ความคิดเห็นที่ 1 อยากเป็นเกษตร  แบบนี้ต้องมีใจรักก่อนนะครับ   ทำสวนทำไร่  ปลูกผักเลี้ยงปูปลา  เลี้ยงหมู วัว ม้า กระบือ  ฯลฯ เอาแบบวิชาการก็ ม. เกษตรโดยตรงเลยครับ   แบบทางรัดก็ออกมาทำเอง และศึกษาเองครับเหมือนหลายๆท่าน ที่ทำอยู่ตอนนี้ ข้อมูล ความรู้มีมากมายครับ ทั้งหนังสือ  วีดีโอ  สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ  การจัดอบรมดูงานก็มี หรือจะหาจากอินเตอร์เนต  ก็ง่ายๆ มากมาย   แต่จะให้ภูมิแน่นรู้จริง  จำได้ และทำออกมาแล้วสำเร็จ  ต้องลงมือทำเองครับ มีโรงเรียนชาวนา   และการไปใช้ชีวิตกับปราณช์ชาวบ้านครับ  ได้หลายอย่างที่โรงเรียนไม่มีสอน อย่างแรกคุณมีแล้ว  คือใจรักต้นไม้   เหลือก็แต่ลงมือทำตามความตั้งใจ  สู้  สู้ๆ....  ครับ จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 15 มิ.ย. 52 22:49:42 ]

ความคิดเห็นที่ 2 อืม...ผมว่า... อ่านหนังสือแ้ล้วลงมือทำครับ.... หลายคนที่เก่งๆก็ไม่ได้จบมาครับ ส่วนแบบผมจบมาแต่...ยังสู้เค้าไม่ได้เลยฮ่าๆๆ จากคุณ : seto16 - [ 15 มิ.ย. 52 22:51:33 ]

ความคิดเห็นที่ 3 อ่านเยอะๆ แล้ว ลองทำ จากเล็กไปใหญ่ จากคุณ : ก้นกบ - [ 15 มิ.ย. 52 23:14:06 ]

ความคิดเห็นที่ 4 มหาวิทยาลัยสอนทางด้านเกษตร  มีเยอะนะครบ  แต่แนะนำให้เลือกที่มีชื่อเสียงก่อนนะครับ   อย่าเอาแบบผมเลย  ไม่สนใจที่มีชื่อเสียง    อยากจะเรียนที่ไหนก็ไป 55555  ( ถูกใจธรรมชาติ เลยไปครับ  อิอิ ) จากคุณ : ญี่ปุ่น35 - [ 16 มิ.ย. 52 00:38:50 ]

ความคิดเห็นที่ 5 แต่มีความกล้า + ตั้งใจจริง แล้วลงมือทำ   ผลลัพธ์จะเป็นยังงัย เราต้องคอยดูอีกทีคับ.. สู้ๆ   เอาใจช่วย ให้ไปถึงฝันอย่างที่ตั้งใจนะคับ -------------------------------- จาก forward mail เอามาให้อ่านเล่นๆ คับ หนุ่มบ้านนอกยากจนคนหนึ่ง เสี่ยงโชคเข้ามาหางานทำในกรุงเทพ ทั้งที่มิได้มีความรู้อะไรเลย เนื่องจากได้ทราบข่าวที่เพื่อนเล่าให้ฟังว่า มีโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในกรุงเทพ กำลังรับสมัคร นักการภารโรง ไม่จำกัดวุฒิการศึกษา จึงจับรถมากรุงเทพ และเดินกางแผนที่ (ที่เพื่อนเขียนให้) สุ่มถามชาวบ้านถึงที่ตั้งของโรงเรียนนั้น ซึ่งกว่าจะเจอก็เหงื่อตกไปหลายปี๊บทีเดียวแหละ เมื่อเข้าไปแจ้งความจำนงที่แผนกธุรการ จึงมีเจ้าหน้าที่มาเรียกให้นั่ง< /SPAN> และยื่นใบสมัครมาให้กรอกข้อความ นายหนุ่มนั้นก็ยิ้มแหย ๆ ยกมือไหว้แล้วบอกอ่อย ๆ กับเจ้าหน้าที่ว่า “...ขอโทษครับพี่ ผม...คือว่า... ผม...อ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้ครับ...” เจ้าหน้าที่ ท ี่นั่งรับสมัครอยู่นั้น ชักสีหน้าทันที “...อะไรกัน คิดจะมาสมัครงานที่โรงเรียน ถึงจะตำแหน่งแค่ นักการภารโรง ถึงจะไม่ได้ใช้วุฒิการศึกษา แต่อย่างน้อยก็น่าจะอ่านออก เขียนได้ บ้างแหละ” หนุ่มบ้านนอกหน้าซีด ยกมือไหว้เจ้าหน้าที่ประหลก ๆ “...ผมไม่รู้หนังสือจริง ๆ ครับ แต่ช่วยรับผมไว้หน่อยเถิดครับพี่ ให้ผมแบกหามกวาดถูอะไรก็ได้ทุกอย่างครับ” “งั้นก็คงจะไม่ได้หรอก. ..” เจ้าหน้าที่เก็บใบสมัคร กับปากกาที่วางไว้ให้ คืนที่อย่างไม่มีเยื่อใย “...เรามาสมัครงานกับโรงเรียนนะ อย่างน้อยก็ต้องมีพื้นรู้หนังสือบ้างสิ ถ้าไม่รู้อะไรเลยอย่างนี้ ก็เสียใจด้วยนะ กลับไปเถอะ” หนุ่มบ้านนอกก็ได้แต่เดินออกจากโรงเรียน ที่ตั้งความหวังว่าจะได้งานทำนั้นอย่างเงื่องหงอย และเมื่อไม่รู้ว่าจะทำอะไรได้ในกรุงเทพ ก็จึงต้องจำใจ กำเงินจำนวนสุดท้าย จับรถ ซมซานกลับบ้าน อย่างนกปีกหัก แต่เมื่อกลับถึงบ้าน จึงนึกขึ้นได้ว่า ตนเองนั้นเพิ่งได้รับมรดก เป็นที่ดินสวนรกร้างเท่าแ มวดิ้นตาย มาจากพ่อผู้ล่วงลับไปแล้ว ด้วยความเจ็บใจ จึงเกิดเป็นแรงมานะ ให้จับจอบเสียม หักร้างถางพง ที่ดินสวนเก่าที่รกร้างนั้น และค่อย ๆ พลิกฟื้นลงร่องผลไม้ไปทีละเล็กละน้อย อย่างฮึดสู้ชะตาชีวิต ด้วยความอดทน. . . อาจเป็นบุญในปางบรรพ์ ของพ่อหนุ่มคนนี้ก็ได้ ที่ปรากฎว่า หลายปีต่อมา สวนผลไม้ที่ลงแรงไว้นั้น ออกผลอย่างงดงาม และสร้างผลกำไรมากทบทวีขึ้นทุกปี กระทั่งสามารถเก็บเงินซื้อที่ดินในแปลงข้างเคียง ขยายอาณาเขตสวนของตนเอง จนกว้างขึ้น และกว้างขึ้น. . . หลายสิบปีต่อมา จากความขยันขันแข็ง มานะอดทน และประสบการณ์ที่เพิ่มพูน บัดนี้ หนุ่มบ้านนอกคนนั้น ก็กลายเป็นชายชรา ที่คนทั้งเมืองรู้จักในนามของ พ่อเลี้ยงสวนผลไม้ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด และภูมิภาคนั้น อยู่มาปีหนึ่ง เมื่อเก็บเกี่ยวผลไม้มากมายมหาศาล และชำระบัญน้ำบัญชีเรียบร้อย โดยฝีมือของลูกหลานที่เลี้ยงดู ให้การศึกษา และแจกงานการให้ทำในสวนนั้นแล้ว พ่อเลี้ยงชราก็หอบเงินเป็นฟ่อน นั่งรถเข้ามาในตัวอำเภอ เพื่อขอเปิดบัญชีกับธนาคารเป็นครั้งแรก เมื่อแจ้งนาม และความจำนงกับธนาคารแล้ว พนักงานถึงกับตื่นเต้นกันยกใหญ่ ผู้จัดการสาขาถึงกับเดินมาต้อนรับด้วยตัวเองเลยทีเดียว เมื่อพนมมือไหว้ลูกค้าใหญ่ รายใหม่ อย่างนอบน้อมแล้ว ผู้จัดการก็แตะข้อต่อศอก ยื่นใบเปิดบัญชีพร้อมปากกาปลอกทอง ให้กับพ่อเลี้ยงชราอย่างพินอบพิเทา “ขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ ทางเรารู้สึกเป็นเกียรติเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสบริการพ่อเลี้ยงในครั้งนี้ รบกวนกรอกใบเปิดบัญชีด้วยครับ” พ่อเลี้ยงชราส่ายหน้าช้าๆ ยื่นปากกาปลอกทองคืนให้กับผู้จัดการ พร้อมกับยิ้มให้ พลางกล่าวเนิบๆ “พ่อหนุ่มช่วยกรอกรายการให้ลุงทีเถิด ลุงอ่านหนังสือไม่ออก เขียนหนังสือไม่ได้หรอก...” ผู้จัดการรับปากกาคืนมาโดยอัตโนมัติแบบงงสุดขีด พลางค่อยๆอ้อมแอ้มถามลูกค้ารายใหญ่ (มาก ) อย่างเกรงใจสุดๆ “... เอ่อ...ผมไม่เคยทราบมาก่อนเลยครับ... ...เอ่อ...ขออนุญาตเรียนถามพ่อเลี้ยงด้วยความเคารพนิดหนึ่งเถิด ครับ คือ...พวกเราในจังหวัดนี้ก็ทราบกันดีอยู่ ถึงชื่อเสียงของพ่อเลี้ยง ในกิจการสวนผลไม้ที่ใหญ่โตและเจริญก้าวหน้าที่สุดในภูมิภาคนี้ แต่...” ผู้จัดการ ชะงัก ด้วยความเกรงใจ และในที่สุดก็หลุดปากถามออกมา ด้วยความฉงนที่มิอาจเก็บไว้ได้จริงจริง “...แต่ พ่อเลี้ยงอ่านหนังสือไม่ออก และเขียนหนังสือไม่ได้ หรือครับ...” “...พ่อหนุ่ม” พ่อเลี้ยงชรายิ้มให้ผู้จัดการสาขาของธนาคารอย่างใจดี “...ถ้าลุงอ่านหนังสือออก และเขียนหนังสือได้น่ะนะ...” แกถอนหายใจยาว ก่อนจะพูดประโยคที่ทำให้ผู้จัดการถึงกับอึ้งไปนานเลยว่า “...ป่านนี้ ลุงก็คงได้เป็นภารโรงไปแล้วแหละ...” ======================================== คุณค่าของเราไม่ได้ขึ้นกับสิ่งที่คนอื่นมองเรา แต่ขึ้นอยู่กับตัวเรา โอกาสยังมีอยู่เสมอ ขอเพียงแต่มองไปรอบๆ ตั้งใจทำในสิ่งที่ทำได้ และทำให้เต็มความสามารถ แล้วดอกผลจะตามมาเอง จากคุณ : canx - [ 16 มิ.ย. 52 10:03:47 ]

ความคิดเห็นที่ 6 มสธ.เลยค่ะ   ส่งเสริมการเกษตรก็ได้  (น้องเราเรียนอยู่) แล้วเลือกวิชาเฉพาะทางพืชสวน พืชไร่  เรียนไปด้วย ทำงานสวน งานไร่เราไปด้วย สบายดีค่ะ จากคุณ : มาม่าน้ำข้น - [ 16 มิ.ย. 52 11:50:50 ]

ความคิดเห็นที่ 7 มันยากนะครับ  คุณต้องมีความอดทนสูงต้องตากเเดดตัวดำ การทำเกษตรเดี่ยวนี้ไม่เหมือนสมัยก่อน  ดินเดียวนี้เสื่อม ผมจบพืชไร่มา ยังยกธงไปทำอย่างอื่น  ทั่งตลาดพืชในประเทศไทย ยังตกต่ำ จากคุณ : กล้วยน้ำไท - [ 16 มิ.ย. 52 12:33:40 ]

ความคิดเห็นที่ 8 คห 5 ถูกใจจริง เรื่องการสมัครงานบ้านเราจะยึดติดแค่ว่า สิ่งที่คิดว่าคนๆนี้น่าจะทำได้ แต่ไม่ค่อยนึกถึง   สิ่งที่คนๆนี้ทำได้จริงคืออะไร (ทดสอบฝีมือแรงงาน)  มักดูแต่ลักษณะภายนอก ดีแล้วค่ะลุงที่ตอนนั้นอ่านเขียนไม่ได้ คุณจขกท มีโอกาสก็เีรียนตามที่ท่านอื่นแนะนำสถานที่มาค่ะ แต่หากมั่นใจว่ารักที่จะทำจริง ก็หาทฤษฏีจากสื่อต่างๆ ซึ่งสมัยนี้มีให้เลือกมากมาย แล้วลงมือปฏิบัติจริงควบคู่กันไปมากเท่าที่จะทำได้  เราเองก็จบประวัติศาสตร์สากล ซึ่งมันก็ไม่เกี่ยวกับเกษตรเอาซะเล้ย     แต่ก็ชอบเป็นเกษตรกรค่ะ         ขอให้สนุกกับการเรียนเกษตรนะคะ    จบมาจะได้คนกู้โลกมาอีกคน จากคุณ : ผักบุ้งริมคลอง - [ 16 มิ.ย. 52 12:42:39 ]

ความคิดเห็นที่ 9 เอาตัวเองเป็นบรรทัดฐานนะคะ แฟนมีที่ดินไม่เยอะค่ะ ประมาณ 20 ไร่  แต่ก็ทำงานอยู่ในเครือซิเมนต์ไทยนะคะ เงินเดือนแค่ 16000 บาทค่ะ (จริงๆมันได้เยอะกว่านี้ถ้าในอดีตเค้าไม่.......)    ทุกวันนี้รายได้จากบริษัทเป็นรายได้รองค่ะ เพราะรายได้ที่เยอะกว่าได้จาก การปลูกข้าว ปลูกข้าวโพด ปลูกผักบุ้ง ผักคะน้า กวางตุ้ง มะเขือ เยอะค่ะ แล้วเห็นแฟนบอกว่า การเกษตรสมัยนี้ เครื่องมือมันพัฒนาขึ้นค่ะ ไม่ลำบากเหมือนก่อน ทำไม่ต้องถึงกับขายเป็นกอบเป็นกำหรอกค่ะ เอาแค่เราสามารถเลี้ยงตัวเองได้ก้พอแล้ว  ส่วนเรียนเกษตร ตอนนี้เราก็เรียนเหมือนกัน ของ มสธ.จ้า สาขา บัญชีสหกรณ์ กะจะเอาไว้พัฒนาหมู่บ้านตัวเองค่ะ จากคุณ : กษมน - [ 16 มิ.ย. 52 16:45:41 ]

ความคิดเห็นที่ 10 ไม่ต้องไปเรียนให้เสียเวลาอีกครับ อ่าน ดู ฟัง แล่ะทำให้เย่อะๆๆ ผมไม่เห็นได้เรียนที่ไหนเลย...... จากคุณ : Handsome old - [ 16 มิ.ย. 52 17:33:40 ]

ความคิดเห็นที่ 11 ...ไม่ได้เรียนมาทางเกษตรโดยตรงค่ะ (เรียนบริหารการจัดการ) แต่ตอนนี้ฝึกหัดเป็นเกษตรกร(เลี้ยงกุ้ง)อยู่ค่ะ และก็พอมีที่เหลือว่าจะลองทำสวน ปลูกต้นไม้เหมือนกัน...ชอบ เราสามารถหาความรู้ได้จากการอ่านหนังสือ และที่สำคัญคือการลงมือ + ลองทำ และสังเกตุด้วยตนเองค่ะ (ทำให้จำได้ง่ายกว่าการอ่าน+เรียนอย่างเดียว) ถ้าคุณต้องการที่จะเรียนด้านนี้เพิ่มเติม เรียนมสธ. ก็ได้ ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย ก็สนุกดี แต่คุณต้องมั่นใจนะคะว่ามันจะไม่หนักเกินไปจนทำให้ไม่ประสบผลสำเร็จทั้งคู่ เอาลิงค์ มสธ.มาฝากค่ะ (กำลังรับสมัครพอดี) http://www.stou.ac.th/Courses/bachelor_51/agri.htm ปล. อยากเรียนเหมือนกันค่ะ แต่เป็นด้านทางทะเล แล้วก็สัตว์น้ำ  แต่ก็รู้ตัวดีว่าไม่มีเวลาพอ +ไม่มีให้เรียนด้วย ได้มาสองใบละ ตั้งหน้าตั้งตาเก็บประสบการณ์ดีกว่า จากคุณ : aNISS - [ 16 มิ.ย. 52 20:51:07 ]

ความคิดเห็นที่ 12 เกษตรกรหลายท่านไม่ได้จบเกษตรหากแต่อาศัยการเฝ้าสังเกตแล้วปรับปรุง หาความรู้ปรับแต่งไปเรื่อยจนความรู้พอกพูนท่านที่พัฒนาการดีหลายท่านก็ประสบความสำเร็จ เราเชื่อว่า การหาประสบการณ์นอกห้องเรียนดีกว่าไปเรียนใหม่เว้นแต่เป็นเรื่องของการจัดการเพื่อการค้าจริงๆ จากคุณ : สีมุก - [ 16 มิ.ย. 52 21:21:09 ]

ความคิดเห็นที่ 13 รายการ: แผ่นดินไท ตอน: ลุงนิล คนของความสุข ออกอากาศ: 4 มิถุนายน 2551 http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt080604hi.asp รายการ: แผ่นดินไท ตอน: ชะตากรรมเกษตร เชิงเดี่ยว ออกอากาศ: 21 พฤษภาคม 2551 http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt080521hi.asp รายการ: แผ่นดินไท ตอน: แผ่นดินวิกฤติ ออกอากาศ: 14 พฤษภาคม 255 http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt080514hi.asp รายการ: แผ่นดินไท ตอน: ชุมชนเป็นสุข วังตะกอ 1 ออกอากาศ: 27 สิงหาคม 2551 http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt080827hi.asp รายการ: แผ่นดินไท ตอน:ฟื้นความสุขด้วยฐานไท ออกอากาศ: 4 มีนาคม 2552 http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt090304hi.asp รายการ: แผ่นดินไท ตอน: เชื้อไฟแห่งความหวัง ออกอากาศ: 18 มีนาคม 2552   http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_pdt090318hi.asp รายการ:คนค้นฅน ตอน: ตาสงัด คนปลูกต้นไม้       แห่งพรหมพิราม ตอนที่1 ออกอากาศ: 6 กันยายน 2548 http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_kkk071026hi.asp รายการ:คนค้นฅน ตอน: อรหันต์ชาวนา ตอนที่1 ออกอากาศ: 18, 25กรกฎาคม, 1 สิงหาคม 2549 http://www.tvburabha.com/tvb/playoldprogram/programold_kkk071004hi.asp แก้ไขเมื่อ 16 มิ.ย. 52 22:34:50 จากคุณ : talontour - [ 16 มิ.ย. 52 22:27:52 ]

ความคิดเห็นที่ 14 มาให้กำลังใจเจ้าของกระทู้ค่ะ เราเองก็มีความฝันเหมือนกับคุณ แต่ตอนนี้ยังไม่พร้อมในหลายๆด้าน ก็ได้แต่หาความรู้จากทุกทางเท่าที่จะหาได้+ชื่นชมผลงานของเพื่อนๆไปพลางๆก่อนน่ะค่ะ ^^ เอาใจช่วยนะคะ จากคุณ : XODA - [ 17 มิ.ย. 52 12:04:19 ]

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณทุกคำแนะนำครับ แล้วผมจะปฏิบัติตามที่ทุกท่านแนะนำไว้ครับ จากคุณ : อิงน้ำ - [ 18 มิ.ย. 52 21:20:49 ]