ความคิดเห็นที่ 1 เหมือนเคยอ่านเจอว่าที่อังกฤษก่อนเอาแมวเข้าไปต้องมีการตรวจเลือดแมวโดยศูนย์ปฏิบัติการที่เค้ารับรองนะคะ ศูนย์พวกนี้ไม่มีในไทย ต้องส่งเลือดไปให้เข้าตรวจค่ะ ไม่แน่ใจว่าค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ น่าจะแพงอยู่ และต้องตรวจซ้ำด้วย อาจต้องเตรียมการล่วงหน้าสักหกเดือนถึงเก้าเดือนเป็นอย่างน้อย ถ้าผลเลือดผ่านอาจจะไม่โดนกักตัวนะคะ เดี๋ยวขอเช็คข้อมูลอีกที เพราะเคยหาข้อมูลพวกนี้มานานแล้วตอนสนใจพาแมวไปอยู่เมืองนอก ตอนนั้นที่ดูก็มีอเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ อังกฤษนี่ล่ะคะ เสริชในกูเกิ้ลเอา ไม่ได้เป็นผู้รู้หรือมีประสบการณ์อะไรหรอก จากคุณ : Auntie DEE เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 14:42:27

ความคิดเห็นที่ 2 เสริชปุ๊บก็เจอปั๊บเชียว หมาแมวที่จะเอาเข้าอังกฤษได้โดยใช้ผลตรวจเลือดอย่างเดียว (ไม่ต้องกักกันโรค) คือประเทศเหล่านี้ All EU countries (and associated territories), Andorra, Antigua & Barbuda, Aruba, Ascension Island, Australia, Bahrain , Barbados, Bermuda, Canada, Cayman Islands, Chile, Croatia, Falkland Islands, Fiji, French Polynesia, Grenadines, Hawaii, Hong Kong, Iceland, Jamaica, Japan, Liechtenstein, Mauritius, Mayotte, Monaco, Montserrat, Netherlands Antilles, New Caledonia, New Zealand, Norway, Russia, St Helena, St Kitts & Nevis, St Pierre & Miquelon, St Vincent, San Marino, Singapore, Switzerland, Taiwan, United Arab Emirates, USA (mainland), Vanuatu, Vatican, Wallis & Futuna. ซึ่งจะเห็นว่าประเทศไทยไม่เกี่ยว ในกรณีนี้ทำอย่างไร เค้าบอกว่า ต้องกักตัวไว้หกเดือนค่ะ ค่าใช้จ่ายประมาณ 300 ปอนด์ต่อเดือนสำหรับหมา และ 200 บอนด์ต่อเดือนสำหรับแมว แต่ขั้นตอนการนำเข้า เช่น ต้องกรอกเอกสารอะไร ติดต่อสถานที่กักกันอย่างไร อะไรนี่คงต้องดูรายละเอียดอีกที แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 52 17:46:47 จากคุณ : Auntie DEE เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 14:48:46

ความคิดเห็นที่ 3 แม้ผลเลือดผ่าน แต่ไปจากเราก็ อังกฤษ กัก 6 เดือนอยู่ดีคะ แต่ถ้าอยู่(กัก) สักพัก อาจจะหลายเดือนแล้วไม่มีไร เค้าอาจจะปล่อยค่ะ เมกา ท่าจะง่าย แต่แล้วแต่รัฐค่ะ นิว นี่ไม่น่ามีกัก ค่ะ ออสซี่ คุ้นๆ แต่ไม่แน่ใจค่ะ แนะนำ ให้ลองคุยกับสถานทูตแต่ละประเทศ/เมือง ที่คุณจะไป ที่ประจำอยู่ไทยก่อนดีกว่าค่ะ ข้อมูลจะตรงที่สุด คุณจะไปปลายทางที่ไหนค่ะ ถ้าเอาไป EU ต้องส่งเลือดไปตรวจLAB EU ค่ะ เค้าไม่รับLAB บ้านเรา จากคุณ : เฉาก๋วยอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 14:51:46

ความคิดเห็นที่ 4 มีเวบไซต์นี้ที่แนะนำขั้นตอนและเอกสารการนำแมวไปอังกฤษ http://www.defra.gov.uk/wildlife-pets/pets/travel/index.htm ส่วนแมวจะหนาวไหม จะปรับตัวอย่างไร เหมือนเคยเห็นคนในพันทิปห้องนี้เคยเอาลูกแมวไปแคนาดานะคะ จำได้ล่าสุดยังเอารูปแมวไทยลุยหิมะมาให้ดูเลย แมวเล็กอาจจะปรับตัวเร็วหน่อย แมวใหญ่ไม่รู้เหมือนกัน จากคุณ : Auntie DEE เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 14:55:55

ความคิดเห็นที่ 5 เคยติดจะเอา อิ๊งมาอยู่ด้วย แต่สงสาร เพราะ อาจจะต้องโดนกักตัวถึง 6 เดือนค่ะ สูงสุด พร้อม คชจ / วัน ที่กักตัว รวมโน่นนี้ เลยตัดสินใจไม่เอามา เหงามาก ขาดแมวไม่ได้เหมือนกัน แต่ยังไงก้อต้องจากมาก้อพอทำใจได้บ้าง ที่ทำให้หายเหงาก้อห้องแมวนี้แหละค่ะ นั่งดูรูปชาวบ้านทุกวัน (ของเราที่เช็ค ประเทศ ออสเตรเลียค่ะ ) จากคุณ : annana เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 15:57:05

ความคิดเห็นที่ 6 . ลองไปตั้งกระทู้ที่ห้องไกลบ้าน คลับย่อย around UK น่าจะได้คำตอบ นะก๊ะ แก้ไขเมื่อ 03 พ.ย. 52 16:06:40 จากคุณ : soomchon เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 16:05:35

ความคิดเห็นที่ 7   ค่าใช้จ่ายเยอะนะคุณ หาบ้านเช่าก็ลำบาก พวกมีแมวเนี้ย เพราะขนมันไปทั่ว จากคุณ : ตาน เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 18:00:52 A:78.20.209.175 X: TicketID:019698

ความคิดเห็นที่ 8 ความคิดเห็นที่ 7     ค่าใช้จ่ายเยอะนะคุณ หาบ้านเช่าก็ลำบาก พวกมีแมวเนี้ย เพราะขนมันไปทั่ว จากคุณ : ตาน   เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 18:00:52 A:78.20.209.175 X: TicketID:019698   ----------------------------------------------------- ก็เค้ามีปัญญาจ่าย แล้วคุณไปยุ่งอะไรกับเค้าล่ะ ถ้าไม่ได้รักแมว ไม่รักสัตว์ ก็กรุณาอย่าเข้ามาในห้องนี้ แสดงความคิดเห็นบ้าๆบอๆอีก ไร้สาระ จากคุณ : ข้าวแต๋นน้ำแตงโม เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 18:10:26

ความคิดเห็นที่ 9 แปลว่ายังไงๆ อิเจามันก็ต้องติดคุก 6 เดือนเหรอเนี่ย? แค่คิดก็อยากจะร้องไห้แล้วอ่ะ เรื่องค่าใช้จ่ายนี่ก็ทราบว่ามันต้องจ่ายแพงกว่าแน่ๆ ค่ะ ตอนนี้เลยมาหาข้อมูลเพื่อเตรียมตัวว่ามันต้องหยอดกระปุกเก็บเงินเท่าไหร่ ถึงจะเอาลูกไปด้วยได้ เพราะเราก็ไม่ได้มีเงินถุงเงินถัง แต่เราก็รักแมวเราเหมือนลูก.... แต่เรื่องเอาไปแล้วแมวติดคุก 6 เดือนอันนี้ก็ไม่รู้จะแก้ปัญหายังไง เครียดอ่ะ อีกอย่างคือมีแมว 3 ตัวด้วย ไม่ใช่ตัวเดียว เหอๆ ขอบคุณทุกท่านที่มาช่วยเสนอแนะนะคะ อาจมีคนไม่รักแมวหลงเข้ามาบ้าง นั้นเป็นเพราะเราไปโพสอีกกระทู้ที่ห้องไกลบ้านด้วย เพราะเห็นว่าน่าจะมีผู้มีกระสบการณ์เต็ดเตร่อยู่  ต้องขอโทษด้วยนะคะ จากคุณ : สไปเดอร์แมว เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 18:33:38

ความคิดเห็นที่ 10 เราว่าคุณตานไม่ได้ไม่รักแมวหรอก แต่อาจจะพูดห้วนๆไปบ้าง และที่คุณตานพูดมาก็จริงค่ะ ในกรณีที่ต้องไปเช่าบ้านอยู่ เจ้าของบ้านส่วนมากจะระบุมาเลยว่าไม่อนุญาตให้มีสัตว์เลี้ยง บ้านส่วนใหญ่ที่อนุญาตก็อาจจะไม่ใช่บ้านในเมือง หรือบางทีก็คิดค่าเช่าแพงกว่าบ้านทั่วๆไป ตอนย้ายออกก็ต้องเก็บงานซ่อมร่องรอยต่างๆที่แมวทำไว้ด้วย ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่าการไม่มีสัตว์เลี้ยงจริงๆ ซึ่งการที่รู้ตรงนี้ก็จะได้ช่วยเรื่องการเตรียมประมาณการค่าใช้จ่ายด้วยนะคะ ถ้าจำไม่ผิดแมวคุณสไปเดอร์แมวตัวหนึ่งน่าจะมีปัญหาเรื่องนิ่วหรือปัสสาวะอักเสบ ลองเช็คค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลตรงนี้ด้วยนะคะ แล้วถ้าอาการของเค้ากำเริบระหว่างอยู่ในค่ายกักกันจะจัดการอย่างไร ค่ายกักกันอนุญาตให้ญาติไปเยี่ยมหรือไม่ หรือบ่อยแค่ไหน อันนี้เราก็ไม่มีข้อมูล (ในส่วนของอังกฤษ) หาข้อมูลไว้เยอะๆก็ดีนะคะ จากคุณ : Auntie DEE เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:21:48

ความคิดเห็นที่ 11 ใช่ค่ะ ว้อดก้าเคยฉี่ไม่ออกเป็นนิ่ว 2 ครั้ง แต่ถ้าทิ้งไว้ที่นี่ หากว้อดก้าเป็นอีกก็คงไม่มีใครรู้ สังเกตเห็น และพาไปหาหมออยู่ดี...ตัดสินใจไม่ถูกเลยค่ะว่าควรทำไง เครียดมากเลย จากคุณ : สไปเดอร์แมว เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 19:46:28

ความคิดเห็นที่ 12 ลองถามในห้องไกลบ้านน่าจะเวิร์คนะคะ เพราะน่าจะมีคนเคยเอาไปบ้าง เพิ่งหาข้อมูลมาเหมือนกัน แต่เป็นการเอาแมวไปไทย แล้วจะเอากลับมาอีก ทางหน่วยที่เกียวข้องกับสัตว์ทางนี้เค้าช่วยเหลือและให้ข้อมูลดีมากว่าต้องทำอย่างไรบ้าง แถมยังให้เบอร์ติดต่อกับทางด่านกักกันสัตว์ที่ไทยมาด้วย และให้ไปติดต่อว่าทางไทยจะต้องการอะไรบ้าง จะให้เค้าแปลเอกสารเป็นภาษาอังกฤษให้ด้วยไหม เรียกว่า บริการดีมาก ๆ เลยค่ะ ส่่วนทางไทยเอง ก็ดีมากเหมือนกัน ให้ข้อมูลให้คำแนะนำอย่างดี ข้อมูลพวกนี้ต้องหาไว้แต่เนิ่น ๆ นะคะ จะปุ๊บปั๊บทำเลยไม่ได้ เพราะวัคซีนบางชนิดต้องใช้เวลา ฉีดล่วงหน้าเป็นเดือน ก็แล้วแต่เค้าจะกำหนดมา แต่ในกรณีนี้ คือไม่ใช่ประเทศอังกฤษ คิดว่าทางที่ดี ควรจะติดต่อกับหน่วยงานของเค้าโดยตรงจะดีกว่านะคะ เพราะว่าข้อมูลแต่ละปีอาจจะเปลี่ยนแปลงก็ได้ ส่วนเรื่องบ้านเช่า หรือห้องเช่า ถ้าเป็นที่ฮอลแลนด์ไม่ค่อยเห็นจะมีปัญหานะคะ เห็นบ้านเช่าห้องเช่าอะไร ก็เลี้ยงแมวเลี้ยงหมากันทั่วไปหมด เพราะว่าผู้เช่าต้องรับผิดชอบภายในบ้านตัวบ้านทั้งหมด ส่วนด้านนอกเป็นของผู้ให้เช่า เวลาย้ายออก ผู้เช่าต้องทำสภาพบ้านให้เหมือนกับตอนที่เข้ามาอยู่ เพราะฉะนั้น ถ้าเลี้ยงแมวเลี้ยงหมา ก็ทำคืนให้เค้ากลับสภาพเดิมเท่านั้นเองค่ะ จากคุณ : ทิวลิบ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 20:22:45

ความคิดเห็นที่ 13 ต้องฉีดวัคซีนให้ครบตามที่กำหนดไว้ในเว็บไซด์ของเค้านะคะ  แล้วก็ต้องส่งเลือดไปตรวจกับแล็บที่รับรองโดยอียูว่าไม่เป็นโรคกลัวน้ำแน่นอน  โดยต้องทำก่อนเป็นเวลาหกเดือนค่ะ แต่อย่างไรก็ดี  ถ้ามาจากเมืองไทย  ถึงจะเลือดผ่าน ผลอย่างอื่นผ่านหมด  น้องแมวก็ยังต้องถูกกักอยู่ในสถานกักกันหกเดือนค่ะ  กฏเหล็กนี้ไม่มีเปลี่ยนแปลงเลย ค่าใช้จ่ายในการอยู่ในสถานกักกันนั้น  ถ้าระยะยาวและสามตัว  รับรองได้เลยว่ามีการต่อรองกันได้ค่ะ  การเลี้ยงดูนั้นก็มีผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด และมีสัตว์แพทย์ตรวจอยู่ตลอดเป็นประจำ  ไม่ได้นำไปอยู่รวม ๆ กัน  หรืออะไรเช่นนั้น   อันนี้มาจากประสบการณ์โดยตรง  เพราะดิฉันย้ายบ้านมาจากสวิตฯ นำน้องหมามาด้วย  โดยใช้บริษัทที่จัดการเรื่องนี้โดยตรงค่ะ   ถึงจะต้องเสียเงินจนกระเป๋าแฟบ (อันนี้เรื่องจริง)  แต่ไม่ทิ้งเค้าแน่ค่ะ  เพราะเลี้ยงเค้าแบบลูกก็แทบจะว่าได้ ตอนเอาเค้ามา  ฉีดวัคซีน ตรวจเลือดผ่านแล้ว  ก็ยังเหลืออีกสองเดือน  ก็เลยอยู่ในสถานกักกันสองเดือนค่ะ  แล้วอันนี้เราก็เลือกได้ว่าจะอยู่ที่ไหน (ให้ใกล้เคียงกับเมืองที่เราจะย้ายไปอยู่)  เราก็สามารถไปเยี่ยมเค้าได้ทุกอาทิตย์   อยากทราบรายละเอียดอะไรก็ถามมาได้นะคะ  เข้าใจความรู้สึกค่ะ ไม่ต้องเครียดค่ะ  ค่อย ๆ คิดไป ส่วนเรื่องบ้านเช่า  ถ้าจะลำบากนิดก็ต้องแฟลตน่ะค่ะ  ที่ส่วนมากไม่ค่อยอยากรับสัตว์เลี้ยง  แต่ที่รับก็มี  ไม่ต้องกังวลค่ะ  ไม่เช่นนั้น  คนรักสัตว์เลี้ยงที่ประเทศอังกฤษก็หาที่อยู่ไม่ได้เลยซิคะ  ถ้าไม่มีบ้านเป็นของตัวเองน่ะ ค่อย ๆ คิดไปนะคะ  ใจเย็น ๆ  เอาใจช่วยค่ะ จากคุณ : Amber n the Gang เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 20:59:37

ความคิดเห็นที่ 14 ประสบการณ์ตรงนำแมวไทย 2 ตัวมาอยู่ด้วยที่อังกฤษเมื่อสามปีก่อนค่ะ โดยส่วนตัวคิดว่าไม่ยุ่งยากอะไรนักนะคะ แค่ทำไปตามขั้นตอน แน่นอนว่ามันก็มีสงสารและเป็นห่วงแมวบ้างที่ต้องตกใจขวัญหนีดีฟ่อกับการขึ้นเครื่องบินหลายชั่วโมงโดยไม่มีแม่(คือตัวดิฉันนี่แหละค่ะ)ไปด้วย พอถึงแล้วก็จะต้องไปอยู่ในสถานที่กักกัน 6 เดือน ฟังชื่อน่ากลัว แต่มันไม่แย่นักหรอกนะคะ แมวของดิฉันทั้ง 2 ตัวได้อยู่ห้องเดียวกัน มีที่นอนนุ่ม ๆ มีฮีตเตอร์ มีของเล่น และมันจะมีส่วนของห้องที่ยื่นออกไปในสวน เป็นแบบกรงเปิดโล่ง (คือห้องมีสองส่วน ส่วนหนึ่งเป็นห้องสำหรับนอน อีกสวนเป็น open air) แล้วเขาก็มีกิ่งไม้ใหญ่ ๆ ไว้ให้แมวข่วนและปีนเล่น เราสามารถไปเยี่ยมได้ทุกวัน นอกเสียจากเราจะขี้เกียจเสียเอง ทางสถานกักกันที่แมวดิฉันอยู่เขาจะเปิดวิทยุไว้ให้แมวฟังด้วยเบา ๆ คือให้คุ้นเคยกับการมีเสียงพูดคุยของคนอยู่รอบข้าง ถึงวันนี้มั่นใจว่าคิดไม่ผิดที่นำเขามาด้วย แม้ค่าใช้จ่ายค่อนข้างแพงอยู่สักหน่อย แต่ดิฉันดำเนินการทุกอย่างเองหมดเลยประหยัดลงไปได้บ้าง ส่วนรายละเอียด เดี๋ยวจะกลับมาตอบนะคะ ขอกลับไปค้นอีเมล์เก่า ๆ ที่เคยอธิบายรายละเอียดให้อีกคนหนึ่งไว้เมื่อสองปีที่แล้วก่อนค่ะ จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง(ตัว) (A Blacksheep) เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 23:34:17

ความคิดเห็นที่ 15 ถ้า England เรายืนยัน ความเห็นเราด้านบนค่ะ เพรราะ เราเกือบส่งแมวเราไป แต่พอเจอ ตารางอันพรึบๆ จึงปฎิเสธไปค่ะ ขั้นแรก ขนแมวไป ยังไม่ต้องสนใจบ้านเช่าหรอก เอาแค่ ค่าimport taxes ก่อนก็พอ ก็หนาวละคะ คุณสไปเดอร์แมวค่ะ แมวเป็นนิ่วประเภทไหนค่ะ จากคุณ : เฉาก๋วยอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 3 พ.ย. 52 23:37:38

ความคิดเห็นที่ 16 มาอ่าน มาเก็บข้อมูล และขอเอาใจช่วยคุณสไปเดอร์แมว นะคะ เพราะบางทีวันหนึ่งข้างหน้าต้องย้ายประเทศบ้าง จะได้รู้ว่าควรทำอย่างไรจูดี้จึงจะได้ไปอยู่กับแม่ค่ะ จากคุณ : ป้าตุ้ยกล้วยกวน เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 02:23:15

ความคิดเห็นที่ 17 เอาใจช่วยให้หาทางออกที่ดีที่สุดได้นะคะ ส่วนเรื่องที่พักในยุโรปนี่ไม่มีปัญหาเรื่องแมวค่ะ ที่บ้านแม่ฉีดามก็อยู่อพาตเม้นท์ แมวสามตัวแน่ะ แต่บางที่จะไม่อนุญาตให้เลี้ยงน้องหมาค่ะ แต่ก็เป็นส่วนน้อยมาก เรื่องกักบริเวณ ไม่น่าเป็นห่วงค่ะแต่ค่าใช้จ่ายจะสูงอยู่พอสมควร เมื่อสามปีก่อน แม่ฉีดามเคยพาพี่ฉีดามไปเลี้ยงสามอาทิตย์ ค่าบริการตกที่ราวๆ สี่ร้อยฟรั้งสวิส ก็ราวๆหมื่นกว่าบาทไทยค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น อย่าเปรียบเทียบกับเงินบาทไทยเชียวนะคะ กับบริการที่ได้รับ มันเกินคุ้มกว่าแน่นอนค่ะ เรื่องอากาศไม่น่าเป็นห่วงค่ะ ถ้าคุณแม่พี่เจาเลี้ยงระบบปิด เพราะอากาศในบ้านมันไม่หนาวอยู่แล้ว หน้าหนาวก็มีฮีทเตอร์สบายใจได้เลยค่ะเรื่องอากาศ จะลำบากตรงเรื่องเอกสารนี่ล่ะค่ะ จากคุณ : NSY เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 05:30:27

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณมากมายสำหรับ จขกท และทุกๆ ความเห็น ยุ้ยมีโครงการจะย้ายไปอยู่อังกฤษเหมือนกัน และจะเอาแมวไปด้วย น่าจะ 2 ตัวค่ะ ยังไม่ทันไปเลย แต่เคยมานั่งร้องไห้เรื่องโดนแยก 6 เดือน คิดถึงบ้านไม่พอ ยังต้องมาคิดถึงแมวอีก แต่กฎก็คือกฎ เลยว่าจะคุยกับว่าที่ฝาชี ว่าเราไม่ย้ายไปได้มั๊ย (คาดว่าจะไม่ได้) ท่าทางวุ่นวายพอสมควร แต่ก็ต้องทำค่ะ..... ถ้า จขกท ไปแล้ว แวะมาเล่าประสบการณ์ด้วยก็จะขอบคุณมากค่ะ หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น และปลอดภัยดี (วิตกล่วงหน้าเป็นปี55) จากคุณ : mooky mookie เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 08:27:16

ความคิดเห็นที่ 19 อุ๊วางแผนอยู่ กว่าจะย้ายไปจริงก็คงราวๆ ปีหน้าค่ะ กำลังเตรียมตัวสำหรับสิ่งต่างๆ ทั้งคนทั้งแมว อ่านความคิดเห็นพี่เปิ้ลแล้วอยากเปลี่ยนใจไปอยู่ฮอลแลนด์อ่ะ ฮ่าๆ เพราะทีแรกแฟนให้เลือกว่าฮอลแลน์กับอังกฤษ เธออยากไปอยู่ที่ไหน? เมื่อคืนกลับไปบ้านนอกพลิกไปคลิกมา เอาแมวมากอดๆๆๆๆ อิเจามันก็งง อุ๊เป็นไรมากป่ะเนี่ย กอดอยู่ได้รำคาณณณณณ... ส่วนตัวไม่ห่วงเรื่องบ้าน กับค่าใช้จ่ายที่คงแพงงงงมากกก... (เพราะก็ตั้งใจว่าจะแบ่งงบสำหรับส่วนนี้ยู่แล้ว) ห่วงแค่เรื่องโดนกักตัวนี่แหล่ะ ไม่แน่ใจว่าแบบไหนดีกว่ากัน ระหว่าง หอบไปทีละตัว กับหอบไป 3 ตัวรวด.... คุณ เฉาก๋วยอินเตอร์ คะ ว้อดก้าเป็นนิ่ว ฉี่ไม่ออก แบบมีตะกอนไปอุดอ้ะ เค้าเรียกว่าอะไรอ่ะ คือว้อดก้ามันท่อฉี่เล็ก เลยอุดตันง่าย อะไรงี้อ่ะค่ะ จากคุณ : สไปเดอร์แมว เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 12:01:33

ความคิดเห็นที่ 20 ที่ฮอลแลนด์ ก็ต้องโดนกักหกเดือนเหมือนกันค่ะ ถ้าไม่ได้มีการฉีดวัคซีนมาตามขั้นตอนที่เค้ากำหนด พี่คิดว่า ก่อนอื่น ที่คุณอุ๊จะเอาแมวย้ายไปด้วย อยากให้คุณอุ๊แน่ใจจริง ๆ ว่าคุณอุ๊เองก็อยู่ได้ ตปท ดูเหมือนน่าอยู่นะคะ เพราะคนมักจะมองไปในแง่ดีเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่การดำรงชีวิตจริง ๆ อาจจะไม่ได้สวยงามแบบนั้น ทั้งนี้ทั้งนั้นจากประสบการณ์ของตัวเอง และคนรอบข้างที่มีปัญหาต่าง ๆ นานาๆ ถ้ามีอะไรพ่วงเข้าไปอีก จะทำให้มีปัญหามากขึ้นเป็นเท่าตัว จริง ๆ ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้คุณอุ๊ ลองไปอยู่ซักพักนึงก่อน (หรือเคยลองไปอยู่มาแล้วโอเค ก็หมดปัญหาเรื่องนี้ไปนะคะ )  พออยู่ตัว ถ้าทุกอย่างเป็นไปด้วยดี ค่อยอพยพแมวไป เอาไปให้พร้อมกันเลยสามตัว จะได้มีปัญหาทีเดียว เหนื่อยทีเดียว ถ้าจะต้องไปเยี่ยม จะได้เยี่ยมพร้อมกันไปเลย เพราะค่าใช้จ่ายทุกอย่างไม่น้อยเลยนะคะ แล้วแมวก็จะได้อยู่เป็นเพื่อนกันด้วยค่ะ จากคุณ : ทิวลิบ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 14:38:33

ความคิดเห็นที่ 21 ขอบคุณมากค่ะพี่เปิ้ล อุ๊คงไปอยู่ก่อนสักพักแน่ๆ ค่ะ วางแผนไว้แบบนั้นเพราะตัวเองก็ต้องปรับตัว พอแน่ใจแล้วค่อยเอาแมวไปด้วย ระหว่างไม่อยู่ยังไม่รู้เลยว่าจะทำไงกะแมวดี... เหอๆ พอไปบอกแฟนเค้าก็บอกว่า ถ้าไม่แฮปปี้ก็กลับมาเมืองไทย ตอบง่ายมากกกก... จากคุณ : สไปเดอร์แมว เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 15:55:14

ความคิดเห็นที่ 22 คุณ สไปเดอร์แมวค่ะ ว้อดก้านี่ผู้ ญ รึ ผู้ ช ค่ะ ละ ทำหมันยังค่ะ ก๋วยเห็นด้วยกับพี่ทิวลิบค่ะ คุณน่าลองไปหาลู่ทางก่อนค่ะ ละลองไปคุยแนวๆปูทางไว้ก่อนเลย เคยมีเพื่อนที่import ไป (แต่ไม่ใช่จากไทย) มีใจดีได้ออกมาเร็วค่ะแต่ก็หลายเดือนอยู่นะ (ไปลองตีซี้ดูค่ะ) แต่ก๋วยแนะว่า วัตคซีนเบสิค พวก หัด หวัด พิษสุนัขบ้า ลิวคีเมีย ทำให้ครบ แนะให้ถ่ายพยาธิ (ลงบันทึกไว้ในvaccine bookด้วยเลย) ถ่ายไปเลยค่ะ 2-3เดือน หน FIP ไม่สนค่ะ เพรราะคนที่นั่นเค้าก็ไม่ค่อยทำกัน ฝังชิพ ขอเอกสารรับรองออกเป็นตัวจริง เป็นชื่อเรา ถ้าท ำหมันแล้วให้หมอเซ็นรับรอง(ลงบันทึกไว้ในvaccine bookด้วยเลย) ถ้าสามารถตรวจเลือดประจำปี เก็บใบรายงานไว้ด้วยค่ะ แต่ที่ห่วงคือตัวไม่สบายนี่ละคะ ส่วนEU จะบังคับเลยว่าจะต้องตรวจLAB mี่ไหนบ้าง ตรวจอะไรบ้าง ฝังชิพที่ไหน ละทำ pet  passport ยังไง ยาวค่ะ แต่ถ้ารอดผ่านก็อาจไม่ถูกกักได้ค่ะ ลูกค้าก๋วยกะลังพาลูกไปเยอรมันอยู่ค่ะ ปูทางกันล่วงหน้าเป็นปีเช่นกันค่ะ จากคุณ : เฉาก๋วยอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 18:19:56

ความคิดเห็นที่ 23 ว้อดก้าตัวผู้ค่ะ แมวทุกตัว ฉีดวัคซีน ทำหมันหมดแล้ว เลือดก็มีได้ตรวจมั่ง เวลาไปบริจาคเลือดอ่ะ ส่วนเรื่อง Lap นี่ก็หาข้อมูลกันอีกที คือตัวอุ๊เอง หลังจากวีซ่าผ่าน กะว่าคงไปๆ มาๆ ช่วงต้นปีหน้า ซึ่งถ้าทุกอย่างโอเค กลางๆ ปี ค่อนไปทางปลายปีหน้าจะมารับลูกๆ ไปอยู่ค่ะ แต่ถ้าไปอยู่แล้วเกิดโฮมซิกขึ้นมา ก็กะว่าหนีกลับมาอยู่ไทยกันค่ะ หุหุ ขอบคุณเฉาก๋วยอินเตอร์ มากๆ เลยค่ะ ลงทีเทลเยอะดีอ่ะ จากคุณ : สไปเดอร์แมว เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 19:59:15

ความคิดเห็นที่ 24 ยังไง หมอคนที่ทำหมัน ถ่ายพาธิ บรองกำกับให้ด้วยค่ะ กันเรื่องมากไว้ก่อน ่ว้อดก้าเคยตรวจตะกอนฉี่ เคยx-ray หรือทำอัลตร้าซาวมั้ยค่ะ คือบางทีตะกอนมันก็อุดท่อได้ แต่กินยาก็สลายได้ อันนี้คือนิ่วแบบไม่ต้องผ่า x-ray หรือทำอัลตร้าซาวจะไม่เห็น ถ้าต้องผ่าออกคือ ออกซาเลทค่ะ x-ray หรือทำอัลตร้าซาวจะเห็นชัดเลยค่ะ อันนี้กินยาสลายไม่ได้ค่ะ จากคุณ : เฉาก๋วยอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 20:25:24

ความคิดเห็นที่ 25 ลืมถามค่ะว่าอาหารคุมโรคกินอะไรอยู่ค่ะ ปล เช็คหลังบ้านด้วยนะคะ จากคุณ : เฉาก๋วยอินเตอร์ เขียนเมื่อ : 4 พ.ย. 52 20:26:48

ความคิดเห็นที่ 26   หัวอกเดียวกันเลยค่ะ ตอนนี้อยู่ที่อังกฤษแล้ว แต่อยากกลับไปเอาลูกสาวกะลูกชายมาอยู่ด้วยมาก เป็นน้องหมาค่ะ ตอนนี้ก็กำลังหาข้อมูลเหมือนกัน กลัวอยู่เรื่องเดียว เรื่องกักตัว 6 เดือน นี่ล่ะ น่าจะลดลงหน่อย กลัวเขาจะเสียสุขภาพจิต น่ะค่ะ ผู้มีประสบการณ์ รบกวนช่วยเล่าบรรยากาศที่กักตัวน้องหมาให้ฟังด้วยค่ะ แล้วเขาให้เราไปเยี่ยมนานไหมค่ะ แล้วเขาทั้งสองจะอยู่กรงเดียวกันได้ไหมค่ะ ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ เอาใจช่วยทุกคนที่หัวอกเดียวกันค่ะ จากคุณ : ^_^ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 06:22:32 A:92.3.138.35 X: TicketID:225254

ความคิดเห็นที่ 27 ขั้นตอนการส่งสัตว์เลี้ยงมาอังกฤษสามารถดูได้จากเว็บไซด์นี้นะคะ http://www.defra.gov.uk/wildlife-pets/pets/travel/quarantine/procedures/qprocs.htm ขั้นตอนยังคงเหมือนกับเมื่อสามปีที่แล้วค่ะ ขั้นตอนหลัก ๆ ก็มีดังนี้ 1. เลือกสถานที่พักให้น้องแมวจากที่นี่ http://www.defra.gov.uk/wildlife-pets/pets/travel/quarantine/procedures/support-info/england.htm เอาที่ใกล้บ้านเราหน่อยจะได้ไปเยี่ยมได้บ่อย ๆ ลองเปรียบเทียบราคากับบริการจากหลาย ๆ ที่ แมวที่บ้านไปอยู่กับบริษัทชื่อ 4paws-UK แถว Lancashire ค่ะ 2.ติดต่อกับสถาน quarantine ที่เราสนใจ คุยเรื่องราคา แล้วก็ทำเรื่องจอง จากนั้นทางสถานที่เขาจะจัดการเรื่องเอกสารติดต่อขอ import licence ดูแลเรื่องของ custom ตอนที่แมวมาถึงแล้วเขาจะไปรับให้เราเสร็จสรรพ (ตรงนี้ไม่ใช่ทุกสถานที่จะทำได้ อย่าลืมเช็คกับเขาก่อนนะคะ เพราะเขาต้องมีใบอนุญาตเป็น carrying agent มันจะสะดวกกับเรามาก) 3.จากความเข้าใจเดิม ๆ ที่ว่าแมวต้องมีการฉีดวัคซีน หรือฝังไมโครชิพก่อนมาอังกฤษ ตอนนี้เปลี่ยนไปแล้วค่ะ (แต่ทำไว้ก็ดีกับสัตว์เลี้ยงของเราเอง)ในเว็บของ defra บอกไว้ชัดเจนว่า We do not require any form of health certificate or vaccinations before your pet is imported into quarantine in the UK. ประเด็นคือเขาไม่ไว้ใจไงคะ เพื่อให้ชัวร์สัตว์ทุกตัวจากประเทศไทยเลยต้องถูกจับฉีดวัคซีนทันทีที่มาถึงอังกฤษและถูกกักไว้ดูอาการอีก 6 เดือน แมวของเราฉีดวัคซีนมาทุกขนานจากไทย แต่พอมาถึงเขาก็ฉีดกันพิษสุนัขบ้าให้ซ้ำอีกเพราะเป็นกฏตายตัวค่ะ  แต่....มีแต่ค่ะ ไปดูข้อต่อไป  ......ตอนนี้จบเรื่องของการเตรียมตัวที่อังกฤษ กลับมาถึงการเตรียมพร้อมของทางฝั่งเรา 4.เตรียมตัวสำหรับการเดินทางนะคะ เรื่องแรกถึงแม้ว่าทางอังกฤษบอกว่าไม่ต้องมี health certificate ก็ได้ แต่สายการบินอาจเรียกขอใบรับรองนี้ แมวเราเดินทางมากับ Emirate เพราะได้รับคำแนะนำมาจากสถานกักกันว่าเขามีความสันทัดด้านการดูแลสัตว์ดี อีกสายการบินหนึ่งที่น่าสนใจคือ BA แต่ที่เลือก Emirate เพราะถูกกว่า และทางสายการบินต้องการ health certificate ด้วยค่ะ 5.นอกจากนี้เราต้องทำเรื่องขออนุญาตส่งออกสัตว์ไปต่างประเทศ ซึ่งต้องทำล่วงหน้าประมาณ 7 วัน ที่ด่านกักกันสัตว์ (ตอนที่ดิฉันทำมันอยู่ที่สนามบินดอนเมืองค่ะ) ข้อมูลเอกสารตรงนี้ถ้าสนใจก็หลังไมค์นะคะ เดี๋ยวจะยาว 6.ตอนไปทำเรื่องขอใบส่งออกก็จัดการขอหนังสือรับรองสุขภาพสัตว์ไปด้วยเลย ซึ่งตรงนี้หมอที่ด่านกักกันสุตว์เขาจะดูใบฉีดวัคซันของน้องแมวด้วยค่ะ สมัยนั้นตรวจราคาตัวละ 50 บาท 7.เพื่อความสะดวกในการติดต่อกับเจ้าหน้าที่ไทยและสายการบิน ดิฉันใช้บริการของบริษัทคาร์โก้เล็ก ๆ แห่งหนึ่งค่ะราคาถูกและบริการดี เขารู้ว่าเราจะต้องไปตรงไหนอะไรบ้าง ทุกอย่างดำเนินการอย่างราบรื่นและรวดเร็วดีค่ะ (ถ้าต้องการชื่อ หลังไมค์นะคะ) 8.ข้อสุดท้ายคือเรื่องของกรงที่ต้องเตรียมให้ได้มาตรฐานของ IATA เช็คขนาดกรงได้ที่นี่ค่ะ http://www.iata.org/whatwedo/cargo/live_animals/pets.htm คือขนาดต้องให้เขาสามารถกลับตัวได้ มีทางระบายอากาศ และมีที่ให้น้ำ ตอนไปส่งน้องแมวสงสารมันจะแย่ แต่ก็เพื่ออนาคตที่ดีของพวกเขานะคะ เพราะถ้าทิ้งไว้เมืองไทยก็ไม่มีใครเลี้ยง ตอนนี้น้องแมวทั้งสองตัวสุขภาพแข็งแรง ร่าเริง และมีความสุขดีค่ะ ปล. ค่าหมอแมวที่นี่แพงมากค่ะ จากคุณ : คุณแม่ลูกสอง(ตัว) (A Blacksheep) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 21:50:34

ความคิดเห็นที่ 28 คุณแม่ลูกสองตัวขอดูรูป ลูกๆ หน่อยได้มั้ยก๊ะ จากคุณ : soomchon เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 23:22:35