ความคิดเห็นที่ 1 วันนี้ไปรับมารวมทั้งหมด 450 ต้น ต้นสูงประมาณ 1 เมตร ขึ้นไปสำหรับต้นละ 20 บาทขึ้นไป แก้ไขเมื่อ 04 พ.ค. 52 07:56:21 จากคุณ : กะจังวา - [ 3 พ.ค. 52 21:40:09 ]

ความคิดเห็นที่ 2 วันนี้ฝนไม่ตกครับ เลยต้องปลูกเอาฤกษ์ ต้นเดียวพอต้องรดน้ำหลังจากปลูกเสร็จ ที่เหลือจะตากดินสัก 1 สัปดาห์ก่อน วันเสาร์หน้านี้จะไปปลูกทั้งหมดอีกที จากคุณ : กะจังวา - [ 3 พ.ค. 52 21:44:28 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ปูเสื่อรอชมครับ   จากคุณ : ญี่ปุ่น35 - [ 4 พ.ค. 52 01:18:01 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไปขอรับมาเหมือนกันที่ บางคล้า ได้มะค่า ห้าสิบต้น  ประดู่ ห้าสิบต้น ตะเคียน สิบ ยางนาอีกสิบ  ที่มันน้อยอ่ะครับ ไม่อยากเอามาเยอะ เสียดายถ้าไม่ได้ปลูก จากคุณ : ภูมิพัฒน์ - [ 4 พ.ค. 52 09:12:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 เข้ามาดูเกษตรกร ส่วนผมเป็นลูกจ้างเขาอยู่เลย จากคุณ : PATCHAYAS - [ 4 พ.ค. 52 20:03:07 ]

ความคิดเห็นที่ 6 การล่มสลายของสังคมเกษตรชนบท    จากกระทู้  http://www.pantip.com/cafe/jatujak/topic/J7758986/J7758986.html และกำลังจะลุกลามสู่สังคมอุตสาหกรรม  ดูแล้วเห็นภาพชัดเจน   http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt080514hi.asp       แผ่นดินวิกฤต http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt080521hi.asp      วิกฤตเกษตรเชิ่งเดี่ยว http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt090304hi.asp    ความล้มเหลวของอุตสหกรรมที่ส่งผลถึงเกษตรกรรม http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt090318hi.asp   เชื้อไฟแห่งความหวัง  (แบบอย่างความพอเพียง ) http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt080604hi.asp   ลุงนิล คนของความสุข http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt080827hi.asp     ชุมชนเป็นสุข http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt081015hi.asp    ธนาคารต้นไม้ http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt080528hi.asp   เคลื่อนพล คนพอเพียง แก้ไขเมื่อ 05 พ.ค. 52 23:09:25 จากคุณ : talontour - [ วันฉัตรมงคล 23:05:07 ]

ความคิดเห็นที่ 7 พระราชดำรัส  "ป่าสามอย่าง  ประโยชน์สี่อย่าง " "...ป่าไม้ที่จะปลูกนั้น สมควรที่จะปลูกแบบป่าใช้ไม้หนึ่ง ป่าสำหรับใช้ผลหนึ่ง ป่าสำหรับใช้เป็นฟืนอย่าง หนึ่ง อันนี้แยกออกไปเป็นกว้างๆ ใหญ่ๆ การที่จะปลูกต้นไม้สำหรับได้ประโยชน์ดังนี้ ในคำวิเคราะห์ของ กรมป่าไม้รู้สึกจะไม่ใช่ป่าไม้ เป็นสวน หรือจะเป็นสวนมากกว่าป่าไม้ แต่ในความหมายของการช่วยเหลือ เพื่อต้นน้ำลำธารนั้น ป่าไม้เช่นนี้จะเป็นสวนผลไม้ก็ตามนั่นแหละเป็นป่าไม้ที่ถูกต้อง เพราะทำหน้าที่เป็นป่า คือ เป็นต้นไม้และทำหน้าที่เป็นทรัพยากรในด้านสำหรับให้ผลที่มาเป็นประโยชน์แก่ประชาชนได้..." ประโยชน์ที่ได้รับ ๔ อย่าง "...การปลูกป่า ๓ อย่าง แต่ให้ประโยชน์ ๔ อย่าง ซึ่งได้ไม้ผล ไม้สร้างบ้าน และไม้ฟืนนั้น สามารถให้ ประโยชน์ได้ถึง ๔ อย่าง คือ นอกจากประโยชน์ในตัวเองตามชื่อแล้ว ยังสามารถช่วยอนุรักษ์ดินและ ต้นน้ำลำธารด้วย..." และยังได้มีพระราชดำรัสเพิ่มเติมว่า "...การปลูกป่าถ้าจะให้ราษฎรมีประโยชน์ให้เขาอยู่ได้ ให้ใช้วิธีปลูกไม้ ๓ อย่าง แต่มีประโยชน์ ๔ อย่าง คือ ไม้ใช้สอย ไม้กินได้ ไม้เศรษฐกิจ โดยปลูกรองรับการชลประทาน ปลูกรับซับน้ำ และปลูกอุดช่วง ไหลตามร่องห้วย โดยรับน้ำฝนอย่างเดียว ประโยชน์อย่างที่ ๔ คือได้ระบบอนุรักษ์ดินและน้ำ..." จากคุณ : talontour - [ 6 พ.ค. 52 09:23:29 ]

ความคิดเห็นที่ 8 “ป่าสามอย่าง ประโยชน์สี่อย่าง” เป็นวิธีการผสมผสานการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากร ป่าไม้ ควบคู่ไปกับความต้องการด้านเศรษฐกิจ และสังคม คือ ป้องกันการบุกรุกทำลายป่าไม้ ฯลฯ ปลูกป่าสามอย่าง คือ ป่าไม้สำหรับไม้ใช้สอย ป่าไม้สำหรับเป็นไม้ผล และ ป่าไม้สำหรับเชื้อเพลิง ก่อให้เกิดประโยชน์สี่อย่าง คือ ประโยชน์ใช้สอย ประโยชน์ไม้ผล ประโยชน์ไม้สำหรับเชื้อเพลิง และประโยชน์ในการอนุรักษ์ดินและน้ำ “ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก” ละเลยการปลูกป่าโดยไม่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ เพราะไปลอกหน้าดินซึ่งมีคุณค่าออกไป หรือปลูกพันธุ์ไม้ซึ่งไม่เหมาะสมกับสภาพท้องถิ่น และระบบนิเวศน์บริเวณนั้น เพราะฉะนั้นการปล่อยให้ป่าเจริญตามธรรมชาติสักระยะหนึ่งป่าไม้จะสมบูรณ์ได้เอง “ฝายชะลอความชุ่มชื้น” (Check Dam) โดยใช้วัสดุธรรมชาติที่หาได้ง่ายในท้องถิ่น เช่น ฝากต้นน้ำลำธาร สำหรับกักกระแสน้ำไว้ให้ไหลช้าลง และสามารถซึมลงใต้ผิวดินเพื่อสร้างความชุ่มชื้นในบริเวณนั้น หรือฝายดักตะกอนดินและทรายมิให้ไหลลงสู่แหล่งน้ำเบื้องล่าง จากคุณ : talontour - [ 6 พ.ค. 52 15:08:16 ]

ความคิดเห็นที่ 9 “ป่าเปียก” พระราชดำริ “ป่าเปียก” ทฤษฎีการพัฒนาป่าไม้โดยการใช้ทรัพยากรน้ำ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการสร้างแนวป้องกันไฟเปียก (Wet Fire Break) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงตระหนักถึงคุณค่าอเนกอนันต์ของน้ำเป็นยิ่งนัก ทรงคำนึงว่าทุกสรรพสิ่งในสภาพแวดล้อมของมนุษย์นั้นจะเกื้อกูลซึ่งกันและกันได้ หากรู้จักนำไปประยุกต์ใช้ให้เป็นประโยชน์ให้ได้เฉกเช่นเดียวกับพระราชดำริ “ป่าเปียก” เพื่อป้องกันไฟไหม้ป่านั้น จึงเป็นมรรควิธีที่ทรงคิดค้นขึ้นจากหลักการที่แสนง่ายแต่ได้ประโยชน์มหาศาล กล่าวคือ ยามที่เกิดไฟไหม้ป่าขึ้นคราใด ผู้คนส่วนใหญ่ก็มักคำนึงถึงการแก้ปัญหาด้วยการระดมสรรพกำลังกันดับไฟป่าให้มอดดับอย่างรวดเร็ว แต่แนวทางป้องกันไฟป่าระยะยาวนั้นยังดูเลือนลางในการวางระบบอย่างจริงจังพระราชดำริป่าเปียกจึงเป็นแนวพระราชดำริหนึ่งที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงแนะนำให้ศูนย์ศึกษาการพัฒนา อันเนื่องมาจาก พระราชดำริ ทำการศึกษาทดลองจนได้รับผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ จากคุณ : talontour - [ 6 พ.ค. 52 15:09:29 ]

ความคิดเห็นที่ 10 วิธีการสร้าง “ป่าเปียก” วิธีการแรก : ทำระบบป้องกันไฟไหม้ป่า โดยใช้แนวคลองส่งน้ำและแนวพืชชนิดต่าง ๆ ปลูกตามแนวคลองนี้ วิธีที่สอง : สร้างระบบการควบคุมไฟป่าด้วยแนวป้องกันไฟป่าเปียก โดยอาศัยน้ำ ชลประทาน และน้ำฝน วิธีที่สาม : โดยการปลูกต้นไม้โตเร็วคลุมแนวร่องน้ำ เพื่อให้ความชุ่มชื้นค่อย ๆ ทวีขึ้น และแผ่ขยายออกไปทั้งสองร่องน้ำ ซึ่งจะทำให้ต้นไม้งอกงาม และมีส่วนช่วยป้องกันไฟป่า เพราะไฟป่าจะเกิดขึ้นง่ายหากป่าขาดความชุ่มชื้น วิธีที่สี่ : โดยการสร้างฝายชะลอความชุ่มชื้น หรือที่เรียกว่า Check Dam ขึ้น เพื่อปิดกั้นร่องน้ำ หรือลำธารขนาดเล็กเป็นระยะ ๆ เพื่อใช้เก็บกักน้ำ และตะกอนดินไว้บางส่วน โดยน้ำที่เก็บไว้จะซึมเข้าไปสะสมในดิน ทำให้ความชุ่มชื้นแผ่ขยายเข้าไปทั้งสองด้านกลายเป็น “ป่าเปียก” วิธีที่ห้า : โดยการสูบน้ำเข้าไปในระดับที่สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วปล่อยน้ำลงมาทีละน้อยให้ค่อย ๆ ไหลซึมดิน เพื่อช่วยเสริมการปลูกป่าบนพื้นที่สูงในรูป “ภูเขาป่า” ให้กลายเป็น “ป่าเปียก” ซึ่งสามารถป้องกันไฟป่าได้อีกด้วย วิธีที่หก : ปลูกต้นกล้วยในพื้นที่ที่กำหนดให้เป็นช่องว่างของป่า ประมาณ 2 เมตร หากเกิดไฟไหม้ป่าก็จะปะทะต้นกล้วยซึ่งอุ้มน้ำไว้ได้มากกว่าพืชอื่นทำให้ลดการสูญเสียน้ำลงไปได้มาก แนวพระราชดำริป่าเปียก จึงนับเป็นทฤษฎีการอนุรักษ์ฟื้นฟูป่าไม้โดยใช้ความชุ่มชื้นเป็นหลักสำคัญที่จะช่วยให้ป่าเขียวสดอยู่ตลอดเวลา ไฟป่าจึงเกิดได้ยากการพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้ที่สามารถทำได้ง่าย และได้ผลดียิ่ง ทฤษฎีการปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูกตามหลักการฟื้นฟูสภาพป่าด้วยวัฏธรรมชาต(Natural Reforestation) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยในปัญหาปริมาณป่าไม้ลดลงเป็น อย่างมาก จึงทรงพยายามค้นหาวิธีนานาประการที่จะเพิ่มปริมาณของป่าไม้ในประเทศไทยให้เพิ่มมากขึ้นอย่างมั่นคงและถาวร โดยมีวิธีการที่เรียบง่ายและประหยัดในการดำเนินงาน ตลอดจนเป็นการส่งเสริมระบบ วงจรป่าไม้ในลักษณะอันเป็นธรรมชาติดั้งเดิม ซึ่งได้พระราชทาน พระราชดำริหลายวิธีการ คือ จากคุณ : talontour - [ 6 พ.ค. 52 15:12:09 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ปลูกป่าโดยไม่ต้องปลูก ด้วยวิธีการ 3 วิธีคือ “ ถ้าเลือกได้ที่ที่เหมาะสมแล้ว ก็ทิ้งป่านั้นไว้ตรงนั้น ไม่ต้องไปทำอะไรเลย ป่าจะเจริญเติบโตขึ้นมาเป็นป่าสมบูรณ์โดยไม่ต้องไปปลูกเลยสักต้นเดียว ” “ ไม่ไปรังแกป่าหรือตอแยต้นไม้ เพียงแต่คุ้มครองให้ขึ้นเองได้เท่านั้น ” “ ในสภาพป่าเต็งรัง ป่าเสื่อมโทรมไม่ต้องทำอะไรเพราะตอไม้ก็จะแตกกิ่งออกมาอีกถึงแม้ต้นไม้สวนแต่ก็เป็นต้นไม้ใหญ่ได้ ” ปลูกป่าในที่สูง ทรงแนะนำวิธีการ ดังนี้ “ ใช้ไม้จำพวกที่มีเมล็ดทั้งหลายขึ้นไปปลูกบนยอดที่สูง เมื่อโตแล้วออกฝักออกเมล็ดก็จะลอยตกลงมาแล้วงอกเองในที่ต่ำต่อไป เป็นการขยายพันธุ์โดยธรรมชาติ ” ปลูกป่าต้นน้ำลำธาร หรือ การปลูกป่าธรรมชาติ ทรงเสนอแนวทางปฏิบัติว่า ปลูกต้นไม้ที่ขึ้นอยู่เดิม คือ “ ศึกษาดูก่อนว่าพืชพันธุ์ไม้ดั้งเดิมมีอะไรบ้าง แล้วปลูกแซมตามรายการชนิดต้นไม้ที่ศึกษามาได้ ” ถิ่นเดิม คือ “ ไม่ควรนำไม้แปลกปลอมต่างพันธุ์ต่างถิ่นเข้ามาปลูกโดยยังไม่ได้ศึกษาอย่างแน่ชัดเสียก่อน ” การปลูกป่าทดแทน ในขณะนี้ประเทศไทยเรามีพื้นที่ป่าไม้เหลืออยู่เพียงร้อยละ 25 ของพื้นที่ประเทศประมาณการได้เพียง 80 ล้านไร่เท่านั้น หากจะเพิ่มเนื้อที่ป่าไม้ให้ได้ประมาณร้อยละ 40 ของพื้นที่ประเทศแล้ว คนไทยจะต้องช่วยกันปลูกป่าถึง 48 ล้านไร่ โดยใช้กล้าไม้ปลูกไม่ต่ำกว่าปีละ 100 ล้านตัน ใช้เวลาถึง 20 ปี จึงจะเพิ่มป่าไม้ได้ครบเป้าหมายที่กำหนดไว้เท่านั้น จากคุณ : talontour - [ 6 พ.ค. 52 15:15:33 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เป็นประโยชน์มากครับ กำลังหาข้อมูลเรื่องนี้พอดี แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 19:25:12 จากคุณ : โอ๊ดซึ (oatzhu) - [ 7 พ.ค. 52 19:24:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 ของผมซื้อจากอ.บ้านนา จ.นครนายกครับ แยกเข้าไปทางรร.เตรียมทหารแห่งใหม่ ระยะทางจากทางแยกไฟแดงที่ขับรถเข้าไปประมาณ 8 กม.ครับ พอดีผมเป็นคน พื้นเพแถวนั้นเลยอุดหนุนคนกันเองอ่ะครับ^^ ผมยังไม่ได้ลงมือปลูกเลยชุดที่ซื้อมาตั้งแต่วันที่ 2 รอฝนอยู่ครับอากาศร้อนมาก ไม่อยากตามไปรดน้ำทีหลังตอนนี้กำลังฝึกต้นไม้ให้สู้แดดแรง  ๆ  ไปก่อนเดี๋ยวจะไป แวะขอต้นกลาที่ศูนย์เพาะชำอาทิตย์หน้าละครับตุนไว้ก่อนจะปลูกตรงไหนไว้ดูอีกทีครับ จากคุณ : จุ๊จิ๊ - [ วันวิสาขบูชา 12:40:56 ]