ความคิดเห็นที่ 1 ปลูกยูคาแถวแปดริ้ว ก็เป็นแหล่งที่ปลูกกันมากอยู่แล้ว ไม่ว่า สวนกิตติ ปลูกกันเป็นแสนไร่  ใกล้โรงงาน double AA  ก็คงหาตลาดไม่ยากครับ  ราคารับซื้อ ณ ราคาหน้าไร่ ประมาณ ตันละ1500-2000 แล้วแต่ระยะทาง  ความสมบูรณ์ของต้นไม้  เศษๆไม้ขายเป็นฟืนได้ ตันละ 550 บาท  การปลูกไม่ยากครับ แต่ต้องยกร่องเพื่อให้มีน้ำเลี้ยงป้องกันหญ้า  ปลูกขนาด 1X 2 ม.แล้วตัดสาง หรือ อาจ 2X2 ก็ได้แล้วที่ดินมีน้ำพอไหม  ไม่ควรปลูกที่ดินน้ำท่วมขัง  ตอนปลูกไม่ยากแต่ตอนถางเอาตอหลังจากตัดไม้แล้ว จะเสียค่าใช้จ่ายมาก  แมคโครชม ละ 2000 บาทแล้ว  เพราะน้ำมันแพงขึ้นเยอะ ปลูกแล้วปล่อยให้เทวดาเลี้ยงได้  โรคและแมลงไม่มีมาก  ต้องระวังแค่ไฟป่า  ระวังชาวบ้านแถวนั้น  แกล้งทิ้งบุหรี่ลงข้างทางก็เรียบร้อย  อาจไม่เหลือเลยครับ  และตอนโต ระวัง พวกจะเอารถมาตัดเป็นไร่ๆ เฉยเลย ถ้าเจ้าของไม่ดูแลหรือไม่มีคนสวนเฝ้า  สรุป ถ้าเป็นผม มีเงินเย็นๆ ไม่แนะนำให้ปลูกครับ  ถ้าจะปลูกขายเอาเยื้อกระดาษ ปลูกต้นกระถินเทพาดีกว่า  ทำให้ดินดีกว่าเยอะ โตเร็วด้วย  ที่ดินกันดาร ดินเปรี้ยวก็ปลูกได้ ส่วนไม้สัก  ผมว่า ปล่อยทิ้งไว้ให้โตอีก 10-20 ปีก็ดีครับ ราคา ลบ.เมตรละ ประมาณ 15000-20000 บาท  ตอนต้นไม้อายุ 20 ปี อาจได้ต้นละ 0.5-0.75 ลบ.เมตร แล้วแต่สภาพการดูแล ปริมาณน้ำฝน และความสมบูรณ์ของที่ดิน  การดูแล ใส่ปุ๋ย ปีละ 1-2 ครั้งก่อนฝนมาและหลังฝน  เคยเห็น cutout ขนาดยักษ์แถวงามวงศ์วาน ติดถนนวิภาวดี ประกาศขายสวนป่าสักแถว น่าน ราคาไร่ละ 100000 ไม่แน่ใจนะ ลองขับรถไปดูเอง  ก็ลองประมาณดูกับที่ดินของคุณก็ได้ว่าถ้าขายที่ดินพร้อมต้นสักราคานี้จะคุ้มไหมครับ สรุปว่า ถ้าเป็นผมจะเอาที่ดินไว้แล้วปล่อยต่อไป  อย่างน้อยก็ช่วยเรื่อง Global warming ได้ครับ จากคุณ : พฤกษ์ไพศาล - [ 28 มิ.ย. 52 02:26:48 ]

ความคิดเห็นที่ 2 - ยูคา ผมไม่แนะนำนะครับ - ต้นสัก  น่าปลูกครับ  นับวันต้นใหญ่ๆ หายมากเต็มทีครับ  เห็นลักลอบตัดเป็นว่าเล่น  แต่ต้นอื่นๆ  ก็น่าปลูกร่วมด้วยนะครับ  เช่น ยางนา  พะยุง  มะค่า โมง ไม้แดง  อื่นๆ ที่น่าปลูกนะครับ  แต่ดูชนิดที่เหมาะสมกับพื้นให้มากที่สุด จะดีกว่าครับ ....ปลูกป่าให้ได้ไม้ขาย  แนะนำว่า  50 ปี จะดีกว่าครับ ทำตอนนี้เพื่อให้ลูกๆ ในอนาคตดีกว่า  เผื่อลูกๆ อาจมีใจรักป่าไม่กล้าตัด  ถึงตอนนั้นโครงการขายคาร์บอนเครดิต  อาจจะทำให้มีรายได้โดยไม่ต้องตัดไม้ก็เป็นได้นะครับ                    ว่าแต่อยากจะให้ช่วยกันกระทุ้งให้ภาครัฐ  ส่งเสริมเร็วๆ จัง  ชาวสวนที่ปลูกผลไม้จะได้มีส่วนร่วมในการลดต้นทุนได้อีกทางนะครับ ติดต่อกล้าไม้ได้ตามนี้นะครับ (หน่วยงานในสังกัดส่วนเพาะชำกล้าไม้ สำนักส่งเสริมการปลูกป่าที่ตั้งอยู่ในส่วนภูมิภาค http://www.forest.go.th/nursery/index_station.htm ) จากคุณ : ญี่ปุ่น35 - [ 28 มิ.ย. 52 03:09:20 ]

ความคิดเห็นที่ 3 ที่แปลงแรก  ให้เช่าครับ อาจจะแบ่งออกเป็นแปลงย่อยๆ  2-10 แปลงย่อย แล้วลงประกาศ ให้เช่าทางเว็บเกษตรหรือเว็บทั่วไป และถ้าจะทำเองปลูกเองก็แบ่งมาทำแค่ 5-10 ไร่  ลองเชิงดูว่าว่าจะไหวหรือ เปล่า ชอบไม่ชอบ  ทำได้หรือไม่ได้จะได้รู้กัน  และก็ให้คนที่เช่าช่วยดูช่วยแลให้เราด้วย   ส่วนแปลงที่จะได้มาเห็นว่ามีสักทอง  เต็มพื้นที่ 50 ไร่  ปลูกมาแล้ว 10 ปี  เป็นผมจะตัดขายไปก่อน ซัก 10-20 ไร่  แล้วเหลือไว้ จะขายเมื่อไรค่อยว่ากันที่หลัง ที่ตัดไม้ขายไปจะเป็นพื้นที่ว่าง ส่วนนี้ก็ให้เค้าเช่า  อาศัยว่าจะได้ให้เค้าช่วยดูแลป่าสักที่เหลือด้วย เป็นคนในพื้นที่และไว้ใจได้พอสมควรก็ดี  จะได้ช่วย เป้นหูเป้นตาให้เรา  ปีหนึ่งอาจจะขึ้นไปดูซัก 2-3 ครั้งตามสะดวก ที่ดินเก็บไว้มีแต่จะขึ้นราคา  ต้นไม้เก็บไว้มีแต่ราคาจะขึ้น  ดีกว่าเก้บเงินฝากแบงค์ซะอีก อนาคตเผื่อว่าอาจจะ อยากมาอยู่กับธรรมชาติ   อย่างน้อยก็ไม่ต้องวิ่งหาดูที่ให้ลำบาก   อนาคตไม่แน่นะ  คุณอาจจะชอบชีวิตแบบ..........นั้นก็เป้นไปได้ จากคุณ : คนดง คนเดิม - [ 28 มิ.ย. 52 09:03:25 ]

ความคิดเห็นที่ 4 ผมเห็นด้วยกับพี่คนดง นะ ผมคิดก่อนเห็นกระทู้ตอบนะครับ ...ขอนั่งยันเห็นด้วยครับผ้ม จากคุณ : นายเดินดิน - [ 28 มิ.ย. 52 12:31:57 ]

ความคิดเห็นที่ 5 ยูคาเวลาจะเลิกต้องจ้างแมคโครมารื้อครับ  กำจัดยากจริงๆ ต้นสักที่เชียงใหม่เก็บไว้ดีกว่าครับ ผ่านไปสัก 20 ปี ที่ดินและไม้ มูลค่าจะเพิ่มอีกมาก ว่าแต่ต้องไปดูบ่อยๆนะครับที่เชียงใหม่ ที่ดินแพงครับ เดี๋ยวมีแขกไม่ได้รับเชิญมาใช้ที่ดินคุณ จากคุณ : แจ้ห่ม47 (แจ้ห่ม47) - [ 28 มิ.ย. 52 20:54:20 ]

ความคิดเห็นที่ 6 ขอความรู้เพิ่มครับ จากคุณ : นายแมมมอส - [ 29 มิ.ย. 52 15:25:57 ]