอโทษคุณติ๋มนะคะ.... เพราะเราคิดว่าเค้าเป็นเพื่อน เพื่อนของหน่อยก็คือคุยได้ทุกเรื่อง แต่ตอนนี้รู้แล้วค่ะว่า เพื่อนกันอย่าคุยกันเรื่องเงิน สรุปว่า... ที่เค้ามาเอาน้องคืนไปเพราะว่าเราขอยืมเงืนเค้า....อืมม... เวลาคุณไป พัทยา คุณก็เห็นเวลาเค้ากินอาหาร มีซีซาร์ มีรอแยลคานิน มีของขบเคี้ยววางให้กินตลอด ...แล้วที่สำคัญหน่อยอยากบอกคุณติ๋มว่า ทีหลังอย่าโกหกเดี๋ยวจมูกจะยาวเหมือน พิน๊อคคิโอ..... มีอะไรก็บอกกันตรง ๆ เลยดีกว่าค่ะ ....หน่อยยังชื่นชมคุณอยู่นะคะ เรื่องการช่วยเหลือสัตว์ของคุณเพราะตัวเราเองคงไม่มีปัญญาทำได้อย่างคุณ...... ++++++++++++ ภาพข้างล่างนี้พาเจ้าหกแสบที่บ้านไปวิ่งเล่นที่สนามของโรงเรียน เกือบจะทุกวันค่ะ++++++ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 11:05:58 จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 9 มี.ค. 52 10:54:48 ]

ความคิดเห็นที่ 92 คุณแม่น้องจีอุน มีใบสัญญาอยู่หรือเปล่าคะ ในนั้นระบุแบบนี้หรือเปล่าคะ เช่น "เขาสามารถเอาหมาคืนได้โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า" "สามารถเอาสุนัขคืนไม่ว่ากรณีใดๆ ที่ผู้ให้ไม่พอใจ" ถ้ามีต้องทำใจ ถ้าไม่มี จะสามารถทำไรได้บ้าง เพื่อทวงสิทธิ์ของคุณ บางทีสัญญาฉบับต่อไปเค้าอาจเพิ่มเติมลงไปด้วย คนรับเลี้ยงจะได้มีสิทธิ์ในการเลือก ไม่งั้นคนรับเลี้ยงคนต่อไปก็คงโดนตรวจสอบละเอียดยิบ ตรวจสอบกันตลอดปี ตลอดชาติ ไม่พอใจ ขอคืนเรื่อยๆ คนเลี้ยงเขามีความผูกพันไม่แพ้กัน คนรักหมาด้วยกันคงเข้าใจความรู้สึกดี อยากให้เรื่องจบด้วยดี คืนหมาให้แม่น้องจีอุนไปเถอะคะ ใจเขาใจเรา เจ็บปวดเหมือนกัน แต่ใครทรมานมากกว่า ลองคิดดู จากคุณ : หมูชมพูออนไลน์ - [ 9 มี.ค. 52 10:55:18 ]

ความคิดเห็นที่ 93 อยากให้แม่น้องจีอุนเอาใบสัญญามาแปะให้ดูอ่ะค่ะ หรือไม่ก้อก๊อปข้อความมาให้พวกเราได้ศึกษาดู เป็นกำลังใจให้นะคะ..... ไม่ได้ตั้งใจให้เกิดการแตกแยกในห้องหมา แต่เห็นใจแม่น้องจีอุนมาก จากคุณ : PartyLM - [ 9 มี.ค. 52 11:12:02 ]

ความคิดเห็นที่ 94 เป็นกำลังใจให้นะคะพี่หน่อย ตาลเชื่อว่าพี่หน่อยรักและเป็นห่วงเด็ก ๆ จริง ๆ ไม่ว่าใครจะว่าอย่างไรตัวเรารู้ดีที่สุด ตาลมานั่งคิดตั้งแต่ที่พี่หน่อยโทรมาเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง คุณติ๋มก็คงมีเหตุผลของเค้า คิดว่าเด็กๆไม่ได้ทำบุญมากับเราเถอะค่ะ แต่ยังงัยตาลก็ยังเชื่อว่าพี่หน่อยรักเด็ก ๆ พวกนี้จริง ๆ เพราะตอนที่น้องคลอเร็ทไม่สบายพี่หน่อย นั่งรถมาเยี่ยมจากพัทยา ถ้าคนไม่รักคงไม่ทำแบบนี้ เป็นกำลังใจให้นะคะพี่หน่อยมีเรื่องไม่สบายใจโทรมาเล่าสู่กันฟังได้นะคะ ตาลช่วยอะไรได้ไม่มากอย่างน้อยก็ช่วยรับฟังพี่หน่อยได้ สู้ ๆ ค่ะ จากคุณ : tarn_g - [ 9 มี.ค. 52 11:31:48 ]

ความคิดเห็นที่ 95 เอาใจช่วยแม่น้องจีอุนค่ะ จากคุณ : แม่ครุกแชงค์ - [ 9 มี.ค. 52 11:37:21 ]

ความคิดเห็นที่ 96 อีกนิดนะคะตาลคิดว่าคุณติ๋มเค้าหาบ้านให้เด็ก ๆ แล้วถ้าได้บ้านที่ดีก็ดีไปแต่ถ้าได้บ้านที่ไม่ดีเค้าก็คงต้องไปรับเด็ก ๆ กลับมาอีก แล้วเด็ก ๆ พวกนี้ก็จะไม่มีบ้านที่ถาวร สงสารพวกเค้านะคะกว่าจะปรับตัวได้มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ตาลคิดว่าถ้าเป็นตาลเอง เลี้ยงบราวนี่กับบีเวอร์มาด้วยความรัก ใครมาพูดว่าเลี้ยงหมาแล้วเป็นภาระเราจะเถียงแบบสุดใจว่าเค้าไม่ใช่ภาระแต่เค้าคือความสุขและความรักของเรา แล้ววันนึงคนที่หาบ้านให้มาเอาเค้าไปจากตาลคงรับไม่ได้(ไม่ให้แน่ ๆ ด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่) ไม่มีทางจะเอาพวกเค้าไปจากตาลได้แน่ ๆ ค่ะ จากคุณ : tarn_g - [ 9 มี.ค. 52 11:37:48 ]

ความคิดเห็นที่ 97 สงสัยจะผิด ที่ไปเอ่ยปากยืมเงินเค๊า ผิดที่ตอนนั้นเราไม่มีตัง ทำให้เค๊าคิดว่าเราอาจจะลำบากในการเลี้ยงดูเด็ก ๆ เหอะๆๆ ตลกดี แต่ก็น๊ะ การไม่บอกตรง ๆ เรื่องเอาน้องทั้ง 4 กลับมานั่นล่ะ ที่เป็นเหตุไม่ชอบ เป็นใคร ๆ ก็เสียความรู้สึกค่ะ เลี้ยงกันมาตั้งนาน อยู่กันมาดี ๆ นึกจะมาเอาคืนก็มาเอา ถ้าเค๊าไม่รัก เค๊าไม่หอบกันกลับไปพะเยาหรอกค่ะ อย่างบางบ้านบางทีเค๊าก้มีช่วงลำบากกันบ้างล่ะที่ไม่มีเงิน ไม่ใช่คนร่ำรวยมาจากไหน มีตังค์ก็ซื้อของดี ๆ ให้ลูกกิน ไม่มีตังค์ หรือมีน้อยหน่อย ก้อซื้ออีกอย่างให้ แต่ไม่มีอด เด็ก ๆ มีความสุข มีบ้านให้อยู่ มีเพื่อนให้เล่น มีแม่ที่รัก มีพี่ มีน้อง มีคนปลอบใจ มีไออุ่นจากอ้อมกอด ดีกว่าอยู่ในกรงแคบ ๆ ที่ทำให้เค๊ารู้สึกเหมือนการถูกทิ้ง หรือถูกพลัดพรากอีกทีน๊ะ ถ้าเค๊ามีปากมีเสียงพูดได้ ก็ดีน๊ะ จะได้รู้ว่าเค๊ามีความสุขไหมที่ได้อยู่กับคนที่รักเค๊าและเค๊ารัก เรื่องเห็บหมัด อยู่กะดิน วิ่งเล่นทุ่งหญ้า ต่างจังหวัด มีบ้างก็ไม่เห็นจะแปลก นู๋เลี้ยงในบ้าน ให้กินยา ฉีดยา ก็ยังมีเล้ย นี่ขนาดไม่ค่อยให้ไปเล่นไปฉี่นอกบ้านน๊ะ (แต่ไม่รู้ที่เค๊าว่าน่ะมีมากขนาดไหนน๊ะ) คิดในใจ อยากให้ลองแม่น้องจีอุน กะ คุณติ๋ม เค๊าเรียกอ่ะ ดูสิ ว่าเค๊าอยากไปหาใคร เค๊าน่าจะมีสิทธิ์เลือกได้เน๊าะ จะได้รู้ว่าเค๊าต้องการที่จะหาบ้านใหม่ หรือว่าอยู่ในบ้านเก่ากันแน่ อ่านอีกความเห็นที่ว่าอยู่คนเดียว บ้านไกลไปหาหมอลำบาก ก่อนหน้านั้นก็รู้นี่นาว่าต้องย้ายไปอยู่ ทำไมไม่บอกซะตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่งั้นก็บอกไปตรง ๆ เลย ไม่ต้องไปลักลูกเค๊ามา ทั้ง ๆ ที่น้องเค๊าไม่ได้โดนทารุณกรรมซะหน่อย บอกกันดี ๆ ก็ได้ สงสารเด็ก ๆ ต้องเคว้งคว้างอีกนานแค่ไหนกันน๊ะ จากคุณ : แม่ซูชินี่ & กัสจัง (NungNongNu) - [ 9 มี.ค. 52 11:50:41 ]

ความคิดเห็นที่ 98 ขออนุญาตหยิบยกบาง คห จากกระทู้หาบ้านนะคะ -------------------------------------- ดิฉันได้ยินเรื่องตั้งแต่ หมาโดนรับกลับมาคืนมากรุงเทพแล้ว ในอาทิตย์นั้น ว่าถ้าโดนทวงถาม จะแจ้งทางเจ้าของว่าหมาป่วยส่งกลับคืนไม่ได้ เรื่องทั้งหมดถูกวางแผนมาตั้งแต่ ตอนก่อนขึ้นไปรับหมาคืนมาแล้ว สาเหตุ จาก คุณแม่น้องจีฮุนโทรไปยืมเงินคุณติ๋มหลายครั้ง และ/หรือ คุณแม่น้องจีฮุนจะไม่มีเงินเลี้ยงหมาได้ ดิฉันต้องยืมล็อคอินเพื่อนมาใช้เฉพาะกิจ เพราะรักตัวกลัวตายจึงไม่กล้าใช้ล็อคอินตัวเอง  แต่เรื่องทั้งหมดยืนยันได้ว่าได้ยินมาจริงๆ และไม่ได้ยินมาจากทางคุณแม่น้องจีฮุนและเพื่อนๆของเธอแน่นอน แหล่งข่าวไม่สามารถแจ้งได้ แต่เชื่อว่า มีคนได้ยินเรื่องนี้อย่างดิฉันแน่ๆ ขอแจ้งให้ทราบ ว่าดิฉันไม่มีเจตนาใส่ร้ายคุณแม่น้องจีฮุนเลยแม้แต่น้อย มีแต่สงสาร แต่ไม่แน่ใจถึงความจริง จึงไม่กล้าจะยืนอยู่ฝั่งไหน   จึงแจ้งให้ทราบเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายคะ กรุณาอย่าส่งหลังมายใดๆหาดิฉันคะ เจตนาโพสครั้งเดียว และคืนล็อคอินนี้กับเพื่อนทันทีคะ อีกครั้งดิฉันยืนยัน ว่าได้ยินมาจริงๆ และมิได้แต่งเติมเสริมแต่งเรื่องใดๆทั้งสิ้นคะ จากคุณ : รายวัน  - [ 8 มี.ค. 52 18:53:42 ] จากคุณ : PartyLM - [ 9 มี.ค. 52 11:54:09 ]

ความคิดเห็นที่ 99 อ่านแล้วสะเทือนใจ ต่างฝ่ายต่างรักหมา แต่มันผิดพลาดไปตรงที่ความคิดบางอย่างนี่เอง เชื่อว่าถ้าคุณแม่น้องจีอุนรู้ว่าคำขอยืมเงินประโยคนั้นเป็นเหตุให้คุณใบมอสจะพาหมากลับมา คุณแม่น้องจีอุนคงไม่เปิดปากเป็นอันขาด เชื่อว่าคุณใบมอสเองก็อยากจะให้หมาได้แต่ในสิ่งดีๆ ปล่อยวางแล้วคุยกันดีกว่าไหมคะ ว่าน้องหมาอยากอยู่ทีไหน ทางออกไหนจะดีที่สุดสำหรับเขา แบบว่าไม่ใช่อย่างที่ใจเราคิด แต่อย่างที่เขามีความสุขด้วยน่ะค่ะ เราไม่ได้สงสารคนนะคะ เราสงสารหมา ปล. คุณ  plako-plako  ความเห็นที่ 90 น่ารักมากเลยค่ะ ซึ้งมากเลย เป็นเราก็คงทำอย่างที่คุณทำ แต่ยอมรับเลยว่าจำใจแน่ๆ (คือไม่อยากทำ แต่จำใจ 555) จากคุณ : =p o o k p u i= - [ 9 มี.ค. 52 11:58:00 ]

ความคิดเห็นที่ 100 เข้ามาให้กำลังใจทุกๆท่านที่รักน้องหมานะคะ เราเป็นเพียงคนอ่านไม่ได้รับทราบความนึกคิดใดๆทั้งสิ้นของทั้งคุณแม่น้องจีอุนและคุณใบมอส แต่เราเชื่อว่าทุกๆการกระทำของทั้งสองท่านก็เกิดมาจากความรักที่มีให้ต่อสี่ขาตาดำๆที่พวกเราในที่นี้ทุกคนรักนะคะ ดังนั้น เหตุผล มุมมองของคนหลายๆคนอาจจะแตกต่างกันได้ แต่อยากให้ทุกคนใจเย็นๆและคิดไว้เสมอว่า จุดประสงค์ที่มีห้องนี้ขึ้น ที่สมาชิกทุกคนมารวมตัวกันเยอะขนาดนี้ก้อเพื่อน้องหมาที่พวกเรารัก อย่าเอาพวกเขามาเป็นชนวนให้เราทะเลาะกันเลยคะ อย่าเอาอารมณ์ใส่กันเลยคะ ทำอะไรขอให้คิดถึงความรู้สึกเขาให้มากที่สุดนะคะ *ยังไงส่วนตัวก้อขอให้กำลังใจให้น้องหมาทั้ง4 แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจนะคะ *ขอให้เรื่องนี้จบลงด้วยดีค่ะ *และขอให้ทุกๆท่านที่มีจิตใจรักและเมตตาต่อน้องหมา อย่าท้อเพียงเพราะเรื่องนี้นะคะ จากคุณ : Janissa (FashionMania) - [ 9 มี.ค. 52 12:05:57 ]

ความคิดเห็นที่ 101 น้องทาโร่.....เจอกันวันแรก คิดในใจ โหมันต้องกัด ปอม กะชิสุห์ ชั้นตายแน่เลย แต่ผิดคาดค่ะ ทาโร่เป็นที่รักของพวกเราและน้องๆ มาก เพราะพี่โร่จะยอมน้องทุกอย่าง ....เวลาพี่โร่ดื้อแม่ก็จะยกมือชี้หน้าพี่โร่..พี่โร่อย่านะ... พี่โร่ก็จะหมอบหงายท้อง..แล้วใครมันจะกล้าตีพี่โร่...พี่โร่จะชอบให้แม่อุ้มแล้วพี่โร่ก็จะเอาคางมาซบไหล่แม่...(หน่อยเริ่มร้องไห้อีกแล้วค่ะ....แม่คิดถึงพี่โร่มากนะลูก)               +++++++++++++++++ ป้าอิมเมจ....เห็นเค้าวันแรก น่าสงสาร ตาก้อฝ้าฟาง ปากก็หอมรันจวนมากจนต้องพาไปหาหมอ ....ตาของเค้าเริ่มมองเห็นบ้างหลังจากที่หมอให้ยาหยอดตาที่มีคุณสมบัติไปละลายต้อ .....ปากด้านใน เป็นแผล ทั้งสองข้าง ..... ฟัน หินปูนเพียบ มีฟันผุที่ต้องถอน ....คุยเรื่องค่าใช้จ่ายและวิธีการรักษากับหมอเข้าใจแล้ว อีกสามวันวางยา เหตุการณ์ผ่านไปด้วยดี...ปากกลับมาหอม ป้าอิมเมจ ดีด้ากลับมากินอาหารกับขนมได้เหมือนเดิม......... อิมเมจ....เค้าร่าเริงมาก น้องแง่มอิมเมจ อิมเมจไม่เคยโมโหน้อง ยกเว้นเรื่องเดียว ตอนเค้าหลับ ถ้าน้องวิ่งไปเหยียบเค้านิดนึงก็จะ ของขึ้น ใล่กัดน้อง .... แม่ห่วงอิมเมจมากนะจ๊ะ รู้มั๊ย.........                        ++++++++++++++ น้องแองจี้...ขรึม ไม่สุงสิงกับใคร  ชอบเอาคางมาเกยหลังเท้าแม่เวลาเล่นคอมพ์ .....แองจี้ยิ้มยากคะ แต่อย่าให้แองจี้คึกนะคะ เค้าจะวิ่ง ๆๆๆๆๆ รอบบ้าน แล้วก็มาหอบแฮ่ก ๆๆ ต่อหน้าแม่ แม่เลยต้องเอาแองจี้ขึ้นมากอดทุกครั้ง แล้วเค้าก็จะเดินไปนอน ในที่ที่ไม่ห่างจากแม่มาก...... ........ แม่คิดถึงแองจี้ อยากกอดหนูมาก.........                  +++++++++ แบรด (นักเลงแบรด) ....เค้าเป็นขาโจ๋ ใครเข้าบ้านแบรดต้องแง่มตลอด โดนทุกคน พ่อหนุ่มคนนี้เค้าจะมีโลกส่วนตัวเยอะ ตอนกินห้ามเข้าไกล้ เดี๋ยวมีมวย.... แต่ตอนแปลงร่างเป็นหมาขี้อ้อน ก็อ้อนได้ใจ นอนหงายท้องให้เราเกาพุง ....ถ้าแม่ไม่เห็นแบรดก้อจะมานอนหงายไกล้ ๆ แม่.... .........แม่คิดถึงแบรดนะครับ แม่ยังอยากเกาพุงให้แบรดอยู่นะครับ.....                     ++++++++++++++++ จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 9 มี.ค. 52 12:12:43 ]

ความคิดเห็นที่ 102 ใจร่มๆดีกว่ามั้ยคะ   เรื่องนี้เป็นการมองต่างมุมกันค่ะ ไม่ว่าจะเรื่องที่อยู่ การเลี้ยงดู และรวมไปถึงประเด็นยืมเงิน เราคนนอกอย่าไปวิพากษ์วิจารณ์ให้เป็นประเด็นยืดยาวไปดีกว่า คนหาบ้านให้หมา ย่อมนึกถึงสวัสดิภาพของหมาก่อนอยู่แล้ว พูดด้วยความสัตย์จริงว่า   แม่ละมุนเองก็เคยติงคุณใบมอส  เรื่องให้หมาแม่น้องจีฮุนไปถึง 4 ตัว ทั้งๆที่เธอมีเด็กๆอยู่แล้วตั้ง 6 ถามใบมอสว่า แม่น้องจีฮุนมีคนช่วยเลี้ยงมั้ย ไหวเหรอ ขนาดแม่ละมุนแค่ 5 สาว ก็หัวฟูแล้ว โดยเฉพาะตอนอาบน้ำ ไดร์ขน แต่ใบมอสก็ยังเชื่อใจยกเด็กๆให้ไปอยู่กับแม่น้องจีฮุน ใครที่ใบมอสยกเด็กๆให้ไปอยู่ด้วย  ใบมอสคัดเป็นอย่างดีแน่นอน เพราะกว่าที่จะตัดสินใจได้ เธอจะเลือกแล้วเลือกอีก เท่าที่ตามการหาบ้านของใบมอสมาตลอด เธออาจจะผิดที่อยู่ๆก็ไปรับกลับมาโดยที่ไม่บอกตรงๆ แต่แม่ละมุนเชื่อว่า เพราะว่า ใบมอสไม่อยากทำแม่น้องจีฮุนเสียน้ำใจมากกว่า จึงพาเด็กๆกลับมาก่อน ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้เข้าข้างใบมอส  แต่ด้วยความที่ตามการทำงานของเธอมาตลอด แม่ละมุนคิดว่า เธอมีเหตุผล  และคงเกรงใจแม่น้องจีฮุน อยากให้เคลียร์กันให้จบ และมุ่งหาบ้านให้เด็กๆดีกว่า   อย่าเอาเรื่องเก่ามารื้อฟื้นดีกว่า   เท่าที่รู้ตอนนี้ลังโคมก็ยังไม่ได้บ้าน  เหตุเพราะใบมอสมาตั้งกระทู้หาบ้านแล้วมาทะเลาะกันแบบนี้หล่ะ สรุป กรรมตกกับหมา ใช้เวลาพิสูจน์กันไปค่ะ  อย่าเพิ่งตัดสินใครแค่ตัวหนังสือ จากคุณ : แม่ละมุนคุณละไม - [ 9 มี.ค. 52 12:20:40 ]

ความคิดเห็นที่ 103 เป็นกำลังใจให้ แม่น้องจีอุน ครับ ... เท่าที่อ่านมา คุณแม่น้องจีอุน ก็ดูแลเด็กๆได้เป็นอย่างดี ประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่อยู่ตรงที่การไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ กันมากกว่า โดยส่วนตัวต้องขอตำหนิคุณใบมอสตรงๆว่า บางทีการคิดอะไรไปเอง (โดยมีคนอื่นคอยผสมโรง ช่วยจับผิดให้ด้วย) โดยไม่เคลียร์กับคู่กรณีโดยตรง จะทำให้เรื่องบานปลายไปกันใหญ่ ทั้งๆที่ไม่มีอะไรในกอไผ่ เลยจริงๆ ... ทีนี้น้องๆทั้ง 4 ตัวจะเป็นยังไง ต้องหาบ้านใหม่ ทั้งๆที่บ้านเดิมก็ไม่ได้ทำอะไรผิด? เรื่องแบบนี้น่าจะจบลงที่ การคุยกันดีๆ และถ้าคุณแม่น้องจีอุนยังอยากได้น้องกลับก็น่าจะคืนให้เค้า อย่างที่หลายๆท่านได้พูดไปแล้วว่า บางทีมาตรฐานของคนไม่เท่ากัน แต่เงินไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง และหมาที่เราไปช่วยมาจากท้องถนน ถูกทำร้าย เป็นโรคสารพัด มีชีวิตยากลำบาก ... ถ้าได้มีบ้านอยู่ มีคนให้ความรัก มีข้าวกิน มีวัคซีนฉีดให้ ไม่ถูกทำร้าย แค่ชีวิตที่มั่นคงและดีกว่าที่เคยเป็น ... ก็น่าจะเพียงพอแล้ว ส่วนเรื่องสัญญาการอุปการะ ... ก็เข้าใจคุณใบมอสจากกรณีซัมซุง ทำให้ต้องมีสัญญาแบบนั้น แต่พูดตรงๆ ว่าจะทำให้หาบ้านยากขึ้น หลายคนที่อยากช่วยคงถอดใจ เพราะนี่ไม่ใช่แค่ช่วยเลี้ยง แต่เป็นการถูกประเมิน ฐานะและอะไรหลายๆอย่างของผู้ที่มาช่วยไปในตัว และวันดีคืนดีเมื่อไม่ผ่านการประเมินก็อาจถูกริบหมาคืนได้ แล้วความผูกพันที่ผ่านมาจะมีใครรับผิดชอบ ... สุดท้ายต้องขออภัยที่อาจพูดตรงไปหน่อย แต่ก็อยากให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี จากคุณ : Historicus - [ 9 มี.ค. 52 12:21:47 ]

ความคิดเห็นที่ 104 เราเพิ่งทราบว่าในสัญญานั้น เป็นแค่สัญญาฝากเลี้ยงเท่านั้น คุณติ๋มมีสิทธิ์จะเอาน้องหมากลับไปทุกเมื่อ และสัญญาของทาง4ขา จะเป็นแบบนี้ทุกเคส แล้วแบบนี้ต่อไปจะมีใครกล้ารับน้องหมาไปเลี้ยงอีกแล้วล่ะคะ สงสารน้องหมาค่ะ และเราคิดว่าถึงคุณหน่อย แม่น้องจีอุนจะสู้เพียงใด ผลสุดท้ายไม่มีทางชนะได้เลย และคงไม่มีทางได้เด็กๆทั้ง4มาอยู่ในอ้อมกอดอีกแล้ว เสียใจด้วยนะคะ เว้นแต่............. คุณติ๋มจะไตร่ตรองให้ดีๆ แล้วมอบน้องๆคืนให้คุณแม่เค้า คืนเด็กๆกลับสู่อ้อมอกคนเป็นแม่อีกครั้ง ทั้งนี้ทั้งนั้น อยู่ที่คุณติ๋มคนเดียวเท่านั้นค่ะ ส่วนตัวเราคิดว่า ถ้าคุณติ๋มอยากจะทำการใดๆ โดยไม่ฟังเสียงใคร เพราะคุณติ๋มคิดว่าเด็กๆเป็นของคุณติ๋ม คุณติ๋มต้องดูแลเด็กๆ และเป็นคนเดียวเท่านั้นที่จะตัดสินชะตาของเด็กๆได้ คุณติ๋มไม่สมควรจะรับเงินบริจาคค่ะ ควรจะใช้เงินทุนส่วนตัว ทุกบาท ทุกสตางค์ ในการช่วยน้องหมา ทุกๆเคส เพราะเหมือนคุณติ๋มพยายามเป็นคนตัดสินชะตากรรมของเด็กๆ โดยใช้ตัวเองเท่านั้นเป็นใหญ่ เราคิดแบบนี้ค่ะ จากคุณ : PartyLM - [ 9 มี.ค. 52 12:25:37 ]

ความคิดเห็นที่ 105 ยาวมากค่ะ แต่ก็อ่าน อยากให้น้องกลับไปอยู่กับคุณหน่อยค่ะ ถึงจะอยู่บ้านนอก แต่อากาศดีนะคะ ถ้าคุณหน่อยไม่รักเด็ก ๆ ก็คงไม่หอบหิ้วกันไปพะเยาหรอกค่ะ  ถ้าคิดว่าเป็นภาระก็คงจะคืนผู้ให้ตั้งแต่วันที่ยกเลิกสัญญาเช่าบ้านที่พัทยาแล้ว เพราะไม่มีใครช่วยเลี้ยงประจวบเหมาะกับเด็กที่จะช่วยเลี้ยงน้องม๋าจะกลับบ้านต่างจังหวัดอีก เหตุผลต่าง ๆ นานาที่คุณหน่อยกับคุณใบมอสรู้ลึก ๆ นั้นก็รู้แค่ 2 คน เราเป็นคนนอกที่รับรู้เรื่องผ่านตัวอักษร อยากให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน ขอให้คุณหน่อยได้น้องหมาคืนนะคะ เราเชื่อว่าคุณรักเด็ก ๆ จริง ๆ เลี้ยงได้ดีจริง ๆ เราก็คนบ้านนอก เข้าใจค่ะว่าสภาพบ้านต่างจังหวัดเป็นอย่างไร ถนนเป็นดิน มีทุ่งหญ้า ฟางแห้ง วัว ควาย ( บ้านน๊อก บ้านนอกนะบ้านเรา ) เวลาเรากลับบ้านก็พาเด็ก ๆ กลับไปด้วยวิ่งกันกระจาย หน้าคลุกดิน ลงน้ำ สาระพัดที่จะทำเพราะในกรุงเทพไม่มีที่แบบนี้ คับที่อยู่ได้  คับใจอยู่ยาก น้องหมาก็คงจะบอกเราอย่างนี้ เพียงแต่เค้าพูดไม่ได้ ไม่สามารถสื่อสารได้ว่าเค้าต้องการอะไร  สิ่งที่สองฝ่ายต้องคิดคืออะไรกันแน่ที่ตุ๊กตาน้อย ๆ เหล่านี้ต้องการ  ตุ๊กตาที่อยู่ต่างจังหวัดมอมแมม เขรอะขระเพราะการเล่นแต่ฉาบไปด้วยความรักของแม่และครอบครัวเดียวกันอีกหลายตัว มีกินด้วยกัน อด ๆ ด้วยกัน แบบนี้หรือเปล่าที่ตุ๊กตาหาบ้านเหล่านี้ต้องการ หรือต้องการให้ตุ๊กตาเหล่านี้ไปอยู่บ้านใหญ่โตมีคนดูแล แต่ความรักที่ได้รับนั้นจะเท่าที่เค้าเคยได้จากแม่คนเดิมหรือเปล่า โอ๊ยพิมไปก็สับสนตัวเอง ติดตามอ่านนะคะ จากคุณ : ยืมชื่อเพื่อนมาโพสต์ (ณ.ลุ่มน้ำสาละวิน) - [ 9 มี.ค. 52 12:27:27 ]

ความคิดเห็นที่ 106 เธออาจจะผิดที่อยู่ๆก็ไปรับกลับมาโดยที่ไม่บอกตรงๆ แต่แม่ละมุนเชื่อว่า เพราะว่า ใบมอสไม่อยากทำแม่น้องจีฮุนเสียน้ำใจมากกว่า จึงพาเด็กๆกลับมาก่อน ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้เข้าข้างใบมอส  แต่ด้วยความที่ตามการทำงานของเธอมาตลอด แม่ละมุนคิดว่า เธอมีเหตุผล  และคงเกรงใจแม่น้องจีฮุน ---------------------------------------------------------- แม่ละมุนคะ แต่เรามองว่าคุณติ๋มเป็นคนไม่มีความจริงใจค่ะ คนที่อายุเท่านี้ น่าจะมีภาวะความเป็นผู้ใหญ่เพียงพอ ผู้ใหญ่เค้าไม่คิด และทำแบบนี้ค่ะ จากคุณ : PartyLM - [ 9 มี.ค. 52 12:29:04 ]

ความคิดเห็นที่ 107 นานๆ ครั้งจะเข้ามาดู  บางทีก็โหวตบ้าง แต่ครั้งนี้เรา อดที่จะแสดงความคิดเห็นไม่ได้ เพราะเราสงสารเด็กๆ ที่ได้บ้านแล้วและคิดว่าเค้าน่าจะมีความสุขดี แต่ก็ต้องกลับมาหาบ้านใหม่ด้วยเหตุผล ( ที่คิดไปเองหรือเปล่า) ว่า -กลัวคนที่รับไปเลี้ยงไม่ได้ -กลัวคนที่รับไปลำบากเรื่องการเงิน -กลัวคนที่รับไปจะหาเลี้ยงยังงัย - และกลัวๆๆๆๆๆ  สารพัด จะกลัว และกังวล ( ตรงนี้เข้าใจว่าคงเป็นห่วงเด็กๆ) แต่อยากจะบอกว่า อะไรที่มากไปก็ไม่ดี น้อยไปก็ไม่ดี  แต่ในกรณี จากเรื่องนี้เราว่า กังวลมากไปค่ะ  สงสารเด็กๆ นะค่ะ และถ้าเป็นเรา เราจะไม่ขอรับเด็กในห้องนี้ไปดูแลค่ะ  เพราะกลัวว่า จะเลี้ยงได้ไม่ดีตามที่คนให้ไปต้องการ   แต่ยังงัยเราก้หวังว่าทั้งสองฝ่าย จะจบลงด้วยดีนะค่ะ จากคุณ : พี่น้องตระกูลD - [ 9 มี.ค. 52 12:39:14 ]

ความคิดเห็นที่ 108 "....ผิดด้วยหรือที่หนูดื้อ..." เรายังจำชื่อกระทู้ของลังโคมได้ฝังใจ เป็นชื่อกระทู้ที่ใครเห็นก็ต้องรีบกดเข้าไปอ่าน พอเข้าไปอ่านด้วยความที่คนห้องหมาจะชินตากับภาพของ จขกท นั้น ในภาพของนางฟ้าผู้อารีย์ของเหล่าหมาหาบ้าน ร่วมกับสำนวนการเขียนที่ซึ้งกินใจ อ่านแล้วน้ำตาพาลจะไหลตาม ข้อความที่เอาลังโคมมาหาบ้านใหม่นั้น จขกท เขียนประมาณว่า หมาโดนทิ้งอีกแล้ว แม่ใหม่ไม่รักเอามาคืน เพราะแค่หนูดื้อแค่นั้นเอง........ วันนี้มาขอความรัก ขอบ้านที่รักจริง ขอให้อย่าทิ้งหนูอีก บลาๆๆๆๆ....(น้ำตาไหลพรากๆ) เท่านั้นแหละ คนห้องหมาสามัญชนธรรมดาๆอย่างเราๆ เมื่อได้อ่านข้อความแบบนั้น เข้ามาซัก 10 คน โพสด่าแม่น้องเฟอร์บี้ไปซะ 9.5 คน (อีก 0.5 ออกแนวอารมณ์แค่จิกกัดเล็กน้อย) ข้อความเห็นใจเจ้าของกระทู้ เยอะแยะมากมาย หลั่งไหลมาไม่ขาดสาย เราคนนึงที่โพสด่าแม่เฟอร์บี้ด้วย "ทำไม...ไม่มีปัญญญาเลี้ยงแล้วรับไปทำไม แค่หมาดื้อแค่นี้ทำไมรับไม่ได้ เป็นหมามันก็ต้องดื้อสิ ไม่อยากเลี้ยงอะไรดื้อๆก็ไม่ซื้อตุ๊กตามาเลี้ยงสิ เห็นใจคุณติ๋มนะคะ คุณติ๋มต้องเข้มแข็งนะคะ สู้ๆค่ะ" นี่คือข้อความที่เราโพสไปวันนนั้น ซึ่งออกมาแนวเดียวกันหมดเกือบทั้งร้อยกว่าความเห็น สาเหตุเพราะเราทั้งหมดที่เข้ามาอ่าน อ่านจากคำพูดที่แสนหวานและน่าสงสารของ จขกท เธอคือนางฟ้าจริงๆ ความเห็นต่อว่าแม่น้องเฟอร์บี้จากคนห้องหมา และไม่ใช่ห้องหมาหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เนื่องด้วย จขกท และ เพื่อน จะถนัดในเรื่องหลังไมค์ขอความเห็นใจ พร้อมด้วยส่งลิงค์ต้นเหตุไปให้ คนที่ได้รับไม่ว่าจะมาจากห้องไหนก็จะกดเข้ามาอ่าน แล้วก็จะเป็นแนวร่วม จากนั้นไม่นาน แม่เฟอร์บี้ที่อยู่ห้องแมว ทนไม่ไหว เข้ามาอธิบายเรื่องราวทั้งหมด แม่เฟอร์บี้ บอกว่า ไม่เข้าใจทำไม จขกท ถึงได้โพสข้อความแบบนั้น ทำไมไม่อธิบายเหตุผลที่ต้องคืนลังโคม ทำไมไม่แจ้งไปว่าแม่เฟอร์บี้ทำอะไรไปบ้างเพื่อที่จะเลี้ยงลังโคมไว้ให้ถึงที่สุด ทั้งๆที่ช่วงเวลาที่มีปัญหากับลังโคม แม่เฟอร์บี้ได้คุยกับ จขกท ตลอด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ ลังโคม ปีนออกนอกรั้วบ้านไปคุ้ยถังขยะบ้านอื่น ไปไล่กัดเด็กที่ขี่จักรยานวิ่งเล่นไปมา แม่เฟอร์บี้ลงทุนทำรั้วใหม่หมดไปหลายหมื่น เพื่อลังโคมโดยเฉพาะ ความที่รักเค้า อยากเลี้ยงเค้าไว้ อยากให้เค้าอยู่ในบ้าน เสียเงินเท่าไรก็ยอม แม่เฟอร์บี้ เอารูปที่ถ่ายไว้ระหว่างทำรั้วมาโพส มาชี้แจง แต่ท้ายที่สุด ลังโคมก็ยังปีนต้นไม้ที่อยู่ข้างรั้วหนีออกไปได้อีก จนหมดหนทางจริงๆเมื่อลังโคมปีนออกไปไล่กัดเด็ก เหตุการณืนั้นทำให้ต้องเกือบทะเลาะกับเพื่อนบ้าน แม่เฟอร์บี้เล่าให้ จขกท ฟังตลอดเวลา จขทก ยังปลอบใจแม่เฟอร์บี้ และบอกว่าถ้าไม่ไหวก็ให้เอามาคืน แม่เฟอร์บี้จึงจำใจมอบลังโคมคืนให้ จขกท ซึ่งแม่เฟอร์บี้ไม่เคยคิดเลยว่า การกระทำในครั้งนั้นจะทำให้ตัวเองโดนด่าจากคนห้องหมาเป็นร้อยๆความเห็น แม่เฟอร์บี้ไม่ติดใจคนที่เข้ามาด่าแม่เฟอร์บี้ในกระทู้ แต่แม่เฟอร์บี้อยากได้คำขอโทษจาก จขกท เพราะคำพูดที่หวานปนน่าสงสาร เอาดีเข้าตัวเอาชั่วให้คนอื่น ของ จขกท นั้น ทำให้คนที่เข้ามาอ่านเข้าใจผิด คนห้องแมวก็เข้ามาช่วยแม่น้องเฟอร์บี้ มาขอความยุติธรรม เรียกร้องให้ จขกท มาขอโทษแม่น้องเฟอ์บี้ หลังที่เราได้อ่านคำอธิบายจากแม่น้องเฟอร์บี้ เราก็เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่าง เข้าใจนิสัยคนบางคนมากยิ่งขึ้น บอกตรงๆว่ารู้สึกผิดหวัง เหมือนคนอกหัก เราเฝ้าดูกระทู้ต่อ ตั้งตารอว่าเมื่อไร จขกท จะออกมาอธิบาย จะออกมาขอโทษแม่น้องเฟอร์บี้ แต่ไม่มีเลย.................. กระทู้ดำเนินไปด้วยการต่อว่ากันระหว่างห้องหมาและห้องแมว จขกท นั่งดูหมากับแมวกัดกันโดยไม่ออกมาชี้แจงใดๆทั้งสิ้น ไม่มีคำขอโทษ กระทู้โดนกดลบขึ้นไฟแดงหลายครั้ง เราคนนึงที่จะคอยมานั่งกดปล่อยผ่านให้ เพื่อรอ จขกท ออกมาขอโทษแม่น้องเฟอร์บี้ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ กระทู้โดนลบไปในที่สุด โดยไร้คำขอโทษใดๆ จบ จากคุณ : แม่น้อง 5 โค (ครอบครัวตัว Co) - [ 9 มี.ค. 52 12:39:49 ]

ความคิดเห็นที่ 109 ด้วยความเคารพนะคะคุณแพท ขออนุญาตเรียกชื่อ ถ้าได้คุย ได้รู้จักกับใบมอส จะทราบว่าใบมอสไม่อยากทำร้ายจิตใจใครค่ะ จะเกรงใจมากกว่า เพียงแต่เรื่องเด็กๆทั้ง4  แม่ละมุนว่า เป็นการมองต่างมุมมากกว่า ให้ทั้งคู่เคลียร์กันให้จบ อย่าเอาเรื่องบช.มาเกี่ยวเลยค่ะ   เดี๋ยวเด็กๆที่อาศัยเงินบริจาคซื้ออาหารเม็ดจะเดือดร้อน จากคุณ : แม่ละมุนคุณละไม - [ 9 มี.ค. 52 12:43:36 ]

ความคิดเห็นที่ 110 งั้นสงสัยว่าอีกไม่นานทู้นี้ก็คงโดน  เฮ้อ............................... จากคุณ : เรดกัส - [ 9 มี.ค. 52 12:48:09 ]

ความคิดเห็นที่ 111 คห. 98 คุณแพทคะ จาก ความคิดเห็นของคุณ "รายวัน" ที่คุณแพทหยิบยกมานั้น ขอป้าดาพูด ในส่วนที่ได้ยินมาจากปากคุณติ๋มนะคะ >>จริงค่ะ ที่คุณติ๋มคิดไว้ ว่าจะบอกคุณหน่อยว่า เด็กป่วย หากว่าคุณหน่อยทวงถามเด็ก ๆ คืน แต่ปรากฎว่าหลังจากมาอยู่โรงพยาบาลสัตว์สวนหลวง และคุณหมอได้ทำการเจาะเลือดตรวจร่างกายแล้ว เด็กได้ป่วยตามที่คุณติ๋มโพสท์บอกไว้จริง ๆ และตรงนี้ ถ้าใครอยากทราบว่าจริงหรือไม่ ก็สามารถโทรฯ ไปถามที่โรงพยาบาลได้นี่คะ แต่จากเรื่องนี้ ป้าดาไม่ได้คิดว่าคุณติ๋มจะโทษว่าคุณหน่อยเลี้ยงไม่ดีนะคะ ยังไม่เห็นคุณติ๋มพูดในกระทู้เลยค่ะ ป้าดาคิดว่า สาเหตุจริง ๆ อยู่ที่เป็นห่วงเรื่องสถานะการเงินหนึ่ง กับอีกเรื่องหนึ่งคือการพาเด็กไปหาหมอ เรื่องยืมเงินเนี่ย คุณติ๋มเล่าให้ป้าดาฟังว่า คุณหน่อยขอยืม แค่ครั้งเดียวนะคะ จำนวน 1 หมื่น ไม่ได้ยืมหลายครั้ง และเรื่องบ้านที่ไม่สร้างต่อ คุณหน่อยบอกว่า เศรษฐกิจไม่ดี หยุดไว้ก่อน ซึ่งป้าดาฟังแล้วก็เป็นห่วงเหมือนกัน คุณหน่อยเพิ่งติดต่อกับคุณติ๋มได้ไม่ถึงปี รับเด็กไปดูแลแค่ประมาณ 2 เดือน เอ่ยปากขอยืมเงินกับคุณติ๋มแล้วเหรอ ก่อนที่คุณติ๋มจะขึ้นไปเยี่ยมเด็ก ๆ คุณติ๋มได้ถามคุณหน่อยว่าต้องการอะไรไม๊ ซึ่งคุณหน่อยบอกว่า ฝากซื้อขนมให้เด็ก ๆ ด้วย เพราะที่โน่นหาซื้อยาก ต้องเข้าไปในตัวเมือง และคุณติ๋มก็ได้ซื้อไปถุงใหญ่ แต่คุณหน่อยกลับไม่เอ่ยปากถามว่าเป็นเงินเท่าไหร่ ทั้ง ๆ ที่บอกว่า "ฝากซื้อ" แต่ป้าดาก็บอกคุณติ๋มไปว่า เรื่องนี้อย่าคิดมากเลย คิดซะว่าเราซื้อให้เด็ก ๆ กิน ก็แล้วกัน คุณติ๋มก็ตอบว่า จริง ๆ ก็ไม่ได้อยากทวงหรอก เพราะคุณหน่อยก็เมตตาอุปการะเด็ก ๆ ตั้ง 4 ตัว ถ้าคุณหน่อยพูดถึง ก็คงจะตอบว่า ไม่เป็นไร ซื้อให้เด็ก ๆ แต่ทำไมคุณหน่อยรับของแล้วเฉย ๆ ละคะ อีกเรื่องที่คุณติ๋มเป็นห่วงก็คือ เวลาคุณหน่อยจะไปไหนเนี่ย ต้องจ้างรถไป เพราะไม่มีรถส่วนตัว จริง ๆ ก็ไม่น่ามีปัญหา แต่คุณติ๋มบอกว่า สภาพบ้านเรือนแถวนั้น อยู่กันแบบห่างไกลกัน ก็เลยกลัวว่าเวลาเด็กเจ็บป่วยกระทันหันต้องไปโรงพยาบาล จะไม่ทันการณ์เอาค่ะ<< ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่ป้าดาได้คุยกับคุณติ๋มค่ะ ความจริงคุยกันมากกว่านี้ แต่ขี้เกียจพิมพ์แล้วค่ะ เพราะป้าดาก็เลิกเล่นพันทิปมาหลายเดือนแล้ว เนื่องจากเบื่อเรื่องราวในห้องจตุจักร แต่เห็นว่าเรื่องบางเรื่องเวลาพูดกันต่อ ๆ ไปหลายปาก เรื่องมันจะบิดเบือนไปได้ เลยต้องเข้ามา ขอบคุณค่ะ จากคุณ : ป้าดาแม่สโนไวท์ - [ 9 มี.ค. 52 12:51:32 ]

ความคิดเห็นที่ 112 แม่เป๊ปซี่เห็นด้วยกับแม่ละมุน เรื่องนี้ค่ะ .. "เพียงแต่เรื่องเด็กๆทั้ง4  แม่ละมุนว่า เป็นการมองต่างมุมมากกว่า ให้ทั้งคู่เคลียร์กันให้จบ อย่าเอาเรื่องบช.มาเกี่ยวเลยค่ะ  เดี๋ยวเด็กๆที่อาศัยเงินบริจาคซื้ออาหารเม็ดจะเดือดร้อน " ความคิดเรา อยากให้ทั้ง 2 ฝ่ายหันหน้าคุยกันดีๆ ต่างฝ่ายต่างปรับความเข้าใจกันมากกว่า แล้วเราก็ไม่อยากให้หลายท่าน พูดเรื่องเก่า เล่าเรื่องใหม่ ให้มันเกิดความขุ่นมัวในห้องหมาไปมากกว่านี้ ขอให้คิดว่า เพื่อน้องหมา อย่าให้เรื่องราวมันร้อนตามอากาศเลยนะคะ ใจเย็นๆ มีสติ ค่อยๆ คิด ค่อยๆ พูด ปัญหามันมีมาแล้ว ก็หาทางแก้ไขให้มันถูกต้องตามทางที่ควร คิดจะพูดจะจาอะไร ให้มันคิดถึงหมาไว้ก่อน จากคุณ : PePsi_O - [ 9 มี.ค. 52 12:53:55 ]

ความคิดเห็นที่ 113 จะไม่ขอพูดเรื่องที่เราไม่รู้นะคะแต่เรื่องที่รู้คือเรื่องน้องลังโคมคะณ.ตอนนี้น้องยังอยู่บ้านนิดา ที่ตลิ่งชั่น ยังอยู่ที่เดิมๆตอนที่เราเห็นลังโคมครั้งแรกน้องเป็นหมาที่น่าสงสารมากๆคะอยู่แบบเงียบๆกลัวๆน้องไม่ดื้อเลยแถมยังเป็นหมาน่ารักมากๆเลยเรารอนะเมื่อไหร่น้องจะได้บ้านที่อบอุ่นซะทีมันนานมากเเล้วอะ จากคุณ : whitepig1 - [ 9 มี.ค. 52 12:57:00 ]

ความคิดเห็นที่ 114 หาบ้านให้หมาเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ก็ร่วม ๆ 200 ตัว เกือบทุกตัวไปส่งเอง ไม่ว่าจะไกลแค่ไหนค่ะ เพราะอยากเห็นสภาพความเป็นอยู่ค่ะ บางทีมันไม่ได้เหมือนกันที่เราคิดว่าคนเอาไปเลี้ยงต้องรวย มีเงิน แต่ก็ทำใจรับได้ เพราะคิดว่าเค้ามีบ้านและมีคนที่รักเค้า หมาของเราไม่มีสัญญาใด ๆ ค่ะ มีแต่สัญญาใจ ที่ขอไปเยี่ยมหรือโทรถามข่าวคราวบ้าง เท่านั้นเอง ส่วนการทำหมันก็ขอรับกลับมาทำให้ ถ้าตอนเอาไปให้ยังไม่ถึงเวลาที่จะทำหมันได้ อันนี้เพื่อความมั่นใจว่าหมาเรา เจี๋ยนแล้วไม่ขยายพันธุ์ให้เป็นปัญหาตามมาแน่นอน ละก็วัคซีนให้ตามอายุ เราเคยมีเคสที่อยากรับกลับใจจะขาด เป็นบางแก้วชื่อวีออส คนโทรมาขออยู่กรุงเทพฯ ทำงานโรงงาน เค้าก็บอกตรงๆ ว่า เอาไปเฝ้าบ้านเพราะลูกเค้าสองคนอยู่บ้านกับพ่อแม่เค้า ซึ่งก็คือ ตา กับ ยาย พอดีมีบางแก้วที่เพิ่ง่เก็บได้และทำการเจี๋ยนเรียบร้อยแล้ว ก็ตัดสินใจยกให้ ที่อยุธยา ตอนไปส่งเราไม่ได้ไปเอง พี่อีกคนไปส่งให้ แต่เราก็ตามไปเยี่ยมเค้าหลังจากนั้นอีก 2 สัปดาห์ คุณติ๋มค่ะ เค้าเป็นชาวบ้านจริงๆ นะ ธรรมดาเลย บ้านยกพื้นไม่มีรั้วกั้น แต่หมาของเราก็เข้ากับเค้าได้ดี ทั้ง ๆ ที่เป็นบางแก้ว แต่กับคนอื่นจะกระโจนกัดเลย เค้าชอบใจมากที่วีออสของเราเฝ้าบ้านเก่งมาก แต่ที่สำคัญกว่าคือ เด็ก ๆ รักเค้ามาก กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันทั้งวัน คุณตาคุณยายบอกว่าเดี๋ยวนี้โรงเรียนเลิกต้องรีบกลับมาบ้าน มากอดหมาก่อน เวลาผ่านไปเดือนกว่า ๆ เกิดมีปัญหาว่าวีออสอยากหนีออกจากบ้าน ทำให้เค้าต้องล่ามโซ่ไว้ เพราะเมื่อไหร่ที่หลุด เค้าจะวิ่งออกมาทันที เราร้อนใจมาก ไม่รู้ว่ามีอะไรที่ทำให้หมาเราไม่อยากอยู่หรือเปล่า เราไปอยุธยาเพื่อเยี่ยมเค้าอีกรอบ คราวนี้ไม่ลืม frontline ขนม อาหารเม็ดอีกสองกระสอบ จิตตกกลัวเค้าไม่มีกิน แต่เรามาเยี่ยมคราวนี้วีออสก็อ้วนท้วนดี ขนสวย มัน คุณยายบอก บดกล้วยน้ำว้าให้กิน เค้าเห็นเราก็ดีใจ กระโจนใส่เข้ามากอด จากนั้นก็คุยกันว่าทำไมวีออสถึงอยากหนีนักหนอ เด็กน้อย ป3 กับ อนุบาลบอกว่า ตอนนี้เปลี่ยนเป็นพาจูงทุกเช้าก่อนไปโรงเรียน บ่าย ๆ คุณตาพาจูง ตอนเย็นกลับมาเด็ก ๆ ก็พาเดินเล่นอีก เราคาดว่าอาจจะเป็นเพราะเครียดที่โดนผูกไว้หรือเปล่า เรายังพูดเล่นว่า แล้วถ้าวีออสไม่อยากอยู่ หมอรับกลับกรุงเทพ ฯ ได้ไหม คุณติ๋มคะ เด็กน้อย ร้องไห้ เค้าบอกว่าเค้ารักวีออส เราเองรุ้สึกว่าเราผิดมากที่พูดไปแบบนั้น ก็เลยสัญญากันว่าถ้าวีออสมีปัญหาอีก ให้โทรมาหาเลยนะ ตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยมีปัญหาเค้าอยากหนีออกจากบ้านอีกเลย แต่ถ้ามีโอกาสเราไปเยี่ยมก็ต้องพกอุปกรณ์ทั้งหลายไปให้อยู่ดีค่ะ เพราะเราเองก็กังวลลึก ๆ แต่ที่เรายอม เพราะเราเห็นว่า วีออส ได้ใช้ชีวิตตามอัตภาพค่ะ อัตภาพตามความเป็นอยู่ อาหารการกิน การเลี้ยงดู และที่สำคัญ อัตภาพตามความรัก ที่คุณตา คุณยาย และเด็กน้อย 2 คนมีให้เค้าค่ะ มันสำคัญที่สุดสำหรับคนหาบ้านให้หมาอย่างเราค่ะ จากคุณ : หมอนก - [ 9 มี.ค. 52 12:57:41 A:124.122.245.229 X: ]

ความคิดเห็นที่ 115 โหวตค่ะ จากคุณ : แตรชมพู - [ 9 มี.ค. 52 12:58:44 ]

ความคิดเห็นที่ 116 ทำยังไง คุณติ๋มใบมอส ถึงจะได้อ่านความเห็น ของหมอนกเนี่ย จากคุณ : jackkyjing - [ 9 มี.ค. 52 13:01:06 ]

ความคิดเห็นที่ 117 อ่านข้อความของคุณหมอนก แล้วซึ้งจัง มันอยู่ที่ใจ ที่ความรักนะ ปัจจัยภายในสำคัญกว่าปัจจัยภายนอกค่ะ... จากคุณ : noofon_jaja - [ 9 มี.ค. 52 13:11:32 ]

ความคิดเห็นที่ 118 เราไม่ได้พูดถึงเงินในส่วนที่ซื้ออาหารเม็ดให้เด็กๆ เพราะเราและอีกหลายคนที่อยากจะช่วยบัญชี4ขา ก้อเพราะกลัวเด้กๆพวกนั้นจะไม่มีอาหารกิน เราแค่ออกความเห็นในฐานะที่เราเป็นสมาชิกคนนึง และได้เคยบริจาคเงินให้กับ บัญชีนี้บ้าง เรายังเป็นห่วงน้องหมาที่คุณทิพย์ยังส่งอาหารเม็ดเลี้ยงอยู่ แต่เราไม่เห็นด้วยที่คุณติ๋ม ใบมอส พรากเด็กๆมาจากแม่น้องจีอุน เราอยากให้เด็กๆกลับคืนสู่อ้อมอกของแม่เค้าที่พะเยา คิดว่าเพื่อนๆหลายคนคงคิดเหมือนกัน แต่เราก้อได้แต่คิดค่ะ เพราะคนที่กำหนดชะตากรรมของเด้กๆ ในตอนนี้เห็นจะมีแค่นางฟ้าของห้องหมา หรือ คุณติ๋มแค่คนเดียวเท่านั้น แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 13:19:45 จากคุณ : PartyLM - [ 9 มี.ค. 52 13:18:07 ]

ความคิดเห็นที่ 119 ระวังบ่างช่างยุด้วยนะคะ เรื่องมันแค่คุกรุ่น เอาน้ำสะอาดราดก็น่าจะไม่ลุกลาม แค่อย่าไปโหมต่อเท่านั้นล่ะค่ะ ทุกอย่างแก้ไขได้... จากคุณ : k_nueng - [ 9 มี.ค. 52 13:20:03 ]

ความคิดเห็นที่ 120 ไม่ว่าทั้ง 2 ฝ่ายค่ะ เพราะเป็นพวกเรา "คนรักหมา" ด้วยกันทั้งนั้น  เหมือนอ่านนิยายน้ำเน่าที่พระเอกนางเอกเข้าใจผิดกันเพราะเหตุการณ์ที่ทำให้เข้าใจผิด มันบังเอิญมาคล้องกันซะได้ คุณแม่น้องจีอุนไม่ผิดนะคะ แล้วก็น่าสงสารมาก คนที่จะพาหมามานอนกอดได้เนี่ย ไม่รักหมาจริงทำไม่ได้หรอก และน่าสงสารเพราะเหตุการณ์ที่คาดไว้มันดันไม่เป็นไปตามกำหนด (เรื่องบ้าน) ซึ่งบังเอิญมาตรงกับช่วงที่รับน้องหมามาพอดี แต่เราเห็นเจตนาที่คุณจ่ายค่ารักษาไป และไม่มีการเอาคืนด้วย เราเชื่อว่าคุณไม่ได้เอาหมามาหาผลประโยชน์แน่นอน เรื่องยืมเงินโอน เอามาตัดสินไม่ได้นะคะ เป็นการเอ่ยปากของเพื่อนขอให้ช่วย ไม่ได้หลอกล่อหรือหลอกเอาเงิน เงินแค่ 1 หมื่นกับภาระหมา 4 ตัว เทียบกันไม่ได้หรอกนะคะ แล้วพอไม่ได้คุณก็จบ ไม่ได้หว่านล้อมหาวิธียืมเงินอีก คุณใบมอสก็มีเจตนาที่ดีต่อหมาแน่นอน อันนี้เราไม่สงสัย แต่คุณเป็นประเภทเดียวกับเรา (ในบางครั้ง) ที่อารมณ์รักหมารุนแรงจน บางครั้งใครมาทำหมาเราเจ็บเพียงเล็กน้อยเราก็โกรธซะเว่อร์ ลืมนึกถึงเจตนาไปก็มี ลืมนึกถึงจิตใจของคนอื่น กังวลมาก ห่วงมาก ระแวงมาก มาตรฐานสูงเกินไป เราเป็นประเภทอ่านฉลากข้างถุงอาหารหมาทุกยี่ห้อที่ซื้อ เลือกดีที่สุด แต่ไม่ต้องแพงสุดในร้านค่ะ เรามีมาตรฐานของเราและเหมาะแก่ภาวะของเรา ไม่ได้แปลว่าเราเลี้ยงเค้าไม่ดีพอหรือไม่รักเค้านะคะ ความระแวงเป็นที่มาของการล่มสลายของความสัมพันธ์ทุกประเภทนะคะ ได้แต่หวังว่าเรื่องนี้จะคลี่คลาย และไม่ทำลายความตั้งใจและกำลังใจของคุณที้งคู่ที่จะให้ความรักและความอบอุ่นแก่เด็กไร้โอกาสทั้งหลายนะคะ จากคุณ : pyramidas - [ 9 มี.ค. 52 13:21:21 ]

ความคิดเห็นที่ 121 ป้าดาคะ ด้วยตวามเคารพนะคะ  เราต้องยอมรับว่า ที่คุณป้าดาทราบมานั้นก้อมาจากปากคุณติ๋ม ส่วนเราเอง ก้อทราบมาจาก คุณแม่น้องจีอุน ส่วนจริง เท็จแค่ไหน 2คน และสวรรค์เบื้องบนเท่านั้นที่จะรู้ แต่ออกมา เพราะคิดว่า คุณติ๋ม ไม่สมควรพรากลูกไปจากอกแม่ คุณป้าดาเอง มีน้องหมากี่ตัวคะ รักเค้ามั้ยคะ ถ้ามีใครพรากเค้าไป คุณจะรู้สึกยังไง แม่มุนคะ แม่มุนรักเด็กๆของแม่มุนมั้ยคะ ขอบพระคุณค่ะ จากคุณ : PartyLM - [ 9 มี.ค. 52 13:22:50 ]

ความคิดเห็นที่ 122 คหที่ 111 (ป้าดา) พี่ดาคะ หน่อยไม่เคยบอกเค้าว่าหยุดสร้างบ้านเพราะเศรษฐกิจไม่ดีค่ะ หน่อยบอกเค้าว่า ต้องเอาเงินที่จะสร้างบ้านไปจ่ายค่าไถ่รถก่อนค่ะ แล้วเรื่องฝากซื้อของ คุณติ๋มยื่นถุงให้หน่อย บอกว่าของฝากค่ะ หน่อยถามว่า ขนมน้องเท่าไหร่คะ คุณติ๋มบอกไม่เป็นไรค่ะคุณหน่อย (แล้วจะพูดทำไมคะ) หน่อยเปิดถุงออกมา มีขนมอยู่สามอย่าง (ถุงเล็กนะคะ) สามถุง สามอย่างคงประมาณ 150 บาท ค่ะ.... ตอนนี้รู้แล้วค่ะ คุณติ๋มเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยมั่ก ๆ....ขี้ขลาดที่จะพูดความจริง ถ้าคุณจริงใจคุณทำไม่ไม่บอกหล่ะว่าทั้งหมด เท่าไหร่ .... คุณติ๋มคะ คุณเป็นคนแรกที่ทำให้หน่อยได้คิดว่า "อย่าไว่ใจทางอย่าวางใจคน" แล้วเรื่องรถราที่จะมาหาหมอค่ะ พี่ดา เดือนหนึ่งมีสามสิบวัน หมาหน่อยไม่ได้เป็นหมาขี้โรคนะคะ คุณติ๋มคงไม่รู้จักคำว่า ธรรมชาติบำบัด มั๊งคะ ...หมาเป็นนิดหน่อยก็จะหาแต่หมอ.... โห คิดได้เนาะ หน่อยแจ้งคุณติ๋มแล้วว่าหมอในตัวเมืองจะมาเดือนละครั้ง มาหยอดยา และวัคซีนและหน่อยจะสั่งอาหารจากเค้าตุนไว้ด้วยค่ะ (โทรหาหมอได้ตลอดค่ะ) และหน่อยจะโทรไปสั่งน้องที่เชียงรายด้วยค่ะ (เค้าจะมาทุกอาทิตย์).......เรื่องเหตุฉุกเฉินเป็นไปได้อยากค่ะ เพราะหน่อยจะอยู่กับเค้าตลอด และเด็ก ๆ มาเล่นกับน้องตลอดเวลา........ .......หน่อยจะไม่พูดเรื่องเงินเลยเพราะว่ามันไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดของบ้านเราค่ะ พี่ดา.............. จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 9 มี.ค. 52 13:24:27 ]

ความคิดเห็นที่ 123 เรื่องหมาป่วยเป็นหัด มันคาใจคะ เนื่องจากรพส สวนหลวงไม่รับฝากเคสหมาไข้หัด เราเลยโทรไชคที่รพ เมื่อสักครู่ น้องimage เข้ารพ สวนหลวงครั้งแรก 4พย     - ตรวจชุดไข้หัดธรรมดาไม่เจอ(พวกระยะแพร่เชื้อ มีน้ำมูก น้ำตา) 5พย   - รพ ส่งเทส PCR อีก1อาทิตให้หลัง ตรวจเจอเป็นpositive คือ มีเชื้อหัด แสดงว่าหมาได้เคยป่วยเป็นไข้หัดมาแล้ว แต่ไม่สามรถระบุได้ว่านานแค่ไหน 3เดือน หรือ 6เดือน ไม่มีทางทราบคะ ความน่ากลัวของระยะเวลาอยู่ที่1- 3เดือนแรกหลังจากหมาหายป่วยจากไข้หัด จะเป็นระยะที่สามารถแพร่เชื้อหัดให้หมาตัวอื่นๆได้คะ ล่าสุด กลับมาฝากเลี้ยงอีกครั้ง 15-16 กพ ทางรพ เทส PCR ว้ำ พบว่าเป็น positive เช่นเดิม แสดงว่า ยังมีเชื้อหัดอยู่ในร่างกาย การที่หมามีเชื้อหัดอยู่ แต่ไม่อยู่ในระดับที่แสดงอาการแล้ว สามารถใช้ชิวิตได้ตามปกติ  (คือ ตรวจในชุดตรวจปกติไม่เจอ  เจอในขั้น PCR  ส่วนมาก จะพ้นระยะแพร่เชื้อแล้ว แต่รพ จะไม่การันตี 100% ว่าจะไม่ติดหมาตัวอื่นๆ) จึงแจ้งมาเพื่อความเข้าใจ ถึงความห่วงใยกรณีน้องimage ป่วยเป็นไข้หัดคะ ว่าป่วยเป็นมาไข้หัดมาก่อน ที่จะไปอยู่กับทางแม่น้องจีอุนแล้วคะ แก้ไขเมื่อ 10 มี.ค. 52 07:49:06 จากคุณ : น้องต๋าว - [ 9 มี.ค. 52 13:27:34 ]

ความคิดเห็นที่ 124 เห็นด้วยกับที่ว่า อย่าเอาเรื่องบัญชี และเงินบริจาค มาเกี่ยวข้องเลยคะ ใครจะมีปัญหาอะไรกัน ก้อตามแต่ เพราะยังมี น้องหมาต่างๆที่ต้องการใช้เงินในบช ด้วยนะคะ อย่าลืม ใครใคร่บริจาค คิดว่าทำบุญ ก้อทำเถอะคะ สบายใจคะ  ไม่ต้องมาชวนกัน บอยคอต  หรอกคะ เราไม่แบ่งแยกนะคะ เราช่วยเหลือเท่าที่ทำได้ ทั้ง บชฉฉ แล้ว ก้อ สี่ขา ด้วยคะ    สงสารน้องหมาคะ น้องหมาไม่ควรได้รับกรรมในสิ่งที่เค้าไม่ได้ทำนะคะ จากคุณ : ningnoi - [ 9 มี.ค. 52 13:30:51 ]

ความคิดเห็นที่ 125 เรื่องหมาป่วยเป็นหัด มันคาใจคะ เนื่องจากรพส สวนหลวงไม่รับฝากเคสหมาไข้หัด เราเลยโทรไชคที่รพ เมื่อสักครู่ น้องimage เข้ารพ สวนหลวงครั้งแรก 4พย     - ตรวจชุดไข้หัดธรรมดาไม่เจอ(พวกระยะแพร่เชื้อ มีน้ำมูก น้ำตา) 5พย   - รพ ส่งเทส PCR อีก1อาทิตให้หลัง ตรวจเจอเป็นpositive คือ มีเชื้อหัด แสดงว่าหมาได้เคยป่วยเป็นไข้หัดมาแล้ว แต่ไม่สามรถระบุได้ว่านานแค่ไหน 3เดือน หรือ 6เดือน ไม่มีทางทราบคะ ล่าสุด กลับมาฝากเลี้ยงอีกครั้ง 15-16 กพ ทางรพ เทส PCR ว้ำ พบว่าเป็น positive เช่นเดิม แสดงว่า ยังมีเชื้อหัดอยู่ในร่างกาย การที่หมามีเชื้อหัดอยู่ แต่ไม่อยู่ในระดับที่แสดงอาการแล้ว สามารถใช้ชิวิตได้ตามปกติ  (คือ ตรวจในชุดตรวจปกติไม่เจอ  เจอในขั้น PCR  ส่วนมาก จะพ้นระยะแพร่เชื้อแล้ว แต่รพ จะไม่การันตี 100% ว่าจะไม่ติดหมาตัวอื่นๆ) จึงแจ้งมาเพื่อความเข้าใจ ถึงความห่วงใยกรณีน้องimage ป่วpเป็นไข้หัดคะ ว่าป่วยเป็นมาไข้หัดมาก่อน ที่จะไปอยู่กับทางแม่น้องจีอุนแล้วคะ จากคุณ : น้องต๋าว +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ คุณน้องต๋าวค่ะ แม่น้องจีฮุนทราบเรื่องนี้หรือยัง ต้องรีบแจ้งนะเนี่ย เพราะมันจะมีโอกาสติดกับตัวอื่น ๆ ที่น้อง อิมเมจเคยเล่นด้วยกันหรือเปล่า จากคุณ : jackkyjing - [ 9 มี.ค. 52 13:30:58 ]

ความคิดเห็นที่ 126 กรณีแบบนี้ คนได้รับหมาไปน่าจะทราบความเสี่ยงนะคะ เพราะ หมาก็ออกไปจากรพส สวนหลวง คะ จากคุณ : น้องต๋าว - [ 9 มี.ค. 52 13:38:00 ]

ความคิดเห็นที่ 127 บ้านเราก็อยู่บ้านนอกนะคะ เป็นบ้านสวนแท้ๆ คือเข้าไปในสวนลึกจากถนนใหญ่ รอบๆ จะเป็นสวนของที่บ้าน แต่ละบ้านจะปลูกอยู่ห่างกันมีสวนคั่น หลังบ้านติดกับโกดังเก็บยางรถยนต์ขนาดใหญ่ ที่สำคัญคือ เปลี่ยวมากค่ะ ดังนั้น หมาที่นำมาเลี้ยงก็จะไม่ได้เลี้ยงลักษณะเป็นลูก รักกันจี๋จ๋า แต่งเนื้อแต่งตัวหล่อๆ แต่จะเลี้ยงให้เค้าเป็น "หมา" เพื่อไว้ให้ทำงานตามแบบที่ "หมาๆ" เค้าถนัด นั่นก็คือการเฝ้าบ้านเฝ้าสวนค่ะ บ้านเราเลี้ยงหมาแบบชาวบ้าน แบบที่เลี้ยงกันมาแต่โบร่ำโบราณ อาหารการกินไม่ได้กินอาหารเกรดพรีเมี่ยมค่ะ เป็นปลายข้าวต้มกับเนื้อไก่บดที่ซื้อตามโลตัสบิ๊กซี เมื่อก่อนตั้งแต่เราเด็กๆ จะเป็นปลาข้างเหลืองต้มกับข้าวกินทุกมื้อ อาหารเหลือจากคนก็เทๆ ให้กิน ก็ไม่มีปัญหาขาดสารอาหารแต่อย่างใด ทุกตัวอ้วนท้วน (บางทีอาจจะอ้วนเกินไปด้วยซ้ำ) ตัวที่อายุมากที่สุดชื่อป้ามอม อายุแก่กว่าเจ๊ฮอลล์หวานใจเราซะอีก อยู่มาตั้งแต่กินข้าวต้มปลาข้างเหลืองทุกมื้อ จนปลาแพงเลยให้กินไก่แทน ทุกวันนี้ป้ามอมยังแข็งแรงดี วิ่งได้ เห่าได้ สายตายังดี จมูกและหูยังใช้การได้ดี ตอนนี้ทำหน้าที่เฝ้ายามอยู่หลังครัวส่วนที่ติดกับโกดังยางค่ะ ใครอุตริปีนเข้ามาทางนั้นได้เจอกับเขี้ยวที่ยังมีครบทุกซี่ของป้ามอม สาวสิบหกแน่ๆ บ้านเรายึดคติรักวัวให้ผูก รักหมาให้ตีค่ะ หมาดื้อ หมาขุดดิน หมากัดต้นไม้ ก็ต้องโดนทำโทษกันบ้าง ตีแรงตีค่อยแล้วแต่ความผิดที่ทำค่ะ ก็อย่างที่บอกว่าเลี้ยงอย่างชาวบ้านติดดินธรรมดา เลี้ยงแบบที่หมาเป็นหมา เลี้ยงไว้เฝ้าบ้าน แต่ไม่ใช่ว่าห่างเหินเป็นลูกพี่ลูกน้องกันขนาดนั้น ยังมีกอดรัดฟัดปล้ำ หอมหัวเหม่งอะไรกันตามปกติ เพียงแต่ถ้าทำผิดจะมีรายการเบิ๊ดกบาลเพิ่มขึ้นมาเท่านั้นเองค่ะ ทางด้านสุขภาพ แม้จะเลี้ยงอย่างชาวบ้าน แต่ถ้าหมาไม่สบายเราไม่มีทิ้งขว้างหรอกค่ะ รักษาได้ไม่ได้ยังไงก็เฝ้าพยาบาลกันไปจนกว่าจะสิ้นลม ถึงจะอยู่บ้านนอกแต่ใกล้หมอค่ะ (เพราะน้องสาวเป็นสัตวแพทย์เองพอดี แหะแหะ) ที่เล่ามาทั้งหมด แค่อยากจะบอกว่า บางทีน้องหมาที่ถูกเลี้ยงแบบชาวบ้านๆ อาจจะสุขภาพดีและแข็งแรงกว่าหมาที่ถูกเลี้ยงตามมาตรฐานที่คิด (กันไปเอง) ว่าดีอีกนะคะ เพราะบ้านนอกหมามีที่ให้วิ่งเล่น อากาศดี มีเพื่อนมีสังคม ไม่ต้องอุดอู้อยู่แต่ในรั้วหรือในกรง บางทีแค่ไม่สบาย เดินไปหลังบ้านหาหญ้าขนๆ กินแล้วสำรอกออกมาก็หายแล้วค่ะ หมาที่บ้านเกือบสิบตัว ถึงจะมีสัตวแพทย์อยู่ในบ้านเองก็เลี้ยงแบบชาวบ้านอย่างนี้ ไม่ได้โอ๋ ไม่ได้ตามใจ ไม่ต้องกินอาหารหรูๆ แพงๆ (แต่มีวิตามินเสริมบ้าง) แค่นี้ก็สุขภาพดีทั้งกายและใจ มีความสุขทุกๆ ตัวแล้วค่ะ จากใจคนบ้านนอกเลี้ยงหมาค่ะ จากคุณ : แรมโบ้มัม - [ 9 มี.ค. 52 13:40:41 ]

ความคิดเห็นที่ 128 อ้าว... ถ้าน้องเป็นหัดจริง ทำไมถึงได้ให้แม่น้องจีอุนไปเลี้ยงคะ คุณติ๋มคิดอะไร อยู่ เรื่องdลายเป็นแบบนี้ไปได้ งั้นที่คุณติ๋มบอกว่าน้องกลับ กทม แล้วตรวจเจอหัด โดยพูดให้คิดว่าอาจจะติดมาจาก บ้านแม่น้องจีอุน  อันนี้ไม่มีความเป็นจริง บอกตรงๆค่ะ สงสารเด้กๆค่ะ เรายังจะตั้งกระทู้ประมูลเพื่อ บช 4ขา นะคะ เป็นประมูลใหญ่ เดือน เมษายน อย่าได้คิดว่าเราจะเอาไปเกี่ยวข้องกัน ประเด็นแม่น้องจีอุน กับเด้กๆที่รออาหารเม็ดจากคุณทิพย์อยู่ เราแค่ไม่เห็นด้วยกะเคสนี้เท่านั้น ขอบอกอีกครั้ง ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เรายังคิดจะช่วย 4ขา ในเรื่องซื้ออาหารเม็ดเลี่ยงหมาจรต่อไป แลเดือน เมษาจะมีประมูลใหญค่ะ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 16:54:45 จากคุณ : PartyLM - [ 9 มี.ค. 52 13:45:07 ]

ความคิดเห็นที่ 129 +++++++++ หน่อยไม่ทราบเลยค่ะว่าน้องอิมเมจเลยเป็นไข้หัด++++++++ +++++++++คุณติ๋มไม่เคยบอกเลยค่ะ++++++++++++++++               น้ำเสียงที่โทรมาบอกว่า อิมเมจเป็นไข้หัด มันโทษเราชัด ๆ นี่หว่า แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 18:43:54 จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 9 มี.ค. 52 13:50:16 ]

ความคิดเห็นที่ 130 อืม...กลับมาอ่านอีกครั้ง...เหมือนเดิมไม่คอมเม้นในข้อขัดแย้งของคนทั้งคู่ แต่...ขอออกความเห็นต่อวิธีการของคุณใบมอสสักนิด คุณใบมอส เป็นคนหนึ่งที่ช่วยหมา รักหมาจริงๆ ตั้งแต่คุณเข้ามา เราก็เห็นคุณทำอย่างต่อเนื่อง น่าชื่นชมแต่..... ความรู้สึกดีๆของเราเริ่มสะดุด ตั้งแต่กระทู้ซัมซุง และก็เคยติงไปในกระทู้นั้นว่า... "เราห่วงหมาเรา เราก็ต้องห่วงความรู้สึกของคนอื่นด้วย" รักหมาไม่ผิด ห่วงหมาไม่ผิด แต่อะไรที่มันเกินไป ก็ไม่เหมาะ ถ้ารักมาก ห่วงมาก อยากให้ได้ตามมาตรฐานของเรา เราก็ต้องเลี้ยงเอง แต่ถ้าเราเองเลี้ยงไม่ไหว ต้องหาคนช่วย ต้องให้คนอื่นมาแบ่งเบาภาระไป เราก็ต้องทำใจยอมรับในมาตรฐานของเค้า จะมายึดติดอยู่กับมาตรฐานของเราคงไม่ได้ เมื่อเราได้เลือกอย่างดีที่สุดแล้วว่าคนที่เราให้ไป เราคิดว่าดีพอ.... ความรับผิดชอบในตัวหมาที่เราส่งต่อไป ควรจบ ตั้งแต่น้องหมาเปลี่ยนเจ้าของ เจ้าของใหม่จะเลี้ยงอย่างไร ดีขนาดไหน  นั่นเป็นเรื่องของเค้า เราไม่มีสิทธิไปก้าวก่าย หากเจ้าของใหม่ประสบปัญหา แล้วเลือกกลับมาหาเราก็นับว่าน่าดีใจ เป็นโชคดีของน้องหมา แต่หาก เจ้าของใหม่จะปล่อยปละละเลย ก็คงต้องบอกว่าอาจเป็นกรรมเก่าของน้องหมาที่เค้าทำมาอย่างนั้น เพราะถ้าคุณยังตามสืบเสาะ ก้าวก่ายการเลี้ยงน้องหมาที่เค้ารับไปเลี้ยง มันจะกลายเป็นเรื่องปากต่อปาก ท้ายที่สุดแล้วจะไม่มีใครอยากรับหมาจากห้องหมาพันทิปไปเลี้ยงอีก เพราะเงื่อนไขที่มากเกินไป ไม่มีใครหรอกที่อยากถูกติดตาม ควบคุม ไปทุกระยะ เมื่อถึงเวลานั้น น้องหมาที่เดือดร้อน จะไม่ใช่เฉพาะน้องหมาในสังกัดของคุณ แต่จะรวมถึงน้องหมาในสังกัดอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับห้องหมาด้วย ขอโทษนะคะที่พูดตรงๆ แต่ไม่อยากเห็นเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้นบ่อยๆน่ะ มันไม่ดีกับน้องหมาเลย จากคุณ : นีออน - [ 9 มี.ค. 52 13:54:01 ]

ความคิดเห็นที่ 131 หลังจากตามอ่านแล้ว  อ่านอีกเพราะมันยาวมากกก ทั้งสองท่าน คือคุณใบมอส  คุณหน่อย  เราก็รู้จักเฉพาะในกระทู้ อยากให้คุณใบมอส  ออกมาอธิบายในส่วนที่เพื่อนสงสัย  ที่เอาเด็กๆไปจากคุณหน่อย เพราะยังไม่เห็นประเด็นนี้(เอ๊ะ  หรือว่ามี  ใครช่วยก๊อบมาวางให้ด้วยนะคะ ตาลายไปแล้ว) ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ในกรณีนี้ ถ้าเป็นเรา   เราเองก็คงเสียใจมากเหมือนกันนะ  ถ้าคนไม่รักหมาก็คงไม่อาสาเลี้ยงแน่ๆ  แค่ชายตามองก็ยังไม่มองเลยนะคะ จะยากดีมีจน  อยู่ในเมืองหลวงชนบท  มันก็เลี้ยงได้  ถ้าใจมันรักแล้ว   +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ ที่ต้องการก็คือ 1. เหตุผลที่คุณใบมอสเอาหมาไป 2. อยากให้ทั้งสองท่านเคลียกันให้ชัดเจน ให้เข้าใจ  แล้วแจ้งให้เพื่อนๆรู้ด้วย 3. อยากให้พวกเราที่มีดวงใจดวงเดียวกัน  คุยกันให้เข้าใจ  บริสุทธิ์ใจต่อกัน ไม่มีอคติ  ไม่มีพวก จากคุณ : จริงใจ.......สบายจริง - [ 9 มี.ค. 52 13:55:38 ]

ความคิดเห็นที่ 132 แล้วแบบนี้ คุณแม่น้องจีอุน จะยังรับน้องกลับไปเลี้ยงไหมคะ ฮือ เห็นไหม พูดกันไป พูดกันมา หมาจะไร้บ้านจริงๆ เสียแล้ว คิดถึงหมากันแน่หรือเปล่าเนี่ย ส่วนตัวของเรา ถ้าคุณแม่น้องจีอุน ยังรัก ยังเมตตาน้องทั้ง 4 อยู่ เราก็อยากให้ส่งหมากลับคืนไปที่คุณแม่น้องจีอุนนะคะ เห็นแก่หมาที่ไม่รู้เรื่อง รู้ราวอะไรเลย เฮ้อ ปล. แก้ไขข้อความ แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 14:02:17 จากคุณ : PePsi_O - [ 9 มี.ค. 52 13:59:42 ]

ความคิดเห็นที่ 133 บางครั้งความคิดของแต่ละคนแค่เพียงเล็กน้อยก็อาจเป็นเรื่องได้ อย่างคุณติ๋มอาจจะมองว่าแม่น้องจีอุนยืมเงิน แสดงว่าสถานะทางเศรษฐกิจไม่ดีแน่ ๆ ลูก ๆ ของคุณติ๋มทั้ง 4 อยู่กับคุณแม่น้องจีอุนต่อไปอาจจะลำบากทางกาย ก็เลยคิดเองเออเองว่าควรจะรับเค้ากลับมาอยู่ในอ้อมกอดของคุณติ๋ม เหมือนกับที่ดิฉันเคยโดนเพื่อนข้างบ้านเข้าใจผิด เรื่องก็คือว่าเค้าเอาข้าวใส่หม้อหุงข้าวที่ร้อน ๆ มาให้ก็เลยหาผ้ามาจับแล้วยกมาให้ดิฉัน ส่วนดิฉันไม่ได้คิดอะไรก็ขอบคุณเค้าไป สักพักเค้ามาถามหาผ้าดิฉันก็บอกไปว่าไม่เห็นนี่ (จริง ๆ แล้วดิฉันไม่ได้มองตอนเค้ายกมาน่ะเองทำให้ไม่รู้ว่าเค้าหยิบผ้าติดมือมา) จึงตอบเต้าไปว่าไม่เห็น เท่านี้นแหล่ะค่ะ เค้าโกรธดิฉันเค้าไปบอกพี่สาวดิฉันว่า ดิฉันนิสัยไม่ดี แล้วไม่พูดกับดิฉันอีกเลย ดิฉันก็งงเป็นไก่ตาแตกเลยค่ะ (โกรธกรูทำไมฟะ) นี่แหล่ะค่ะ เรื่องเล็กน้อยแต่คิดมากไปหน่อย โกรธกันไปเลย เหมือนกรณีคุณติ๋มที่อาจจะคิดมากไปหน่อย แต่กรณีคุณแม่น้องจีอุนก็ขอบอกว่า เรื่องเงินไม่ว่าใครห้ามเอ่ยปากยืมเด็ดขาดไม่ว่าคุณและเค้าจะเป็นใคร เพราะเรื่องนี้บอกตรง ๆ ไม่เข้าใครออกใครค่ะ คุณอาจจะคิดในแง่คุณ แต่คนอื่นเค้าไม่คิดเหมือนคุณ (กรณีอย่างนี้ดิฉันเจอหลายเคสแล้วค่ะ โกรธกันทุกราย) ส่วนคุณติ๋ม  น้องหมาเค้าไปอยู่กับคุณแม่น้องจีอุนพอสมควรแล้วเค้าก็คงจะรักและผูกพันกันมาก ๆ แล้วล่ะค่ะ ถ้าให้เค้าไปหาบ้านใหม่ก็ไม่รู้ว่าน้องเค้าจะเจอบ้านแบบไหน อาจจะได้ไม่ดีเท่าแม่น้องจีอุนก็ได้เราไม่รู้อนาคต ส่วนตัวดิฉันเองคิดว่าคุณแม่น้องจีอุน เค้าจะรู้ตัวเค้าเองว่ามีศักยภาพในการเลี้ยงขนาดไหน เหมือนกรณีป้าแถวบ้านดิฉันที่แกไม่มีตังค์ซักบาท แต่แกรับอุปการะหมาแมวป่วย เพียบ บ้านก็โดนตัดน้ำตัดไฟมาเป็นปี แกก็ไปขอของจากบ้านโน้น บ้านนี้ ข้าววัดบ้าง ร้านขายของ ขายอาหารบ้าง แล้วแกก็จะให้หมาแมวกินก่อน ขนาดดิฉันให้แกไป 1,000 บาทเอาหมาไปหาหมอ แกเหลือกลับมาแกเอามาคืน ดิฉันก็บอกว่าจะเอาทีเหลือไปทำอะไรก็ทำไปเถอะ รู้มัยคะ แกบอกว่าป้าขอเงินไปซื้อยากับขนมให้หมาแมวก็แล้วกันนะ ขนมที่แกไปขอตามร้านที่ขึ้นรา แกก็เอามาบิส่วนที่มีราออกแล้วแกก็กินพร้อมหมาของแก นี่แหล่ะค่ะ ถึงบอกว่าคนที่รักหมาไม่ว่าจะยากดีมีจน ก็จะนึกถึงหมาก่อนตัวเองทั้งนั้น ปรับความเข้าใจ และพูดกันแบบตรง ๆ ไปเลยจะดีกว่านะคะ อันไหนอะลุ้มอะหล่วยได้ก็ทำกันไปเถอะค่ะ เพราะคุณทั้ง 2 คนก็เป็นผู้ที่มีเมตตาต่อสัตว์มากมาย ดิฉันยังนับถือคุณทั้งสองคนอยู่เสมอค่ะ จากคุณ : g (ging_gong_kaew) - [ 9 มี.ค. 52 14:02:09 ]

ความคิดเห็นที่ 134 เฝ้ากระทุ้ ลุ้นน้องหมา เห็นด้วยกันคุณ ging_gong_kaew อย่างเป็นที่สุดเจ้าค่ะ ขอให้เรื่องจบลงด้วยดีนะคะ จากคุณ : PePsi_O - [ 9 มี.ค. 52 14:10:53 ]

ความคิดเห็นที่ 135 ขอยืมคำพูดคุณLa_Or1007 มานิดนะค่ะ   อ่านแล้วใช่ในความรู้สึกเรา ---> แต่ยังไงก็ยังยืนยันคำเดิมค่ะ...อยากให้คุยกันด้วยความเข้าใจ  ตรงไปตรงมา... ....เราไม่ได้อยากให้มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันในห้องนี้เลย เพราะพวกเราทุกคนมาอยู่ที่นี่ก็เพราะเรารักน้องหมาเหมือนกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น...ทุกอย่างน่าจะคุยกันตรงๆค่ะ...ข้องใจเรื่องอะไรก็ถามกันไปเลย...   ทุกๆคน มีพื้นฐานของความรักน้องหมามาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว  ขอให้เรื่องจบลงด้วยดี....... จากคุณ : DOGHALL - [ 9 มี.ค. 52 14:13:17 ]

ความคิดเห็นที่ 136 ตามอ่านมาตั้งแต่กระทู้ก่อน อ่านแล้วอ่านอีกหลายรอบ ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจ พออ่านรอบสุดท้าย ชักจะกลัวว่า วันหนึ่งวันใดในอนาคตข้างหน้าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเราบ้างไหม เซ็นใบสัญญาไปแล้วด้วยซี T____T จากคุณ : แก๊งค์ลูกหมา - [ 9 มี.ค. 52 14:19:46 ]

ความคิดเห็นที่ 137 เราเองเลี้ยงลูกแบบบ้านนอกเหมือนกัน เด็กๆ บ้านเรา อยู่บ้านนอก เล่นดินเล่นหญ้า ตัวเปียกเปื้อนเลอะเทอะ นานๆ ทีก็มีเห็บหมัด เป็นหวัด เป็นไข้ แต่เราก็ดูแลอย่างดี รับเลี้ยงมาจนถึงวันนี้ก็นับได้หลายเดือนแล้ว ถ้าจะมาเอาลูกเราคืนเราคงเสียใจไม่แพ้แม่น้องจีอุนเลย แต่จะว่าไปแล้ว เราก็สะกิดใจเรื่องขอยืมเงินนี่แหละค่ะ นิดเดียวเท่านี้เอง เพราะสำหรับเรา หากไม่สนิทกันขนาดรู้ไส้รู้พุงกันทุกขด เราจะไม่กล้าขอยืมเงินเลยค่ะ ก็เลยรู้สึกแปลกๆ เท่านั้นเอง แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตนะคะ เป็นกำลังใจให้ทั้งสองคนคุยกันให้เข้าใจนะคะ อยากให้เด็กๆ ได้กลับบ้านหาแม่ หาพี่ๆ น้องๆ ไวๆ นะ จากคุณ : แก๊งค์ลูกหมา - [ 9 มี.ค. 52 14:24:16 ]

ความคิดเห็นที่ 138 คุณใบมอสคุยกับคุณแม่น้องจีอุนเถอะค่ะ ทุกคนรู้ดีว่าคุณใบมอสหวังดีและรักหมา เห็นด้วยกับคุณนีออน คห ที่ 130 มากๆ "เราห่วงหมาเรา เราก็ต้องห่วงความรู้สึกของคนอื่นด้วย" ความมีเมตตา นอกจากเมตตาหมาแล้วยังต้องเมตตาเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอีกด้วยนะคะ คุณแม่น้องจีอุนก็รักหมาด้วยใจ น่าจะคุยกันได้ อยากให้คุณใบมอสมองตาเด็กๆ สี่ตัวแล้วก็หมาตัวอื่นๆ ต่อไปที่จะหาบ้านในนี้นะคะ แล้วคุยกับคุณแม่น้องจีอุน แล้วเคลียร์กันเถอะค่ะ สงสารหมา จากคุณ : =p o o k p u i= - [ 9 มี.ค. 52 14:27:40 ]

ความคิดเห็นที่ 139 มาแสดงความคิดเห็นครั้งสุดท้ายในกรณีนี้ คุณติ๋ม และคุณหน่อย ไปคุยกันอย่างผู้ใหญ่ที่มีความรักต่อหมาน้อย ให้เคลียร์จะดีกว่าหรือปล่าว เสร็จแล้วค่อยมาลงโพสต์แจ้งความคืบหน้ากับเพื่อนๆ เรื่องนี้ หากทั้งสองคนไม่ยอมคุยกัน เรื่องก็จะยิ่งยุ่งกันไปใหญ่ เพราะคามคิดเห็นของเพื่อนที่มีต่อกรณีนี้ ย่อมเป็นไปตามธรรมดาโลก คือ ขัดแย้งกัน คุณหน่อยได้โปรด งดแสดงความคิดเห็นในกระทู้นี้สักพักเถอะ เพื่อลดความร้อนแรง ทราบว่า เรื่องไข้หัด เป็นเรื่องใหญ่ ที่คุณควรทราบก่อนได้รับน้องหมาไปเลี้ยง แต่การออกมาตอบโต้กันไปมาอย่างนี้ ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลย อยากให้หาข้อยุติ คุณอยู่ไกลถึงพะเยา คุณติ๋มอยู่กรุงเทพฯ โทรคุยกันได้หรือปล่าว ใครจะยอมเป็นคนโทรหาใครก่อน เป็นเรื่องของอีโก้ ลดลง ทุกคนก็จะสบายใจ อย่าไปคิดว่า ฉันไม่โทรก่อน ฉันไม่ผิด เธอผิด เธอต้องขอโทษฉัน อยากให้คิดว่า เพื่อเจ้าตัวเล็กทั้งสี่ตัว ทั้งคุณหน่อยและคุณติ๋มควรคุยกันอย่างเปิดอก เปิดฉากด้วยคำขอโทษ และคำให้อภัย ไม่ยากเกินไปหรอก ถ้าทำได้ รับรอง อะไรที่ร้อน ที่หนักอยู่ คนที่เอ่ยปากขอโทษ และคนที่ให้อภัย จะมีแต่ความสบายใจ น้องหมาก็ได้ผลลัพธ์ที่ดีไปด้วย เพื่อนๆ ที่นี่ก็พลอยสบายใจไปด้วย ผลกระทบต่อด้านอื่นๆ ที่จะตามมาก็จะลดลงไป คุณติ๋ม คุณหน่อย เชื่อเรา คนที่คุณไม่รู้จักสักครั้งเถอะ ยกหูโทรศัพท์โทรคุยกันเถอะ ได้โปรด แก้ไขเมื่อ 09 มี.ค. 52 14:33:53 จากคุณ : อย่างนี้ก็ดีแล้ว - [ 9 มี.ค. 52 14:32:36 ]

ความคิดเห็นที่ 140 คุณ อย่างนี้ก็ดีแล้ว...... หน่อยไม่ทราบเลยค่ะ เรื่องน้องอิมเมจเป็นไข้หัด (หน่อยเลี้ยงปอม สี่ตัว และชิสุห์ สองตัว) คำขอโทษหน่อยไม่ต้องการค่ะ... แต่หน่อยอยากจะขอร้องว่าอย่าใช้วิธีการอย่างนี้กับคนอื่นอีก แค่นั้นเอง คำว่าให้อภัย ใช้ไม่ได้ค่ะ ต้องใช้คำว่าขอ อโหสิกรรม ....หน่อยให้ได้ค่ะ... แต่ไอ้เรื่องจะโทรคุยด้วยคงไม่ค่ะ ...เพราะกลัวถูกอัดเสียง ไว้ ฟลัฟ เราทีหลัง... สำหรับหน่อยอะไรก็ได้ ใครดีด้วยก็ดีตอบ ใครร้ายก็ร้ายกลับ แค่นั้นเองค่ะ จากคุณ : แม่น้องจีอุน - [ 9 มี.ค. 52 14:53:03 ]

ความคิดเห็นที่ 141 คิดว่าคุณใบมอสน่าจะฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่บ้างนะคะ เป็นคนหนึ่งที่ยอมรับตามตรงคะ ว่าเลี้ยงหมาได้บ้านนอกสุดๆๆ ตอนอยุ่บ้านยายหมาที่บ้านยายจะได้รับข้าวเหนียว 1 ปั้นเป็นอาหารวันละ 1 มื้อ แต่น้องหมาที่บ้านไม่ได้เลี้ยงแบบนั้นหรอกคะ หมา 2 ตัวที่บ้านไม่ค่อยได้ไปหาหมอนอกจากฉีดวัคซีน ชิโร่ตอนนี้เป้นหมาหูแหว่งเพราะฟันของพี่โจ๊ก 2 ตัวชอบทะเลาะกัน กัดกันตอนที่ออกไปทำงาน แล้วเค้าอยู่บ้าน 2 ตัว กลับบ้านมาตอนเย็นจำได้เลือดเต็มบ้านพี่โจ๊กพี่โร่นั่งคนละมุม พี่โจ๊กคิ้วแตก พี่โร่หูแหว่ง แม่มันนั่งร้องไห้ ช่วงนั้นกลางเดือน เงินก็เหลือติดตัวแค่พอไปทำงานก้เลยได้แค่ใส่ยาทั้งคู่ ไม่ได้พาไปเย็บ ชิโร่เอ้ยถ้าแม่มีตังค์นู๋คงหูไม่แหว่งหรอกนะลูก แต่พอแผลหายก็ไม่ได้เป็นปัญหาใหญ่เลย เค้าก็มีชีวิตปกติตอนนี้อายุ 14 ย่าง 15 แล้ว อาหารก็หมูปิ้งบ้าง ไก่ย่างไก่ทอด กินประจำได้ทุกวันก็ตับย่างคลุกข้าวไม่เคยบ่น วันไหนกินไม่หมดเหลือหรือเลือกกินก็จะโดนทำโทษให้อดข้าว 1 มื้อ และจะบอกเค้าประจำว่าหมาข้างถนนมันอดกว่านี้ กินเหลือได้ไง พออดปุ๊ปวันต่อมาก็กินได้เยอะ เราเลี้ยงเค้าก็ต้องฝึกเค้าได้คะ ไม่งั้นจะลำบากทั้งคนเลี้ยงและเค้าเองคะ คิดว่าถ้าเป็นเราสงสัยไม่มีใครยอมให้ลูกหมาแหง่มๆๆ จากคุณ : sherykik (sherykik) - [ 9 มี.ค. 52 14:53:21 ]