Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
ช่วงนี้ฝนตกระวังโรค ราแป้ง ราน้ำค้าง นะจ๊ะ  

โรคราน้ำค้าง
(Downy Mildew)


โรคราน้ำค้างเป็นโรคที่พบทั่วทุกแหล่งที่ปลูกถั่วเหลือง พบทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง ถั่วเหลืองที่เป็นโรคนี้ใบจะร่วงก่อนเวลา ทำให้เมล็ดที่ได้มีคุณภาพไม่ดี มีขนาดเล็ก ทำให้ผลผลิตลดลง
ชื่อเชื้อสาเหตุ

เกิดจากเชื้อรา Peronospora manshurica (Aoum) syd.ex Gaum
ลักษณะอาการของโรค

บริเวณด้านบนของใบจะมีจุดสีเขียวอ่อนถึงเหลืองอ่อน ต่อมาจุดนี้จะขยายใหญ่ขึ้นมีสีเหลืองเข้มขนาดไม่แน่นอน เมื่อเป็นมาก ๆ แผลจะกลายเป็นสีน้ำตาลเทา และสีน้ำตาลดำ โดยมีขอบแผลสีเหลืองอมเขียว ส่วนที่บริเวณใต้ใบตรงรอยแผลจะพบกลุ่มเส้นใยสีขาวหรือสีม่วงอ่อนขึ้นปกคลุมเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้า ใบที่เป็นโรครุนแรงจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และกลายเป็นสีน้ำตาลร่วงหล่นก่อนเวลาในที่สุด
โรคราน้ำค้างสามารถเข้าทำลายได้ที่ฝัก ฝักถั่วเหลืองที่ถูกทำลายนั้นอาจไม่พบว่ามีอาการผิดปกติ อย่างไรก็ตามเมื่อแกะดูจะพบภายในตลอดจนที่เปลือกหุ้มเมล็ดจะมีเส้นใยของเชื้อราสาเหตุและสปอร์สีขาวปกคลุมอยู่หนาแน่น เมื่อนำเมล็ดเหล่านี้ไปปลูก อาจทำให้เกิดอาการ Systemic กล่าวคือ ถั่วเหลืองที่งอกออกมาประมาณ 2 สัปดาห์ จะมีจุดสีเขียวอ่อนบนใบ ต่อมาต้นกล้านี้จะตายไป หรือถ้าเติบโตต่อไปอาจมีลำต้นเตี้ยแคระแกรน เกิดแผลบนใบอย่างมากจนทำให้ขอบใบม้วนลง ใต้ใบจะมีเส้นใยสีม่วงเต็มไปหมด
การแพร่ระบาด

เชื้อราอยู่ข้ามฤดูในรูปของ Oospore บนเมล็ดหรือซากใบที่เป็นโรค โรคราน้ำค้างแพร่ระบาดได้ดีภายใต้สภาพที่มีความชื้นสูงและอุณหภูมิค่อนข้างต่ำประมาณ 20-22 องศาเซลเซียส


ราแป้ง
สาเหตุเกิดจาก เชื้อรา Oidium mangiferae Berthet

ลักษณะอาการ

พบระบาดทั่ว ๆ ไปในแหล่งปลูกมะม่วงของประเทศต่าง ๆ ในไทยส่วนใหญ่พบกับมะม่วงที่ปลูกในที่สูงบริเวณภาคเหนือ สามารถเข้าทำลายได้ทั้งใบ ดอก ช่อดอก และผลอ่อน

อาการที่ใบอ่อน จะเห็นบริเวณที่เชื้อราเข้าทำลายเป็นขุยหรือผลสีขาวขึ้นบาง ๆ ส่วนใหญ่จะพบใต้ใบ อาการต่อมาบริเวณที่เป็นโรคจะมีสีเหลืองจาง ถ้าสภาพอากาศเหมาะสมเป็นผงสีขาว ๆ ชัดเจนขึ้น หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนและเข้มขึ้นตามลำดับ ถ้าเกิดโรครุนแรงใบอาจจะบิดเบี้ยวเสียรูปทรงไป ร่วงหล่น หรือแสดงอาการเนื้อใบไหม้

อาการที่ช่อดอก จะพบผงสีขาวขึ้นฟูตามก้านช่อดอกย่อย และดอกซึ่งจะทำให้ดอกร่วงไม่ติดผล ส่วนของก้านช่อดอกจะยังคงมีสีขาวปกคลุม แล้วจะค่อย ๆ เป็นสีน้ำตาลอ่อน โรคนี้มักจะพบในช่วงฤดูหนาว เมื่อมะม่วงเริ่มออกดอก และมักจะพบเป็นกับช่อดอกที่อยู่บริเวณตอนล่าง หรือกลาง ๆ ลำต้น หรือช่อดอกที่อยู่ในพุ่มใบ ดอก และก้านช่อดอกที่ถูกเชื้อราเข้าทำลาย การเจริญเติบโตจะลดลง ดอกไม่บาน และร่วงในที่สุด แต่บางครั้งสามารถทนได้จนถึงติดผลอ่อน

การป้องกันและกำจัด

หมั่นตรวจดูอาการของโรคที่ใบอ่อน ช่อดอก และที่ผลอ่อน เมื่อพบให้ตัดส่วนที่เป็นโรคนำไปเผาทำลายการป้องกันกำจัดโรคราแป้ง ที่ระบาดในระยะมะม่วงออกดอกทำการฉีดพ่นสารเคมีในช่วงที่ดอกยังไม่บานครั้งหนึ่ง หากยังมีโรคระบาดอยู่ ก็ควรฉีดอีกครั้งในระยะติดผลอ่อนสารเคมีที่ใช้ป้องกันกำจัดโรคราแป้ง ได้แก่ dinocap benomyl triadimefon และกำมะถันผง เป็นต้น


ฮี่ ๆ ว่าง ไม่มีไรทำ

จากคุณ : หมาน้อยน่ารัก
เขียนเมื่อ : 6 ก.ย. 52 14:23:35




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com