ความคิดเห็นที่ 1   เพิ่มบริวเณด้านข้างคลองที่คิดว่าจะปลูกยางค่ะ จากคุณ : ไม่ต้องการชื่อ (ไม่ต้องการชื่อ) เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 53 23:00:32

ความคิดเห็นที่ 2   อีกด้านของที่นาปีแล้วเราใช้ปลูกข้าวค่ะ แต่ปีนี้ให้คนเช่าค่ะเพราะเวลาเกี่ยวหาคนเกี่ยวข้าวยากมากบวกแพงถ้าจะไปเกี่ยวเองก็ติดงานประจำ จากคุณ : ไม่ต้องการชื่อ (ไม่ต้องการชื่อ) เขียนเมื่อ : 13 มี.ค. 53 23:05:25

ความคิดเห็นที่ 3 ผมว่าติดคลองแบบนี้ไม่ต้องทำแทงค์ให้เปลืองตังค์ดีกว่าครับ ใช้แค่ปั้มเดินท่อเข้าไร่ ถ้าให้แจ๋วติดตั้งระบบเปิดปิดอัตโนมัติเลย ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องการรดน้ำ เครื่องจะเปิดปิดตามเวลาที่เราตั้งไว้ แถมเวลาใส่ปุ๋ยก็ให้ไปพร้อมกับน้ำเลย สะดวกดี การลงทุนน้อยกว่าครับ ในรูปนี่คือระบบรดน้ำอัตโนมัติที่สวนผมครับ ไม่ต่องห่วงเวลาไม่อยู่สวนระบบจะทำงานปิดเปิดเอง(ตามเวลาที่เรากำหนด) ถึงแม้ไฟดับระบบก็ไม่ล่ม แถมราคาถูกอีกตะหากแค่หลักร้อยเอง ถ้าชอบผมอธิบายการทำงานและแหลงที่ซื้ออุปกรณให้ได้ครับ รูปข้างล่างเป็นระบบน้ำที่สวนผมครับสามารถให้ปุ๋ยไปกับน้ำที่เรารดต้นไม้ได้เลย และ ไม่ต้องมานั่งเฝ้าด้วยว่าปุ๋ยจะหมด แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 53 08:03:06 จากคุณ : lungwan เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 08:02:24

ความคิดเห็นที่ 4 ในส่วนของนาฬิกาตั้งเวลาปิดเปิดผมใช้แบบในรูปครับ ตัวนึงแค่ 150 บาทเอง เพิ่มอุปกรณือีกนิดหน่อยปั้มก็ปิดเปิด ตามคำสั่งเราได้แล้ว ถึงเราไม่อยู่สวนเครื่องก็ไม่งอแง ทำงานตามที่เราสั่งไว้อะ ที่สวนติดตั้งมาหลายปีแล้ว ยังทำงานดีอยู่เลยไม่กวนใจ จากคุณ : lungwan เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 08:05:51

ความคิดเห็นที่ 5 รูปใหญ่ปายหน่อยเป็นรูปนี้แล้วกาน จากคุณ : lungwan เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 08:06:39

ความคิดเห็นที่ 6 เห็นท่อยุ่งย่ากไม่ต้องตกใจครับ เพราะผมติดปั้ม 2 ตัวไว้เลือกใช้ได้ เวลาหน้าฝนสวนไม่ต้องรดน้ำต้นไม้ ก็ปิดตัวใหญ่ ส่วนตัวเล็กเอาไว้รดน้ำเรือนเพาะชำครับ(ต้องเปิดตลอด) ถ้าขัดข้องตรงไหนโทรมาปรึกษาได้ครับยินดีช่วยด้วยความเต็มใจครับที่ 0879976062 ส่วนในรูปก็อุปกรณ์ที่ต้องเพิ่มถ้า ปั้มน้ำคุณใหญ่เกิน 1 แรงม้าต้องใส่ แม๊กเนติกรีเลย์ ตัวนี้เข้าไปช่วยครับ ไม่งั้นนาฬิกาตั้งเวลาจะพังครับ แก้ไขเมื่อ 14 มี.ค. 53 08:12:53 จากคุณ : lungwan เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 08:11:11

ความคิดเห็นที่ 7 1. ตรวจสอบระดับน้ำในบ่อที่มีว่า ช่วงแล้งสุดๆ ระดับน้ำอยู่แค่ไหน 2. ตรวจสอบระดับน้ำในหน้าน้ำหลากว่าท่วมมาขนาดไหน 3. วาง Layout คร่าวๆ ว่าจะปลูกยังไง เช่น เป็นแถว ระยะห่างระหว่างต้น กับระหว่างแถวเท่าไหร่ (ปรึกษาเกษตรอำเภอดู) 4. หาสถิติว่า เวลาท่วม ปีนึงกี่หน หนละกี่วัน (ถามชาวบ้านหรือเจ้าของที่เก่า) 5. โคนต้นควรอยู่สูงจากระดับน้ำประมาณ 30 ซม. เป็นอย่างน้อย ซึ่งหากระดับน้ำในหน้าแล้งมีมากพอ ก็อาจขุดร่องเพื่อเก็บน้ำ และรักษาระดับน้ำใต้ดิน แล้วเอาดินที่ขุดมายกร่อง เพื่อให้พ้นน้ำท่วมตอนหน้าน้ำ 6. การสูบน้ำควรเป็นทางเลือกสุดท้าย เพราะมีค่าใช้จ่ายมาก ป.ล. อตนนี้ผมก็กำลังต้องให้คำปรึกษาเรื่องน้ำกับพื้นที่ปลูกยาง แค่ราวๆ 20 ตารางกิโลเมตร ครับ จากคุณ : Waterman (LN106) เขียนเมื่อ : 14 มี.ค. 53 19:29:44

ความคิดเห็นที่ 8   http://www.tanknam.com/ ดูอันนี้เลยค่ะ  แบบก่อสร้างพร้อมราคาค่ะ จากคุณ : DeVOLK เขียนเมื่อ : 15 มี.ค. 53 00:44:09