ความคิดเห็นที่ 1 FLUTD : Feline Lower Urinary Tract Disease : โรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว   โรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมวหรือ FLUTD ประกอบด้วยกลุ่มอาการต่างๆซึ่งส่วนใหญ่ก่อให้เกิดการอักเสบของทางเดิน ปัสสาวะส่วนล่าง แมวป่วยมักแสดงอาการเหมือนกระเพาะปัสสาวะอักเสบในคน เช่นการมีเลือดในปัสสาวะ  อาการปัสสาวะไม่ออกหรือลำบาก   ในแมวบางตัว การเกิดผลึกนิ่วในทางเดินปัสสาวะส่วนล่างสามารถทำให้เกิดการอุดตันทางเดิน ปัสสาวะได้ ซึ่งพบได้บ่อยในแมวเพศผู้เนื่องจาก ท่อปัสสาวะของแมวเพศผู้แคบกว่าท่อปัสสาวะของแมวเพศเมีย   ในแมวที่ไม่สามารถถ่ายปัสสาวะได้ สามารถเสียชีวิตได้ภายใน 2-4 วัน  เนื่องจากกรณีที่มีการอุดตัยของท่อปัสสาวะนั้นจะทำให้น้ำปัสสาวะไหลย้อนกลับ ขึ้นไปทำลายไต และทำให้เกิดไตวายตามมาได้ จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 20:56:13

ความคิดเห็นที่ 2 สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง   ไม่มีสาเหตุที่แน่นอนของโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง  แต่จากการศึกาพบว่ามีปัจจัยเสี่ยงดังนี้    * อาหาร : ระดับแร่ธาตุบางชนิดที่สูงเกินไปจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเกิดผลึกนิ่วใน ปัสสาวะ แร่ธาตุแมกนีเซียมและฟอสฟอรัส เป็นส่วนประกอบสำคัญของในนิ่วสตรูไวท์ (struvite) ซึ่งเป็นนิ่วี่พบได้บ่อย  ดังนั้นจึงควรีการควบคุมปริมาณแร่ธาตุเหล่านี้ในอาหารให้มีปริมาณน้อย  นอกจากนี้อาหารแมวยังมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงความเป็นกรด-ด่างในปัสสาวะ ซึ่งนิ่วแต่ล่ะชนิดจะมีการก่อตัวในสภาพความเป็นกรด-ด่างที่แตกต่างกัน  เช่นนิ่วสตรูไวท์จะก่อตัวในปัสสาวะที่เป็นด่าง  ในขณะที่นิ่วแคลเวียมออกซาเลท (calcium oxalate) จะก่อตัวได้ดีในปัสสาวะที่เป็นกรด   ดังนั้นการให้อาการที่ปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่างของปัสสาวะได้เหมาะสมก็จะ ช่วยลดโอกาสการเกิดผลึกนิ่ว    * พฤติกรรม : การขาดการออกกำลังกาย การถูกกักขัง การกินน้ำน้อย การอั้นปัสสาวะ เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล้าง    * สภาพร่างกาย : แมวที่มีน้ำหนักเกินหรืออ้วนเนื่องจากอาหารและปัจจัยแวดล้อม มความเสี่ยงต่อการเกิโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง    * เพศ : แมวทั้งเพศผู้และเพสเมียมีความเสี่ยงในการเกิดโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง เทาๆกัน  แต่แมวเพศผู้มีความเสี่ยงในการเกิดการอุดตันมากกว่าแมวเพศเมีย  เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของท่อทางเดินปัสสาวะที่เล็กกว่าแมวเพศเมีย   * ความเครียด : การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อม  การมีสัตว์เลี้ยงตัวใหม่ *** จากการศึกษาในปัจจุบันพบว่าการทำหมันแมวเพศผู้ตั้งแต่อายุน้อย ไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดปัญหาท่อทางเดินปัสสาวะส่วนล่างอุดตันแต่อย่างใด *** อ้างอิง  การทำหมันแมวเพศผู้อายุน้อย ไม่มีความเกี่ยวข้องกับการอุดตันของทางเดินปัสสาวะ http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2008/10/J7116261/J7116261.html แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 52 21:22:21 จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 20:58:12

ความคิดเห็นที่ 3 อาการของแมวที่เป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง    * ปัสสาวะบ่อย แต่ปริมาณน้อย    * ปัสสาวะผิดที่ หรือปัสสาวะนอกกระบะทราย    * มีเลือดในปัสสาวะ    * เลียที่อวัยวะเพศบ่อยๆ  โดยเฉพาะในแมวตัวผู้    * แสดงอาการเจ็บปวด หรือเกร็งเวลาถ่ายปัสสาวะ *** ในแมวที่ไม่สามรถถ่ายปัสสาวะได้ เนื่องจากเกิดกาอุดตันทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง จำเป็นต้องได้รับการรักษาทันที เพราะเป็นปัญหาที่อันตรายถึงชีวิต *** จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 20:59:40

ความคิดเห็นที่ 4 การวินิจฉัยโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง    * จากประวัติและอาการ : ปัสสาวะเป็นเลือด หรือปัสสาวะไม่ออก    * จากการตรวจร่างกาย : เจ็บเกร็งเมื่อคลำช่องท้อง  พบกระเพาะปัสสาวะมีขนาดใหญ่ในรายที่การอุดตันทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง    * การตรวจวิเคาะห์ปัสสาวะเพื่อดูผลึกที่ละลายอยู่ในปัสสาวะ (เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการระบุชนิดของนิ่ว)    * การ x-ray หรือ ultrasound ช่องท้อง เพื่อดูก้อนนิ่วในกระเพาะปัสสาวะ อาจพบหรือไม่พบก้อนนิ่วก้ได้  เนื่องจากก้อนนิ่วมีหลายชนิด มีทั้งแบบที่มองเห็นและมองไม่เห็น *** ก้อนนิ่วที่ผ่าตัดเอาออกมาจากกระเพาะปัสสาวะ ไม่สามารถที่จะระบุชนิดของนิ่วจากรูปร่างของก้อนนิ่วได้  เนื่องจากก้อนนิ่วที่จับตัวเป็นก้อนนั้นมีแร่ธาตุหลายอย่างผสมกันอยู่   การจะระบุชนิดของนิ่วจากก้อนนิ่วที่ผ่าออกมานั้นปัจจุบันสามารถตรวจได้เพียง ที่เดียวคือที่ Minnesota Urolith Center ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา  (สอบถามรายละเอียดการส่งตรวจก้อนนิ่วเพื่อระบุชนิดนิ่วได้ที่สถานพยาบาล สัตว์ที่รักษาอยู่   โดยเป็นการส่งผ่านบริษัท เวท เรคคอมเมนด์ จำกัด : VET. RECOMMENDED CO., LTD.   ซึ่งเป็นบริษัทตัวแทนจำหน่ายอาหารของ Hill's) จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:02:04

ความคิดเห็นที่ 5 ลักษณะของผลึกนิ่วในปัสสาวะ (Crystal Identification)  และ ลักษณะของก้อนนิ่วที่ผ่าออกจากกระเพาะปัสสาวะ (Urolith Identification) นิ่วสตรูไวท์ จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:03:27

ความคิดเห็นที่ 6 นิ่วแคลเซียมออกซาเลท จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:04:02

ความคิดเห็นที่ 7 การรักษาโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง   ขึ้นอยู่กับอาการ ลักษณะของปัยหา การอุดตัน และชนิดของก้อนนิ่ว    * การรักษาทางยา : ยาปฏิชีวนะในรายที่มีการติดเชื้อ ยาขับปัสสาวะ หรือกลุ่มยาที่มีฤทธิ์ขยายท่อปัสสาวะ    * การปรับสมดุลกรดด่างของปัสสาวะ เพื่อให้นิ่วละลาย (ต้องทราบชนิดของนิ่วที่เป็นก่อน)    * การสอดท่อปัสสาวะในรายที่มีการอุดตัน    * การให้สารน้ำ เพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำ และการบรรเทาตามอาการอื่นๆ    * กรณีมีก้อนนิ่ว  ขึ้นอยู่กับชนิดของนิ่วว่าจะผ่าตัด รักษาด้วยยา หรืออาหารสัตว์ป่วยเฉพาะโรค    * การผ่าตัดแปลงเพศในแมวเพศผู้ที่เกิดการอุดตันท่อทางเดินปัสสาวะส่วนล่งแบบแก้ไขไม่ได้ การดูแลระยะยาว    * เลือกใช้อาหารสัตว์ป่วยเฉพาะโรคที่เหมาะสมกับปัญหาที่เป็น    * ไม่ให้แมวกินของขบเคี้ยว อาหารปรุงเอง หรือวิตามินอาหารเสริมเองโดยเด้ดขาด    * จัดหาน้ำดื่มที่สะอาดให้แมว  หากจำเป็นอาจต้องบังคับป้อนน้ำให้แมวเป็นระยะ    * หมั่นดูแลกระบะทราย ดูการขับถ่ายของแมวเป็นประจำ    * เมื่อแมวเริ่มแสดงอาการผิดปกติเกี่ยวกับปัญหาทางเดินปัสสาวะส่วนล่างรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที ข้อแนะนำในการให้อาหารสัตว์ป่วยเฉพาะโรค   อาการเบื่ออาหารหรือปฏิเสธอาหารสัตว์ป่วยเฉพาะโรคอาจพบได้ในแมวหลายๆตัว  หากแมวของท่านปฏิเสธการกินอาหารให้ลองปฏิบัติดังนี้    * เปลี่ยนแปลงอาหารอย่างช้าๆ  โดยเริ่มจากการผสอาหารใหม่กับอาหารเก่า และค่อยๆเพิ่มสัดส่วนอาหารใหม่ทุกๆวันทีละน้อย จนกระทั่งเปลี่ยนเป็นอาหารใหม่ 100%    * หากเป็นอาหารเปียกสามารถอุ่นอาหาร ให้อุ่นๆ เพื่อเพิ่มความน่ากินของอาหาร ระวังอย่าให้อุณหภูมิสูงเกินไป    * หกแมวของท่านไม่ยอมกินอาหารเกินกว่า 48 ชั่วโมง รีบปรึกษาสัตวแพทย์ทันที *** ในบางกรณีอาจจำเป็นต้องใช้วิธีการบังคับป้อนอาหาร  โดยใช้อาหารผสมน้ำและปั่นให้ละเอียด และบังคับป้อนด้วย Syringe  หรืออาจผสมอาหารที่แมวชอบ  แต่ต้องเป็นอาหารที่ไม่ปรุงรสลงไปในอาหารสัตว์ป่วยโดยอัตราส่วนไม่เกิน 10% ของปริมาณอาหารสัตว์ป่วยที่ต้องกิน เพื่อเพิ่มความน่ากินของอาหาร   (อาหารสัตว์ป่วยเฉพาะโรคต่อให้ดีเลิศแค่ไหนก็ตาม ถ้าไม่สามารถทำให้สัตว์กินได้ก้ไม่มีประโยชน์) อาหารสัตวป่วยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับปัญหาทางเดินปัสสาวะส่วนล่างและปัญหานิ่ว   1. อาหารแมวป้องกันนิ่วทุกชนิด c/d (อาหารเม็ด) ของบริษัท Hill's     2. อาหารแมวสลายนิ่วสตรูไวท์ s/d (อาหารเม็ด) ของบริท Hill's   3. อาหารแมวสลายนิ่วชนิดสตรูไวท์ (อาหารเปียก) ของบริษัท Hill's   4. Urinary S/O สูตรรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ (อาหารเม็ด) ของ Royal Canin   5. Urinary S/O สูตรรักษาโรคทางเดินปัสสาวะ (อาหารเปียก) ของ Royal Canin อ้างอิงจาก    * เอกสารเรื่องโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมว ของบริษัทเวท เรคคอมเมนด์ จำกัด    * คู่มือ Managing Crystalluria and Urolithiasis Feline & Canine ของบริษัท Hill's    * Handbook of CAT HEALTH ของบริษัท Pfizer)    * The 5-Minute Veterinary Consult: Canine and Feline    * เรียบเรียงใหม่โดย kittyob  จุนหมอรูปหล่อ เมียจ๋วย   แก้ไขเมื่อ 27 ส.ค. 52 21:29:30 จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:06:52

ความคิดเห็นที่ 8 ปูรู ขอตัวก่อนนะกั๊บ   นู๋กตออน M มาจากอียิปต์  ขอตัวไปคุยกับเมียคนจ๋วยก่อน   จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:14:42

ความคิดเห็นที่ 9 ขอบคุณมากค่ะสำหรับสาระดีมีประโยชน์ ขอบพระคุณมากๆ เลยค่ะ จากคุณ : Mr.Good เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 21:22:46

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณคุณหมอสำหรับข้อมูลดีๆ ค่ะ รบกวนถามคุณหมอหน่อยนะคะ ว่าเด็กๆ ที่บ้านกินน้ำกับนมเยอะเลยค่ะ ฉี่ออกมาก็มีจำนวนเยอะมาก ทรายหมดเร็วจริงๆ ไม่ทราบว่าผิดปกติไหมคะ? จากคุณ : ดาวไร้แสง เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 22:12:28

ความคิดเห็นที่ 11 กินน้ำเยอะก็จะฉี่เยอะเป็นเรื่องปกติครับ   ปล.แต่ก็ต้องแยกระหว่างการกินน้ำมากตามปกติ (และฉี่มากตามมาจากผลของการกินน้ำ)  กับภาวะ PU/PD ครับ ภาวะถ่ายปัสสาวะมากกว่าปกติ/กินน้ำมากกว่าปกติ : PU/PD   เป็นภาวะที่มีการถ่ายปัสสาวะมากกว่าปกติ (มากกว่า 50 ml/kg/วัน) และกินน้ำมากกว่าปกติ (มากกว่า 100 ml/kg/วัน)   โดยเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของกลไกการควบคุมความกระหายน้ำและการขับถ่าย ปัสสาวะ หรือหน้าที่การทำงานของไตลดลง   ควรแยกอาการ PU/PD ออกจากอาการถ่ายปัสสาวะบ่อย หรือถ่ายปัสสาวะกระปริดกระปรอยจากปัญหาของทางเดินปัสสาวะส่วนล่างเช่นนิ่ว หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ สาเหตุ    * สาเหตุที่พบบ่อย          o ไตวาย          o เบาหวาน          o มดลูกเป็นหนอง          o Hyperthyroidism    * สาเหตุที่พบได้บ้าง          o เบาจืด          o มีฝีในไต          o ไตวายเฉียบพลัน          o Hypokalemia          o Hypercalcemia ซึ่งหากไม่มีการวัดปริมาณน้ำที่กินต่อวัน และปริมาณฉี่ ที่แมวฉี่ออกมาต่อวันก็จะบอกยากครับว่าเป็นภาวะ PU/PD หรือไม่ จากคุณ : kittyob เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 22:23:31

ความคิดเห็นที่ 12 มาปรบมือให้สุดยอดจุนหมอประจำห้องแมว ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ จากคุณ : happyforever เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 22:37:32

ความคิดเห็นที่ 13 ได้รับความรู้จากจุนหมอรูปหล่อ เมียสวย เรื่อยๆอย่างนี้ ดีจังเลยค่ะ.. ขอบคุณคุณหมอที่ให้ความรู้เรื่อยๆนะคะ จากคุณ : มะหมา+มะเหมียว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 23:21:18

ความคิดเห็นที่ 14 ป.ล.กิ๊ฟหมด เอาจุ๊บๆไปแทนละกันนะเคอะ จากคุณ : มะหมา+มะเหมียว เขียนเมื่อ : 27 ส.ค. 52 23:22:21

ความคิดเห็นที่ 15 ขอบคุณค่ะคุณหมอ ปล. ลูกๆที่บ้านเริ่มเบื่ออาหารอีกแล้ว ไม่รู้จะสรรหายี่ห้อ ไหนมาประเคนถึงจะกินเยอะๆเหมือนลูกบ้านอื่นเขาบ้าง จากคุณ : catenjoy เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 08:17:48

ความคิดเห็นที่ 16 จากคุณ : One LoVe Family เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 09:05:00

ความคิดเห็นที่ 17 เข้ามาจดเลคเชอร์ค่า จากคุณ : ban_ri เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 09:47:05

ความคิดเห็นที่ 18 จุนหมอสุดหล่อน่ารักจังเลย มีความรู้ดีๆมาฝากตลอด ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : arares เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 10:32:39

ความคิดเห็นที่ 19 ขอบคุณคุณหมอมากๆค่ะ จากคุณ : Clouseau เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 12:03:12

ความคิดเห็นที่ 20 ขอบคุณคุณหมอหล่อ เมียจ๋วย มาก ๆ ก๊ะ... จากคุณ : Minerva McGonagall เขียนเมื่อ : 28 ส.ค. 52 16:02:19

ความคิดเห็นที่ 21 thanks a lot จากคุณ : กุหลาบสีชมพู เขียนเมื่อ : 29 ส.ค. 52 20:35:42