ยกระดับฟาร์มปลานิลเพื่อการส่งออก
|
|
.........................ปัจจุบัน “ปลานิล” เป็นปลาที่ได้รับการยอมรับและนิยมบริโภคกันแพร่หลายทั่วโลก เป็นปลาน้ำจืดที่มีความสำคัญทางเศรษฐกิจและมีผลผลิตเป็นอันดับหนึ่งของ ประเทศไทย และเป็นปลาที่มีการเลี้ยงอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตามปลาที่เลี้ยงในแต่ละแห่งอาจจะยังไม่ได้คุณภาพหรือมีมาตรฐานเท่า ที่ควร โดยเฉพาะในเรื่องของการจัดการพ่อแม่พันธุ์ ดร.จิราวรรณ แย้มประยูร รองอธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ทางสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง ได้ให้ความสำคัญในการจัดการฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ปลานิลตามหลักพันธุศาสตร์ ให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานการจัดการฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ปลานิลให้ถูกต้อง จึงได้ดำเนินกิจกรรมตรวจรับรองมาตรฐานการจัดการฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ปลานิลตาม หลักพันธุศาสตร์ เพื่อให้ฟาร์มที่เข้าร่วมได้ผ่านมาตรฐาน และได้รับใบรับรอง เพื่อเป็นการรักษาพันธุ์ปลานิลที่ผ่านการปรับปรุงแล้วให้คงคุณภาพทางพันธุ กรรมที่ดีต่อไป ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานฟาร์มปลานิลของไทยให้มีคุณภาพได้มาตรฐานและเป็น กระบวนการเพาะเลี้ยงและผลิตพันธุ์ปลานิลตามหลักเกณฑ์ที่ดีทางพันธุศาสตร์ พร้อมทั้งเพื่อให้มีการใช้ปลานิลพันธุ์ดีในการเพาะเลี้ยงเชิงการค้า ทำให้เกิดการขยายตัวของการเพาะเลี้ยงปลานิลเป็นไปอย่างกว้างขวางส่งผลให้มี ผลผลิตเพิ่มขึ้น สำหรับหน่วยงานที่ได้ผ่านการตรวจประเมิน และผ่านเกณฑ์มาตรฐานดังกล่าวแล้ว ในสังกัดสถาบันวิจัยและพัฒนาพันธุกรรมสัตว์น้ำมีจำนวน 5 แห่งในเขตพื้นที่ 5 ภาค ได้แก่ พื้นที่ภาคเหนือ ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำอุตรดิตถ์ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ศูนย์วิจัย และทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำบุรีรัมย์ ภาคกลาง ที่ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำปทุมธานี ภาคตะวันตกที่ ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำเพชรบุรี และภาคใต้ที่ ศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำชุมพร นับได้ว่าเป็นโอกาสดีที่กรมประมงได้ดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อเป็นการรักษา พันธุ์ปลานิลที่ผ่านการปรับปรุงพันธุ์แล้ว ให้คงคุณภาพทางพันธุกรรมที่ดี และเป็นการเพิ่มความเชื่อ มั่นในเรื่องของคุณภาพสินค้าปลานิล จากที่ได้ผ่านการตรวจรับรองตั้งแต่ต้นน้ำ คือตั้งแต่เรื่องของพันธุ์ แหล่งเพาะเลี้ยง และกระบวนการผลิตพันธุ์ นอกเหนือจากการตรวจรับรองอื่น ๆ ที่กรมประมงดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน การตรวจรับรองมาตรฐานฟาร์มนี้ จึงเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่จะช่วยส่งเสริมและยกระดับคุณภาพสินค้าปลานิล และเพิ่มขีดความสามารถของสินค้าปลานิลในการแข่งขันเพื่อการส่งออกและนำเงิน ตราเข้าประเทศ โดยภายในปี 2553 นี้ เป็นที่คาดกันว่าจะมีผู้ประกอบการฟาร์มปลานิลที่เข้าร่วมประเมิน จำนวน 35 ฟาร์ม ซึ่งทางศูนย์วิจัยและทดสอบพันธุ์สัตว์น้ำแต่ละพื้นที่จะได้เข้าตรวจประเมิน 70 ครั้ง ซึ่งน่าจะมีฟาร์มที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน ไม่น้อยกว่า 19 ฟาร์ม
จากคุณ |
:
ญี่ปุ่น35
|
เขียนเมื่อ |
:
4 มี.ค. 53 00:11:38
|
|
|
|