Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com


    พระราชทาน"ชุดลู่วิ่งใต้น้ำ" ฟื้นฟูสุนัขป่วย-บาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลสัตว์ ม.เกษตร

    พระราชทาน"ชุดลู่วิ่งใต้น้ำ" ฟื้นฟูสุนัขป่วย-บาดเจ็บ ที่โรงพยาบาลสัตว์ ม.เกษตร

    โดย พนิดา สงวนเสรีวานิช

    ภายในห้องกายภาพบำบัด ชั้น 1 โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

    "แลซซี่" ถูกพามายืนอยู่บนโต๊ะยกที่ขับเคลื่อนด้วยระบบไฮดรอลิกส์ เตรียมเข้าชั่วโมงทำกายภาพบำบัด

    ข้างๆ โต๊ะยกนั้นเป็น "ชุดลู่วิ่งใต้น้ำ" อุปกรณ์เพื่อการฟื้นฟูให้กับสุนัขที่มีปัญหาเกี่ยวกับการทำงานของระบบประสาท กล้ามเนื้อ กระดูก ข้อต่อ และเส้นเอ็น ผิดปกติ

    สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร โปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

    เพื่อใช้ในงานฟื้นฟูการเคลื่อนไหวของสุนัขทรงเลี้ยงและสุนัขของประชาชนทั่วไปที่มีอาการป่วยหรือบาดเจ็บให้กลับคืนสู่สภาวะปกติ

    "น.สพ.บดินทร์ ติระพัฒน์" นายสัตวแพทย์ประจำโรงพยาบาลสัตว์ กล่าวว่า สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงพระราชทานชุดลู่วิ่งใต้น้ำ เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เนื่องจากทรงศึกษาและพบว่าสุนัขทรงเลี้ยงหลายตัวที่มีปัญหาเรื่องข้อและเส้นประสาทในการวิ่ง ยืน เดิน มีความจำเป็นในการบำบัดด้วยอุปกรณ์ที่ทันสมัย จึงทรงโปรดเกล้าพระราชทานมาให้

    นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ไม่เพียงพระราชทานแก่คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อใช้ในการวิจัยและศึกษาเพื่อการรักษาสุนัขที่เข้ามาใช้บริการที่โรงพยาบาลแห่งนี้

    ที่สำคัญคือ ได้ทรงพระราชทานโอกาสให้กับประชาชนชาวไทยได้มีโอกาสเข้าถึงการบำบัดรักษาแผนใหม่ที่มีประสิทธิภาพ

    ทั้งยังพระราชทานโอกาสให้นิสิตคณะสัตวแพทย์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้เรียนรู้เรื่องเวชศาสตร์ฟื้นฟูทางสัตวแพทย์ ซึ่งเป็นวิทยาการที่ค่อนข้างมีความสำคัญเพิ่มขึ้นทุกวันในปัจจุบัน

    และท้ายที่สุดคือทรงพระราชทานโอกาสให้กับสัตวแพทย์ในประเทศไทยได้มีโอกาสพัฒนาองค์ความรู้และทักษะในการบำบัดโรคเพื่อรับใช้สังคมต่อไป

    ทั้งนี้ ชุดอุปกรณ์ดังกล่าวประกอบด้วยตู้กระจกใส่น้ำ ขนาด 88x220 เซนติเมตร สูง 160 เซนติเมตร สายพานหรือลู่วิ่งขนาด 60x160 เซนติเมตร มอเตอร์ในการขับเคลื่อนสายพาน และระบบควบคุมความเร็ว สามารถปรับความเร็ว 0-6 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระบบปรับอุณหภูมิของน้ำ ระบบหัวฉีดน้ำและระบบกรองน้ำ

    "สพ.ญ.ดร.มนชนก วิจารณ์สรณ์" ประธานคณะกรรมการดูแลเครื่องลู่วิ่งใต้น้ำพระราชทาน อธิบายถึงการทำงานของ "ชุดลู่วิ่งใต้น้ำ" ว่า เป็นการผสมผสานระหว่างการใช้สายพานเดินและการใช้น้ำซึ่งมีคุณสมบัติในการทำให้เกิดแรงพยุงลอยตัวขึ้น ทำให้ขาทั้งสี่ของสุนัขรับน้ำหนักน้อยลงกว่าน้ำหนักตัวทั้งหมดเมื่ออยู่บนบก โดยขึ้นกับระดับของน้ำที่กำหนด

    เช่น ถ้าน้ำอยู่ในระดับข้อสะโพกของสุนัข น้ำหนักตัวที่ทิ้งลงบนขาทั้งสี่ข้างของสุนัขจะเหลือเพียง 38%

    ฉะนั้น ในกรณีที่สุนัขมีอาการบาดเจ็บของขา ความเจ็บปวดของข้อต่อ หรือเส้นประสาท เมื่อลงไปในชุดลู่วิ่งใต้น้ำ น้ำจะช่วยพยุงน้ำหนักตัวไว้ ขณะที่สายพานยังบังคับให้ขา ข้อขา มีการขยับ และเหมือนมีการออกกำลังกาย

    ถ้าระดับน้ำลดลงถึงข้อเข่า เราพบว่าน้ำหนักตัวจะลดลงเหลือแค่ 85% จะมีการพยุงระดับหนึ่งแต่น้อยกว่าระดับน้ำครึ่งหนึ่ง นั่นหมายความว่าการปรับระดับน้ำมีความสำคัญ

    นอกจากนี้ แรงดันน้ำยังมีส่วนช่วยลดการบวม และการตั้งอุณหภูมิของน้ำที่ 25-35 องศาเซลเซียส จะช่วยลดการอักเสบ ขณะที่การใช้หัวฉีดเพื่อสร้างกระแสน้ำในทิศต้านการเดินของสุนัขเป็นการเพิ่มแรงต้านที่เป็นการเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ

    "การเดินบนสายพานใต้น้ำเป็นวิธีการออกกำลังกายที่มีประสิทธิภาพสูง และเรานำมาใช้ในการบำบัดรักษาที่เรียกว่าเวชศาสตร์ฟื้นฟูทางสัตวแพทย์ ช่วยเพิ่มสมรรถภาพการทำงานของระบบประสาท ระบบข้อต่อ กระดูก กล้ามเนื้อ เส้นเอ็นต่างๆ เพราะฉะนั้น จึงเหมาะกับการรักษาโรคระบบประสาท โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม กระดูกหัก รวมทั้งโรคเส้นเอ็นฉีกขาด"

    คุณหมอมนชนก หยิบเอากรณีศึกษาของสุนัขที่เอ็นข้อเข่าฉีกขาด หลังจากได้รับการผ่าตัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ยังเดินได้ไม่ดีนัก ได้เข้ามาเป็นคนไข้ฟื้นฟูข้อเข่าด้วยสายพานใต้น้ำ

    และอีกกรณีเป็นสุนัขอายุมาก มีปัญหาข้อสะโพกเสื่อมอย่างรุนแรง แม้เมื่อจับลงในสระสุวรรณชาดยังคงไม่ยอมใช้ขา จึงต้องมาเข้าคอร์สกับชุดลู่วิ่งใต้น้ำ ซึ่งแรงพยุงของน้ำจะช่วยให้การเดินไม่เกิดอาการเจ็บปวด และทำให้สุนัขนั้นได้ออกกำลังกาย

    สำหรับกรณีของ "แลซซี่" เป็นสุนัขพันธุ์ดอลลี่ เพศเมีย อายุได้เพียงปีเศษ แต่กลับมีอาการไม่ยอมเดินไปไหนมาไหน เจ้าของจึงพาแลซซี่มาหาหมอที่โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
    (บน) "แลซซี่" บนโต๊ะยกเตรียมตัวจะลงชุดลู่วิ่งใต้น้ำ (ล่าง) หมอบดินทร์และหมอมนชนก

    มองสภาพร่างกายภายนอก อาจจะไม่เห็นความผิดปกติ เพราะแลซซี่เองก็ไม่ได้มีน้ำหนักที่มากเกินจนอุ้ยอ้าย แต่มีปัญหาที่ข้อเข่า

    ประธานคณะกรรมการดูแลเครื่องลู่วิ่งใต้น้ำพระราชทาน อธิบายว่า โรคของแลซซี่นั้นยังไม่มีการสรุปว่าเกิดอะไรขึ้นจึงทำให้โครงสร้างของเท้าแลซซี่ผิดปกติ และเกิดภาวะที่เรียกว่า "ไฮเปอร์ เอ็กซ์เทนชั่น" คือมีอาการข้อเหยียดตึงมากๆ จนไม่ยอมเดินเพราะปวดข้อ

    "เท่าที่ทำการศึกษามา โอกาสหายจนสามารถเดินได้เหมือนเดิมนั้น-ไม่มี แต่มีโอกาสที่จะเดินได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี-มีค่ะ ถ้าได้รับการรักษาแต่เนิ่นๆ

    อาการเช่นนี้พบบ่อยมากขึ้นเรื่อยๆ สุนัขพันธุ์ไทยก็เจอค่ะ โดยจะเกิดกับสุนัขที่อยู่ในช่วงที่การเจริญเติบโตสูงมากๆ

    แต่ไม่เป็นไรค่ะ ทุกตัวสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่ต้องทำให้ขาแข็งแรงเท่านั้นเอง" คุณหมอมนชนก กล่าวอย่างอารมณ์ดี และบอกว่า

    "สิ่งสำคัญที่เราพบคือ การใช้ธาราบำบัด ชุดลู่วิ่งใต้น้ำนี้คืออุปกรณ์ในกลุ่มธาราบำบัด ซึ่งธาราบำบัดที่ดีมีอยู่ 2 ตัว คือ สระสุวรรณชาด คือกลุ่มของสระว่ายน้ำ เพราะช่วยให้สุนัขไม่ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนขา แต่จะมีการขยับของข้ออย่างมาก

    ตัวที่ 2 คือ ชุดลู่วิ่งใต้น้ำ โดยจะมีการทิ้งน้ำหนักลงบนข้อบ้าง"

    คุณหมอมนชนกเล่าถึงกระบวนการรักษาแลซซี่ว่า ก่อนหน้าจะได้รับพระราชทานชุดลู่วิ่งใต้น้ำ ใช้วิธีกำหนดชนิดของอาหาร โดยการลดอาหารโปรตีนและเพิ่มแคลเซี่ยมเพื่อให้กระดูกแข็งแรงขึ้น

    ขณะเดียวกันก็ใช้การออกกำลังกายโดยการว่ายน้ำในสระสุวรรณชาด สระน้ำพระราชทานที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อใช้ในการบำบัดรักษาสุนัข

    "ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของแลซซี่ที่เข้ารับการบำบัดด้วยชุดลู่วิ่งใต้น้ำ" คุณหมออธิบายขณะที่แลซซี่ถูกย้ายจากโต๊ะยกมายืนพร้อมอยู่บนสายพานที่ได้รับการปรับสูงจนอยู่ในระนาบเดียวกัน ขณะที่ด้านล่างของสายพานบรรจุน้ำไว้พร้อมแล้ว จากนั้นสายพานค่อยลดระดับลงจนสุดและเริ่มเดิมเครื่อง พร้อมกับที่แลซซี่ค่อยๆ ขยับขาเดินไปตามสายพานอย่างช้าๆ

    "แลซซี่ เดินมาทางนี้-แลซซี่" เสียงคุณหมอให้กำลังใจแลซซี่ซึ่งขณะนี้ค่อยๆ ก้าวเดินอยู่บนชุดลู่วิ่งใต้น้ำ

    "การให้กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ จะเห็นว่าเขายอมเดินด้วยดี เพราะพื้นสายพานที่เคลื่อนไปข้างหน้าทำให้เขารู้สึกว่าการเดินครั้งนี้ไม่เจ็บปวด

    ครั้งแรกๆ จะใช้เวลาครั้งละ 15 นาที อุณหภูมิของน้ำจะให้ได้ประสิทธิภาพที่ดี จะอยู่ที่ 25 องศา ฝึกอยู่ระยะหนึ่งเราจะเห็นการเพิ่มประสิทธิภาพของข้อต่อและเส้นเอ็น หลังจากนั้นจะลดระดับน้ำลงเพื่อให้สุนัขช่วยตัวเองได้มากขึ้น"

    คุณหมอมนชนกเล่าว่า สุนัขที่ใช้ชุดลู่วิ่งใต้น้ำในการบำบัดส่วนใหญ่จะเป็นโรคเกี่ยวกับข้อ เพราะเป็นสุนัขที่อายุเยอะขึ้น อย่างก่อนหน้านี้ที่มาใช้บริการจะมีคุณหอมหมื่นลี้ คุณมัสมั่น สุนัขทรงเลี้ยงในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

    คุณฟุ้งฟุ้ง สุนัขทรงเลี้ยงในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ คุณเดรสเดรน สุนัขทรงเลี้ยงในสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ และด้วยทรงเห็นความสำคัญจึงทรงพระราชทานชุดลู่วิ่งใต้น้ำมาให้ที่โรงพยาบาลสัตว์ เพื่อให้สุนัขของประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสได้ใช้ประโยชน์ด้วย

    "ปัจจุบันเราเปิดใช้งานจริงแล้ว และได้ทยอยนำสุนัขของประชาชนลงแล้ว โดยจะมีทีมหมอตรวจดูว่าสุนัขตัวไหนเหมาะที่จะใช้สายพานใต้น้ำ ซึ่งวันหนึ่งจะให้บริการได้ 12 ตัว"

    คุณหมอมนชนกบอกอีกว่า ชุดลู่วิ่งใต้น้ำชุดนี้ในเมืองไทยยังไม่มี ต้องสั่งเข้ามาจากประเทศเยอรมนี ราคา 1.6 ล้านบาท โดยทางโรงพยาบาลสัตว์ได้รับความช่วยเหลือจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดยเฉพาะ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ซึ่งมาช่วงในการต่อสายไฟ ต่อชิ้นส่วนต่างๆ ให้ แต่ในเร็วๆ นี้ทางโรงพยาบาลกำลังจะได้ชุดลู่วิ่งใต้น้ำชุดใหม่ ซึ่งเป็นฝีมือคนไทย

    "ก่อนจะได้เครื่องนี้มา เราเห็นความสำคัญของเครื่องนี้แต่ไม่มีกำลังพอ จึงขอความช่วยเหลือไปยังคณะวิศวกรรมศาสตร์ ภาควิชาวิศวกรรมเครื่องกล ค่าใช้จ่ายทั้งหมดประมาณ 5 แสนบาท ใช้แนวคิดเดียวกัน ใกล้เสร็จแล้วค่ะ"

    แม้ว่าชุดลู่วิ่งใต้น้ำเครื่องใหม่ จะไม่มีระบบไฮดรอลิกส์ ใช้แบบแมน่วลแท้ๆ แต่ก็เป็นความภาคภูมิใจเพราะเป็นฝีมือคนไทยโดยความคิดคนไทย

    http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra02010452&sectionid=0131&day=2009-04-01

    **************************************

    ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ

     
     

    จากคุณ : หนุ่มใหญ่ปะแป้ง - [ 1 เม.ย. 52 02:03:10 ]

 
 


ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป


Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com