Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com  


 
เหล้าป่า ข้าว แหล่งน้ำ การจัดการของรัฐกับคำถามถึงความ 'พอเพียง'  

..........................การจัดตั้งองค์กร สุรา ในสังกัดของกรมสรรพาสามิต เมื่อปี พ.ศ. 2506สมัยรัฐบาลของจอมพลถนอม กิตติขจร ได้จำกัดหนทางในการผลิตเหล้าป่า หรือเหล้าพื้นบ้าน เพราะรัฐได้รวบเอาอำนาจการผลิตไปเป็นของตนเอง

                        “เราศูนย์เสียเหล้าป่าดีๆ ไปมาก" ธวัชชัย จารนัย อดีตคอลัมนิสต์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องเหล้าพื้นบ้าน เอ่ยขึ้นในวงสนทนาของโครงการ สนทนาเมื่อพลบค่ำ ณ ร้านศรีภูมิเอสเปรสโซ่ บาร์ ย่านบางลำภู เมื่อเร็วๆ นี้

                         หากจะแบ่งอย่างกว้างๆ ทั้งโลกมีเหล้าอยู่สองชนิด คือเหล้าที่ได้จากการ 'หมัก' เช่น เบียร์ หรือไวน์ ส่วนอีกชนิดต้องเพิ่มเติมขั้นตอนในการ 'กลั่น' เข้าไปด้วย ที่รู้จักกันดีก็เช่น วิสกี้ บรั่นดี หรือวอดก้า เหล้าป่าก็จัดอยู่ในชนิดของเหล้ากลั่นด้วย

                         เทคโนโลยีการกลั่นทำให้ได้เหล้าที่มีฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ที่ แรงขึ้นมาก แต่ในขณะเดียวกันก็ช่วยให้เป็นเครื่องดื่มที่สะอาดขึ้นไปพร้อมๆ กันด้วย ในกรณีนี้จึงเป็นที่น่าประหลาดใจที่ใครหลายๆ คนรู้สึกกลัวที่ดื่มเหล้าป่า ซึ่งหมายถึงเหล้าพื้นบ้าน ในขณะเดียวกับที่กล้าที่จะดื่มวอดก้า ซึ่งก็หมายถึงเหล้าที่ได้มาจากการกลั่นเหมือน กัน คุณธวัชชัย ซึ่งปัจจุบันเป็นเจ้าของร้าน Moonshine Bar (ที่แปลว่า บาร์เหล้าป่า และก็มีเหล้าพื้นบ้านรสชาติดีให้ชิมหาก ต้องการตามชื่อร้านเสียด้วยสิ) ย่านถนนพระอาทิตย์ ตั้งคำถามไว้อย่างน่าสนใจ

                         การจัดตั้งองค์กรสุรา ในสังกัดของกรมสรรพาสามิต เมื่อปี พ.ศ. 2506สมัยรัฐบาลของจอมพลถนอม กิตติขจร ได้จำกัดหนทางในการผลิตเหล้าป่า หรือเหล้าพื้นบ้าน เพราะรัฐได้รวบเอาอำนาจการผลิตไปเป็นของตนเอง พร้อมกันกับที่ทำลายความหลากหลายของเหล้าพื้นบ้านประเภทต่างๆ เพราะรัฐได้พยายามสร้างมาตรฐานในการผลิตสุราให้เป็นมาตรฐานเดียว และแน่นอนว่า เหล้าพื้นบ้านย่อมไม่ต้องตรงตาม มาตรฐานที่รัฐเป็นผู้กำหนด

                         เหล้าพื้นบ้านที่เคยผลิตใช้ดื่ม กินกันเองมาเป็นระยะเวลายาวนานก็เลยกลายเป็นสิ่งที่ผิดกฎหมายไป
                         ในยุค รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร ได้มีความพยายามที่จะลดการผูกขาดการค้าสุราของรัฐลง โดยเปิดโอกาสให้เอกชนมีสิทธิ์ที่จะผลิตสุราขึ้นจำหนายเองได้ถ้ามีมาตรฐานการ ผลิตที่ดีเพียงพอ จนกระทั่งทำให้เกิด 'เทศกาลงานสุราแช่ไทย' ขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2545

                         แม้ว่าความพยายามดังกล่าวจะจุดกระแสให้คนไทยหันมาสนใจเรื่องเหล้าท้องถิ่นของตนเองได้มาก ถึงขนาดที่ว่า สามารถนำเหล้าท้องถิ่นบางยี่ห้อเข้าวาง ขายในร้านสะดวกซื้ออย่าง เซเว่น-อีเลฟเว่น แต่ด้วยยุทธวิธีที่ไม่ได้สร้างชุดความรู้อย่างมีรากฐาน ตลาดสำหรับรองรับสินค้า หรือแม้กระทั่งกระคิดในการจำหน่ายต่างๆ เหล้าพื้นบ้านพื้นบ้านเหล่านี้ จึงมีชะตากรรมไม่ต่างอะไรไปจากสิ้นค้า OTOP ประเภทอื่นๆ นั่นก็คือ ค่อยๆ ล้มหายตายจากไปทีละยี่ห้อ สองยี่ห้อ

                         ส่วนหนึ่งของปัญหาไม่ได้มีเฉพาะเรื่องของการวางแผนยุทธศาสตร์ที่อ่อน ยวบยาบ แต่ยังเกี่ยวข้องกับทัศนคติของสังคมไทยที่มองว่า "เหล้า" เป็นสิ่งไม่ดี การดื่มเหล้านั้นเป็นบาป ทั้งที่หากมองในอีกมุมหนึ่งแล้ว 'เหล้า' เป็นส่วนประกอบสำคัญในพิธีกรรมต่างๆ ของชาวพื้นเมืองในอุษาคเนย์ตลอดมา

                         ความหมายของ 'เหล้า' ที่สังคมไทยปัจจุบันกำลังนิยามอยู่จึง เป็นคำจำกัดความที่มองผ่านแง่มุมทางศีลธรรมที่มีพุทธศาสนากำกับอยู่เพียงแง่ มุมเดียวเท่านั้น

                         ป้ญหาที่ตามมาจากทัศนคติเชิงลบดังกล่าวทำให้ทุกครั้งที่มีการปรับ เปลี่ยนระบบ หรือรายละเอียดการจัดเก็บภาษี แต่ละรัฐบาลมักเลือกที่จะโยนภาระการจ่ายภาษีเพิ่มเติมขึ้นมาที่ "ภาษีสุรา" ซะเป็นส่วนใหญ่ เพราะถือว่าเป็น 'ภาษีบาป' โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงเลยว่า ในขณะที่รัฐบาลพยายามโปรโมตให้มีการสร้างแบรนด์ของเหล้าพื้นบ้านเพื่อนำมาแชร์ตลาด กับสุรานอก แต่กลับเรียกเก็บภาษีของเหล้าท้องถิ่นเหล่านี้ในราคาขวด ละประมาณ 30 บาท จึงเป็นการเพิ่มต้นทุนในการผลิตเหล้าแต่ละขวดให้แพงขึ้นมาก และมีราคาที่ไม่แตกต่างไปจากเหล้า หรือเบียร์แบรนด์ใหญ่ ซึ่งส่งผลต่อการเลือกที่จะบริโภคของลูกค้าอย่างไม่ต้องสงสัย

                         องค์กรสุรา และภาษีเหล้าที่มักจะถูกดูแคลนว่าเป็น ภาษีบาป อาจจะเป็นเหตุผลทางตรงที่จำกัดโอกาสในการผลิตเหล้าพื้นบ้าน แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลเดียวที่ทำให้เหล้าป่า หรือเหล้าพื้นบ้านสูญหายไป

                         หลังพ.ศ.2500 สมัยรัฐบาลของจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ได้รณรงค์ให้เกษตรกรปลูกข้าวพันธุ์ ก. ข. (ที่มาพร้อมปุ๋ย และยาฆ่าแมลง) การรณรงค์ครั้งดังกล่าวได้ทำลายพันธุ์ข้าวพื้นเมืองไปเป็นจำนวนมาก

                         แน่นอนว่า เหล้าป่าที่ทำข้าวต่างชนิด ต่างสายพันธุ์ย่อมให้ทั้งรสชาติ และกลิ่นที่แตกต่างกันด้วย การสร้างมาตรฐานให้ชาวนาปลูกเฉพาะข้าวพันธุ์ ก. ข. จึงไม่ได้ทำลายเฉพาะพันธุ์ข้าวพื้นเมืองเท่านั้น แต่ยังได้ทำลายผลผลิตอื่นๆ ที่เกิดขึ้นจากข้าวสายพันธุ์ต่างๆ ซึ่งในกรณีนี้คือ เหล้าป่า ไปพร้อมๆ กันด้วย

                        'แหล่งน้ำ' ก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องสำคัญของการผลิตสุรา ในสังคมที่มีภูมิปัญญา และไม่ปิดกั้นในการผลิตสุราอย่างประเทศต่างๆ ในยุโรป และอเมริกา นั้นให้ความสำคัญกับน้ำที่จะนำมาผลิตเป็นสุราเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น เบอร์เบอนที่ดีจะต้องใช้น้ำจากแม่น้ำเทนเนสซีเท่านั้น เป็นต้น ในขณะที่ไทยเรายังไม่มีการสำรวจ หรือวิจัยในเรื่องดังกล่าวเลย ทั้งๆ ที่ ข้อมูลบางส่วนก็พอจะอนุมานได้ว่า น้ำจากแหล่งน้ำบางแหล่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุ เช่น ปลาทูที่อร่อยจะต้องมาจากปากน้ำแม่กลอง เป็นต้น

                         หากคลี่คลายทัศนคติที่ไม่ดีเกี่ยวกับ 'เหล้า' พร้อมๆ ไปกับที่พยายามสร้างความเข้าใจในแง่มุมที่หลากหลายยิ่งขึ้น โดยที่รัฐบาลทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงที่ให้ทั้งแนวทางการประกอบการ ทำการส่งเสริม และสนับสนุนการวิจัยเพื่อเพิ่มทั้งคุณภาพ และศักยภาพในการผลิต (แน่นอนว่า ควรลดหย่อนภาษีลงมาด้วย) เกษตรกรในฐานะของผู้ผลิตรายย่อยจะสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตทางการ เกษตรของพวกเขา เพราะสามารถนำผลผลิตไม่ว่าจะเป็น ข้าว ข้าวโพด ฯลฯ มาผลิตเป็นเหล้าป่า ซึ่งเป็นช่องทางในการเพิ่มเติมรายได้ ไม่ใช่เป็นแค่คนที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้ ได้แต่คอยงอมืองอเท้าให้รัฐบาลช่วยประกันราคาผลผลิตขั้นต่ำเท่านั้น

                         การที่รัฐพยายามส่งเสริมนโยบายเศรษฐกิจพอเพียงไม่ควรจะเป็นแค่การสั่ง สอนให้คนรู้จักพอใจกับสิ่งที่มีอยู่ แต่ควรสร้างเครื่องมือให้คนสามารถพึ่งพาตนเองได้ โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากรัฐแต่เพียงอย่างเดียวต่างหาก

ที่มา  http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/life-style/culture/20100401/107565/%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A7-%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%90%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%96%E0%B8%B6%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1-%E0%B8%9E%E0%B8%AD%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%87.html

จากคุณ : ญี่ปุ่น35
เขียนเมื่อ : 2 เม.ย. 53 00:35:14




ข้อความหรือรูปภาพที่ปรากฏในกระทู้ที่ท่านเห็นอยู่นี้ เกิดจากการตั้งกระทู้และถูกส่งขึ้นกระดานข่าวโดยอัตโนมัติจากบุคคลทั่วไป ซึ่ง PANTIP.COM มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็น ตรวจสอบ หรือพิสูจน์ข้อเท็จจริงใดๆ ทั้งสิ้น หากท่านพบเห็นข้อความ หรือรูปภาพในกระทู้ที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งทีมงานทราบ เพื่อดำเนินการต่อไป



Pantip-Cafe | Pantip-TechExchange | PantipMarket.com | Chat | PanTown.com | BlogGang.com