ความคิดเห็นที่ 1 เจ้าของรถเจาะ  รับเจาะมาตั้งแต่ปี 32  ก็ราว ๆ ยี่สิบปีแล้วค่ะ  ถามเค้าก่อน เลยว่า  ทราบได้อย่างไรว่าจะเจาะลงไปตรงไหนถึงจะมีน้ำบาดาลให้ได้สูบขึ้น มาใช้ค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:27:35

ความคิดเห็นที่ 2 เค้าบอกว่า  จริง ๆ แล้ว  ต้องไปขอให้ จนท.กรมทรัพย์ฯมาสำรวจ  แต่เนื่องจาก เครื่องมือสำรวจมีราคาแพงมาก  การเคลื่อนย้ายมาสำรวจอาจทำให้เสียหายได้ อีกทั้งยังต้องใช้เวลารอนานค่ะ   เค้าก็มีวิธีสำรวจของเค้าซึ่งใช้สำรวจหา แหล่งน้ำใต้ดินได้ผลดีค่ะ  คือใช้แท่งโลหะ  มีลักษณะคล้ายหนวดกุ้ง จึงเรียกว่าหนวดกุ้ง  จำนวนสองแท่งค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:31:52

ความคิดเห็นที่ 3 เค้าก็จะเดินสำรวจโดยถือเจ้าหนวดกุ้งไว้ในมือแบบหลวม ๆ ค่ะ  แล้วก็เดินไป เรื่อย ๆ ค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:33:11

ความคิดเห็นที่ 4 ถ้ามีแหล่งน้ำใต้ดิน  เจ้าปลายหนวดกุ้งก็จะเบนเข้าหากันค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:34:17

ความคิดเห็นที่ 5 เค้าว่า  ทางของลำธารน้ำใต้ดินจะมีตะกอนของแร่เหล็กนอนก้นอยู่  จะดึงดูด ให้ปลายเหล็กหนวดกุ้งเบนเข้าหากันค่ะ  คนที่ถือหนวดกุ้งข้างบนพื้นดินจึง ทราบตำแหน่งที่จะเจาะค่ะ  เค้าว่า  ถ้าเป็นฝรั่งที่มีความชำนาญ  จะยิ่งทราบ ว่ามีปริมาณน้ำมากหรือน้อย  ตื้นหรือลึกกี่เมตรกันเลยค่ะ  เค้าว่า  เค้าเคย เจอฝรั่งที่คุมเครื่องเจาะ  แต่สื่อสารกันไม่เข้าใจ  ก็เลยได้ความรู้มาไม่มากค่ะ เค้าใช้เวลาสำรวจไม่ถึงห้านาทีก็ทราบค่ะ  เร็วมากจริง ๆ  ค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:40:44

ความคิดเห็นที่ 6 นี่เป็นหัวเจาะค่ะ  มีความสามารถเจาะชั้นหินใต้ดินให้ทะลุได้สบายมากค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:41:48

ความคิดเห็นที่ 7 เค้าจะรับเจาะให้เจ้าของบ้านโดยไม่รับเงินล่วงหน้าหรือเงินมัดจำบางส่วนไว้ เลยค่ะ  คือมาถึง  สำรวจ  แล้วบอกราคาไว้  เจาะได้น้ำแล้ว  เจ้าของบ้านถึง จ่ายเงินค่าเจาะตามจำนวนที่บอกกันไว้ค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:44:31

ความคิดเห็นที่ 8 ถ้าบ่อแรกเจาะแล้วไม่ประสบความสำเร็จ  ไม่ได้น้ำมาใช้  ในวันนั้นเค้าจะ สำรวจแล้วเจาะให้ใหม่อีกบ่อหนึ่งค่ะ  ถ้าได้น้ำก็จ่ายตังค์เท่าเดิม  ไม่ต้องเพิ่ม เงินค่ะ  แต่ถ้าไม่ได้น้ำ  เค้าก็จะเลิกเจาะโดยไม่รับเงินเลย  แล้วก็จะไม่เจาะ ที่นี่อีก  จะย้ายไปเจาะรายใหม่ต่อไปค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:47:28

ความคิดเห็นที่ 9 ปั่นจั่นค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:48:38

ความคิดเห็นที่ 10 เจาะเสร็จ  วางปั๊ม  เดินไฟฟ้าให้แค่นี้ค่ะ แก้ไขเมื่อ 23 ส.ค. 52 20:02:17 จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:50:10

ความคิดเห็นที่ 11 ที่เหลือต่อจากนี้  เป็นงานของเจ้าของบ้านแล้วค่ะ  เสร็จงานเจาะบ่อบาดาล เจ้าของบ้านต้องจ่ายตังค์  แล้วเจ้าของรถเจาะก็ไปเจาะรายใหม่ต่อไปค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 18:52:17

ความคิดเห็นที่ 12  ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ จากคุณ : ไม้หอมถึงคุณ... (maihom2u) เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 19:19:57

ความคิดเห็นที่ 13 แล้ว บ่อที่เจาะนี้ลึกกี่เมตรครับ  ราคาค่าเจาะเท่าไร  น้ำออกมากมั้ยครับ แค่สงสัยนะครับ  แหะ แหะ   ^^! จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 20:05:01

ความคิดเห็นที่ 14 เจาะแล้วครับ     ลึก 40 กว่าเมตร  ปริมาณน้ำ 1000 ลิตร ที่ 10 นาที นิดหน่อย ทำแท้งค์ไว้เก็บอีก ทำไว้สูงๆ กะไว้ให้แรงดันน้ำ ดันเข้าบ้านเลย ปั้มซับเมิร์ส ฯ จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก และจะได้ไม่ต้องมีปั้มป์อีกตัว ไว้สูบเข้าบ้าน ( จะได้ไม่ต้องมีคนมายืมไปใช้ แล้วไม่มาคืน ) มองข้ามช็อทไปว่า แรงดันน้ำน่าจะจ่ายสปริงเกิ้ลได้อีกด้วย ( ได้คืบจะเอาศอก ) ล่าสุด ไปก้มๆ เงยๆ ดูเครื่องกรองน้ำ บาดาลที่โฮมโปร ปากช่องมาวันนี้ ราคาค่าตัว สองหมื่นกว่าๆ แถมน้ำด้านออกยังออกเอื่อยๆ  ( 1000 ลิตร ต่อ ชม.) คนขายบอกว่า ต้องลดแรงดันขาเข้า เพราะเดี๋ยวเครื่องพัง มันก็เลยทำให้แรงดัน ขาออกมันก็เลยเอื่อยไปด้วย  อ้าว แล้วงั้นต้องทำจะใดล่ะคับเพ่ คนขายก็บอกว่า โดยปรกติ น้ำขาออกจากเครื่องกรอง เขาจะต้องต่อเข้าถังพัก แล้วใช้ปั้มป์ สูบเข้าใช้ในบ้านอีกที   อ้าว งั้นข้อยต้องลงทุนทำถังพักแล้วยังต้อง หันมาใช้ปั้มป์สูบเข้าบ้านอีกหรือเนี่ยะ ( เปิดน้ำที ปั้มป์ทำงานที เหมือนบ้าน กทม เลย ) เฮ้อ  เอาไงดีเนี่ยะ   สรุปค่าเสียหาย ณ ปัจจุบัน ค่าเจาะบาดาล ( 40 เมตร )    7X,XXX บาท   ค่าแท้งค์                           4X,XXX บาท   กรองน้ำ + แท้งค์ + ปั้มป์ อีกเท่าไหร่   ...... แปรงฟัน ล้างหน้า อาบน้ำ ล้างจาน มันตรงๆ ดิบๆ อย่างนี้เลยไม่ได้หรือ น้ำในแท้งค์มันก็ตกตะกอนอยู่แล้วนี่นา.. จากคุณ : Dominant_7th เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 20:15:21

ความคิดเห็นที่ 15 หน้าตาแบบนี้   ( ไม่แน่ใจว่าจำรุ่นผิดหรือเปล่า ) จากคุณ : Dominant_7th เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 20:26:33

ความคิดเห็นที่ 16 ขอขอบคุณเสือกุดโง้งที่มาช่วยตอบแทนเสือวังไทรจ๊ะ  ต้องอย่างนี้ซิน้องพี่ รายที่พี่เจอนี่เค้าคิดราคา ห้าห้า จ๊ะ  ลึกกี่เมตรก็เหมาเท่านี้ค่ะ  แตกต่างกันบ้าง นิดหน่อย  อาจจะใช้ซับเมิร์สแรงม้าต่างกันก็ได้  หรือไปลดเรื่องความหนา บางของท่อพีวีซีก็ได้ค่ะ พี่ยังไม่ได้ตัดสินใจเจาะเลย  ให้เค้ามาสำรวจก็เจอน้ำ  แต่กังวลเรื่องหินปูน ในน้ำ  กับเครื่องกรองน้ำที่เหมาะสมค่ะ  ตอนนี้ทนใช้น้ำประปาหมู่บ้านสีน้ำ คลองไปพลาง ๆ ก่อน  น้องชาวบ้านใช้น้ำล้างหน้าแล้ว  สิวขึ้นเพียบเลย แต่พี่เลยวัยแล้ว  มิเป็นปัญหาค่ะ จากคุณ : egae41 เขียนเมื่อ : 23 ส.ค. 52 21:20:34

ความคิดเห็นที่ 17 แถวหมู่บ้านที่อยู่ไม่มีน้ำประปาเพราะว่าอยู่นอกเขตเมือง ก็ต้องรองน้ำฝนเอาเก็บเข้าในถัง (15,000 แกลลอน) แล้วปั๊มป์เข้ามาใช้ในบ้านและนอกบ้าน นี่ค่ะ เครื่องปั๊มป์ติดตั้งอยู่บนถังพัก แล้วผ่านแสง UV ฆ่าเชื้อโรค แล้วผ่านตัวกรองอีกที เปลี่ยนใส้กรองเดือนละครั้ง หลอดแสง UV ปีละครั้ง จากคุณ : Izu เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 07:34:30

ความคิดเห็นที่ 18 ^ ^ น้ำฝนต้องฆ่าเชื้ออีกเหรอครับ   บ้านผมจากหลังคาลงโอ่งเวลาจะใช้เปิดออกมาเลยครับ อิอิ   พี่Dominant_7th   ใส่แทงค์ใหญ่ขนาดนี้ ปล่อยมาใช้ดิบๆ  ก็ได้(มั่ง)ครับ เพราะปะปาบ้านนอกก็แบบนี้ครับ ถ้าไม่เอามาดื่มกิน ก็คงไม่ต้องกรอง  นอกจากว่าจะเป็นน้ำกระด่างมาก ก็คงต้องกรองกันหน่อยหรือปล่อยให้ตกตะกอนนอนค้างคืนนานหน่อย   ซัก ล้างทั่วๆ  ไปหาโอ่งใบโตๆ มาเก็บน้ำฝนอีก 2-3 ใบ  ใช้ทั้งปีครับ จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 10:36:09

ความคิดเห็นที่ 19 ใน คคห.2 คนเจาะโม้มากไปหน่อย ที่จริงแล้ว สำนักทรัพยากรน้ำบาดาล ในแต่ละเขตจะมีแผนที่แสดงชั้นน้ำบาดาลในเขตรับผิดชอบ ไปขอดูได้ เอาไปดูเล่นๆ นะครับ http://www.dgr.go.th/isdgr/file/limestone/limestone_chaingmai.pdf แก้ไขเมื่อ 24 ส.ค. 52 23:23:03 จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 24 ส.ค. 52 23:18:55

ความคิดเห็นที่ 20 *********************** น้ำฝนต้องฆ่าเชื้ออีกเหรอครับ   บ้านผมจากหลังคาลงโอ่งเวลาจะใช้เปิดออกมาเลยครับ *********************** เหมือนกันเลยน้องดง ตอนสมัยเด็กๆอยู่บ้านนอกก็แบบนั้น ไม่เห็นมีใครเป็นอะไรแถมมีภูมิต้านทานดีด้วยสิ นี่ยังไม่ได้บอกนะว่าก๊อกในครัวยังมีเครื่องกรองติดอยู่อีกหนึ่งตัวสำหรับใช้กับน้ำดื่มกิน ขนาดนี้คุณสามี (คนกรุงเทพฯ) ยังไม่กล้าเอามาใช้หุงต้มเลย แก้ไขเมื่อ 25 ส.ค. 52 06:57:06 จากคุณ : Izu เขียนเมื่อ : 25 ส.ค. 52 06:54:05