ความคิดเห็นที่ 1 |
..........................แม้จะเรียกไม่เหมือนกันแต่เป็นญาติกัน มีซุกกินีสีเขียว เหลือง เขียวอ่อน กินทั้งลูกกินทั้งดอก วิธีกินก็ไม่แตกต่างกันมาก เช่น ชาวอิตาลีต้นกำเนิดกินสารพัดซุกกินี ตัดหัวท้าย หั่นเป็นแว่น หนาบางตามเมนูที่จะปรุง อบกับพาร์เมซานชีส หรือชีสโรมาโน โรยใบโหระพาสด ใบพาร์สลีย์ เกลือ พริกไทยดำป่น พรมน้ำมันมะกอก ชุบเกล็ดขนมปัง โยนเข้าเตาอบ ประเดี๋ยวก็ส่งกลิ่นหอมชวนกิน เอาไปโรยหน้าพิซซ่าก็ได้ หั่นบาง ๆ ในจานสลัดผัก เอาไปปิ้งย่างทาน้ำมันมะกอกเหยาะเกลือ กินกับพริกยักษ์ย่าง มะเขือม่วง เห็ดตามชอบ เข้ากันดีกับน้ำสลัดบาลซามิก บ้างทำซุปซุกกินีเข้มข้น ได้รสผักเนื้อ ๆ เอาไปทำขนมปังและแครกเกอร์ก็ได้
คนฝรั่งเศสทำราตาตุยต้องมีซุกกินี เป็นแตงกวาฝรั่งที่ต้มเคี่ยวไฟอ่อนๆ ได้นานๆ เละนิดหน่อยแต่กินอร่อย คนกรีกนี่ชอบมาก เอาไปทำสตูผัก สูตรคล้ายๆ ราตาตุย หรือกินกับเฟต้าชีส อบกับข้าวอบสมุนไพรและซอสมะเขือเทศ ชาวอียิปต์ก็กินซุกกินี แบบง่ายเหลือเกินคืออบกับซอสมะเขือเทศ กระเทียม หอมใหญ่ คนบัลแกเรียกินสดจิ้มกับโยเกิร์ตผสมมะนาว กระเทียม และ ใบดิลล์ ชาวเลบานอนเอาไปทำข้าวหมักกับเนื้อ เติมเครื่องเทศสมุนไพรหรือต้มทำสตู ชาวตุรกีมีวิธีกินซุกกินีแหวกแนวไม่เหมือนใคร คือเอาไปทำ ซุกกินีแพนเค้ก หั่นเจ้าผักเป็นแว่นบาง ๆ ผสมแป้ง ไข่ น้ำมันมะกอก หน้าตาเป็นแพนเค้กกินกับโยเกิร์ต อร่อยง่ายเกินไปกระมัง...คนเกาหลีมีซุกกินีเป็นกิมจิชูรส ปรุงแบบไหนก็สูตรใครคนนั้น
จากคุณ |
:
ญี่ปุ่น35
|
เขียนเมื่อ |
:
18 ส.ค. 52 02:38:49
|
|
|
|