ความคิดเห็นที่ 1 ดึงออกมาตั้งแต่ต้นเล็กๆเลยค่ะ ถ้าปล่อยให้โตรากจะลงลึก จากคุณ : bualoy - [ 5 มิ.ย. 52 18:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 2 การชำกับดินบางครั้งดินมีเชื้อโรคจะทำให้กิ่งเน่าได้ครับ พวกชำไม้เขาถึงใช้ ทราย+แกลบเผา เพราะสอาดกว่า แถมแน่นดีด้วยรากไม่ขาดง่ายๆ อต่ลีลาวดี ผมก็ใช้วิธีนี้ครับ.......................... การชำลีลาวดี..   ใช้ เซราดิกซ์ เบอร์ 2.(เป็นผงสีขาว)...ผสมน้ำ ให้ขาวสักขนาดน้ำนมดิบ.. ใส่กระป๋อง สูงสักหนึ่งนิ้วก็พอ.. ตัด กิ่งที่จะชำ แช่ทิ้งค้างคืนไว้ 1 คืน...ตรงรอยตัดนี้ เนื้อไม้ควรมีความแก่พอประมาณ คือมีสี ออกน้ำตาลสักหน่อย..ถ้าตัดไม้ผิวสีเขียว ซึ่งยังอ่อนอยู่มาชำ อาจจะเน่าได้ง่าย...และช่วงที่มีฝนตกชุกควรเลี่ยง อย่าตัดไม้มาชำ..เพราะต้นไม้ดูดน้ำไว้ในลำต้นมาก.. รุ่งขึ้น..นำขุย มะพร้าวแช่น้ำพอหมาด.มาใส่ถุงพลาสติกเล็กๆ..แล้วนำกิ่งมาเสียบลงไป..อัดขุย มะพร้าวให้แน่น..แล้วเอาเชือกมัดปากถุง.ที่มีท่อนไม้อยู่ตรงกลางให้แน่น.. เจาะรูเล็กๆ..สักสามสี่รูที่ถุง..เพื่อระบายความชื้นออกบ้าง..เสร็จแล้ววาง ไว้ในที่ร่ม...ประมาณ 15-20 วัน จะเห็นรากสีขาวๆเกิดขึ้น..รอจนรากขึ้นเต็มถุง..มองเห็นว่ารากงอกเยอะแล้ว... ก็นำไปใส่กระถางได้... วิธีนี้..พวกชำลีลาวดีจำนวนมาก เขาใช้กัน..ที่เห็นเขาชำ ขาวพวง ครั้งละเป็นพันๆกิ่ง..โยนกองไว้เป็นกองๆ..ในที่ร่ม....ได้ผลดี และเร็ว.... ที่ืี่มาครับ http://www.pantown.com/board.php?id=15361&area=4&name=board1&topic=100&action=view จากคุณ : เน็ต ตจว. - [ 5 มิ.ย. 52 19:03:00 ]

ความคิดเห็นที่ 3 555กำ ผิดกระทู้ อิอิ จากคุณ : เน็ต ตจว. - [ 5 มิ.ย. 52 19:03:35 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ไม่มีความรู้เลยค่ะ แต่เราเคยซื้อทานตะวันมาปลูก ที่เขาขายแบบสำเร็จมีกระถางมีดินมาเมล็ดมาพร้อม 1 ชุด เราก็โปรยไปหลายเม็ดอยู่ มันก็ขึ้นในกระถางเดียวกันได้นะคะ แต่พอดอกบาน มันโรยก็ตายไปอะ เราก็เอาเมล็ดจากดอกที่โรยมาปลูกใหม่ อันนี้บอกจากประสบการณ์ที่เคยปลูกนะคะ ข้อมูลอาจไม่ถูกต้องตามวิธีปลูกค่ะ รอเพื่อนๆมาให้ข้อมูลที่ถูกต้องต่อไปนะคะ จะมารออ่านด้วยจ้า จากคุณ : *-*นู๋หมวย*-* - [ 5 มิ.ย. 52 19:19:16 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ปกติก้อปลูกในกระถางได้อ่ะค่ะ ออกดอกได้เหมือนกัน อยู่ที่การให้ปุ๋ยให้น้ำด้วยน๊ะ พอออกดอกแล้วสักพัก ก้อโทรมแล้วอ่ะค่ะ เหมือนพวกไม้ล้มลุก อยากได้ดอกสวยๆอีก ก้อต้องโรยเม็ด เพาะใหม่ เห็นด้วยกับคุณbualoy น๊ะ รีบย้ายออกจากหลุมฝังศพน้องหนูแฮมสเตอร์ จะดีกว่าค่ะ เด๋วโตมากๆ เข้า จะ้ย้ายลำบาก จากคุณ : ช้อนชา - [ 5 มิ.ย. 52 19:46:26 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ให้เขาอยู่ด้วยกันไปก่อนเถอะ  จนกว่าทานตะวันจะออกดอก ระวัง ตอนนี้ คุณอย่าไปรถฃบกวนน้องหนูแฮมสเตอร์เด็ดขาด ปล่อยให้กาลเวลาผ่านหรือรอทำบุญร้อยวันเสียก่อน จากคุณ : พลังจิต - [ 5 มิ.ย. 52 19:54:30 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ขำคุณเน็ต ตจว......และขอสวัสดีคุณเน็ตตจว.ด้วย ไม่เจอกันนาน สำหรับจขกท.  เห็นด้วยกับคุณพลังจิต จากคุณ : คุณนายแย้มศรี - [ 5 มิ.ย. 52 20:16:20 ]

ความคิดเห็นที่ 8 มีพี่ ๆ ใจดีมาตอบแล้วน๊า .. เข้ามาแค่อยากบอกว่าคุณ mookiebear น่ารักจัง    ชอบความรักที่คุณมีกับน้องหนูจัง จากคุณ : That's the way I am - [ 5 มิ.ย. 52 20:17:20 ]

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณทุกๆความเห็นมากๆเลยค่ะ สงสัยจะได้ฝากตัวเป็นศิษย์ของพี่ๆเพื่อนๆห้องนี้ซะแล้วล่ะค่ะ เพราะรู้สึกว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่ดีมากๆ ในการปลูกต้นไม้ มันเป็นความรู้สึกดีใจเหมือนเด็กๆได้เห็นอะไรใหม่ๆเลยทีเดียวค่ะ เวลาเห็นต้นไม้เกิดมา (ถึงแม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม) ตอนนี้ยังคิดอยู่เลยค่ะ ว่าอยากหาเมล็ดพันธุ์พืชต้นเล็กๆชนิดอื่นๆมาปลูกอีก อยากดีใจเวลาเห็นมันงอกขึ้นมาทีละน้อยๆแบบนี้อีกค่ะ ส่วนเรื่องหนูแฮมสเตอร์ ต้องบอกจริงๆค่ะ ว่ารักและผูกพันมาก ไม่เคยคิดว่าเค้าเป็นสัตว์เลี้ยงเลยค่ะ แต่เค้าคือลูกตัวน้อยตัวนึงเลย (อย่าหาว่าเวอร์เลยน้า) ป่านฉะนี้ยังคุยกับกระถางต้นไม้ทุกวัน จนแม่ยังหาว่าบ้าเลยค่ะ แหะๆ จากคุณ : mookiebear - [ 5 มิ.ย. 52 20:53:56 ]

ความคิดเห็นที่ 10 เอารูปความผูกพันของเจ้าสองตัวมาให้ดูค่ะ ตัวนึงนอนในกระถาง ชื่อข้าวเหนียวค่ะ(ตัวผู้ = ตัวที่ตาย) อีกตัวคือตัวเมียที่เหลืออยู่ ชื่อมะม่วงค่ะ (เลี้ยงมาด้วยกัน เป็นแฟนกันค่ะ) เค้านั่งแบบนี้อยู่นานค่ะ จนคว้ากล้องมาถ่ายไว้ได้ ที่เห็นอยู่ในกระถางนั่นคือต้นออมเงิน (แม่ค้าเค้าบอกอะค่ะ ไม่รู้ใช่จริงมั้ย) และจะเห็นทานตะวันขึ้นมาอยู่ลืบๆ ข้างๆด้วยค่ะ แต่ในรูปต้นยังเล็กอยู่ จริงๆแล้ว ผ่านมาวันนี้ แค่วันเดียวเอง มันโตเร็วมากค่ะ มันสูงเกือบเท่าตัวแล้วล่ะ โตไวซะอย่างกับดื่มนมไวตามิ้ลแน่ะ ! ปล. จะเห็นว่ากระถางไม่ใหญ่เลยค่ะ เพราะไม่ได้เตรียมไว้สำหรับแขกอย่างคุณทานตะวันมาก่อน ก็เลยค่อนข้างหนักใจในการย้ายกระถางค่ะ กลัวปล่อยนานกว่านี้ รากลงลึกกว่านี้ มันจะไปถึงตัวแฮมสเตอร์ที่เพิ่งตายไปได้ 1 อาทิตย์น่ะสิคะ แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 21:00:38 แก้ไขเมื่อ 05 มิ.ย. 52 20:58:21 จากคุณ : mookiebear - [ 5 มิ.ย. 52 20:56:20 ]

ความคิดเห็นที่ 11 แปลกใจเจ้าของกระทู้มากๆ เลยแหะ ทำอะไรแปลกๆ ก็เป็นด้วย (ในสิ่งที่ดี ด้านของความสุข..) ท่าทางจะรักเจ้าแฮมน้อยนี่มากเลยนะครับ ว่าแต่ถ้าเป็นผมคงถอนเจ้าต้นกล้าอ่อนทานตะวันทิ้งเสียแล้ว เพื่อรักษาจุดประสงค์หลักไว้ เป็นผู้ทำลายซะง้าน แต่..เอ๊ะ ในเมื่อเป็นผู้ทำลายก็รู้จักสร้างเป็นเหมือนกันนะ ^^" >>เข้าเรื่องๆ กันดีกว่า (เอาแบบง่ายๆ เนอะลัดขั้นตอนไปบ้าง) -แนะนำเลยสำหรับผู้เล่นมือใหม่ เอ้ย ! ผู้ปลูกเลี้ยงสมัครเล่นสิ ควรจะเป็นกระถางดินเผา เนื่องด้วยว่ากระถางนี้มันถ่ายเทอากาศในดิน และระบายน้ำได้ดี อีกทั้งยังทำให้อุณภูมิในดินเย็น (แล้วตัวผู้ปลูกเองคงยังกะปริมาณน้ำในการรดน้ำไม่ได้เป็นแน่ __ _") ถ้ามากไปมันจะแฉะเกินแล้วเน่าได้ครับ ซึ่งข้อนี้ตัดปัญหาไปได้เลย แต่มันก็ขึ้นอยู่กับประเภทของดินด้วยนะ **อนึ่งกระถางดินเผานั้นมีน้ำหนักมาก หนาเทอะทะ ไม่สะดวกในการเก็บและขนย้าย มีรูปทรงที่ไม่สม่ำเสมอ -ภาชนะปลูก คำถามคือกระถาง ต่อจำนวนต้นใช่ไม๊ !? ก็จะมีสองรูปแบบครับ แบบที่หนึ่ง 1 ต้น / 1 กระถาง มันจะไม่แย้งสารอาหารในดิน ต้นไม่แคระแกน จะสมบูรณ์และแข็งแรง พูดง่ายๆ ต้นมันจะใหญ่ รูปทรงของต้นจะออกมาสวยงามครับ แต่กินเนื้อที่ค่อนข้างมาก ก็เจ็ดต้น เจ็ดกระถางแหนะ แบบที่สอง 2-3 ต้น / 1 กระถาง ก็จะตรงข้ามกับด้านบน จะแย้งสารอาหารในดินกัน บางต้นอาจจะแคระแกน ไม่สมบูรณ์เต็มร้อย แต่มันก็สวยไปอีก รูปแบบนึงในแบบบ้านๆ ข้อสำคัญประหยัดพื้นที่ และทุนทรัพย์ค่าวัสดุ **กระถางแนะนำกระถางดินเผาไซด์ขนาดกลางๆ ครับ สำหรับ 1 ต้น / 1 กระถาง ถ้าเป็น 2-3 ต้นกระถาง ก็ปรับมาเป็นไซด์ใหญ่หน่อยฮะ -วัสดุปลูก ก็ง่ายๆ เลยครับ ดินปลูกตามท้องตลอดทั่วไป ^^" (มักง่ายไปไหมหว่าเรา) **ไม่แนะนำให้ใช้ปุ๋ยยูเรีย ในการเร่งดอกหรือบำรุงดิน เพราะเป็นผู้ปลูกเลี้ยงสมัครเล่น ต้นไม้อาจได้รับผลกระทบ..(ขี้เกียจอธิบายหว่า) ><" ยังไงก็ใช้เป็นพวกปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอกเราแล้วกันเนอะ ช่วงแรกๆ ในดินมันก็จะมีสารอาหารที่จำเป็นต่อพืชอยู่แล้ว(เรื่องปุ๋ยก็ราวๆ ผ่านไปสักเดือนสองเดือนค่อยหามาใส่ก็ได้ครับ) -การย้ายต้นกล้า ก่อนย้ายกล้าควรงดการให้น้ำกับต้นกล้าก่อน 1 วัน เพื่อให้ดินเกาะอยู่ที่รากของต้นกล้า โดยส่วนมากแล้วจะนิยมย้ายกัน ในขณะที่มีใบเลี้ยงกางเต็มที่ ขั้นตอนของการย้ายกล้านั้น ใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้ของมือซ้ายจับใบเลี้ยงใบที่หนึ่ง ในขณะเดียวกับที่มือขวาจับเศษไม้หรือดินสอที่เหลาให้ ปลายแหลม แทงลงในวัสดุเพาะที่อยู่บริเวณด้านข้างๆ ต้นกล้าแล้วดึงต้นกล้าขึ้นมา จากนั้นทำหลุมปลูกโดยใช้ดินสอ แทงลงที่ดินตรงกึ่งกลางกระถางที่จะทำการย้ายกล้าลงปลูก โดยแทงให้ลึกพอประมาณ(กะได้ว่าใบเลี้ยงอยู่ติดผิวดินอะครับ) แล้วยกดินสอขึ้น นำต้นกล้าวางลงในหลุมให้ใบเลี้ยงอยู่ในระดับผิวกระถางพอดี ถ้ามีรากบางส่วนยังไม่ลงหลุมให้ใช้ดินสอดันรากเหล่านั้นลงไป และเขี่ยวัสดุปลูกลงกลบหลุม รดน้ำด้วยบัวฝอยละเอียด จนน้ำไหลออกก้นกระถาง เมื่อปลูกต้นกล้าเสร็จแล้วควรนำไปไว้ในที่ร่มสักหนึ่งวันก่อนเผื่อให้ต้นกล้าฟื้นตัวครับ อายุของทานตะวันมีอายุราวๆ ประมาณ 100วันกว่านิดๆ ในระยะหนึ่งเดือนแรก ก็ควรหมั่นรดน้ำเช้ากับเย็นครับ หลังจากเดือนแรกผ่านพ้นไปแล้ว รดวันละครั้งก็พอครับ (พักนี้หน้าฝน ก็สบายละครับผม) -การเก็บเมล็ดดอกทานตะวัน อาจจะมีปัญหาเรื่องเมล็ดเน่าเสีย เพราะดอกทานตะวันมีดอกใหญ่เมื่อเมล็ดแก่ ดอกจะห้อยลง และด้านหลังของดอกจะเป็นแอ่ง เมื่อฝนตก น้ำฝนจะขังอยู่ ทำให้เกิดการเน่าและเมล็ดเสียหายได้ อ่าๆ เมื่อจะปลูกทานตะวันแล้ว เราก็มาทำความรู้จักความหมายของดอกทานตะวันกันดีกว่า.. ว่ากันว่า มันเป็นสัญลักษณ์ของความเชื่อมั่น มั่นคง รักเดียวใจเดียว และมีนัยถึงศิลปะที่งดงาม หากได้รับดอกทานตะวันเมื่อใด เปรียบเหมือนได้รับสารว่า >>>แม้เธอจะเย่อหยิ่งเพียงไร แต่สักวันฉันจะชนะใจเธอ<<< และยังหมายถึง >>>รักของฉันมั่นคงและภักดีต่อเธอเสมอ ดุจดั่งทานตะวันที่ไม่เคยหันมองผู้ใดนอกจากดวงอาทิตย์<<< (พอดีเป็นคนชอบจำความหมายของดอกไม้ และสิ่งของของผู้ให้^^~) แต่มันก็มีอีกความหมายด้วยนะ~! ดอกไม้แห่งความหลอกลวง __ _" สุดท้าย อยากจะฝากถึงเจ้าของกระทู้ ว่า... ถ้าอ่านได้ถึงตรงนี้แล้วล่ะก็ผมว่าคุณมีความตั้งใจเป็นอย่างมากเป็นแน่ เพราะการที่เราจะทำอะไรสักอย่างรวมถึงการปลูกต้นไม้นี่ก็ด้วย ต้องมีความรักและสนใจจริงๆ เมื่อสนใจเราก็ศึกษาหาข้อมูล ไม่มีอะไรยากเกินที่จะทำได้ ถึงแม้ว่าเจ้าของกระทู้จะเพิ่งเริ่มปลูกก็ตามที หลังจากนี้เมื่ออ่านจบแล้ว และเมื่อลงมือทำ.. จะหยุดดำเนินกิจกรรมนี้ไม่ได้ เพราะต้นไม้ดอกต้องการการดูแลเอาใจใส่/รดน้ำ/ใส่ปุ๋ย คล้ายๆ กับความรัก ถ้าคิดว่ามันเป็นภาระก็ต้องขอแนะนำว่าอย่าได้ ปลูกเลย แต่ถ้าคิดว่านี่คือความสุขก็เริ่มต้นนับหนึ่งได้เลยครับ (อาจารย์เขาสอนผมไว้ว่างั้น) ที่สำคัญที่สุด. ..ต้องลงมือปฏิบัติจริง เพราะการปลูกไม่ใช่แค่ทฤษฎีแต่เป็นการปฏิบัติ ขอให้ประสบความสำเร็จครับ ^______,^// จากคุณ : Phenphaichit - [ 5 มิ.ย. 52 21:08:11 ]

ความคิดเห็นที่ 12 555 ต้องขอบคุณ คุณ Phenphaichit มากๆเลยค่ะ ข้อมูลมาเต็มที่เลยเชียว ถ้าไม่ได้อ่านข้อแนะนำ เราคงจะย้ายต้นกล้าแบบกระชากลากถูออกมาด้วยการดึงลำต้นออกมาตรงๆแน่ๆเลยค่ะ  - -" ไม่เคยรู้มาก่อนว่าต้องมีหลักการมากขนาดนี้เลย แถมยังต้องงดน้ำหนึ่งวันด้วย เริ่มรู้สึกแล้วว่า ความรู้ในด้านนี้เป็นศูนย์เลยจริงๆ T^T ก่อนหน้านี้เคยปลูกแต่ผักชี (ไม่ได้เอาไว้โรยหน้านะคะ) ปลูกเท่าไหร่ก็ไม่ขึ้น ปลูกส่งอาจารย์ค่ะ อย่าว่าแต่ผักชี กระบองเพชรที่เค้าปลูกมาแล้ว เอามาเลี้ยงต่อ รดน้ำ ให้แดดตามปกติ ก็ยังกะน้ำไม่ถูก จนมันเฉาตายไปซะอย่างนั้น เหมือนเป็นคนที่ไม่มีความสามารถในการปลูกต้นไม้อย่างยิ่งยวด ! แต่นับจากวันนั้น คิดว่าวันนี้ จะเป็นการเริ่มต้นที่ดีค่ะ อยากปลูกต้นไม้ อยากเห็นฝีมือตัวเอง ดูกันสักตั้ง ว่าจะเลี้ยงจนทานตะวันมันบานได้รึเปล่า อันนี้ต้องติดตามชมค่ะ 555 ขอบคุณจริงๆค่ะ สำหรับทุกความเห็นเลย ^^ ปล. เราก็เป็นคนแปลกๆจริงๆแหละค่ะ เวลาจะทำอะไรนี่ มันจะล้นๆ เกินคนอื่น แต่ถ้านับว่าดี มันก็ดีแหละค่ะ เหมือนกับว่าทำอะไรแล้ว มันก็ทุ่มเต็มร้อย แต่บางทีมันก็ดูเวอร์เกินเหตุไปเลยเหมือนกัน - -" จากคุณ : mookiebear - [ 5 มิ.ย. 52 21:23:23 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รูปในคคห 10 น่ารักจังเลย จากคุณ : คุณนายแย้มศรี - [ 5 มิ.ย. 52 21:44:45 ]

ความคิดเห็นที่ 14 เราประทับใจจขกท.มากมายเลย จริงๆ นะ เป็นเรื่องราวที่สวยงามมากๆ เลยค่ะ เราไม่มีคำแนะนำให้ เพราะเราไม่เคยปลูกทานตะวัน แต่เราก็ขอขอบคุณสำหรับแรงบันดาลใจบางอย่างนะคะ เราเชื่อว่า หนูน้อยของคุณจขกท.ต้องหลับสบาย แล้วคุณศรีภรรยาก็จะรอคอยชมดอกทานตะวันเหมือนกับจขกท.ด้วย จากคุณ : gluhp - [ 5 มิ.ย. 52 21:46:30 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ไม่ต้องซีเรียสหรือยึดติดตามหลักการมากเกินไปหรอกครับ ปรับปรุงเอาตามแต่สะดวก แต่ให้มันอยู่ในขอบเขตเท่านั้นก็พอ หรือไม่แน่อาจจะแหกแหวกแนว ลองผิดลองถูกดูก็ได้นะ เผื่อมันจะเป็นวิธีใหม่ (สมัยประถมผมลองผิดๆ ถูกๆ มาก็เยอะไอเรื่องเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้เนี่ย) สมัยนี้ดีมากเลย มีคอมพิวเตอร์มีอินเตอร์เน็ตใช้ แลกเปลี่ยนความรู้กันรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องไปหาซื้อหนังสือให้เปลืองตัง กะลองผิดลองถูกแว้ว เมล็ดผักชีหรอ ได้แช่น้ำอุ่นทิ้งไว้ก่อนหรือเปล่าหว่า หรือว่ามาถึงก็โรยๆ มันลงดินแล้วรดน้ำไว้เฉยๆซะง้าน^^" มันก็มีทริคเล็กๆ น้อยๆ ในการคัดเลือกเมล็ดพันธุ์กะเร่งปฎิกิริยาการงอกอยู่เหมือนกันนะครับ (ทริคเด็กประถม แต่ปัจจุบันผมก็ยังใช้อยู่เลย) ส่วนเรื่องตะบองเพชร ถ้าผมเข้าใจไม่ผิดคงเพราะเรื่องการรดน้ำจริงๆ ล่ะครับ เอ่ ผมไม่ยักรู้จัก ชื่อกระบองเพชรนะครับ รู้จักแต่ ตะบองเพชร หรือ cactus แต่พอไปลองหาดูข้อมูลมาจากพจนานุกรม มันก็เรียกได้ทั้งสองแบบ (ดีนะกันหน้าแตกไว้ก่อนเรา) ha ha~ จริงๆ แล้วมันเรียก"ตะบองเพชร"นะครับ แต่ไทยเราคงเพี้ยนเสียงจนเป็นกระบองเพชรในเวลาต่อมาม้าง -0- ขอถามส่วนตัวนิดนะครับ เลี้ยงเจ้าแฮมเตอร์นี่มา มันไม่ออกลูกบ้างหรอครับ ของผมเลี้ยงไว้คู่นึง(สมัยก่อน) ออกลูกเดือนต่อเดือน ถี่และไวมาก มันออกคอกนึงก็เยอะมาก ราวๆ 7-8 ตัว แล้วพอมันโตก็ต้องขยายแยกกรง ไม่ง้านมันวิ่งไล่กัดกันระนาวเลย __ _" ส่วนหนูในรูปเจ้าของกระทู้มันมีแผลเป็นบ้างหรือเปล่าครับเห็นตรง หูมันออกดำๆ หนูพวกนี้มักเป็นเชื้อรากะแบคทีเรียอะครับ ต้องดูแลเปลี่ยนถ่ายวัสดุกะทำความสะอาดบ่อยๆ คุณเจ้าของกระทู้คนนี้มีอารมณ์ขันดีเหมือนกันนะครับเนี่ย (ไม่ได้เอาไว้โรยหน้านะคะ) & (555) ง้านผมก็ขอหัวเราะตรงนี้บ้างนะครับ >>เราก็เป็นคนแปลกๆ จริงๆ แหละค่ะ เวลาจะทำอะไรนี่ มันจะล้นๆ เกินคนอื่น<< 555+ จากคุณ : LastKiss` (Phenphaichit) - [ 5 มิ.ย. 52 22:38:59 ]

ความคิดเห็นที่ 16 ความรู้ใหม่อีกแล้วค่ะ เรียกตะบองเพชรเหรอคะเนี่ย หน้าแตกเลยเรา >< หูของหนูในรูป เค้าเคยเป็นเนื้องอกค่ะ ไปจี้มาที่รพ. เกษตร ที่เห็นเป็นดำๆ เพราะมันเป็นรูน่ะค่ะ (ตอนกลับมาจากจี้ เจ้าตัวนี้โดนล้อว่า ยัยหูแหว่งประจำ) เจ้าสองตัวนี้ เข้าๆออกๆ รพ. เกษตรบ่อยค่ะ เพราะเริ่มแก่ ล่าสุดก่อนจะตาย ก็เพิ่งไปหาคุณหมอมา คุณหมอให้ยามากินสามขวด แรกๆก็กระดกซดจากสลิงค์ดีอยู่หรอก หลังๆ เอามือปัด แถมจะกัดอีกตังหาก - -" แล้วในที่สุดก็จากไปนี่ล่ะค่ะ แวะมาเพิ่มเติมเรื่องลูก สองตัวนี้เป็นคนละสายพันธุ์ค่ะ ผสมกันยาก แถมตัวเมียยังตัวใหญ่กว่าตัวผู้เยอะ มันก็เลย เอ่อออ รูปร่างไม่สมดุลน่ะค่ะ เจ๊มะม่วงเค้าเชพบ๊ะตุ้ยนุ้ยเกินไปหน่อย - -" ก็เลยไม่มีลูกเลยค่ะ แต่แอบโล่งใจกว่ามีลูกอีกนะคะ เพราะถ้าหมดตัวนี้คงไม่เลี้ยงอีกแล้ว ทำใจลำบากน่ะค่ะ เวลาเค้าไม่อยู่ แก้ไขเมื่อ 06 มิ.ย. 52 07:21:58 จากคุณ : mookiebear - [ 5 มิ.ย. 52 22:48:16 ]

ความคิดเห็นที่ 17 " สงัสัยจังว่ารากของต้นออมเงินไปถึงไหนแล้ว เคยมีหนูหลงมาให้เลี้ยง ตัวนึง ไม่รู้มันมาจากไหน มันไม่เชื่องเลย ชอบกัดด้วย " จากคุณ : ตุ๊กตาหมี - [ 6 มิ.ย. 52 03:28:59 ]

ความคิดเห็นที่ 18 จขท.น่ารักจังเลย^^ จากคุณ : นู๋มล (numontvxq) - [ 6 มิ.ย. 52 10:52:21 ]