ช่วงนี้ฝนตกระวังโรค ราแป้ง ราน้ำค้าง นะจ๊ะ
|
|
โรคราน้ำค้าง (Downy Mildew)
โรคราน้ำค้างเป็นโรคที่พบทั่วทุกแหล่งที่ปลูกถั่วเหลือง พบทั้งในฤดูฝนและฤดูแล้ง ถั่วเหลืองที่เป็นโรคนี้ใบจะร่วงก่อนเวลา ทำให้เมล็ดที่ได้มีคุณภาพไม่ดี มีขนาดเล็ก ทำให้ผลผลิตลดลง ชื่อเชื้อสาเหตุ
เกิดจากเชื้อรา Peronospora manshurica (Aoum) syd.ex Gaum ลักษณะอาการของโรค
บริเวณด้านบนของใบจะมีจุดสีเขียวอ่อนถึงเหลืองอ่อน ต่อมาจุดนี้จะขยายใหญ่ขึ้นมีสีเหลืองเข้มขนาดไม่แน่นอน เมื่อเป็นมาก ๆ แผลจะกลายเป็นสีน้ำตาลเทา และสีน้ำตาลดำ โดยมีขอบแผลสีเหลืองอมเขียว ส่วนที่บริเวณใต้ใบตรงรอยแผลจะพบกลุ่มเส้นใยสีขาวหรือสีม่วงอ่อนขึ้นปกคลุมเห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงเวลาเช้า ใบที่เป็นโรครุนแรงจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และกลายเป็นสีน้ำตาลร่วงหล่นก่อนเวลาในที่สุด โรคราน้ำค้างสามารถเข้าทำลายได้ที่ฝัก ฝักถั่วเหลืองที่ถูกทำลายนั้นอาจไม่พบว่ามีอาการผิดปกติ อย่างไรก็ตามเมื่อแกะดูจะพบภายในตลอดจนที่เปลือกหุ้มเมล็ดจะมีเส้นใยของเชื้อราสาเหตุและสปอร์สีขาวปกคลุมอยู่หนาแน่น เมื่อนำเมล็ดเหล่านี้ไปปลูก อาจทำให้เกิดอาการ Systemic กล่าวคือ ถั่วเหลืองที่งอกออกมาประมาณ 2 สัปดาห์ จะมีจุดสีเขียวอ่อนบนใบ ต่อมาต้นกล้านี้จะตายไป หรือถ้าเติบโตต่อไปอาจมีลำต้นเตี้ยแคระแกรน เกิดแผลบนใบอย่างมากจนทำให้ขอบใบม้วนลง ใต้ใบจะมีเส้นใยสีม่วงเต็มไปหมด การแพร่ระบาด
เชื้อราอยู่ข้ามฤดูในรูปของ Oospore บนเมล็ดหรือซากใบที่เป็นโรค โรคราน้ำค้างแพร่ระบาดได้ดีภายใต้สภาพที่มีความชื้นสูงและอุณหภูมิค่อนข้างต่ำประมาณ 20-22 องศาเซลเซียส
ราแป้ง สาเหตุเกิดจาก เชื้อรา Oidium mangiferae Berthet
ลักษณะอาการ
พบระบาดทั่ว ๆ ไปในแหล่งปลูกมะม่วงของประเทศต่าง ๆ ในไทยส่วนใหญ่พบกับมะม่วงที่ปลูกในที่สูงบริเวณภาคเหนือ สามารถเข้าทำลายได้ทั้งใบ ดอก ช่อดอก และผลอ่อน
อาการที่ใบอ่อน จะเห็นบริเวณที่เชื้อราเข้าทำลายเป็นขุยหรือผลสีขาวขึ้นบาง ๆ ส่วนใหญ่จะพบใต้ใบ อาการต่อมาบริเวณที่เป็นโรคจะมีสีเหลืองจาง ถ้าสภาพอากาศเหมาะสมเป็นผงสีขาว ๆ ชัดเจนขึ้น หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลอ่อนและเข้มขึ้นตามลำดับ ถ้าเกิดโรครุนแรงใบอาจจะบิดเบี้ยวเสียรูปทรงไป ร่วงหล่น หรือแสดงอาการเนื้อใบไหม้
อาการที่ช่อดอก จะพบผงสีขาวขึ้นฟูตามก้านช่อดอกย่อย และดอกซึ่งจะทำให้ดอกร่วงไม่ติดผล ส่วนของก้านช่อดอกจะยังคงมีสีขาวปกคลุม แล้วจะค่อย ๆ เป็นสีน้ำตาลอ่อน โรคนี้มักจะพบในช่วงฤดูหนาว เมื่อมะม่วงเริ่มออกดอก และมักจะพบเป็นกับช่อดอกที่อยู่บริเวณตอนล่าง หรือกลาง ๆ ลำต้น หรือช่อดอกที่อยู่ในพุ่มใบ ดอก และก้านช่อดอกที่ถูกเชื้อราเข้าทำลาย การเจริญเติบโตจะลดลง ดอกไม่บาน และร่วงในที่สุด แต่บางครั้งสามารถทนได้จนถึงติดผลอ่อน
การป้องกันและกำจัด
หมั่นตรวจดูอาการของโรคที่ใบอ่อน ช่อดอก และที่ผลอ่อน เมื่อพบให้ตัดส่วนที่เป็นโรคนำไปเผาทำลายการป้องกันกำจัดโรคราแป้ง ที่ระบาดในระยะมะม่วงออกดอกทำการฉีดพ่นสารเคมีในช่วงที่ดอกยังไม่บานครั้งหนึ่ง หากยังมีโรคระบาดอยู่ ก็ควรฉีดอีกครั้งในระยะติดผลอ่อนสารเคมีที่ใช้ป้องกันกำจัดโรคราแป้ง ได้แก่ dinocap benomyl triadimefon และกำมะถันผง เป็นต้น
ฮี่ ๆ ว่าง ไม่มีไรทำ
จากคุณ |
:
หมาน้อยน่ารัก
|
เขียนเมื่อ |
:
6 ก.ย. 52 14:23:35
|
|
|
|