พระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์เลี้ยง พ.ศ..............................
มาตรา๑ พระราชบัญญัตินี้ เรียกว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองสัตว์เลี้ยง พ.ศ....................
มาตรา๒ พระราชบัญญัตินี้ให้บังคับใช้ตั้งแต่วันที่.......................................................
มาตรา๓ ในพระราชบัญญัตินี้
สัตว์เลี้ยง หมายถึง สัตว์ที่เลี้ยงไว้เพื่อความเพลิดเพลิน ความสวยงาม ความไพเราะของเสียง การแข่งขันความเร็ว การกีฬา หรือเพื่อประการอื่นๆ หรือสัตว์อื่นๆที่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนสัตว์เลี้ยง ยกเว้น การเลี้ยงเพื่อเป็นอาหาร การเลี้ยงเพื่อใช้แรงงาน การเลี้ยงเพื่อผลิต นม หนัง กระดูก ขน ไข่ รัง เลือด เนื้อ น้ำหวาน หรือสัตว์ที่ได้รับอนุญาตให้เพาะเลี้ยงตามกฎหมายว่าด้วยการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า หรือ การเลี้ยงเพื่อเป็นสัตว์ทดลองหรือเพื่อการศึกษาวิจัยของสถานศึกษาหรือส่วนราชการ
อธิบดี หมายถึง อธิบดีกรมปศุสัตว์
นายทะเบียนสัตว์เลี้ยง หมายถึง ปศุสัตว์จังหวัด ในเขตกรุงเทพมหานครให้อธิบดี เป็นผู้แต่งตั้งนายทะเบียนสัตว์เลี้ยงกรุงเทพมหานคร
เจ้าพนักงานคุ้มครองสัตว์เลี้ยง หมายถึง ปลัดเมืองพัทยาหรือผู้ได้รับมอบหมาย ปลัดเทศบาลนครหรือผู้ได้รับมอบหมาย ปลัดเทศบาลเมืองหรือผู้ได้รับมอบหมาย ปลัดเทศบาลตำบลหรือผู้ได้รับมอบหมาย ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล หรือผู้ได้รับมอบหมาย ในเขตกรุงเทพมหานครให้หมายความถึง ผู้อำนวยการเขตหรือผู้ได้รับมอบหมาย แล้วแต่กรณี
สัตวแพทย์ หมายถึง บุคคลซึ่งได้รับอนุญาตให้ประกอบวิชาชีพสัตว์แพทย์ตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น
อาสาสมัครคุ้มครองสัตว์เลี้ยง หมายถึง บุคคลซึ่งนายทะเบียนสัตว์เลี้ยงได้แต่งตั้งให้เป็นอาสาสมัครคุ้มครองสัตว์โดยเลี้ยงมีคุณสมบัติตามพระราชบัญญัตินี้และตามที่อธิบดีกำหนด
ผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยง หมายถึง ผู้ที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงหรือครอบครองดูแลโดยชอบด้วยกฎหมายและได้รับใบอนุญาตให้ครอบครองสัตว์เลี้ยงจาก เจ้าพนักงานคุ้มครองสัตว์เลี้ยง
ผู้ผลิตสัตว์เลี้ยง หมายถึง บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่ทำการเพาะพันธุ์หรือขยายพันธุ์สัตว์เลี้ยง หรือรับซื้อสัตว์เลี้ยงมาเพื่อการค้า หรือนำสัตว์เลี้ยงเข้ามาในราชอาณาจักร หรือส่งออกสัตว์เลี้ยงไปนอกราชอาณาจักร เพื่อ จำหน่าย แจก ให้ ปล่อยสู่ธรรมชาติ บริจาค ซึ่งได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนสัตว์เลี้ยงให้เป็นผู้ผลิตสัตว์เลี้ยง
มาตรา๔ ให้อธิบดีเป็นผู้รักษาการณ์ตามพระราชบัญญัตินี้
หมวด๑ ผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยง
มาตรา ๕ คุณสมบัติของผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยง
๑) บรรลุนิติภาวะ หากยังไม่เป็นผู้บรรลุนิติภาวะ ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองโดยชอบด้วยกฎหมาย ตามแบบที่ นายทะเบียนสัตว์เลี้ยงกำหนด
๒) เป็นบุคคลที่มีจิตใจเมตตาสัตว์และต้องการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอย่างจริงจัง
๓) ไม่เป็นบุคคลวิกลจริต ฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
๔) คุณสมบัติอื่นที่อธิบดีประกาศกำหนด
มาตรา๖ ผู้ใดประสงค์จะเป็นผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยงตามพระราชบัญญัตินี้ให้ยื่นคำร้องขอเป็นผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยงตามแบบที่นายทะเบียนสัตว์เลี้ยงกำหนด ต่อเจ้าพนักงานคุ้มครองสัตว์เลี้ยงตามภูมิลำเนาท้องที่ ที่ประสงค์จะเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเช่นว่านั้น
เมื่อเจ้าพนักงานคุ้มครองสัตว์เลี้ยงได้รับคำร้องขอครอบครองสัตว์เลี้ยงตามวรรคหนึ่งแล้วให้พิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน สามวัน ทำการโดยต้องพิจารณาถึง ความสามารถในการเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยง ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสัตว์ที่ประสงค์จะเลี้ยง ความรับผิดชอบต่อภยันตรายต่อบุคคลอื่นๆอันอาจเกิดในภายหน้า สถานที่ที่จะครอบครองหรือเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้นๆ หรือผลกระทบต่อส่วนรวม หรือสภาวะแวดล้อมไม่ว่าในทางใดๆ
มาตรา๗ เมื่อผู้ประสงค์จะครอบครองสัตว์เลี้ยงได้รับใบอนุญาตจากเจ้าพนักงานคุ้มครองสัตว์เลี้ยงแล้วให้จัดทำสมุดบันทึกประจำตัวสัตว์เลี้ยงซึ่งจะต้องแสดงรายการดังต่อไปนี้
แหล่งที่มาของสัตว์เลี้ยง รูปพรรณสัณฐาน การป้องกันโรค การควบคุมความดุร้าย การควบคุมการแพร่พันธุ์ การโอนสิทธิการครอบครอง หรือรายการอื่นใดตามที่นายทะเบียนสัตว์เลี้ยงกำหนด
ในกรณีที่เจ้าพนักงานคุ้มครองสัตว์เลี้ยงไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไม่ว่ากรณีใดๆ ให้ผู้ยื่นคำร้องขอครอบครองสัตว์เลี้ยงยื่นอุทธรณ์ต่อนายทะเบียนสัตว์เลี้ยงภายใน สิบห้าวัน นับแต่วันที่เจ้าพนักงานคุ้มครองสัตว์เลี้ยงมีคำสั่ง
นายทะเบียนสัตว์เลี้ยงต้องวินิจฉัยคำอุทธรณ์ให้แล้วเสร็จภายใน สิบห้าวัน นับแต่วันที่ได้รับคำร้องขออุทธรณ์
คำวินิจฉัยของนายทะเบียนสัตว์เลี้ยงถือเป็นสิ้นสุด
มาตรา๘ ผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยงต้องจัดให้มี อาหาร น้ำสะอาด แสงสว่างตามชนิดของสัตว์เลี้ยง และจัดให้มีบริเวณสถานที่ซึ่งพอสมควรแก่การดำรงชีวิตของสัตว์เลี้ยงนั้น
การครอบครองสัตว์เลี้ยงนั้น ต้องไม่ เป็นการกระทำที่เป็นการทารุณ กักขังหรือควบคุมที่เป็นการทรมานสัตว์ ลงโทษอย่างทารุณ ล่ามโซ่หรือเชือกหรือวัตถุที่ผิดไปจากการกระทำตามปกติของคนเลี้ยงสัตว์ หรือไม่ว่าการกระทำอื่นใดที่ทำให้สัตว์นั้นได้รับทุกขเวทนา
ผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยง ต้องควบคุมสัตว์เลี้ยงมิให้ส่งเสียงดังอันมีลักษณะก่อให้เกิดความรำคาญแก่บุคคลอื่น ต้องรักษาความสะอาดโดยไม่ส่งกลิ่นเหม็นรบกวน หรืออาจก่อให้เกิดโรคระบาดหรือเป็นพาหะของโรค รวมถึงการควบคุมมิให้ก่อให้เกิดความสกปรกเลอะเทอะในที่สาธารณะและจัดให้มีการป้องกันมิให้เกิดเหตุร้ายแก่บุคคลอื่นในที่สาธารณะ
ผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยงต้องยินยอมให้ นายทะเบียนสัตว์เลี้ยง หรือ เจ้าพนักงานคุ้มครองสัตว์เลี้ยง สามารถตรวจตราการเลี้ยงสัตว์ สถานที่เลี้ยงสัตว์ คอกสัตว์ ได้ตามสมควรซึ่งต้องไม่เป็นการรบกวนสิทธิของผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยง ไม่เป็นการรบกวนสัตว์เลี้ยง และไม่ขัดต่อกฎหมาย
การกระทำตามวรรคสี่ เมื่อนายทะเบียนสัตว์เลี้ยงหรือเจ้าพนักงานคุ้มครองสัตว์เลี้ยงได้ตรวจตราแล้วเห็นว่า การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงนั้น ไม่เป็นตามหลักการมาตรฐานที่พึงเป็น หรือฝ่าฝืนพระราชบัญญัตินี้ อาจสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขบางส่วนหรือทั้งหมดก็ได้ หรือ เจ้าพนักงานคุ้มครองสัตว์เลี้ยงอาจเสนอต่อนายทะเบียนสัตว์เลี้ยงสั่งเพิกถอนใบอนุญาตครอบครองสัตว์เลี้ยงนั้นก็ได้
มาตรา๙ ผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยงต้องจัดให้มีการป้องกันโรคระบาดอย่างเคร่งครัดซึ่งต้องจัดให้มีการป้องกันโรคระบาดตามปกติของสัตว์แต่ละประเภท รวมถึงการถ่ายพยาธิของสัตว์เลี้ยงนั้นๆ
ผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยงต้องแสดงหลักฐานว่า สัตว์เลี้ยงที่ครอบครองอยู่นั้นได้รับการป้องกันโรคระบาดประจำตัวสัตว์เลี้ยงแล้วโดยการบันทึกลงในสมุดประจำตัวสัตว์เลี้ยงและแสดงหลักฐานประจำตัวสัตว์เลี้ยงตามแบบที่อธิบดีกำหนดด้วย
มาตรา๑๐ ผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยงต้องจัดให้มีการควบคุมการแพร่พันธุ์หรือการขยายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงตามมาตรฐานการสัตวแพทย์ ในกรณีที่ประสงค์จะแพร่พันธุ์หรือขยายพันธุ์สัตว์เลี้ยงให้ยื่นคำร้องขอเป็นผู้ผลิตสัตว์เลี้ยงต่อนายทะเบียนสัตว์เลี้ยงตามพระราชบัญญัตินี้
สัตว์เลี้ยงที่ประสงค์จะแพร่พันธุ์หรืขยายพันธุ์ตามวรรคหนึ่ง ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานสายพันธุ์ ได้รับการรับรองการปลอดจากโรคที่ถ่ายทอดผ่านพันธุกรรมและโรคระบาดโดยสัตวแพทย์
กรณีสัตว์เลี้ยงที่ประสงค์จะแพร่พันธุ์หรือขยายพันธุ์ตามวรรคหนึ่งนั้น สัตวแพทย์ไม่สามารถให้การรับรองได้ตามมาตรฐานการสัตวแพทย์ ให้นายทะเบียนสัตว์เลี้ยงสั่งให้ผู้ครอบครองสัตว์เลี้ยงจัดการทำหมันสัตว์เลี้ยงนั้นหรือดำเนินการอื่นใดตามหลักวิชาการสัตวแพทย์เพื่อมิให้แพร่พันธุ์หรือขยายพันธุ์ได้อีก ภายใน สิบห้าวัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง
การทำหมันสัตว์เลี้ยงนั้นหรือการดำเนินการใดๆตามวรรคสามต้องมีสัตวแพทย์เป็นผู้ให้การรับรองและแจ้งต่อนายทะเบียนโดยมิชักช้า
จากคุณ :
ไอ้ด่างเกยชัย
- [
วันวิสาขบูชา 21:29:50
]