Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
พุทราพันธุ์ มิ่งเฉา ที่ไต้หวัน  

........................หลายคนยังไม่ทราบว่าไต้หวันเป็นประเทศที่มีสายพันธุ์พุทราดี ๆ มากมายหลายสายพันธุ์มีเกษตรกรไทยนำพันธุ์พุทราจากไต้หวันมาปลูกในบ้านเราจนประสบผลสำเร็จหลายราย เนื่องจากพุทราไต้หวันมีขนาดของผลใหญ่มาก รสชาติดีและเป็นที่ต้องการของตลาด ในขณะเดียวกันที่ไต้หวันเองได้มีการพัฒนาสายพันธุ์พุทราอย่างต่อเนื่อง
   
                        อย่างกรณีของพุทราพันธุ์ “มิ่งเฉา” ซึ่งเมื่อแปลเป็นภาษาไทยเรียกว่าพันธุ์ “น้ำผึ้ง” เป็นสายพันธุ์ที่มีการปลูกมากที่สุดในไต้หวันด้วยคุณภาพที่เนื้อหวานและกรอบ มีรูปทรงเป็นรูปกระสวย ขนาดของผลใหญ่มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 5-6 ลูกต่อ 1 กิโลกรัมแตกต่างจากพันธุ์ซุปเปอร์จัมโบ้และพันธุ์นมสดที่มีปลูกอยู่ในบ้านเราในขณะนี้
   
                        ในเรื่องวิธีการปลูกและบำรุงรักษาพุทราพันธุ์ “มิ่งเฉา” มีหลายเรื่องที่น่าสนใจที่นำมาประยุกต์ใช้ในบ้านเราได้ อาทิ อุณหภูมิของสภาพพื้นที่ปลูกเฉลี่ยไม่ควรสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยจะต้องไม่เกิน 5 องศาเซลเซียส สภาพดินที่ใช้ปลูกพุทราที่ไต้หวันจะให้ความสำคัญในเรื่องของอินทรียวัตถุมากโดยเฉพาะการใส่ปุ๋ยคอก ค่าของความเป็นกรดและด่างของดินเฉลี่ย 6-6.5 (pH=6-6.5) เหมาะสมที่สุด
   
                        ต้นพุทราไม่ชอบสภาพดินเป็นกรด ถ้า สภาพดินมีค่า pH ต่ำกว่า 5 จะต้องใส่ปูนขาวก่อนปลูก นอกจากนั้นสภาพดินควรจะมีการระบายน้ำที่ดีถึงแม้จะเป็นสภาพที่ดอนควรจะทำแปลงแบบยกร่องลูกฟูก แปลงปลูกพุทราหลายแปลงที่มีพื้นที่ปลูกไม่มากจะมีการกางมุ้งเพื่อป้องกันแมลง เป็นที่สังเกตว่าการปลูกพุทราไต้หวันหลังจากที่เก็บ เกี่ยวผลผลิตเสร็จในแต่ละปี จะมีการตัดกิ่งทั้งหมดทิ้งให้เหลือเพียงต้นตอและกิ่งหลัก
   
                        หลังจากนั้นจะมีการนำยอดหรือตาพันธุ์ดีมาเสียบใหม่ทุกปี สำหรับปุ๋ยเคมีที่ใช้ในการปลูกพุทราพันธุ์ “มิ่งเฉา” นั้นในช่วงแตกใบใหม่จะเน้นปุ๋ยที่มีธาตุไนโตรเจนและฟอสฟอรัส ในช่วง ติดผลจะเน้นธาตุโพแทสเซียม สำหรับการบริหารวัชพืชในแปลงปลูกพุทราจะไม่นิยมใช้สารป้องกันและกำจัดวัชพืชทุกชนิด จะใช้วิธีการตัดหญ้าเนื่องจากที่ผ่านมาการใช้ยาฆ่าหญ้ามีผลกระทบต่อต้นพุทรา
   
                        การค้าขายผลผลิตพุทราพันธุ์นี้จะแบ่งออกเป็น 5 เกรด เกรดเอ มีน้ำหนักผลไม่ต่ำกว่า 150 กรัม และมีความหวานไม่ต่ำกว่า 13 เปอร์เซ็นต์บริกซ์, เกรดบี มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 130-150 กรัม ความหวานเท่ากับเกรดเอ สำหรับเกรดซี มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 110-130 กรัม, เกรดดี มีน้ำหนักผลเฉลี่ย 90-110 กรัม และเกรดสุดท้ายมีน้ำหนักผลต่ำกว่า 90 กรัมลงมา และทั้ง 3 เกรดจะต้องมีความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 12 เปอร์เซ็นต์ บริกซ์
   
                        ช่วงเทศกาลตรุษจีนของทุกปีจะเป็นช่วงที่คนไต้หวันนิยมบริโภคพุทรามากที่สุดและในช่วงเวลานั้นพุทราพันธุ์ “มิ่งเฉา” จะมีราคาแพงที่สุด.


ที่มา  http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=482&contentID=11307

 
 

จากคุณ : ญี่ปุ่น35
เขียนเมื่อ : 31 ก.ค. 52 00:15:24




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com