ความคิดเห็นที่ 1 แม่โนะเคยคุยกับหลายคนซึ่งยังมีความเข้าใจผิดเรื่องกรุ๊ปเลือดอยู่ อาจจะเป็นเพราะหมอบอก หรือฟังต่อๆกันมา ในเรื่องกรุ๊ปเลือดของแมวไทย และแมวสายพันธุ์ต่างชาติ ซึ่งผลการเก็บตัวอย่างเลือดแมวที่เมืองนอก (เมื่อนานมากๆมาแล้ว) บอกว่า แมวสายพันธุ์นอก มักจะมีเลือดเป็นกรุ๊ป B เป็นจำนวน 60 เปอร์เซนต์ ส่วนแมวไทยนั้น ส่วนใหญ่เป็นเลือดกรุ๊ป A จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:03:00

ความคิดเห็นที่ 2 ทำให้หลายครั้งที่เพื่อนๆต้องการจะหาเลือดให้แมวเปอร์เซีย  ก็จะพุ่งไปที่แมวเปอร์เซียอย่างเดียว เวลาการหาเลือดแมวนั้น  มักจะเป็นช่วงวิกฤตและรีบร้อนมาก เนื่องจากธนาคารเลือดไม่สามารถเก็บสำรองเลือดแมวไว้ได้ จึงอยากให้ทำความเข้าใจใหม่ค่ะ ว่า เท่าที่ธนาคารเลือดของไทยเจอ แมวเปอร์เซียมีกรุ๊ปเลือด B แค่ 8 เปอร์เซนต์เท่านััน แมวเปอร์เซียที่บ้านคุณหนูมะตูม มีเลือดกรุ๊ป A ทั้งหมดค่ะ เพราะฉะนั้น ถ้าเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินต้องใช้เลือดขึ้นมา อย่าจำกัดอยู่แค่ต้องหาเปอร์เซียหรือสายพันธุ์นอกด้วยกันนะคะ เพราะจะเป็นการปิดโอกาสที่จะได้เลือดที่เข้ากับแมวเราไปอย่างน่าเสียดาย ถึงวินาทีนี้แล้ว...แมวไทยแมวนอกก็ได้ค่ะ จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:07:31

ความคิดเห็นที่ 3 เพราะว่า ถึงอย่างไรแล้วก็ต้องนำแมวตัวบริจาคมาทำการเทสต์เลือดที่เรียกว่า cross match เพื่อดูว่าเลือดเข้ากับแมวตัวที่ป่วยหรือไม่อยู่ดี จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:09:03

ความคิดเห็นที่ 4 อย่างเจ้าโหน่โน๊ะ เป็นลูกครึ่งก็จริง แต่เลือดโน๊ะ เป็นกรุ๊ป A ค่ะ ที่แม่นุ้งโน๊ะทราบ เพราะเมื่อครั้งนึงที่โน๊ะจะไปบริจาคเลือด  ทางรพส.เอกชนแห่งหนึ่งยืนยันขอให้มีการตรวจกรุ๊ปเลือด เพราะห่วงว่าจะไม่เข้ากับแมวตัวป่วย การตรวจกรุ๊ปเลือด ราคาค่อนข้างสูงและใช้เวลา ซึ่งเจ้าของแมวตัดสินใจให้โน๊ะตรวจกรุ๊ปเลือด กว่าจะตรวจกรุ๊ปเลือด กว่าจะทำเทสต์ว่าร่างกายแข็งแรงมั้ย กว่าจะทำ cross match หมดเวลาไปกว่า 5 ชม....ซึ่งแม่โนะเสียใจมากในคราวนั้น แมวตัวป่วยช็อคไปตอนที่โน๊ะกำลังจะให้เลือดพอดี ช้าเกินการณ์จริงๆ อย่าถามนะคะว่ารพส.ไหน จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:13:00

ความคิดเห็นที่ 5 เวลาเราไปบริจาคเลือดที่รพส.เกษตร เราจะมีเลขประจำตัวผู้บริจาคเลือดที่ธนาคารเลือดบันทึกไว้ค่ะ โน๊ะบริจาค 2 ครั้ง กับนุ้งนิ้ง 1 ครั้ง  ธนาคารเลือดก็จดไว้ หลายคนถามว่า เรื่องน้ำหนักของแมวที่เหมาะสม ควรเท่าไหร่แน่ บางครั้งบอก 4 กก.ก็ได้ บางครั้งก็ 5 กก. จะบอกว่า ทางธนาคารเลือดระบุไว้ว่าอย่างต่ำ 4 กก. ซึ่งแล้วแต่ว่าจะต้องใช้เลือดมากแค่ไหน ถ้าแมวหนัก 4 กก. ส่วนใหญ่ก็จะให้เลือดได้ประมาณ 30 ซีซี อย่างเจ้าโน๊ะนี่ 6.7 กก. ครั้งสุดท้ายที่ให้ไป 50 ซีซี เลือดหลอดโตทีเดียวค่ะ จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:23:20

ความคิดเห็นที่ 6 มีคำถามอีกว่า ทำยังไงถึงจะได้บริจาคเลือดบ้าง อยากให้แมวเราได้ทำบุญทำกุศลกับเพื่อนแมวตัวอื่นๆ แม่นุ้งโน๊ะตอบได้เลยค่ะว่า "รอ" รอดูกระทู้ค่ะ จะมีกระทู้มาขอรับบริจาคเลือดในห้องแมวเรื่อยๆ หรือแจ้งชื่อไว้กับรพส.ใกล้บ้าน หรือลงทะเบียนไว้กับ ศูนย์รวบรวมข้อมูลหมู่เลือดออนไลน์ รินน้ำใจ...เพื่อสังคมไทย ก็ได้ค่ะ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=thaiblooddatabase&date=15-05-2009&group=12&gblog=4 จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 11:26:56

ความคิดเห็นที่ 7 มาโป๊ดแล้วก็หายไปหนาย..... หรือว่าจบลงซะดิ้อๆ แบบนี้อ่ะแม่นุ้งโน๊ะ ........................ เอาขนมจีนแกงไก่ ทำเอง 100% มาเสริฟค่ะ จากคุณ : ป้าตุ้ยกล้วยกวน เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 12:52:57

ความคิดเห็นที่ 8 ขอบคุณสำหรับข้อมุลที่บางครั้งก็ได้รับมาครึ่งๆ กลางๆ ค่ะ ที่นี้ได้รับทราบแบบเชิงลึกเต็มๆ ไปเลย ขอบคุณมากเลยครับน้าติ๊ก รบกวนอีกนิดได้ไหมค่ะน้าติ๊ก   ตัวอย่างในรูปเป็นพี่กู๊ด บริจาคเลือดให้ที่รพส.ที่พัทยา แล้ววิธีการของเค้าเป็นแบบดูดใส่หลอดอย่างที่เห็นแล้วค่อยใส่ถุงเอาไปให้แมวที่รอรับบริจาคอีกที แต่ได้เห็นเคสของน้องกิ้งก่า ที่ได้รับเลือดเมื่อเร็วๆ นี้ เป็นแบบใส่ในถุงเหมือนที่เราบริจาคเลยแล้วก็เห็นว่าน้องแมวนอนรับบริจาคเลือดกันต่อกันทันทีเลย อย่างนั้นเป็นวิธีการที่ถูกต้องที่ควรจะเป็นใช้ไหมค่ะ หรือว่าได้ทั้งสองแบบ ขอทราบเพื่อเป็นความรู้ด้วยค่ะ  และเพื่อจะได้ไม่รู้สึกผิดจนถึงวันนี้ว่าเป็นเพราะวิธีการไม่ถูกต้องตั้งแต่กระบวนการตอนแรก หรือว่า ตัวน้องแมวที่รับบริจาคแล้วไม่ไหวจริงๆ เพราะหลังจากให้เลือดน้องแมวไปได้สองวันน้องแมวก็เสีย  เลยมีความรู้สึกผิดๆ ว่า เราหรือเปล่าที่เอาเลือดไปช่วยแล้วแต่กลับทำให้น้องแมวเสียเร็วขึ้น ก่อนบริจาคได้ทำการ cross match เรียบร้อยแล้วและผ่านค่ะเลือดเข้ากันได้ ขอบคุณน้าติ๊กอีกครั้งนะค่ะ หรือท่านผู้ใดพอจะให้ความกระจ่างก็ยินดีนะค่ะ จากคุณ : Mr.Good เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 13:07:33

ความคิดเห็นที่ 9 พี่กู๊ดก๊าบบบบ  ดูดใส่ไซริงค์เร็วก่ามั๊งก๊าบบบบ  ก็คงคล้ายๆ ให้น้ำเกลือแบบผ่านสายกับผ่านไซริงค์ในลูกแมวอ่ะก๊าบบบบบ   ถ้าให้ลูกแมว 20 cc  ให้ผ่านสายมานานก๊าบบบบ   ไม่รู้ว่าให้เลือดต้องวางยาไหม  ถ้าต้องวาง  คิดว่าดูดใส่ไซริงค์น่าจะวางยาน้อยกว่าเพราะได้เลือดไวกว่านะก๊าบบบบ มาแบบมั่วๆ  อย่าว่าเก๊านะ  (แควนควับแอบๆ รักพี่กู๊ดดดด) จากคุณ : petite_witch เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 13:23:25

ความคิดเห็นที่ 10 ขอบคุณก๊าบบบบจุนน้านู๋ดี  โล่งอกไปหนึ่งเปลาะ ปล  ตอนดูดเลือดต้องวางยาสลบก๊าบ ไม่งั้นเจ๊บแย่เลย (แม่เจ๊บแทนนะก่ะ) ขอบคุณนะก๊าบบบที่แอบๆ แควนควับ   ร่องรอยแห่งความเป็นลูกผุ้ชายครับ  แต่รู้สึกว่าพี่กู๊ดโดนหาหลายจุดเลยละค่ะ สงสารเค้ามากๆ อาจจะเพราะต่างจังหวัดไม่ค่อยมีการบริจาคเลือดบ่อยก็ได้นะค่ะ กว่าหมอจะคลำเจอ ก็โดนหลายจุดเหมือนกัน ดีที่ว่าเค้าโดนยาสลบไปแล้ว จากคุณ : Mr.Good เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 13:34:08

ความคิดเห็นที่ 11 เออ...เห็นภาพแม่พี่กู๊ดแล้วลืมไปว่า  ถ้าไม่วาง  ดิ้นกระจายไม่ได้เลือดพอดี   จริงๆ ดีคิดว่า  ถ้าเลือดดูดเข้าไซริงค์ออกมาแล้วใส่ถุงแล้วให้เลย  ไม่ได้พัก  ไม่ได้โดนอากาศ  มันไม่น่าจะเสียสรรพคุณนะก๊ะ  แล้วที่เค้าต้องใส่ถุงแล้วค่อยให้เพราะไม่สามารถให้เลือดจากการกดไซริงค์เข้าเส้นเลือดผู้รับได้มากกว่า   มันเยอะ   มันอันตรายอ่า  ความดัน  การปรับตัว  (ฯลฯ มั่วทั้งนั้น ) แต่ที่น้องแมวเสีย  อาจจะเป็นเพราะว่าร่างกายเค้ามากกว่าก๊ะ พี่กู๊ด   ช่วยอะไรได้บ้าง  สงสัยต้องเข้าเวปนอกอีกแล้ว     ตอบมั่วๆ ให้ตัวเองอายไปก่อน   ปูรู  ให้หมออ๊อบมาตอบดีกั่ว  หมอค่ะ  ถ้าจุนหมอเข้ามาตอบโด้ย  อยากรู้เช่นกัน  ว่าที่คิดเอาเอง  ถูกป่าว  กรั่ก ๆ ๆ จากคุณ : petite_witch เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 13:38:42

ความคิดเห็นที่ 12 โอ้ยยยยยยย  เห็นความเป็นลูกผู้ชายพี่กู๊ดแล้วนึกว่าเห็นพี่เจอร์ราด บัตเลอร์  (กั่กๆๆๆ  ตอนนี้เค้าคลั่งบทบาทพี่เจอร์ราดหลายๆ เรื่องอ่ะ) เจ็บน่าดูเลยพี่กู๊ดดดด  ไม่เป็นไรน้า  ถือว่าให้ประสปการณ์หมอ  ทำบุญสองต่อ  ฮี่ๆๆๆๆ   จากคุณ : petite_witch เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 13:43:59

ความคิดเห็นที่ 13 กิฟหมดนะก๊าบจุนน้านู๋ดี ให้ แทนนะก๊าบ งั้นเดี๋ยวนั่งรอเผื่ออคุณหมออ๊อบจะผ่านเข้ามาตอบให้หายกระจ่าง ปูรู ในวันนั้น เมื่อดูดเข้าไซริงค์เสร็จก็ถ่ายใส่ถุงแล้วเอาไปให้น้องแมวเลยค่ะ ก็คิดว่าร่างกายน้องคงจะไม่ไหว เพราะน้องมานั้นตัวซีดเหงือกซีดมากแล้ว เค้าเป็นพยาธิในเม็ดเลือดในขั้นระยะสุดท้ายนะก่ะ น้องเหมียวน่ารักมากเลยค่ะ  น้องคงทำบุญมาเท่านี้ จากคุณ : Mr.Good เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 13:50:17

ความคิดเห็นที่ 14 มาแล้วๆๆๆ มัวแต่ไปทำน้ำยาขนมจีนแจกเพื่อนบ้านอยู่ค่าาาป้าตุ้ย โทษทีๆๆค่ะ ตอบพี่กู๊ดค่ะ เรื่องไซริงค์หรือถุงก็คิดว่าน่าจะไม่ต่างนะคะ คงเป็นเรื่องของอุปกรณ์ (อันนี้ต้องรอคุณหมอมาตอบอีกทีก็จะได้กระจ่างกันทั่วๆค่ะ) ตอนโน๊ะให้เลือดที่รพส.เกษตรก็ใส่ไซริงค์เหมือนกันค่ะ แล้วคุณบุรุษพยาบาลก็ถือไปทั้่งหลอด คาดว่าคงเอาไปถ่ายเทลงถุงอีกที ส่วนการให้เลือด ตอบหนูดี...คงเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะที่จะใช้ไซริงค์ฉีดเข้าเส้นแบบยา ต้องให้ด้วยวิธีแบบให้น้ำเกลือ มีการควบคุมความดัน ความเร็ว และปริมาณในการรับ (ยัยติ๊กจบนิเทศ เอิ้กๆๆ ตอบเรื่องหมอไม่ถูกนะคะ) การให้เลือดต้องวางยาค่ะ เพราะแมวคงไม่ยอมนอนนิ่งๆให้เจาะเลือดจากคอแน่ๆค่ะ ปล. จิ๊กโก๋โน๊ะของแม่ติ๊กก็มีร่องรอยลูกผู้ชายแบบพี่กู๊ดค้าบ  จุนหมอชมว่า โน๊ะเป็น doner ที่ดีจัง เพราะตัวโต นิ่ง ไม่ดิ้น ไม่ดื้อ ไม่ร้อง ไม่ด่าหมอ(จริงๆด่านิดหน่อย ตอนหมอให้น้ำเกลือค่ะ) จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 15:39:27

ความคิดเห็นที่ 15 อยากกินขนมจีนแกงไก่ของป้าตุ้ยง่า อยากกินๆๆๆ ใจตรงกันเลยนะคะ วันนี้ทำขนมจีนเหมือนกันเลย แต่ติ๊กทำน้ำยาปักษ์ใต้(ไม่เผ็ด) อยู่ๆที่คอนโดก็มียัยจอมวื่นวือ เป็นกรรมการตึกโวยวายขึ้นมาว่า "ที่นี่ห้ามเลี้ยงสัตว์นะคะ" ทั้งๆที่ติ๊กอยู่ที่นี่มา 2 ปีแล้ว(คุณคนนี้แกเพิ่งย้ายมาได้ปีเดียว)   ชาวตึกค่อนข้างรักสัตว์ ถึงไม่รักก็ไม่ว่าอะไร เพราะต่างคนต่างถ้อยอาศัย ไม่มีใครปล่อยสัตว์เลี้ยงออกไปทำความเดือดร้อนหรือรำคาญใจคนอื่น อยู่อย่างมีความสุขมาช้านาน   เจ้าของห้องก็ยินยอมให้เลี้ยง  ให้ช่างมาทำลูกกรงกันแมวตกให้ด้วย (น่ารักที่สุด) ยัยเจ๊คนนี้ก็เที่ยวไปโวยวายกับพนง.นิติบุคคล "ได้ข่าวว่าที่นี่มีหมามีแมวเหรอ" พนง.เค้าก็บอกว่า มีค่ะ แต่เค้าลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว เลี้ยงมานานแล้วด้วย คุณป้าข้างห้องบอกว่า ลองยัยเจ๊คนนี้โวยวายสิ ป้าจะบอกว่า ป้าอยู่ข้างห้องคุณติ๊กมานาน ไม่เคยได้ยินเสียงอะไรเลย คุณติ๊กเค้าไม่เคยปล่อยแมวออกมา ป้าไม่เดือดร้อน...แล้วใครเดือดร้อน!!! ฮิๆๆ ติ๊กเลยต้องใช้ปฏิบัติการเชิงรับไว้ก่อนค่ะ ทำขนมจีนแจกเพื่อนบ้านทุกห้องเลย เมื่อกี้ยกไปให้ป้าข้างห้อง แกทำตาโต ร้อง "โอ้โฮ" ขอบอกขอบใจเป็นอันมาก อ้าว จากเรื่องบริจาคเลือดมาที่ขนมจีน และเพื่อนบ้านได้ไงคะเนี่ย จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 15:59:34

ความคิดเห็นที่ 16 ส่วนเรื่องที่พอหลังจากให้เลือดไปแล้ว น้องแมวตัวป่วยเกิดเสียชีวิตนั้น ครั้งแรกๆที่แม่โน๊ะไปให้เลือดก็เคยเสียใจและใจเสียแบบพี่กู๊ดเลยค่ะ เพื่อนแม่โน๊ะก็ปลอบใจว่า แมวที่ถึงขั้นให้เลือดก็คือค่อนข้างวิกฤตอยู่แล้ว การให้เลือดนั้น ถึงจะมีการทำครอสแมทช์ เพื่อเทสต์ความเข้ากันของเลือดก่อนแล้ว พอให้เลือดไปก็ต้องดูอีกค่ะ ว่าร่างกายตอบสนองแค่ไหน หรืออาจจะไม่รับเลือดใหม่ที่เข้าไปเลยก็ได้ เพียงแต่ว่า การตัดสินใจให้เลือดนั้น เป็นการช่วยชีวิต ณ จุดวิกฤต อย่างน้อยก็ได้เพิ่มโอกาสรอดให้กับแมวป่วย ระหว่างไม่ให้แล้วไม่รอด กับให้แล้วอาจจะรอด...ถ้าติ๊กเป็นเจ้าของแมวป่วย ติ๊กก็ขอเสี่ยงค่ะ อย่างน้อยแมวก็ยังมีโอกาสที่จะรอด ทุกครั้งที่ไปให้เลือด ก็หวังปาฎิหารย์ และภาวนาให้เลือดลูกเราเข้ากับแมวป่วยได้ จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 16:12:22

ความคิดเห็นที่ 17 ขอบคุณติ๊กมากจ๊ะสำหรับข้อสงสัยของแม่ปรี้กู๊ด ใจตอนนั้นจริงๆ ก็เต็มร้อยคือต้องการช่วยชีวิตน้องแมว ซึ่งอาจจะคาดหวังมากไปก็ได้นะจ๊ะว่าจะต้องช่วยยืดน้องแมวให้มีชีวิตได้นานกว่านี้ เลยรู้สึกใจเสียและเสียใจ ร้องห่มร้องไห้ไปกับเจ้าของแมวเค้าด้วยเลย แต่เจ้าของแมวก็ดีมาก ปลอบใจว่าอย่าได้คิดมาก เพราะน้องนั้นจริงๆ แล้วอาการหนักหนาเอาการอยู่ ซึ่งหมอก็ได้แนะนำเช่นกันอย่างที่ติ๊กบอกนะจ๊ะว่าจะตอบสนองแค่ไหน   ขอบคุณอีกครั้งนะค่ะติ๊ก จากคุณ : Mr.Good เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 16:56:12

ความคิดเห็นที่ 18 ขอบคุณสำหรับข้อมูลดี ๆ ค่ะ ขนมจีนน่าทานมั่ก ๆ.. จากคุณ : hilary pee เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 17:41:50

ความคิดเห็นที่ 19 ขอขนมจีน 1 จานจ้า คนจ๋วยจ๋า จากคุณ : arares เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 20:32:40

ความคิดเห็นที่ 20 ให้สองจานเลยค่าาาา อิอิ จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 21 มี.ค. 53 20:45:10

ความคิดเห็นที่ 21 คนสวย มีสาระ น้องแมว มีน้ำใจ ขอบคุณมากค่ะ จากคุณ : หนอยจู เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 08:34:14

ความคิดเห็นที่ 22 นานๆมีสาระทีค่ะพี่จอย ใช่ว่าจะมีกันได้บ่อยๆนะเจ้าสาระเนี่ย จากคุณ : pokkochan เขียนเมื่อ : 22 มี.ค. 53 10:10:37

ความคิดเห็นที่ 23 จากคุณ : วชิรา เขียนเมื่อ : 23 มี.ค. 53 22:25:51