ความคิดเห็นที่ 1 เบ่งบานคู่กับตะไคร่น้ำเขียวอี๋  มีแมลงตัวเล็ก ๆ ตอมด้วยอ่ะค่ะ แต่ยังไม่พบความเสียหาย ก็เลยยังไม่ได้หาวิธีประหารมันหน่ะ) จากคุณ : คมไผ่ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:01:39

ความคิดเห็นที่ 2 ต่อมา ภาพนี้ก็...ล็อต 3 ค่ะ ที่บ้านตื่นเต้น จะให้เอามาทำสลัดให้ได้เลย 555 ไผ่บอกว่ามันยังโตได้อีกน้า เขาก็บอกว่าขอลองกินก่อนได้เปล่า หึหึ... น้องผักกาดหอมห่อ มันไม่ค่อยห่อเลยค่ะ บานๆๆๆๆ กินเนื้อที่ชาวบ้านเขาหมด พอดีไผ่เอาน้องเฟรซซี่ ล็อต 6 ไปแจม ด้วยเล็กน้อยปรากฎว่ามันบังแดดเขาอีกต่างหาก แก้ไขเมื่อ 30 ก.ย. 52 22:07:22 จากคุณ : คมไผ่ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:05:08

ความคิดเห็นที่ 3 อันนี้เป็นรูปกะละมังใหญ่ค่ะ โตดีมากๆ เลย จากคุณ : คมไผ่ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:09:00

ความคิดเห็นที่ 4 เก่งมาก ผมก็กำลังลองปลูก มันไม่ค่อยโต พยายามอยู่ครับ. จากคุณ : TRAFFIC เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:10:43

ความคิดเห็นที่ 5 รากย๊าวววยาวเป็นหนวดปลาหมึกเลย ยังขาวจั๊วะอยู่ค่ะ (ยังไม่ดำ) เลยคาดว่า ยังโตได้อีก จากคุณ : คมไผ่ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:10:56

ความคิดเห็นที่ 6 ดูผู้รอดไปแล้ว ดูที่ไม่รอดกันมั่ง อยากบอกมันว่า มันอึดมากแล้ว แต่...ยังอึดไม่พอ  555(เมื่อคนปลูกคือไผ่) จากคุณ : คมไผ่ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:13:16

ความคิดเห็นที่ 7 เอ่อ...ว่าจะปรึกษาเพื่อน ๆ กูรูหน่อยค่ะว่า  เท่าที่ไผ่ลองสังเกตุดูหน่ะค่ะ มันไม่ได้เป๊ะ ๆ ว่ากี่วันถึงจะงอก กี่วันถึงจะเก็บได้ขนาดนั้นหน่ะค่ะ ไผ่เลยสงสัยว่า โตขนาดไหนถึงจะโอเคแล้ว (เก็บได้...กินได้อ่ะค่ะ) เพราะอย่างเมล็ดพันธุ์ที่ไผ่ซื้อมาจากตึกดินปุ๋ยของม.แม่โจ้หน่ะ  น้องที่เขาเรียนพืชเขายังทักเลยว่า ทำไมไม่งอกสักที เพาะมากี่วันแล้วครับ (ไผ่เพาะล็อต 7 ไว้...5 วัน) ไม่ค่อยงอกเลยค่ะ ทำตามสเต๊ปแล้ว น้องเขาก็บอกว่าผมว่า เมล็ดท่าจะมีปัญหาเปล่าพี่ 555 ไผ่ก็ส่ายหัวอย่างเดียวเลย ว่าจะไปหาลองซื้อเมล็ดพันธุ์ที่อื่นมาเปรียบเทียบดูเหมือนกันค่ะ เอาเป็นว่า...สภาพไหนที่ดูแล้วรู้ว่าเก็บได้แล้ว & ก่อนเก็บต้องแช่น้ำเปล่าอีกกี่วันคะ (ถ้าไม่แช่ได้เปล่า เอาไปหม่ำ ๆ เลยอ่ะค่ะ อิอิ) จากคุณ : คมไผ่ เขียนเมื่อ : 30 ก.ย. 52 22:27:35

ความคิดเห็นที่ 8 สำเร็จไปอีก 1 ขั้น  ........  น่ากินจังเลยน้องไผ่ จากคุณ : สาวสวนแตง (จาปาตี) เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 08:44:50

ความคิดเห็นที่ 9 เราใช้วิธีกะเอาคะ กะต้นประมาณขายในห้าง แต่ถ้านานแล้วไม่ยอมโตขึ้น ก็แสดงว่า แกร่นแล้ว คงไม่โต เพราะอุณหภูมิของเมืองไทยไม่คงที่ ต้องใช้วิธีนี้เอานะคะ เวลาจะเก็บ ให้แช่ในน้ำเปล่า 1 วันนะคะ จะลดค่าไนเตรทในผักจนถึงมาตรฐานปลอดภัยได้คะ เวลาเก็บผัก ให้เก็บแต่เช้ามืด ผักจะสดและเก็บได้นาน วิธีการทำความสะอาดโฟม ให้หาแปรงขัดน้ำเปล่า เบา ๆ แล้วเอาไปแช่น้ำผสมน้ำยาไฮเตอร์ สักพัก ก่อนราดน้ำพึ่งตากแดด จะช่วยฆ่าเชื้อโรคและแบตทีเรียได้คะ ปล.วิธีดังกล่าวได้ความรู้มาจากไปเรียนกับม.เกษตรมาคะ จากคุณ : วิหคลม เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 09:47:11

ความคิดเห็นที่ 10 same same เหมือนคุณวิหคลม เรื่องก่อนเก็บผักน่ะครับ.....ยิ่งถ้ลงกาละมังแบบนู๋ไผ่ ด้วยแล้วเล่นง่ายใหญ่เลย แต่ทำไม๊ ทำไม เอา Lot6 ไปแจมกับ Lot 3 ล่ะเนี่ย ฮ่าๆๆๆ Lotที่โตกว่า คือ รากยาวกว่า ก็แย่งอาหารต้นที่น้องๆที่รากมันสั้นกว่าสิครับ อิอิ ลองสังเกตุการเปลี่ยนแปลงดู ทีนี้ๆ ผักสลัด(สำหรับสลัดนะ กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค เรดคอรัล บัตตาเวีย สปาต้า ฯลฯ สลัด) ระยะเวลาตามทฤษฎีคือ 45 วันนับจากหยอดเมล็ดลงฟองน้ำ แต่หลักปฏิบัติอ่ะ ที่พี่สังเกตดู ต่ำสุด 38 วันกินได้แล้ว คือเก็บกินได้แล้ว แต่ conduition ในการปลูก ต้องสมบูรณ์แบบเลยนะ ทั้งปลูกแบบลงกาละมัง แล้วก็แบบรางNFT ด้วยอ่ะ ถ้าให้ดีก็ 45-50 วัน เพราะแก่ไปกว่านี้มันก็ไม่โตแล้วอ่ะ มีแต่จะขมอ่ะ ช่วงนี้กำลังสวย ดังนั้นเวลาเราลงเมล็ด.....อย่าลืมกาปฎิทินไว้ด้วยครับ ว่าวันที่ XX ลงเมล็ดXX ไว้กี่ต้นๆๆ ได้เก็บสถิติ อัตราการเติบโตของแต่ละชนิดด้วย ส่วนเรื่องการเก็บ....ไม่มีหลักการทงทฤษฎีที่ตายตัว สูตรใครก็สูตรใครน่ะครับ แต่สูตรพี่นะ ถ้าแบบกาละมังแบบนี้เล่นง่าย คือ สมมติ วันเสาร์นี้พี่จะเก็บกินแล้วอ่ะ ก็วันนี้เลยเปลี่ยนน้ำเลย เอาสารละลายออกให้หมดเลยทั้งกาละมัง เสร็จแล้วเอาน้ำเปล่าลงเลยทั้งกาละมัง เปิดออกซิเยนไว้เหมือนเดิม คือเลี้ยงด้วยน้ำเปล่า ไม่ต้องกลัวมันจะตายนะ เลี้ยงแบบน้ำเปล่าแบบนี้อยู่ได้เป็นอาทิตย์เท่าที่ลองมาน่ะ พอวันเสาร์เก็บกินเลย ฮ่าๆๆๆๆ ส่วนไม่แช่ได้เปล่า....ได้ ไม่ผิดกติกา รสชาดไม่ต่างกันครับ แต่เพื่อความสบายใจก็แช่เหอะ ฮ่าๆๆๆๆ ส่วนโฟมใช้วิธีเดียวกันคือตากแดด แดดจัดๆ ถ้าหายืมกรดไนตริก (ไนตริก แอซิดอ่ะ) ตามพวกแลบ ห้องทดลองมได้ก็ดี มาล้างทั้งกาละมัง ทั้งโฟมแล้วตากแดด แต่ปลูกแบบกาละมังเล่นง่ายกว่า NFT เยอะเลย NFT ต้องลงมาดูแลช่วงแรกๆแยอะมาก ปัญหาก็มากตามไปด้วย......ถ้าไม่มีไม่เป็นไร ล้างน้ำสะอาด ตากแดด จบข่าว น้ำสลัดแนะนำยี่ห้อยอดนิยม ตอนนี้มีรสเผ็ดเพิ่มเข้ามาด้วย อิอิ อร่อย....หาซื้อได้ทั่วไป ปล.1 นู๋ไผ่ ลงกี่กาละมังเนี่ย ฮ่าๆๆๆ สงสัยๆๆๆ ถ้าคอนโทรลลงตัวแล้วจะสนุกครับ ไว้ปลูกอีกซักลอท สองลอทนะครับ แล้วเปลี่ยนมาเล่นแบบ NFT กัน พี่หาเพื่อนช่วยปรึกษาเนี่ย NFT พี่มันยังไม่ลงตัวซักทีเลย มันเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ฮ่าๆๆๆ ปล.2 เชียงใหม่ฝนไม่ตกเหรอครับ บ้นพี่ที่ปทุม ตกตั้งแต่เมื่อคืนยังไม่หยุดเลย เดี๋ยวหมดฝนลอทนี้จะลงใหม่แล้ว นี่ไม่ได้ลงปลูกเลยมาเดือนกว่ๆแล้วครับ จากคุณ : ผมนายโต เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 10:29:42

ความคิดเห็นที่ 11 อ้าวววววววว . . . เตรียมขึ้นเขียงได้ . . . จากคุณ : วิฬารักษ์ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 11:00:18

ความคิดเห็นที่ 12 น่ากินจังผักสดๆจากกาละมังน้องไผ่ จากคุณ : สีมุก เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 12:53:49

ความคิดเห็นที่ 13 555  เย่ๆ ไม่เหงาแล้ว ๆ มีพี่ ๆ เพื่อน ๆ มาดูผลงานแบบนี้ อิอิ ไม่อยากจะบอก คุณ"ผมคนโต" เลย ว่าไผ่ก็มั่ว ๆ เอาอ่ะค่ะ ผสมกับความงกเล็กน้อยตรงที่ว่า ก็เห็นมันมีช่องปลูกว่างอยู่อ่ะ แล้วไอ้เจ้า lot 6 ช่องปลูกของกะละมังที่เปิดใหม่ก็ขาดไปอีกนิดเดียว เหอะๆๆ เอาฝากไปอยู่กะละมังเดียวกับรุ่นพี่ lot 3 ซะงั้น  ที่นี้รับทราบแล้วเจ้าค่ะ ต่อไปนู๋จาม่ายทำอีกแย้วววววว ข้่าน้อยสมควรตาย เหอๆๆๆๆ วันที่ 5-7 นี้ไผ่ก็ต้องปล่อยน้องผักให้เผชิญชะตากรรมอย่างโดดเดี่ยวอีกครา เพราะต้องไปตจว.กับที่บ้าน เดี๋ยวก่อนไปจะถนอมกล่อมเกลี้ยงเลี้ยงดู เปลี่ยนน้ำใหม่ให้อยู่ค่ะ (ไม่ใช่กลับมาตายเรียบนะ อิอิ) เอาเป็นว่า เดี๋ยวจะเอารูปมาลงอีกทีก็หลังวันที่ 7 แหละค่ะ อาจจะอยู่ในจานแทนกะละมังแล้วก็ได้เนอะ... ใครจะเข้ามาเป็นพลพรรคผักไฮโดรก็เชิญนะคะ จตุจักรมีเทรนเนอร์ใจดี๊ดีหลายคนแหละ อ้อ...ลืม เชียงใหม่ฝนตกหนักมากกกกค่ะ สุด ๆ เลย หลังคาบ้านน้องผักก็ไม่ค่อยจะคุ้มฟ้าคุ้มฝนเลย  ตกทีนึงวิ่งหาฝาชีกับพลาสติคคลุมกันให้วุ่นเลย (เป็นน้องผักอนาถา ป๊ะป๋ายังไม่มีเงินทำบ้านดี ๆ ได้มาตรฐานมอก.ให้มันเล้ย เศร้า Y-Y) แก้ไขเมื่อ 01 ต.ค. 52 17:27:09 จากคุณ : คมไผ่ เขียนเมื่อ : 1 ต.ค. 52 17:23:49

ความคิดเห็นที่ 14 มาชื่นชมกับผลงาน ผักสวยๆปลูกด้วยมือตัวเองอย่างนี้ ทำให้มีความสุขดีนะน่าชื่นใจคะ จากคุณ : Izu เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 07:57:34

ความคิดเห็นที่ 15   เก่งจังเลย หรือต้องบอกว่าอึดจังเลยค่ะ อดทนจนเก่ง ผักกะน้องคมไผ่พี่ว่าอึดพอกันนะ แอบดูตั้งแต่กระทู้แรกๆแล้ว ลุ้นช่วยตัวโก่งเลย พี่ก็ยังปลูกไม่เก่งเหมือนกัน แต่ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะ ดีใจด้วยค่า จากคุณ : beach cabin เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 16:21:05

ความคิดเห็นที่ 16 555 ขอบคุณค่า อย่างว่าอ่ะนะ เด็กแม่โจ้ อดทนเป็นคูโบต้าร์อยู่แล้วค่ะ เจ้าผักไฮโดรนี่ก็เหมือนกันแหละ เป็นผักที่ไผ่ปลูก มันต้องอดทนนนน ฮ่า ๆ ๆ ไม่งั้น ไผ่ต้องทนอดแทน อิอิ จากคุณ : คมไผ่ เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 23:09:29

ความคิดเห็นที่ 17 อีกซัก ลอท-2ลอท-3ลอท.....นะนู๋ไผ่ พี่ว่าต่อไปน่ะ นู๋ต้องชอบแน่ๆเลย ฮ่าๆๆๆ พี่มานั่งอ่านดู เหมือนพี่ตอนแรกๆเลยอ่ะ.......ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร แต่มันก็ตื่นเต้นเหมือนกันนะ ตอนจะกินผักเราเอง ตอนแรกอ่ะครับ ฮ่าๆๆๆๆ ทีนี้ต่อไปอย่าลืมจัดระเบียบด้วยล่ะ ตั้งแต่แรกเลย....อันนี้เป็น Instruction เฉยๆ ไม่มีในตำราเด้อ -เวลาปลูก....ลงเมล็ด พันธุ์XX จำนวน XXต้น /พันธุ์XY จำนวน XXต้น เมื่อวันที่ XX/XX/XXXX.........ตรงนี้ กาปฎิทินไปเลย ให้เห็นชัดๆ - ผ่านไป 5-7 วัน อย่าลืมจดต่อ เมล็ดXX รอด จำนวน XX ต้น เมล็ดXY รอด จำนวน XX ต้น......ตรงนี้คือเก็บสถิติ/อัตราการงอก - พอเอาต้นกล้า ลงกาละมัง จดใส่ข้างกาละมังเลย ต้นXX จำนวน XXต้น ต้นXY จำนวน XX ต้น ลงเมื่อวันที่ XX/XX/XXXX........ตรงนี้จะเอาไป ประมาณเวลาเก็บเกี่ยว -พอเอาต้นกล้าลงกาละมัง ถ้ากาละมังนั้นๆมีผสมหลายต้นกล้า ให้ทำmarking หรือเครื่องหมาย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เราดูออกว่า ต้นนี้ๆๆๆ คือต้นอะไร เพราะตอนเล็กๆ หน้าตามันจะคล้ายกันมาก แต่อย่าเอากระดาษกาวที่เขียน แปะฟองน้ำปลูกเด็ดขาดเลย เชื้อราจะถามหาภายใน 3 วันเลย ฮ่าๆๆๆ - กาละมังที่1 ปริมาณสารละลาย จำนวนXX ลิตร ประกอบด้วย ปุ๋ยA จำนวน XX ลิตร และปุ๋ยB จำนวน XX ลิตร/ กาละมัง2 ปริมาณ เท่านี้ๆๆๆๆนะ .........ตรงนี้ เอาปากกาเขียนใส่ กระดาษกาวแลเวเอาไปแปะไว้ข้างกาละมังเลย - ถ้ามีเวลาเหลือ ก็สังเกตุ location ของกาละมัง+แปลงปลูกเรา เดือน สค./กย./ตค./พย./ธค..........แต่ละเดือน ถ้า location เราอยู่ที่เดิม ระยะเวลา+ทิศทางการได้รับแสงแดดจะต่างกัน อาจจะต้องปรับ location นิดหน่อย - ถ้าหายืม EC meter มาได้(จริงๆ แม่โจ้น่าจะมีครับ ลองๆสอบถามดู หรือไม่ก็เอาปุ๋ย ที่ผสมแล้วในอัตราส่วนที่เราผสมนะ ต้องจำได้ด้วยนะ) ไปให้เค้าลองวัด EC ดูให้....ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ให้วัด pH ไปด้วยเลย เอาเท่านี้ก่อน สองอันหลังสุดยังไม่ต้องก็ได้ นอกจากว่าอยากรู้ อยากลอง + อยู่ใกล้ๆห้อง lab ทดลอง หรือใกล้ๆ พรรคพวกที่พอมีอุปกรณ์พวกนี้ครับ รับรองยิ่งปลูก ยิ่งสนุกครับ ต่อไปลอง มะระ+มะเขือเทศ+แตงกวา ดูตามลำดับเป็นสเตป ต่อๆไปครับ จากคุณ : ผมนายโต เขียนเมื่อ : 2 ต.ค. 52 23:20:58

ความคิดเห็นที่ 18 เดี๋ยวจะลองทำตามสเต็ปนี้เลยเจ้าค่ะ อิอิ แต่คงต้องรอให้กลับมาจากตจว.ก่อนหล่ะค่ะ (หลังวันที่ 7)  แต่...มะระ มะเขือ แตงกวานี่ ถ้าเอาลงกะละมังมันจะเวิร์คเหรอคะ เพราะมันต้นสูงอ่ะ(เลื้อย...ต้องมีที่ให้มันไต่ไม่ใช่เหรอคะ...เหอะๆๆๆ ไม่ค่อยรู้เรื่องต้นไม้ต้นไร่เท่าไหร่ ถนัดแต่หม่ำๆๆๆ โซ้ยแหลก) หาข้อมูลเท่าที่เจอ ไผ่เคยเห็นแต่ที่เขาปลูกไฮโดรแบบ drf/ลงวัสดุปลูกแบบกระสอบ/ทำระบบน้ำหยด..ไม่ใช่เหรอคะ แล้วอีกอย่าง คือ...เท่าที่ดู ถ้าปลูกผักธรรมดาที่เราหาซื้อได้ตามท้องตลาด มีความรู้สึกว่ามันไม่ค่อยคุ้มค่ากับการลงทุนเลยอ่ะค่ะ(หรือคิดเอาเองไม่รู้สิ) จากคุณ : คมไผ่ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 12:12:18

ความคิดเห็นที่ 19 (ออกแนวตั้งเป้าทำขายซะอย่างงั้นค่ะ ไม่ได้คิดจะทำทานเองในบ้านซักเท่าไหร่...ผิดหลักการทฤษฎีพอเพียงอย่างสิ้นเชิง ต้องบอกท่านอื่น ๆ ว่า เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี อย่าลอกเลียนแบบนา อิอิ) จากคุณ : คมไผ่ เขียนเมื่อ : 3 ต.ค. 52 12:15:09