PANTIP.COM : J8247286 ~~ Vibravet สามารถหาซื้อมากินเองได้โดยไม่ต้องไปตรวจเลือดมั้ย ~~ [แมว]

ความคิดเห็นที่ 6

โรคพยาธิเม็ดเลือดติดต่อจากเห็บและหมัดเป็นพาหะคับ ไม่มีวัคซีนป้องกัน แม้แต่การฉีดยาหรือหยอดยากันเห็บ ก็ไม่สามารถรับรองได้ว่าสุนัขจะปลอดภัยจากโรคนี้ 100% เพราะพวกยากันเห็บจะออกฤทธิ์ได้ต่อเมื่อเห็บดูดเลือดมาก่อนจึงโดนยาเข้าไปแล้วตาย ซึ่งโรคพยาธิเม็ดเลือดนี้ก็ติดจากการถูกเห็บ หรือหมัดดูดเลือดนี่แหละ ถึงเห็บจะตายไปแล้วแต่ก่อนตายก็อาจฝากโรคให้หมาคุณได้เช่นกัน

ความรุนแรงของโรคมีปัจจัยหลายอย่างประกอบกัน เช่น
1. ชนิดของพยาธิเม็ดเลือดที่หมาคุณได้รับ พยาธิเม็ดเลือดที่พบในปัจจุบัน มีอยุ่4ชนิด แต่ละชนิดมีความร้ายแรงไม่เท่ากัน บางชนิดยากแก่การรักษาเพราะไม่ค่อยตอบสนองต่อยา แต่ชนิดที่ทำให้สุนัขเลือดกำเดาไหลน่าจะเป็นชนิดที่รักษาง่ายที่สุดแล้วคับ เพราะงั้นรีบไปหาหมอเลย ก่อนจะสายเกินแก้

2. ระยะเวลาของการเกิดโรค สุนัขที่แสดงอาการของโรคเฉียบพลัน จะรู้สึกว่าสุนัขอาการหนักแต่ถ้ารีบรักษาก็หายได้เร็ว เมื่อเทียบกับสุนัขที่เป็นโรคนี้มานานแต่ไม่แสดงอาการให้เห็น จะเรียกว่าติดเชื้อแฝงหรือระยะพาหะหรือเรื้อรังก็ดี พวกนี้ยิ่งผ่านไปนานสุนัขมีแต่ยิ่งโทรมไปทีละนิดๆ และพอทรุดเมื่อไหร่การรักษาจะยุ่งยาก และมีความเสี่ยงที่จะไม่รอด

3. ความเสียหายของร่างกายจากโรค อาการโดยทั่วไปของโรคนี้หลักๆคือ อาการโลหิตจาง เนื่องจากพยาธิจะทำลายเม็ดเลือดแดง ถ้าสัตว์ยังสุขภาพแข็งแรงอยู่ก็อาจสร้างเลือดชดเชยได้จากอาหารการกิน แต่ถ้าเป็นนานๆเข้าอาจเกิดภาวะโลหิตจางรุนแรงจนเสียชีวิต แต่ความเสียหายไม่ได้มีแค่นี้ ผลของการติดเชื้อยังลามไปถึงอวัยวะอย่างอื่น เช่น ตับ ไต ม้าม บางชนิดไปที่ปอด ซึ่งอวัยวะที่กล่าวมาล้วนสำคัญต่อการมีชีวิตทั้งสิ้น หากเกิดความเสียหายขึ้น สุนัขจะทรุดเร็วมาก และทำการรักษาได้ยากยิ่ง เพราะยารักษาพยาธิเม็ดเลือดมีผลข้างเคียงต่อตับและไตด้วย ถ้าสัตว์เป็นโรคตับหรือไตเนื่องจากการติดเชื้อเรื้อรังอยู่ก่อนแล้ว การให้ยาฆ่าพยาธิเม็ดเลือดทันทีมีแต่จะทำให้สุนัขตายเร็วขึ้น กรณีแบบนี้การรักษาวิธีอื่นอาจต้องพิจารณาเอามาใช้ร่วมด้วย ซึ่งเท่ากับว่าค่าใช้จ่ายยิ่งสูงขึ้น

4. ความต้านทานโรคของสุนัขเอง สุนัขบางตัวมีภูมิต้านทานต่อโรคนี้ โดยเฉพาะตัวที่เคยเป็นมาก่อนพอหายแล้วก็มีภูมิต้านทาน แต่ภูมิต้านทานนี้แค่ทำให้สุนัขที่ติดเชื้อไม่แสดงอาการป่วยเท่านั้น ไม่ได้วิเศษถึงขนาดป้องกันโรคนี้ได้ ถ้าติดเชื้อมากหรือเป็นมานานยังไงก็เอาไม่อยู่ และอันตรายของมันคือกลไกการต่อต้านเชื้อของภูมิต้านทานนี้แหละ ที่จะส่งผลต่ออวัยวะอื่นๆในร่างกาย ทำให้ร่างกายสัตว์เสื่อมโทรมลงในอนาคตคับ

วิธีการตรวจเชื้อที่ดีสุด คือการเจาะเลือดแล้วตรวจเจอพยาธิในเลือด แต่หลายครั้งก็ตรวจไม่พบ ขึ้นกับระยะเวลาที่ติดเชื้อ จึงต้องพิจารณาร่วมกับอาการอย่างอื่น นอกจากนี้ยังมีวิธีตรวจหาจากการเช็คระดับภุมิต้านทานด้วย ซึ่งบางครั้งก็ไม่ชัวร์ เพราะสุนัขบางตัวติดเชื้อจริงแต่ยังไม่มีภูมิต้านทานโรค การตรวจวิธีนี้ก็ไม่ได้ผล เพราะฉนั้นการวินิจฉัยจึงจำเป็นต้องใช้หลายๆวิธีประกอบการพิจารณาร่วมกัน ยิ่งตรวจมาก ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งมากคับ

เรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาอย่างที่บอกขึ้นกับว่าเป็นมากเป็นน้อย สุนัขมีอาการอย่างอื่นแทรกซ้อนหรือปล่าวถ้าโชคดีเพิ่งเป็นกินยา2-3อาทิตย์ก็หาย แต่ถ้าเป็นหนักมาก อาจต้องให้น้ำเกลือ ต้องถ่ายเลือด ต้องฟอกไต คงประเมินค่ารักษาลำบากนะคับ

การป้องกันที่ดีที่สุดอย่าให้มีเห็บหมัดขึ้นตัวสุนัขคับ อย่างที่บอกตอนต้น การพึ่งพาผลิตภัณฑ์กำจัดเห็บประเภทหยอดหรือฉีดเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถป้องกันการติดโรคนี้ได้100% คือเห็บอาจไม่มีเพราะตายหมด แต่ไม่ได้แปลว่ามันแพร่เชื้อให้หมาไม่ได้นะคับ ระวังถูกคนหลอกขายยาด้วยเรื่องนี้ เจ้าของจึงควรใส่ใจเป็นพิเศษ เช่น หมั่นอาบน้ำด้วยแชมพูกำจัดเห็บบ้าง ถ้าสุนัขไม่แพ้แชมพู บริเวณบ้านที่น่าจะเป็นรังเห็บเช่น ซอกรอยร้าวตามพื้น ผนัง พื้นดิน สนามหญ้า ที่ชื้นแฉะ ที่พวกนี้แหละที่เห็บชอบทำรัง ต้องกำจัดแหล่งพวกนี้ออกไปจากบ้านด้วยคับ ส่วนการใช้ยาหยอดหรือฉีดเป็นเพียงการป้องกันด่านสุดท้ายที่ตัวสุนัขเท่านั้นนะคับ กำแพงเมืองแข็งแค่ไหน ถ้าข้าศึกเข้าประชิดไม่หยุดหย่อนยังไงก็พังคับ

จากคุณ : ultiga (ultiga)

เขียนเมื่อ : 26 ส.ค. 52 15:47:32