Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
พาร์โว ไข้หัด ความแตกต่างบนความเหมือน  

ขออนุญาตคุณ Peacxxx เอาข้อมูลมาเป็นกรณีศึกษาให้เพื่อนๆนะครับ

จากกระทู้ของคุณ Peacxxx ถึงลูกชิวาวาที่ได้มาแล้วตอนแรกสงสัยว่าเป็นลำไส้อักเสบพาโวร์ไวรัส จนสุดท้ายก็พบว่าเป็นไข้หัด หรือที่มีชื่อว่า Canine distemper นั้น ผมอยากให้เพื่อนๆอ่านข้อสังเกต หรือใช้เคสนี้เป็นกรณีศึกษา เพื่อป้องกันลูกสุนัขของคุณก่อนที่จะสายเกินไป

ก่อนอื่นผมต้องบอกว่าผมได้คุยกับหมอชูศักดิ์แล้ว อย่างแรกที่ต้องบอกคือ หมอเป็นคนที่จิตใจดีครับ และองค์ความรู้ที่ท่านบอกนั้นยังมีหลายจุดทีเดียวที่ต้องนำมาแก้ไข และปรับปรุง ท่านได้บอกว่าอะไรที่ท่านคิดผิดไป ก็ให้ผมแก้ด้วย

มาเข้าเรื่องแรกก่อน กรณีไข้หัด แต่ทำไงถึงคิดว่าเป็นลำไส้อักเสบล่ะ...$%^&* ......จุดที่น่าสนใจและต้องระวังคือ การตรวจด้วย Test Kits

Kits ที่ตรวจมีหลายแบบหลายยี่ห้อ หลายราคา ปัญหาที่พบบ่อยคือ การซักประวัติไม่ดีพอ เช่น ประวัติการทำวัคซีน ซึ่งอันนี้แหละที่เป็นตัวสำคัญมาก หากสุนัขเพิ่งฉีดวัคซีนไปไม่นาน โอกาสที่ test kits จะตรวจผิดก็มีมหาศาล อย่างเคสที่บอก ที่ตรวจผิดก็เพราะว่าวัคซีนที่ฉีดไปทำปฏิกิริยา จนสับสนทำให้มันขึ้น 2 ขีด ซึ่งหมายความว่าเป็น Positive หรือติดเชื้อนั่นเอง ......เราอย่าลืมว่าวัคซีนก็คือเชื้อโรคที่อ่อนกำลัง หมาฉีดวัคซีน ก็คือหมาได้รับเชื้อ (ที่อ่อนและไม่หก่อให้เกิดอันตราย) นี่คือสาเหตุว่าทำไมถึงได้ผล Positive แต่หมาไม่เป็นโรค

2 อาการ........ซักประวัติ ดูอาการ เทียบกับอาการของโรคในตำรา เราต้องรู้ว่าโรคนั้นๆทำลายส่วนใดของร่างกาย เซลล์ไหนจะได้รับผลกระทบ กรณีไข้หัด หลังจากสุนัขได้รับเชื้อจากการกินหรือหายใจ เชื้อจะเข้าไปที่ลำไส้ก่อน นั่นจึงเป็นสาเหตุของว่าทำไม หมาที่เป็นไข้หัดถึงมีอาการท้องเสีย แต่อาการท้องเสียนี้จะเป็นไม่มาก ซึ่งต่างจากโดนพาร์โว ที่อาการค่อนข้างหนัก.....หลังจากท้องเสียสัก 2-3 วันหมาก็จะหาย แต่จะมีอาการชัก หรืออาการทางระบบประสาท เนื่องจากว่าหมาได้ผ่านระยะแรก และเชื้อได้เข้าสู่ระบบประสาทแล้วนั่นเอง และก็จะมีนำมูกเขียว กลิ่นแปลกของน้ำมูกที่หมอบางคนที่เก่ง (หรือเพี้ยนก็ไม่รู้ แต่มันค่อนข้างแม่นจริงๆนะ) ดมกลิ่นน้ำมูกก็รู้ว่าเป็นไข้หัด ผ่าเท้าเริ่มด้าน ฟันกล่อน ตาเริ่มปิด อันนี้ก็ชัดเลยว่าหัดแน่นอน

3 การตรวจด้วย test kits อาจให้ความแม่นยำต่ำ แต่หากใช้การตรวจแบบ PCR อันนี้ก็จะแม่นยำกว่ามาก แพงกว่า ตรวจนานกว่า ...เหมือนกับที่หมอๆส่งตรวจไข้หวัด 2009
Test kits เป้นแค่การ Screening โรคแค่นั้นครับ ดังนั้นถ้าไม่ใช้ PCR หมอก็ต้องใช้ ปสก. (ประสบการณ์) ที่ผ่านๆมาในการวินิจฉัย

จากคนที่อยู่ในแล็ป บอกได้คำเดียวว่า อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น .......human error นี่ตัวดีเลย ทำไรต้อง recheck  

เหมือนช้างเชือกหนึ่ง (เรื่องจริงไม่อิงนิยาย) ตรวจค่าตับที่ไรที่บ้านนอกได้ 800 (ค่าปกติอยู่ที่ 20 นะ ถ้าผมจำไม่ผิด) ตรวจมันทุกวัน เชื่อเครื่องตลอด  15 วันก็ได้ผลอยู่ช่วง 800 บวกลบตลอด แต่เมื่อขอมา recheck เหลือแค่ 80 คิดดูแล้วกันว่า หากเจอหมอแบบนี้ช้างจะรอดได้สักกี่น้ำ คนอ่านค่าเลือดไม่ได้เพิ่ม 0 ให้นะ เครื่องมันปริ๊นออกมาแบบนั้น......เรื่องนี้อย่าให้พูดมากไปกว่านี้เลย แค่นี้ผมก็เสียทั้งเงิน แรงกาย และทางจิตใจพอแล้ว...บางครั้งหมอเด็กๆนี่เก่งกว่าหมอแก่ๆนะ แต่มันพูดไม่ได้ ego มันสูง

อย่างกรณีตรวจเลือดพบว่า เม็ดเลือดขาวต่ำ ก็สรุปได้แค่ว่า น่าจะเป็นไวรัส แต่ไม่ได้สรุปว่าเป็นตัวไหนนะครับ และหากค่าสูงก็ไม่ได้จำเป็นต้องเป็นแบคทีเรียเสมอไป อาจเป็นไวรัสที่มีแบคทีเรียแทรกซ้อนก็ได้

จากคุณ : Dr. Doggy
เขียนเมื่อ : 23 ก.ค. 52 14:14:09




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com