ความคิดเห็นที่ 1   ได้ค่ะ จากคุณ : แม่แมมมอธ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 08:42:57

ความคิดเห็นที่ 2 กินเนื้อแล้วเอาเมล็ดไปเพาะก็ขึ้นค่ะ ต้องให้คุณ Boonthai มาคอมเมนท์ จากคุณ : สีมุก เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:26:21

ความคิดเห็นที่ 3 ใช่เลย ต้องคุณ Boonthai แต่เพียงผู้เดียวเลยในวินาทีนี้ที่นึกออก จะนั่งรอฟังด้วยคน กำลังนึกอยากปลูกอยู่เลย จากคุณ : n_vicky เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 09:48:47

ความคิดเห็นที่ 4 มารอคำตอบชัดๆครับ ลองกัดดูเหมือนกับเชื่อมน้ำตาลมาเลย แต่เขาบอกว่าเพิ่งเอามาจากต้นสดๆเลยครับ จากคุณ : กะจังวา เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 12:34:25

ความคิดเห็นที่ 5 และนี่เมล็ดที่ได้มาหลังจากหม่ำเปลือกและเนื้อหมด หว๊าน...หวาน มากๆ เหมือนกับเชื่อมน้ำตาลมาจริงๆครับ เมล็ดลักษณะนี้ หวังว่าคงขึ้นนะครับ แก้ไขเมื่อ 20 ต.ค. 52 12:44:29 จากคุณ : กะจังวา เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 12:41:09

ความคิดเห็นที่ 6 ยิ่งเพาะเร็วเท่าไรก็ยิ่งมี % งอกมากเท่านั้นครับ พี่กะจังวา รีบๆปลูกเลยครับ จากคุณ : คนดง คนเดิม เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 13:36:59

ความคิดเห็นที่ 7 เมล็ดที่หวานนั้นหวานธรรมชาติค่ะ ไม่ได้เชื่อมน้ำตาล เพาะจากเมล็ดขึ้นค่ะ รากจะงอกจากตรงกลางเมล็ด จากคุณ : Island Junkie เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 13:41:46

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณครับ ที่มายืนยันว่าเมล็ดนี้ไม่ได้ตั้งไฟมาก่อน กลัวเพาะไม่ขึ้น เสาร์ อาทิตย์นี้ได้ลงถุงชำแน่ จากคุณ : กะจังวา เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 14:18:04

ความคิดเห็นที่ 9 เพาะเลยครับ ใช้ถุงชำที่ยาวๆหน่อยเพราะ รากจะงอกออกมาก่อน พอรากยาวได้ระดับหนึ่งถึงจะแทงยอดโพลออกมา แช่น้ำไว้ซักวันสองวันแล้วก็เพาะเลยครับ เอาด้านที่มีวงกลมๆไว้ล่วง ด้านที่ที่รอยผ่ากลางไว้บน ผมลองเพาะแล้ว 4 เมล็ด งอก 1 เมล็ด ซื้อมา 1 ขีด 4 ลูก แพงได้ใจเลย มันมีต้นตัวผู้ตัวเมียอีก ว่าจะไปหาซื้อมาทานอีกจะได้เพาะใหม่ จากคุณ : naigod เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 15:48:44

ความคิดเห็นที่ 10 พันธุ์นี้เราฝังเม็ดไว้ก็ขึ้นแล้วเหมือนกันแต่ฝังแบบรวมๆ ไม่รู้จะได้เรื่องหรือเปล่า ถ้าไปไม่รอดก็เสียดายแย่เลย จากคุณ : สีมุก เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 17:03:03

ความคิดเห็นที่ 11 ^ ^ ^ ผมก็กินพันธ์เดียวกับคุณสีมุกเลย กินแล้วเอาเม็ดมาวางในกระบะเพาะ ตอนนี้ แทงยอดประมาณ ๑ นิ้ว ๒ยอดละครับ ( กว่าจะแทงยอดขึ้นมา นานหน่อยครับ ) จากคุณ : ต้อย_คนใต้ เขียนเมื่อ : 20 ต.ค. 52 19:07:37

ความคิดเห็นที่ 12 มีหลายพันธุ์เลยหรือครับ ? เมื่อวานผมเอาไปลงถุงชำแล้วประมาณ 20 ต้น แล้วเราจะดูอย่างไรว่ามันเป็นต้นตัวผู้หรือตัวเมียครับ ? จากคุณ : กะจังวา เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 11:57:56

ความคิดเห็นที่ 13   เคยเพาะค่ะ ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน จะงอกเป็นต้นค่ะ เคยซื้อแบบที่เค้าขาย 3 ถุงร้อยมากิน เอามาเพาะก็งอกค่ะ จากคุณ : ดอกไม้หัดเดิน (xsus) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 12:05:55

ความคิดเห็นที่ 14   ต้นที่เพาะไว้ค่ะ จากคุณ : ดอกไม้หัดเดิน (xsus) เขียนเมื่อ : 21 ต.ค. 52 12:10:03

ความคิดเห็นที่ 15 http://www.intapalum.com/index1.html จากคุณ : TNT503 เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 00:22:31

ความคิดเห็นที่ 16 ปลูกแล้วบำรุงดี ๆ 2 ปีขึ้นไปก็ได้ทานผลแล้วครับ  เรื่องต้นตัวผู้ตัวเมียคงต้องรอดู ตอนเค้าออกจั่นออกมาถึงจะรู้  บางคนว่าดูที่เมล็ดอ้วน=เมีย ผอม=ผู้ ไม่ยืนยันนะครับ ที่สวนปลูกไว้ห้าปีเพิ่งออกจั่นมาแต่เป็นต้นตัวผู้หมด  รอต้นที่เหลือว่าจะเป็นยังไง จากคุณ : จุ๊จิ๊ เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 15:06:47

ความคิดเห็นที่ 17 ผมไม่ได้เป็นแบบคห.3 (n_vicky)ว่าหรอกนะครับเดี๋ยวจะเข้าใจผิดกันไปใหญ่  คือกินแล้วก็เพาะเมล็ดถูกบ้างผิดบ้างไปเรื่อยๆ  แบบไม่รู้อนาคต ก็คงแบบ Que Sera Sera http://www.youtube.com/watch?v=kNXeAceK7Yg&feature=related จากคุณ : Boonthai Dates เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 20:07:05

ความคิดเห็นที่ 18 ตอบคุณกะจังวา ว่าได้ครับผม  แต่จะได้ผลไหมยังไม่รู้  ชาวตะวันออกกลาง เขาพูดว่า IN - CHA - LA  (IF GOD WILL ) แถวบ้านเราน่าจะมีหลายพันธุ์ที่เหมาะอยู่  คือว่าผลของเขาต้องทนทานต่อความชื้นในอากาศได้ดี    ถ้าเอาชัดๆว่าพันธุ์อะไรก็ขอบอกว่า DAYRI สำหรับตากแห้ง   และ BARHEE สำหรับกินสด เมื่อได้พันธ์แล้วยังมีตัวผู้ ตัวเมียอีก  โดยทั่วไปสิ่งมีชีวิตตัวผู้จะใหญ๋โตกว่าตัวเมีย(ที่สวนต้นใหญ่สุดตัวผู้  แต่ต้นเล็กสุดก็เป็นตัวผู้)     อย่าคิดว่าตัวผู้ไม่มีดวามสำคัญนะครับ   ต้องดูแลให้อาหารเขาเหมีอนเหมือนตัวเมียแหละ ตัวเมียกำหนดสีสรร  กลิ่น และรส    ส่วนตัวผู้กำหนดขนาดของผล ขนาด ของเมล็ด และระยะเวลาสุกของผล สระแก้วกับแปดริ้วน่าจะมี Heat Unit (กล่าวแล้วครั้งก่อน) เท่ากัน  แต่อาจแตกต่างกันที่ของคุณกะจังวามีหน้าเขาและหลังเขา จากคุณ : Boonthai Dates เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 20:37:51

ความคิดเห็นที่ 19 วิธีการเพาะก็ตามข้างบนแหละครับ OK  แต่ถ้าจะให้ตรงตามในหนังสือ  ก็ต้องเอาไม้จิ้มดินลงไปก่อนแล้วหย่อนเมล็ดลงไป  ให้ด้านที่ติดหัวจุกอยู่ด้านบน รากมันจะออกจากสะดือ(อยู่ตรงข้ามร่องอก) แล้วจะงอลงไปในดิน  จากนั้นจะแทงหน่อขึ้นมาจากกลางๆราก (ไม่เหมือนตาลที่สร้างสายสะดือก่อนแล้ว ขนอาหารในเมล็ดลงไปไว้ใต้ดินก่อน  แล้วค่อยแทงหน่อขึ้นมา  จึงช้ามาก) จากการลองเพาะ4-5ครั้ง   ครั้งแรกเห็นรากขึ้นมาขาวๆในเวลาไม่นาน ต้องรีบกลับเมล็ดใหม่   ชุดนี้เป็นชุดแรกที่ให้ผลครั้งแรกปี2550    ครั้งต่อๆมาบางชุดก็ไม่งอก    ซึ่งมีข้อสังเกตุว่าการเพาะในฤดูฝน ส่วนมากงอกและใช้เวลาไม่นาน  เช่นชุดล่าสุดเพาะ18กย.2552 เริ่มโผล่9ตค.2552   เป็นเมล็ดจากดูไบ จากคุณ : Boonthai Dates เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 21:07:19

ความคิดเห็นที่ 20 อินทผลัมที่คุณกะจังวาซื้อมา ไม่แน่ใจว่าพันธุ์อะไร   แต่ที่เห็นนิยมแพ็กมาในกล่องแบบมีก้านมาด้วยมักเป็น Deglet Noor ที่มีวิวัฒนาการเริ่มต้นที่ อัฟริกา      ส่วนพันธุ์อื่นๆมีวิวัฒนาการเริ่มต้นที่เมโสโปรเตเมีย ต้นกำเหนิดได้กำหนดให้อินทผลัมจากแหล่งทั้งสองมีประเภทของน้ำตาลที่ แตกต่างกัน    คือ Deglet Noor จะมีน้ำตาล Sucrose เหมือนมะพร้าว ตาล อ้อย    แต่พันธุ์อื่นๆส่วนใหญ่จะมีน้ำตาล Glucose and Fructose C12H22O11  +    H2O     =      C6H12O6   +   C6H12O6 sucrose                                  glucose          fructose เมื่อกินอินทผลัมเข้าไป   กรดglucuronic acid ซึ่งเป็นอนุพันธุ์ของกลูโคส จะทำหน้าที่เปลี่ยนสารพิษที่เข้าสู่ร่างกายให้พิษลดลง    ทำให้ตับสามารถ ขับออกจากร่างกายได้       แต่ถ้ากินเข้าไปมากมากเกินไปจะเหมือนกินพวกคาร์โบไฮเดรทมากๆแล้วเป็นโรคไต (Kidney stone) หรือไม่ ใครรู้บอกหน่อย Doris Day -  Que Sera Sera http://www.youtube.com/watch?v=xZbKHDPPrrc&feature=fvw จากคุณ : Boonthai Dates เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 21:51:42

ความคิดเห็นที่ 21 ปีนี้ผมจะเริ่มทดลองเกสรตัวผู้แต่ละต้นอย่างละเอียด    หวังว่าจะได้เห็นอะไรบางอย่าง    เพื่อนๆที่มีเกสรตัวผู้ของอินทผลัมที่ไม่เหมาะกับต้นตัวเมีย น่าจะได้มีการแลกเปลี่ยนกัน สวัสดีครับ จากคุณ : Boonthai Dates เขียนเมื่อ : 22 ต.ค. 52 22:03:39

ความคิดเห็นที่ 22 ขอบคุณมากๆครับ สำหรับความรู้ เจอกูรู เข้าแล้ว จากคุณ : กะจังวา เขียนเมื่อ : 23 ต.ค. 52 14:53:32