Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
'สิงทอง นาชัย' หมอดินหัวก้าวหน้า  

..........................ปลูกพืชอินทรีย์รองรับตลาดโลก

                         ปัจจุบัน เกษตรกรหลายรายหันมา ทำการเกษตรแบบ เกษตรอินทรีย์ กันมากขึ้น เนื่องจากการทำเกษตรอินทรีย์นั้น ที่สำคัญจะเน้นการใช้ปุ๋ยอินทรีย์ เช่น ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยพืชสด และปุ๋ยชีวภาพในการปรับปรุงบำรุงดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ เพื่อให้   ต้นพืชมีความแข็งแรงสามารถต้านทานโรคและแมลงด้วยตนเอง รวมถึงการนำเอาภูมิปัญญาชาวบ้านมาใช้ประโยชน์ด้วย ผลผลิตที่ได้จะปลอดภัยจากสารพิษตกค้างทำให้ปลอดภัยทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค และไม่ทำให้สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรมอีกด้วย
   
                         นอกจากนี้ มูลค่าสินค้าเกษตรอินทรีย์ในตลาดโลก แต่ละปีมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย ปีละ 20% และหากเข้าไปดูในห้างสรรพสินค้าต่าง ๆ สินค้าเกษตรอินทรีย์ก็จะมีราคาที่สูงกว่าสินค้าทั่วไปถึงสามเท่าตัวหรือมากกว่านั้น นั่นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยซึ่งเป็นประเทศเกษตร กรรมมองเห็นโอกาสนี้ และพยายามที่จะปรับตัวเข้าไปสู่กระแสของสินค้าเกษตรอินทรีย์ สินค้าเพื่อสุขภาพ
   
                         เช่นเดียวกับ นายสิงทอง นาชัย อายุ 63 ปี หมอดินอาสาประจำหมู่บ้าน จังหวัดหนองบัวลำภู และเป็นหมอดินอาสาดีเด่นชนะเลิศสำนักงานพัฒนาที่ดินเขต 5 ประจำปี 2552 ของกรมพัฒนาที่ดิน ที่มีหัวคิดที่ทันสมัยในการปรับเปลี่ยนการปลูกพืชมาทำเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด พร้อมกับสร้างเครือข่ายกลุ่มเกษตรอินทรีย์ขึ้นมาจนประสบความสำเร็จในที่สุด
   
                         นายสิงทอง เล่าถึงขั้นตอนในการปลูกข้าวแบบไม่ใช้สารเคมีให้ฟังว่า

                         เริ่มแรกต้องทำการปรับปรุงบำรุงดินด้วยการไถกลบตอซังข้าว และปลูกพืชปุ๋ยสด โดยเริ่มจากการฉีดพ่นน้ำหมักชีวภาพในอัตรา 6-10 ลิตรต่อไร่ หลังเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม พอช่วงปลายเดือนพฤษภาคม-กลางเดือนมิถุนายน หว่านเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด เช่น ถั่วพุ่ม หรือ ปอเทือง อัตรา 5-10  กิโลกรัมต่อไร่ ทิ้งไว้ประมาณ 45 วัน แล้วไถกลบ หลังจากนั้นตากดินทิ้งไว้ 7-10 วัน แล้วไถแปรเพื่อปักดำข้าวในช่วงต้นเดือนสิงหาคม
   
                       “การทำนาข้าวในลักษณะนี้ นอกจากจะเป็นการลดต้นทุนการผลิตได้มากแล้ว ยังสามารถรักษาหน้าดินให้มีความอุดมสมบูรณ์ อีกทั้งข้าวที่ผลิตออกมายังมีคุณภาพดีและขายได้ราคาด้วย”
   
                         ทั้งนี้ ได้จัดตั้งเครือข่ายกลุ่มเกษตรอินทรีย์ตามนโยบายของกรมพัฒนาที่ดิน กลุ่มปุ๋ยอินทรีย์หนองกุงทรัพย์เกษตร มีสมาชิกถาวรขึ้นทะเบียน 100 ราย และเครือข่ายรวมกลุ่มกันประมาณ 50 ครัวเรือน ได้ร่วมกันจัดตั้งกิจกรรมวิสาหกิจชุมชน ผลิตปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ โดยจัดตั้งโรงปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพอัดเม็ด กำลังการผลิตปีละ 20 ตัน ซึ่งผลจากการดำเนินงานทำให้สมาชิกกลุ่มมีความพร้อม สามารถพัฒนาตนเองให้รองรับนโยบายการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์และอาหารปลอดภัยได้
   
                         เกษตรกรรายใดต้องการเรียนรู้การทำเกษตรอินทรีย์ที่ถูกต้องและประสบความสำเร็จ สามารถติดต่อขอคำแนะนำได้ที่ หมอดินอาสาสิงทอง นาชัย บ้านเลขที่ 49 หมู่ที่ 13 บ้านทรัพย์ภูเก้า ต.หนองเรือง อ.โนนสัง จ.หนองบัวลำภู หรือเบอร์โทร. 08-3362-9846.


ที่มา  http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=345&contentID=25786

 
 

จากคุณ : ญี่ปุ่น35
เขียนเมื่อ : 14 ต.ค. 52 00:32:17




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com