|
ความคิดเห็นที่ 19 |
|
แต่ก่อนไทย ก็เป็นอย่างนี้หละคร้าบบ ลองศึกษาประวัติศาสตร์ กล้วยไม้ไทยดูครับ
ความเป็นจริงมันลักหลั่นย้อนแย้ง
แต่ก่อน ขายเป็นเรื่องปกติ แทบเป็นของเหลือทิ้งจากการที่อังกฤษมาสัมปทานป่าสักในไทย เรียกได้ประโยชน์หลายต่อ เพราะไทยก็ส่งพันธุ์ให้ ต่างชาติเก็บ คนได้ประโยชน์ = ต่างประเทศที่เก็บพันธุ์นั้นไว้ ฝรั่ง ex ฟ้ามุ่ย, คางกบ
ตอนนี้ หมดยุคของไทยแล้ว เพราะป่าหมด (เหลือแต่ป่าต้นน้ำสิบกว่าเปอร์เซ็น ถ้าถางกว่านี้อีก คงจะไม่มีน้ำใช้แล้ว) ตอนนี้เป็นยุคของลาว พม่า ที่ถนน - อุตสาหกรรม บุกที่ป่า ทำให้มีกล้วยไม้เป็นของเหลือ เอามาขายไทย ของที่หลุดจากป่่าออกมาเยอะทิ้งไว้ก็เน่าอะดิ มันก็ขึ้นกับว่าจะเอาไปทำอะไร เอาไปทิ้ง เอาไปปลูกให้รอดในอุทยาน เอาไปตั้งใจเลี้ยงดู เอาไปสะสม เอาไปขาย (แต่งให้ดูดีทิ้งไว้พอรากงอกแล้วเอามาขายโดยไม่สนสภาพเดิมในธรรมชาติ บอกลูกค้าว่าเลี้ยงง่าย ดอกสวย คุ้ม) มันขึ้นกับเจตนาคน...
ถ้าเป็นผม ถ้าจะซื้อ จะตั้งใจว่าต้องเลี้ยงให้มันรอด เลี้ยงแค่พอควร ไม่ใช่ซื้อแบบโลภ หน้ามืดตามัว (หมายถึง การซื้อกล้วยไม้ทั่วไป ไม่ใช่หมายถึงซื้อกล้วยไม้ป่า..) อย่างน้อยการฝึกดูแลต้นไม้ก็เป้นการขัดเกลาจิตใจครับ เลี้ยงไม่ดีมันก็ฟ้อง ต้นเน่า ผอม มีตะเกียงแตกหนีตาย เป็นต้น ถ้าเลี้ยงเยอะโดยไม่สนใจดูแล สู้เลี้ยงน้อยต้น แต่ต้นดูดี ดีกว่าครับ (เชียร์เลี้ยงน้อยๆ เดี๋ยวผมจะโดนพ่อค้าแถวนี้ตีหัวมะนี่)
เรื่องความเห็นมันก็แล้วแต่คนหนะครับ ต้องการชี้ว่ามันแล้วแต่ความคิดและจุดมุ่งหมายแต่ละคน ก็ความเป็นจริงมันลักหลั่นย้อนแย้ง ชีวิตไม่ได้ง่ายดาย
แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 53 02:33:26
แก้ไขเมื่อ 28 ม.ค. 53 02:32:11
จากคุณ |
:
Alef
|
เขียนเมื่อ |
:
28 ม.ค. 53 02:28:09
|
|
|
|
|