.....................เกษตรฯ เตรียมเสนอชะลอเปิดเสรีน้ำมันปาล์ม หวั่นสู้มาเลเซียไม่ได้เพราะมีต้นทุนสูงกว่า ด้าน สศก.กำหนดมาตรการเซฟการ์ด เร่งเสนอให้ทันก่อนมิถุนายนนี้ รองรับเปิดตลาดเสรีสินค้าเกษตร
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า สศก.ได้เสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ พิจารณาข้อตกลงการเปิดตลาดสินค้าเกษตร ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟตา) ซึ่งในปี 2553 สินค้าของไทยจะต้องเปิดตลาดภาษี 0% ประกอบด้วย 1.น้ำมันปาล์ม 2.น้ำมันถั่วเหลือง 3.กระเทียมและหอมหัวใหญ่ 4.เมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ 5.ลำไยแห้งและพริกไทย 6.ไหมดิบ 7.ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 8.กากถั่วเหลือง และ 9.น้ำตาล
สินค้าที่น่าเป็นห่วงมากที่สุด คือ น้ำมันปาล์ม เนื่องจากศักยภาพการผลิตของไทยไม่สามารถแข่งขันกับมาเลเซียได้ เพราะมีต้นทุนสูงกว่า กระทรวงเกษตรจึงจะเสนอต่อคณะกรรมการนโยบายน้ำมันปาล์มแห่งชาติพิจารณาในวันที่ 3 มิถุนายนนี้ โดยมี 3 ทางเลือกคือ 1.ชะลอเปิดตลาดโดยต้องเจรจาในการจ่ายชดเชยแก่อาเซียนที่เสียประโยชน์ 2.ไทยยอมทำตามพันธกรณี แต่จะต้องบริหารการนำเข้าน้ำมันปาล์ม และ 3.ไทยยอมทำตามพันธกรณี แต่ต้องระบุคุณภาพและมาตรฐาน และเป็นการนำเข้าเพื่อการบริโภคเท่านั้น
ส่วนน้ำมันถั่วเหลือง เสนอให้มีการบริหารภายใน โดยกำหนดผู้นำเข้าและให้รับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองในประเทศตามราคาที่กำหนด กระเทียมและหอมหัวใหญ่ ให้มีการควบคุมการเคลื่อนย้ายสินค้า กากถั่วเหลืองให้กำหนดผู้นำเข้าและเงื่อนไขรับซื้อในประเทศ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ให้มีการควบคุมการเคลื่อนย้าย
"สินค้าทั้งหมดนี้ต้องให้สำนักงานมาตรฐานสินค้าเกษตรและอาหารแห่งชาติ (มกอช.) กำหนดมาตรฐานสินค้าและมาตรฐานด้านอาหาร มีความเข้มงวดในการตรวจสอบถิ่นกำเนิดสินค้า และให้ สศก.กำหนดให้เป็นสินค้าในกลุ่มสเปเชียล เซฟการ์ด ซึ่งจะต้องรีบเสนอให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้ แต่ไทยยังไม่มีการพิจารณาข้อกำหนด รวมทั้งสินค้าบางรายการ มกอช.ยังไม่มีมาตรฐานรองรับ" นายอภิชาตกล่าว
ที่มา http://www.komchadluek.net/detail/20090529/14792/เกษตรฯเล็งชะลอเปิดเสรีน้ำมันปาล์ม.html
จากคุณ :
ญี่ปุ่น35
- [
29 พ.ค. 52 01:02:15
]