 |
ความคิดเห็นที่ 1 |
........................."สวัสดีค่ะทุกๆ ท่าน "ภพภรณ์ พานหล้า หรือน้องโบ สาวน้อยวัยใส ลูกสาวลุงแบน พานหล้า เจ้าของฟาร์ม (ตัวจริง) กล่าวต้อนรับพวกเราก่อนพาเยี่ยมชมภายในฟาร์ม โดยจุดแรกจะเป็นโรงเรือนสำหรับเพาะฟักและกรงอนุบาลลูกอ่อน พร้อมดูขั้นตอนการตรวจสอบเชื้อของไข่แต่ละใบโดยเครื่องมืออันทันสมัย โดยสังเกตดูว่ามีเส้นเลือดหรือไม่ หากไม่มีก็แสดงว่าไข่ใบนั้นไม่มีเชื้อที่พร้อมจะฟักเป็นลูกเจี๊ยบ และสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้
"ทุกๆ เช้าเราจะต้องมาตรวจดูตามกรงต่างๆ ว่าไก่ตัวใดไข่หรือไม่ จากนั้นก็เก็บรวบรวมไข่ให้ได้ 10-30 ใบแล้วนำมาเข้าตู้อบประมาณ 3 วัน แล้วตรวจดูเชื้อว่ามีหรือไม่ ถ้ามีก็คัดแยกออกมาเพื่อเพาะฟักเป็นลูกอ่อนต่อไป ซึ่งไข่ที่มีเชื้อแต่ละใบจะมีราคาไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับชนิดของไก่ฟ้า อย่างหลังขาว อยู่ที่ 1,000 บาท พญาลอ 3,000 บาท ยูงไทย 3,000 บาท ซึ่งราคาก็ใกล้เคียงกับลูกไก่จะต่างกันประมาณ 200-300 บาท" ภพภรณ์ เผยระหว่างนำชมโรงเพาะฟัก
ภพภรณ์ เผยต่อว่า ลูกค้าส่วนใหญ่จะนิยมซื้อลูกไก่เนื่องจากสามารถนำไปเลี้ยงต่อได้ทันที ขณะที่บางคนมีปัญหาในการนำพาไปก็เลือกที่จะซื้อไข่ไก่เพื่อนำไปเพาะฟักเองแทน ซึ่งลูกค้ากลุ่มนี้ฟาร์มก็จะมีการรับประกันให้ด้วย ส่วนขั้นตอนการเพาะฟักนั้นหลังจากใช้ระยะเวลาฟักประมาณ 21 วันก็จะออกเป็นลูกเจี๊ยบ จากนั้นก็นำไปกกไฟขนาด 25 วัตต์ ประมาณ 15 วัน จึงจะนำมาเลี้ยงในกรงต่อไป
หลังจากเดินดูโรงเรือนเพาะฟักพร้อมขั้นตอนการเพาะฟักอยู่พักใหญ่ จากนั้นจึงเดินไปที่กรงขนาดใหญ่สำหรับเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ ปัจจุบันมีอยู่ 180 กรง และกรงอนุบาลลูกเจี๊ยบอีก 40 กรง ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน มีทั้งกรงเดี่ยว เลี้ยงตัวเดียว กรงคู่สำหรับการผสมพันธุ์และกรงที่เลี้ยงรวมกันหลายๆ ตัวสำหรับขุนเพื่อการจำหน่ายโดยเฉพาะ
ภพภรณ์ระบุอีกว่า ปัจจุบันไก่ฟ้าที่เลี้ยงในฟาร์มมีอยู่ประมาณ 700-800 ตัว มีทั้งไก่ฟ้าสายพันธุ์ไทยและสายพันธุ์ต่างประเทศ โดยสายพันธุ์ที่ได้รับความนิยมได้แก่ พญาลอ หน้าเขียว หลังขาว จันทบูร ไก่ฟ้าลิฟมาจากจีน ซึ่งสายพันธุ์เหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีราคาค่อนข้างสูงเฉลี่ยตั้งแต่ 15,000-50,000 บาทต่อตัว โดยราคาซื้อขายจะไม่มีเกณฑ์ที่ตายตัวขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาดด้วย
จากคุณ |
:
ญี่ปุ่น35
|
เขียนเมื่อ |
:
24 ส.ค. 52 00:55:19
|
|
|
|
 |