 |
(กระทู้นอกเรื่อง) ... ตำนาน ผักคะน้า ที่คุณอาจจะไม่เคยรู้มาก่อน ... อิอิ
|
|
***กรุณาทำใจก่อนอ่านนะครับ อ่านแล้วอาจจะไม่ขำเท่าไหร่ก็ได้***
แต่เดิมในสมัยโบราณนานมาแล้ว ผักพื้นบ้านของประเทศไทยเรามีอยู่ไม่กี่ชนิดเอง โดยส่วนใหญ่จะเป็นผักที่ขึ้นเองตามธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ อาทิเช่น ผักบุ้ง ตำลึง พริกไทย ฯลฯ
ครั้นอยู่มาในยุดสมัยก่อนที่จะเริ่มก่อตั้งกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี ในช่วงนั้นคนไทยยังอยู่กันกระจัดกระจายตามหัวเมืองต่าง ๆ เป็นส่วนใหญ่ เช่น เชียงใหม่ , นครสวรรค์ , พิษณุโลก , ปากช่อง และลาดปลาเค้า
ต่อมาเมื่อกษัตริย์ของไทยตั้งเมืองสุโขทัยขึ้นมาเป็นเมืองหลวง เพื่อรวบรวมให้หัวเมืองต่าง ๆ เข้ามาอยู่ภายใต้ราชอาณัติของเมืองสุโขทัย ความเจริญและวิวัฒนาการต่าง ๆ จึงได้เกิดตามขึ้นเรื่อยมา
ในช่วงนั้นเอง ที่เริ่มมีพวกฝรั่งจากทางตะวันตกเข้ามาเจริญสัมพันธ์ไมตรีกับกรุงสุโขทัยมากขึ้น วัฒนธรรมการกินและอาหารรูปแบบใหม่ ๆ ก็ได้เข้ามาในประเทศของเรา โดยสิ่งหนึ่งที่ชาวฝรั่งจากทางตะวันตกนำเข้ามาก็คือ หมูกรอบ นั้นเอง
ในสมัยก่อนคนไทยยังไม่รู้จักวิธีการทำหมูกรอบเลย คนไทยเคยแต่เชือดหมูเพื่อเอามาต้ม เอามาทำแกง เอามาผัดกับผักประเภทต่าง ๆ จนกระทั่งมีท่านฑูตชาวฮอลันดาคนหนึ่ง นำวิธีการทอดหมูด้วยน้ำมันพืชมาสอนให้แก่แม่ครัวคนไทย คนไทยเลยเริ่มรู้จักหมูกรอบตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
(ตกลงว่ามันเป็นตำนานผักคะน้าหรือว่าตำนานหมูกรอบกันแน่ว่ะ?)
***วิธีดูหมูกรอบก็ไม่ยากหรอกครับ ก็แค่ให้ท่านถลอกชายเสื้อของท่านขึ้นมา แล้วมองลงไปตรงบริเวณเนื้อป่อง ๆ ที่อยู่แถว ๆ สะดือของท่าน ตรงนั้นล่ะครับ ถ้าแหล่ไปทอดให้น้ำมันท่วม ไฟแรง ๆ ก็จะกลายเป็นหมูกรอบแล้วครับ***
พอเริ่มมีหมูกรอบเข้ามา คนไทยก็หาทางกินหมูกรอบให้อร่อยยิ่งขึ้น ซึ่งวิธีที่จะกินหมูกกรอบให้อร่อยก็คือเอาไปผัดกับผักต่าง ๆ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ผักพื้นเมืองของคนไทยเป็นผักใบอ่อนเสียส่วนใหญ่ เมื่อนำมาผัดรวมกับหมูกรอบที่มีความแข็งแล้ว ทำให้ผักเหล่านั้นเหี่ยว ย่น ไม่น่ารับประทานเท่าที่ควร
และแล้วในวันหนึ่งทิดอ๋า (ซึ่งภายหลังได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยาเจริญอ๋า ผู้เป็นกรมหมื่นเจ้านาคนแรก มีศักดิ์เทียบเท่ากับอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตรในปัจจุบัน) ทิดอ๋าได้ลองค้นคิดที่จะปลูกผักประเภทใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อให้คนไทยได้กิน โดยทิดอ๋าได้ลองเอาผักพื้นเมืองประเภทต่าง ๆ ของไทยมาทำการติดตา ทาบกิ่ง ต่อยอด มัดรวม เพื่อนำไปปลูกใหม่ สำหรับพัฒนาสายพันธุ์ผักประเภทใหม่ขึ้นมาให้ได้
จนกระทั่งวันหนึ่งทิดอ๋าสามารถเพาะพันธุ์ ผักประเภทใหม่ขึ้นมาได้สำเร็จ
ผักที่ทิดอ๋าเพาะพันธุ์ขึ้นมาได้ใหม่นี้ ลำต้นเป็นสีเขียวมีความแข็งที่เปลือกนอก แต่เนื้ออ่อนนุ่มที่เนื้อก้านข้างใน ใบของผักชนิดนี้เป็นใบใหญ่ มีสีเขียวเข้ม และมีความกรอบซ่อนอยู่ในตัวด้วย
ในการนี้ทำให้ทิดอ๋าดีใจเป็นอย่างมาก ทิดอ๋าจึงให้แดงต้อย ผู้เป็นบุตรสาวของเขา นำผักชนิดใหม่นี้ไปให้แก่ อำแดงอวบ ผู้เป็นน้องเมียของเขาที่อยู่ต่างเมือง (ซึ่งในภายหลัง อำแดงอวบ ได้พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น คุณผู้หญิงอั๋น ทำหน้าที่เป็นนางกองแม่ครัวในวังหลวง ซึ่งเปรียบเท่ากับผู้อำนวยการกรมโภชนาการในปัจจุบันนั้นเอง) ได้ลองกินผักชนิดนี้ดู
ทิดอ๋า "แดงต้อย เอาผักนี้ไปให้น้องสาวแม่เองเร็ว"
แดงต้อย "ได้ค่ะ ... พ่อ"
แล้วแดงต้อยก็รีบออกเดินทางในทันที เมื่อแดงต้อยได้เดินทางไปถึงบ้านของอำแดงอวบที่เป็นน้องเมียของคุณพ่อเธอแล้ว เธอก็รีบยื่นผักประเภทสายพันธุ์ใหม่นี้ให้แก่ผู้เป็นน้าสาวของเธอ
อำแดงอวบ "อ้าว ... แดงต้อยมาหาน้าเหรอ? ทำไมรีบวิ่งหน้าตาตื่นมาขนาดนี้เลยล่ะ?"
แดงต้อย "คุณพ่อให้รีบเอามาให้ค่ะ"
อำแดงอวบ "อะไรล่ะ?"
แดงต้อย "ผักค่ะ ... น้า"
อำแดงอวบ "แดงต้อยหลานเอาอะไรมาให้น้านะ?"
แดงต้อย "ผักค่ะ ... น้า คุณพ่อให้เอามาให้ค่ะน้า"
อำแดงอวบ "ผักคะน้าเหรอ? ชื่อแปลกดีจังเลย ไหนลองเอามาผัดกับหมูกรอบดูสิ"
แล้วอำแดงอวบก็เอาผักสายพันธุ์ใหม่ที่มีชื่อว่า ผักคะน้า ไปทดลองผัดกับหมูกรอบในทันที หลังจากนั้นเป็นต้นมา คนไทยเราก็ได้กินเมนูอาหารยอดอร่อยก็คือ ผักคะน้าหมูกรอบ เรื่อยมา
และผักสายพันธุ์ใหม่ ที่มีชื่อว่า ผักคะน้า ก็เป็นผักพื้นบ้านของไทยเราตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเช่นกันครับ
จบล่ะ ...
ไปดีกว่า
อยู่นานมากไม่ได้
อิอิ
แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 52 16:58:18
แก้ไขเมื่อ 04 ส.ค. 52 16:57:29
| จากคุณ |
:
อาคุงกล่อง    
|
| เขียนเมื่อ |
:
4 ส.ค. 52 16:56:32
|
|
|
| |
