ความคิดเห็นที่ 1 ข้าวเจ้าเบา  อายุ70-75วัน  นี่อยู่นอกเกณฑ์ จากทำนาปีละ3ครั้ง คงเหลือ2ครั้ง ข้าวเหนียวตอนนี้  กก.ละเท่าไหร่  ถึง4บาทไหมครับ จากคุณ : P_ปรัชญา เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 12:51:12

ความคิดเห็นที่ 2 สวัสดีค่ะP_ปรัชญา ราคาน่าจะตามที่ท่านนายกโฆษณาไว้ค่ะ ฟังแล้ว ต้องการที่จะให้ลดการทำนาลงคะ จาก ปีละ 3 ครั้งเหลือ 2ครั้งค่ะ แล้วจะอยู่ไหวหรอเนี่ย ราคาก็ไม่ดีเวลามีข้าวออกมาขายเยอะ ๆ แต่ตอนนี้ราคาข้าวดีค่ะเพราะว่าข้าวในเขตจังหวัดนครสวรรค์และพิจิตรไม่ค่อยมีแล้ว ไม่รู้รัฐบาลคิดยังงัยโครงการนำร่อง 3 จังหวัดไม่มีพิจิตรและนครสวรรค์ แล้วคิดดูทั่วประเทศมี 3 จังหวัด พิษณุโลก กำแพงเพชร และอีกจังหวัดไม่แน่ใจค่ะ จากคุณ : ข้าวสีแสด (ข้าวสีแสด) เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 13:25:15

ความคิดเห็นที่ 3 ทำปีละ 2 ครั้ง ดีแล้ว ถ้าทำ 3 ครั้ง ดินก็ไม่ได้พัก ยิ่งทำผลผลิตยิ่งลด คุณภาพยิ่งต่ำลง กำไรจาก 2 ครั้ง จะไปชดเชย 1 ครั้งที่ขาดทุน ส่วนจะอยู่ได้หรือไม่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับว่า เราอยากอยู่แบบไหนมากกว่า จากคุณ : เป่าหิมะ เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 13:55:22

ความคิดเห็นที่ 4 ความคิดเห็นที่ 2     สวัสดีค่ะP_ปรัชญา ราคาน่าจะตามที่ท่านนายกโฆษณาไว้ค่ะ ฟังแล้ว ต้องการที่จะให้ลดการทำนาลงคะ จาก ปีละ 3 ครั้งเหลือ 2ครั้งค่ะ แล้วจะอยู่ไหวหรอเนี่ย จากคุณ : ข้าวสีแสด (ข้าวสีแสด)   ทำไมถึงจะไม่ไหวหละครับ ขนาดพ่อตาผมทำนาปีละครั้งยังอยู่ได้ เพียงแต่ไม่มีให้ใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่ายก็เท่านั้นเอง ปีนึงขายข้าวได้แค่ 40,000-60,000 เอง..เค้าอยู่แบบพอเพียงครับ ไม่หาหนี้มาใส่ตัว.. ปล. เห็นด้วยกับ คห.3 ครับ ทำ 2 ปีพื้นนาจะได้พักบ้าง ผลผลิตก็จะเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีก. จากคุณ : noserius เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 14:35:43

ความคิดเห็นที่ 5 ทำปีละ 2 ครั้ง ดีแล้ว ถ้าทำ 3 ครั้ง ดินก็ไม่ได้พัก ยิ่งทำผลผลิตยิ่งลด คุณภาพยิ่งต่ำลง กำไรจาก 2 ครั้ง จะไปชดเชย 1 ครั้งที่ขาดทุน ส่วนจะอยู่ได้หรือไม่ได้นั้น ขึ้นอยู่กับว่า เราอยากอยู่แบบไหนมากกว่า จากคุณ : เป่าหิมะ   _______________________________________ ทำนาหลายครั้ง  ผลผลิตไม่ลดลงหรอกครับที่ผมเห็นอยู่นะ ระหว่างคนทำสองครั้ง  กับคนทำสามครั้งเก็บเกี่ยวมาเทียบกัน การทำนาสามครั้งพอเก็บเกี่ยวเสร็จ ก็ใส่ปุ๋ยคอกคอก  พวกขี้หมูขี้วัว ไถกลบ  ย่ำนา  บำรุงดิน  (หมดปัญญารบกับหญ้า) ถ้าทำนาสองครั้งช่วงพักนา  หญ้าขึ้นท่วมเลย ต้นกก  ต้นหญ้า  แล้วก็ต้องมาเอาหญ้าออก ตามความคิดผม  หญ้ามาแย่งสารอาหารจากดิน ทำให้ดินจืด  ปลูกข้าวแล้วงามเป็นหย่อมๆ นาปีละสามครั้งข้าวเสมอ พอข้าวได้ระยะโต  ก็หว่านยูเรีย  46-0-0 อีกสักระยะ  ก็ดูหากเสมอก็ใส่  16-20-0 ตบท้าย15-15-15+ ต้นทุนก้ไม่ได้สูง  พอมีกำไร  อยู่ได้ เพราะอย่างไรนาปรัง  ก็ได้ผลผลิตไม่เต็มที่อยู่แล้ว ต้นทางที่จะให้เติบโตเสมอ  ก้น้ำต้องมีตลอด (ผมอาจคิดไม่เหมือนคนอื่น  แต่นี่คือประสบการณ์) จากคุณ : P_ปรัชญา เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 15:44:37

ความคิดเห็นที่ 6 ขอบคุณทุกท่านนะค่ะที่แสดงความคิดเห็น แต่ที่บอกว่าไม่ไหวเนี่ย เพราะว่าข้าวที่ 70-75 วันนอกจากให้ผลผลิตที่ไวแล้ว เนื่องจากน้ำที่เก็บไว้ในบ่อสามารถที่หล่อเลี้ยงข้าวได้จนถึงฤดูเก็บเกี่ยวค่ะ แต่ถ้าให้ปลูกข้าวที่มีอายุตั้งแต่ 100 วันขึ้นไปก็ต้องปลูกข้าวพันธุ์ชัยนาท เพราะเป็นข้าวที่ไวต่อแสงเป็นที่ต้องการของตลาดและขายได้ราคาดี มากกว่าข้าวทั้งไปถึงตันละ 1000 บาทเลยล่ะค่ะ แต่ข้าวพันธุ์ชัยนาทนั้นไม่ทนแร้งคอยน้ำไม่ได้และไม่ทนต่อโรคค่ะ การดูแลรักษาก็ต้องมากตามไปด้วย เรื่องที่ชาวนากลัวที่สุดก็คือเพลี้ยกระโดนสีน้ำตาลเพราะทำยังงัยถ้ามันเข้ามาอยู่ในนาแล้วรักษายากมาก ใช้ยาอะไรไล่ก็ไม่ไปเพียงแค่เบาบางลง และสามารถขายพันธุ์ได้รวดเร็วมากไม่แน่ใจว่ากี่วัน แต่เคยได้ยินพ่อบอกว่า ประมาณ 7 วันค่ะ แต่ถ้าเราปลูกข้าวพันธุ์อื่นที่มีอายุ 100 วันขึ้นไปนั้นแต่ได้ราคาเท่ากับข้าวที่ปลูก 75 วันคิดว่าปลูกข้าว 75 วันดีกว่าค่ะ ต้นทุนก็ลดลงด้วยค่ะ แถมผลผลิตก็เพิ่มขั้นด้วยค่ะ ปีที่แล้วเคยปลูก 4 ไร่ ได้ 4.57 ตันค่ะ ตอนนั้นขายได้ราคาโครงการรับจำข้าวเปลือก ได้ประมาณ 9500 กว่าบาทค่ะ ก็ถือว่าดี ค่ะ เพราะลงทุน ค่ายาประมาณ 2250 บาท ค่าปุ๋ย ลูกละ 1350 บาท 4 ลูก 5400 บาทค่ะ ค่ะไถ 720 บาท ค่าน้ำมันตีเถือก 500 บาท จ้างคนช่วยฉีดยาประมาณ 1500 บาท แต่ก็ไม่ค่อยได้ฉีดมากเท่าไรค่ะ ประมาณ6 ครั้ง และค่าส่วนผสมทำฮอลโมนฉีดข้าว เช่น กากน้ำตาล ไข่ โยเกริตและยาคูล อื่นๆ ประมาณ 500บาทค่ะ (ตรงที่ทำมีสระน้ำอยู่ค่ะใช้ได้ถึงเก็บเกี่ยวเลยค่ะ) แต่ที่ทำพึงเก็บเกี่ยวไปนี่ซิไม่มีน้ำเลยต้องรอฝนอย่างเดียว ค่ายาค่าปุ๋ยก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัวยังดีน้ำที่ใช้ปุ๋ยขี้ไก่ที่ทำเองเลยลดต้นทุนลงได้ข้าง แต่หนักสุดก็ปุ๋ยยาและพันธุ์ข้าวค่าจ้างคนช่วยฉีดข้าว ประมาณ 56500 บาท ค่าไถอีก 9900 บาททำนา 33 ไร่ ได้ผลผลิต ประมาณ 21.5 ตัน ราคา 4200 บาท  ได้กำไร 23900 บาท ทำนาได้ครั้งเดียว คิดว่าถ้าได้ราคาประมาณ 7500 บาท ก็คงจะได้ขุดบ่อบาดาลค่ะ จากคุณ : ข้าวสีแสด เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 16:07:16

ความคิดเห็นที่ 7 อืม ฟังแล้วเหนื่อยแทนแฮะ ค่าปุ๋ยค่ายานี่จริง ๆ เท่าไรเหรอ น่าจะหาทางลดการใช้ปุ๋ยยาลง แล้วพันธุ์ข้าวนี่ไม่มีเก็บไว้เองเหรอคะ แบบว่าแม่เคยทำนาแต่เลิกทำมานานมาก ๆ แล้ว ไม่ค่อยรู้เรื่องทำนาเท่าไร ตอนนี้ที่บ้านตัวเองก็ปลูกข้าวกินเหมือนกัน เห็นใช้ยาก็ตอนแช่เมล็ดข้าว กับหลังจากข้าวงอกได้สักอาทิตย์มั๊ง จากนั้นจำได้ว่ามีให้ยูเรียหนึ่งรอบ แล้วก็รอเวลาเก็บเกี่ยว แถวบ้านไม่ค่อยมีแมลงศรัตรูด้วยมั๊ง พันธุ์ข้าวนี่ก็เก็บไว้เองทุกปี ปล. ทำนาไม่เป็นค่ะ ทั้งหมดสามีเป็นคนดำเนินการ ส่วนตัวเองเฝ้าบ้านเลี้ยงลูก เค้าทำอะไรกันตอนไหนไม่ค่อยได้ออกไปดู แก้ไขเมื่อ 05 พ.ย. 52 16:37:43 จากคุณ : มุนีน้อย เขียนเมื่อ : 5 พ.ย. 52 16:31:42

ความคิดเห็นที่ 8 P_ปรัชญา เขียนมาจริงครับ ทำนาแบบที่แถวบ้านผมก็นิยมทำกัน ผมเองก็มีข้อสังเกตอื่นอีกนิดหน่อยเช่น ดินที่ไถต่อเนื่องกันตลอด ไม่พักเลยโดนน้ำตลอด จนเป็นหล่มลึก หากเว้นช่วงไว้ได้ ไม่จำเป็นต้องปล่อยดินเฉยๆ ให้หญ้าขึ้น เพราะเราลงพืชที่เป็นปุ๋ยพืชสดได้ ไถกลบก็ได้ปุ๋ยด้วย แต่ก็อย่างที่คุณว่า ต้นทางที่ต่างกัน ทำเหมือนๆกันไม่ได้หรอก ทำนา 3 ครั้งคือ ทำนาทั้งปี มันเหนื่อยไป สำหรับตัวผม ประสบการณ์ผม ถือว่าน้อย เพราะทำนาเองเพิ่งครั้งแรก ดูโน้นดูนี้ไม่เป็น คงช่วยอะไรมากไม่ได้ แต่ผมก็พยายามทำแบบผสมผสานไปด้วยระหว่าง วิชาการกับประสบการณ์คนอื่น(ชาวนาแถวบ้าน) ผมทำนาดำ22ไร่ ก่อนดำผมเอาดินไปตรวจ ผมใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ ก่อนใส่ผมเทียบสีใบข้าว ใส่ทั้งหมด 2 ครั้ง ผมใช้ปุ๋ยเคมีรวม 8 ลูก ปุ๋ยอินทรีย์ 15 ลูก (อันที่จริงไม่ใส่ก็ได้ แต่ผมกลัว ผมเลยใส่) พ่นยาทั้งแปลง 2 ครั้ง ใช้น้ำแช่สะเดาทั้ง2 ครั้ง (ครั้งที่ 2 ผมเพิ่มปุ๋ยเกร็ดด้วย) นาข้างผมเพลี้ยกระโดดลง นาผมกลับไม่เจอ ก็แปลกใจเหมือนกัน ยังเห็นมีหนอนม้วนใบนะ แต่น้อยมาก ปัญหาหนักของผมคือ หญ้าที่ขึ้นดีมาก เพราะผมดูการไถนาไม่เป็น(จ้างไถ) นาผมพื้นที่ไม่ค่อยเสมอ ที่ดอนหญ้าเยอะ ที่ลุ่มข้าวจม ที่หล่มไม่ต้องพูด ลงทีถึงเอว ตอนนี้ข้าวกำลังออกรวงแล้ว ผมไม่ทำอะไรแล้ว รอปล่อยน้ำออก แล้วว่ากันตอน(จ้างรถ)เกี่ยวอีกที ที่เล่าไป คือประสบการณ์เล็กๆ ที่อยากแชร์ครับ จากคุณ : เป่าหิมะ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 00:17:15

ความคิดเห็นที่ 9 นี่เป็นค่าใช้จ่ายจริงๆ ที่ทำค่ะ เพิ่มเริ่มทำนาได้เป็นครั้งที่ 2 ค่ะ ครั้งแรกทำไว้ 4 ไร่ ครั้งที่ 2 33 ไร่ค่ะ ได้เงินจากเก็บเกี่ยวครั้งแรกก็เอามาลงทุนหมดเลยค่ะ ประมาณ 43000 บาท ซื้อปุ๋ยเก็บไว้ 20 ลูก ยาคุมหญ้าโนมีนี่ไว้ 3 ชุดใหญ่ 5400 สายพ่นยา 3 ม้วน 4050 ถัง1000ลิตร 3500 ต่อรถไว้ลากถัง 15000 ส่วนที่เกินก็ใช้เงินส่วนตัวค่ะ ส่วนพันธุ์ข้าวเปลี่ยนพันธุ์ใหม่ค่ะเพราะไปซื้อจากศูนย์วิจัยพันธุ์ข้าวที่จังหวัดพิษณุโลกมาปลูกครั้งแรกกะว่าจะเอาไว้ทำพันธุ์แต่ปลูกไปแล้วอีดีดเต็มนาเลยค่ะเลยไม่เก็นทำพันธุ์ จากคุณ : ข้าวสีแสด (ข้าวสีแสด) เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 08:34:38

ความคิดเห็นที่ 10 คุณ : เป่าหิมะ  ที่เล่ามาเป็นมืออาชีพแล้ว เพราะต้องทราบว่า  นาหลายๆไร่  พื้นที่ทำอย่างไรก็ไม่เท่ากัน บางแห่งที่ลุ่มๆ  ต้นข้าวสูงได้ถึง2-3เมตรเลย  กว่าจะเก็บเกี่ยว เรื่องปุ๋ยก็ไม่มีสูตรตายตัว ข้าวตรงหย่อมไหนเหลืองๆก็ไปหว่านยูเรียให้มันเขียวขึ้นงามขึ้น ให้ตามกันทัน  คนทำนา  ต้องหมั่นสังเกตก็ต้องดูแลรักษา ก่อนเกี่ยว  ก็ต้องเอาน้ำออกให้ดินหล่มน้อยหน่อย รถเกี่ยวจะได้ลงได้   ที่ขอนแก่น  รถจากสุพรรณ  จากภาคกลาง  มาหารับจ้างเกี่ยวข้าวเยอะ เมื่อวันที่2-3  ผมขับรถไป  กทม. ขากลับ มีรถบรรทุกรถเกี่ยวข้าว  วิ่งมาภาคอีสาน  หลายสิบคัน ที่นี่ค่ารถเกี่ยวข้าวไร่ละ300-350บาท   พอเกี่ยวเสร็จ ก็มีรถหกล้อบรรทุกไปขายสหกรณ์  ไปขายศูนย์รับซื้อ  หรือโรงสี ชาวนาใช้เคียวเกี่ยวข้าวเหมือนกัน ไปเกี่ยวตรงที่รถเข้าไม่ถึง ____________________________________________________ คำว่าพักดิน ตามความเห็นของผม  คนบอกคนแรกๆคงเข้าใจผิดครับ เหมือนเราปลูกต้นเงาะ  ต้นกระต้อน  ลิ้นจี่  อื่นๆ เราพักดินได้มั๊ย หากพักได้  ก็ต้องถอนต้นไม้เหล่านั้นออกมาจะได้ปล่อยที่ดิน ให้ว่างจะได้พักดิน ความจริง  ควรใช้คำว่าบำรุงดิน  ให้มีสารแร่ธาตุ  ให้มีผล เพื่อต้นไม้ไม่ชะงักในการเจริญเติบโต (ผมก็ได้แต่เขียน  ความจริงไม่เคยทำ  ทำไม่เป็น   ขอแค่แชร์ประสบการณ์ครับ) แก้ไขเมื่อ 06 พ.ย. 52 08:49:55 จากคุณ : P_ปรัชญา เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 08:45:58

ความคิดเห็นที่ 11 ผมมือสมัครเล่นจริงๆครับ เพราะเพิ่งทำครั้งที่ 2 ในชีวิตและเป็นครั้งแรกที่ทำคนเดียว ครั้งแรกสุดทำร่วมกับน้องเขยทำ หารค่าใช้จ่าย และรายได้คนละครึ่ง น้องมันพาผมแบกถังฉีดยาเกือบ 10 ครั้ง(ฉีดเอง) เข็ดเลย นาหว่าน 22 ไร่ ได้ข้าว 16.5 ตัน โชคดีตอนนั้นราคาดี รอดตัวไป รอบนี้ผมทำเอง ตัดสินใจเองทุกอย่าง หาข้อมูล ถามเจ้าหน้าที่วิชาการ ทำไปทำมา ต้นทุนเริ่มจะบานๆ ตกไร่ละ 3000 บาทแล้ว (หมดไปกับค่าแรงในการเอาวัชพืชออก) หวยจะออกก็ตอนเก็บเกี่ยวที่จะถึง ว่าจะได้ซักกี่ตัน ส่วนราคาข้าวนั้นผมไม่ค่อยซีเรียส คิดว่าแล้วแต่เวรแต่กรรม ที่คิดทำต่อรอบหน้าคือ ต้องให้ดินแห้ง หวานปอเทือง ไถกลบ เพาะเลี้ยงแหนแดง ใช้กันวัชพืชและเพิ่มปุ๋ย ทำปุ๋ยอินทรีย์เอง ลดต้นทุนที่จะซื้อมาใส่ แต่คงต้องเหนื่อยกันยาวทีเดียวครับ ผมคิดว่า มืออาชีพคือคุณข้าวสีแสดมากกว่า ได้ข้าวไร่ละเกวียน(ตัน) แถวบ้านไม่มีใครได้เลยครับแบบนี้ จะได้ก็ต่อเมื่อลงทุนไปไม่ต่ำกว่าไร่ละ 5-6000 อันนั้นที่ทางเขาเยอะ กำไรอาจได้น้อยแต่รวมๆพื้นที่ก็ถือว่ามาก ฝากคุณสีแสดอีกนิด ปัญหาข้าวดีด ทำนาครั้งหน้าลอง ใช้การดำ(คน หรือ รถ) ไถที่ให้เรียบเสมอ น้ำไม่ขาด พอข้าวติดดี นอกแถวดำก็คือข้าวดีด ลงถอนอย่างเดียว นาของญาติผมเขาลงถอนหญ้าถอนข้าวอื่นที่อยู่นอกแถวดำ ทุกวันทั้งเดือน ตอนนี้ข้าวออกรวงสวย เรียบเสมอ ไม่มียอดข้าวดีด เด้งออกมาซักต้น เห็นแล้วก็อิจฉาเล็กๆ พร้อมตำหนิตัวเองว่า ขี้เกียจลงนา ข้าวก็ไม่สวยเหมือนเขาแหละ จากคุณ : เป่าหิมะ เขียนเมื่อ : 6 พ.ย. 52 09:39:55