ความคิดเห็นที่ 1 ก่อนอื่นขอแจ้งว่า ไม่ได้เป็นเซียนแวนด้า นะคะ ขอตอบในฐานะคนนึง ซึ่งเคยเห็นทั้งสามปอย และ dearei ค่ะ คำตอบอาจไม่ครบถ้วน สมบูรณ์ ก็ต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ เท่าที่เห็น dearei ดอกใหญ่กว่าสามปอย ค่ะ กลีบหนากว่า และลักษณะใบก็แข็งกว่าสามปอย อย่างเห็นได้ชัด ฟอร์มดอกแม้จะคล้ายกับสามปอยบางแบบ แต่เห็นดอกก็น่าจะพอตอบได้ค่ะ ว่าเป็นไม้ตัวไหน(ใน 2 ตัวนี้) ถ้านำ dearei  ไปทำลูกผสม โดยรวม คงได้ดอกใหญ่กว่า สามปอย ไปผสม แต่พีคิดว่า โดยรวม ๆ ลูกผสมสามปอย จะให้กลิ่นที่หอมแรงกว่าค่ะ โดยส่วนตัว จึงสนใจลูกผสมสามปอยมากกว่า เพราะหอมกว่า และ หาง่ายกว่าค่ะ จากคุณ : เหมียวสินธร เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 15:39:11

ความคิดเห็นที่ 2 รอรับความรู้เพิ่มเติมอีก ขอบคุณครับป้าเหมียว จากคุณ : เจ้าชายเคโระ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 15:59:06

ความคิดเห็นที่ 3 ผู้สูงวัยเท่านั้นถึงจะตอบได้ อิอิ จากคุณ : ปุ้ม ครับ เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 17:22:58

ความคิดเห็นที่ 4 เหอๆๆ จากคุณ : friedericksianum เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 19:51:02

ความคิดเห็นที่ 5 ต่างกันมากครับ ทั้งดอก ต้น ราก ปาก เส้าเกสร เทียบกันก็เห็นได้ชัดมาก เช่น เดียริอิ ดอก ต้น ใหญ่กว่า แต่ราก ไม่อวบเหมือนสามปอย สามปอยหลวง ก็คือ สามปอยขุนตาลที่ มีลักษณะพิเศษน่ะครับ จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 19:51:18

ความคิดเห็นที่ 6 ขอดูด้วยคนนะ...ลุงหนวด...หนังสือเก่าแล้วนะคะ...ใส่ปกเหรอยังอ่ะ จากคุณ : ลูกปืน เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 20:31:56

ความคิดเห็นที่ 7 จริงอย่างว่าครับ Dearei ใบใหญ่ ดอกใหญ่ รากเล็ก ราคาใหญ่ (กว่าสามปอย) จากคุณ : บานกู๊ก เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 21:51:01

ความคิดเห็นที่ 8 มีการออกตัวก่อนด้วย  กลัวพวกแซว จากคุณ : ไม่รู้เป็นไร เขียนเมื่อ : 17 พ.ย. 52 22:36:39

ความคิดเห็นที่ 9 โอว..ดูจากตำราลุงหนวดแล้วดูขลังมากๆ ครับ จากคุณ : Hari 2003 เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 08:12:00

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาช่วยให้ความรู้ครับ สามปอยหลวงบางตัวที่ฟอร์มดอกกลมๆ ก็ทำให้สงสัยน่ะครับ เพราะถ้าเป็นพันธุ์พื้นบ้านมันจะเป็นคนละฟอร์มกันเลย ส่วนตัวผมไม่เคยเห็น dearei ตัวจริงสักทีเลยครับ เห็นแต่ลูกผสมของเค้า (ได้แต่มองครับ ไม่มีปัญญาซื้อ -_-' ) ที่คุณเหมียวฯ ว่าไว้เรื่องลูกผสมสามปอยก็น่าสนใจดีครับ ปีนี้ลองหาคู่ให้ต้นที่บ้านดูดีกว่า ที่ผ่านมามัน self อยู่ กำลังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงกับฝักเค้าดี คุณปุ้มเล่นปล่อยมุก "ผู้สูงวัยเท่านั้นถึงจะตอบได้" ก็ไม่มีใครกล้าตอบสิครับ คุณ ลุงหนวดนี่ข้อมูลยังแน่นปึ้กเหมือนเดิมเลยครับ พอมีรูปเส้าเกสรที่ว่าไม่เหมือนกันไม๊ครับ ว่าเป็นยังไงครับ จะขอบพระคุณเป็นอย่างสูงคร้าบ จากคุณ : แทน (pastellist) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 10:26:13

ความคิดเห็นที่ 11 เก็บความรู้ครับ จากคุณ : Dendmax เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 11:58:25

ความคิดเห็นที่ 12 หนังสือ เป็นวิทยาสารสโมสรกล้วยไม้บางเขน ปี ๒๕๒๐ ครับ ลองดู V. dearei http://www.orchidspecies.com/vandearii.htm สามปอยขุนตาล http://www.orchidspecies.com/orphotdir/vadenis.jpg แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 52 17:46:26 จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 17:00:18

ความคิดเห็นที่ 13 สามปอยหลวง โดย มานพ สีวิลัย (คัดจากหนังสือ วิทยาสารสโมสรกล้วยไม้บางเขน ๒๕๒๐ หน้า ๑๒๗ - ๑๓๒)       ประมาณปี 2505 - 2506 วงการกล้วยไม้เชียงใหม่กำลังนิยมเลี้ยงฟ้ามุ่ยเป็นการใหญ่ ทั้งนี้เนื่องจากฟ้ามุ่ยของ ฯพณฯ ท่าน ร.ม.ต. ยงยุทธ สัจจะวานิช ได้รับเกียรตินิยม AM เป็นต้นแรก และเผอิญหนังสือพิมพ์ลงข่าวถึง ฟ้ามุ่ยเผือก ซึ่งนักเล่นในประเทศอังกฤษได้ตั้งราคาเอาไว้ถึง 6,000 ปอนด์ ทำให้นักกล้วยไม้เชียงใหม่ค้นหา ฟ้ามุ่ย เป็นการใหญ่ เพื่อต้องการ ฟ้ามุ่ย ต้นงามที่จะขอรับเกียรตินิยม ฟ้ามุ่ยเผือกหรือฟ้ามุ่ยแดง        นอกจากฟ้ามุ่ยก็มีกล้วยไม้ที่ติดอันดับอีกต้นหนึ่ง คือ สามปอยหลวง นักเล่นชั้นอาจารย์จะมีสามปอยหลวงแขวนไว้ในรังอย่างน้อยก็ต้องหนึ่งต้น บางรังก็มีถึง 4 - 5 ต้น  ทั้งนี้เพราะเชื่อกันว่าถ้าบ้านใดมีสามปอยหลวงแล้ว ถือว่าเป็นศิริมงคล ทำมาค้าขึ้น หากินร่ำรวยและอยู่เย็นเป็นสุข        ผมเองก็พลอยฟ้าพลอยฝนมีถึง 3 ต้น ในระยะนั้นหน่อละ 3 - 4 ร้อยบาท ถ้าต้นใหญ่ก็เป็นพัน ก็นักเล่นรุ่นเก่าๆนั่นแหละเป็นผู้แนะนำให้ไปดูบ้านนั้นบ้านนี้ แล้วก็ขอจองหน่อแบ่งหน่อกัน การเลี้ยงสามปอยหลวงนั้นบางบ้านก็ทำกรงกันขโมย และหวงแหนกันมาก ถ้าไม่ไว้ใจแล้วมักจะไม่ให้ดูเพราะระยะหลังๆ เมื่อมีผู้ต้องการมาก มักมีมือดีมายกไปโดยเจ้าของไม่รู้เรื่อง แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 19:09:51 แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 52 17:46:59 แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 52 17:44:04 จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 17:28:06

ความคิดเห็นที่ 14 ตลาดกล้วยไม้สมัยนั้นเป็นตลาดกล้วยไม้ป่า พอเข้าหน้าแล้งพวกชาวเขาจะโค่นป่าทำไร่ และเก็บกล้วยไม้ที่เกาะไม้ที่โค่นมาขายส่วนใหญ่ก็เป็นฟ้ามุ่ยและสามปอยซื้อหากันต้นละบาทสองบาท ฟ้ามุ่ยนั้นแพงกว่าสามปอย สามปอยต้นหนึ่งก็บาทหรือสองบาท ระยะหลังๆนักเล่นจากกรุงเทพฯ สั่งซื้อกันมากๆเข้า ราคาก็สูงขึ้นเรื่อยๆ แหล่งขายที่นักเล่นรู้จักดีก็มี บ้านป้าทิพย์, ลุงแดง, น้าอ่อน, หมู่สวัสดิ์, ในตลาดหลวงแถวหน้าวัดสวนดอก นอกจากนั้นนักเล่นมือใหม่มักจะไปเที่ยวตามหมู่บ้านหากล้วยไม้ เพราะว่าเกือบทุกบ้านจะมีกล้วยไม้ เกาะติดต้นลำไยหรือต้นไม้รอบๆบ้านไว้ บางครั้งในวันเสาร์ - อาทิตย์ มีเวลาว่างมากก็ไปหาซื้อกันถึงขุนตาล เพราะมีแม่ค้าเก็บใส่กระเช้าหิ้วขายตามหน้าต่างรถไฟขณะรถหยุดเป็นประจำทั้งปี เราไปรถเช้ากลับรถบ่ายนับว่าไปเที่ยว และหากล้วยไม้ด้วย เกิดความเพลิดเพลินเป็นสองเท่า แก้ไขเมื่อ 18 พ.ย. 52 17:45:30 จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 17:40:00

ความคิดเห็นที่ 15 ชักปวดตา แล้วจะมาต่อให้จบ ลองหาบทความในเวปนี้อ่านดูครับ สนุก และ มีเรื่องเก่าใหม่ http://rapee.org/node/15 จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 17:59:54

ความคิดเห็นที่ 16 เป็นเรื่องที่น่าแปลก สามปอยที่เก็บมาขายนั้นปีหนึ่งๆนับเป็นพันๆต้น จะมีสามปอยหลวงต้นสองต้นก็ทั้งยาก ส่วนใหญ่จะเป็นสามปอยดง, สามปอยขุนตาล, สามปอยขุนยวม, สามปอยครีม, สามปอยดอกขาว ทำให้ผมนึกว่า สามปอยหลวงคงเป็นลูกไม้อภิชาติบุตรของสามปอยขุนตาลก็ได้ เพราะดอกมันสีเหลืองเหมือนกันและก็มาลองเปรียบเทียบ ลักษณะภายนอกที่มองเห็นของสามปอยหลวงหลายๆต้นของเชียงใหม่ไม่เหมือนกันเลย แต่ถ้าดอกแล้วคล้ายคลึงกัน คือ ดอกใหญ่, สีเหลืองจำปา, มีกลิ่นหอม           ทางด้านวิชาการศาสตราจารย์ระพี สาคริก ได้เขียนไว้ในหนังสือกล้วยไม้ของท่านว่า " แวนด้าเดนิโซเนียน่าก็มีอยู่หลายพันธุ์ด้วยกัน ดอกโตประมาณ 4 - 6 ซม. ช่อดอกไม่ยาวนักและมีดอก 3 - 7 ดอก กลีบดอกกว้าง หูปากทั้งสองข้างกางออกปลายหูมน แผ่นปากแผ่นูนหนาๆ 4 - 5 เส้น ดังกล่าวไว้แล้ว น่าจะแบ่งแยกเป็นพันธุ์ทางพฤษศาสตร์ได้อย่างชัดเจนพอควร แต่ยังหาเอกสารอ้างอิงที่ระบุเรื่อง การจำแนกเป็นพันธุ์ทางพฤษศาสตร์ยังไม่ได้แน่ชัดนัก"(หน้า 606) จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 19:39:37

ความคิดเห็นที่ 17 แวนด้าเดนิโซเนียนา ที่ท่านกล่าวไว้ก็มี 1. สามปอยดง 2. สามปอยขุนยวม 3. สามปอยขุนตาล 4. สามปอยหลวง 5. สามปอยครีม หรือ สามปอยดอกขาว         สำหรับสามปอยหลวงนั้น ท่านกล่าวไว้ว่า " ไม่อาจจะแบ่งได้ชัดว่า ต้นไหนสามปอยหลวงหรือมิใช่สามปอยหลวง ไม่ว่าจะหยิบยกเอาสีหรือเอากลิ่นมาเป็นเรื่องพิจารณาตัดสิน" เรื่องของสามปอยหลวงเป็นเรื่องปมเด่นของเจ้าของและเมื่อพูดถึงราคาค่างวดก็จัดอยู่ประเภทราคาคุย แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 19:11:01 จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 19:45:13

ความคิดเห็นที่ 18 เรื่องราวของสามปอยหลวงนั้น ผู้เขียนกันมามากหลายแง่หลายมุม สำหรับผมเองนั้นมีความรู้สึกว่า ป่าไม้นับวันจะหมดไปกล้วยไม้ป่าก็จะหมดไปด้วย นักเล่นรุ่นหลังจะไม่มีโอกาสได้เห็นหรือรับรู้ ประกอบกับสามปอยหลวงนั้นมีน้อยและผู้สนใจน้อย เลยบันทึกเรื่องเก่าๆและข้อคิดเห็นเกี่ยวกับสามปอยหลวงมาสู่กันฟัง แหล่งสามปอยหลวง จากที่ผมได้มีโอกาสสืบประวัติสามปอยหลวงหลายๆต้น ต้นที่ดังๆนสมัย 2506 เช่น ต้นสันทราย, ต้นวัดควรค่าม้า, ต้นโรงเรียนหอพระ, ต้นสารภี ฯลฯพอสรุปได้ว่า ป่าที่ได้สามปอยหลวงดังกล่าวแล้วมีหลายแห่ง ได้แก่                       1. ป่าระหว่างอำเภอสันทราย - อำเภอพร้าว                       2. ป่าระหว่างอำเภอดอยสะเก็ด - อำเภอเวียงป่าเป้า                       3. ป่าระหว่างอำเภอสันกำแพง - แจ้ห่ม                       4. ป่าแม่ตื่น - อำเภอฮอดติดจังหวัดตาก แก้ไขเมื่อ 19 พ.ย. 52 19:12:06 จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 19:55:07

ความคิดเห็นที่ 19 การเรียกชนิดของสามปอยหลวง ชาวบ้านมักจะเรียกชื่อสามปอยหลวงของตนไปตามลักษณะของต้นที่มองห็นโดยเพ่งเล็งที่ใบ เพราะส่วนอื่นก็คล้ายกันระบุยาก เรียกกันก็มี      1. สามปอยหลวงใบลูกฟูก      2. สามปอยหลวงใบธรรมดา ปลายใบแฉกเป็นก้ามปู      3. สามปอยหลวงใบคา          สามปอยหลวงใบลูกฟูก   ใบลูกฟูกนั้นใบใหญ่กว้างมากและใบเป็นลูกฟูก มองดูแล้วผิกปกติเป็นลักษณะประจำต้น สำหรับสามปอยหลวงใบธรรมดานั้น ลักษณะใบคล้ายกันกับสามปอยขุนตาล แต่มีลักษณะปลายใบและทรงต้นผึ่งผายดี ส่วนสามปอยหลวงใบคานั้น ใบเรียว ยาว แคบไม่กว้าง ดอกสามปอยหลวงและสีของดอก ดังได้กล่าวแล้วว่าสามปอยหลวงคงจะเป็นลูกผ่าเหล่ามาจากสามปอย เดนิโซเนียน่า ชนิดใดชนิดหนึ่ง ซึ่งลักษณะของสี ที่นักเล่นยอมรับว่าเป็นสามปอยหลวง คงจะมีดังนี้                  1. สีเหลืองจำปา - จำปาเข็มทั้งดอก                  2. สีจำปามีประจุดแดงโคนกลีบ                  3. สีจำปาแต่มีลายสมุก สรุปแล้วก็คือ สีของดอกสามปอยหลวงเข้มกว่าปกติ จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 20:07:38

ความคิดเห็นที่ 20 กลิ่นของสามปอยหลวง สามปอยหลวงที่ผมเคยเห็นหลายๆต้น มีกลิ่นคล้ายกลิ่นดอกส้มหรือลาเวนเดอร์ กลิ่นอื่นไม่มี เป็นกล้วยไม้ที่ส่งกลิ่นหอมรุนแรง ในตอนเช้า ตอนเย็นหรือกลางคืน เมื่อพูดถึงกลิ่นแล้วสามปอยขุนตาลและอย่างอื่นก็มีกลิ่น แต่ไม่หอมรุนแรง และกลิ่นพิเศษเหมือน       เมื่อสามปอยหลวงจัดอยู่ในแวนด้าเดนิโซเนียน่า และมีแตกต่างกันถึง 5 ชนิด คือ            1. สามปอยดง            2. สามปอยขุนยวม            3. สามปอยขุนตาล            4. สามปอยหลวง            5. สามปอยครีม หรือ สามปอยดอกขาว       ผมใคร่ขอหยิบยกลักษณะที่คล้ายกันของสามปอยทั้ง 5 ชนิดเพื่อแยกพวก แบ่งออกให้ชัดเจนขึ้น จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 20:14:30

ความคิดเห็นที่ 21 1. หูปาก   หูปากของแวนด้าเดนิโซเนียน่านั้น หูปากกลมสีขาวและมีสีเหลืองปน ชนิดสีขาว   ชนิดหูปากขาว ปากมักไม่ใหญ่ ได้แก่ สามปอยขุนตาล, สามปอยหลวง, สามปอยครีม หรือ สามปอยดอกขาว ชนิดสีเหลือง, เหลืองปนแดง, เหลืองปนม่วงแดง                ปากมักจะมีขนาดเล็กกว่าชนิดสีขาว ได้แก่ สามปอยดงและสามปอยขุนยวม ลักษณะที่แตกต่างอีกอย่างก็คือ ชนิดหูปากมีสีนั้น หูปากมักจะเปิดกว้างกว่าชนิดหูปากสีขาว     ดังนั้นสามปอยหลวงจะต้องเป็นพวกเดียวกับสามปอยขุนตาลและสามปอยครีม หรือสามปอยดอกขาว จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 20:21:22

ความคิดเห็นที่ 22 2. ขนาดดอกและสี    เมื่อพิจารณาแยกออกแล้วคงจะเหลือ สามปอยขุนตาล, สามปอยหลวงและสามปอยครีมเท่านั้นที่อยู่ในพวกเดียวกัน แต่ถ้าพิจารณาจากเรื่องขนาดดอกแล้วจะเห็นว่า ขนาดดอก   สามปอยหลวง มีขนาดดอกเดียวกับสามปอยครีม คือใหญ่ สีดอก        สามปอยหลวงมีสีเหลืองเป็นพวกเดียวกับสามปอยขุนตาล          ดังนั้นสามปอยหลวงก็ควรจะเป็นพี่เป็นน้องกับ สามปอยขุนตาล และสามปอยครีม นั่นเอง ผมเคยเปิดตำราดูจำไม่ได้ว่าเล่มใด บอกว่า สามปอยหลวง ก็คือ Vanda denisoniana var hebaaica และก็คงเป็นสายพันธุ์ strain หรือ clone ของ สามปอยขุนตาล หรือ สามปอยครีม ก็ได้ เพราะไม่เคยพบแหล่ง สามปอยหลวง ดังที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 20:28:55

ความคิดเห็นที่ 23 จะอย่างไรก็ตาม ในเมื่อเรายังไม่สามารถอธิบายในด้านวิชาการว่าสามปอยหลวงมีลักษณะอย่างไรที่ชี้ชัดลงไป เราควรพิจารณาสิ่งที่พอจะยึดเป็นหลักได้ ซึ่งควรจะมี 4 อย่างคือ  1. ขนาดดอก - ดอกโตขนาด 6-7 ซมใ  2. สี            - สีต้องเข้ม เป็นสีจำปาหรือเหลืองจำปา กลีบอาจมีประจุดหรือสมุก  3. ปากและหู  - ปากใหญ่รูปไวโอลิน สีน้ำตาลปนเขียว หรือสีมะกอก เรียกยาก                     - หูปากนั้น สีขาวมนกลม คุ่มพองาม ไม่กางออกแบบสามปอยดง  4. กลิ่น         - กลิ่นคล้ายดอกส้มหรือกลิ่นน้ำหอมลาเวนเดอร์และหอมรุนแรงในตอนเช้าหรือตอนเย็นและตอนกลางคืน สามปอยหลวงนั้น เป็นชื่อสมมุติที่เรียกสามปอยชนิดหนึ่ง ซึ่งหาได้ยากตามธรรมชาติและแนวโน้มการหา ก็คงจะมีน้อยและหมดไปในที่สุด เพราะป่าถูกทำลายและกล้วยไม้ป่าถูกเก็บมาขายจนหมดป่า นักเล่นกล้วยไม้รุ่นอาจารย์ได้นำเอามาเป็นพ่อแม่พันธุ์ ผสมให้ลูกออกมามากมาย พอจะพูดได้อย่างเต็มปากว่า ลูกผสมของสามปอยหลวง จะให้สีเข้มไม่ว่าจะผสมกับแวนด้าชนิดอื่น หรือผสมข้ามสกุลก็ตาม            วงการกล้วยไม้ก็ขึ้นๆลงๆ เหมือนกับวงการอื่นที่เกี่ยวข้องด้านการค้า ส่วนนักวิชาการหรือนักผสมพันธุ์ ก็คงดำเนินงานต่อไปไม่หยุดยั้ง ซึ่งผมคิดว่าแวนด้าสีเหลืองยังต้องการพัฒนาอีกมาก ก็สามปอยหลวงนี่แหละจะเป็นพ่อ - แม่ ที่ให้ลูกสีเหลือง ขอให้ช่วยกันรักษาไว้หน่อย                                      -------------- จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 20:44:45

ความคิดเห็นที่ 24 อ่านเล่น สนุกๆครับ จะมีคนอ่านไหมนี่ จากคุณ : ลุงหนวด (ลุงหนวด๒๕๔๗) เขียนเมื่อ : 18 พ.ย. 52 20:48:01

ความคิดเห็นที่ 25 กลับมาอ่านอีกที สุดยอดเลยครับลุงหนวด จากคุณ : บานกู๊ก เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 01:06:11

ความคิดเห็นที่ 26 ขอบคุณค่ะลุงหนวด จากคุณ : เหมียวสินธร เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 08:14:54

ความคิดเห็นที่ 27 โออออออออออออ....ลุงหนวดดด จากคุณ : ขนอุย เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 12:22:24

ความคิดเห็นที่ 28 สุดยอดไปเลยค่ะ ลุงหนวด เพิ่งเห็นโพสตอบกระทู้เยอะขนาดนี้เป็นวิทยาทานอย่างสูง จากคุณ : มดแดงน้อย เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 14:02:46

ความคิดเห็นที่ 29 มาเก็บกระทู้เข้าคลังครับ จากคุณ : ปุ้ม ครับ เขียนเมื่อ : 19 พ.ย. 52 19:00:14