ความคิดเห็นที่ 1 heartgard ธรรมดากับ plus จะต่างกันที่ plus สามารถถ่ายพยาธิได้ด้วยค่ะ ขออนุญาตนำข้อความของคุณ oj_long  มาให้อ่านค่ะ ''ฮาร์ทการ์ด เป็นยากินเพื่อป้องกัน หากหมามีพยาธิหัวใจอยู่แล้วห้ามกินครับ หมาต้องปลอดจากพยาธิหัวใจถึงจะให้กินเพื่อป้องกัน หากกินในขณะที่มีพยาธิหัวใจอยู่พยาธิตัวแก่จะตาย แล้วซากก็จะเคลื่อนที่ไปตามกระแสเลือด มีโอกาสที่ไปอุดตันเส้นเลือด ถึงตายได้ หากมีพยาธิหัวใจอยู่แล้วต้องมีวิธีการรักษาซึ่งหมอจะแนะนำได้ จากคุณ : oj_long    - [ 8 มิ.ย. 52 20:23:00 ] จากคุณ : ~ไม่ดื้อ - [ 10 มิ.ย. 52 15:54:45 ]

ความคิดเห็นที่ 2 เป็นพยาธิหัวใจอยุ่แล้วกินได้ค่ะ เนื่่องจากตัว Heart gard เป็นตัวป้องกันพยาธิตัวอ่อน หมายถึง ทำให้ไอ้เจ้าตัวอ่อน ไม่กลายเป็นตัวแก่ ทำให้ไม่เพิ่มจำนวนตัวแก่ในหัวใจ แต่ Heart gard ไม่ได้มีผลกับตัวแก่ที่มีอยู่ในหัวใจ การฉีดยาฆ่าพยาธิตัวแก่ในหัวใจโดยยาที่มีชือ่ว่า Immiticide ต่างหากที่มีผลต่อตัวแก่ในหัวใจค่ะ จากคุณ : หมอนก - [ 10 มิ.ย. 52 17:26:29 A:124.120.41.141 X: ]

ความคิดเห็นที่ 3 ผมเองก็ไม่ใช่หมอแต่ผมก็เห็นมีที่บ้านเรานี่แหละที่คลีนิคจะขายฮาร์ทการ์ดให้กับเจ้าของสัตว์เลี้ยงโดยไม่มีการตรวจเลือดก่อน แม้กระทั่งฟรอนท์ไลน์ที่บ้านเราก็ขายกันแบบอิสระ ไม่ต้องมีใบสั่งแพทย์ ไม่ได้คิดว่าต่างประเทศดีกว่าเราแต่ที่ผมเคยผ่านพบมาก็คือ หมอจะต้องตรวจเลือดก่อนถ้าปลอดพยาธิหัวใจจึงจะสั่งฮาร์ทการ์ดให้กิน ถ้าพบว่ามีพยาธิหัวใจก็จะต้องรักษาก่อน ส่วนฟรอนท์ไลน์นั้นต้องมีใบสั่งแพทย์ไม่งั้นก็ซื้อไม่ได้และไม่มีจำหน่ายตามร้านทั่วไปด้วย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอเอาข้อมูลเพิ่มเติมมาให้ เป็นข้อมูลจากเว็ปของบริษัทเมอร์เรียลซึ่งเป็นเจ้าของสินค้า "Dogs 6-months of age and older should be tested for, and be negative for heartworm disease, prior to starting a preventative program. Dogs should be retested 6 months later and then annually." (หมาอายุ  เดือนขึ้นไปควรได้รับการตรวจพยาธิหัวใจและต้องปลอดจากพยาธิหัวใจก่อนเริ่มโปรแกรมการป้องกัน ควรตรวจเลือดซ้ำเมื่อครบ 6 เดือน จากนั้นให้ตรวจทุกหนึ่งปี) ข้อความนี้คงจะชัดเจนนะครับว่าควรจะตรวจเลือดก่อน ตัวยาสำคัญในฮาร์ทการ์ดคือ ivermectin ส่วนฮาร์ทการ์ดพลัสมีการเพิ่ม Pyrantel Pamoate เพื่อให้มีผลในการควบคุมพยาธิตัวกลมและพยาธิปากขอ แก้ไขเมื่อ 10 มิ.ย. 52 19:45:39 จากคุณ : oj_long - [ 10 มิ.ย. 52 19:24:13 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ขอบคุณคุณหมอนนก คุณไม่ดื้อ และคุณoj_long มากค่ะ หมาเราตรวจเลือดแล้วเป็นพยาธิหนอนหัวใจ หมอที่ตรวจให้กิน heartguard อธิบายเหมือนหมอนกเลยค่ะ เราได้อ่านที่ oj_long จากครั้งที่แล้วนี่เอง จำไม่ได้ว่าอ่านของใครตอบ ก้เลยต้องตั้งทู้มาถามให้แน่ใจอีกทีค่ะ จากคุณ : i love you so much (I love you so much) - [ 11 มิ.ย. 52 09:13:30 ]

ความคิดเห็นที่ 5 การป้องกันจะได้ผลดีก็ต่อเมื่อได้กำจัดสิ่งที่มีอยู่แล้วออกไปก่อน ถ้าตรวจเลือดแล้วมีพยาธิหัวใจ ก็ต้องถามต่อว่าหมอได้ทำการรักษาหรือไม่ หากได้รักษาจนปลอดจากพยาธิหัวใจแล้วจึงค่อยมาเริ่มการป้องกัน แบบนี้จึงจะถูกต้อง หากพบว่ามีพยาธิหัวใจแต่ยังไม่ได้รักษาให้หายขาดแล้วหมอมาให้ยาป้องกันทำไม ถ้ายังไม่เป็นอะไร การป้องกันคือวิธีที่ดีที่สุด ถ้าเป็นแล้ว การรักษาต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด จากคุณ : oj_long - [ 11 มิ.ย. 52 09:45:43 ]

ความคิดเห็นที่ 6 หากสุนัขที่ตรวจแล้วพบว่ามีพยาธิหนอนหัวใจตัวแก่ แต่จากการตรวจสุขภาพโดยรวมและตรวจเลือดแล้วสุนัขไม่พร้อมจะรับยาฆ่าพยาธิหัวใจตัวแก่(Immiticide) เช่น มีอาการแทรกซ้อนแบบท้องมาน ไอแห้ง บวมน้ำทั่วร่างกาย ฯ ซึ่งหากรับยาฆ่าพยาธิหัวใจตัวแก่เข้าไปอาจถึงแก่ชีวิตได้(รวมทั้งค่าใช้จ่ายก็สูงด้วยค่ะ) หลังจากรับยากำจัดตัวแก่ยังต้องคอยเฝ้าดูแลสุนัขอย่างใกล้ชิด อาจต้องจำกัดบริเวณไม่ให้สุนัขออกกำลังมาก และให้ยาเพื่อละลายซากของตัวแก่ที่ตกค้างอยู่ในเส้นเลือด มิฉะนั้นอาจจะทำให้เศษซากไปอุดและสุนัขอาจตายภายหลังจากรับยาได้ค่ะ สัตวแพทย์ก็จะแนะนำเกี่ยวกับการให้ยาเพื่อฆ่าพยาธิหัวใจตัวอ่อน(เป็นเหมือนการตัดวงจรชีวิตพยาธิหัวใจ ก็จะไม่เป็นการเพิ่มจำนวนตัวแก่ในหัวใจสุนัขแบบที่คุณหมอนกบอกไว้ข้างต้น) และทำการรักษาอาการแทรกซ้อนเพื่อให้สุขภาพของสุนัขดีขึ้น และอาจมีการแนะนำเจ้าของเกี่ยวกับการให้ยาเพื่อฆ่าพยาธิหัวใจตัวแก่ในภายหลัง เพียงแต่วิธีนี้ใช้เวลานาน ประมาณ 2 ปีกว่าจะตัดวงจรชีวิตของพยาธิหัวใจตัวแก่ได้หมด เพิ่มเติมว่านี่ขนาดในไทยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากสัตวแพทย์ในการซื้อ Frontline, HeartGard ราคายังขนาดนี้เลย ขืนต้องใช้ใบสั่งยาสงสัยเจ้าของต้องกินแกลบ เหอๆ Frontline Plus ในไทยราคาประมาณ 550 - 1,000 /กล่อง(3 หลอด) USA ประมาณ $ 39.99 - 44.99 /กล่อง(3 หลอด) No Prescription. HeartGard Plus ในไทยราคาประมาณ 450 - 650 /กล่อง(6 ชิ้น) USA ประมาณ $ 20.94 - 34.74 /กล่อง(6 ชิ้น) Prescription Required! จริงๆ แล้วหากมีการให้ยาถ่ายพยาธิกับสุนัขเป็นประจำอยู่แล้ว ก็สามารถเปลี่ยนจากให้ HeartGard Plus มาเป็น HeartGard Tablets(แบบเม็ด) แทนก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ค่ะ จากคุณ : WolFie - [ 11 มิ.ย. 52 11:20:43 ]

ความคิดเห็นที่ 7 ดีครับ มีความคิดหลากหลาย ประโยชน์ก็จะเกิดกับผู้สนใจ จากมุมมองของผม 1. หากน้องหมามีพยาธิหัวใจ (ตัวแก่) อยู่แล้ว น้องหมาตัวนั้นก็ต้องถือว่าอยู่ในสภาวะที่อันตรายแล้ว ดังนั้นการรักษาจึงควรเป็นสิ่งที่ควรกระทำโดยเร็วที่สุด การให้กินยาเพื่อป้องกันจึงต้องเป็นอันดับรอง 2. หากน้องหมามีพยาธิหัวใจ (ตัวแก่) อยู่แต่อยู่ในสภาวะที่ไม่พร้อม "เช่น มีอาการแทรกซ้อนแบบท้องมาน ไอแห้ง บวมน้ำทั่วร่างกาย ฯลฯ" หมาตัวนั้นก็ยิ่งอยู่ในสภาวะอันตรายมากยิ่งขึ้น สภาพร่างกายย่ำแย่ การรักษาก็น่าจะเป็นการช่วยให้เค้าคืนสู่สภาวะที่พร้อมจะรับยาเพื่อฆ่าพยาธิหัวใจโดยเร็วที่สุด ยิ่งช้าไปเท่าไร น้องหมาก็ยิ่งใกล้จุดจบเท่านั้น ในสภาวะแบบนี้ผมเองคิดว่าจะให้หรือไม่ให้ยาป้องกันก็ไม่น่าจะแตกต่างกันมากนัก เรื่องใบสั่งแพทย์ ผมมีความเห็นว่า หากยานั้นเป็นยาอันตราย ยังไงๆ เราก็ควรต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ ไม่ใช่นึกอยากจะใช้ก็เดินไปหาซื้อเอา ประเด็นเรื่องที่ว่าราคาจะยิ่งแพงขึ้นถ้าต้องมีใบสั่งแพทย์ ผมก็อยากจะรู้นะครับว่าทำไม มันแพงขึ้นเพราะบริษัทจะขายแพงขึ้นหรือมันแพงขึ้นเพราะหมอจะคิดค่าเขียนใบสั่งยาด้วย ถ้าบริษัทจะขายแพงขึ้นก็แสดงว่าบริษัทกำลังเอาเปรียบผู้บริโภคเพราะการต้องใช้ใบสั่งแพทย์นั้นไม่ได้เป็นการเพิ่มต้นทุนของสินค้า ถ้าหมอจะคิดค่าเขียนใบสั่งยา ประเด็นนี้ผมก็คิดว่าไม่น่าจะใช่ สำหรับเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ให้ความสนใจต่อสุขสภาวะของสัตว์เลี้ยงของตัวเองน่าจะมีการพาไปหาหมอตามคลีนิคหรือโรงพยาบาลสัตว์อยู่แล้ว มีประวัติอยู่แล้ว ไปหาหมอทุกครั้งหมอก็คิดค่าใช้จ่ายอยู่แล้ว แล้วค่าเขียนใบสั่งยาที่จะเพิ่มขึ้นมันจะเกิดได้อย่างไร จากคุณ : oj_long - [ 11 มิ.ย. 52 12:56:09 ]

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณทุกความคิดเห็นมากค่ะ เนื่องจากหมาเราแก่แล้ว 10++ ปี และตรวจเลือดพบว่าเป็นพยาธิหนอนหัวใจ หมอบอกว่าการผ่าตัดและฉีดยากำจัดตัวแก่เสี่ยงมาก เราจึงไม่เลือกทางเสี่ยงนั้น คุณหมอจึงแนะนำว่าทางที่ดีที่สุดตอนนี้คือไม่ให้ตัวอ่อนเพิ่มจำนวนขึ้นอีก จึงให้กินยาป้องกัน ส่วนตัวแก่ที่มีอยู่แล้วก็รอให้ตายไปเอง ซึ่งก็นานหลายปี ซึ่งอาจจะนานกว่าชีวิตหมาเรา แต่ตอนนี้หมาเรายังร่าเริงดีอยู่ เรากลัวว่ายาที่กินจะทำให้ตัวแก่ตายแล้วไปอุดตัน จะเป็นอันตรายต่อหมาของเรา เราจึงตัดสินใจไม่ถูกว่าจะให้กินยาต่อไปไหม แต่จากหลายความคิดเห็นที่แนะนำมาเราคิดว่าคงจะให้กินต่อไปเพื่อไม่ให้ตัวอ่อนเพิ่มมากไปกว่าเดิม ขอบคุณมากๆค่ะ จากคุณ : จขกท (I love you so much) - [ 12 มิ.ย. 52 08:47:54 ]