อร่อยทุกไร่....ชิมไปทุกสวน ...กิจกรรมชวนเที่ยวคลายเครียด
|
|
..........................ชาวโลกกำลังอยู่ในระหว่างหวาดหวั่นกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ เมื่อบรรดาหมู่ดาวในระบบสุริยจักรวาลจะพากันโคจร มาอยู่ในแนวระดับเดียวกันระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์ เจ้าพลังแห่งจักรวาลในช่วงเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ส่งผลให้เหล่านักดาราศาสตร์ต่างพากันออกมาสร้าง ข้อสันนิษฐานต่าง ๆ นานา ว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวนั้นมีผลต่อปฏิกิริยาของเปลือกโลกซึ่งอาจจะมีการขยับตัว ครั้งใหญ่สุดจากแรงดึงดูดระหว่างโลกกับดวงอาทิตย์อันอาจจะก่อให้เกิดภัย ธรรมชาติอย่างรุนแรง อาทิ แผ่นดินไหวอย่างหนักหน่วง 9 ริคเตอร์ หรือการปะทุของภูเขาไฟในหลาย ๆ พื้นที่ ชาวโลกหลายร้อยหลายพันล้านคนจึงใจจดจ่ออยู่กับช่วงเวลานั้นที่กำลัง จะก้าวมาถึง ขณะที่เมืองไทยซึ่งได้ชื่อว่ามีพื้นที่อยู่ในแนวการขยับตัวของเปลือกโลกอยู่ ด้วย ก็ไม่เพียงแต่ต้องหวาดหวั่นอยู่กับวันปฐพีพิโรธ ทว่าสงครามการเมืองที่ร้อนระอุมานานนับ 2 เดือนในเมืองหลวง กลับเพิ่มทวีความตึงเครียดและหดหู่ให้กับผู้คนถ้วนหน้า ด้วยไม่เคยคิดและเคยฝันกันมาเลยว่า คนไทยจะถึงกาลเวลาต้องหันหน้าเข้าราวีกันเอง ด้วยเหตุของความขัดแย้งทางการเมืองอย่างเหลวไหลที่สุด! หนทางเดียวยามนี้ที่คนไทยในเมืองหลวงทำได้ นอกจากการยกมือท่วมหัวพร่ำภาวนาให้ความสงบปกติสุขคืนกลับมาอย่างเร็ว ก็คือ การหลีกหนีความตึงเครียดออกไปแสวงหาแหล่งสงบที่พอมีอยู่บ้างตามมุมเมืองซึ่ง อยู่ไม่ห่างไกลเมืองหลวงมากนัก และไม่มีกลุ่มคนต่างสีต่างฝ่ายยึดครองพื้นที่กันอยู่ตรงนั้น แล้วก็ถือว่าเป็นการขานรับจากคนเมืองหลวงได้เป็นอย่างดี เนื่องจากขณะนี้ไม่ว่าจะเป็นหัวหิน ชะอำ หรือฟากฝั่งตะวันออกอย่างพัทยาไปจนถึงระยอง กำลังกลายเป็นแหล่งรวมตัวของคนเมืองกรุงที่กำลังหนีความทุกข์ร้อนบนแผ่นดิน ไปแสวงหาทางออกให้กับชีวิตในช่วงที่จิตใจผู้คนไม่สู้จะปกติ ขณะเดียวกัน สุรพล เศวตเศรนี ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ก็ยังออกมายอมรับกับสถานการณ์ในขณะนี้ว่า ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวจากตลาดต่างประเทศอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ จากจำนวนตัวเลขในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา มันมีผลวูบตกลงไปอย่างน่าใจหาย และยังจะตกดับต่อไปหากความปกติสุขยังไม่กลับคืนมา ทางเดียวที่จำต้องนำมาแก้เหตุการณ์ หรือประทังกระแสเงินให้หมุนเวียนทางการท่องเที่ยวก็คงหนีไม่พ้นการมุ่งส่ง เสริมคนไทย หรือคนต่างชาติที่พำนักอยู่ในเมืองไทยให้ออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ โดยล่าสุดก็ได้นำเอา โครงการ “อร่อยทุกไร่ ชิมไปทุกสวน” ออกมาใช้เพื่อชักชวนไปเที่ยวสวนผลไม้ ที่กำลังออกผลกันอย่างหลากหลายอยู่ในขณะนี้ ทั้งที่ระยอง จันทบุรี และตราด เฉพาะที่จังหวัดระยองนั้นเพิ่งจะเปิดเทศกาลกันอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมีจุดศูนย์กลางการจำหน่ายผลไม้อยู่ที่ตลาดผลไม้ตะพง อยู่ห่างตัวเมืองระยองขึ้นไปทางทิศตะวันออกประมาณ 5 กิโล เมตร ตรงนี้จะมีชาวสวนนำผลผลิตออกมาวางขาย หรือไม่ ก็นำมาขายให้กับพ่อค้าคนกลางที่เปิดตลาดกันอยู่ตรงนั้น แต่ปัจจุบันน่ายินดีว่ามีชาวสวนผลไม้จำนวนไม่น้อย ได้เริ่มพัฒนาการทำสวนขึ้นมาตอบสนองการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ด้วยการจัดพื้นที่สวนบางส่วนเปิดให้บรรดานักท่องเที่ยวเข้าไปสัมผัส พร้อมกับเปิดโอกาสให้ผู้มาเยือน ลิ้มลองชิมผลไม้กันบริเวณนั้น ไม่ว่าจะเป็นทุเรียนหรือราชินีแห่งผลไม้ที่เก็บและแกะเม็ดกินกันสด ๆ ตรงนั้น เงาะ มังคุด ลางสาด ลองกอง ระกำ สละ ที่แข่งกันออกผลก็จะถูกนำมาบรรจุเข่งหรือตะกร้าให้หยิบกินกันอย่างเต็มอิ่ม โดยคิดค่าบริการ 1 คน 1 อิ่ม 99 บาท นอกจากนั้นยังบริการทำอาหารจัดเลี้ยงในมื้อกลางวันให้กับนักท่องเที่ยวที่ รวมตัวกันไปเป็นคณะ โดยการทำอาหารพื้นบ้านภาคตะวันออกขนานแท้ เช่น ข้าวสวยร้อน ๆ กินกับหมูต้มใบชะมวง มีน้ำพริกระกำกับผักสดแนมด้วยปลาทูทอด หรือไม่อย่างนั้นอาจจะสั่งพิเศษเป็นแกงป่าเนื้อ ไก่ หรือปลา ใส่หน่อสับปะรด กินกับไข่ต้มสุกขนาดยางมะตูม คิดราคาค่าบริการกันมื้อละ 120 บาท บางแห่งพัฒนาไปไกล ถึงจัดทำเป็นบ้านพักแบบ โฮมสเตย์ ให้ชาวคณะพักแรมโดยดำรงชีวิตแบบชาวสวนในทุกนาทีที่อยู่ในสวนแห่งนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการจะซื้อผลไม้ติดไม้ ติดมือกลับไป แน่นอนที่ต้องบอกกันตรง ๆ ว่า ราคาตรงนี้จะถูกกว่าการเลือกซื้อผ่านพ่อค้าคนกลาง และไม่ต้องกังวลว่าจะถูกหลอกขายผลผลิตที่ด้อยค่าหรือตัดทุเรียนดิบขาย ให้อย่างที่เคยประสบกันมามากต่อมาก ที่อยากแนะนำก็คือ“สวนยายดา” ตั้งอยู่บริเวณบ้านยายดา ต.ตะพง อ.เมืองระยอง เส้นทางไปไม่ยาก คือ จากบริเวณตลาดกลางผลไม้ตะพง ให้เลยไปตามถนนสุขุมวิท เล็กน้อย จากนั้นจะมีทางแยกซ้ายมือผ่านเรือกสวนเข้าไปประมาณ 6 กิโลเมตร ก็จะถึงยังสวน ดังกล่าว
อีกแห่งหนึ่ง ที่จะขอแนะนำด้วย เป็นแหล่งที่กำลังมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้าไปในช่วงนี้ ได้แก่ “สวนคุณพิชัย” ตั้งอยู่ในบริเวณ พื้นที่หมู่ 4 ต.ชากโดน อ.แกลง โดยสามารถใช้เส้น ทางสายแหลมแม่พิมพ์ไป จนถึงบ้านกร่ำ ตรงอนุสาวรีย์ สุนทรภู่ ให้เดินทางต่อไป อีกเล็กน้อย ก็จะมีทางแยกซ้ายมือเชื่อมขนานถนนสุขุมวิท ตรงนี้เมื่อเข้าไปประมาณ 2 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าไปอีกเล็กน้อยก็จะถึงสวนดังกล่าว สวนคุณพิชัย เป็นสวนเก่าแก่ที่ลงมือทำกันมานานบนพื้นที่กว่า 40 ไร่ ผลไม้หลักที่ปลูกกันก็ไม่พ้น ทุเรียน ซึ่งนอกจากจะมีพันธุ์หมอนทองยอดนิยมของตลาดแล้ว ก็ยังคงมีพันธุ์ก้านยาวที่เริ่มหายากให้บริโภค โดยหมอนทองยังคงรักษาราคาเอาไว้ที่กิโล กรัมละ 40 บาท ขณะที่ก้านยาว ซึ่งเริ่มหายากในตลาดผลไม้ราคาสูงขึ้นไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 70 บาท นอกจากนี้ก็ยังมีเงาะพันธุ์โรงเรียน มังคุด ลางสาด ลองกอง เหมือนกันกับสวนอื่น ๆ แต่ที่เป็นผลไม้เด่นสุดของสวนนี้ก็คือ สละพันธุ์สุมาลี ซึ่งได้ชื่อว่า เป็นสละ ที่หวานกลมกล่อมกว่าสละ พันธุ์เนินวง คือ ความหวานที่ชาวสวนนิยามให้ไว้ที่ 16 บริค สำหรับสุมาลี และ 14 บริค สำหรับเนินวง สวนคุณพิชัยใช้พื้นที่ในการลงสละสุมาลีจำนวน 8 ไร่ ลงต้นสละไว้จำนวน 400 กอ โดยใช้เวลาในการปลูกมานานถึง 18 ปี และเพิ่งจะให้ผลเมื่อประมาณ 8 ปีที่ผ่านมา และขณะนี้ก็มีพ่อค้าส่งออกต่างประเทศจำนวนไม่น้อยมาติดต่อขอซื้อ แต่ทางสวนก็ยังต้องปฏิเสธเนื่องจากลำพังเฉพาะตัดขายให้นักท่องเที่ยวที่ดา หน้าไปซื้อหากันในฤดูกาลนี้ก็ไม่เพียงพออยู่แล้ว กับยอมรับว่าสละสุมาลีที่ตัดขายกันอยู่ขณะนี้กิโลกรัมละ 70 บาทนั้นหวานไม่ทันขายด้วยจำต้องตัดขายให้กับความต้องการของผู้ซื้อ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า สละสุมาลีจะหารสหวานเสียมิได้ เขาบอกว่าถ้าทิ้งให้มันลืมต้นสักสามถึงสี่วันความหวานของสละสุมาลีก็จะหวาน ครบ 16 บริคตามนิยามของชาวสวน! กับเป็นที่น่ายินดีว่าสละสุมาลีสวนนี้ได้ถูกพัฒนาถึงขั้นแปรรูปเป็นสละลอย แก้วบรรจุขวดออกจำหน่ายทำให้สามารถหาบริโภคกันได้ตลอดทั้งปี โดยไม่ต้องรอฤดูกาลผลไม้ ยามนี้ไม่มีเรื่องไหนน่าคิดน่าเที่ยวเท่ากับการเลือกชมสวนซึ่งคนเมืองหลวง กำลังเลือกใช้กันอยู่ตอนนี้!.
ที่มา http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&categoryId=486&contentId=67154
จากคุณ |
:
ญี่ปุ่น35
|
เขียนเมื่อ |
:
22 พ.ค. 53 01:30:13
|
|
|
|