ความคิดเห็นที่ 1   ซีซาร์แนะนำว่า ไม่ว่าสุนัขจะอายุเท่าไร ขนาดตัวเท่าไหน สายพันธุ์อะไร ก็ใช้สูตรเด็ดเคล็ดลับนี้ได้ เพื่อป้องกันปัญหาพฤติกรรมสุนัขที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นปัญหาพฤติกรรมที่เรื่องเล็ก เรื่องใหญ่ ก็ใช้สูตรเดียวกันนี้ คือ สูตรซีซาร์ (Cesar's rules) 1 สุนัขต้องได้รับการออกกำลังกาย 2 สุนัขต้องถูกสอนให้รู้กฎระเบียบของฝูง ของบ้าน รู้ขอบเขตของตน และ ข้อจำกัดต่างๆ ( และ ผู้เลี้ยงต้องรู้จักวิธีบังคับใช้กฎเมื่อสุนัขแหกกฎ ต้องรู้วิธีที่จะตักเตือนสุนัข) 3 ให้ความรัก แต่ต้องให้ให้ถูกเวลา ทำ ตามลำดับ ..... คือ ต้องทำ 1 และ 2 และ 3 สุดท้าย (บางท่านทำข้อ 3 ก่อนอื่นเลยเพราะง่ายสุด ส่วนข้อ 1และ2ทำบ้างไม่ทำบ้างแล้วแต่เวลา อันนี้ไม่ถูก บา่งท่านแล้วใหญ่ ทำข้อ 3 อย่างเดียว ซึ่งไม่ถูกอย่างยิ่ง) และ ที่สำคัญคือ ผู้เลี้ยงต้องเป็นจ่าฝูง (ที่สุขุม มั่นคง อารมณ์นิ่ง) และ สุนัขเป็นผู้ตาม (ที่สงบ ยอมจำนน) ................................................................................ จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:50:56

ความคิดเห็นที่ 2   ถ้าผู้เลี้ยงสามารถทำได้ตามสูตรทั้ง 3 ข้อ รับรองว่าสุนัขจะปลอด ลอดพ้นจากปัญหาพฤติกรรม นี่แหละวิธีป้องกันสำหรับสุนัขที่ยังไม่มีปัญหาพฤติกรรม ผู้เลี้ยง ส่วนมากมักคิดว่า วิธีปรับพฤติกรรมของซีซาร์ มิลลาน จะใช้ได้เฉพาะสุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรมแล้วเท่านั้น หรือ ต้องมีปัญหาพฤติกรรมที่รุนแรงเท่านั้นถึงจะใช้ได้ หลายท่านชื่นชอบ ความสามารถในการปราบสุนัขดุของซีซาร์ และ คิดว่าวิธีของซีซาร์นำไปใช้ได้ผลจริง แต่สุนัขของตนยังไม่มีปัญหาพฤติกรรมรุนแรงเหมือนในรายการของซีซาร์ ก็เลยมองข้ามความสำคัญไป เพราะคิดว่า เมื่อไหร่สุนัขของตนมีปัญหารุนแรง ค่อยหยิบวิธีซีซาร์มาใช้ ซึ่งเป็้นความเข้าใจที่ผิด วิธีของซีซาร์ มิลลาน หรือ สูตร 3 ข้อของซีซาร์ สามารถนำมาใช้ได้ทั้งสุนัขที่ยังไม่มีปัญหา เริ่มจะมีปัญหา มีปัญหาเบาๆ หรือ มีปัญหาแรงๆ ก็ใช้ได้ และก็ใช้สูตรทั้ง 3 ข้อแบบเดียวกัน เช่น จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:51:40

ความคิดเห็นที่ 3   ------------- สุนัขที่ยังไม่มีปัญหาพฤติกรรม หรือ ลูกสุนัขที่ยังไม่มีปัญหาพฤติกรรม----------------------- ก็ใช้สูตร 3 ข้อคือ 1 สุนัขต้องออกกำลังกาย -พาเดิน เพื่อฝึกความสัมพันธ์จ่าฝูง - ลูกฝูง เพื่อให้สุนัขยอมรับเราเป็นจ่าฝูงได้เร็วขึ้น พาออกกำลัีงกายเพิ่มเติม สำหรับสุนัขที่มีพลังงานสูง เพื่อได้ระบายพลังงานออก พอไม่มีพลังงานเหลือ เขาก็จะไม่ก่อกวน ไม่ทำเรื่องวุ่นวาย เมื่อไหร่ที่พลังงานเอาออกไม่หมด สุนัขจะหงุดหงิด เขาก็จะหางานทำเอง เพื่อระบายพลังงานของตน เมื่อไหร่เขาหางานทำเอง นั้นแหละเขากำลังจะสร้างปัญหาพฤติกรรมต่างๆในอนาคตให้เราปวดหัว เช่น เห่าไม่หยุด ขุดสวน กัด หวงของ วิ่งไล่ เป็นต้น ใครว่าการออกกำลัง กายไม่สำคัญ 2 สุนัขต้องถูกสอนกฎระเบียบ ขอบเขต ข้อจำกัด และเราต้องบังคับใช้กฎได้ -กฎต่างๆเช่น ห้ามฉี่บนโซฟา ห้ามเห่า ห้ามกัด นั่งก่อนกิน ห้ามกัดรองเท้า เป็นต้น ที่เราต้องสอนกฎต่างๆให้ สุนัข เพื่อให้สุนัขอยู่ในโลกที่อันตรายใบนี้อย่างปลอดภัย เขาไม่รู้ว่าอันไหนอันตราย อันไหนปลอดภัย สายไฟอันตรายหรือไม่ วิ่งตัดหน้ารถอันตรายหรือเปล่า นี่แหละ เหตุผลที่เราต้องสอนกฎให้กับสุนัข เช่น ห้ามกัดสายไฟ สุนัขจะได้ไม่ถูกไฟดูด / ฝึกสุนัขให้เดินในสายจูงไม่ดึงไม่ลาก จะได้ไม่ลากเราลงถนนให้ถูกรถชน เป็นต้น อีกความจำเป็นที่เราต้องสอนกฎระเบียบ ข้อจำกัด ต่างๆให้สุนัขเพราะเรากับสุนัขเป็นสิ่งมีชีวิต แต่ต่างสปีชี่กัน สุนัขมีฟันและกรามที่แข็งแรง เรามีผิวที่บอบบางกว่าสุนัข การกัดเล่นของสุนัขระหว่างสุนัขด้วยกันอาจไม่ทำให้เกิดการบาดเจ็บใดๆทั้ง สิ้น แต่ถ้าสุนัขเล่นแบบนี้กับเราเหมือนกับที่เขาเล่นกับเพื่อนสุนัข อาจทำให้แขนเป็นรูได้ นี่เป็นเหตุผลสำคัญ ที่สุนัขต้องรู้กฎที่จะอยู่ร่วมใช้ชีวิตกับเรา เพื่อให้เราปลอดภัย ไร้รูที่ผิวหนัง ใครว่าสอนกฎให้สุนัขไม่สำคัญ จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:52:27

ความคิดเห็นที่ 4   3 ให้ความรัก แต่ต้องให้ให้ถูกเวลา ความรักเป็นสิ่ง ที่สำคัญ เราควรเมตตาต่อสัตว์โลกทุกชนิด สำหรับสุนัขแล้ว ความรักระหว่างลูกฝูง กับ จ่าฝูง คือ จ่าฝูงให้ความปลอดภัยกับลูกฝูงให้ลอดพ้นจากผู้ล่าอื่นๆ จ่าฝูงพาลูกฝูงไปยังแหล่งอาหาร แหล่งน้ำ เืพื่อให้ลูกฝูงกินอิ่ม นอนหลับ และ จ่าฝูงควบคุมความสงบภายในฝูงเพื่อให้ลูกฝูงทุกตัวอยู่ร่วมกันได้ เพื่อความอยู่รอดของทุกตัวในฝูง และ ดำรงสืบเผ่าพันธุ์ นี่คือความรักของสุนัขกับสุนัข ความรักในโลกของมนุษย์ เช่น กอด จูบ ลูบคลำ แสดงความรักในรูปแบบต่างๆ คำพูด การสัมผัส และ การซื้อของเพื่ออำนวยความสะดวก เพื่อซื้อความสบาย และ อิ่มท้อง เพื่อแสดงว่าเรายอมทำทุกอย่าง เพื่อให้คนที่เรารัก เพื่อให้สิ่งที่เรารัก อยู่อย่างสบายกายและใจ สุนัขไม่ต้องการเสื้อผ้า สุนัขไม่ต้องการอาหารจานละหลายร้อย สุนัขไม่ต้องการไปเที่ยวทะเลทุกวันหยุด หรือ ต้องการเค้กวันเกิด สุนัขไม่้ต้องการคนมาโอ๋หรือปลอบใจเวลาที่เขามีปัญหา เพราะ สุนัขจ่าฝูง(สุนัขจริงๆ) ไม่โอ๋ ไม่ปลอบ ไม่ร้องเพลงกล่อมลูกฝูงให้ผ่อนคลาย เหมือนที่เราใช้กับสุนัขของเรา ถ้าเราใช้แล้วได้ผล ก็คงไม่มีสุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรมในโลกนี้ เพราะทุกคนก็ปลอบเป็น โอ๋เป็น แต่สุนัขก็ไม่หาย เวลาสุนัขมีปัญหาวิตกกังวล จ่าฝูงจะตักเตือน จะเตือนสติให้สุนัขตัวที่มีปัญหากลับมามีสติ และ ภาวะอารมณ์ที่ปกติ สมดุล เมื่อไหร่ทำผิดก็จะตักเตือน นั่นแหละการแก้ปัญหาของสุนัขจ่าฝูง จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:53:06

ความคิดเห็นที่ 5   การให้ความรักในรูปแบบมนุษย์ การปลอบ การลูบคลำ การโอ๋ การให้ขนม ถือเป็นรางวัล ในการที่จะส่งเสริมพฤติกรรมที่สุนัขกำลังทำอยู่ขณะนั้น ถ้าสุนัขกำลังกลัวขู่ก้าวร้าวหวงอาหาร แล้วเราแก้ด้วยการให้ความรัก ปลอบ โอ๋ เหมือนโอ๋ลูกมนุษย์ นั้นเป็นการส่งเสริมพฤติกรรมที่สุนัขกำลังทำขณะนั้น เหมือนกับย้ำเขาว่า จงก้าวร้าวต่อไป นั่นคือสิ่งที่ถูกต้อง เจ้าจงขู่แยกเขี้ยวต่อไป นี่คือตัวอย่างของการให้ความรักที่ผิดเวลา การ แสดงความรัก เหมือนเป็นการกระทำเพื่อตอบสนองความต้องการของตนเอง เพื่อให้เราสบายใจ เพื่อให้เรารู้สึกว่าเราได้ทำสิ่งที่ดี สิ่งที่รับผิดชอบ แต่จริงๆแล้วสุนัขต้องการอะไร เรากำลังมองข้ามความต้องการของเขาไป เพราะเรามัวแต่มอง แต่ความต้องการของเรา เราลืมมองไปที่หัวใจเขาว่า เขาเป็นสุนัขนะ เขาไม่ใช่มนุษย์ เขายังต้องการความเติมเต็มในด้านความเป็นสุนัขของเขาด้วยไม่ใช่หรือ ตอบ สนองความต้องการสุนัขในด้านสุนัข เราควรให้เขาออกกำลังกาย สุนัขที่ผ่อนคลาย สงบ หลับพักผ่อนได้ นั้นคือ สุนัขที่มีความสุข แต่เรามองว่า สุนัขที่ตื่นเต้น วุ่นวาย วิ่งไปมา เหมือนกับเด็กๆที่ดีใจเมื่อได้ของเล่น เราก็มองว่า สุนัขที่ตื่นเต้น นั่นคือสุนัขที่มีความสุข แต่จริงๆแล้ว เขากำลังตึงเครียด มีพลังงานเต็มตัวแบบตัวแทบปริ แต่หาที่ระบายออกไม่ได้ เลยระบายออกมาในรูปแบบลุกลี้ลุกลน เดินเพ่นพ่าน เห่าระรัว เขาคุมสติตัวเองไม่ได้ ซึ่งเรามองว่าเขาตื่นเต้นมีความสุข แต่จริงๆแล้วเขาเหมือนคนกำลังเสพยาบ้า ที่คุมตัวเองไม่ได้ นี่หรือ เขากำลังมีความสุข เมื่อเราให้เขาระบายพลังงาน พาออกกำลังกาย เขาสงบ รู้สติรู้ตัว เขาก็จะทำตามสั่งเราได้ เพราะมีสติอยู่กับตัว สอนอะไรก็จะเข้าหู เข้าหัว เมื่อเขาทำตามกฎได้ดี ทำตามสั่ง เมื่อนั้นเราถึงให้ความรัก ให้ความรักในขณะที่สติอยู่กับตัว เขาก็จะรับรู้ในความรักของเรา เมื่อนั่นความรักเราจะมีค่าในสายตาสุนัข นี่คือการทำตามกฎของซีซาร์ แบบตามลำดับ 1 2 และ 3 การให้ความรัก สุนัขแบบผิดเวลา เหมือนกับเรากอด ปลอบใจคนที่กำลังเมายาบ้า ซึ่งคนเมายาบ้าเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรากำลังให้ความรักเขาอยู่ ดีไม่ดีโดนมีดแทงสวนกลับได้ คนที่เมายาบ้า จะรับรู้ความรักของเราได้ ก็ต่อเมื่อเราพาเขาไปบำบัด พาเขาไปเลิกยา พอเขาไม่รับยา เขาก็มีสติอยู่กับตัว เมื่อนั้นเราให้ความรักเขา ปลอบเขา และ ให้อภัย เมื่อนั้น ความรักเราที่ให้เขา ถึงมีความหมาย มีคุณค่าให้จดจำ ใคร ว่าให้ความรักแบบถูกเวลา ไม่สำคัญ จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:53:30

ความคิดเห็นที่ 6   ------------- สุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรม ไม่ว่ามีน้อย หรือ มีมาก----------------------- ก็ใช้สูตร 3 ข้อเหมือนกันคือ 1 สุนัขต้องออกกำลังกาย สุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรม แปลว่า มีพลังงานสะสมสูง เขาถึงมีพลังงานเหลือและเอาพลังงานที่เหลือนั้นมาหาเรื่อง หางานทำเอง หาเรื่องท้าทายเรา หาเรื่องแหกกฎเรา เขาสั่งสมพฤติกรรมนั้นๆ จนเป็นความเคยชิน จนกลายเป็นปัญหาพฤติกรรมได้ในที่สุด ยิ่งสุนัขตื่นเต้นสูงยิ่งมีพลังงานสะสมสูง สุนัขที่ก้าวร้าวสูงยิ่งมีพลังงานสะสมสูง พลังงานที่มีอยู่ในตัว ต้องมีทางระบายออกไม่ทางใดทางหนึ่ง ถ้าเราไม่พาไประบายออกในทางที่เราควบคุมไ้ด้ เขาจะหาทางระบายเอง และนั้่นจะกลายเป็นสิ่งที่เราควบคุมยาก ถ้าเราห้ามไม่ให้เขาทำใน สิ่งใด ต้องหาสิ่งอื่นมาทดแทนพฤติกรรมที่เราห้าม เช่นเราห้ามไม่ให้เขาเห่า (เขาเห่าเพื่อระบายพลังงานส่วนเกินเขา) เราก็ต้องหากิจกรรมอื่นให้เขาทำเพื่อให้เขาระบายพลังงานส่วนเกินนั้นเช่น พาเดิน พาวิ่ง พาขึ้นลู่วิ่ง พาเล่นAgility เป็นต้น คนส่วนใหญ่ เอาแต่ห้าม ห้าม และ ห้าม แต่ไม่พาออกกำลังกาย เพราะคิดว่าไม่จำเป็น และเป็นข้ออ้างของคำว่า "ไม่มีเวลา " พอไม่พาไปออกกำลังกาย พลังงานก็สะสม แถมห้ามไม่ให้เห่าอีก เขาก็อึดอัด พลังงานมันคับอก เขาก็ต้องหาทางระบายออก บางตัวก็เห่าเหมือนเดิม นิสัยแก้ไม่หาย บางตัวไม่เห่า แต่ไปขุดดินแทน กัดเฟอร์นิเจอร์แทน หรือบางตัวระบายพลังงานกับเจ้าของ กัดเจ้าของซะเลยเวลาถูกขัึดใจ เป็นต้น เวลาจะปรับพฤติกรรมสุนัข หรือ สำหรับสุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรมไม่ว่าเรื่องเล็ก หรือเรื่องใหญ่ ต้องพาสุนัขออกกำลังกาย ให้เหนื่อย พอเหนื่อย เขาจะท้าทายน้อยลง และเราจะแก้พฤติกรรมได้ง่ายขึ้น เร็วขึ้น ใครว่าการออกกำลังกายไม่ สำคัญ จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:54:13

ความคิดเห็นที่ 7   2 สุนัขต้องถูกสอนกฎระเบียบ ขอบเขต ข้อจำกัด และเราต้องบังคับใช้กฎได้ ยิ่งสุนัขมีปัญหาพฤติกรรม เรายิ่งต้องระวังเรื่องกฎระเบียบมากยิ่งขึ้น อะไรที่เราตั้งกฎ เราเคยห้าม เราต้องป้องกันไม่ให้สุนัขแหกกฎที่เราตั้งได้ ถ้าเมื่อไหร่เขาแหกกฎ เราก็ต้องตักเตือนให้ทัน ตักเตือนจนเขาอยู่ในกฎด้วยความเต็มใจ แน่ นอนที่ว่า สุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรม ก็ต้องถูกตักเตือนบ่อยกว่าสุนัขที่ไม่มีปัญหาพฤติกรรมเป็นธรรมดา และ ระดับการตักเตือนก็ต้องเข้มข้นตามความเข้มข้นของพฤติกรรม เช่น ลูกสุนัขที่ยังไม่มีปัญหาพฤติกรรม เราห้ามไม่ให้เขากัดเฟอร์นิเจอร์ แค่ส่งเสียงเตือน ก็อาจได้ผล ห้ามได้ แต่ถ้าเป็นสุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรมการกัดเฟอร์นิเจอร์ ทำจนเป็นนิสัย การส่งเสียงห้ามอาจไม่เข้มข้นพอ เขาแทบไม่ได้ยินด้วยซ้ำ ก็ต้องใช้การสัมผัสเข้ามาช่วย เช่น การกระตุกเชือกจูง หรือ การฉก และ สุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรม ความท้าทาย ดื้อ ก็จะมากขึ้นตาม ในเมื่อเราไปห้ามอะไรในสิ่งที่เขาทำจนเคยชิน เขาก็ย่อมอยากจะทำอีก อยากจะลองท้าทายความสามารถของเราในการคุมกฎ เขาก็อาจจะแอบทำอีก เราก็ต้องคอยจับตาดูในช่วงแรกๆ เพื่อจะได้ตักเตือนให้ทันทุกครั้ง จนกว่าเขาจะเลิกท้าทาย คนที่แก้ปัญหาสุนัขไม่สำเร็จ ส่วนใหญ่จะเหนื่อยใจ และท้อไปก่อน และ "ช่างมันเถอะ" กับปัญหาสุนัข แต่จริงๆแล้วเราไม่มีความอดทน และ ยอมแ้พ้ไปก่อน ใครว่าสอนกฎให้ สุนัขไม่สำคัญ จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:54:41

ความคิดเห็นที่ 8   3 ให้ความรัก แต่ต้องให้ให้ถูกเวลา ข้อนี้ต้องระวัง เป็นพิเศษ สำหรับสุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรม ถ้าเราให้ความรักที่ผิดเวลา จะทำให้ไปส่งเสริมพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ให้รุนแรงมากขึ้น ถ้าก้าวร้าวก็จะก้าวร้าวมากขึ้น ขี้กลัวก็จะขี้กลัวมากขึ้น และ จะไม่หายถาวร อย่าลืมว่า ความรัก และ อาหาร สุนัขต้องพยายามเพื่อให้ได้มา ห้ามให้โดยที่เขาไม่พยายามทำอะไรเลย ความรัก และ อาหาร ไม่ใช่ของฟรี ต้องทำงานแลก บางท่านตื่นเช้ามาก็ กอดจูบสุนัข เอาคุกกี้ให้สุนัขกิน อยู่ดีๆก็ลูบ ก็กอด แล้วก็ให้คุกกี้กิน นั่นเรากำลังให้ความรักและอาหารโดยที่เขาไม่ได้ทำงานเพื่อให้ได้มา เรากำลังปรนเปรอเขา และ สนับสนุนให้เขาเป็นจ่าฝูงเรา เราคือทาสผู้รับใช้เขา เราทำตัวไม่ให้เขาเคารพ เพราะฉะนั้นเราจะตักเตือนอะไรเขาก็ไม่ฟัง เขาเป็นจ่าฝูง เขาไม่จำเป็นต้องมาฟัง หรือเชื่อฟังลูกฝูงอย่างเรา ก่อน จะให้ความรัก หรือ ให้อาหาร เขาต้องทำตามกฎที่เราตั้งก่อน เช่นให้นั่งก่อนกินอาหาร ให้หมอบรออย่างสงบแล้วถึงอนุญาตให้ขึ้นตัก หรือ เวลาปรับพฤติกรรม ถ้าสุนัขเห่าจักรยาน เราสั่งให้สุนัขนั่งอย่างสงบ สุนัขนั่งได้โดยไม่เห่า เมื่อเขาทำได้ตามสั่งเรา เราถึงให้รางวัล ให้ความรักกลับ เป็นต้น ใครว่าให้ความรักแบบถูกเวลา ไม่สำคัญ จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:55:15

ความคิดเห็นที่ 9   ----------- วิธีสื่อสารกับสุนัข มีเครื่องมือไหนบ้าง------------------- หนังสือหลายเล่ม หรือ คำแนะนำหลายแหล่ง บอกว่า ให้สุนัขนั่งก่อนกิน สุนัขต้องยืนนิ่งๆให้แปรงขน สุนัขต้องหมอบรอที่หน้าประตูก่อนเข้าบ้าน แต่สุนัขนั่งไม่เป็น หมอบไม่เป็น รอไม่เป็น เพราะเราไม่เคยสอน แล้วเราจะสั่งเขาได้อย่างไร สั่งไปก็ทำไม่ได้ นั่นเอง คำสั่งพื้นฐาน ( Basic Obedience) นั่ง / หมอบ / คอย / ยืน / รอ ถึงจำเป็น ผู้เลี้ยงสุนัขทุกท่านควรสั่งสุนัขได้ด้วยตนเอง เพื่อหาหนทางสื่อสารกับเขา เพื่อให้เราควบคุมกฎเขาได้ง่ายขึ้น เปรียบเหมือนเครื่องทุ่นแรงให้ไปถึงฝั่งฝันได้สำเร็จ การออกคำสั่ง แล้วเขาทำตาม ถือเป็นหนึ่งในหัวข้อ "ฝึกสุนัขให้อยู่ในกฎระเบียบ" เพราะเขาทำตามที่เราสั่ง เราสั่งได้ เขายอมทำตามสั่ง นั่นแปลว่าเขายอมให้เราคุมเขาได้ประมาณหนึ่ง สำหรับสุนัขที่ไม่มี ปัญหาพฤติกรรม หรือ มีปัญหาพฤติกรรมน้อยๆ ที่มีพลังงานต่ำถึงปานกลาง การที่เราฝึก "คำสั่งพื้นฐาน ( Basic Obedience)" สั่งให้สุนัขทำบ่อยๆ ถือว่าเป็นการย้ำเตือนความเป็นจ่าฝูงของเรา สั่งให้เขาทำตามที่เราต้องการ สำหรับสุนัขที่ไม่มีปัญหาพฤติกรรมก็จะป้องกันไม่ให้สุนัขมีปัญหาพฤติกรรมที่ อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้่ หรือ สุนัขที่มีปัญหาบ้างเล็กน้อย หัวอ่อน ไม่มีจิตใจเป็นจ่าฝูง ก็จะหายได้ เพราะเหมือนมีคนมานำ มีคนจูงจมูกนิดๆหน่อยๆ ก็ยอมอ่อนข้อให้แล้ว แต่ถ้าสุนัขที่มีปัญหา พฤติกรรมที่มาก รุนแรง ร่วมกับสุนัขมีพลังงานสูง มีจิตใจเป็นจ่าฝูง การฝึกสุนัขให้ นั่ง / หมอบ / คอย / ยืน / รอ อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้เขายอมรับเราเป็นจ่าฝูงได้ และไม่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมได้ ต้องมีอะไรที่มากกว่านั้น ถึงจะแก้ได้ จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:55:58

ความคิดเห็นที่ 10   นั่นเองที่เราจะพบว่า สุนัขบางตัวพาไปเข้าโรงเรียนฝึก (ฝึกให้ นั่ง / หมอบ / คอย / ยืน / รอ ) ฝึกกลับมากลายเป็นสุนัขที่ดี ที่น่ารัก แต่บางตัวหลังจากออกจากโรงเรียนฝึก นิสัยก็ไม่ได้ดีขึ้น อาจจะแย่กว่าเดิมเสียอีก แปลว่าต้องมีอะไรที่มากกว่าการฝึกคำสั่งพื้นฐาน การ ฝึกคำสั่งพื้นฐานเหมือนกับหาทางสื่อสารกับเขา เขาจะยอมทำตาม ก็ต่อเมื่อสุนัขมีใจที่จะยอมทำตามประมาณหนึ่ง แต่สุนัขที่มีความก้าวร้าวสูงหรือมีัความเป็นจ่าฝูงสูง เขาไม่ยอมทำตามได้ง่ายๆ เพราะเขาทะนงตัวว่าอยู่เหนือกว่าเรา เขาไม่ยอมทำตามลูกฝูงแน่ๆ ลูกฝูงซะเองที่ต้องทำตามเขา เพราะเหตุนี้ สั่งให้เขานั่ง ปากเปียกปากแฉะเขาก็ไม่ทำ ถ้าเขาอยากจะออกไปกัดกับสุนัขที่เดินผ่านข้างรั้ว เพราะเราไม่น่าเคารพพอที่เขาต้องเกรงใจหรือเชื่อฟัง เพราะฉะนั้นใน กรณีแบบนี้ เราต้องสร้างความเกรงใจ เคารพ นับถือ ก่อน นั่นคือเราต้องเป็นจ่าฝูง และปรับพฤติกรรมเขาโดยใช้กฎ 3 ข้อของซีซาร์ ร่วมกับใช้คำสั่งพื้นฐานเพื่อเป็นตัวช่วยในการควบคุมกฎ ถึงจะแก้ป้ญหาสุนัขได้ผล ด้วยเหตุนี้ ซีซาร์ถึงบอกว่า เจ้าของต้องฝึกสุนัข ปรับพฤติกรรมสุนัขด้วยตัวเอง ดีทีุ่สุด ใครฝึกเขาได้ เขาก็เชื่่อฟังคนนั้น เราอยากให้เขาเชื่อฟังเรา เราก็ต้องฝึกเขา ทุกคนในบ้านต้องร่วมมือกัน ทุกคนต้องมีส่วนร่วม ถึงจะแก้ปัญหาสุนัขได้สำเร็จ จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:56:31

ความคิดเห็นที่ 11   "โปรดรักสุนัขแบบที่สุนัขเป็น.............. ..........โปรดอย่าให้รักบังตา จนมองเห็นเป็นเด็กที่ใส่ชุดสุนัข"                                              Yoja & Jiji & Yuji จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 09:59:05

ความคิดเห็นที่ 12   ไม่ใช่แค่สุนัขได้ออกกำลังกายนะคะเจ้าของก็สุขภาพดีตามไปด้วย ตั้งแต่เริ่มพาหมาไปวิ่ง มีแต่คนชมว่าผอมลงปลื้มมากๆกร๊ากก จากคุณ : nangoing เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 10:12:05

ความคิดเห็นที่ 13   ดีจังเลยค่า ขอบคุณนะคะ จากคุณ : gibgabgoogee เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 10:30:39

ความคิดเห็นที่ 14   ขอบคุณนะคะ จากคุณ : Saai-Mai เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 10:37:59

ความคิดเห็นที่ 15   ถามนิดนึงคะ เจ้าแสบที่บ้าน ถ้าปลดสายจูงเมื่อไหร่ล่ะก็ วิ่งๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จนเหนื่อยน่ะค่ะ ถึงจะหยุดได้ เราเรียกก็ไม่มา ไปนอนพักอยู่ไกลๆโน้น.... กว่าเจ้าของจะวิ่งไล่จับได้เล่น เอาเหนื่อยเลยค่ะ เลยทำให้ไม่กล้าพาไปออกกำลังกายตามสวนต่างๆ จากคุณ : pornnapha.o เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:01:42

ความคิดเห็นที่ 16   ได้ความรู้มากมาย ต้องขอบคุณคุณหญิงมากๆ เลย จากคุณ : พี่ชินจัง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:25:06

ความคิดเห็นที่ 17   ตอบคุณ  pornnapha.o คะ ถ้่าุสุนัขไม่สามารถมาหาเมื่อเรียก หรือ มาหาตามสั่ง ยังไม่ได้ ไม่ควรปลดสายจูงเมื่ออยู่นอกบ้าน เป็นความรับผิดชอบของผู้เลี้ยงสุนัขคะ สุนัขที่ควบคุมไม่ได้ อาจไปก่อกวนสุนัขตัวอื่นให้วุ่นวายได้ ถ้าเขาวิ่งไปเจอสุนัขตัวที่ใหญ่กว่า และ ก้าวร้าวกับสุนัขตัวเล็ก เขาอาจถูกกัดตายได้ เพราะเราไม่ได้อยู่ตรงนั้นเพื่อควบคุม ไม่อยากให้สุนัขตายฟรี โปรดใส่สายจูงเมื่ออยู่นอกบ้าน ฝึก ให้สุนัขมาหาตามสั่ง ดูได้ที่ http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=03-12-2008&group=6&gblog=18 ฝึกบริเวณบ้านนอ้งหมาอาจทำได้ดี แต่อย่าเพิ่งนิ่งนอนใจ เพราะอยู่นอกบ้านสิ่งกระตุ้นมากมาย เขาอาจไม่มาหาเมื่อเรียก เพราะฉะนั้นก็ต้องฝึกทั้งในบ้านและนอกบ้าน เมื่ออยู่นอกบ้านให้ใส่สายจูงที่ยาวๆ แล้วฝึกเรียกให้มาหา เพื่อทดสอบบทเรี่ยน ถ้าเขาไม่มาหาเมื่อเรียก เรายังมีสายจูงติดตัวเขาอยู่ เราจะได้ดึงเขากลับมาได้ และจะได้ไม่ไปก่อกวนสุนัขตัวอื่น หรือ ไปทำให้ตัวเองอยู่ในสถานการณ์ที่อันตราย จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:25:11

ความคิดเห็นที่ 18   เรื่องปล่อยสายจูงแล้วบังคับไม่ได้นี่น่ากลัวค่ะ ทาโร่โดนฝึกเรื่องเดินและเรียกต้องกลับมาหา มีอยู่วันนึงพาทาโร่ไปเดินเล่นในซอยตอนนั้นประมาณ 8-9เดือนเองค่ะเห็นว่าไม่ค่อยมีคนแล้วก็ปล่อยสายจูง ถ้าเรียกมา ทาโร่จะมาค่ะ บ้านพี่ที่รู้จักกันปล่อยบางแก้ว มาวิ่งเล่นสองตัวอายุประมาณ3ปี พี่เห็นท่าไม่ดี เลยเรียกทาโร่ ทาโร่หันหลังเดินมาหา เจ้าบางแก้ว2ตัว วิ่งเข้าใส่อย่างรวดเร็ว รุมเลยค่ะ ทาโร่สู้สุดกำลัง กัดกันไม่ยอมปล่อย บางแก้วก็กัดทาโร่ไม่ยอมปล่อย ตัวนึงกัดที่หลังทาโร่ ตัวนึงกัดติดปากกับปากของทาโร่ พี่เค้าควบคุมหมาของเค้าไม่ได้เลย กว่าจะแยกออก ทาโร่ปากฉีก เจ้าบางแก้วจมูกแห่วงเนื้อจมูกอยู่ในปากทาโร่ เลือดกระจายทั้งสองตัวเลยค่ะ สงสารทาโร่ที่สุดเลย รักษาปากตั้งนานกว่าจะหาย ถ้าทาโร่เป็นหมาเล้กวันนั้น ตายไปแล้วแน่ๆ ไม่เข้าใจพี่เจ้าของบางแก้วเหมือนกัน หมาดุขึ้นชื่อทุกบ้านในซอยแกทำไมกล้าปล่อยเดินโดยไม่มีสาย แก้ไขเมื่อ 03 มี.ค. 53 11:56:05 จากคุณ : สมพิศซ่า เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 11:55:21

ความคิดเห็นที่ 19   ขอบคุณสำหรับความรู้ดีๆค่ะ เราเองก็ปล่อยเจ้าลูกชายไม่ได้เช่นกัน ถ้าจะออกนอกบ้านต้องใส่สายจูงค่ะ เพราะว่า เค้าจะเป็นพวกแบบว่า เจอหมาด้วยกัน(ถ้าเป็นตัวเมียก็แล้วไป) ถ้าเป็นตัวผู้นี้สิ วิ่งสู้ฟัดค่ะ แล้วเจอเด็กก็ไม่ได้ คิดว่าเป็นเพื่อนเล่น งับแขน งับขา ทันที ยิ่งเจอไก่ นี่ สุดๆเลยค่ะ เฮ้อ...ก็เลยให้อยู่ในสายจูงตลอดเวลาที่ออกจากรั้วบ้าน สงสารน่ะค่ะ แต่ต้องทำ ฝึกอย่างไรก็ไม่จำ มีทางแก้อีกมั้ยค่ะ สำหรับเจ้าโมชิวายร้ายตัวนี้ มีครั้งหนึ่งหลุดออกไปวิ่งไล่ไก่ โอ๊ย...พ่อมันวิ่งตามแทบไม่ทัน เรียกก็ไม่หยุด โดนทำโทษซะงั้น (พ่อตี) แต่ก็ไม่จำ เช่นเคย ส่วนเจ้าน้องสาวแสนแสบก็ใช่ย่อยค่ะ ทำประตูบ้านพังไปแล้ว สองบาน ยิ่งเป็นบ้านเช่าด้วย ไม่รู้เราจะทำยังไงดี เค้า กัดกินอ่ะค่ะ ยังกะว่า มีอะไรให้กิน ไว้จะนำรูปมาโพสตั้งกระทู้ให้ดู ไม่รู้จะแก้กับนิสัยเจ้าสองวายร้ายอย่างไรดี กฎก็มี แหกทีไรก็โดนทำโทษ แต่ไม่เคยจำ เฮ้อ ... นี่ค่ะโฉมหน้าพี่น้องวายร้าย จากคุณ : MaM-Mochi-pompom เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 12:30:29

ความคิดเห็นที่ 20   ตอบคุณ MaM-Mochi-pompom ปัญหาคือ 1 สุนัขเรียกแล้วไม่มา 2 ไม่ถูกกับสุนัข 3 ก้าวร้าวกับเด็ก 4 ไล่ไก่ สัญชาตญาณการไล่ล่าสูง 5 เจ้าของควบคุมสุนัขไม่ได้ ทั้งในและนอกสายจูง 6 สุนัขอีกตัว ชอบกัดทำลาย 7 และทั้งสองตัวไม่เชื่อฟัง ไม่เคารพเจ้าของ ต้องแก้ปัญหาตาม คหที่ 6 ในหัวข้อ ------------- สุนัขที่มีปัญหาพฤติกรรม ไม่ว่ามีน้อย หรือ มีมาก----------------------- ตักเตือนสุนัขควรใช้การฉกหรือใช้สายจูง ไม่ควรตี ดูได้ที่ วิธีใช้ Check chain อย่างถูกต้อง http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=18-08-2009&group=6&gblog=46 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=26-02-2010&group=8&gblog=55 การฉก http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=08-01-2010&group=6&gblog=51 http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=yojajiji&month=26-02-2010&group=8&gblog=56 ส่วนการแก้ือื่นๆ ดูได้จากในบล็อกคะ จากคุณ : Yoja&Jiji เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 13:25:59

ความคิดเห็นที่ 21   ขอบคุณกระทู้ดีๆ อีกเช่นเคยค่ะ  ^__^ จากคุณ : หม่าม๊าพี่เจ๋ง เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 16:11:47

ความคิดเห็นที่ 22   เข้ามารับความรู้ค่ะ น้องชูชู 3 เดือนครึ่งแล้วนะคะ บอกมานี่ ก็ มา โยนบอล ให้เก็บ ก็วิ่งตามงับแล้วกลับมา บอกขอ ก็ปล่อยบอลออกจากปาก บอกมานี่ ก็วิ่งมา แล้วบอกนั่งลง ก็นั่ง บอกเช็คแฮนด์ พี่ๆแย่งกันให้แฮนด์ก่อนทุ๊กทีน่ะสิ อยากบอกว่า กำลังเรียนรู้จากคุณหญิงนะคะ จากคุณ : ^^ (ปรินรัตน์) เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 19:18:28

ความคิดเห็นที่ 23   ขอบคุณค่ะสำหรับความรู้ดีๆ ตอนนี้กำลังพยายามปรับวิถีการเลี้ยงเจ้าหู้ขนานใหญ่ค่ะ ประโยคนี้ของคุณแม่จีจ้โดนใจมากเลย "โปรดรักสุนัขแบบที่สุนัขเป็น.............. ..........โปรดอย่าให้รักบังตา จนมองเห็นเป็นเด็กที่ใส่ชุดสุนัข" เพราะจากเดิมเลี้ยงแบบสปอยล์เต็มๆ ตอนนี้เลยพยามยามเลี้ยงให้หู้เป็นหมาอยู่ค่ะ ปล.ถ้าจากเดิมเลี้ยงด้วยกันในห้องแอร์ ต่อมาจะย้ายให้ออกมานอนนอกห้อง(พัดลม) จะมีปัญหาอะไรคะ? ^ ^ จากคุณ : ipod_nenaz เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 19:30:03

ความคิดเห็นที่ 24   ขอบคุณสำหรับความรู้ดี ๆ อีกเช่นเคย และเคยเอาไปฝึกกับลูกชายที่ดื้อไม่ค่อยฟังคำสั่งเวลาเรียกก็ไม่มา แต่พอได้ทำตามคำแนะนำของคุณหญิง ตอนนี้เค้ามีพฤติกรรมดีขึ้นค่ะ จากคุณ : ลูกชิ้น shineedog เขียนเมื่อ : 3 มี.ค. 53 22:02:05

ความคิดเห็นที่ 25   ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ  จะพยายามมากขึ้น จากคุณ : DOGHALL เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 03:29:54

ความคิดเห็นที่ 26   ขอบคุณนะคะ ได้ความรู้มากๆเลยค่ะ ตอนนี้เด็กๆที่บ้านไปไหนก็ให้อยู่ในรถเข็นตลอดค่ะ  (กลัวไปหมดค่ะ) แก้ไขเมื่อ 04 มี.ค. 53 22:18:43 จากคุณ : pornnapha.o เขียนเมื่อ : 4 มี.ค. 53 22:18:03