คิดจะปลูกสัก !
|
|
ผมปลูกสักอยู่ในเขตจังหวัดกำแพงเพชรมาเกือบจะ 20 ปี บางต้นใหญ่บางต้นเล็ก แต่ถ้าจะปลูกบ้านก็คงจะได้สักหลัง เพราะมีพันกว่าต้น ที่ปลูกเพราะซื้อที่ดินมาแล้วเป็นป่าสักเก่า(เก่าเป็นร้อยปี) เมื่อก่อนที่ผมอยู่จะให้สัมปทาน แก่พะโป้ ชาวเชื้อสายมอญ สมัยรัชกาลที่ 5 และต่อมาก็มีการทำป่าสักอีกในช่วงก่อน ปี 2500 ในใบนส.3 ที่ผมซื้อมาระบุปี 2492 ที่ได้ทำนส.3 เพราะมีคนที่ได้รับสัมปทาน เอาไปทำ นส.3 ให้เพื่อแลกกับการขอตัดไม้ในที่(ตาเล่าให้ฟัง) ป้ายเขตป่าก็ขยับตามความพอใจของ ป่าไม้สมัยนั้นไม่มีการประกาศเขตที่ชัดเจน กฏหมายสมัยนั้นก็เลยมีการออกให้ไม้สักและไม้ยางนา เป็นไม้หวงห้ามประเภทหนึ่ง ที่จะตัดต้องขออนุญาตตัด
มาสมัยนี้ มีอยู่ช่วงหนึ่งที่มีการส่งเสริมให้ปลูกสัก ประมาณปี 2535 ในเขตที่ผมอยู่แหละใกล้เคียง มีการปลูกอยู่มาก สักเป็นไม้โตเร็วในปีแรกๆ จะสู้กับหญ้าได้ดี และทนไฟ พอเข้าปีที่ 2-3 จะเริ่มโตช้า ถ้าใครมีทีแล้วรอบๆ ชอบเผาก็ปลูกได้ ที่ผมอยู่ป่าอ้อยล้อมรอบ เผากันทุกปี
การดูแลพอเข้าปีที่ 4-5 ต้องเริ่มตัดกิ่งและตัดบางต้นออกเพื่อเพิ่มพื้นที่รอบข้างลดการแย่งอาหารกัน
พอเริ่มเข้าปีที 5 ไม้สักจะเริ่มเท่ากับขา เป็นที่หมายป้องกับบุคคลรอบข้างและใกล้เคียง ในช่วงนี้แหละท่านจะเริ่มปวดหัว เพราะถ้าเกิดไม้ของท่านไม่ได้อยู่ใกล้บ้าน หรือมีทางออกหลายๆด้าน จะเริ่มมีคนเข้ามาดูแลให้ท่าน ตัดขยายที่ละต้นสองต้นแล้วแต่ทางสะดวกหรือไม่ (ท่านที่คิดจะปลูกแล้วทิ้งไว้เป็นสมบัติเชยชม ก็คิดให้ดีเรื่องนี้ สำหรับผมก็มีปัญหาบ้าง )
ไหนๆก็พูดถึงเรื่องการลักตัดแล้วก็พูดให้เห็นภาพเลยละกัน ที่ผมอยู่ อยู่ติดกับที่ผู้ใหญ่บ้าน และผู้ใหญ่บ้านก็เช่าที่ผมทำอ้อยด้วย หน้าไร่มีบ้านลูกน้องเก่าที่เคยเลี้ยงวัวอยู่ ให้ทำไร่ในที่ ด้วยการที่ไร่มันกว้าง การตัดไม้ก็ทำได้ง่าย ไปตัดในกลางๆที่แล้วค่อยขนออกในเวลากลางคือ แต่ของผมยังน้อย ตั้งแต่ปลูกมา ก็โดนไป 3 ต้น แต่สำหรับท่านที่ปลูกทิ้งไว้ก็ให้คิดไว้ด้วย
มาพูดถึงการตัด เนื่องจากเป็นไม้ประเภทหนึ่ง และกฎหมายก็ไม่เคยแก้( คงไม่คิดแก้ ) การตัดจะต้องขออนุญาต ไม่ว่าตัดมาทำอะไรทั้งสิ้น ไปขอป่าไม้ประจำอำเภอ ขั้นตอนนี้ก็คงจะเวียนหัวกับตาสีตาสาน่าดู เพราะต้องไปยื่นเรื่องไว้ แล้วท่านก็จะส่งคนมาดู(ต้องไปรับ) แล้วก็กว่าท่านจะอนุญาตก็แล้วแต่ท่าน ขั้นตอนนี้ ก็กินเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือนจากที่ท่านพ่อ(ตา)ของผมไปขอมา เนื่องจากจะขายที่เลยเสียดายไม้ในที่ ก็เลยไปขอตัด กว่าจะสำเร็จก็เห็นบ่นหลายรอบ และเห็นไปรับป่าไม้กันหลายรอบ (ในส่วนของไร่ผมยังไม่ตัด)
จากความคิดเห็นของผมเอง(ส่วนตัว) ผมว่าเนื่องจากสาเหตุหลักๆ นี้หรือเปล่าทำให้ไม้สักให้ผลตอบแทนสู้ไม้ยูคาไม่ได้ ตลาดแคบจะมีแต่ที่เป็นพ่อค้าไม้จริงๆ ที่จะเล่นกับไม้สัก เพราะขั้นตอนการตัดยุ่งยากมาก ทำให้พ่อค้ารับซื้อน้อย ผมเคยลองๆคุยกับพ่อค้าไม้ที่ซื้อ ท่านเล่นตัวน่าดู(จากความรู้สึกที่ได้พูดคุย) ท่านก็ยินดีที่จะรับออเดอร์แหละนะ แต่ท่านก็จะถามไม้ใหญ่ไหม มีขนาดเท่าไร วัดรอบต้นได้กี่เซน จะตัดเอง(ยื่นขอตัดเอง หรือให้ท่านพ่อค้าขออนุญาตให้ พวกนี้ไม่ฟรีนะครับ) ค่าคนตัด ค่ารถขน คิดหมดแหละ พอดีดเป็นตัวเลขแล้วน่าตกใจ ว่าผลตอบแทนไม้สัก ปลูกมาได้เกือบ 20 ปี ได้เท่านี้เองเหรอ 5555 จนเลิกคิดจะขายไม้กินเก็บเอาไว้เท่ๆ ดีกว่าอย่างไรตูก็มีป่าสัก เป็นพ่อเลี้ยงแหละ 5555
ดีมานสัพพาย ของคู่กัน ตลาดจะเดินได้ดี ก็ต้องกฎระเบียบต้องเอื้ออำนวยให้สะดวก อย่างนี้ละมังคนถึงนิยมปลูกยูคา มากกว่าปลูกสัก ผลตอบแทนดี 3-5 ปี ตัดได้แหละ นี้ถ้าไม่เสียดายที่ดิน ที่เป็นดินดีผมคงลงไปแล้วยูคาไปแหละ ไม่ปล่อยให้เค้าเช่าทำอ้อยอยู่ทุกปี ได้ผลตอบแทน ไร่ละ 500 ต่อปี
พูดแล้วก็ปวดใจ คุยกับน้องที่ทำอู่ซ่อมรถติดกัน ไปซื้อที่เขาไม่มีใบอะไร ปลูกยูคา บอกจะตัดแหละ ปลูกมาได้ 3 ปี ตัดรอบนี้คงได้ค่าที่คืนแล้วบวกกำไล
ที่บ่นให้ฟัง ก็อยากให้ท่านที่จะตัดสินใจปลูกก็คิดให้ดี นี้ยังเป็นส่วนน้อย ยังมีอีกมากที่ท่านจะเจอเวลาทำลงไปแล้ว แต่ถ้าไม่คิดอะไรมาก เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้โลก ผมก็ว่าโอเคนะ แต่สักหน้าร้อนใบหายเรียบ
| จากคุณ |
:
คนสวนบ้านคลอง  
|
| เขียนเมื่อ |
:
29 พ.ค. 53 07:24:51
|
|
|
| 
