|
ความคิดเห็นที่ 22 |
ไปก้อปมาจากเวปงอบทองค่ะ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ วิธีการปลูกดอกไม้ อุปกรณ์การเพาะเมล็ด 1. กระบะเพาะ 2. วัสดุเพาะ 3. เมล็ดพันธุ์ดอกไม้ 4. กระดาษหนังสือพิมพ์ 5. ป้ายชื่อ 6. บัวรดน้ำแบบฝอยละเอียด
การเตรียมดินเพาะ กรุกระบะพลาสติก ที่ใช้สำหรับเพาะด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ทางด้านก้นและด้านข้างทั้ง 4 ด้าน แล้วใส่วัสดุเพาะเมล็ด วัสดุที่ใช้ คือ ขุยมะพร้าวผสมกับทราย ในอัตรา 1: 1 หรือ ดินร่วน : ทราย : ขี้เถ้าแกลบ อัตราส่วน 2 : 1 : 1 ทุกอย่างนำมาร่อนผ่านตะแกรงละเอียดแล้ว คลุกเคล้าให้เข้ากัน ผสมน้ำให้ชื้นพอเหมาะแล้วนำวัสดุปลูกลงในกระบะประมาณ 2/3 ของกระบะ เกลี่ยผิวหน้าให้เรียบทำร่องตามทางยาวของกระบะลึกประมาณครึ่งเซนติเมตร โดยให้แต่ละร่องห่างกัน 1 นิ้ว หยอดเมล็ดให้สม่ำเสมอตลอดแนว กะพอไม่ให้เมล็ดทับกัน กลบแต่ละร่องด้วยดินผสมตามสูตรข้างต้น ถ้าเมล็ดมีขนาดเล็กมากไม่ต้องกลบเมล็ด ตัดกระดาษหนังสือพิมพ์ให้พอดีกับกระบะเพาะ ปิดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ให้พอดีกับกระบะ ปิดด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์รดน้ำด้วยฝักบัวฝอยละเอียด ให้น้ำซึมผ่านวัสดุมากพอ ปิดป้ายชื่อเมล็ดและวันที่เพาะ นำไปไว้ในที่ร่มรำไร มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก
การย้ายกล้า หลังจากการเพาะเมล็ดไปแล้ว 15 วัน หรือเมื่อมีใบจริง 1-2 ใบ ต้นกล้าจะโตพอที่จะย้ายได้ ควรย้ายต้นกล้าลงในถุงพลาสติก รอให้ต้นกล้าที่ย้ายตั้งตัวและเจริญเติบโตพอสมควร ประมาณ 15 วัน จึงย้ายปลูกลงในแปลงปลูก ก่อนการย้ายปลูกประมาณ 1 สัปดาห์ ให้น้ำน้อยลงเพื่อให้ต้นกล้ามีความทนทานต่อการย้ายปลูก
หลักในการย้ายกล้า
1. ย้ายต้นกล้าในตอนที่แดดอ่อนและในที่ร่ม 2. เตรียมแปลงปลูกอย่างดี รดน้ำแปลงให้ดินชื้นก่อนการย้ายปลูก 3. รดน้ำต้นกล้าในกระบะเพาะให้ชุ่มก่อนการย้าย 4. เมื่อย้ายต้นกล้าควรดึงต้นกล้าเบาๆ ให้รากขาดน้อยที่สุดและมีดินหุ้มรากไปให้มากๆ 5. 5. เพื่อรากจะได้รับ การกระทบกระเทือนน้อยที่สุด และต้นกล้าตั้งตัวได้เร็ว 5 . ปลูกในหลุมที่กว้างพอกับดินที่หุ้มรากมา และควรปลูกให้ใบจริงอยู่ใกล้กับระดับดินมากที่สุด เพื่อที่เวลารดน้ำต้นกล้า จะไม่หักได้โดยง่าย 6. รดน้ำให้ชุ่มและคลุมดินด้วย 7. ควรบังร่มให้ 3-4 วัน พอต้นกล้าแข็งแรงดีจึงเอาที่บังร่มออก การเตรียมดินปลูก การเตรียมดินปลูก ต้องพิถีพิถันพอสมควร เพราะดอกไม้ส่วนใหญ่มีอายุการออกดอกสั้น โดยเฉพาะไม้ดอกที่ไวต่อแสงจะออกดอกทันที เมื่อครบอายุและต้นสมบูรณ์ ดินปลูกต้องเป็นดินโปร่งร่วนซุยมีอินทรียวัตถุสูง ระบายน้ำดี ในขณะเดียวกันก็อุ้มความชื้นได้ดีพอสมควร มีความเป็นกรดเล็กน้อย มี pH ประมาณ 6.5 – 7 ส่วนผสมของดินปลูกควรหาง่ายในท้องถิ่น ในดินผสม 1 ลูกบาศก์เมตร ควรใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15 –15 -15 จำนวน 0.5 กิโลกรัม และสูตร 0 – 46 – 0 จำนวน 1 กิโลกรัม ตัวอย่างดินผสมทั่วไป ได้แก่ ดินร่วน ปุ๋ยหมัก แกลบดิน แกลบเผา ขุยมะพร้าว โดยใช้อัตราส่วน 1 : 1 : 2 : 2 : 2
การดูแลรักษา 1. การให้น้ำ รดน้ำทุกวัน ในตอนเช้าหรือตอนเย็น หากรดน้ำในเวลาเย็นควรจะให้น้ำที่ค้างอยู่บนใบแห้งก่อนพระอาทิตย์ตกดิน และเมื่อมีดอกบานอย่ารดน้ำให้ถูกดอกเพราะจะทำให้ดอกช้ำหรือเน่าได้ 2. การให้ปุ๋ย หลังจากย้ายกล้าแล้ว 7 วัน ให้ปุ๋ยไนโตรเจนโดยใช้แอมโมเนียซัลเฟท 1 ช้อนโต๊ะ ละลายน้ำ 20 ลิตร รดกล้าทุกๆ 5 วัน ประมาณ 2-3 ครั้ง ต่อจากนั้นใส่ปุ๋ยสูตร 15 – 15 –15 หรือ 16 – 16 – 16 อัตรา 10 กรัม / ต้น ทุกๆ 15 –20 วัน 3. การป้องกันและกำจัดศัตรูพืช 4. โรคใบจุด อาการเริ่มต้น ใบเป็นจุดสีแดงหรือสีน้ำตาลแดงแล้วขยายวงกว้างออกไปลุกลามจนเต็ม ใบจะค่อยแห้งไป การป้องกันและกำจัด ใช้สารเคมีป้องกันและกำจัดเชื้อราฉีดพ่น เช่น แบนเลทหรือแคปแทน 5. โรคแอนแทรกโนส อาการเป็นจุดสีน้ำตาลอ่อนแผ่ขยายวงกว้างออกไปทำให้ใบเน่าได้ การป้องกันกำจัด ให้สารเคมี ป้องกันกำจัด ให้สารเคมีป้องกันกำจัดเชื้อรา เช่น แมนโคเซป สลับคาร์เบนดาซิน 6. โรคกล้าเน่า ต้นกล้าจะแสดงอาการใบซีดเหี่ยวและหักฟุบลงไปกับพื้น สาเหตุเกิดจากเชื้อรา โรคจะเกิดขึ้น เมื่อวัสดุเพาะเมล็ดระบายน้ำไม่ดี มีความชื้นสูงเกินไป และมีต้นกล้าขึ้นหนาแน่นมาก สามารถป้องกันกำจัดโรคได้ โดยการเตรียม วัสดุเพาะให้ร่วน โปร่ง มีต้นกล้าขึ้นหนาแน่นมากสามารถป้องกันกำจัดโรคได้โดยการเตรียม วัสดุเพาะให้ร่วน โปร่ง มีการระบายน้ำที่ดี และใช้สารเคมี เช่น แคปแทนแมนโคเซ็บ แมลง หนอนกินใบ เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน และไร การป้องกันกำจัดใช้ กับดัก กาวเหนียวหรือแสงไฟแบลคไลท์ เพื่อกำจัดตัวแก่ของผีเสื้อหรือ แมลงวันที่เป็นแหล่งที่มาของหนอน ใช้สารเคมีฉีดพ่นสลับกัน เช่น เพอร์เมทริน, คาร์โบซัลแฟน, ฟิโปรนิล, คาร์บาริล (เซฟริน 85%) ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงดื้อต่อสารเคมีที่ใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน การเก็บรักษาเมล็ดพันธุ์ 1. ถ้าใช้เมล็ดพันธุ์ไม่หมดให้ปิดผนึกซองเมล็ดพันธุ์ให้แน่น แล้วเก็บไว้ในที่แห้งและเย็น ถ้ามีตู้เย็นให้เก็บซองไว้ ในขวดที่ปิดฝาแน่น แล้วเก็บในช่องเก็บผักสด 2. ถ้าเก็บเมล็ดไว้ค้างปี ลองทดสอบความงอกโดยใช้จากเล็กๆ ใส่กระดาษซับ, กระดาษทิชชู หรือทรายใส่น้ำให้ชื้น พอประมาณ นำเมล็ด 100 เมล็ดมาเพาะในวัสดุดังกล่าว ประมาณ 7 วัน นับจำนวนต้นกล้าที่งอก ตัวเลขที่ได้คือ เปอร์เซ็นต์ความงอก โดยประมาณ
จากคุณ |
:
Island Junkie
|
เขียนเมื่อ |
:
10 ต.ค. 52 22:54:37
|
|
|
|
|