PANTIP.COM : J8054474 ไม่ทราบว่าที่ห้องนี้มีคนเลี้ยง ไส้เดือนหรือเป่าค่ะ ขอความคิดเห็นหน่อยค่ะ [มุมเกษตรกร]

ความคิดเห็นที่ 7

ผมเป็นคนหนึ่งที่เลี้ยงไส้เดือน มา 1 ปี แล้ว เป็นคำถามยอดฮิตที่คนที่โดดลงมาเลี้ยงไส้เดือนถามว่า ตลาดไส้เดือนอยู่ไหน!!!! แต่ไม่เคยมีคนไหนคิดมุมกลับว่า เราเลี้ยงไส้เดือน แล้วเราได้อะไรจากไส้เดือนมั่ง แล้วเราจะนำสิ่งที่เราได้มานำไปใช้ประโยชน์ สิ่งที่เราได้จากไส้เดือน

1.ตัวไส้เดือน
2.มูลไส้เดือน
3.น้ำจุลินทรีย์จากไส้เดือน

ของที่เราได้จากการเลี้ยงไส้เดือน เราจะไปแปรรูปเป็นอะไรบาง ไม่เห็นจะมีคนมานั่งคิดเลย !!!! มีแต่คนขาย ตัวไส้เดือนกัน แล้วก็บอกว่า ตลาดไส้เดือนไม่มี ขายไส้เดือนไม่ได้มั่ง มีของดีอยู่กับตัวแท้ ไม่นำออกมาใช้ น่าสงสาร!!! (คนเลี้ยงไม่ได้ลองใช้ คนใช้ไม่ได้ทำ) ซึ่งก็จะเป็นคำถามที่ฮิตตลอดไป

ในความคิดผมที่ผมเลี้ยงไส้เดือนมา
- ตัวไส้เดือนผม ถึงมันจะขายไม่ได้ ผมเอาลงบ่อปลาผมหมด ให้ พ่อแม่ปลาผมกิน ทำให้ ปลาผม ไข่เยอะขึ้น ปลาสมบูรณ์มากขึ้น แล้วก็เอาลูกปลาไปขาย (ได้เงินแล้ว)
- มูลไส้เดือน เอาไปใส่ ต้นไม้ที่บ้าน ต้นชาดัด ขายต้นชาดัด กำลังจะเพาะต้นไม้เล่นๆๆขายเลยดีกว่า (ได้เงินแล้ว)
- จุลินทรีย์ไส้เดือน ผมเอามาลองกับพืชไร่แล้ว ทำให้สภาพดินที่ดีขึ้นดินที่แข็งๆๆ กลับมา ร่วนซุยดีกว่าเดิมเยอะ (ผมทดลอง จุลลินทรีย์ไส้เดือนมา จะ 1 ปีแล้ว)
- ขยะที่บ้านผมไม่เหลือ ขยะในตลาดนัดผมก็เอาเข้าบ้าน เอามาเปลี่ยนเป็นเงินหมด (เลี้ยงไส้เดือนแล้วจะเข้าใจว่า เงินมันตกไปทั่วไปหมดครับ อยู่ที่ว่าเราจะเห็นค่าหรือเปล่า !!!! )
- (ความคิดผม)เราจะทำอย่างไร ให้ เกษตรกร น่าจะเลี้ยงไส้เดือน แล้วเอาของเหลือใช้มาใช้ประโยชน์ให้หมด ทำปุ๋ยให้หมด แล้วก็ นำปุ๋ยที่ทำใช้เอง นำมาลงแปลงผักให้หมด ขยะก็จะหมดบ้านแล้ววว เลี้ยงไส้เดือนมันดีจริงๆๆ แต่จะทำไง ให้คนเข้าใจว่า ไส้เดือนมันมีประโยชน์เยอะ ถ้าเรามีปริมาณไส้เดือนเยอะพอ ขยะ 1 ตัน ไส้เดือนกำจัดมันได้เร็วกว่า ปุ๋ยหมักชนิดอื่นๆๆๆ

ถึงญี่ปุ่น35

ข้อที่ 1 ราคาที่สมเหตุ สมผลที่สุดในการขายนะครับ ราคาปลีก ตัวละ 1 บาทก็ถือว่าแพงมากแล้วและได้กำไรมากด้วย ส่วนจำนวน กก. ลองไปนำนวนเอาดูนะครับ คาดว่าไม่น่าเกิน 500 บาทเสียด้วยซ้ำไป
ตอบ จริงๆๆก็เป็นอย่างที่คุณว่า กิโลไม่ควรเกิน 500 บาท (สำหรับผมกิโลละ 500 พอแล้วแต่ถ้าต้องคัดขนาดก็ต้องตัวละ 1 บาท ละครับ กว่าจะเลี้ยง 8 นิ้ว 3 เดือนอัพ)
ข้อที่ 2 ส่วนราคามูลของไส้เดือนที่ขายๆ กันอยู่ ควรจะอยู่ที่ 5 บาทต่อ กก. แค่นี้ก็กำไรมากแล้วนะครับ 1 ตัน จะกี่บาทเชียว ผมถือว่าแพงมากๆ นะครับ
ตอบ แต่ คุณญี่ปุ่น35 ก็คงรู้ว่า มูลไส้เดือนเป็นปุ๋ยที่ดีกว่าปุ๋ยหมักธรรมดามาก (คงจะไม่ได้ดีอะไรมากมาย แค่มี จุลินทรีย์ 20กว่าชนิดเอง!!!) ถ้าทำใช้เอง มันก็ไม่ได้ลงทุนเยอะอะไร แต่คนที่เขาจะขายเขาก็หวังขายแพงอยู่แล้วครับ ขายปลีก ในกทม. 40 - 50 ต่อ 1 กิโล (ความคิดผม กิโลละ10 -15 บาท ก็อยู่สบายแล้ว เด็กบ้านนอกอย่างผม) ปุ๋ยหมักธรรมดาขายกันก็กิโลละ 8 -10 บาทแล้วครับ มูลไส้เดือนทำยากกว่าเยอะ ราคาก็เลยแพงกว่า ผมก็ขายมูลไส้เดือนให้คนรักต้นไม้ ผมเอาไปให้เขาลองเลย เขาก็บอกว่า มีก็เอามาขายอีกน่ะ - -*(เหนื่อยผมอีก!!) ( ผมจับตลาดตามบ้านเองวิ่งหาตามหมู่บ้านเอง ให้ลองตามบ้านเลย มูลไส้เดือน 1 กิโล จุลินทรีย์ 1 ลิตร ยอมวิ่ง ส่งเอง 1 เดือนฟรี ซื้อไม่ซื้อค่อยว่ากัน อยากให้เขาเห็นประโยชน์ของมูลไส้เดือน )

ถึง ต้อม เจอาร์
ผมก็เคยคิดแบบคุณ ว่าจะเลี้ยงกบในขวด แต่พอดีเวลาผมหมดแล้ว เลยไม่ได้ทำ แต่ผมไม่ได้ใช้อาหารปลาดุกเลี้ยงกบขวด น่ะ แต่ผมจะเอาไส้เดือนผมมาเลี้ยงกบขวดแทน ไส้เดือนมีโปรตีน 62% ไม่เสียเงินค่าอาหารกบขวดอีก ลงทุนแค่ ขวด พันธุืกบ จริงๆๆผมจะเลี้ยงปลาไหลในยางในรถแต่ผมมาคำนวณไส้เดือนผมไม่พอมันกินเลยต้องเพราะไส้เดือนให้เยอะก่อนแล้วค่อยมาลองเลี้ยงปลาไหล อิอิ ....... ผมชอบของงแปลกๆๆๆ

ไส้เดือนมันมีประโยชน์จริงๆๆๆน่ะครับ เป็น อาชีพที่ลงทุนต่ำมาก เอาของเหลือใช้ตามบ้าน ตามหมู่บ้าน มาเปลี่ยนแปลงเป็นเงินได้หมด แต่เราจะประยุกต์ ไส้เดือนให้มันเข้ากับตัวเราได้อย่างไรเท่านั้นครับ ถ้าคนที่ทำเกษตร นำไปเลี้ยงแล้วนำไปใช้จะดีมาก ยิ่งเกษตรอินทรีย์แล้ว จะเห็นผลมากเอามาผสมประสานกับ จุลลินทรีย์อื่นๆๆ จะเห็นหมดดีมาก แต่เราจะทำให้เขาเข้าใจอย่างที่เราเข้าใจได้ไง (ปัญหาใหญ่) (ผมลองแค่ สวนต้นไม้ของผม ผมไม่มีปัญหาทำสวนใหญ่ๆๆ แต่ผมก็ได้ปลูกผักสวนครัวเล็กๆๆน้อยๆๆกินเอง ไม่ต้องเสียเงิน มีสวนผักเล็กๆๆในบ้าน )

ข้อคิดที่ผมยึดถือตลอด 1 ปีที่เลี้ยงไส้เดือนมา

"....เดินทีละก้าว....กินข้าวทีละคำ....ทำทีละอย่าง....."

แต่อย่างไรผมก็เลี้ยงไส้เดือนต่อไป เพราะไส้เดือนมันเปลี่ยนแปลงชีวิตผมมาเยอะตลอด 1 ปี ได้ข้อคิดและให้กับตัวเองมากครับ !!!!!!

จากคุณ : คนเมืองหมูนครปฐม (fish boy) - [ วันอาสาฬหบูชา 19:43:29 ]

ความคิดเห็นที่ 19

คำพูดที่ว่า " คนเก่งมักไม่แสดงตัว "
ผมก็ไม่ได้เก่ง แต่ในเมื่อการเลี้ยงไส้เดือนมันไม่ได้มีอะไรเลย ผมก็แค่แบ่งปันความรู้ ประสบการณ์จริงที่ผมพบเจอมาให้กับคนที่อยากจะโดดลงมาเลี้ยงไส้เดือนให้เข้าใจความจริงเท่านั้น เพื่อจะได้ไม่คิดอยากเลี้ยง หรือ ถ้าเลี้ยงแล้วเราจะนำไส้เดือนไปใช้ประโยชน์อะไรได้บาง คนที่อยากจะเลี้ยงจะได้รู้ความจริง

นู่มาแก้ข้อความหน่อยน่ะครับ

จุลลินทรีย์ในมูลไส้เดือนมีมากกว่า 200 ชนิด ไม่ใช่ 20 ชนิดน่ะครับ นู่พิมพ์ผิดครับ กราบขอโทษครับบบ!!!!!!

คุณ PUFF
"ราคาขี้ไส้เดือน คิดราคาขั้นต่ำที่ธาตุอาหารอย่างเดียว NPK 1.5-1.5-1.5 ก็ตก 5 บาทแล้วครับ (ตอนนี้ปุ๋ยแพง) ถ้ามีการจัดการที่ดี ประกันธาตุอาหาร ความชื้น ผมว่าเรียกราคาได้สบายๆครับ"

ตอบ จริงครับ ค่าของ NPKของมูลไส้เดือนต่ำ แต่สิ่งที่เราได้มา คือ ปริมาณจุลลินทรีย์ที่เราได้มา 200 กว่าชนิด (ในความคิดผม การเลี้ยงไส้เดือนเราแค่ต้องการจุลินทรีย์จากในท้องไส้เดือน ซึ่งมีประโยชน์ต่อพืชมาก เท่านั้นล่ะครับ ผมสรุปให้ตัวผมเองเข้าใจ) ที่ช่วยให้ต้นพืชเจริญเติบโตได้ดี จริงๆๆถ้าเราอยากให้ มูลไส้เดือนเราแร่ธาตุอะไรเยอะเราก็หาสิ่งที่อยากได้เยอะมาให้กินซึ่งทำได้ แต่ในการปฏิบัติงานจริง เราคงไม่มีเวลาไปหามาให้ไส้เดือนกิน เพราะ ทำให้ต้นทุนเราสูงขึ้นและเสียเวลามาก (ถ้าจะไปให้ผมไปช้อนแหนแดง(มีไนโตรเจนสูง)มาให้ไส้เดือนกิน ถ้าแหล่งแหนแดงมันไกลจากบ้านผม ผมก็คงไม่ทำเพราะเอาเวลาที่ไปช้อนแหนแดง ไปเลี้ยงปลาดีกว่า แคะไข่ปลาดีกว่าเยอะ ผมเลี้ยงไส้เดือนแบบง่ายไ ม่ต้องลงทุนมาก ไม่ต้องเสียเวลามาก ไม่ต้องยึดติดกับหลักวิธีการมาก ประยุกต์ของที่อยู่ใกล้ตัวเราทุกอย่างมาใช้เลี้ยงไส้เดือนให้หมด ลงทุนในสิ่งที่ช่วยให้เราผ่อนแรงในการเลี้ยงไส้เดือนให้เร็วขึ้น คิดนอกกรอบให้หมด ) ค่ามาตรฐานของ ปุ๋ยอินทรีย์ เอาแบบง่าย ให้ค่า NPK รวมกันให้ได้ 2 เท่านั้นเองครับ ซึ่งต้องยอมรับว่ามูลไส้เดือนไม่มีทางที่จะสู้ปุ๋ยเคมีได้อยู่แล้ว แต่เราแค่ลดการใช้ปุ๋ยเคมีลงไปไปเยอะ เอาของเสียใช้ที่อยู่รอบตัวเรา ในบ้านเรา ในสวนเรามาทำ ปุ๋ยหมัก แล้วเอาไส้เดือนย่อย ปุ๋ยหมัก อีก 1 รอบ เราก็จะได้ ปุ๋ยหมักที่มีคุณภาพดีกว่าธรรมดาอีกเยอะ และกลุ่มที่ผมไปร่วมกันทำอยู่ ได้ผ่านการตรวจ ค่ามาตรฐานปุ๋ยอินทรีย์ แล้ว สามารถขอขึ้นจดทะเบียนได้เลยครับ

ส่วนเรื่องมด เดี๋ยวผม เอาภาพมาให้ดูว่า ขนาดให้ความชื้นเยอะมดก็ยังลงไปทำร้าย บ่อ ไส้เดือนได้เลย !!!!!! เรื่องมดสำหรับผมต้องดูแล บ่อเลี้ยงไส้เดือนถ้ามดลงไปในบ่อให้ เอาน้ำไล่ ถ้าไม่ยอมออกจากบ่อเลี้ยง ใช้ยากำจัดมดแบบผงเลย มดจะลากยาลงไปที่รังอื่น มันจะตายยกรังเลย

ผมไม่อยากจะเรียก มูลไส้เดือนแล้ว(ความคิดผม) ผมอยากจะเรียก "ดินมีชีวิต" เพราะ มันมีประโยชน์ต่อ พืชมาก
ข้อดี
1. เป็น วัสดุเพาะที่ดี
2. เป็น วัสดุซับน้ำให้กับดิน ทำให้ไม่ต้องรดน้ำบ่อย
3. เป็น การจำกัดของเหลือใช้ในบ้านให้เป็นปุ๋ยให้หมด
4. ไม่ต้องลงทุนเยอะ ง่ายๆๆๆ สบายๆๆๆๆ เรื่อยๆๆๆ ปล่อยไปตามธรรมชาติ
5. อีกเยอะ ..............
ข้อเสีย
1. เวลาทำปุ๋ยนาน (ทำมูลไส้เดือนคุณภาพสูง) (ถ้าจะทำให้เป็นมูลไส้เดือน 90 -100%)
2. มูลค่ามูลไส้เดือนแพง แต่ประโยชน์ที่เราได้ คุ้มค่า (แต่มูลค้างคาวเขายังซื้อมาใส่ต้นไม้กันเลย มูลไส้เดือนกิโลละ 15 - 20 บาท (ราคาส่ง)เอง)
3. ต้องอาศัย วิธีปฏิบัติงานมากกว่าวิธีการ เพราะต้องเอาประยุกต์มาใช้ในแต่ละพื้นที่เอง
4. อีกเยอะ...........................................................

" ความสำเร็จ - ความล้มเหลว-คิดนอกกรอบ - เทคนิคเฉพาะ.......ของใครก็ได้ "

ผมเอามาจาก สวนเกษตรอินทรีย์แหล่ง 1 ครับ ชอบมากครับ

จากคุณ : คนเมืองหมูนครปฐม (fish boy) - [ วันเข้าพรรษา 07:52:25 ]