PANTIP.COM : J8021253 ++++ (กระทู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องหมาจอมเกา) ...ลาบราดอร์ของฉัน สักวันต้องหายคันให้จงได้ +++++ [สุนัข]

++++ (กระทู้สร้างแรงบันดาลใจให้กับน้องหมาจอมเกา) ...ลาบราดอร์ของฉัน สักวันต้องหายคันให้จงได้ +++++

อิฉันสิงสถิตอยู่ใน pantip มาก็นาน แต่ครั้งนี้น่าจะเป็นครั้งแรกที่ Post เรื่องน้องหมาอย่างเป็นเรื่องเป็นราวในจตุจักรแห่งนี้ เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากคุณหมอชูศักดิ์แห่ง Udclick ( link นี้เลยค่ะ http://www.udclick.com/home1/index.php?option=com_content&task=view&id=57073&Itemid=134021) ว่าหากน้องหมามีปัญหา การมา share กันใน board ก็เป็นเรื่องดี เพื่อนๆจะได้รับความรู้แบ่งปันกันไป ขณะที่อิฉันเองก็จะได้ข้อแนะนำดีๆกลับมาเช่นกัน

เรื่องของเรื่องคือ "ตินติน" ลาบราดอร์ตัวเขื่องที่ adopt มาจากบ้านแม่สามี ตั้งแต่เดือนกุมภาที่ผ่านมา มีอาการคันคะเยอแบบเป็นๆหายๆค่ะ เท้าความย้อนกลับไปคือ ตินตินเป็นหมาของสามีอิฉันเอง แต่พอได้เค้ามา เราสองคนต้องมาอยู่คอนโด ไม่สะดวกเลี้ยงหมา ตินตินจึงอาศัยอยู่กับแม่และน้องๆ ที่ต่างจังหวัดมาตลอดจนเค้าโตเป็นหนุ่มใหญ่อย่างงี้ วิธีการเลี้ยงของแม่ก็มาณว่า เลี้ยงปล่อยตามสไตล์หมาอินดี้ คือเค้าไม่ชอบอยู่บ้าน (เพราะบ้านไม่มีรั้ว) มักออกไปวิ่งเล่นตามที่ต่างๆ และก็แน่นอนว่า มักจะเนื้อตัวไม่สะอาด และกินของที่ผู้คนที่เดินผ่านไปมายื่นให้ด้วยความเอ็นดู เช่น ไก่ทอด ลูกชิ้น ฯลฯ และแม่ก็เลี้ยงด้วยนมโรงเรียน บางวันก็เป็นข้าวตาแห้งหุงใส่กับข้าว และกินอาหารเม็ดยี่ห้อที่มีขายโด่งดังทั่วไปในตลาด (และแน่นอนว่า ต้องเป็นรสไก่เท่านั้น รสเนื้อไม่กิน)

ตินตินไม่เคยเป็นขี้เรื้อนเลย และสุขภาพแข็งแรงและดวงแข็งมาก เคยโดนเพื่อนบ้านวางยาเบื่อแต่ก็ช่วยเอาไว้ได้จนรอดตายหวุดหวิด เคยโดนลักพาตัวหายไปจากบ้านมาแล้วหลายเดือน (ไม่ได้โม้ค่ะ โดนลักพาตัวเอาไปเลี้ยงไว้เป็นหมาของตัวเองเฉยเลย) แต่โรคที่ตินเป็นแล้วไม่หาย และทำให้เค้าทรมานมาก คือโรคคันคะเยอค่ะ ก่อนหน้านี้เมื่อช่วงปลายปี 08 ตินมีอาการคันมากๆ อิฉันไปเจอเค้าคันและไม่สบายจนตาแฉะ ก็เอาขึ้นรถพาไปหาหมอในตัวเมือง (ยังอยู่ต่างจังหวัดนะคะ) หมอวิเคราะห์ผิวหนังดูแล้วก็ให้ยามากิน พอป้อนยาไปได้ซัก 2-3 อาทิตย์ก็ดีขึ้น แม่รายงานว่าเลิกคันแล้ว ก็เลยหยุดยา ไปๆอีกซักพัก ก็กลับมาคันอีก ก็ต้องไปเอายาเพิ่มอีก จนบางครั้งก็ต้องฉีดยาแก้คันกันเลย ปัญหาของตอนนั้นคือ ทางบ้านแม่ไม่สะดวกพาเค้าไปหาหมอ เพราะไม่มีรถ และตัวเค้าใหญ่น่ะค่ะ ตินตินก็เลยทนคันมาซักระยะหนึ่งอิฉันเห็นว่าไม่ไหวแน่ๆแล้ว จึงพาเค้ามารักษาตัวในกรุงเทพ ให้อยู่โรงพยาบาลสัตว์ที่ใกล้คอนโด เพื่อที่ว่าอิฉันจะได้ไปหาเค้าได้ง่ายๆ

ช่วงนั้น บ้านอิฉันใกล้เสร็จแล้ว วางแผนว่าจะพาเค้ามาอยู่ด้วย ตินตินอยู่โรงพยาบาล 1 เดือนกว่า หมอก็ให้ test อาหาร test แชมพู ตอนนั้นอิฉันหมดไป 2 หมื่นกว่าบาท ก็สรุปกันว่า ที่คันมากคงเพราะแพ้อาหาร ก็ให้อาหารเม็ดราคาแพงสำหรับผิวหนังแพ้ง่ายแทน แชมพูก็เปลี่ยนเป็นอย่างดี ทุกอย่างดีหมด

พอบ้านเสร็จ ตินก็ออกจากโรงพยาบาลมาอยู่บ้าน อิฉันก็เลี้ยงอาหารเม็ดเค้ามื้อเดียวคือตอนเช้า ต่อมาช่วงเดือนที่แล้วไปอ่านเจอบทความคุณหมอเข้า ก็ให้ข้าวกล้องเพิ่มเข้าไปด้วย ลดจำนวนอาหารเม็ดลง เพราะรู้สึกว่ากลิ่นอึ๊เค้ารุนแรง พอให้ข้าวกล้องไป เค้าก็ขับถ่ายดีขึ้น และกลิ่นก็ไม่ทรมานจมูกอิฉันมากเกินไป ทีนี้มาช่วงนึง อิฉันเปลี่ยนแชมพู มาใช้แชมพูยายี่ห้อนึงที่มีขายในเว็บ แรกๆก็ดีนะคะ แต่พอซักพัก เค้าเริ่มคันมากขึ้น คันจนต้องหันกลับไปกัดผิวตัวเอง จนแดง บางทีก็เป็นแผลไปเลย ลืมบอกไปว่า นอกจากอาหารเม็ดและข้าวแล้ว บางครั้งยังให้ snack หมาด้วยค่ะ และเพื่อนฝูงที่มาบ้านเคยยื่นหมูปิ้งให้กินมั่งอะไรมั่ง (ข้อนี้ คุณหมอบอกว่าผิดมหันต์)

ตอนนี้อิฉันกลับมาใช้แชมพูไฮโซเหมือนเดิม (ขวดที่เคยประกาศถามหาจากในนี้แหละค่ะ) Lotion รึก็ทา เพราะไม่อยากเสี่ยงให้ตินเป็นคะเยอศักดิ์อีก แต่ก็ไม่ได้ทำให้อาการคันน้อยลง อิฉันพาเค้าไปฉีดยาแก้คันมาอีก 2 ครั้ง แต่หลังจากยาหมดฤทธิ์ เค้าก็คันอีก ล่าสุด อิฉันลองให้ยาแก้แพ้ของคนนี่แหละค่ะ (หมอที่โรงพยาบาลบอกว่าให้กินได้) พอได้ยา เค้าก็ดีขึ้นนะคะ แต่ถ้าหยุดยา ก็เหมือนเดิมเลยค่ะ ล่าสุดอิฉันเอาเค้าไปตัดขนให้เกรียนๆ เพื่อลดความร้อน และเพื่อจะดูว่าเค้ามีแผลตรงไหนบ้าง ทุกวันนี้ หากเค้าเกา อิฉันจะเอาแป้งโยคีโรยให้บางๆค่ะ ตรงนี้ไม่รู้ว่าถูกหรือเปล่านะคะ ลืมถามคุณหมอ แต่โรยแป้งแล้วเค้าสบายตัวขึ้น นอนหลับปุ๋ยเลย

รูปแรกนี้ถ่ายเมื่อตอนไปกร้อนขนใหม่ๆค่ะ แต่ที่เห็นเนียนๆนี่ โฟโต้ช้อปช่วยสร้างภาพค่ะ อีกเดี๋ยวจะให้ดูตอนที่ยังไม่ได้โบ๊ะนะคะ

จากคุณ : นิ่นของจี๊ด - [ 27 มิ.ย. 52 23:13:56 ]