ความคิดเห็นที่ 16

ได้ยินทั้งสองชื่อตามตาเชยว่า แต่สงสัยในชื่อหลักและชื่อรอง ไปค้นดูในชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทยปรากฎว่า ชื่อหลักเค้าคือ ว่านแสงอาทิตย์ และไม่มีชื่อว่านกุมารทองแต่อย่างใด ทำอย่างไรดีล่ะครับตาเชย
จากคุณ : กะได
%%%%%%%%%%%%%%%%%%%%
ขอบคุณครับคุณกะได ที่ช่วยสืบค้น
ก็นั่นแหละครับคือปัญหาใหญ่ของหนังสือชื่อพรรณไม้แห่งประเทศไทย ปัญหามันไม่ใช่เฉพาะชื่อว่านต้นนี้หรอกนะครับ มันแยะมากๆ ที่นำชื่อไม้ที่คนไม่ค่อยรู้จักไปทำเป็นชื่อหลัก แล้วนำชื่อที่คนรู้จักกันดีไปเป็นชื่อรอง
โดยเฉพาะชื่อว่านซึ่งปกติก็หาคนที่เก่งและรู้จริงได้น้อยอยู่แล้ว ในขณะที่คณะผู้เขียนและชำระหนังสือเล่มนี้ก็แทบจะไม่มีคนที่มีความรู้เกี่ยวกับว่านอยู่ด้วยเลย ผลมันก็เลยออกมาแบบนี้แหละครับ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับชื่อว่านนี่เท่าที่ผมลองไล่ๆ ดูมันมีความผิดพลาดถึง 80-90% เลยทีเดียว
สิ่งที่ผมพอช่วยได้ ก็คือพยายามทำความจริงให้กระจ่าง จะพยายามให้ข้อมูลให้ละเอียดที่สุดเท่าที่ทราบ และขอความร่วมมือจากพวกเราในห้องนี้ อย่างที่กำลังทำอยู่นี่แหละครับ
ก่อนอื่นต้องทราบเสียก่อนว่า ตำราว่านของประเทศไทย ที่เราใช้เป็นหลักในการเล่นว่านและใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงในการบันทึกหนังสือพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ซึ่งผู้ใดจะมาลบล้าง, หักล้าง หรือบิดเบือนเสียมิได้นั้น มีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 12 เล่มครับ ............................................................................................ 1) ตำราว่านเล่มแรกของไทย และของโลกจริงๆ นั้นชื่อ "ลักษณะว่าน" นายชิต วัฒนะ เป็นผู้รวบรวมพิมพ์ครั้งแรกเมื่อ พ.ศ.2473 2) เล่มที่สองชื่อ "ตำหรับ กระบิลว่าน" หลวงประพัฒสรรพากร รวบรวมพิมพ์(ในงานปลงศพสนองคุณ นางเอี่ยม กาญจนโภคิน) โรงพิมพ์โสภณพิพรรฒธนากร, 2475 และ พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ อำมาตย์โท พระวิจิตรเลขการ โรงพิมพ์อักษรนิติ, 2476 ตำรา เล่มนี้แหละที่นักเล่นว่านรุ่นเก่าล้วนยอมรับนับถือกันว่าเป็นตำราว่านที่ สมบูรณ์ที่สุดของยุคนั้น (ยังมีอยู่ในหอสมุดแห่งชาติ) 3) เล่มสามชื่อ "ตำราพันธุ์ว่านยา 108 อย่าง" ศ.ส. (นามแฝง) รวบรวมพิมพ์ โรงพิมพ์อักษรเจริญทัศน์, 2480 (ยังมีอยู่ในหอสมุดแห่งชาติ) 4) เล่มที่สี่ "คู่มือนักเล่นว่าน" ล.มหาจันทร์ รวบรวมพิมพ์ พ.ศ.2480 5) เล่มที่ห้า "ตำราสรรพคุณยาไทย ว่าด้วยลักษณะกบิลว่าน" นายไพทูรย์ ศรีเพ็ญ รวบรวมพิมพ์ พ.ศ.2484 เล่มนี้นับเป็นตำราเล่มสุดท้ายในยุคก่อน พ.ศ.2500 พอตำราเล่มนี้พิมพ์ออกมาได้ไม่นานนัก ประเทศไทยก็ตกอยู่ในภาวะสงครามโลกครั้งที่ 2
6) ทิ้งช่วงมานานหลายปีจึงมาถึงเล่มที่หกชื่อ "ตำราดูว่านและพระเครื่องพระบรมธาตุ" ชัยมงคล อุดมทรัพย์ รวบรวมพิมพ์ พ.ศ.2503 เล่มนี้มีชื่อว่านบันทึกอยู่ 112 ชนิด
7) เล่มที่เจ็ด "ตำรากบิลว่าน" พยอม วิไลรัตน์ รวบรวมพิมพ์ พ.ศ.2504 ตำราเล่มนี้มีว่านบันทึกไว้ 233 ชนิด (แต่ว่านจำพวกเศรษฐี 8 ชนิด ท่านนับรวมเป็น 1 ชนิดเท่านั้น) และยังมีพืชที่เรียกว่า "ต้นยาวิเศษนานาชนิด" อีก 47 ชนิดบันทึกไว้ รวมเป็นทั้งหมด 280 ชนิด
8) เล่มที่แปด "ตำราปลูกและดูลักษณะว่าน" อุตะมะ สิริจิตโต รวบรวมพิมพ์เมื่อ พ.ศ. 2505 ในตำราเล่มนี้มีว่านอยู่ 166 ชนิด (มีซ้ำ 1 ชนิด) เป็นตำราเล่มแรกที่มีภาพประกอบอยู่ด้วย แต่เป็นภาพขาวดำที่ไม่ค่อยชัดนัก และมีเพียง 16 ภาพเท่านั้น
9) เล่มที่เก้า "ตำราว่านวิเศษอันศักดิ์สิทธิ์" อาจารย์ชั้น หาวิธี รวบรวมพิมพ์ พ.ศ.2506 ในเล่มนี้มีว่าน 197 ชนิด (พิมพ์ซ้ำ 5 ชนิด) และมีต้นยาพิเศษอีก 8 ชนิด รวมเป็น 205 ชนิด 10) เล่มที่สิบ "ตำราคุณลักษณะว่าน และ วิธีปลูกว่าน" นายเลื่อน กัณหะกาญจนะ รวบรวมพิมพ์ในนามของสมาคมพฤษชาติแห่งประเทศไทย พ.ศ.2506 ตำราเล่มนี้ได้รวบรวมชื่อว่านเข้าไว้ถึง 301 ชนิด รวมกับต้นยาอีก 1 ชนิด เป็น 302 ชนิด แต่มีที่ซ้ำแยะมากเพราะเป็นตำราที่รวบรวมและเรียบเรียงขึ้นมาจากตำราทั้ง 9 เล่มข้างต้นรวมเอาเข้ามาไว้ในเล่มนี้เล่มเดียว (ว่านบางอย่างมีหลายชื่อและ ยังมีหลายชนิด เมื่อรวบรวมมาจากตำราอีกหลายๆ เล่มย่อมต้องมีซ้ำๆ กันมากเป็นของธรรมดา) ในตำราเล่มนี้มีภาพขาวดำประกอบอยู่ 16 ภาพ
ตำรา ว่านเล่มนี้แหละ ที่นักเลงว่านตัวจริงในยุคกลางตลอดมาจนถึงยุคหลัง ต่างก็ใช้เป็นคู่มือและใช้เป็นหลักอ้างอิงในการเล่นว่านมาจนกระทั่งทุก วันนี้ และต่างก็ยอมรับนับถือกันว่าเป็นตำราว่านที่สมบูรณ์ที่สุดเล่มหนึ่ง เพราะ ได้รวบรวมรายละเอียดในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับว่านเอาไว้ทั้งหมด เป็นต้นว่า กำเนิดว่าน พระตำหรับว่าน อิทธิฤทธิ์ของว่าน ฤกษ์ในการปลูกว่านหรือกู้ว่าน วิธีปลูกว่าน พิธีกู้ว่าน ตลอดจนคาถาที่ใช้ในการเสกน้ำรดว่านเพื่อให้คงความเข้มขลังหรือ ศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังเป็นตำราว่านเล่มแรกและเล่มเดียวที่มีการจำแนก และบอกชื่อว่านเป็นชี่อทาง พฤกษ์ศาสตร์ ถึงแม้จะไม่ครบทั้งหมดแต่ก็สามารถแยกไว้ได้ถึง 34 วงศ์ (Family) 512 สกุล (Genus) 1,715 พันธุ์ (Species)
11) เล่มที่สิบเอ็ด "ตำรากบิลว่านฉบับสมบูรณ์" ร.ต.สวิง กวีสุทธิ์ ร.น. รวบรวมพิมพ์ พ.ศ.2508 ตำราเล่มนี้รวบรวมว่านไว้ 217 ชนิด (มีซ้ำ 1 ชนิด) และมีภาพขาวดำประกอบอยู่ 36 ภาพ
ตำราเล่มนี้เป็นเล่มแรกที่มีการเปิดตัวบรรดาว่าน ที่มีชื่อ"กวัก"นำหน้าเอาไว้ถึง 9 ชนิด ได้แก่ กวักพุทธเจ้าหลวง กวักนางพญาใหญ่ กวักนางพญาเล็ก กวักนาวมาควดี (ภายหลังเล่นกันในนามว่านมหาโชค) กวักหงษาวดี (ภายหลังเล่นกันในนามว่านมหาลาภ) กวักทองใบ กวักแม่จันทร์ กวักโพธิ์เงิน และกวักเงินกวักทอง ให้นักเลงว่านได้รู้จักและเริ่มเสาะแสวงหามาเล่นกัน
12) เล่มสุดท้ายชื่อ "กบิลว่าน 108" สมาน คัมภีร์ และ ทัศนา ทัศนมิตร รวบรวมพิมพ์ พ.ศ.2516 ตำราเล่มนี้เกิดขึ้นจากการที่อาจารย์ทัศนา ทัศนมิตร ได้นำเรื่องว่านไปลงเผยแพร่ในนิตยสาร "นพเก้า" ก่อน แล้วค่อยรวบรวมพิมพ์ขึ้นเป็นเล่มในภายหลัง จึงมีภาพประกอบอยู่มากจนดูคล้ายกับตำราว่านในยุคหลังๆ แต่ที่จัดเข้าไว้ใน ยุคแรกก็เพราะช่วงที่จัดพิมพ์ตำรานี้ ว่านยังไม่เป็นที่นิยมฮือฮากันมากนัก ตำราเล่มนี้จึงพอเชื่อถือได้เพราะจุดประสงค์ในการจัดพิมพ์ขึ้นเพื่อการเผย แพร่ มิได้มุ่งหรือหวังผลทางการค้า
(คัดลอกมาจากบทความของคุณซาน จากเว็บโกทูโนว) ..................................................................................................
พอทราบอย่างนี้แล้วก็คุยกันง่ายละครับ คือจะบอกว่าชื่อ "ว่านกุมารทอง" นั้นมีบันทึกอยู่ในตำราว่านเล่มที่ 7, 8, 9 และ 10 ครับ
ตำราเล่มที่ 7-8 ให้รายละเอียดไว้ว่า "ลักษณะคล้ายว่านดอกบัว(หรือก้านบัว) ท้องใบขาว(หรือเขียวอ่อน) หัวเหมือนหอมใหญ่(กลมแป้นคล้ายลูกจันทร์) ดอกเป็นพุ่มสีแดงเลือดนก(ใหญ่เท่าส้มโอ-เวลาออกดอกทิ้งใบ)"
ตำราเล่มที่ 9-10 ให้รายละเอียดว่า "ใบเหมือนขมิ้น(คล้ายยางอินเดีย-คล้ายใบขนุน) ต้นเป็นก้านแข็งๆ มีปุ่มเป็นจุดแดงปนดำ"
และตำราว่านทั้งสี่เล่มนี้ ให้ชี่อว่านกุมารทองไว้เพียงชื่อเดียวครับ ไม่มีชื่อรองหรือชื่ออื่นใดอีกทั้งสิ้น
สำหรับ "ว่านแสงอาทิตย์" คู่กรณีนั้น มีบันทึกอยู่ในตำราว่านเล่มที่ 2, 4, 6, 7, 8, 9, 10 และ 11 ครับ คือมีบันทึกอยู่ถึง 8 เล่มจากตำราทั้งหมด 12 เล่ม ว่านนี้จึงนับถือกันว่าเป็นว่านเก่าแก่ที่สำคัญชนิดหนึ่งครับ ตำราว่านทั้งแปดเล่มให้รายละเอียดของว่านแสงอาทิตย์ไว้ตรงกันว่า "ต้น ก้าน ใบ คล้ายหมากผู้หมากเมีย แต่ใบป้อมกว่าเนื้อใบคล้ายใบกล้วย หน้าใบเขียวนวลเป็นพรายปรอท ต้นและท้องใบแดงเรื่อๆ (ต้นแดงยอดแดง) เมื่อถูกแสงอาทิตย์หรือแสงไฟใบจะห่อ ท้องใบจะแดงคล้ำคล้ายเม็ดมะปรางมีเงาสะท้อนเป็นประกาย หัวออกติดต่อกันคล้ายข่า หัวใหญ่คล้ายแสงทองมีสีแดง"
ว่านแสงอาทิตย์ ยังมีชื่ออื่นๆ คือ ว่านแสงไฟ และ ว่านแสงพระอาทิตย์
ถ้าตาเชยไม่ได้เป็นผู้ที่เคยศึกษาเรื่องว่านมาอย่างลึกซึ้งและจริงจังแล้วละก็คงไม่กล้ามาชี้แนะเพื่อนๆ ในห้องนี้หรอกครับ
จากคุณ :
ตาเชย
- [
16 พ.ค. 52 14:08:22
]
|
|
|