ความคิดเห็นที่ 1 - "ว่านขมิ้นขาวเสน่ห์" (ไม่มีคำว่า-มหา-นะครับ) กับ "ว่านขิ้นขาวปัดตลอด" ถึงแม้จะเป็นว่านในจำพวกขมิ้นด้วยกันทั้งคู่ แต่ก็เป็นว่านคนละชนิดกันครับ - จะว่าร้านขายว่านเค้าหลอกเรามันก็ไม่ถูกนัก เพราะเค้าก็ขายตามที่เค้ารับมาอีกที หรือขายตามชนิดที่เค้าเล่นหากันอยู่ทั่วไปในปัจจุบัน หรือขายตามที่มีบันทึกอยู่ในตำราว่านยุคใหม่ๆ ที่ยังมีวางขายอยู่ พึงเข้าใจว่าคนขายก็ไม่ได้มีความรู้และศึกษาเรื่องว่านมามากมายอะไรก็พอๆ กับคนซื้อนั่นแหละ เพราะฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของคนซื้อที่จะต้องศึกษารายละเอียดของว่านที่ต้องการให้ถ่องแท้เสียก่อน แล้วค่อยไปเลือกซื้อเอาต้นที่มีลักษณะถูกต้องตรงตามความต้องการของเรา - "ว่านขมิ้นขาวเสน่ห์" มีบันทึกอยู่ในตำรารุ่นหลัง พ.ศ. 2500 แต่ก่อน พ.ศ. 2520 รวมทั้งหมด 3 เล่ม บรรยายลักษณะไว้ว่า ต้นใบเหมือนขมิ้นแต่เล็กกว่า ใบเรียวคล้ายเพชรน้อยแต่ใหญ่กว่า หน้าใบเรียบไม่มีเส้น หัวเล็กเป็นไหลเลื้อยไปไกลยิ่งกว่ากระชายแดง หัวมีลายเป็นข้อๆ เนื้อในสีขาวนวล ดอกเป็นช่อฉัตรเล็กๆ 2-3 ชั้น(ดอกกระเจียว) สรรพคุณ ปลูกไว้เป็นมงคล, เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยม พกหัวติดตัวไปเป็นคงกระพัน - ว่านขมิ้นขาวเสน่ห์ ยังมีว่านที่มีลักษณะใกล้เคียงกันอีกหลายชนิด เช่น ว่านเทพรำลึก ว่านเทพรัญจวน(และจำพวกเทพตั้งเองอีกหลายต้น) ว่านมหาเสน่ห์ ว่านดินสอฤๅษี และว่านปัดตลอด(คนละต้นกับขมิ้นขาวปัดตลอด) ฉะนั้นต้องดูให้ดีๆ ก่อนซื้อครับ - "ว่านขมิ้นขาวปัดตลอด" (มีคู่กันคือว่านขมิ้นแดงปัดตลอด) ว่านชนิดนี้มีบันทึกอยู่ในตำราช่วงระหว่าง พ.ศ. 2500-2520 รวม 2 เล่มด้วยกัน มีลักษณะ ต้นใบดังขมิ้นแต่หัวโตกว่าขมิ้น 2 เท่า(ขมิ้นชัน) มีลายเป็นข้อๆ สีดำที่หัวระยะห่างราวครึ่งนิ้ว เนื้อในขาวมีกลิ่นหอมฉุน ใบของว่านนี้จะมีกลิ่นหอมเฉพาะตัวและถ้านำหัวว่านมาตัดหัวตัดท้ายให้เหลือท่อนยาวราว 3-4 นิ้ว แล้วเอาปูนแดงป้ายด้านหนึ่งด้านที่ไม่ได้ป้ายก็จะแดงด้วยทันที ทั้งนี้เป็นด้วยอิทธิฤทธิืของหัวว่านที่แล่นตลอดจึงเป็นที่มาของคำว่าปัดตลอดนั่นเอง(และจุดนี้แหละที่นักเล่นว่านนิยมใช้พิสูจน์กันว่าใช่ว่านขมิ้นขาวปัดตลอดแท้หรือไม่) - สรรพคุณ นับถือกันมาแต่โบราณว่าเป็นว่านที่ศักสิทธิ์มีสรรพคุณสูงชนิดหนึ่ง ใช้ได้ทั้งทางเมตตามหานิยม และคงกระพัน หัวว่านยังกินเป็นยาบำรุงร่างกายชั้นดี และบรรดาสรรพยาที่เข้าหัวว่านทั้งหลายนั้นนิยมใส่หัวว่านขมิ้นขาวปัดตลอดนี้ลงไปด้วยเสมอ เพราะฤทธิ์ของหัวว่านนี้จะเป็นตัวเร่งให้สรรพยาเหล่านั้นแล่นแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายอย่างรวดเร็ว จากคุณ : ตาเชย เขียนเมื่อ : 13 ต.ค. 52 20:18:21