ความคิดเห็นที่ 1 แต่ว่า ปลาตัวเล็กอื่นๆ ที่อยู่ก่อนนานเป็นปีๆ เริ่มมีอาการ ปากเป็นวงสีแดง แล้วก็ตายไป 1 ตัวแล้ว  ยังมีตัวอื่นอีกที่เป็นแบบนี้ จากคุณ : :+: ข้ า ว ปั้ น ก ล ม ๆ :+: เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 21:18:01

ความคิดเห็นที่ 2 ดูแล้วเหมือนไม่น่าเกี่ยวกับตัวใหญ่  แต่ว่า อาการปากเป็นวง แบบนี้ มันเกิดจากอะไร รักษายังไงคะ จากคุณ : :+: ข้ า ว ปั้ น ก ล ม ๆ :+: เขียนเมื่อ : 17 ส.ค. 52 21:19:48

ความคิดเห็นที่ 3 >>  น้องปลาตัวใหญ่ที่เพิ่งซื้อ ที่เป็นลายดำๆ เป็นรอยของโรคที่เพิ่งหายดีค่ะ คือเค้าเคยป่วยค่ะ เป็นอาการตกเลือด แล้วพอเค้าหายแล้วเนี่ย ตรงที่เคยตกเลือดจะมีเม็ดสีไปรวมกันอยู่ ทำให้เห็นเป็นจุดๆลายๆสีดำค่ะ  ไม่นานเดี๋ยวก็จะหายไปเอง แต่...      > ปัญหาคือ จขกท. ไม่ได้เอาเค้าไปแยกกักกันโรคไว้ก่อนใช่มั้ยคะ?  เพราะปลาทองบางครั้งยังไม่แสดงอาการป่วย แต่สามารถแพร่เชื้อได้นะคะ สงสัยน้องปลาตัวอื่นๆที่อยู่ในตู้เดิมจะติดโรคมาจากเจ้าตัวใหม่นี่แหละค่ะ  ดูจากอาการแล้วน่าจะเป็นการติดเชื้อแบคทีเรียค่ะ ทำให้ตกเลือด...    :::  จขกท. ต้องแยกปลาที่ป่วยออกมาเลี้ยงไว้ในภาชนะต่างหากนะคะ แล้วให้ใส่เกลือ 3 กรัม/น้ำ 1 ลิตร  ( 1 ช้อนโต๊ะ = 15 กรัมค่ะ)  ใส่ยาเหลืองญี่ปุ่นลงไปพอประมาณ หรือเบตาดีนก็ได้ค่ะ ซัก 3-4 หยด แต่ถ้าปลายังกินอาหารได้อยู่ แนะนำ Minnow Anti Bacteria (( ไม่ได้โฆษณานะ )) เป็นอาหารผสมยาปฏิชีวนะค่ะ จะให้ผลการรักษาดีกว่ายาหยดๆลงไปในน้ำเยอะค่ะ  หรือถ้าไม่มี Minnow ก็ให้งดให้อาหารไปเลยค่ะ จนกว่าจะหาย น้องปลาสามารถอดอาหารได้นานเป็นสัปดาห์ค่ะ ไม่ต้องห่วง ^^   --- หมั่นเปลี่ยนน้ำนะคะ สัก 30 - 50 % ทุกวัน ถ้าเปลี่ยนน้ำ 50% ก็ใส่เกลือเพิ่มลงไปแค่ 50% พอค่ะ (1.5 กรัม/น้ำ 1 ลิตร) จนกว่าเค้าจะหายป่วย แล้วปล่อยลงตู้ค่ะ คราวหน้าถ้าได้ปลาใหม่มา อย่าลืมแยกกักกันโรคก่อนนะคะ ซัก 7 วันจะดีมาก แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 01:49:04 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 01:46:56

ความคิดเห็นที่ 4 ตัวแรกติดเชื้อตกเลือด ตัว 2 ปากเปื่อย  รีบไปหาซื้อยาปฏิชีวนะ พวก Norfloxin / Clotetetra /Amoxicylin / Coram/Tetra cyclin   สงสัยติดจากปลาใหม่ จากคุณ : จัดให้ไว ไม่งั้นยกชุด (jiabby) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 03:54:46

ความคิดเห็นที่ 5 จากการติดเชื้อแบคทีเรีย    แกรมลบ อาการของโรค  มีอาการปากช้ำเลือดที่ขอบและช่องปากของปลา  ภายใน พบการฝังตัวของเชื้อ ภายในตับและม้ามของสัตว์น้ำ   การรักษาโรคในปลาสวยงาม คลอแรมฟินิคอล (ไม่น่ามีขาย)(250 มิลลิกรัม/20 ลิตร.)  ใส่ในน้ำการใส่ยารักษา ใส่ติดต่อกันนาน ไม่ต่ำกว่า 10 วันโดยเปลี่ยนยาใหม่ทุก วันพร้อมกับถ่ายน้ำออก 50 %   อ๊อกโซซิลิคแอซิด ให้กิน 5 มก.ต่อน้ำหนักปลา 1 กิโลกรัม ต่อวัน ให้ติดต่อกัน 10 วัน หรือ ใส่ในน้ำอัตราส่วน 1 มกต่อน้ำ 1 ลิตร ติดต่อกันนาน 7 วัน โดยเปลี่ยนยาใหม่ทุก วันพร้อมกับถ่ายน้ำออก 50 %   อ๊อกซิเตตร้าไซคลิน (ใช้เตตร้าไซคลินแทนได้ ซื้อที่ร้านขายยาคน)(250 มก./5 ลิตร). ติดต่อกันไม่ต่ำกว่า 10 วัน เปลี่ยนยาใหม่ทุก วันพร้อมกับถ่ายน้ำออก 50 % ซัลฟาเมอราซิน      200 มกต่อน้ำหนักปลา 1 กิโลกรัม ติดต่อกันนาน 10 วัน ปล. การใช้ยาในกลุ่มเตตร้าอย่าใส่เกลือร่วมเนื่องจากจะทำให้ฤทธิ์ของยาลดลงครับ   ดูเรื่องโรคแบคเพิ่มเติมตามนี้ครับ http://www.time4fish.net/FDB.html จากคุณ : Timeforest (tt1000) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:37:44

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณนะคะ ถามเพิ่มนิดนึงอะค่ะ  ไม่รู้น้ำกี่ลิตร ตู้นี้ค่ะ   การวัดขนาด วัดเฉียงแบบทีวี จากมุมเฉียงไปบนหรือเปล่าคะ  หรือวัดความยาว ตามฐานตู้   วัดถึงแค่ที่มีน้ำเนอะ  ไม่ต้องรวมความยาว ที่กรองด้วยใช่ไหมคะ เพิ่มเติม เวลาไปเปิดที่กรอง เปิดแต่อ๊อก  ตรงที่กรองก็มีน้ำด้วยนี่นา ตกลงว่า ต้องวัดความยาวรวมที่กรองไหมคะ  วัดมาเมื่อกี้  ยาวรวมที่กรอง 20 นิ้ว  แต่ถ้าวัดเฉียงมุมไปมุมบน ก็ 24 นิ้วค่ะ  มีสูตรคำนวณอย่างไรคะ รูปค่ะ แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 13:06:00 จากคุณ : :+: ข้ า ว ปั้ น ก ล ม ๆ :+: เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:44:43

ความคิดเห็นที่ 7 กว้างxยาว(ไม่รวมกรอง)xสูง(ระดับน้ำ) หน่วยเป็นเซนติเมตร จะได้ลูกบากศ์เซนฯ 1,000 ลบ.ซม. เท่ากับ 1 ลิตรครับ จากคุณ : RCracing เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:37:56

ความคิดเห็นที่ 8 >>  ไม่แนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะแบบ"กิน"ของคน ละลายลงในตู้ปลาค่ะ เพราะอัตราส่วนการออกฤทธิ์, ค่าครึ่งชีวิต,และการออกฤทธิ์ของยาจะไม่เหมือนกับในคน ใส่ลงไปก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก ยิ่งยาบางชนิดทำละลายในน้ำได้น้อย ใส่ลงไปก็ตกตะกอนอยู่ดี  ยาบางชนิดเสื่อมสภาพเมื่อทำปฏิกิริยากับน้ำและอ็อกซิเจน รวมทั้งในน้ำที่ใช้เลี้ยงปลาก็มีสารประกอบต่างๆ และค่า Ph ที่จะส่งผลต่อการออกฤทธิ์ของยา  เพราะฉะนั้นหากปลายังกินอาหารได้แนะนำให้ยาแบบ"กิน" สำหรับปลาโดยเฉพาะดีกว่ามาก หรือยาปฏิชีวนะสำหรับใส่ลงในน้ำที่ทำขึ้นสำหรับ "ปลา" ดีกว่าค่ะ ...จากประสบการณ์ตรง แก้ไขเมื่อ 18 ส.ค. 52 16:37:11 จากคุณ : pinspin เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 16:34:35

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณค่ะ จากคุณ : :+: ข้ า ว ปั้ น ก ล ม ๆ :+: เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 14:25:25