 |
+++++++++++++ "บ้านสามถุงกะหนึ่งหนุ่ม" จดหมายจากพ่อถึงลูก ++++++++++++++++
ถึง ป๊อกกี้,ฟิชโช,อองรีน้อย,กูลิโกะ,ทาโร่,อองรีจูเนียร์,เบนโตะ
พ่อคิดใคร่ครวญดีแล้ว ถึงเรื่องราวที่ผ่านมาถึงชีวิตของลูกๆที่ประสบมาแต่เรื่องเลวร้ายในชีวิต ตอนนี้ลูกๆคงสุขสบายกันดี ไม่เจ็บป่วย ทรมานด้วยโรค "ลำไส้อักเสบ" และ โรค "หัดขึ้นสมอง" ตอนนี้ น้องๆของพวกเจ้า "เบนโตะ" กำลังรอที่จะตามพวกเจ้าไป พ่อคงไม่ยื้อชีวิต ด้วยการฉีด interferon เข้าไป ที่ใครก็บอกว่าดีนักดีหนา
ชีวิตที่พวกเจ้าเกิดมา และตายอย่างทนทุกข์ ทรมานนั้น พ่อได้พยายามเผยแพร่ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ออกไป คิดว่า คงผ่านหูผ่านตากับ คนที่เห็นดีในเรื่องนี้เป็นอย่างมากแล้ว ในเมลก็มีสัตวแพทย์จากจุฬาเป็นหมอที่ชำนาญในด้าน "ไวรัสวิทยาและโรคติดเชื้อ" เมลมาถามรายละเอียด ซึ่งพ่อก็ยินดีจะให้ไป
พ่อคิดๆดูดีแล้ว พ่อคงจะหยุดพูดในสิ่งที่เราทั้งหมดได้เจอมา และเราแลกกับสิ่งมีค่าเหล่านี้มาด้วยชีวิตอันบริสุทธิ์ แต่มันๆเหล่านั้นคงจะยินดีกว่านี้ ถ้าชีวิตลูกๆตายไปกับ วิธี supportive treatment ที่มันๆภูมิใจนักหนาว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุดในโลก โดยมันยังไม่กล้าที่จะยอมรับเลยว่า วิธีนี้เป็นวิธีที่ช่วยได้ไม่ทุกๆสายพันธ์และมันก็ไม่กล้ารับรองว่าจะรอดเกิน 50% ทุกกรณี
ผลพวงจากการที่ลูกๆต้องทนด้วยวิธี supportive treatment ไม่ว่าจะ 5วัน-7วัน แล้วรอดตาย แต่สิ่งที่จะตามมาตลอดชีวิต คือ villi ในผนังลำไส้เล็กจะถูกไวรัสทำลายลงทุกวันๆ ยิ่งลูกอยู่ได้นานเท่าไหร่กับวิธีที่มันๆทั้งหลายภูมิใจ นั่นก้แสดงว่า ตลอดชีวิตของลูก จะไม่สามารถย่อยและดูดซึม ได้เหมือนเดิมตลอดชีวิต มันก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้หรอก ตลอดเวลาที่มันอ้างว่า มันภูมิใจกับวิธีเดิมๆ
ยิ่งนานวัน ไวรัสนอกจากจะทำลายระบบการดูดซึมแล้ว ยังทำลายกล้ามเนื้อทั้งหมดในร่างกาย ทำให้ลูกๆที่รอดตายมา เหลือแต่หนังติดกระดูก และต้องใช้เวลานานในการฟื้นฟูสภาพร่างกาย ซึ่ง "หมอชูศักดิ์" บอกว่า เราจะทดลองฟื้นฟูร่างกายกันถ้า "เบนโตะ" รอดตายจากไข้หัด
พ่อคิดและตระหนักดีแล้วว่า ความลับของเรื่องราวทั้งหมดนี้ พ่อควรจะลงโทษกับพวกมันๆ ด้วยการไม่เผยแพร่ข้อมูลออกไปอีกแล้ว แต่ผู้ที่ยังหวังดีและสนใจในวิธีการนี้ จะติดต่อเข้ามาเอง ซึ่งพ่อก็ต้องเลือกที่จะให้หรือไม่ให้ข้อมูลออกไป
ความลับที่แลกมาด้วยชีวิตของลูกๆ จะไม่ถูกเผยแพร่ออกไปอีกเลย พ่อสัญญา และพ่อได้ปิดเนื้อหาในเวบของเราแล้ว จะไม่มีใครเข้ามาเอามันไปได้อีกเลย
ปล่อยให้มันๆเหล่านั้นจมปลักกับสิ่งที่มันเรียกว่า "สิ่งที่ดีที่สุดในโลก" มันๆเหล่านั้นยังสะเออะมาดูถูกถึงวิชาชีพที่พ่อร่ำเรียนมา โดยมันๆเหล่านั้นไม่ได้สำนึกเลยว่า supportive treatment เป็นวิธีการที่รักษามาตลอด 20 กว่าปีแล้ว ส่วนวิชาทางด้านวิศวกรรมทุกแขนง เกิดนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นแทบจะทุกวัน ทั้งเทคโนโลยีทางด้านวัสดุ คอมพิวเตอร์ การสื่อสาร การคำนวนและออกแบบ
ไอ้ supportive treatment เกิดมาก่อน internet อีกนะ แต่ ทุกวันนี้คนที่อาศัยอยู่คนละซีกโลก เค้าคุยกันทางหน้าจอแล้ว มันก็ยังภูมิใจว่า นี่คือ "สิ่งที่ดีที่สุดในโลก"
ลูกๆเอ้ย พ่อยังจำได้ว่าในวันที่ลูกๆเกิดมาและพ่อทำคลอดให้จนถึงตัดสายสะดือให้ทุกตัวนั้น พ่อยังจำได้ดีถึงความรู้สึกวันนั้น พ่อยังจำได้ถึงความวุ่นวายที่เกิดในที่พักอันสุขสงบของพ่อ
พ่อจำได้ถึงวันที่ลูกๆเริ่มป่วยกันได้ วันที่ลูกๆตายจากพ่อไปวันละตัว วันละตัว และเวลานั้นกำลังจะจบหมดแล้ว เหลือ "เบนโตะ" ที่กำลังจะตามไป ชีวิตของลูกๆ เกิดมาไม่เสียป่าวหรอก ลูกๆได้เดินไปตบหน้าพวกมันๆเหล่านันแล้ว แล้วมันๆเหล่านั้นคงแอบแช่งชักหักกระดูกให้ตายไปตั้งแต่ supportive treatment แล้ว จะได้ไม่มีใครหน้าไหนกล้ามาหักล้างวิชาความรู้ที่มันภูมิใจว่าเรียนมาจนจบ จนประกอบอาชีพได้ทุกวันนี้
พ่อกำลังชั่งใจว่า พ่อจะทำข้อมูลภาษาองกฤษแล้วส่งไปทั่วโลก แทนที่จะส่งตามมหาลัยในประเทศไทย พ่อคิดว่า คนทั่วโลกคงเห็นชีวิตลูกมีค่ากว่า ไอ้พวกมันๆเหล่านั้นเป็นแน่แท้ พ่อเชื่อว่าเราก็จะต้องซื้อเทคโนโลยีแพงๆจากต่างชาติมาใช้อีกนั่นแหละ แต่ก็ไม่เปนไร อย่างน้อยชีวิตลูกๆก็มีค่า
สิ่งที่พ่อได้เห็นหลังจากที่เสียลูกๆไป พ่อได้เพื่อนที่ดีชื่อ "หมอชูศักดิ์" หมอไม่ใช่พวกทำอาชีพนี้เพื่อเงินหรอกนะลูกสบายใจได้ พ่อเข้าใจเลยว่า "อาชีพสัตวแพทย์" กับ "หมอรักหมา" เป็นแบบไหน พ่อไม่เคยเห็น สัตวแพทย์คนไหนที่เข้าใจหมาได้แบบ "หมอชูศักดิ์" อีกแล้ว แต่พวกมันๆ ก็คงคิดในใจว่า "ไอ้หมอจนๆ" จริงๆพ่อคิดว่า เรื่องเงินเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่เรื่องความรู้และน้ำใจของหมอที่มีต่อชีวิต หมาๆ แบบลูก มันยิ่งใหญ่มาก พ่อเข้าใจจริงๆถึงสัญชาติญาณของหมาป่วยตัวอื่นๆที่มาหาหมอ แล้วนิ่งสงบทำตามที่หมอบอก พ่อไม่เคยเห็นที่ไหน และพ่อไม่อยากให้ มันๆเหล่านั้นมาเรียกชื่อ "หมอชูศักดิ์" อีกแล้ว เป็นเสนียดกับหมอป่าวๆ
หมอเคยบอกพ่อแล้ว ว่าอย่าเผยแพร่ออกไป แต่หมอก็ยังต้องการให้ พวกคนที่ใจกว้างและมีความรู้นำไปศึกษาต่อ ซึ่งพ่อคิดว่า เราบรรลุวัตถุประสงค์แล้วล่ะ
พ่อคิดว่าป่านนี้ลูกๆคงวิ่งเล่นวุ่นวายอยู่ที่ไหนสักที่ใช่มั้ย??หรือไปเกิดใหม่แล้ว ถ้าไปเกิดใหม่ก็เกิดเป็นคนใจกว้างๆ อย่าทำตัวเป็นพวก "ชาล้นถ้วย" นะ
พ่อเชื่อว่าลูกๆคงได้อานิสงฆ์ในส่วนที่วิธีการนี้ ช่วยชีวิตหมาตัวอื่นๆรอดตายไปแล้วบางส่วน ขอให้ลูกๆไปเกิดใหม่ในภพภูมิที่ดีกว่านี้
เมื่อเช้าพ่อไปแช่งชักหักกระดูกเอาไว้ในกระทู้เก่า พ่อขอโทษ พ่อสัญญาว่าพ่อจะแผ่เมตตาให้มันๆเหล่านั้นแทนดีกว่า แต่พ่อทนไม่ได้จริงๆ ที่ระหว่างพ่อต้องยัดอาหาร ยัดยาให้ "เบนโตะ" กินทุกวัน มันยังเห็นว่า ชีวิต "เบนโตะ" ที่รอดมายังฟลุ๊ค และมีราคาถูกเหมือนหวย พ่อว่ามันคงเล่นหวยกันจนชาชิน เพราะมันๆก็พูดแต่เรื่องนี้กันทั้งนั้น
จริงๆถ้าวิธีนี้มีคนไปสานต่อและทำให้เกิดการช่วยชีวิตได้จริง ในต่างประเทศก็ได้ไม่จำเป็นต้องเป็นคนไทยหรอกนะ พ่อยังแอบหวังว่าพวกมันๆเหล่านั้นจะสำนึกผิดและยกย่องให้ลูกๆเป็นอาจารย์ใหญ่ เหมือนอาจารย์ใหญ่ตัวอื่นๆ ที่มันๆก็เอามาใช้ประโยชน์จนเรียนจบมา
จดหมายนี้คงเป็นจดหมายฉบับเดียวและฉบับสุดท้ายที่เราจะเผยแพร่ออกไปและเราคงอยู่กันเงียบๆ ทำงานในส่วนที่เราๆควรจะทำกันดีกว่านะ ไม่ต้องห่วงนะว่า บ้านจะเงียบเกินไป เพราะไม่มีลูกๆอยู่ ทุกวันนี้ อองรี ถุงเพชร ถุงเงิน ถุงทอง เบนโตะ ก็ยังทำให้บ้านเสียงดังได้ เป็นระยะๆ
พ่อหวังว่าลูกๆคงไม่มีทุกข์กรรมใดๆ ที่หนักเท่าชาตินี้อีกแล้วนะ ไปเกิดใหม่ก็ขอให้สุขสบาย เจอแต่เรื่องดีๆนะ ดูแลตัวเองดีๆด้วยนะ พ่อรักทุกๆตัวเท่ากันหมดแหละนะ
พ่อต้องไปดู "เบนโตะ" เป็นระยะๆ เพราะพ่อก็ไม่รู้ว่า "เบนโตะ" จะไปเมื่อไหร่ พ่อคงเอาเวลาทั้งหมดไปดูแล "เบนโตะ" ในช่วงท้ายๆของชีวิตแล้ว พ่อคงไม่มาเสียเวลากับไอ้พวกจมปลักเหล่านี้อีกแล้ว ปล่อยมันร้องแรกแหกกะเชอ เรื่อง "จรรณยาบรรณ" ของมันต่อไป จริงๆ ควรจะมีวิชา "เปิดใจกว้างๆ" และวิชา"มนุษยธรรมบนโลกของความเป็นจริง" ให้มันๆเหล่านั้นได้เรียนเพิ่มก็ดีนะ
พ่อคงต้องไปจริงๆแล้ว แต่จดหมายก่อนไปควรจะมี ปล.ใช่มั้ยตามสไตล์ที่เราถนัดกัน แล้วเราควรจะ ปล.เรื่องอะไรดี
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
อ่อนึกออกแล้ว
ปล. "มัน" ในที่นี้หมายถึง "โปเตโต้"
ปล.1 "มันๆ" หมายถึง มันฝรั่งกรอบยี่ห้อหนึ่ง
ปล.2 อย่าเดือดร้อนอะไรเลย ถ้าคุณ ไม่ใช่ "มัน" ในที่นี้
จากคุณ :
I am soda  
- [
12 มี.ค. 52 01:08:47
]
|
|
|
|
|
|
