+++"คนขายสุนัข และ ลูกสุนัข 7 ตัว" โดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา+++‏
|
|
เมื่อเช้าได้รับเมล์จากเพื่อนค่ะ อ่านแล้วชอบมาก อึ้งไปเลย ไม่รู้ว่าเคยอ่านกันหรือยังเลยเอามาให้อ่านค่ะ
คนขายสุนัข และ ลูกสุนัข 7 ตัว
มีร้านค้าแห่งหนึ่ง ติดประกาศขายลูกสุนัข 7 ตัว เมื่อรู้ข่าว ก็มีเด็กๆ แวะเวียนเข้ามาเล่น มาชมลูกสุนัขทุกวัน แต่ก็ยังไม่มีใครตกลงใจซื้อ เพราะเป็นสุนัขพันธุ์ดี มีราคาค่อนข้างแพง
วันหนึ่ง ขณะที่เจ้าของร้านกำลังยุ่งอยู่กับการขายของอื่นๆ ให้แก่ลูกค้าในร้าน เด็กชายหน้าตาน่าเอ็นดูคนหนึ่ง ก็มากระตุกชายเสื้อเขา เขาก้มลงมอง และถามว่ามีอะไรให้ช่วยหรือไม่
เพื่อนของผมบอกว่า ที่ร้านของคุณอามีลูกหมาขาย ผมอยากเลี้ยงลูกหมาสักตัว พ่อแม่ก็อนุญาตแล้ว ขอผมดูลูกหมาของคุณอาหน่อยได้ไหมครับ ? เด็กบอกอย่างสุภาพ
อ๋อ ได้สิหนู พวกมันกำลังนอนเล่นอยู่หลังร้านน่ะ เจ้าของร้านกล่าวอย่างยินดี แล้วผิวปากเรียกสุนักทั้งเจ็ดออกมา
เด็กชายยิ้มร่าเมื่อเห็นลูกสุนัขวิ่งตุ้ยนุ้ยออกมา ทีละตัว เขานับ...แต่ก็มีแค่หกตัวเท่านั้น ไหนว่ามีเจ็ดตัว มีคนซื้อไปตัวหนึ่งแล้วหรือครับ ? เด็กชายถาม
เจ้าของร้านตอบว่า อ๋อ เปล่าหรอกหนู ยังไม่มีใครซื้อไปเลยสักตัว เพียงแต่ตัวสุดท้ายขาหลังเขาไม่ดี มันก็เลยต้องคลานออกมา วิ่งมาพร้อมกับพี่ๆ ของมันไม่ได้
สิ้นคำเจ้าของร้าน ลูกสุนัขตัวที่เจ็ดก็คลานออกมา ขาหลังทั้งคู่ของมันลีบเหลือนิดเดียว มันต้องใช้ขาหน้าลากพาร่างกายออกมาจากหลังร้าน
ลูกสุนัขมองมาทางเด็กชายแล้วครางงี้ดๆ เห็นได้ชัดว่า มันพยายามคลานมาหาเขา หางข อ งมันกระดิกดุ๊กดิ๊กๆ อยู่ตลอดเวลา มันคลานเข้าไปเลียรองเท้าของเด็กชาย ท่าทางจะชอบเขามาก
เด็กชายหัวเราะแล้วอุ้มมันขึ้นมา ก่อนจะถามเจ้าของร้านว่า หมาตัวนี้ราคาเท่าไรครับ ?
ปกติ อาบอกขายอยู่ตัวละสองพันบาทนะ เจ้าของร้านตอบ
เด็กชายนิ่งอึ้งไป ก่อนจะล้วงกระเป๋าหยิบเงินออกมานับ เขามีเงินอยู่เพียงสี่ร้อยห้าสิบบาทเท่านั้น
ผมมีเงินไม่พอซื้อหมาตัวนี้ เด็กชายพึมพำอย่างเศร้าใจ
เจ้าของร้านรีบบอกทันทีว่า โอ๊ะ! หนู ถ้าหนูอยากได้หมาตัวนี้ไปก็เอาไปเถอะ ไม่ต้องจ่ายเงินหรอก อายกให้หนูฟรีๆ ไปเลย
เด็กชายฟังเจ้าของร้านแล้วชะงักไป ก่อนจะถามกลับไปอย่างไม่พอใจว่า ทำไมครับ ทำไมถึงบอกว่าไม่ต้องจ ่ายเงินถ้าจะซื้อหมาตัวนี้ ?
ก็อย่างที่หนูเห็นอย่างไรล่ะ ลูกหมาตัวนี้มันติดมาพร้อมๆ พี่ๆ น้องๆ ของมัน และอาก็ไม่คิดว่าจะขายมันอยู่แล้ว เพราะมันพิการ วิ่งก็ไม่ได้ กระโดดก็ไม่ได้ ความจริง อาไม่อยากให้หนูได้ของมีตำหนิอย่างนี้ไปนะ ลองดูตัวอื่นดีไหม ?
เด็กชายเม้มปากแน่นก่อนจะพูดว่า คุณอาดูอะไรนี่สิครับ ว่าแล้วเขาก็ดึงขากางเกงทั้งสองข้างขึ้น
เจ้าของร้านจึงได้เห็นว่า ขาของเด็กชายคนนี้ เล็กลีบ เช่นเดียวกับขาหลังของลูกสุนัข แต่ที่ทำให้เขายืนอยู่ได้ ก็เพราะมีขาเทียมช่วยพยุงเอาไว้
คุณอาครับ ขาของผมก็ลีบใช้การอะไรไม่ได้เหมือนกัน ผมเดินช้ากว่าเพื่อนคนอื่นๆ วิ่งก็ไม่ได้ กระโดดก็ไม่ได้ อย่างนี้ผมก็เป็นคนไร้คุณค่าหรือเปล่าครับ ?
เจ้าของร้านนิ่งอึ้งไป ความรู้สึกผิดแล่นปราดเข้าสู่หัวใจของเขา
เด็กชายปล่อยขากางเกงลงแล้วพูดต่อว่า ผมจะซื้อสุนัขตัวนี้ ในราคาสองพันบาท เท่ากับลูกหมาตัวอื่นๆ แต่ว่าผมมีเงินไม่พอ ถ้าผมจะอ้อนวอนคุณอา ขอผ่อนราคาของลูกหมาตัวนี้ เดือนละหนึ่งร้อยบาททุกเดือน จนครบสองพันบาท คุ ณอาจะว่าอย่างไรครับ ?
เจ้าของร้านน้ำตาไหลริน ทรุดตัวลงตรงหน้าเด็กชายและกอดเขาไว้ด้วยความประทับใจ พลางกล่าวขอโทษขอโพย ในสิ่งที่ตนได้ทำผิดพลาดไป
เขาบอกว่าไม่ขัดข้อง ที่จะให้เด็กชายผ่อนค่าตัวของลูกสุนัขตัวนี้ และกล่าวว่าถ้าสุนัขทุกตัวมีเจ้านายที่จิตใจดีอย่างเด็กชาย พวกมันก็คงจะมีชีวิตที่เป็นสุขอย่างมาก. .....................
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า อย่าตัดสินคุณค่า จากรูปลักษณ์ภายนอก
ที่มา : นิทานสีขาว เล่าโดย ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา
จากคุณ |
:
Ked_Sara
|
เขียนเมื่อ |
:
9 ก.พ. 53 08:59:43
|
|
|
|