PANTIP.COM : J7948011 ...เทคนิคการถ่ายภาพน้องหมา..... [สุนัข]

ความคิดเห็นที่ 4

1. อย่างแรกสุดเลยคือการวางแผนการถ่ายภาพ

ไม่มีช่างภาพคนไหนที่จะถ่ายภาพออกมาได้ดี หากไม่มีการวางแผนล่วงหน้าก่อนถ่ายเอาไว้ ขั้นตอนก็มีแค่คุณต้องเริ่มจากตั้งคำถามให้กับตัวเองก่อนว่า “จะถ่ายอย่างไร, ถ่ายอะไร, ถ่ายเมื่อไหร่, และจะถ่ายที่ไหนบ้าง” ซึ่งคุณต้องทำเช่นนี้กับการถ่ายภาพทุกๆภาพเมื่อคุณเปิดหน้ากล้อง จากนั้นลองพยายามจินาการถึงภาพในแบบที่คุณอยากจะได้ในวันนี้ หากยังงงๆอยู่ แนะนำให้ลองเปิดหนังสือที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงโดยตรงเพื่อสร้างแนวทางและแรงบันดาลใจในขั้นต้นให้กับตัวเอง จากนั้นคุณอาจจะทดลองเรียนแบบ (ไม่ใช่เลียนแบบ!!) มุมมอง และพัฒนามุมกล้องให้เป็นแบบของตัวเองในที่สุดให้ได้ สิ่งที่คุณต้องระลึกไว้เสมอคือ สัตว์ทุกตัว จะมีลักษณะนิสัยของตัวเองที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่นสุนัขคู่ใจของคุณอาจจะชอบวิ่งเล่นรอบต้นไม้ หากคุณปล่อยมันขณะพาไปเดินเล่น ซึ่งหากสังเกตดีดี จะพบว่าพวกมันทำกิจกรรมเดิมๆ ซ้ำๆ กับเกือบทุกครั้งในแต่ละวัน และนี่ก็คือสัญลักษณ์ที่คุณต้องเรียนรู้และใช้มันสำหรับวางแผนการถ่ายภาพ โดยนำเอากิจวัตรประจำวันของมันเข้ามาช่วย หากสัตว์เลี้ยงของคุณกำลังอยู่ในจุดที่สบายที่สุด นี่ก็อาจเป็นสถานที่ที่เหมาะกับการถ่ายภาพมากที่สุดก็เป็นได้ นอกจากนี้คุณรู้หรือไม่ว่าสัตว์เลี้ยงที่เชื่องๆบางตัว มีความสามารถมากพอที่จะเข้าใจเสียงคำชมเชยของมนุษย์ หรือคุณอาจจะเลือกช่วงเวลาที่พวกมันกำลังส่ายหัวและจ้องมองมาที่คุณด้วยสายตาวิงวอนขณะที่คุณกำลังเปิดกล่องอาหารให้พวกมัน ไม่ก็เมื่อพวกมันเริ่มที่จะงีบหลับบนโซฟาขณะที่คุณกำลังนั่งชมรายการโทรทัศน์สุดโปรด นอกจากนี้ยังมีตอนที่พวกมันจะวิ่งเข้ามาหาคุณเมื่อคุณกลับมาจากที่ทำงาน ดังนั้นลองวางแผนการบันทึกภาพเหล่านี้ไว้แต่เนิ่นๆ ซึ่งรางวัลที่คุณจะได้รับก็คือภาพถ่ายที่ดีที่สุดนั่นเอง

2. การเตรียมตัวเป็นสิ่งสำคัญ

คุณต้องเริ่มตัดสินใจว่าเมื่อมีกล้องและชุดแฟลชพร้อมอยู่ในมือเรียบร้อยแล้วจะทำอะไรต่อไป ทั้งนี้ก็เพื่อการเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่ดีที่สุด เช่น ถ้าหากว่าอยู่บนโซฟา คุณก็อาจจะวางกล้องไว้บนชั้นวางโทรทัศน์ใกล้ๆกับตัวคุณ โหลดแฟลชให้พร้อมและเตรียมพร้อม เตรียมตัวสำหรับช่วงเวลาที่เกิดขึ้นกะทันหัน ซึ่งจุดหนึ่งที่อาจเหมือนกับการถ่ายภาพเด็กๆ คือสัตว์เลี้ยงของคุณจะจ้องมองที่กล้องด้วยความสนอกสนใจอันเนื่องจากพวกมันเห็นเป็นของเล่นชิ้นใหม่ ทว่าก็จะเลิกสนใจในเวลาอันรวดเร็วเช่นกันเมื่อรู้ว่ากล้องถ่ายภาพไม่สมารถนำมาเล่นได้… ช่วงเวลาเหล่านี้จะช่วยให้คุณมีอิสระทางความคิดเพื่อให้สามารถถ่ายภาพของพวกมันได้อย่างเป็นธรรมชาติ

3. มองหาสถานที่สำหรับการถ่ายภาพให้โดนใจมากที่สุด

คำนึงถึงเรื่องของฉากหลังหรือ background เป็นสำคัญ โดยให้ยึดเอาสีของตัวแบบซึ่งก็คือสัตว์เลี้ยงเป็นหลัก เช่นหากว่าสัตว์เลี้ยงของคุณมีสีดำทั้งตัว คุณไม่ควรถ่ายบนโซฟาสีดำ เนื่องจากภาพที่ได้มาอาจทำให้คุณเสียทั้งเวลาและพลังงานในการถ่ายภาพมากกว่า นอกจากนี้ฉากหลังที่ดูยุ่งเหยิงก็ดูเหมือนเป็นอีกจุดหนึ่งที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของท่านไม่โดดเด่นเท่าที่ควรอีกด้วย ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงฉากหลังที่มีลวดลายหรือพื้นผิวคล้ายคลึงกับลวดลายของขนบนสัตว์เลี้ยง หากเป็นไปได้พยายามหาฉากหลังที่เรียบๆ ไม่หวือหวาเกินไปนัก ซึ่งอาจเป็นกำแพงหรือผนังพร้อมฉากของแสงอาทิตย์ที่อยู่ด้านหลังตัวคุณเพื่อให้แสงส่องไปที่ตัวแบบได้ง่ายขึ้น และยิ่งเป็นการเพิ่มแสงโดยไม่ต้องใช้แฟลชเข้ามาช่วย

4. พยายามเข้าไปให้ใกล้สัตว์เลี้ยงมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

แต่ต้องระวังเล็กน้อยเพราะตัวกล้องอาจไปสร้างความรำคาญใจให้กับสัตว์เลี้ยง ดังนั้นทางที่ดีสุดคือคุณควรใช้การซูมที่มีอยู่ในตัวกล้องให้เกิดประโยชน์มากที่สุดควบคู่ไปด้วย ทั้งนี้เชื่อเถอะว่าการใช้เลนส์เทเลโฟโต้นั้นจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการใช้เลนส์มุมกว้างอย่างแน่นอน สำหรับการใช้เลนส์เทเลโฟโต้นั้นนอกจากจะช่วยให้คุณสามารถกำจัดพื้นหลังที่ไม่น่าดูชมแล้ว มันยังเปิดโอกาสให้คุณเลือกใช้รูรับแสงได้กว้างขึ้นที่ประมาณ F4 ถึง F2.8 ซึ่งจะทำให้ฉากหลังทั้งหมดเบลอได้ในพริบตาเลยทีเดียว เลนส์ที่มีช่วงซูมยาวๆ จะช่วยให้คุณ crop ภาพให้ดูแน่นขึ้นเพื่อใช้สำหรับการเน้นหรือไฮไลท์รวมถึงการสื่ออารมณ์ความรู้สึกของสัตว์เลี้ยงในขณะที่ถ่ายมากขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้หากคุณใช้กล้องแบบ digital compact ก็อาจเลือกโหมด portrait หรือโหมดการถ่ายภาพบุคคลก็ย่อมได้ (ไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับการถ่ายภาพบุคคลเสมอไป)

5. เล่นกับสัตว์เลี้ยงของคุณ

อย่างที่บอกไปแล้วว่าสัตว์เลี้ยงก็เหมือนเด็กเล็กๆ การให้รางวัลเป็นคำชื่นชมหือดูแลเอาใจใส่อย่างดีย่อมหมายถึงการตอบสนองที่เป็นมิตรจากพวกเค้าตามไปด้วย คุณต้องเริ่มจากการพยายามควบคุมเค้าให้หยุดหมัด (ไม่ใช่การใช้กำลัง หากแต่หมายถึงการโน้มน้าวจิตใจและสร้างอารมณ์ร่วมต่างหาก) และจำไว้ว่าพวกเค้าเหนื่อยง่ายมากจากการเล่นสนุกซุกซนตามวัยหรือตามสัญชาติญาณ ซึ่งสิ่งที่ตามมาอาจเป็นปัญหาให้กับคุณในการสร้างสรรค์ภาพถ่ายในช่วงเวลาดังกล่าวก็เป็นได้ ดังนั้นคุณต้องมั่นใจว่าทั้งคุณและตัวแบบที่คุณกำลังเลือกถ่ายต่างก็พร้อมสำหรับการบันทึกภาพย่างเต็มที่ หรืออาจกล่าวได้ว่าพักผ่อนมาอย่างเพียงพอแล้ว อีกข้อหนึ่งคืออย่าฝืนถ่ายภาพในขณะที่คุณและสัตว์เลี้ยงยังไม่พร้อม เพราะนั่นอาจหมายถึงอารมณ์ที่ไม่เป็นธรรมชาติ สิ่ที่คุณควรทำคือคือลองมองหาสถานที่ซึ่งผู้คนไม่มากนัก อาจเป็นสถานที่ที่มีเพียงคุณและคนในครอบครัว (ที่จะเป็นหนึ่งในผู้ช่วยเรียกความสนใจจากสัตว์เลี้ยง) นอกจากนี้การส่งเสียงตะโกนเรียกชื่อของพวกมันก็ดูจะเป็นอีกวิธีหนึ่งในการสร้างอารมณ์ร่วมที่ดีในการถ่ายภาพที่ออกมา เคล็ดลับสำคัญในข้อนี้คือเรื่องของความเร็วชัตเตอร์ ซึ่งคุณควรตรวจสอบว่ามีความเร็วมากเพียงพอที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของพวกมันได้ อย่าเพิ่งห่วงเรื่องของระยะชัดลึกเพราะสิ่งที่คุณต้องการมากกว่าคือภาพของสัตว์เลี้ยง ไม่ใช่พื้นหลังทั้งหมดนั่นเอง

6. พยายามนำแฟลชมาเกี่ยวข้องให้มากที่สุด

ทั้งนี้ก็เพื่อเพิ่มแสงประกายจากดวงตาของสัตว์เลี้ยงให้กับภาพถ่าย เพราะบ่อยครั้งคุณจะพบว่าดวงตาของสัตว์เลี้ยงแสนรักมักจะถูกปิดด้วยเส้นขนที่ยาวจนไม่สามารถสื่อให้เห็นความรู้สึกไดเดีนัก สำหรับการเลือกใช้แฟลชนั้น คุณควรตั้งค่าไว้ที่โหมด Slow Sync เพื่อให้แสงของแฟลชถูกยิงออกไป ณ ช่วงเวลาสุดท้ายของการรับแสง ทั้งนี้ภาพที่ได้อาจจะมีลักษณะของการเคลื่อนไหวติดมาด้วยเล็กน้อย แต่ทว่ามันก็ดีกว่าการใช้แฟลชในโหมดปกติ ที่ซึ่งแสงอาจไปทำลายรายละเอียดของภาพลงได้ นอกจากนี้หากคุณเลือกใช้แฟลชแบบติดตั้งภายนอก ก็ควรพิจารณาเลือกใช้โหมด manual เป็นหลัก โดยคุณอาจจะลดกำลังแสงลงไปที่ 1/64 หรือ 1/128 เพื่อลดผลลัพธ์อันไม่พึงประสงค์ลงไปด้วยก็ย่อมได้ เทคนิคสำคัญในข้อนี้คือการฝึกฝน ๆ ๆ แล้วก็ฝึกฝนการใช้แฟลชการใช้แฟลชให้ชำนาญนั่นเอง

7. ผู้คนส่วนใหญ่ชอบที่จะเห็นภาพตนเองบันทึกร่วมกับสัตว์เลี้ยง

ดังนั้นหากสุนัขของคุณชอบที่จะให้มีคนมาลูบหลังเมื่อมันเลียแข้งเลียขาอยู่แล้วหล่ะก็ ลองลดตัวเองให้ต่ำลงและไม่ต้องจำกัดว่าจำเป็นจะต้องถ่ายเฉพาะ “ตัวสุนัขและขา” ของคนเท่านั้น แต่ให้พยายามรวมเอาตัวคนทั้งตัวเข้าไปอยู่ในฉากทั้งหมดให้ได้ด้วยก็จะดีไม่น้อยทีเดียว (แต่ทั้งนี้ควรจะเป็นภาพที่ถูกถ่ายจากมุมต่ำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้) เชื่อเถอะว่าใครๆก็อยากเห็นหน้าตัวเองถ่ายคู่กับสัตว์เลี้ยงมากกว่าเห็นเฉพาะท่อนขาอย่างแน่นอน

8. สิ่งที่ต้องทำหลังถ่ายภาพ

ก็ถึงเวลาที่คุณจะต้องแก้ไขภาพจากฝีมือการถ่ายรูปของคุณเองด้วยโปรแกรมการตกแต่งภาพยอดนิยมอย่าง Adobe Photoshop หรือไม่ก็ Adobe Elements ทั้งนี้ลองเพิ่มความเบลอให้กับฉากหลังและใช้เทคนิค Dodging และ Burning เพื่อสร้างเอฟเฟ็กท์ให้กับภาพ ไม่ก็อาจเพิ่มลวดลายกราฟฟิคเข้าไปในภาพ เช่นชื่อสัตว์เลี้ยงหรือใส่กรอบน่ารักๆ จากนั้นก็สั่งพิมพ์ออกมาในแบบของภาพโปสเตอร์เพื่อใช้ติดผนังบ้านก็เป็นอีกหนึ่งในวามภูมิใจโดยไม่ต้องง้อช่างภาพมืออาชีพแต่อย่างใด

บทความจาก Photo Video Imaging Magazine Vol 3 Issue 5

จากคุณ : PartyLM - [ 7 มิ.ย. 52 19:53:08 ]