ความคิดเห็นที่ 1 ลองหารายละเอียดนะคะ  ที่พอรู้จัก ช่างหนุ่มตรง อตก. กับ สตาร์วูด  ที่ราม เรียนกันเป็นเดือนค่ะ  ส่วนค่าเรียนแล้วแต่ที่  แต่ก็หลักหมื่นนะ จากคุณ : saiizine เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:23:07

ความคิดเห็นที่ 2 ถ้าสะดวกแถวเมเจอร์ รัชโยธิน แนะนำพี่ยุ้ย ร้าน pammy ค่ะ ลองหารายละเอียดในหนังสือด็อกกาซีนฉบับล่าสุดนะคะ เห็นลงแนะนำร้านพี่เค้าไว้ค่ะ จากคุณ : ~sugarsour~ เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 11:37:48

ความคิดเห็นที่ 3   ถ้ามีใบรับรองของกระทรวงศึกษาธิการมีที่เดียวคือ starwood ของ อ.จ๋า จ้า ลองหาเบอร์แล้วโทรไปสอบถามดูนะคะ จากคุณ : แม่๊ไอ้ก๊อต เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:06:10 A:124.122.245.128 X:

ความคิดเห็นที่ 4 คิดให้ดีก่อนจะเปิดร้านนะคับ ยินดีด้วยแต่การทำร้านตัดขนมันมีรายละเอียดหลายอย่าง ผมเองก็เพิ่งปิดร้านไปเมือกลางปีนี้เอง เพราะมันทำไม่ไหวผมทำคนเดียวหมดนะคับ จะจ้างก็ไม่คุ้ม ที่สำคัญคือต้องดูทำเลนะคับ เพราะสำคัญมาก อีกอย่างค่าใช้จ่ายเกียวกับอุปกรณ์ค่อนข้างสูงนะคับ ไงถ้าสนใจคุยหลังไมล์ได้ หรือปรึกษาผมด้วยตรงได้คับ เต้ 080-552-2059 อยากให้คำปรึกษาคับ เพราะคนเคยมีประสบการณ์ ผมเองเรียนที่ dog2home ค่าเรียน 15000 นะ เรียนได้ไม่จำกัดเวลาคับ จนกว่าจะเป็นนะคับ ไงสงสัยโทรมาได้นะคับ ยินดีคัย จากคุณ : เต้ (ไอ้เขี้ยวเงิน) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:46:28

ความคิดเห็นที่ 5 ค่าเรียนแพงเหมือนกันเนอะ .. ว่าจะไปหัดเรียนมาอาบน้ำลูกชายเองบ้าง สงสัยไม่ไหวแฮะ อาบเองแบบลูกทุ่งๆ หรือส่งร้านอาบเหมือนเดิมดีกว่าแฮะ .. จากคุณ : antanoy เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 13:46:44

ความคิดเห็นที่ 6 สตาร์วูดของอาจารย์จ๋า สำหรับเรานะเราว่าช่างจบที่นี่ตัดขนสวยนะ เมื่อวานนี้เพิ่งเอาปิ๊ดปี๋ไปตัดขนมาช่างเค้ามีใบประกาศจบจากที่นี่ตัดมาสวยถูกใจเรากับแฟนมากๆค่ะ เคยถามค่าเรียนประมาณ ๒๕,๐๐๐ ไม่แน่ใจว่าราคาขึ้นรึยังนะคะ เหมือนอย่างคุณเต้บอกค่ะ หากมีลูกจ้างไม่แคล้วไม่คุ้มกัน  เมื่อก่อนเคยอยากทำ(ตอนนี้ก็อยากอยู่ค่ะ)แต่แฟนไม่สนับสนุนเลยค่ะ แกว่าหมาไม่เหมือนกันทุกตัว บางตัวดุ บางตัวกัด บางตัวซนหากเราตัดเป็นแผลจข.ก็ว่าอีก ลองศึกษาดูก่อนก็ได้ค่ะ จากคุณ : MY PIDPEE เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 15:26:29

ความคิดเห็นที่ 7 ขอเชียร์ STARWOOD ค่ะ ลองเข้าเว็ปไปศึกษาข้อมูลได้ค่ะ http://www.starwoodcenter.com คิดถึงโรงเรียนจัง จากคุณ : รับน้ำอะไรดีคะ? เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 16:37:41

ความคิดเห็นที่ 8 เข้ามาหาข้อมูลด้วยคนค่ะ  กำลังหาที่เรียนอยู่เหมือนกัน   เปิดร้านแล้วค่ะ  ตอนนี้ต้องยืมจมูกเค้าหายใจเหมือนอย่าง จขก. ว่าอยู่เหมือนกัน  และความที่เราไม่รู้ทำให้เราบริหารงานลูกจ้างลำบาก หลังไมค์มาคุยกันได้นะค่ะ  เผื่อมีข้อมูลดีๆ แลกเปลี่ยนกันค่ะ จากคุณ : spycom เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 22:26:29

ความคิดเห็นที่ 9 กำลังสนใจเหมือนกันค่ะ คิดๆอยู่ว่าจะเอายังไงเรื่องจ้างคน อยากทำเองด้วยอยากจ้างคนด้วย ^ ^" จากคุณ : ข้าวปั้นหน้าไข่กุ้ง เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 10:56:49

ความคิดเห็นที่ 10   ที่ได้ยินบ่อยๆก็มีของ สตาร์วูด (แต่ราคาค่อนข้างสูง) ตามมาด้วย ช่างหนุ่ม คะ แต่ที่เหลือก็ใช่ว่าไม่ดีนะคะ แต่เค้าอาจไม่มีสาขามากหรือไม่ค่อยได้โปรโมทมากนะคะ แต่ที่แน่ๆถ้าใครที่กำลังวางแผนเปิด Grooming - ขายอาหารสัตว์ ขอแนะนำ ให้ติดต่อ หมอโจ 086-9942144 นะคะ หมอเค้าแบ่งพื้นที่หน้าร้าน (คลีนิกรักษาสัตว์ Healthy Pet) ให้เช่า อยู่ริม ถ.จรัญสนืทวงศ์ (ระหว่าง สะพานพระราม 7 ไป รพ.ยันฮี) คะ จากคุณ : mananya เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 15:43:30 A:58.11.66.160 X:

ความคิดเห็นที่ 11 ดิฉันเคยเรียนที่สตาร์วู๊ดคะคุณmananya เคยได้ยินมาบ่อยๆว่า คนต่างคิดและพูดกันว่าค่าเรียนที่โรงเรียนที่ดิฉันเรียนค่อนข้างสูงนั้น ก็ไม่เข้าใจว่าเข้าใจกันแบบนั้นก่อนจะคํานวนเวลาเรียนที่แต่ละที่ ที่เปิดสอนกันก่อนรึเปล่า คุณลองดูเวลาเรียนของสตาร์วู๊ดระบุไว้ซิคะว่าเรียนตั้ง 60 วัน( ซึ่งส่วนใหญ่ แล้วไม่ค่อยมีใครสอบผ่านจบได้ในระยะเวลาเท่านี้ ต้องเรียนต้องสอบกันต่อไปอีก) ราคานี้ มีการรวมเอาอุปกรณ์เกี่ยวกับการอาบน้ำแปรงขนสุนัขพร้อมเสื้อคลุมเข้าไปให้ด้วย นักเรียนอย่างดิฉันสอบผ่านจบออกมาแล้ว ก็ได้ใบประกาศฯของกระทรวงฯอย่างถูกต้องตามวิชาชีพต่างๆที่เอาไปใช้ประกอบอาชีพสมัครงานทําได้อย่างยอมรับได้ทั่วโลก จากการพัฒนาด้านเทรน์แฟชั่นที่สตาร์วู๊ดไม่เคยอยู่นิ่งๆในทุกๆปี ดังที่สมารถเข้าไปดูได้ใน www.starwoodcenter.com นั้น ดิฉันคิดว่า ค่าเรียนของสตาร์วู๊ดที่คิดราคาค่าเรียนตามกฎของกระทรวงศึกษาธิการเพียงแห่งเดียวในไทยที่กําหนดมาให้ และผลงานต่างๆนั้นซึ่งทํามาต่อเนื่อง ตลอด 8ปี เมื่อนํามาเทียบกับผลลัพท์ที่นักเรียนที่เข้าไปเรียนจบออกมาประกอบอาชีพได้ในทุกวันนี้ มันถูกเกินไปเสียอีกค่ะ จากคุณ : สะตอสีม่วง เขียนเมื่อ : 19 ส.ค. 52 18:03:58

ความคิดเห็นที่ 12 เราว่าสะดวกที่ไหนก็ไปเรียนที่นั่นเถอะ แบบไม่ไกลบ้าน ไม่ลำบากเดินทาง เพราะการเรียนแบบนี้ ไม่รักจริงหวังแต่ง .. ก็มักจะเรียนๆ หายๆ เรียนเอาหลักการ แล้วไปหาประสบการณ์สำคัญสุด เรียนแล้วก็ลองไปฝึกเป็นช่างตามร้านต่างๆ ดูก่อนสักปี จะได้ชำนาญมากขึ้น ได้เรียนรู้ระบบงานของการเปิดร้าน pet shop ด้วย บางคนคิดว่าเรียนที่นั่นที่แล้ว ก็มาเปิดร้านกันเลย รับลูกค้ากันเลย คนช่วยก็ไม่มี  ... บางจะเกร็งเลยแหละ เพราะหมาที่เราเรียน กับหมาของลูกค้าเนี่ย มันคนละ feeling กันเลยอะ บางทีลูกค้าก็อยากได้แบบนี้ๆๆๆ เอาหัวเกรียน เอาขาลอยเยอะๆ เอาหูสั้นๆ  เอาปากไม่แหลมแต่สั้น โอ๊ยยยย..สารพัดคำสั่ง ไอ้ที่เรียนมาแบบตัดตัวเบอร์ 4 ไถเท้าเบอร์ 15 ไถปากเบอร์ 10 บางทีทำตามใจลูกค้าไปเลย ง่ายกว่า ไวกว่า ถูกใจกว่าเยอะ ยิ่งไปจ้างช่างที่อื่นมาทำ ก็ต้องทำใจอะ  ช่างกินแรงก็มีเยอะ ช่างงกเปอร์เซนต์ก็มีเพียบ ต้องวางแผนการเงินดีๆ อย่าไปง้อช่างมาก ทำเองได้มากเท่าไหร่ดีที่สุด แต่ก็ต้องยอมเหนื่อยมากที่สุดด้วยเช่นกัน การจ้างช่างมีทั้งแบบให้เงินเดือน + % ค่ากรูมมิ่ง  และกำหนดเวลาทำงาน วันหยุดให้เขา อันนี้ช่างก็จะทำไปตามเวลา เกิดหมาเข้ามาตอนใกล้เลิกงานแล้ว มักเจอช่างปฏิเสธไม่รับหมาเอาเสียดื้อๆ ก็มี อีกแบบก็ใช้เป็น % แบบ 40-50%  ขึ้นว่าอุปกรณ์ของเรา หรือของช่าง จ้างแบบนี้ช่างจะขยันมาก ทำเอาเป็นเอาตาย แต่ถ้ารายได้กรูมมิ่งไปตกที่ช่างกว่าครึ่ง ก็ต้องมาสำรวจดูกันแล้วละว่าคุ้มหรือป่าว อะไรพอทำเองได้ทำดีกว่ามั๊ย ให้ช่างทำไปเฉพาะตัดขน อาบน้ำเจ้าของร้านทำเองดีกว่ามั๊ย ต้องลองเปรียบเทียบดู เล่าให้ฟังเป็นประสบการณ์ ... เพราะตอนยังไม่ประสบการณ์ ก็เที่ยวถามเขาไปทั่วอย่างนี้แหละ ... ขอให้ประสบความสำเร็จตลอดไปค่ะ (เข้ามาแก้ไขข้อความที่พิมพ์ผิด) แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 52 00:33:51 จากคุณ : papacroft เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 00:24:18

ความคิดเห็นที่ 13 เข้ามาดูอีก แล้วก็ไปล่ะ เฮ้ยยย! จากคุณ : สะตอสีม่วง เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 19:43:56