ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนเลี้ยงกระต่าย อยากให้ศึกษาและเข้าใจธรรมชาติของกระต่ายก่อนตัดสินใจจริงๆค่ะว่าจะตัดสินใจเลี้ยงแน่ๆ และเหมาะกับการดำเนินชีวิตของเขาและคุณด้วยนะคะ อันนี้เครดิตคนเริ่มต้น dorapanda ค่ะ แม่หมีตัวอ้วนเอามาเพิ่มเติมบางส่วนค่ะ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ควรให้อาหารกระต่ายอย่างไรดี ? -------------------------------------- อายุ 1-3 เดือน ให้ อาหารเม็ด เช้า 1 ครั้ง เย็น 1 ครั้ง หญ้าแห้งทุกประเภท (เช่น ทิมโมธี ออชาร์ด เมาท์เท่น เบอร์มิวด้า แพงโกล่า) และ อัลฟาฟ่า (Alfafa) ได้ตลอดเวลา ถ้าหากให้อาหารเม็ด Oxbow Bunny Basics 15/23 หรือยี่ห้ออื่นที่ทำจากอัลฟาฟ่า ก็ไม่จำเป็นต้องให้อัลฟาฟ่าอีก เพราะอาหารเม็ดทำจากอัลฟาฟ่า หากให้อัลฟาฟ่าอีกจะทำให้ได้รับสารอาหารมากเกินไป อาจทำให้อึนิ่ม ฉี่ขุ่นขาว หรือท้องเสียได้ อายุ 3 - 6 เดือน ให้อาหารเม็ด กับ ผักสด เริ่มให้กินหญ้าขนโดยเริ่มครั้งละ 2 ก้าน ถ้าขับถ่ายปกติก็เพิ่มเป็นทีละกำได้คะ ให้กินเช้า เย็น เช่นกันค่ะ ส่วนหญ้าแห้งอื่นๆ และอัลฟาฟ่าให้กินได้ทั้งวันคะ ถ้า 6 เดือนขึ้นไป (เป็นอายุที่โตเต็มวัยของกระต่าย) ให้อาหารเม็ดปริมาณลดเหลือ 1 มื้อ อาจจะแบ่งให้ 2 เวลา เช้าเย็น แต่ปริมาณ เท่ากับ 1 มื้อพอนะคะ งดอัลฟาฟ่า ให้หญ้าแห้งไว้ตลอดทั้งวัน หญ้าขนสดเช้า 1 กำ เย็น 1 กำ ผักสดตามสมควร ปริมาณที่เหมาะสม หญ้า 60% ผัก 20-30% อาหารเม็ด 10-20% Apple ไม่จำเป็นนะคะ ฟาร์มบางแห่งถ้าจะให้ Apple เขาต้องเอาไปอบให้แห้ง เพราะ Apple มีโอกาสท้องเสียได้คะ ยิ่งช่วงอากาศเปลี่ยนด้วย หน้าร้อนยิ่งห้ามเลยนะคะ เมล็ด Apple ก้าน และแกน ห้ามกินนะคะ อันตรายมากคะ มีสารพิษไซยาไนด์ค่ะ กะเพรา อาทิตย์ละครั้งก็พอคะ ครั้งละสองสามใบ แต่ไม่จำเป็นค่ะ ต้องใจแข็งนะคะ ถ้าคุณสงสารเขา ต่อไปเขาจะน่าสงสาร เพราะ เขาจะเป็นโรคต่างต่างได้ง่ายคะ พอโตแล้วลดอาหารเม็ดลงให้เหลือน้อยที่สุดนะคะ เน้นให้กินหญ้า และเสริมผักเพื่อวิตามินคะ ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 2 ชม หวีขนบ่อยๆ ค่ะ ทำได้อย่างนี้ ไม่ต้องห่วงนะคะ Tips : สัดส่วนของอาหารที่ควรให้ในแต่ละวัน คือ หญ้า 60% ผัก 20-30% อาหารเม็ด 10-20% และ ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 2 ชม และ ตรวจสุขภาพทุกทุก 6 เดือนคะ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- ถัดมาเครดิต ป้าแดงเร็กเก้บาร์ค่ะ ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- มี หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเลี้ยงกระต่ายกันมากมาย แต่ถ้าสนใจจริงๆแล้ว เราอยากบอกว่า การเลี้ยงกระต่ายค่อนข้างแตกต่างจากหมาแมวนะคะ มีการ รณรงค์กันอยู่เสมอว่าจะไม่ซื้อขายกระต่ายเด็ก เพราะกระต่ายยังต้องการแม่ ยังต้องการอาหารที่เหมาะสมเพื่อที่จะแข็งแรงเมื่อเติบโตขึ้น ปัจจุบันนี้คนขายกระต่ายเด็กมักหลอกคนซื้อไปต่างๆนานา เพื่อเงินเท่านั้น แต่คุณอยากได้เค้าไปด้วยใจ ความรู้สึกมันจึงสวนทางกันเสมอ เมื่อกระต่ายที่ถูกหลอกมาว่าโตแล้ว หย่านมแล้ว มาอยู่กับเราได้ไม่นานก็มักจะเสียชีวิตได้ง่ายๆ คนเราจึงมักคิดว่ากระต่ายอายุสั้น ไม่จริงเลยค่ะ นอกจากเรื่องยังไม่ หย่านมแล้ว การเปลี่ยนที่อยู่ของกระต่ายก็มีความสำคัญ กระต่ายเมื่อถูกโยกย้ายหลายที่ จะเกิดความเครียด ซึ่งความเครียดก็สามารถทำให้กระต่ายเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้น การรับกระต่ายเข้ามาเลี้ยงในบ้านเราช่วงวันแรกๆจะมีความสำคัญมากๆ การ เปลี่ยนอาหารของกระต่ายก็สำคัญอีกด้วย รับเค้ามาแล้วเปลี่ยนอาหารปุบปับ กระต่ายบางตัวถึงกับเครียดไม่ยอมกิน ก็เสียชีวิต หรือบางตัวที่กินไปก็จะทำให้ท้องเสีย พอท้องเสียแล้วเนี้ยะ เรื่องใหญ่มากๆ เพราะทำให้น้องเค้าจากไปได้อย่างง่ายดายเช่นเดียวกัน ---การย้ายที่ การให้อาหาร ถ้าจะเปลี่ยนต้องค่อยๆปรับ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปสำหรับกระต่าย สภาพ อากาศที่ร้อนมากๆ ก็ทำให้กระต่ายเป็นฮีตสโตรค เสียชีวิตได้เหมือนกัน หรืออากาศที่ร้อนชื้น การย้ายเข้าห้องแอร์ --ออกไปข้างนอก เปลี่ยนอุณหภูมิฉับพลันก็ทำให้กระต่ายเป็นไข้ก็เสียชีวิตได้ ผักบางชนิดที่คนเราคิดว่ากระต่ายทานได้ เช่นผักบุ้ง แตงกวา กะหล่ำปลี กระถิน ฯลฯ จริงๆแล้วมันคือผักที่อันตรายสำหรับกระต่าย ด้วยเหตุที่กระต่ายจะมีปฏิกิริยาต่อสิ่งที่รับเข้าไปได้ง่ายเหลือเกินเช่นนี้แล เค้าจึงนำกระต่ายมาเป็นสัตว์ทดลอง เพราะเห็นผลเร็ว กระต่าย เป็นสัตว์ที่ถูกล่าโดยธรรมชาติ ดังนั้นเค้าจะมีความอดทนสูงมาก ไม่ยอมเปล่งเสียง ขี้ตกใจ ขี้ระแวง เนื่องจากต้องป้องกันตัวเองจากสัตว์ที่จะมากินเค้าอยู่เสมอ โดยสัญชาติญาณแล้วเค้าจึงจะไม่บอกสีหน้า เปล่งเสียง หรือมีพิรุธอะไรเลย กว่าจะบอกว่าเค้าเป็นอะไรนั้น ก็มักจะสายเกินไปเสียแล้ว การเลี้ยง กระต่ายจึงต้องมีความพร้อม และเข้าใจในธรรมชาติของกระต่ายให้มากๆเพื่อที่เราทั้งสองฝ่ายจะได้ปรับตัว เข้าหากัน อยู่ร่วมกันได้ค่ะ เมื่อเค้าสนิทกับเรา ก็นอนกอดกันได้ด้วยนะ เค้าจะมีวิธีสื่อสารกับเราด้วยว่าเค้าต้องการอะไร ต้องการจะพูดอะไรกับเรา แต่น้องเค้าไม่ใช่หมาหรือแมว ดังนั้นจึงต้องเข้าใจธรรมชาติของเค้าให้มากเสียก่อน ใช้เวลาอีกหน่อย ไม่บุ่มบ่ามเข้าไปจับเค้า เค้าจะตกใจ เราเชื่อว่าไม่ช้าก็เร็วค่ะ คุณจะรักเค้ามากๆเหมือนพวกเราเลยล่ะ มีอยู่หลายช่วงแรกๆที่คิดจะถอด ใจเลิกเลี้ยง เพราะว่าดูเหมือนจะเลี้ยงยากเย็นลำบาก ต้องระวังทุกสิ่งทุกอย่าง มากมายเหลือเกิน แต่เมื่อคิดว่าเรารับเค้ามาอยู่ด้วยแล้ว เราต้องรับผิดชอบให้ถึงที่สุด ก็ทำไป จนถึงในวันนี้ การเลี้ยงพวกเค้าทำให้เราพาลไปหลงรักกระต่ายทุกตัวในโลก พวกเค้าสอนให้เราอดทนเหมือนเค้าเลยค่ะ ไม่บ่นๆๆๆ ไม่ใจร้อน ไม่ขี้โมโห ทำให้เป็นคนมีระเบียบ บ้านช่องสะอาดกวาดถูมันทั้งปี ที่สำคัญคือทำให้เราเป็นคนช่างสังเกต คิดพิจารณา ได้ดีกว่าเดิมด้วย เรา เองก็เลี้ยงเป็นคอกแรก เสียลูกสาวแสนรักไปตัวนึงแล้ว เหลืออีกตัวนึง เรารักเค้ามากๆเลย เรามักจะมาหาข้อมูลหรือให้เพื่อนๆช่วยเหลือเรื่องกระต่ายในห้องนี้ อ่านมันทุกกระทู้เลยค่ะ และเว็บ http://rabbit.thaipetlover.com/ และ http://www.epofclinic.com/ แทบจะทุกหน้าถือเป็นเรื่องที่น่าอ่านและมีประโยชน์สำหรับผู้ที่เลี้ยงกระต่ายมากๆ ลอกข้อความมาจาก http://rabbit.thaipetlover.com/ ค่ะ "คิดก่อนเลี้ยง"........... หลง รักกระต่ายเข้าแล้วใช่ไหมคะ แต่ว่าก่อนที่เพื่อนๆ จะหยิบตังก์ออกไปเลือกหาเพื่อนตัวน้อยที่แสนจะน่ารักนี้ มาครอบครอง เรามาศึกษากันดูก่อนดีไหมคะ ว่ากระต่าย เหมาะกับเพื่อนๆ จริงๆหรือเปล่า ข้อดี ข้อเสีย 1. กระต่ายเป็นสัตว์ที่อายุยืน ก่อนเลี้ยงท่านต้องคิดก่อนว่า ท่านสามารถจะดูแลกระต่ายได้ จนถึงวันสิ้นอายุขัยหรือไม่ หลายๆครั้งที่พบว่า กระต่ายได้ถูกทอดทิ้ง เพียงเพราะเจ้าของเบื่อหน่าย หรือ เพราะต้องย้ายที่อยู่ เช่น ใครที่อยู่อพาร์ตเมนท์ช่วงสั้นๆ แล้วรู้ว่า ในอนาคตต้องย้ายไปอยู่บ้าน ไม่สามารถจะเลี้ยงกระต่ายได้ ก็ควรจะคิดให้ดีก่อน 2. กระต่ายเป็นสัตว์ที่ออกลูกดก สามารถจะออกลูกได้ปีละ 5 ครอกเลยทีเดียว แต่ละครอกอาจจะมีมากถึง 8 ตัวเป็นต้น ดังนั้นหากท่านคิดจะเลี้ยง ควรจะคิดให้ดี ว่าจะทำอย่างไรกับลูกกระต่าย หากท่านไม่อยากรับภาระเรื่องลูกกระต่าย ท่านควรจะเลือกเลี้ยงกระต่ายเป็นเพศเมียทั้งหมด 3. กระต่ายเป็นสัตว์ที่กินพืชเป็นอาหาร และกินอาหารเม็ดด้วยเช่นกัน แต่เพื่อสุขภาพที่ดี ท่านต้องให้อาหารจพวกผัก และ ผลไม้แก่กระต่ายด้วย 4. กระต่ายเป็นสัตว์ที่ขับถ่ายเยอะ ปัสสาวะ และอุจจาระ หากไม่ได้รับการดูแลเรื่องความสะอาดให้ดีพอ จะมีกลิ่นค่อนข้างมาก 5. กระต่ายเป้นสัตว์ที่สุภาพ น่ารัก สะอาด ตัวของกระต่ายจะไม่มีกลิ่นเหม็น 6. กระต่ายไม่ส่งเสียงร้องพร่ำเพรื่อ ท่านสามารถจะเลี้ยงในบ้านหรืออพาร์ตเมนท์ได้ 7. กระต่ายก็เหมือนกับคนค่ะ เจ็บป่วยได้ แต่ว่าหมอที่รักษากระต่ายได้นั้น ควรจะเป็นคุณหมอที่รู้จักกระต่าย ดีพอ ไม่ใช่คลินิคสัตวแพทย์ทั่วไป ดังนั้นค่าใช่จ่ายในการรักษาก็มีเช่นกัน หากเค้าป่วย เพื่อนๆ สามารถจะรับผิดชอบ พาเค้าไปหาหมอได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ อย่าเลี้ยงเลยค่ะ สงสารเค้า ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- รวบรวมมาแบ่งปันกันค่ะ จากแม่หมีตัวอ้วน ----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- วิธีเปลี่ยนยี่ห้ออาหารเม็ดกระต่าย การ เปลี่ยนยี่ห้ออาหารเม็ดนั้น ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปค่ะ เพราะการเปลี่ยนอาหารอย่างกระทันหันนั้น อาจทำให้กระต่ายท้องเสีย หรืออาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ค่ะ เริ่มโดย ให้อาหารเก่า 90% และอาหารใหม่ 10% ไป 1 สัปดาห์ หรืออย่างน้อย 2-3 วันค่ะ เมื่อ เราแน่ใจว่าเค้ากินอาหารใหม่ และไม่มีอาการท้องเสีย หรืออึนิ่ม ก็เพิ่มปริมาณอาหารใหม่เป็น 20% ค่ะ ในขณะที่ลดอาหารเก่าลงเป็น 80% ทำอย่างนี้ไปอีก 1 สัปดาห์ หรือ 2-3 วันเป็นอย่างน้อยค่ะ เมื่อแน่ใจว่าไม่มีอาหารผิดปรกติ ให้เพิ่มอาหารใหม่ครั้งละ 10% โดยคงสูตรนั้นไว้ 1 สัปดาห์ หรืออย่างน้อย 2-3 วันค่ะ เพิ่มไปเรื่อยๆ จนได้อาหารใหม่ 100% ค่ะ ***ขออนุญาตแนะนำว่า อย่าซื้อกระต่ายเด็กค่ะ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2008/10/J7117213/J7117213.html มีอะไรคุยเพิ่มเติม ยินดีนะคะ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 6 พ.ค. 52 21:18:17 ]

ความคิดเห็นที่ 2 หูตก คือ พันธุ์ลอป ค่ะ รู้แค่นี้เองง่ะ อิอิ จากคุณ : หน้าแง๊ว~* - [ 6 พ.ค. 52 21:20:44 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ไปจัตุจักร ระวังเรื่องกระต่ายเด็กนะค่ะ จากคุณ : yuhoo iioo (yuhoo iioo~*) - [ 6 พ.ค. 52 21:25:36 ]

ความคิดเห็นที่ 4 เรื่องสถานที่อาศัย มีหลายแบบนะคะ เช่นเลี้ยงในบ้าน ในหอพัก เลี้ยงแบบปล่อยในสวน หรือควบกันหลายๆแบบ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาพที่อยู่อาศัยและความตั้งใจค่ะ ซึ่งจำเป็นจะต้องรู้จักการเลี่ยงไม่ให้กระต่ายได้รับอันตรายจากสัตว์อื่นๆ สิ่งของเช่นสายไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า หรือแม้กระทั่งตัวเอง เช่นการขุดดินแล้วกลับขึ้นมาไม่ได้ ขุดไปเจอสุนัขอีกบ้านหนึ่งเป็นต้น ลองหาข้อมูลอื่นๆได้จากกระทู้ต่างๆในห้องกระต่ายดูนะคะ และที่กล่องดำ(กล่องสีส้มในหน้าหลักบ้านโพรงกระต่าย ข้างบนกระทู้ปัจจุบัน จะมีข้อมูลอัพเดทเรื่องสำคัญและน่าสนใจไว้เยอะแยะเลยค่ะ) จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ 6 พ.ค. 52 21:26:18 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ถ้าถามส่วนตัวเราว่าน่ารักหมดทุกพันธุ์เลยค่ะ อยู่ที่คุณพ่อกับลูกสาวชอบพันธุ์ไหน ตัวไหนมากกว่าค่ะ พันธุ์หูตกคือ ลอป ค่ะ ลองดูที่ลิงค์นี้นะคะ เป็นข้อมูลเพิ่มเติม http://rabbit.thaipetlover.com/b_alllop.html ส่วนสถานที่ขาย ที่จตุจักรมีขายจ้า แต่ร้านไหน ไม่ค่อยรู้ว่าร้านไหนดีอ่ะ ทตอนเราไปซื้อก็จะเดินดูไปเรื่อยๆหลายรอบเลยกว่าจะได้กลับมา สุดท้ายได้พันธุ์ฮอลแลนด์ผสมไทยมา(คนขายบอกอย่างนั้น) เพราะมองหน้ามองตาแล้วถูกชะตากัน ขนสั้นด้วยดูแลง่าย อุปกรณ์การเลี้ยงก็มีขายที่จตุจักรเช่นกันค่ะ ถ้าซื้อจากร้านที่ขายกระต่ายเลย(บางร้านจะขายควบด้วย)ก็จะราคาสูงนิดนึง แต่ถ้าขยันก็เดินรอบๆโซนสัตว์เลี้ง แถวนั้นมีหลายร้านเลยค่ะ จะถูกกว่าซื้อที่ร้านขายกระต่ายค่ะ ที่สำคัญ อย่างที่พี่ๆความเห็นต้นๆบอกค่ะ ระวังกระต่ายเด็กนะคะ จากคุณ : *-*นู๋หมวย*-* - [ 6 พ.ค. 52 22:06:31 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ซื้อจตุจักรระวังกระต่ายเด็กนะครับ.. อย่าไปเชื่อว่ากระต่ายอายุ2เดือนเพราะคนขายบอก เชื่อไม่ได้เด็ดขาด เลือกๆดูร้านดีๆครับ ร้านสะอาดๆ ในห้องแอร์ได้ยิ่งดี อย่าซื้อกระต่ายบนถาดเชียวนะครับ แล้วก็.. อย่าเลือกผิดเพื่อประหยัดค่าตัวน้องเค้านะครับ ประเภทกระต่าย100-200 กว่าๆ ซื้อไม่ได้เด็ดขาด กระต่ายเด็ก ยอมจ่ายแพงหน่อย กระต่ายลอปหูตก ผมแนะว่า700 ขึ้นไป บางร้านที่ผมเจอเค้าจะให้ดูสุขภาพกระต่ายตรงนั้นเลย พลิกฟันพลิกก้น ดูเพศให้ บางร้านไม่ค่อยเหลียวแลตั้งใจจะปิดการขายอย่างเดียว แล้วก็อย่าลืมถามเค้านะครับว่าเลี้ยงด้วยอาหารแบบไหน เชื่อว่าเลี้ยงด้วยแบบถูกๆแน่นอน แล้วค่อยๆเปลี่ยนเป็นแบบแพงขึ้นนะครับ เอาของคุณภาพดีๆให้เค้าหน่อยเพื่อสุขภาพ เมื่อได้มาแล้วก็ระวังเรื่องหมาแมวข้างบ้านนะครับครับ ผมเสียเพื่อนรักผมไปตัวนึงเพราะแมวนี่แหละ สุดท้ายนี้ ศึกษาข้อมูลดีๆ และรักน้องให้มากๆครับ จากคุณ : k3v1n - [ 6 พ.ค. 52 22:20:05 ]

ความคิดเห็นที่ 7 http://rabbit.thaipetlover.com/rabbitfriend.html เอามาฝากอีกลิงค์จ้า เผื่อจะอยากเลี้ยงมากกว่า1ตัว ลิงค์นี้จะแนะนำได้ว่าจะเลี้ยง จะเลี้ยงกี่ตัวดี ในเมื่อการเลี้ยงตัวเดียว จะทำให้น้องกระต่ายเหงา เราจึงควรจะเลี้ยงเป็นคู่ค่ะ แต่ไม่แนะนำให้เลี้ยงเป็นฝูงๆ เพราะว่า พอกระต่ายเริ่มเต็มบ้าน จากเดิมที่เพื่อนๆ เคยสนุก เพื่อนๆ จะรู้สึกว่า เค้าเป็นภาระ อย่างเช่น เมื่อทำความสะอาดกรง หรือว่า อาบน้ำ แต่ละครั้ง เพื่อนๆ ก็จะเบื่อหน่ายที่วันหยุดของเพื่อนๆ หมดไปทั้งวัน และขี้เกียจ แล้วก็พาลลงกับน้องกระต่ายเหล่านั้นค่ะ เค้าจะเริ่มโดนทิ้งขว้าง ไม่ดูแลอย่างดีเหมือนตอนที่เพื่อนๆ เริ่มเลี้ยงใหม่ๆ จะเลี้ยงเพศอะไร กับ อะไรดีล่ะ เพศ ผู้ - เมีย ที่จริงแล้ว กระต่ายเป็นสัตว์ที่ ขยั๊นขยัน ในการ ผสมพันธุ์ค่ะ ถ้าเพื่อนๆ ไม่อยากจะมีปัญหา เรื่องลูกกระต่ายเต็มบ้านล่ะก็ แนะนำเลยค่ะ ว่าให้ทำหมันตัวผู้ซะ แต่ถ้าจะให้ดีที่สุด เลี้ยงเพศ เมียกับเพศเมีย ดีกว่า เพศ เมีย - เมีย ควรเลือกตัวเมีย กับตัวเมียค่ะดีที่สุด ยิ่งถ้าซื้อมาด้วยกัน ตั้งแต่เล็ก ปัญหาว่า จะอยู่ด้วยกันไม่ได้เนี่ยแทบจะไม่มี เพศ ผู้- ผู้ อันนี้ไม่แนะนำค่ะ เพราะว่าตอนเด็กๆ ก็จะดีอยู่หรอกค่ะ อยู่กันปรองดอง แต่เมื่อเค้าโตเป็นหนุ่ม ล่ะก็ มักจะกัดกันค่ะ จะชิงความเป็นใหญ่กันค่ะ ่ ทีนี้เพื่อนๆ ก็คงจะตัดสินใจได้แล้วนะคะ ว่าจะหาเพื่อนให้เจ้าตัวน้อยดีหรือเปล่า จากคุณ : *-*นู๋หมวย*-* - [ 6 พ.ค. 52 22:36:06 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าเลี้ยงแบบปล่อยกระต่ายไว้ในสวน ระวังสวนจะพังเพราะกระต่ายขุดนะคะ แล้วต้นไม้ที่ปลูกไว้ก็จะโดนแทะจนหมด เลี้ยงในบ้านแบบปล่อยตามใจก็ระวังเรื่องเลอะเทอะ เรื่องกัดแทะด้วยนะคะ ควรจะมีที่สำหรับกระต่ายเป็นการเฉพาะค่ะ เช่นกันคอกแบบมีบริเวณให้วิ่งเล่น แล้วปล่อยให้ออกมาเล่นในบ้านหรือในสวนเป็นครั้งคราวโดยมีคนคอยดูแลค่ะ จากคุณ : pim(พิม) - [ 6 พ.ค. 52 23:43:42 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เรื่องสายพันธุ์ แล้วแต่ชอบค่ะ เรื่องร้าน เดี๋ยวหลังไมค์ไปให้ค่ะ ระวังกระต่ายเด็กนะคะ เรารณรงค์กันอยู่ค่ะ กระต่ายติดกิ๊บ ใส่เสื้อ อย่าซื้อเลยค่ะ รบกวนอ่านกระทู้นี้สักนิดค่ะ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2008/10/J7117213/J7117213.html ลูกสาวอายุเท่าไหร่คะ ถ้าเล็กกว่า 7 ขวบ ไม่แนะนำให้เลี้ยงกระต่ายค่ะ เด็กเล็กกับกระต่ายเป็นอะไรที่ค่อนข้างไม่ปลอดภัย ทั้งกับตัวกระต่ายและตัวเด็ก เมื่อเด็กๆ เห็นกระต่าย มักจะอยากอุ้ม แต่กระต่ายส่วนใหญ่ ไม่ชอบให้อุ้ม เมื่อเด็กอุ้ม กระต่ายอาจจะดิ้น ทำให้เล็บกระต่ายข่วนเด็กได้ค่ะ เล็บกระต่ายเป็นอะไรที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะยาวแหลมมากค่ะ คนเลี้ยงได้แผลกันมาถ้วนหน้าแล้วค่ะ วันหลังจะตั้งกระทู้โชว์แผลกระต่ายข่วนให้ดูค่ะ บางคนเป็นแผลเป็น บางคนเจ้านายนึกว่าเครียดเรื่องงานจนเอามีดกรีดแขนเพราะแขนมีแต่แผล เลี้ยงไปนานๆ ยังจะโดนเล็บอีกหรือ ใช่ค่ะ โดนได้ตลอดค่ะ ศึกษาเยอะๆ ก่อนซื้อค่ะ สิ่งที่คนมักเข้าใจผิดเกี่ยวกับกระต่าย 1) กระต่ายเป็นสัตว์ฟันแทะ - ไม่ใช่ค่ะ กระต่ายไม่ใช่สัตว์ฟันแทะค่ะ 2) กระต่ายเป็นสัตว์หากินกลางคืน - ก็ไม่ใช่อีกค่ะ 3) หิ้วหูกระต่าย เป็นวิธีอุ้มที่ถูก - ไม่ใช่ค่ะ กระต่ายต้องอุ้ม มือประคองหน้าอก อีกมือรองก้นค่ะ 4) กระต่ายกินแตงกวา - แตงกวากินได้ค่ะ แต่ไม่ใช่เป็นอาหารหลัก กระทู้เก่าๆ มีเยอะค่ะ ลองหาอ่านจากกล่องดำที่สีชมพูหน้าห้องเลยค่ะ 5) กระต่ายอายุไม่ยืน - ก็ไม่ใช่อีกค่ะ กระต่ายอายุยืนได้ 7-8 ปี บางพันธุ์ถึง 12 ปีก็มีค่ะ สิ่งที่คุณอาจจะได้ยินจากคนขาย เมื่อไปจตุจักร อย่าซื้อจากคนที่พูดประโยคเหล่านี้ - กระต่ายแคระ ไม่โตไปกว่านี้  หนักไม่เกิน 6 ขีด - กินผักเหลือๆ ก็ได้ แตงกวา ผักกาดหอมกินได้หมด - ซื้อกรงเล็กๆ ก็ได้ กระต่ายจะได้ไม่โตมาก ถ้าซื้อกรงใหญ่เดี๋ยวกระต่ายโต มีอะไรมาถามได้นะคะ จากคุณ : แม่หมีตัวอ้วน - [ 7 พ.ค. 52 08:34:42 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ขออีกสักนิด ความเห็นส่วนตัว กระต่ายไม่จำเป็นต้องเลี้ยงเป็นคู่ค่ะ เลี้ยวตัวเดียวก็ได้ ถ้าเรามีเวลาให้เค้า เค้าจะไม่เหงาค่ะ เลี้ยงเป็นคู่จะมีปัญหา เพราะ ผู้-เมีย ท้องแล้วจะเอาลูกกระต่ายไปทำอะไร ปีนึงท้องได้ 11 ครอก กระต่ายท้อง 1 เดือนโดยประมาณ คลอดแล้วท้องได้เลย ไม่ต้องรอเป็นฮืทค่ะ ถ้าเลี้ยง  ผู้-เมีย จะต้องแยก หรือทำหมันค่ะ เลี้ยง ผู้-ผู้ โตขึ้นอาจจะกัดกันได้ เลี้ยง เมีย-เมีย ปัญหาน้อยที่สุด ถ้าจะเลี้ยงคู่ ควรซื้อมาพร้อมกัน โตขึ้นอาจจะกัดกันหรือไม่กัดกัน แล้วแต่นิสัยแต่ละตัวค่ะ   หากจะเลี้ยงคู่ ควรมีกรงแยกกันค่ะ เพราะกระต่ายเป็นสัตว์ที่เซนซีทีฟมากๆ ค่ะ ผู้เลี้ยงจำเป็นจะต้องดูแลกระต่ายว่ากินข้าว หรือกินน้ำมากน้อยแค่ไหน อึหรือไม่อึ อึเป็นอย่างไร  จึงต้องแยกกรงค่ะ จากคุณ : แม่หมีตัวอ้วน - [ 7 พ.ค. 52 08:41:47 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ข้อมูลเพียบขนาดนี้ จะอ่านไหวไหมเอ่ย?   เป็นคำถามเบสิค ที่มีมาบ่อยๆ  ข้อมูล และคำตอบก็มักจะมีให้อ่านตามที่เห็น  แต่สิ่งที่จะต้องตอบหลังจากอ่านข้อมูลเหล่านี้แล้ว คือ... 1)  กระต่าย เป็นสัตว์เลี้ยงที่เราต้องการจะเลี้ยง และเหมาะกับเราแล้ว จริงๆหรือ????? - เพราะไม่เหมือน หมาแมว แบบหนังคนละม้วน  หากนึกภาพการเลี้ยงคล้ายหมาแมวไว้ในใจ ขอบอกว่าคุณจะผิดหวังแน่ๆ   ดังนั้นหากไม่แน่ใจ ต้องกลับไปศึกษา และตอบคำถามนี้ใหม่  ไม่งั้นได้มา เลี้ยงได้ไม่เท่าไหร่ก็ไม่ชอบ กลายเป็นเวรเป็นกรรมของทั้งกระต่ายและคนไปเลยครับ    ถามตัวเองอย่างเป็นกลาง ไม่เข้าข้างตัวเองว่า คุณต้องการอะไรจากเขา? และเขาให้สิ่งนั้นกับคุณได้ไหม? รวมไปถึงกลับด้านถามด้วย ว่าเขาต้องการอะไรจากคุณ และคุณให้สิ่งนั้นเขาได้ไหม? 2) ระดับความจริงจังในการเลี้ยงของคุณนั้น มีมากแค่ไหน?? - สัตว์เลี้ยงทุกอย่างต้องการความใส่ใจจากผู้เลี้ยงทั้งนั้น  แต่จริงๆแล้วกลับกลายเป็นผู้เลี้ยงต่างหากที่จะให้ความจริงจังกับการเลี้ยงไม่เท่ากัน  ดังนั้นควรรู้ตัวว่าเรามีเวลา มีความตั้งใจแค่ไหน (ไม่ใช่แค่ช่วงซื้อมาใหม่ๆเท่านั้นนะครับ แต่คือตลอดชีวิตของสัตว์เลี้ยงนั้นๆ)   เลี้ยงแบบเอาเขามาขังเฉยๆไว้ดู  หรือเลี้ยงแบบเป็นสมาชิกในครอบครัว  หรือเลี้ยงแบบจำลองธรรมชาติการอยู่ของเขา  ทำได้หมดแหล่ะครับ อยู่ที่วัตถุประสงค์เราเป็นอันไหน   เมื่อตอบคำถามนี้ได้  เราจะรู้ว่าเราควรต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง  จะเลี้ยงในกรง  ปล่อยในบ้าน  รึทำเหมือนสวนสัตว์ มีที่ทางโดยเฉพาะให้เขา    คำถามนี้จะเป็นตัวช่วยให้คุณเลือกระดับความเป็นอยู่ของเขาครับ 3) การจะรับเขามาอยู่ด้วย คุณพร้อมด้วยปัจจัยทางด้านการเงินแล้วใช่ไหม?? - ความรับรู้ตอนแรกเกี่ยวกับค่าใช้จ่าย  ราคาค่าตัวกระต่ายตัวนึง อาจนึกว่าไม่กีร้อย  ซึ่งจริงๆแล้วก็สามารถหาได้  แต่อุปกรณ์การเลี้ยงที่จะทำให้ชีวิตเขามีความสุขที่เหมาะสม  อย่างน้อยก็เป็นพัน  และราคาค่าตัวกระต่ายที่มีสายพันธ์ชัดเจนนั้น มักไม่ต่ำกว่าหลักพัน  ยิ่งเป็นพันธ์ต่างประเทศที่คนนิยม ราคาไม่ด้อยกว่า หมา แมวเลย หลักหมื่นก็ยังมีครับ  ส่วนหลักร้อยก็กระต่ายเหมือนกัน หูยาวเหมือนกัน แค่ว่าอาจจะเป็นพันธ์ผสมที่ไม่รู้ที่มาว่าพ่อแม่ผสมมาอีกทีรึเปล่า เพราะมักขายกันตามรูปลักษณ์ที่เห็นกันตอนนั้น  พันธ์ผสมบางตัวหูตก ก็กลายเป็นกระต่ายลอป ไป  ส่วนพี่น้องคลานตามกันมาแต่หูตั้งขนยาว ก็กลายเป็นเท็ดดี้ ไป  ดังนั้น คนเลี้ยงจะต้องการใส่ใจรายละเอียด และต้องการกระต่ายแบบไหน ก็อยู่ที่การศึกษาข้อมูล ทั้งเรื่องสายพันธ์ และเรื่องแหล่งที่ซื้อกระต่ายพันธ์แท้ และวิธีดู เพื่อไม่ให้โดนหลอกได้ครับ  แต่ทั้งหลายทั้งปวง มักอยู่ที่ความต้องการ เพราะแต่ละคนให้นิยามกระต่าย สำหรับตัวเองไม่เหมือนกัน  บางคนอยากได้กระต่ายขนาดพอประมาณ บางคนอยากได้กระต่ายขนยาวๆ บางคนอะไรก็ได้ แค่เป็นกระต่ายก็พอ   ข้อนี้จึงควรเป็นการตอบคำถามเพื่อให้รู้ว่าตัวเองต้องการกระต่ายแบบไหน จะได้คัดสรรมาให้ตรงความต้องการ เพื่อป้องกันการผิดหวังในอนาคต เพราะมีเยอะที่ซื้อพันธ์ผสมมา โตมาไม่สวยเหมือนที่คิด ก็ทิ้ง ก็ขายต่อ ยกให้คนอื่น    ไม่อยากให้เกิดเรื่องนี้ขึ้นกับอีกหลายๆคนครับ  ที่สำคัญ จะพันธ์แท้ พันธ์ผสมก็ตาม  เวลาเขาไม่สบาย ต้องหาหมอ  ค่าหมอแต่ละครั้งไม่ต่างจาก หมา แมวเลยครับ  หลายร้อยจนถึงเป็นพันๆบาท คุณพร้อมไหม?  ยิ่งหากเพิ่งเริ่มเลี้ยง ยิ่งต้องคิดเรื่องนี้ด้วย เพราะเรายังไม่รู้หลายๆอย่างเกี่ยวกับเขา ที่พึ่งเมื่อเขาไม่สบายจึงต้องอาศัยคุณหมอเป็นหลัก   พร้อมรับค่าใช้จ่ายเป็นพัน เหล่านี้ไว้ด้วยนะครับ 4) คุณมีความพร้อมด้านความรู้แล้วใช่ไหม?? - พูดตรงๆว่า ถ้าคุณได้อ่านกระทู้นี้ทุกคำตอบ และยังคงอ่านโดยไม่อ่านข้ามๆไปได้  ถือว่าคุณมีความรู้ และควาตั้งใจจริงในการเลี้ยงดีทีเดียว   นั่นจะช่วยให้การเลี้ยงกระต่ายของคุณเป็นสิ่งที่มีความสุข ทั้งของคุณและกระต่ายเลยล่ะครับ   ความรู้อื่นๆ ยังมีอีกเยอะ เราหาศึกษาได้ ทั้งทางบอร์ดนี้ และการพูดคุยกับเพื่อนๆในนี้ไม่ว่าจะทางเมล ทางเอ็มฯ ซึ่งทุกคนในนี้ มักมีการติดต่อกันนอกบอร์ดด้วยอยู่แล้ว  เพราะถือว่ารู้จักกันผ่านลูกๆหูยาว  ไม่ผิดเลยที่คุณเกิดอยากจะคุยเป็นการส่วนตัวกับใครซักคนในนี้  ยิ่งเป็นการดีเพราะมีเพื่อนให้พึ่งพายามฉุกเฉิน  ดังนั้น อย่ากลัวที่จะถาม และทำความรู้จักกับเพื่อนๆ และความรู้ใหม่ๆ เพื่อให้การเลี้ยงกระต่ายของเราเป็นอีกความสุขนึงในชีวิตครับ  ขอให้ประสพความสำเร็จในการเลี้ยงเจ้าหูยาวนะครับ พ่อกระต่ายสาม(+1) โต๋ แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 09:33:27 แก้ไขเมื่อ 07 พ.ค. 52 09:32:47 จากคุณ : gongzila - [ 7 พ.ค. 52 09:21:16 ]

ความคิดเห็นที่ 12 ขอบคุณทุก ๆ ท่านมากครับ ได้ความรู้แบบเติมอิ่มเลยครับ จากคุณ : ขงเบ้งคุง - [ 7 พ.ค. 52 09:32:11 ]

ความคิดเห็นที่ 14 โดยส่วนตัวอยากให้เริ่มตัวเดียวก่อนค่ะ ถ้าเลี้ยงจนน้องเขาโตได้6-7 เดือน แล้วเราเริ่มเข้าใจในธรรมชาติของกระต่ายอย่างดีแล้ว ก้อค่อยหามาเลี้ยงเพิ่มก้อได้ค่ะ การเลี้ยงสองตัวพอเขาเริ่มเข้าวัยรุ่นกัน อาจจะมีปัญหา ไม่ว่าเรื่องการผสมพันธุ์ หรือ การต้องการความเป็นส่วนตัว อาจจะต้องเลี้ยงแยกกรงอีกก้อได้ค่ะ สำหรับเรื่องเหงา ... ถ้าเรามั่นใจว่าเราสามารถเอาใจใส่เขาได้ เรื่องนี้ไม่เป็นปัญหาค่ะ เลยอยากแนะนำให้เลี้ยงตัวเดียวก่อนค่ะ จากคุณ : dorapanda - [ 7 พ.ค. 52 11:45:26 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขออนุญาตแนะนำเรื่องร้านกันทางหลังไมค์นะคะ จากคุณ : แม่หมีตัวอ้วน - [ 7 พ.ค. 52 13:15:20 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ขอเสริมคุณ gongzilaนิดเดียว สำหรับมือใหม่ (เหมือนกัน) มีปัญหาเรื่องอะไรเกี่ยวกับกระต่าย สอบถามที่บ้านโพรงกระต่ายได้ทันทีทุกเวลา เพื่อนๆบ้านโพรงกระต่ายทุกคนใจดี ยินดีให้ความรู้ทุกเรื่องค่ะ จากคุณ : Ann@Ohm - [ 7 พ.ค. 52 13:20:17 ]

ความคิดเห็นที่ 17 เพิ่มนิดนึงนะคะ ถ้าไปซื้อกระต่ายแล้วอย่าลืมถามเรื่องอาหารกระต่ายที่เจ้าของเก่าให้อยู่ก่อนหน้าด้วยนะคะ เพราะถ้าเปลี่ยนอาหารกระทันหันกระต่ายบางตัวอาจท้องเสียได้ค่ะ อีกอย่างคือเตรียมอุปกรณ์เลี้ยงกระต่ายให้ครบก่อนได้กระต่ายมาก็ดีนะคะ ^^ จากคุณ : i LoVe YoRkiE - [ 7 พ.ค. 52 17:31:30 ]

ความคิดเห็นที่ 18 *0*คล้ายกันเยยจขกท. ลูกสาวกับคุณพ่อ เลี้ยงกระต่ายเนี้ย พอดีพ่อข้าพเจ้าอยากเลี้ยงกระต่าย แต่ดันซื้อนกหัวจุก- -* (แล้วนกก็บินจากไปแล้วเพราะลืมปิดกรง เหอๆ) ข้าพเจ้าไปศึกษา แล้วก็ซื้อกระต่ายมาเลี้ยง เห็นพ่อชอบไปตัดหญ้าขนมาให้กินบ่อยๆน่ารักดีอิอิ(ชมพ่อตัวเอง) ตอนที่เลี้ยงไม่เล็งเรื่องน่ารักเท่าไรคิดแต่ขอแบบอึด ถึก ทน เลยเลี้ยงกระต่ายไทยน่าจะเหมาะที่สุด เอาไว้ฟัดกับแมว แล้วตอนนี้กระต่ายก็เป็นเพื่อนกับแมวไปเรียบร้อย แบบสันติภาพ จากคุณ : นินนินมาแว้ว - [ 7 พ.ค. 52 20:57:38 ]

ความคิดเห็นที่ 19 ขอให้ได้กระต่ายที่ถูกใจนะคะ ยังไงก็พามันไปหาคุณหมอสักครั้ง เพื่อตรวจสุขภาพ เพราะเราไม่รู้ว่าเค้าผ่านอะไรมาบ้าง จากคุณ : cinimania - [ 7 พ.ค. 52 22:11:50 ]

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณมาก ๆ อีกครั้งครับ ขอบคุณ คุณแม่หมีตัวอ้วน มากครับ เรื่องร้าน ตอนแรกกะว่าจะไปพรุ่งนี้แต่ต้องไปธุระด่วนที่ต่างจังหวัด กะว่ากลับมาประมาณกลางอาทิตย์หน้า น่าจะได้ไปสอยมาสักหน่อย เห็นหลายท่านแนะว่าพร้อมหรือไม่ ตอนแรกก็คิดอยู่สักพัก (ประมาณ 0.1 วินาที) 555555 คิดแล้วว่าพร้อมแน่นอน....... ตอนเย็นกลับมาถึงบ้านปุ๊บ ก็เดินรอบบ้านเล็งองศาตามลัคนา หาที่สำหรับกั้นคอกเอาไว้ให้เค้าเดินเล่นตอนเย็น ๆ แต่ถ้ากลางคืนคงจะเอาในบ้าน เพราะแถวหมู่บ้านมีแมว (ไม่มีเจ้าของเดินเพ่นพ่านตอนกลางคืน) เคยมาเดินเรียบ ๆ แถวบ่อปลาคาร์ฟที่บ้านอยู่หลายครั้ง สรุป หลังจากคิดอยู่สักพัก (0.1วิ) ก็สรุปได้ว่า เลี้ยงแน่นอน ที่สำคัญ ผบทบ. เค้าอนุมัติเรียบร้อยแล้วครับ ขอบคุณมาก ๆ สำหรับคำแนะนำและคงจะมีคำถามอีกมากมายตามมาหาคำตอบนะครับ... จากคุณ : ขงเบ้งคุง - [ 7 พ.ค. 52 22:43:18 ]

ความคิดเห็นที่ 21 รูปนี้ไม่รู้ว่าจะเป็น Thailand Lop หรือป่าว จากคุณ : ขงเบ้งคุง - [ 7 พ.ค. 52 22:44:26 ]

ความคิดเห็นที่ 22 ข้อมูลที่ได้อาจทำให้มือใหม่หรือบางคนเข้าใจผิด ขอลบละกัน แก้ไขเมื่อ 13 พ.ค. 52 11:14:22 จากคุณ : AdminX - [ วันวิสาขบูชา 02:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 23 เห็นกระทู้ด้านล่างเค้าแจกกระต่ายพันธุ์ดี เลี้ยงดูอย่างดีด้วยค่ะ ลองดูนะคะ ตอนแรกเห็นว่าจะซื้อแล้ว เลยไม่ได้แนะนำค่ะ จากคุณ : cinimania - [ วันวิสาขบูชา 13:39:55 ]

ความคิดเห็นที่ 24 ลูกสาวน่ารักจัง กฎ กติกา มารยาท ต้องพึงระวังให้ดีนะคะ เพราะแอดมินไม่ได้เข้าใจเจตนาของทุกคนค่ะ ขอให้คุณขงเบ้งคุง ได้กระต่ายคู่บุญมาเลี้ยงประจำบ้านนะคะ ยิ่งทำการค้า เลี้ยงกระต่ายแล้วเฮงดีอะ จากคุณ : แดงเร็กเก้บาร์ - [ วันวิสาขบูชา 21:12:32 ]