ความคิดเห็นที่ 1   คนเก่า ท่านให้ใช้น้ำตาลปีบ ปละพริกไทยกวนเข้าด้วยกัน เล้ววางไว้ในที่ๆ มันชวนลง แต่เคยเห็นเนกันที่เค้าใช้เเผ่นซีดี เเขวน เพระเเสงมันจะเเวบเข้าตามันเลเข้าตาเราด้วย ดีไหม๊นี่ ผมว่าควรเเก้ที่ต้นเหตุจะดีกว่าน่ะครับ 1.  ทำความสะอาดให้สะอาด ไม่มีของกินวาง ตั้งไว้ 2.  กำจัดกลิ่นให้หมด หากมีกลิ่นหืนๆ บนโต๊ะอาหาร ให้ใผ้ชุบน้ำทำความสะอาด หากไม่หมดกลิ่น ให้ใช้น้ำหมักอีเอ็ม( นำหมักชีวภาพ) ผสมน้ำฉีดเป็นฝอยๆ พ่นให้ทั่วโตก ทิ้งไว้ให้จนหมาด หรือพักนึงเเล้วเช็ดให้เเห้ง กลิ่นจะเบาลงครับ หรือพ่นทั่วๆบริเวรก็ได้ครับ ไมไดอันตรายครับ 3.  กำจัดขยะออกจากบ้านเลย งดพวกเปลือกทุเรียน มะม่วงเพระมันชอบมาก อย่าตบเลยครับ เพราะไม่รู้ว่าไอ้ที่มันไปกินก่อนหน้านี้มีอะไรบ้าง อย่างเพือ่นผมตอนเรียน ป.ตรี  มันตบเเมลงวันหัวเขียวตัวเปล่งเลย  โพละ !! แมลงวันก็ ร่วง เเต่มี น้ำเหลืองๆๆ ตินที่มือมันเเทน กลิ่นบ่งบอกเลยว่า วัตถุนั้นคิอสิ่งใด  ถูกต้องเเล้วครับ  " ขี้ " นั่นเอง ทำให้สะอาด ไม่มีของกิน  เป็นผมๆ ก็ไม่ไปบ้านคุรหรอกครับ อิอิอ จากคุณ : hoshi_pupu :: ข้าหลังวัง (hoshi_pupu :: ข้าหลังวัง) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 14:46:06

ความคิดเห็นที่ 2   เรื่องความสะอาดโดยทั่วไปก็คิดว่าทำได้ดีในระดับหนึ่ง เพราะเศษอาหารก็เทลงถังหมักอีเอ็มหมด อาหารเหลือก็ใส่ตู้เย็นไว้ จะมีก็บริเวณเตาแกสที่เวลาทำอาหารแล้วพวกน้ำมันกระเด็นไปโดนผนังบ้าง นาน ๆ ก็ทำความสะอาดที เรื่องกลิ่นเดี๋ยวจะลองใช้น้ำหมักฉีดพ่นทำความสะอาดดูอีกที คิดว่าน่าจะมี เพราะตอนทำอาหารกลิ่นก็คลุ้งไปทั่วครัว พวกภาชนะ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ น่าจะมีกลิ่นอาหารติดอยู่ ส่วนบริเวณอื่นที่ไม่ใช่ห้องครัว พวกแมลงวันจะไปเกาะนิ่ง ๆ บนเพดาน บางตัวเกาะจนตายคาเพดานก็มี กำลังสงสัยว่าเกี่ยวกับอุณหภูมิบ้านด้วยหรือเปล่า เพราะข้างนอกอากาศหนาว แต่ในบ้านอบอุ่น แมลงวันมันเห็นบ้านเป็นที่หลบหนาวหรือเปล่า ไม่แน่ใจประเด็นนี้ จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 15:07:48

ความคิดเห็นที่ 3   หากาวเหนียว  พันไม้แล้วรอให้มันบินมาเกาะเยอะๆก็เอาไปทิ้ง   ใช้น้ำ อีเอ็ม(ของแท้นะครับ)  ผสมน้ำ  1: 1000  ใส่ฟ๊อกซี่ ฉีดตามที่มันอยู่ ฉีดบ่อยๆ  เด๋วก็หายไปเอง จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 17:44:09

ความคิดเห็นที่ 4   เคยดูรายการทีวี รายการนึง จำชื่อรายการไม่ได้ แต่เค้าให้เอาน้ำยาล้างจาน ผสมน้ำ ใส่ฟ๊อกซี่ฉีดได้ทั้งยุงและแมลงวัน เด๋วมันจะตายไปเองค่ะ เพราะน้ำยาล้างจานมีความเหนียวในตัว ทำให้กางปีกไม่ได้ เท่ากับว่ามันจะหายใจไม่ออก และตายไปในที่สุด ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลงดีค่ะ ลองดูนะ แต่ส่วนตัวที่บ้านเคยมี ก้อใช้กาวเขียว ๆ ปั่น ๆ ไว้กะแท่งไม้ เด๋วมันก้อบินมาตอม ๆ เองอ่ะค่ะ จากคุณ : Piz เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 17:58:05

ความคิดเห็นที่ 5   อ้อ อย่าลืมลองหาต้นตอของมันดูนะค่ะ ว่าอยู่ที่ไหน ที่บ้านจะชุกมาก ถ้าหากมีถุงขยะอะไรก้อแล้วแต่ ที่ทำให้มันกลายเป็นหนอนได้ คนเยอะ เรื่องแยะ อ่ะค่ะ จากคุณ : Piz เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 17:59:49

ความคิดเห็นที่ 6   คคห. 4 เข้าใจผิดแล้วครับ ในน้ำยาล้างจาน สบู่หรือผงซักฟอก มันจะมีสารลดแรงตึงผิว ที่ทำให้คราบมันหรือสิ่งสกปรกไม่เกาะอยู่บนเนื้อวัสดุ ซึ่งก็มีการเอาตุณสมบัตินี้มาใช้ คือ แมลงจะหายใจผ่านทางผิวหนัง โดยออกซิเจนจะซึมเข้าทางผิวหนังโดยตรง สารลดแรงตึงผิวจะทำให้น้ำไม่เกาะเป็นหยด ผลก็คือน้ำก็จะไปเคลือบตัวแมลง และปิดรูพวกนี้ ทำให้มันจมน้ำตาย (หายใจไม่ออก) ครับ จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 18:57:36

ความคิดเห็นที่ 7   ^ ^ ^ เห็นว่าใช้กับพวกหนอนต่างๆ  ใช่มั้ยครับ  ทำให้หายใจไม่ได้ตายเลย จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : วันเข้าพรรษา 21:40:43

ความคิดเห็นที่ 8   แหมได้ของเล่นใหม่เพี๊ยบเลย วันนี้ลองน้ำยาล้างจานผสมน้ำ ไล่ฉีดแมลงวันดูแล้ว ยังไม่เห็นผลชัดเจน เท่าที่สังเกตุ โดนสะเก็ดนิดหน่อยยังบินได้สบาย ๆ ต้องฉีดให้ชุ่มโชก ถึงจะตกลงพื้น แต่มันก็ยังไม่ตายทันที ตอนนี้เห็นมันคลานที่พื้นอยู่ ว่าจะลองปล่อยให้มันคลานเล่นสักพัก แล้วค่อยเก็บซาก ไม่รู้มันจะฟื้นหรือจะตายกันแน่ต้องจับตาดูต่อไป ส่วนกาวเหนียวแบบสีเขียว ๆ พันไม้แถวนี้ไม่มีขาย มีแต่เป็นกระดาษกาวสั่งซื้อไปแล้วยังไม่ได้ของ ตอนนี้ก็เล่นสงกรานต์กับแมลงวันไปพลาง ๆ ก่อน ว่าแต่นอกจากพวกผงซักฟอก น้ำยาล้างจานแล้วมีสารตัวอื่นที่ใช้แทนกันได้ไหมคะ แบบว่าฉีดพ่นไม่สะใจเท่าไร เพราะมันต้องฉีดไปเช็ดไปไม่งั้นคราบน้ำยาล้างจานเกาะเต็มบ้าน ลื่นด้วย เกรงว่าฉีดพ่นสะใจแล้วเช็ดถูออกไม่หมด เดี๋ยวตกค้างเป็นอันตรายกับเพลี้ยน้อยอีก อย่างไรก็ตามขอบคุณทุกท่านมากนะคะ จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 07:44:50

ความคิดเห็นที่ 9   เป็นเราจะเอากาวทารองเท้า ผสมกับน้ำเชื่อม แล้วเอาไม้ไปจุ่ม เสร็จแล้วก็เอาไปวางล่อแมลงวัน เห็นตามร้านขายอาหาร เขาจะจุดธูปไล่แมลง แต่ถ้าเยอะมาก แล้วเป็นบ้านคน ลองไปซื้อพวกกำยาน หรือพวกน้ำมันหอมละเหย จำพวกกลิ่นตะไคร่หอม มาจุดดูสิคะ นอกจากไล่แมงวัน ยังไล่ยุงลายได้ด้วยคะ จากคุณ : วิหคลม เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 08:24:38

ความคิดเห็นที่ 10   ขอบคุณค่ะ คุณ Waterman อิอิ ก้อจำได้คร่าว ๆ เองอ่ะค่ะ ปล...ที่บ้านเรียกนังปลาทอง จำอะไรม่ะค่อยจะได้ เด๋วจะรีบไปหาแปะก๊วยมาเสริม จากคุณ : Piz เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 08:59:27

ความคิดเห็นที่ 11   ที่ว่าเยอะนี่ เยอะขนาดไหนครับ แค่เป็นสิบๆ ตัวให้พอรำคาญ หรือว่าเป็นร้อยตัว พันตัว ถ้าปริมาณเป็นสิบตัวคงใช้วิธีธรรมชาติ แบบที่หลายๆ คนบอก อีกวิธีที่น่าสนใจคือหาเชือกหรือด้ายห้อยเป็นสายๆ ไว้ ทาน้ำมันเหนียว เพราะว่าโดยธรรมชาติกลางคืนแมลงวันจะเกาะสายเหล่านี้เพื่อพักผ่อนเช่นกัน ถ้าเป็นสารเหนียวๆ เคลือบไว้ ก็จะเกาะติดง่ายดาย เสร็จแล้วเราก็ปลดเชือกไปทิ้ง หรือจะใช้ถุงครอบก็ได้ แล้วก็กำจัดซะ แต่กรณที่เป็นร้อยตัว พันตัว ปริมาณมากขนาดนี้ ใช้วิธีธรรมชาติอาจจะไม่ได้ผล ต้องใช้สารเคมีเข้าช่วย มีสารที่ใช้จัดการกับแมลงวันหลายตัว แต่ที่ได้ผลดีที่สุดน่าจะเป็นคิตา เป็นผงละลายน้ำ ครึ่งช้อนชาต่อหนึ่ง foggy สารตัวนี้ไม่ตกค้าง ไม่เป็นพิษหรืออันตรายต่อคนและอาหาร พอเราผสมน้ำ ไม่จำเป็นต้องฉีดพ่นทั้งห้อง แต่ใช้ฉีดพ่นเฉพาะจุด เช่นฉีดลงไปที่พื้นบริเวณมุมห้อง หรือฉีดบนถุงพลาสติคหรือแผ่นกระดานแล้ววางไว้ สารละลายตัวนี้จะส่งกลิ่นเรียกแมลงวันให้มาตอมที่จุดเดียว คุณสมบัติสำคัญคือเมื่อแมลงวันแตะหรือเกาะถูกสารนี้ จะทำให้แมลงวันปีกหนัก ไม่สามารถขยับปีกได้ จะตกอยู่ที่พื้นจนสลบและตายในที่สุด แล้วเราก็เก็บซากไปทิ้ง โดยทั่วไปจะฉีดพ่นเฉพาะจุด เพื่อให้แมลงวันตอมเพียงที่เดียว เก็บทำความสะอาดซากได้ง่าย สารเคมีตัวนี้ ไม่เป็นอันตรายต่อคน ไม่มีสารตกค้าง และมีฤทธ์กำจัดแมลงวันได้ 4 – 5 วัน รวมทั้งป้องกันการรบกวนต่อเนื่อง ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นและไม่ทิ้งคราบไว้ที่พื้น เป็นสารที่ใช้กำจัดแมลงวันในฟาร์มต่างๆ โดยเฉพาะครับ อีกวิธีการหนี่งเป็นกับดักแมลงวัน เป็นผลงานของสถาบันเทคโนหรือของม.เกษตรซักอย่างนี่แหละ ประยุกต์มาจากไซดักปลา คือเมื่อแมลงวันบินเข้าไปแล้วจะไม่สามารถบินออกมาได้ และก็ตายอยู่ในนั้น รูปแบบก็คล้ายๆ กับกล่องยาวๆ กรุด้วยมุ้งลวดโปร่ง และมีทางเข้าทางเดียวเพื่อล่อให้แมลงบินเข้าไปตอมซากหรือของคาวในนั้น แต่ไม่สามารถกลับออกมาได้ ทางด้านล่างทำเป็นกระสวยสำหรับเก็บซากเพื่อปลดล็อคและนำไปทิ้ง  เท่าที่เห็นต้นแบบน่าสนใจดีเหมือนกัน แต่คงต้องพัฒนาให้มีขนาดกะทัดรัดเพิ่มขึ้นอีกนิด ลองหาข้อมูลจากกรมวิชาการเกษตรฯ อาจจะพอมีครับ จากคุณ : สอบวา เขียนเมื่อ : 9 ก.ค. 52 21:19:55

ความคิดเห็นที่ 12   ขอบคุณคุณ สอบวามาก ๆ ค่ะ ตอนนี้เท่าที่ดูในบ้านน่าจะอยู่ในปริมาณหลายสิบตัวแต่ไม่น่าจะเกินร้อย จากสถิติไล่ตีมันแบบขี้เกียจได้คราวละไม่ต่ำกว่าสิบตัว ส่วนนอกบ้านคงมีหลายร้อย และพอเริ่มเข้าฤดูใบไม้ร่วง อีกสองเดือนข้างหน้ามันจะเพิ่มเป็นพันแน่ ๆ เป็นแบบนี้ทุกปี ไม่รู้ว่ามาจากฟาร์มวัวใกล้บ้านหรือเปล่า มีอยู่ปีหนึ่งมันมาเกาะเพดานแบบยั๊วะเยี๊ยะมาก เห็นแล้วทนไม่ได้ เลยใช้ยาฆ่าแมลงฉีดพ่นไป มันก็หนีไปสักพักก็กลับมาเกาะที่เดิมอีก ตั้งแต่นั้นก็ไม่ใช้อีกเพราะดูแล้วไม่ได้ผล และปีถัดมามันก็กลับมาที่เดิม จากการทดลองใช้น้ำยาล้างจานผสมน้ำไล่ฉีด ปรากฏว่ามันไม่ตายแค่ลงมาคลาน สักพักพอตัวแห้ง มันก็กลับไปกระดี๊กระด๊าได้เหมือนเดิม ไม่มีซากให้เห็นสักตัว หรือมันไปแอบซุ่มตายที่อื่นก็ไม่ทราบได้ เมื่อเย็นก็เลยทำกับดักอีกแบบตามที่อากู๋แนะนำ เป็นรุ่นใช้ขวดสามใบ แล้วก็ใช้เนื้อชิ้นเดิมเป็นเหยื่อล่อ เริ่มมีกลิ่นเน่าละ คราวนี้ได้รับความนิยมจากแมลงวันมากขึ้น แต่ยังไม่เห็นผลชัดเจน แมลงวันที่นี่ขี้เกียจมาก ไม่ค่อยจะเคลื่อนไหว มันชอบเกาะนิ่งๆ  เดินผ่านมันยังไม่ขยับเลย ต้องเอาไม้ไล่ตีถึงจะบินหนี เดี๋ยวต้องลองหา คิตา มาใช้สักหน่อย ขอบคุณมากเลยค่ะ แก้ไขเมื่อ 10 ก.ค. 52 01:57:29 จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 01:30:37

ความคิดเห็นที่ 13   ภาพประกอบ ที่ดักจับแมลงวัน ทำเองเมื่อเย็นนี้ เพิ่งจับได้สามตัว ส่วนข้าง ๆ เป็นกระดาษกาวดักแมลงวัน เพิ่งได้มาเมื่อเย็นเช่นกัน  ตอนแรกเอาแขวนไว้ที่ผนังไม่ได้สักตัวเดียว พอเอามาวางใกล้ๆ กับที่ดักแมลงวัน ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง จับได้เยอะเลยค่ะ จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 02:17:28

ความคิดเห็นที่ 14   อีกมุม จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 02:57:03

ความคิดเห็นที่ 15   ^ ^ ทางเข้าอยู่ตรงไหนครับ  ผมหาไม่เจอว่าจะเข้าไปชิม เนื้อเน่าซะหน่อย  คริคริ..^^ จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 12:24:30

ความคิดเห็นที่ 16   ทางเข้าอยู่ด้านล่างสุดค่ะ ทำเป็นรูสามเหลียมเล็ก  ๆ  แค่รูเดียว ตอนนี้กลิ่นเนื้อคลุ้งมาก ๆ แมลงวันที่อยู่ในขวดก็พยายามไต่ตามกลิ่นออกมา วันนี้เลยต่อความคิดเพิ่ม ขวดที่มีน้ำต่อยอดเพิ่มอีกหนึ่งชั้น ทำเป็นค่ายกลงวยงง  เข้าแล้วหาทางออกไม่เจอ ดูเหมือนจะได้ผล ว่าจะวางเนื้อชิ้นนี้ให้มันเน่าสุด ๆ ไปเลย อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อ ตัวที่อยู่ข้างนอกจะเข้ามาติดกับหรือตัวที่อยู่ข้างในจะหาทางหลบหนีได้ จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 15:53:21

ความคิดเห็นที่ 17   ภาพทางเข้า จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 16:21:42

ความคิดเห็นที่ 18   ภาพนี้สร้างเพิ่มอีกชั้น ไอเดียมาจากอากู๋อีกเช่นเคย เพียงแต่เอา 2 แบบมารวมกันเป็นอันเดียว ได้หน้าตาออกมาแบบนี้ ถ้าไม่เวิร์คว่าจะเติมน้ำด้านบนด้วย แต่ต้องอุดรอยต่อไม่ให้น้ำรั่ว ตอนนี้ขี้เกียจ ใช้แบบนี้ไปก่อน ไม่ได้ผลที่พอใจค่อยหาวิธีจัดการต่อ จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 16:23:15

ความคิดเห็นที่ 19   แบบขวดมันต้องใช้ 2 ขวด ไม่ใช่เหรอครับ ขวด 1 ทำแบบของ จขกท แต่ยกสูงหน่อยให้แมลงวันเข้าไปตอมง่ายๆ เปิดฝาขวดไว้ ขวด 2 ขนาดเท่าๆขวดแรก นำมาตัดครึ่ง ปิดฝาขวดไว้ ครอบบนขวดแรกอีกที พอแมลงวันมาตอม ก็ปัดไล่มัน โดยธรรมชาติมันจะปิดขึ้น ผ่านฝาขวด 1 ไปติดอยู่ในขวด 2 แต่จะบินกลับลงมาไม่ได้ ผิดพลาดประการได้ ต้องขออภัยไว้ล่วงหน้า เนื่องจากเคยทดลองทำใช้เอง แต่ใช้แป๊บเดียวเพราะแมลงวันน้อย หลังจาก 2-3 วัน ก็ไม่มีแมลงวันแล้วมาให้ลองแล้วครับ จากคุณ : ฉงฉัย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 16:36:23

ความคิดเห็นที่ 20   คุณ ฉงฉัย แบบที่ว่านั้นทำไปแล้วค่ะ ครั้งแรกเลย แต่ไม่ได้ผล เลยเปลี่ยนแบบค่ะ อาจเพราะตอนนั้นกลิ่นเนื้อไม่แรงพอก็ได้ เห็นมีคนประยุกต์ทำเพิ่มเป็นสามชั้นด้วย เลยเอามาลองรวมกันได้อย่างที่เห็น ขวดก็หายาก เพาะไม่ค่อยดื่มน้ำอัดลม กว่าจะหามาใช้งานได้ เดินวนแล้ววนอีก จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 16:49:21

ความคิดเห็นที่ 21   อ้อ อีกอย่างนั่งสังเกตุมาสักพักละ แมลงวันที่นี่มันไม่ได้บินขึ้นตรง ๆ นะคะ วันบินวน ๆ กว่าจะขึ้นไปข้างบนได้นานเลย แล้วที่บอกว่ามันออกมาไม่ได้นี่ ไม่รู้ว่ามันฉลาดหรือได้กลิ่นเนื้อกระตุ้นความฉลาดก็ไม่ทราบได้ มันสามารถไต่หลบหนีออกมาข้างนอกได้ค่ะ ตอนแรกจับได้เยอะกว่านี้ มันหลบหนีออกมาได้หลายตัวแต่เอากับดักกาววางไว้ใกล้ ๆ ตัวที่หลบหนีออกจากขวดมาได้ กำลังมึนหรือไงไม่ทราบ มักจะมาลงจอดที่กับดักกาวเป็นส่วนใหญ่ ส่วนไอ้ตัวที่อยู่ในขวดก็แข็งแรงเหลือเดินไต่ไปไต่มาไม่ยอมลงน้ำสักที ไปช่วยเคาะขวดก็แล้ว บางทีตกลงไปแล้วยังมีแรงบินขึ้นมาได้อีก สงสัยต้องใส่น้ำยาล้างจากซะแล้ว ฮ่าๆ หมู่นี้หมกมุ่นอยู่กับแมลงวันน่าดูเลยเรา จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : 10 ก.ค. 52 16:58:30

ความคิดเห็นที่ 22   อืมม มีเยอะอย่างนี้ทุกปี ทำไมไม่ลองหาต้นตอหล่ะค่ะ ที่บ้านต่างจังหวัดเคยประสบปัญหานี้เหมือนกัน หาไปหามา มาจากคอมหมูแถวบ้าน แจ้งไปยังสาธารณสุขจังหวัด ไม่นานเค้าก้อมาจัดการให้ค่ะ เห็นว่าต้องใส่ยา...?? โรยไปที่มูลสัตว์ พอแมลงวันมากินแล้วก้อจะตายไป แล้วเค้าก้อจะให้สถานประกอบการนั้น ๆ ดูแลตัวเองให้ดีขึ้น คือไม่ให้มารบกวนชาวบ้านอีก ไม่อย่างนั้นจะสั่งปิดค่ะ เพราะจริง ๆ แล้วแมลงวันนี่มันตัวนำเชื้อโรคเลยนะ แต่ไม่รุ้ว่าต่างปท.เค้าต้องแจ้งใครอ่ะค่ะ จากคุณ : Piz เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 20:45:48

ความคิดเห็นที่ 23   **แก้คำผิด** คอมหมู => คอกหมู จากคุณ : Piz เขียนเมื่อ : 12 ก.ค. 52 20:46:36