จากวันนั้น จนวันนี้ คิดถึงที่สุด
|
|
ผมเข้าใจแล้ว ว่าทำไมแม่ไม่อยากเลี้ยงหมา ผมอาจจะมีนิสัยเดียวกับแม่แล้วก็ได้ตอนนี้...
สิ่งที่จะเล่าต่อไปนี้ อาจจะฟังดูไม่เข้าท่าสำหรับเพื่อนที่ทำงานผม เป็นที่ที่เล่าให้ใครฟังไม่ได้ แต่สำหรับที่นี่ ที่ที่ผมเข้ามาถามเรื่องต่างๆ ที่ที่ผมเข้ามาอ่านความรู้สึกของคนที่รักสุนัข ที่ที่ทำให้ผมรู้ว่ามีที่ทำทานให้สุนัขจรจัด และเป็นที่เดียวที่น่าจะบอกความรู้สึกได้ดีที่สุด(แล้วมั้ง?)
จากนักเรียนชั้น ม.3 ที่คิดอยากมีสัตว์เลี้ยงซักตัวไปขอแม่ซื้อหมา แต่แม่ไม่เคยอนุญาตเลย ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นภาระ ลูกไม่รู้อะไร มันวุ่นวาย เสียค่าใช้จ่ายเยอะ ไปไหนลูกก็ต้องเอามันไป อาหาร ยาฉีดอีก สาระพัด...
แต่ด้วยความอยากได้เนื่องจากตอนเด็กๆ เท่าที่ผมจำความได้ว่าผมเคยมีสุนัขตัวนึง ละมันก็หายไป และผมคิดว่าผมน่าจะเลี้ยงได้ในตอนนี้ ตั้งหน้าตั้งตาเก็บเงินหมาในอุดมคติของผมจะต้องแข็งแรง เล่นบอลกับเราได้ น่าเกรงขาม ผมสนใจสุนัขพันธุ์ ร๊อตไวเลอร์ เนื่องจากมันมีสีที่น่าเกรงขาม น่าสนใจ และเป็นเอกลักษณ์ และแล้วผมก็เก็บเงินได้ และก็ได้รับคำแนะนำจากเพือนคนนึงให้ไปซื้อที่ร้าน... แต่ทว่าราคามันตั้ง 4500-7500 พันธุ์แืท้มี pet degree แต่ผมไม่มีเงินขนาดนั้น น่าอายมั้ยครับผมมีเงินอยู่แค่่ 1200 บาท จากการอดออมเงินค่าขนมกระมิดกระเมี้ยนเงินจากส่วนที่จะต้องเอาฝากธนาคารต่างหากเนื่องจากถ้าเอาเงินจากธนาคารจะต้องผ่านพ่อ กับ แม่ และถ้าบอกว่าจะเอาไปซื้อ หมา ก็คงไม่ได้เหมือนเดิม ....คงหมดหวังกับสุนัขแล้วหล่ะไม่มีเงิน ผมคิดในใจ
แต่ว่าพี่คนขายเค้าเดินเข้ามาถามว่าสนใจตัวไหนถามได้นะครับ ผมซึ่งไม่มีเงินตอบไปว่า อ๋อมาดูเฉยๆครับ และเหมือนเค้าจะรู้ว่าเราไม่มีเงิน เค้าเลยชี้ไปที่ตะกร้าแรก มีสุนัขพันธุ์ร๊อตไวเลอท์ที่ผมอยากได้ แต่ว่า ตัวเล็กมาก และนอนนิ่ง เหนื่อยเหมือนไม่ได้กินอะไร ผอม และโดนเพื่อน ย่ำไปมา ไม่กระตือรือร้นอยากได้เจ้าของ่เหมือนตัวอื่นๆ น่าสงสาร เลยถามว่าตัวนี้เป็นอะไรครับ คนขายไม่ตอบ แต่ตอบมาว่า... คนขาย: เอามั้ยตัวนี้ 1000 เดียว ผม: เอาครับ (ตอบตามประสาเด็กโง่ไม่รู้อะไร สักแต่จะเลี้ยงไม่คิดจะถามใครอยากได้ก็ซื้อ คิดว่าซื้อไปยังไงแม่ก็ต้องช่วยดูอยู่ดี) ... และแล้วก็ได้มา กลับมาบ้าน ก็บอกเรื่องราวต่างๆให้แม่รู้ แม่เงียบ ไม่ว่าอะไร ผมยังงงอยู่เลยว่าน่าจะโดนด่า แต่กลัีบไม่โดน และแม่ก็บอกว่า ลูกรู้มั้ยว่าตัวนี้หน่ะ มันมี 10 นิ้ว ส่วนผมคิดในใจ อ่าวจะให้มี 9 หรือ 8 เหรอแม่ แต่ก็แค่ถามกลับไปว่า มันแปลกยังไง? แม่บอกว่า ปกติหมาจะมีแค่ 8 นิ้ว ที่มี 10 เพราะว่ามัีนอาจจะพิการ แต่ผมก็ไม่ได้เอะใจอะไร และแม่ก็เรียกพ่อมานั่งคุยด้วยกัน 3คน พ่อ แม่ และก็ผม ท่านบอกว่า ลูกจะต้องดูแลมันทุกอย่างตั้งแต่เอามันไปวิ่ง เล่น อาบน้ำ ส่วนเรื่องฉีดวัคซีนเดียวทางแม่จะดูแลให้ แต่เรื่องอื่นๆลูกจะต้องทำเองทั้งหมดแม้แต่ให้อาหาร ผมก็รับปากและก็ทำได้อย่างสม่ำเสมอ ผมตั้งชื่อมันว่า เทียนๆ มันเป็นสุนัขเพศเมีย ตัวเล็ก หัวโหนกแหลม เลยได้ชื่อนี้ไป...ผมเล่นกับมันอาบน้ำให้มันอาทิตย์ละครั้ง พาไปวิ่ง อย่างสม่ำเสมอ และก็ดูเหมือนว่าจะมีแต่ผมเท่านั้นที่มันฟังคำสั่ง และผมไม่เคยน้อยใจเลยว่ามันพิการ แต่สิ่งที่ผิดคาด คือ มันไม่ดุดัน ไม่เห่า เมตตาสัตว์ ไม่กัดแมว อยู่ด้วยกันได้ ไม่ยุ่งกับไก่ ไม่เล่นบอล และกลัวทุกอย่างที่เป็นแหล่งกำเนิดเสียง ผมแอบผิดหวังเล็กน้อยแต่ก็รักมันเสมอมา จนกระทั่งเรียนจบ มหาวิทยาลัย ผมได้งานที่ค่อนข้างดีในกรุงเทพฯ ผมจึงต้องจากมันมาและกลับไปหามันบ้างบางครั้ง และแม่ก็เข้าใจ เค้าอาสาดูแลให้ วันเวลาผ่านไปจากทำงานได้ 2ปี ได้มีโอกาสกลับไปที่บ้านอีกครั้ง หมาของผมยังอยู่ และแก่มาก มันเจอผมมันดีใจกัดกรามจนหัวสั่น สายหางอันสั้นของมันอย่างบ้าคลั่ง เอาหัวมาไสมือผมตลอดเวลาที่มีโอกาส ผมอาบน้ำ พามันเดิน จนแม่บอกว่า ลูก แม่อยู่กับมันมาแม่ไม่เคยจับมันอาบน้ำได้ง่ายเท่าลูกมาก่อน ผมคิดว่ามันคงดีใจ แต่ก็แอบคิดนิดๆว่า ผมไม่ได้กลับมาบ่อยขนาดนี้ กลับมาอีกทีมันจะยังอยู่ให้ผมอาบน้ำอีกมั้ย มันดีใจที่ได้เดิน กินอาหารหมดเกลี้ยง และมาเฝ้าผมที่หน้าต่างห้องนอนทุกเช้า และแล้วก็ถึงเวลากลับ กทมฯ วันออกเดินทางผมลา พ่อแม่ ยาย และเรียกหาหมาที่ผมรักที่สุด มันนอนกลางวันอยู่ และก็ขี้เกียจลุกมาหา ผมเลยเดินไปหามันและบอกว่า เทียน กูไปละนะ กลับมาจะเจอกันอีกมั้ยไม่รู้ ดูแลยายด้วยนะ (ผมลืมบอกไป ยายผมอยู่บ้านเค้าคุยกับหมาได้ด้วยนะครับ ตามประสาคนแก่หาเพื่อนคุย ยายผมแก่แ้ล้วแต่แข็งแรงดียังไปถางหญ้าที่สวนเพื่อออกกำลังกายอยู่เลย และทุกครั้งที่ไป เค้าจะพาหมาไปด้วยตลอด เอาไปเป็นเพื่อนคุย นี่คืออีกเรื่องที่ผมเล่าให้เพื่อนที่ทำงานฟัง และเค้าหัวเราะเยาะ)
อีกประมาณ 3 อาทิตย์ แม่โทรมาบอกว่าหมาไม่สบาย ผมจึงวานท่านให้เอาไปที่ รพ สัตว์ แต่แม่เค้าทำอยู่แล้วหล่ะ เค้าเพียงโทรมาบอกผมเฉยๆ หมอบอกว่า มันแก่และมีโรคแทรก ไข้สูง ฝากไว้โรงพยาบาลได้ 1 วัน อาการดีขึ้น หมอจึงให้กลับบ้านพร้อมยา (ผมขอสารภาพ เวลานั้นผมคิดว่ามันไม่สบายธรรมดาเดี๋ยวก็หาย และลืมเรื่องของมันไป)
ผ่านไป 1 คืน คืนที่2 ผมฝัน (นี่เป็นอีกเรื่องที่ผมจะพูดแค่ที่นี่เท่านั้น เพราะผมรู้ว่าพูดไปใครจะเชื่อ แต่มันจริงผมกล้าสาบาน) ...ฝันว่าผมกลับไปที่บ้านนั่งคุยกับพ่อ ละหันไปทางประตูบ้าน ประตูบ้านผมจะมีปูนฉาบกันน้ำท่วมอยู่ ซึ่งหมาจะไม่สามารถเข้ามาได้ ผมมองออกไปเจอเทียนๆ เงี่ยหูฟังเสียงผม ซึ่งเป็นแขกที่ผ่านประตูบ้านมาได้อย่างไร ทั้งๆที่มันไม่รู้ ผมเห็นตามันมัว มองไม่เห็น ผมเงียบและดูท่าทางมันต่อไป เมื่อมันไม่ได้ยินเสียงผม มันจึงเดินตุปัดตุเป๋ ไม่เห็นทางไปที่อื่น ผมสงสารมันมากจึงเรียกมันว่าเทียนกูกลับมาแล้วนะ เท่านั้นพอมันได้ยินเสียงผม มันร้อง มันร้องเสีแก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 53 00:00:26
แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 53 00:01:06
แก้ไขเมื่อ 12 เม.ย. 53 00:03:02
จากคุณ |
:
Xienfong
|
เขียนเมื่อ |
:
11 เม.ย. 53 23:44:59
|
|
|
|