ความคิดเห็นที่ 1 เข้ามาเก็บข้อมูลคะ อยากรู้เหมือนกัน จากคุณ : gibgabgoogee เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 12:27:25

ความคิดเห็นที่ 2 ผมไม่แน่ใจว่ามีกฎหมายรองรับหรือเปล่านะครับ  เพราะว่าลองมาอ่านพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์แล้ว ก็ไม่เห็นว่ามีข้อไหนเลย ที่จะกล่าวถึงเรื่องนี้  แต่ถ้าเป็นข้อกำหนดของชมรมผู้บริหารสถานพยาบาลสัตว์ แห่งประเทศไทย ก็มีกำหนดไว้ครับ  รายละเอียดตามนี้ครับ ข้อกำหนด มาตรฐานสถานพยาบาลสัตว์และการใช้ชื่อของสถานพยาบาลสัตว์ ชมรมผู้บริหารสถานพยาบาลสัตว์ แห่งประเทศไทย พ.ศ. 2550 หมวด1 ว่าด้วยลักษณะของสถานพยาบาลสัตว์ ข้อ 1 ในข้อกำหนดนี้                 “ คลินิก”  หมายความว่า  สถานพยาบาลสัตว์ ตามพระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ พ.ศ. ๒๕๓๓ ประเภทมีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน ไม่เกิน 30 ที่ หรือ สถานพยาบาลสัตว์ พระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ พ.ศ. ๒๕๓๓ ประเภทไม่มีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน และมีสัตวแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ ปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 1 คน                 “โรงพยาบาล”  หมายความว่า สถานพยาบาลสัตว์ พระราชบัญญัติสถานพยาบาลสัตว์ พ.ศ. ๒๕๓๓  ประเภทที่มีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน  และมีสัตวแพทย์ผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ ปฏิบัติงานไม่น้อยกว่า 3 คน ข้อ 2 ลักษณะทั่วไปของสถานพยาบาลสัตว์ (1) เป็นสถานที่ที่จัดให้บริการด้านวิชาชีพการสัตวแพทย์และดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ (2) ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวก ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายและก่อความเดือดร้อน รำคาญ ต่อผู้อยู่อาศัยข้างเคียง (3) ลักษณะโครงสร้างอาคารมีความปลอดภัย สะดวกและเหมาะสมต่อผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ เจ้าของสัตว์ป่วยและสัตว์ป่วย (4)  กรณีใช้พื้นที่ตั้งสถานพยาบาลสัตว์ในอาคารเดียวกับการประกอบกิจการอื่น ต้องแบ่ง สถานที่ให้ชัดเจน และกิจการอื่นนั้นต้องไม่มีผลกระทบต่อการประกอบวิชาชีพในสถานพยาบาลสัตว์นั้น รวมทั้งสามารถป้องกันและควบคุมการเกิดอันตรายจากสัตว์ป่วยที่มารับบริการได้ (5) พื้นที่การประกอบกิจการสถานพยาบาลสัตว์จะต้องไม่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับสถานที่ขายยาตามกฎหมายว่าด้วยยา และต้องไม่ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกับการประกอบกิจการอื่น (6) อาคารต้องมั่นคงแข็งแรง ไม่อยู่ในสภาพชำรุดและเสี่ยงต่ออันตรายจากการใช้สอย (7) มีแสงสว่างและการระบายอากาศเพียงพอ ไม่มีกลิ่นอับทึบ (8) การสัญจรและการเคลื่อนย้ายสัตว์ป่วยต้องกระทำได้โดยสะดวก (9) บริเวณทั้งภายนอกและภายในต้องสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย จัดแบ่งพื้นที่ใช้สอยอย่างเหมาะสม และมีสิ่งอำนวยความสะดวกแก่เจ้าของสัตว์ป่วย (10) มีห้องตรวจหรือห้องให้การรักษาและผ่าตัดเป็นสัดส่วนและมิดชิด (11) มีส่วนที่พักรอของเจ้าของสัตว์ป่วย (12) มีการเก็บและกำจัดมูลฝอยและสิ่งปฏิกูลที่เหมาะสมและถูกสุขลักษณะ (13) มีวิธีการควบคุมการติดเชื้อที่เหมาะสมและถูกสุขลักษณะ (14) มีห้องน้ำห้องส้วมที่ถูกสุขลักษณะอย่างน้อยหนึ่งห้อง (15) สถานที่สำหรับพักสัตว์ป่วย จะต้องเป็นห้องมีประตูเปิด-ปิด และแยกที่พักสัตว์ป่วยติดเชื้อและสัตว์ป่วยไม่ติดเชื้อออกจากกัน  มีคอกหรือกรงในขนาดที่เหมาะสมกับชนิดสัตว์ตามจำนวนที่ไดัรับอนุญาต สามารถควบคุมเสียงและกลิ่น มีระบบระบายอากาศที่ดี มีระบบการทำลายเชื้อโรคและสามารถควบคุมการกระจายเชื้อโรคได้ (16) สถานพยาบาลสัตว์ ประเภทมีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน ต้องมีเวลาทำการอย่างน้อยวันละ ๑๒ ชั่วโมง และผู้ดำเนินการต้องอยู่ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลสัตว์นั้นเป็นเวลาอย่างน้อยวันละสองในสามของเวลาทำการของสถานพยาบาลสัตว์ หรือสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า ๔๐ ชั่วโมง (17)  สถานพยาบาลสัตว์ ประเภทมีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน  ต้องมีห้องยาและเวชภัณฑ์ ที่จัดไว้เฉพาะจากส่วนอื่น มีการควบคุมการใช้ยาและเวชภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (18)  สถานพยาบาลสัตว์ ประเภทมีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน ต้องจัดให้มีที่เก็บซากสัตว์ที่เหมาะสม สามารถฆ่าเชื้อโรคหรือควบคุมเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ (19)  กรณีมีบริการถ่ายภาพด้วยรังสี หรือ คลื่นความถี่สูง ต้องจัดพื้นที่เฉพาะต่างหากจากส่วนอื่น และได้รับการรับรองมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมทั้งมีระบบป้องกัน และตรวจสอบความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน ตามมาตรฐานของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ (20)  คอกพักหรือกรงสำหรับสัตว์ป่วย ต้องมีความแข็งแรงและปลอดภัยกับสัตว์ป่วย ผู้ปฏิบัติงาน และ เจ้าของสัตว์ป่วย (21) ขนาดของคอกหรือกรงสำหรับสัตว์ป่วย ต้องมีความเหมาะสมกับขนาดของสัตว์ป่วย หรือตามลักษณะวิธีการในการตรวจรักษา โดยผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ (22)  สำหรับสถานพยาบาลสัตว์ ประเภทมีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน ให้มีห้องพักสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์   นอกเวลาทำการของสถานพยาบาลสัตว์อย่างน้อยหนึ่งห้อง (23) กรณีมีการให้บริการหลายลักษณะรวมกันต้องจัดแบ่งพื้นที่ให้เหมาะสม สามารถป้องกันและควบคุมการเกิดอันตรายจากสัตว์ป่วยที่มารับบริการได้ ข้อ 3 ลักษณะเฉพาะของคลินิก (1) มีลักษณะตามข้อ 2 (2) มีห้องตรวจ รักษาโรคที่จัดไว้เฉพาะ อย่างน้อย 1 ห้อง สำหรับ สถานพยาบาลสัตว์ ประเภทไม่มีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน และ อย่างน้อย 2 ห้อง สำหรับสถานพยาบาลสัตว์ ประเภทมีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน  และห้องตรวจต้องมีขนาดไม่น้อยกว่า 6 ตารางเมตร (3) สำหรับคลินิก ประเภทไม่มีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน ที่ให้บริการด้านศัลยกรรม ต้องมีการควบคุมการติดเชื้อในระหว่างการผ่าตัดและหลังการผ่าตัด อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ (4) สำหรับคลินิก  ประเภทมีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน จะต้องมีห้องผ่าตัดแยกเฉพาะไว้ต่างหาก มีขนาดไม่น้อยกว่า 6 ตารางเมตร (5) คลินิกประเภทไม่มีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน ต้องมีพื้นที่ใช้สอย ไม่น้อยกว่า  36 ตารางเมตร (6) คลินิกประเภทมีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน  ไม่เกิน 10 ที่ ต้องมีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า  48 ตารางเมตร (7) คลินิกประเภทมีที่พักสัตว์ป่วยไว้ค้างคืน เกิน 10 ที่ แต่ไม่เกิน 30 ที่ ต้องมีพื้นที่ใช้สอย ไม่น้อยกว่า  72 ตารางเมตร ข้อ 4 ลักษณะเฉพาะของโรงพยาบาล (1) มีลักษณะตามข้อ 2 (2) มีห้องตรวจหรือห้องให้การรักษาอย่างน้อย 2 ห้อง  พื้นที่แต่ละห้องต้องไม่น้อยกว่า 6 ตารางเมตร และ สะดวกในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย ทั้งแก่ตัวสัตว์ป่วยและผู้ปฏิบัติงาน (3) มีห้องผ่าตัดอย่างน้อย 1 ห้อง พื้นที่แต่ละห้องต้องไม่น้อยกว่า  9 ตารางเมตรและ สะดวกในการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย ทั้งแก่ตัวสัตว์ป่วยและผู้ปฏิบัติงาน (4) โรงพยาบาลสัตว์ ที่มีที่พักสัตว์ป่วยเกิน 10 ที่ แต่ไม่เกิน 50 ที่ ต้องมีพื้นที่ใช้สอย รวมไม่น้อยกว่า 96 ตารางเมตร (5) โรงพยาบาลสัตว์ ที่มีที่พักสัตว์ป่วยเกิน 50 ที่ แต่ไม่เกิน 80 ที่ ต้องมีพื้นที่ใช้สอย รวมไม่น้อยกว่า 250 ตารางเมตร   (6) โรงพยาบาลสัตว์ ที่มีที่พักสัตว์ป่วยเกิน 80 ที่ ต้องมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มจาก ข้อ ๗(6)   อย่างน้อย 4 ตารางเมตร สำหรับทุกๆจำนวนที่พักสัตว์ป่วยที่เพิ่มขึ้น 10 ที่  จำนวนที่เกินหลักสิบ ให้ปัดขึ้นเป็นหลักสิบ (7) มีพื้นที่สำหรับการปฏิบัติงานด้านห้องปฏิบัติการอย่างพอเพียง (8) มีพื้นที่เฉพาะสำหรับจัดเก็บเอกสาร ข้อมูลของสัตว์ป่วย (9)  มีที่พักสำหรับผู้ปฏิบัติงาน ในสถานพยาบาลสัตว์ นอกเวลา ที่ไม่ใช่ผู้ประกอบวิชาชีพการสัตวแพทย์ อย่างเหมาะสม ข้อ 5 ลักษณะของสถานพยาบาลสัตว์ ที่รับฝากสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีการเจ็บป่วย หรือ เพื่อการพักฟื้น หรือ ฟื้นฟูสมรรถภาพหลังการเจ็บป่วย ต้องจัดที่พักแยกส่วนต่างหากจากสัตว์ป่วยที่อยู่ระหว่างการรักษาในสถานพยาบาลสัตว์อย่างชัดเจน ทั้งพื้นที่และระบบระบายอากาศ ตลอดรวมถึงสถานที่สำหรับออกกำลังกาย หรือ เพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพ ต้องแยกต่างหากจากสัตว์ป่วยที่กำลังอยู่ในระหว่างการรักษา ข้อ ๙ ลักษณะยานพาหนะที่ใช้เป็นสถานพยาบาลสัตว์ จะต้องมีความปลอดภัยตามมาตรฐานกรมการขนส่ง และมีลักษณะปลอดภัยกับสัตว์ป่วยและผู้โดยสาร ข้อ 10  การตั้งชื่อสถานพยาบาลสัตว์ ต้องมีคำนำว่า “คลินิก” หรือ “โรงพยาบาล” นำหน้าชื่อสถานพยาบาลสัตว์เสมอ และต้องมีคำว่า “สัตวแพทย์”  หรือคำว่า “สัตว์” อยู่ในส่วนใดส่วนหนึ่งของชื่อสถานพยาบาลสัตว์นั้น ภายใต้ข้อกำหนดของกฏกระทรวงนี้ ข้อ ๑๑ สำหรับสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ชื่อสถานพยาบาลสัตว์ ตามกฎกระทรวงฉบับเดิม ก่อนการประกาศใช้ข้อกำหนดนี้ ให้ใช้ชื่อตามเดิม จนกว่าใบอนุญาตให้ตั้งสถานพยาบาลสัตว์นั้นจะหมดอายุ   จึงให้เปลี่ยนชื่อสถานพยาบาลสัตว์ใหม่ตามข้อกำหนดนี้ ข้อ ๑๒ ส่วนอื่นๆ นอกเหนือจากข้อ ๑๑  ให้สถานพยาบาลสัตว์นั้นดำเนินการปรับปรุงให้ได้ตามข้อกำหนดในข้อกำหนดนี้ ภายในระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันประกาศใช้ ข้อกำหนดนี้ ปล.ถือว่าแบ่งปันความรู้นะครับ ไม่ได้มีเจตนาจะไปทำลายเพื่อนร่วมวิชาชีพแต่อย่างใดครับ จากคุณ : หมอหมา ลูกฟ้าหม่น (ringsteward_mut) เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 16:27:44

ความคิดเห็นที่ 3   ขอบคุณ คุณ หมอหมา ลูกฟ้าหม่น (ringsteward_mut) มากครับ ได้อ่านคำตอบตั้งแต่เย็นแล้วแต่พอดีเพื่อนมารับไปคลินิกก่อน ถือโอกาสนี้ขอบคุณมากๆครับ ที่จริงเจตนาผมไม่รุนแรงอ่ะครับ เพียงแต่เห็นสภาพห้องอับชื้น ค่อนข้างมืด และเหม็นฉี่รุนแรง ฉุนกึก แต่ไม่อยากพูดกับหมอต่อหน้า กลัวเค้าจะเสียหน้า คิดว่าถ้ามีหน่วยงานรับผิดชอบออกตรวจสภาพคลินิกเป็นระยะๆ คงจะดีกว่า เพราะโดยความรับผิดชอบ เค้าตักเตือนได้อยู่แล้ว เลยลองถามดูเผื่อมีหน่วยอย่างว่า ผมจะได้ไปกระซิบบอกให้ไปตรวจและตักเตือนให้ปรับปรุง เผื่อหมาๆจะได้ไม่ต้องทนดมกลิ่นฉี่พวกเดียวกัน รุนแรงฉุนกึกมากครับ.....ฟันธง แต่ชมรมผู้บริหารสถานพยาบาลสัตว์ แห่งประเทศไทย คงไม่ได้เข้าข่ายตามความคิดผม วันนี้ไปถึงเข้าไปเยี่ยมแดง อาการดีขึ้นมากครับ ไข้เมื่อวาน103 ลดลงพ้นขีดจะช็อคได้แล้ว (หมอบอกตรับ) แต่ยังตัวรุมๆอยู่ ยังต้องอยู่ดูอาการปอดอีกหน่อย หน้าตาดูร่าเริงขึ้น เห็นเพื่อนผมก็ลุกขึ้นยืน แกว่งหาง ทำเสียงอิ๊ดอิ๊ดอยากกลับด้วย คงเหม็นกลิ่นฉี่ 55 ผมกับเพื่อนมองตากัน จากเดิมที่คิดว่าจะเอาแดงออกไปอยู่ รพส. ที่เคยเอาไอ้เว้าไปรักษา ก็ชักลังเล แดงไม่ได้แย่ลง ดีขื้นเยอะ พอหมอเดินออกไปจากห้อง ก็กระซิบปรึกษากัน หมอแกก็รักษาดี คืนเดียว แดงก็ดีขึ้น ลองดูไปรอบๆ กรงข้างๆมีพูดเดิล 1 กรง หมาหน้าตาแบบแดงอีกกรง อัลเซเชี่ยนตัวเบ้อเริ่ม อีกกรง น้องอัลนอนต้องขดตัวเหยียดตรงไม่ได้ครับ เกินลิมิตกรง มีโกลเดนนั่งหน้างออยู่ริมสุด หน้าอย่างงอเลยครับ คงอึดอัด ตัวนี้ฝากเลี้ยง เพื่อนเลยตัดสินใจว่า เอาแดงไว้ที่นี่ต่อแล้วกัน (ทนเหม็นฉี่หมาเอาหน่อยนะ แดง) ออกมาด้านหน้าเจอหมออีกครั้ง กำลังคิดว่าจะแหยมๆลองพูดเล่นๆว่า ห้องอับทึบเหม็นฉี่หมาดีไหม ยังกะมีซิกซ์เซนส์ หมอบอกว่าห้องเหม็นหน่อยนะครับ ตอนนี้ คน(เอาหมาแมว)มารักษาน้อย เศรษฐกิจไม่ดี ต้องลดคนงานลงเหลือคนเดียว ทำความสะอาดห้องวันละครั้ง ผมกับเพื่อน (พวกรักหมาจนเว่อรึเปล่า?) เลยได้ช่องแหยมๆเรื่องห้องเรื่องกรง หมอก็ถอนหายใจ บอกว่าอยากปรับปรุง แต่ช่วงนี้แย่ ไม่ค่อยมีเคส อีกหน่อยถ้าดีขึ้นก็อยากทำแน่ ผมดูๆ หมอคงรักษาดี เอาใจใส่หมาดี เพราะขนาดหมาพันธ์ยังมีคนเอามารักษา(หมอว่าน้องอัลเป็นของฝรั่ง) ยกเว้นเรื่องห้องและกรงข้างหลัง ด้านหน้าก็สะอาดใช้ได้ ถึงจะไม่เอี่ยมเหมือน รพส.และคลินิกส่วนใหญ่ ภาวนาให้เศรษฐกิจดีขึ้น หมอจะได้มีกำลังปรับปรุงห้องและกรงหมาให้ดีขึ้น ผมเห็นใบปริญญาหมอจบจากจุฬาด้วยครับ ขอบคุณความรู้ที่มีประโยชน์จากคุณหมอหมา ลูกฟ้าหม่น (ringsteward_mut) อีกครั้งครับ จากคุณ : รักคนตาหวานจังเลย เขียนเมื่อ : 18 ส.ค. 52 22:33:38 A:112.142.1.60 X: TicketID:227606