ความคิดเห็นที่ 4 |
มีคนวิจัยพันธุ์ชะอมแล้วครับ ตั้งแต่ปี 2528 ปรากฏว่า ชะอม ขยายพันธุ์ด้วยแบบไม่ใช้เพศมานาน กว่าร้อยปีแล้ว เพราะ ชะอมเด็ดขาย ไม่ค่อยออกดอกเท่าไหร่นัก จึงอนุมานได้ว่า ตอนนี้ มี ชะอม 3 สายพันธุ์ คือ 1 ชะอมป่า 2 ชะอมเด็ดยอด และ ชะอมกลายพันธุ์ไม่มีหนาม
. ชื่อ ชะอม
2. ชื่ออื่น ผักหละ ผักขา อม ฝ่าเซ้งดู่ พูซูเด๊าะ (กระเหรี่ยง แม่ฮ่องสอน) ผักขละ หนามขี้แรด โพซุยโดะ (กะเหรี่ยง กำแพงเพชร) ผักขะ ผักละ ผักล่า ผักหา ผักย่า ผักหมี ผักหล๊ะ(ไทยยอง)
3. ชื่อวิทยาศาสตร์ Acacia pennata Wild. ssp. insuavis Nielsen
4. วงศ์ LEGUMINOSAE
5. ชื่อสามัญ .
6. แหล่งที่พบ พบทั่วไปของทุกภาค
7. ประเภทไม้ ไม้พุ่ม
8. ลักษณะทางพฤกษศาสตร์
ต้น เป็นไม้พุ่มขนาดย่อมกิ่งเลื้อย ลำต้นและกิ่งก้านมีหนามแหลมอยู่ทั่วไป ลำต้นเลื้อย
ใบ เป็นใบประกอบมีก้านใบแยกออกเป็นใบอยู่ 2 ทาง มีลักษณะคล้ายใบส้มป่อยหรือใบกระถิน ใบอ่อนมีกลิ่นฉุน ใบเรียงสลับ ใบย่อยอยู่ตรงข้ามกันมี 13-18 คู่
ดอก เป็นช่อออกดอกที่ซอกใบสีขาวนวลหรือขาว ดอกขนาดเล็กเห็นได้ชัดเจนเฉพาะเกสรตัวผู้เป็นเส้นฝอย
ผล เป็นฝักแบนยาว 12-18 ซม. กว้างประมาณ 2 ซม. มีเมล็ด 15-30 เมล็ด สีเขียวเมื่อแก่จัดเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล
9. ส่วนที่ใช้บริโภค ยอดอ่อน ใบอ่อน
10. การขยายพันธุ์ ตอน ปักชำ เพาะเมล็ด
11. สภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ขึ้นได้ในสภาพทั่วๆ ไปทนแล้งได้ดี
12. ฤดูกาลที่ใช้ประโยชน์ ตลอดทั้งปี ออกมากในฤดูฝน
13. คุณค่าทางอาหาร คุณค่าทางอาหารในส่วนที่รับประทานได้ 100 กรัม ประกอบด้วย
ยอดชะอม Cal 57 Moist 79.7 ure9.5 Protein 0.5 Fat 3.5 CHO 5.7 Fibre 1 Ash 58 Ca 80 P 4.1 Fe 10066 A.I.U 0.35 B1 0.24 B2 8.5 Niacin 58
14. การปรุงอาหาร ใบอ่อน ยอดอ่อน ลวกหรือนึ่งให้สุกเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก นำไปชุบกับไข่ทอด รับประทานร่วมกับน้ำพริกกะปิ ชาวเหนือรับประทานร่วมกับตำมะม่วง ตำส้มโอ แกงแค ชาวอีสานนำไปแกงอ่อม แกงลาว
15. ลักษณะพิเศษ ยอดอ่อน ใบอ่อน มีรสจืดกลิ่นฉุน ช่วยลดความร้อนของร่างกาย
16. ข้อควรระวัง หญิงลูกอ่อนไม่ควรกิน ทำให้น้ำนมแห้ง
จากคุณ |
:
greeny pony
|
เขียนเมื่อ |
:
17 ก.ค. 52 11:44:27
|
|
|
|